Belong to the Truth Jesus Christ

การสมโภชพระนางมารีย์รับเกียรติยกขึ้นสวรรค์เป็นราชินีแห่งสวรรค์นั้น เป็นการเทิดเกียรติและยกย่องอย่างสูงสุด เท่าที่พระเจ้าจะประทานให้ได้แก่สตรี “ผู้มีบุญกว่าหญิงใดใด” พระศาสนจักรถึงกับร้องว่า “พระนางได้รับเกียรติยกขึ้นสวรรค์ อยู่เหนือสิ่งสร้างทั้งปวง” ในสวรรค์และบนแผ่นดิน พระนางเป็นรองก็แต่พระบุตรของพระเจ้า ซึ่งเป็นโอรสของพระนางเท่านั้น

พระนางมารีย์เป็นรองพระบุตรของพระเจ้า แต่พระนางก็เป็นมารดาพระบุตรของพระเจ้า และเป็นมารดาพระเจ้าด้วย
พระนางมารีย์มิได้เป็นอัครสาวก เพราะมิได้รับพันธกิจของอัครสาวก แต่ถึงกระนั้นพระนางก็เป็น ”ราชินีของคณะอัครสาวก” พระนางมิได้รับกระแสเรียกเป็นพระสงฆ์ แต่พระนางก็เป็น “มารดาของพระสงฆ์”

ในยุคที่คนจำนวนมากเรียกร้องสิทธิเสมอภาคสำหรับสตรี เรียกร้องให้สตรีรับศีลบวชเป็นพระสงฆ์ได้ และอ้างว่าชายที่จะบวชเป็นพระสงฆ์กำลังขาดแคลนลงทุกวัน ทางคริสตจักรแองกลีกัน ก็ยังบวชหญิงเป็นพระสงฆ์ เป็นพระสังฆราชกันไปมากแล้ว พระศาสนจักรโรมันคาทอลิกของเราจะว่าอย่างไร

เกี่ยวกับเรื่องนี้ พระสันตะปาปา ยอห์น ปอล ที่ 2 ของเราทรงตัดสินชี้ขาดไปเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม พ.ศ. 2537 ว่า “เราขอประกาศว่า พะศาสนจักรไม่มีอำนาจใด ๆ ที่จะโปรดศีลบวชเป็นพระสงฆ์ (เป็นพระสังฆราช) ให้แก่สตรี และขอยืนยันว่า คำตัดสินนี้ ให้ถือเป็นข้อยุติ ซึ่งจะต้องปฏิบัติโดยทั่วกันในพระศาสนจักร”

ด้วยเหตุผลพื้นฐานคือ พระคริสตเจ้าทรงเลือกอัครสาวกของพระองค์จากบุรุษเท่านั้น พระศาสนจักรก็ปฏิบัติตามพระคริสตเจ้าเช่นนี้มาตั้งแต่แรกเริ่มพระศาสนจักรจนถึงทุกวันนี้ โดยไม่เคยยอมให้สตรีบวชเป็นพระสงฆ์เลย

ทั้งมิได้หมายความว่า พระศาสนจักรไม่ให้เกียรติหรือไม่ยกย่องสตรีหามิได้ ตรงกันข้าม พระศาสนจักรของเรา ส่งเสริมบทบาทของสตรี ให้เกียรติยกย่องสตรีเสมอมา โดยเฉพาะในระยะ 25 ปี หลัง ๆ มานี้ สตรีไม่สามารถเป็นพระสงฆ์ได้ แต่ก็เป็น “มารดาของพระสงฆ์” ได้เยี่ยงพระนางมารีย์พระมารดาของเรา

ดังนั้น ต่อไปนี้ไม่ควรถกเถียงกันอีกว่า ทำไมผู้หญิงบวชเป็นพระสงฆ์ไม่ได้ และจะต้องไม่เรียกร้องให้มีพระสงฆ์หญิงกันอีก หญิงนั้นมีบทบาท หน้าที่ และกระแสเรียกของตนโดยเฉพาะ มีเกียรติศักดิ์ ไม่ยิ่งหย่อนกว่าชายเลย

