สาร-แม่พระลำไทร วันอาทิตย์ที่ 28 สิงหาคม 2548
โพสต์แล้ว: อังคาร ส.ค. 30, 2005 11:18 pm
หน้าถ้ำแม่พระวัดพระสุทธิวงส์ ลำไทร
วันอาทิตย์ที่ 28 สิงหาคม 2548 เวลา 03.30น. – 04.00น.
วันเสาร์ที่ 27 สิงหาคม 2548 ตอนเช้าผมได้รับโทรศัพท์จากพี่สุดจิตว่าจะไปวัด พระสุทธิวงส์แต่ไปไม่ถูก พี่เขาขอให้ผมช่วยบอกทางให้หน่อย ผมดีใจมากที่จะมี คนไปร่วมสวดที่หน้าถ้าแม่พระเพิ่มขึ้นอีกถึงสามคนคือพี่สุดจิต พี่สาวของพี่สุดจิต และพี่น้อย ผมนึกในใจว่านี่คงเป็นพระประสงค์ของแม่พระ ที่จะให้ผมเป็นผู้ที่นำทาง ให้แก่พี่ๆทั้งสาม ทั้งๆที่ผมไม่คุ้นกับเส้นทางเหมือนกัน แต่ก็สมัครใจที่จะไปพบกับ พี่ๆ ตามนัด ความที่ผมเองก็ไม่รู้จักเส้นจึงพาพี่เขาไปหลงทางเสียนานเหมือนกัน พี่สุดจิตได้กรุณาแวะมารับครอบครัวของผมด้วยที่เมืองนนท์ กว่าเราจะเริ่มออก เดินทางไปวัดพระสุทธิวงส์ได้ก็ประมาณ 16.00น. ผมมีความรู้สึกว่าวันนี้ผมไป แสวงบุญจริงๆ เพราะระหว่างทางที่ไปนั้นมีการสวดภาวนา และร้องเพลงสรรเสริญ พระเจ้าแทบตลอดเวลา ขอบคุณแม่พระครับที่แม่กรุณาส่งพี่ๆทั้งสามมาร่วมสมทบ กับพวกเรา
เมื่อถึงลำไทรหลังจากที่ทานอาหารเย็นกันเสร็จแล้ว ผมก็ขอตัวไปสวดที่หน้าถ้ำ ก่อนที่จะมืด เพราะทุกๆวันเสาร์ผมตั้งใจจะสวดสายประคำเพิ่มขึ้นเป็นพิเศษ 5 สาย เพื่อเป็นการทำพลีกรรมตามที่ได้ตั้งใจไว้ เวลาผ่านไปเร็วมากจนกระทั่ง พระอาทิตย์ได้ตกดินไปแล้ว ผมเริ่มมองไม่เห็นบทสวดภาวนา แต่ก็พยายามที่จะ สวดต่อไปให้ครบสายที่ 4 และในระหว่างนั้นเองผมก็เห็นที่ผ้าคลุมใต้ข้อศอกของ รูปปั้นของแม่พระมีแสงเป็นประกายเหมือนดาวสีแดงสดใสปรากฎขึ้นมา ผม เหลียวหลังไปดูว่าเป็นแสงสะท้อนของพระอาทิตย์หรือเปล่าแต่ก็เป็นไปไม่ได้ เพราะท้องฟ้ามืดหมดแล้ว ทำให้ผมคิดว่าวันนี้แม่พระคงมีพระประสงค์ที่จะบอก อะไรสักอย่างเป็นแน่ และในระหว่างที่ผมสวดอยู่นั้น ผมรับรู้ด้วยจิตเป็นเวลาเพียง แว๊บเดียวว่ารูปปั้นแม่พระที่อยู่ในถ้ำได้เปลี่ยนไป แม่พระมีเสื้อคลุมเป็นแก้วใสคลุม ทับชุดสีเงินข้างในอีกที พระหัตถ์ข้างขวาของแม่พระทรงถือหนังสือเล่มหนึ่งแนบไว้ กับอก รอบๆแม่พระนั้นห้อมล้อมไปด้วยเทวดาที่มีดาบอยู่ในมือข้างหนึ่ง แม่พระ สวมมงกุฎที่เป็นทรงสูงแต่ผมเห็นไม่ถนัด ผมจึงทูลขอแม่พระในใจว่าถ้าเป็นพระ ประสงค์ของแม่ที่จะให้ลูกได้เห็นภาพของแม่ในลักษณะเช่นนี้แล้ว ขอแม่ได้โปรด ให้ลูกได้เห็นแม่อีกสักครั้ง และผมก็ได้เห็นอีกครั้งจริงๆ แต่เป็นเวลาเพียงเสี้ยว วินาทีเท่านั้นผมจึงไม่สามารถบอกในรายละเอียดอะไรเพิ่มเติมได้อีก
คืนนี้ท้องฟ้าเป็นในเพราะไม่มีเค้าว่าจะมีฝนตกเลย เราจึงไปสวดกันที่สนามหญ้า หน้าถ้ำแม่พระ พี่น้อยเริ่มนำพวกเราสวดภาวนาแบบเซนาเกิลซึ่งผมเองยังไม่เคย ได้ยินที่ไหนมาก่อนเลยในชีวิต (การสวดภาวนาแบบเซนาเกิล เป็นการสวดภาวนา ตามแบบอย่างของบรรดาอัครสาวก ที่พวกท่านร่วมกันสวดภาวนาในห้องเซนาเกิล (ห้องชั้นบน)พร้อมกับแม่พระ เพื่อเตรียมต้อนรับพระจิตที่เสด็จมาครั้งแรกในวัน เปนเตกอสเต) นี่เป็นสิ่งใหม่ที่วันนี้ผมได้เรียนรู้ เมื่อการภาวนาจบ ลง พี่น้อยบอกให้ ผมอธิฐานแล้วเปิดหนังสือสาสน์ของแม่พระที่ทรงประทานผ่าน คุณพ่อ ดอน สเตฟาโน ก็อบบี้ ผมเปิดได้ที่หน้า134 สาสน์มีข้อความดังนี้