ใช่ ค่ะ
แปลก เหมือนกันที่ ผู้หญิง บวชไม่ได้
สถานภาพไม่เท่าเทียม กัน

ผู้หญิงเป็นแม่ของพระสงฆ์ได้ บางคนได้เป็นแม่ของพระสังฆราช บางคนได้เป็นแม่ของพระสันตะปาปา .....ดีกว่าตั้งเยอะครับ ;D

ผมมองว่ามันไม่ใช่เรื่องของสิทธิ แต่มันเป็นเรื่องของหน้าที่มากกว่าครับ เหมือนผู้ชายไม่มีสิทธิ์เป็นแม่ อันเป็นหน้าที่ที่มีเกียรติและน่าเคารพที่สุดของผู้หญิง ความจริงหน้าที่ไหนก็สำคัญทั้งนั้น ดังนั้นน่าจะคิดว่าชายและหญิง ทำหน้าที่ต่างกัน ในการเสริมสร้างพระศาสนจักรนะครับ เพราะในคริสตศาสนาเรา ผู้หญิงเป็นนักบุญ มากมายหลายคน แล้วยิ่งกรณีแม่พระด้วยแล้ว มีแม่ของศาสดาคนไหนในโลกบ้างที่ได้รับเกียรติเท่าแม่พระ ที่ขนาดพระเจ้าเองยินดีเรียกพระนางโดยเดชะพระจิตเจ้าที่เต็มเปี่ยมในนางอลิซาเบธว่า "มารดาขององค์พระผู้เป็นเจ้า" มีคนกว่า1000ล้านคนทั่วโลกให้เกียรติพระนาง และชื่นชมยกย่องพระนาง

ดังนั้นแล้ว ผมกล้าพูดว่า การไม่ได้เป็นพระสงฆ์ไม่ใช่ความด้อยกว่าเลย เพราะไม่มีผู้ชายคนไหนสามารถเป็นซิสเตอร์ที่ดีได้ เท่าผู้หญิง เช่นกัน

ลองอ่านพระวาจาบทนี้ครับ

1คร 12:12-30 การเปรียบเทียบกับร่างกาย
แม้ร่างกายเป็นร่างกายเดียว แต่ก็มีอวัยวะหลายส่วน อวัยวะต่าง ๆ เหล่านี้แม้จะมีหลายส่วนก็ร่วมเป็นร่างกายเดียวกันฉันใด พระคริสตเจ้า ก็ฉันนั้น เดชะพระจิตเจ้าพระองค์เดียว เราทุกคนจึงได้รับการล้างมารวมเข้าเป็นร่างกายเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็นชาวยิวหรือชาวกรีก ไม่ว่าจะเป็นทาสหรือไทยก็ตาม เราทุกคนต่างได้รับพระจิตเจ้าพระองค์เดียวกัน ร่างกายไม่ได้ประกอบด้วยอวัยวะส่วนเดียว แต่มีอวัยวะหลายส่วน ถ้าเท้าจะพูดว่า “ข้าพเจ้าไม่ใช่มือ จึงไม่เป็นส่วนหนึ่งของร่างกาย” แต่เท้าไม่ได้เป็นอวัยวะของร่างกายน้อยกว่าอวัยวะส่วนอื่น เพราะเป็นเพียงเท้า หรือถ้าหูจะพูดว่า “ข้าพเจ้าไม่ใช่ดวงตา จึงไม่ใช่ส่วนหนึ่งของร่างกาย” แต่ก็ไม่ได้ทำให้หูไม่เป็นอวัยวะของร่างกายเลย ถ้าร่างกายทั้งหมดเป็นดวงตา แล้วจะได้ยินได้อย่างไร ถ้าร่างกายทั้งหมดเป็นหู แล้วจะได้กลิ่นได้อย่างไร พระเจ้าทรงจัดอวัยวะต่าง ๆ ในร่างกายให้อยู่ในที่ที่ทรงพระประสงค์ ถ้าร่างกายทุกส่วนเป็นอวัยวะเดียวแล้ว ร่างกายจะอยู่ที่ไหน เท่าที่เป็นอยู่ มีอวัยวะหลายส่วน แต่มีร่างกายเดียว ดวงตาพูดกับมือไม่ได้ว่า “เราไม่ต้องการเจ้า” และศีรษะก็พูดกับเท้าไม่ได้ว่า “เราไม่ต้องการเจ้า” ตรงกันข้าม ส่วนที่เราคิดว่าเป็นอวัยวะที่อ่อนแอของร่างกายกลับเป็นอวัยวะที่จำเป็นมากกว่า อวัยวะส่วนที่เราคิดว่าไม่มีเกียรติในร่างกาย เรากลับทะนุถนอมด้วยความเคารพเป็นพิเศษ และอวัยวะที่น่าอับอายของเรากลับได้รับการตกแต่งให้งดงามมากกว่าส่วนอื่น อวัยวะที่น่าดูอยู่แล้วไม่ต้องการตกแต่งอะไรอีก พระเจ้าทรงประกอบร่างกายขึ้น โดยให้เกียรติแก่อวัยวะที่ไม่มีเกียรติมากกว่าอวัยวะอื่น ๆ เพื่อร่างกายจะได้ไม่มีการแตกแยกใด ๆ ตรงกันข้าม อวัยวะแต่ละส่วนจะเอาใจใส่ซึ่งกันและกัน ถ้าอวัยวะหนึ่งเป็นทุกข์ อวัยวะอื่น ๆ ทุกส่วนก็ร่วมเป็นทุกข์ด้วย ถ้าอวัยวะหนึ่งได้รับเกียรติ อวัยวะอื่น ๆ ทุกส่วนก็ร่วมยินดีด้วยเช่นเดียวกัน ท่านทั้งหลายเป็นพระกายของพระคริสตเจ้า แต่ละคนต่างก็เป็นอวัยวะของพระกายนั้น พระเจ้าทรงแต่งตั้งบางคนให้ทำหน้าที่ต่าง ๆ ในพระศาสนจักร คือ หนึ่งให้เป็นอัครสาวก สองให้เป็นประกาศก และสามให้เป็นครูอาจารย์ ต่อจากนั้น คือผู้มีอำนาจทำอัศจรรย์ ผู้รักษาโรค ผู้ช่วยเหลือ ผู้ปกครอง และผู้พูดภาษาที่ไม่มีใครเข้าใจ ทุกคนเป็นอัครสาวกหรือ ทุกคนเป็นประกาศกหรือ ทุกคนเป็นครูอาจารย์หรือ ทุกคนเป็นผู้ทำอัศจรรย์หรือ ทุกคนบำบัดโรคได้หรือ ทุกคนพูดภาษาที่ไม่มีใครเข้าใจหรือ ทุกคนเป็นผู้ตีความอธิบายความหมายของภาษานั้นหรือ
-------------------------------------------------

ผมเชื่อว่า พระเจ้าแค่แบ่งงานให้เรา และพระองค์ตรัสชัดว่าทุกงานสำคัญ และทุกคนไม่มีใครด้อยกว่าใคร

เห็นด้วยกับคุณHoly เนื้อเรื่องต่อกันได้ดีครับ ขอบคุณมากครับ

จดหมายเหตุของท่านนักบุญเปาโลก็เขียนไว้หลายฉบับเกี่ยวกับการตั้งผู้ชายเป็นผู้นำของคริสตจักร พี่เป็นผู้ชายและเป็นคาทอลิกจะโพสอะไรก็เหนือยจริง เดี๋ยวเขาจะหาว่าเข้าข้างผู้ชายด้วยกันถึงยกพระคัมภีร์มาอ้างก็เถอะ

แต่ถ้าใครให้ผู้หญิงเป็นพระสงฆ์ได้พี่ค้านหัวยันฝา ไม่ใช้พี่ดูถูกหรือรังเกียดเพศหญิงนะครับ แต่พี่ไม่ชอบขัดพระวาจาของพระเจ้าและยึดพระวจนะคำเป็นบรรทัดฐานเสมอแนวคิดหัวสมัยใหม่อะไรที่เข้ามาต่อสู้พระคัมภีร์พี่ไม่เห็นด้วยหมดทั้งนั้นแหละครับ

ถ้าพระคัมภีร์บอกว่าให้ผู้หญิงเป็นผู้นำสูงสุดแบบอินเดียแดงเผ่าโกกิ (สมัยหนึ่งสาวอินเดียแดงเผ่าโกกิเคยปฏิวัตผู้ชาย ต่อมาถูกฟ้าผ่า แผ่นดินสูบ เลยยอมให้ผู้ชายเป็นผู้นำเหมือนเดิม) พี่ก็ต้องเชื่อตามและยึดผู้หญิงเป็นผู้นำหัวยันฝาเหมือนกัน แต่พระเจ้าไม่ได้บอกเช่นนั้นนะครับ

อะไรที่พระเจ้าตั้งไว้เราควรเชื่อฟังนะครับ อย่างเอาสมองน้อยๆ ไร้เดียงสาของเราไปติไปว่า รูปแบบทุกชนิดที่พระเจ้าตั้งขึ้นมีความเหมาะสมและยุติธรรมในตัวมันเองอยู่แล้ว


ด้วยรักในพระคริสต์

:( งง...กับเฮียโจจริงๆ ใครให้ผู้หญิงเป็นนักบวชได้พี่ค้นหัวยันฝา ;D ;D งั้นพี่ก็ต้องเริ่มค้านได้เลยค่ะ เพราะทั้งมาเซอร์ /ซิสเตอร์ เขาเรียกว่า นักบวชหญิง กันทั้งนั้น จะพูดจะจาอะไรตรองก่อนให้ดีนะพี่ท่าน


ปล. สมแล้วที่พี่โจอยู่เป็นโสดได้ขนาดนี้ เพราะมีทัศนคติต่อผู้หญิงแบบนี้นี่เอง 55555 :P :P :P

ขอบใจจะ โทษทีลืมไปผิดอีกแล้ว ;D

สมแล้วที่พี่โจอยู่เป็นโสดได้ขนาดนี้ เพราะมีทัศนคติต่อผู้หญิงแบบนี้นี่เอง

จะทำยังไงได้ ยังมีอีกคือแต่งานกับคนนอกศาสนาก็ไม่ได้ด้วยทำให้พี่ปิดตัวเองมาต้องเก้าปี ถ้าเราไม่ยึดถือแล้วใครมันจะยึดถือ ไม่ใช้พี่แคบนะครับแต่พี่รู้สึกว่าผิดและทำให้พระวาจาพระเจ้าเป็นหมันไปมากว่าพระวาจาทรงชีวิต การเชื่อฟังพระไม่ผิดหรอกครับ :)

ด้วยรักในพระคริสต์

พระวาจาที่คุณHolyยกมาน่ะช้ดเจนที่สุดแล้วค่ะ ขอบคุณค่ะ *ok

เห็นด้วยกะพี่ Holy ครับ ผมว่าการเป็นสงฆ์หรือไม่ไม่ใช่เรื่องสำคัญ แต่ละคนย่อมมีหน้าที่ของตนพระเป็นเจ้าทรงมีแผนการที่ดีที่สุดสำหรับทุกๆคนอยู่แล้ว คนที่ไม่ได้เป็นนักบุญก็ยังมี

ฝาก พี่โจ ไปอ่านกระทู้นี้ ฮับ

http://www.newmana.com/yabb/http://newm ... 5#lastPost

ปล. พี่โจคร้าบ ยังพิมพ์ผิดเยอะนะฮะ ครูลิลลี่สั่งมาว่าให้ไปแก้ข้อความ
แล้วว่างเมื่อไหร่ อยากจะพูดเรื่อง ผู้หยิ๋ง ผู้หญิง กับพี่ ฮะ 8)

เห็นด้วยเหมือนกัน สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการทำทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อพระเจ้า และดำเนินชีวิตตามน้ำพระทัยของพระองค์อย่างแท้จริง *ok *ok

ทำหน้าที่ของตนให้ดีที่สุด และพอใจในสิ่งที่พระเจ้าประทาน

คุณ Holyกล่าวออกมาได้ชัดเจนหมดแล้วละครับ