6 ก.ย.1986 หัวใจของแม่หลั่งเลือด เพราะพระศาสนจักรถูกแทงด้วยดาบของ ความไม่ซื่อสัตย์ ความเย็นเฉย และการละทิ้งความเชื่อ
“มนุษย์ไม่ตอบสนองเสียงเรียกของแม่ ที่เรียกซ้ำแล้วซ้ำเล่าให้กลับใจ การลงทัณฑ์ อันยิ่งใหญ่ในประวัติศาสตร์กำลังรออยู่ข้างหน้า ไฟจะตกจากฟากฟ้า มหาสมุทร ส่วนมากจะถูกทำลาย
พระศาสนจักรถูกแทงด้วยดาบของความไม่ซื่อสัตย์ ความเย็นเฉยและการละทิ้ง ความเชื่อ ภายนอกทุกอย่างดูราบรื่น แต่จริงๆแล้วพระศาสนจักรกำลังถูกรุกราน ด้วยแผลขาดความเชื่อจนกลายเป็นการละทิ้งความเชื่ออย่างกว้างขวาง
พระสังฆราช พระสงฆ์ นักบวชและสัตบุรุษจำนวนมากหมดความเชื่อในพระเยซูเจ้า และพระวรสาร เหตุนี้พระศาสนจักรจะต้องถูกชำระด้วยการเบียดเบียนและด้วย เลือด
ความแตกแยก ความขัดแย้ง และการขัดสู้กันกำลังเกิดขึ้นภายในพระศาสนจักร อำนาจของลัทธิเทวนิยม และพวกฟรีเมซอนได้เข้าไปเกาะติดในวงในพระ ศาสนจักร
แล้วส่งผลให้เกิดการแตกหักภายในพระศาสนจักร ศักดิ์ศรีและความศักดิ์สิทธิ์ แห่งพระศาสนจักรถูกบดบัง
นี่คือเวลาที่แม่บอกล่วงหน้าไว้แล้วว่า พระคาร์ดินันจะขัดสู้กับพระคาร์ดินัน พระสังฆราชกับพระสังฆราช พระสงฆ์กับพระสงฆ์ และฦูงชนก็จะถูกตระครุบ และ ถูกฉีกเป็นชิ้นๆโดยสุนัขป่าที่แผงมาโดยคราบลูกแกะเชื่องๆน่ารัก
ในจำนวนคนเหล่านี้ บางคนอยู่ในตำแห่งสูงๆเสียด้วย อาศัยคนเหล่านี้ซาตานได้ โอกาสเข้าไปบงการถึงชั้นยอดของพระศาสนจักรทีเดียว
โอ้บรรดาพระสังฆราชและพระสงฆ์ ความรับผอดชอบของท่านนั้นใหญ่แค่ไหน?
พระเป็นเจ้าจะทรงคิดบัญชีกับพวกท่าน ว่าพวกท่านได้บริหารสวนองุ่นของพระ องค์อย่างไร?
จงกลับใจ จงขออภัย และจงชดเชยบาป และเป็นต้นจงเป็นผู้ซื่อสัตย์ในพันธกิจที่ ท่านได้รับเถิด
นี่เป็นเหตุผลที่ว่าทำไม่หัวใจของแม่จึงหลั่งเลือด เพราะความใจแข็ง ดื้อกระด้าง ไม่ยอมเชื่อของลูกนั่นแหละ
หัวใจของแม่ต้องหลั่งเลือดเพราะเห็นว่า ลูกนั้นปิดใจ ไม่ร้อนไม่หนาวกับการเตือน อันแสนระทมของแม่
หัวใจของแม่หลั่งเลือด เพราะเห็นถนนหนทางถูกละเลงด้วยเลือด แต่ลูกก็ยังดื้อดัน เฉยๆกับสิ่งที่กำลังอยู่ข้างหน้าลูก”
เมื่อผมอ่านสาสน์ของแม่พระจบลง ทำให้ผมนึกย้องหลังถึงสาสน์ต่างๆที่แม่พระได้ ดรัสกับผมในช่วงหลังๆนี้ มีหลายสิ่งหลายอย่างที่ใกล้เคียงกันมากทีเดียว โลกนี้ จะเป็นเช่นไรถ้ามนุษย์ยังตกอยู่ในสภาพเช่นนี้ สาสน์ของแม่พระทำให้ผมรู้ว่า สิ่งที่ผมคิดว่าเป็นการทำพลีกรรมนั้นยังไม่เพียงพอที่จะชดเชยความแข็งกระด้าง ของมนุษย์ต่อน้ำพระทัยของพระเป็นเจ้าได้ ลูกจะต้องทำสิ่งใดเล่า ผมได้แต่ถามแม่ พระอยู่ในใจ
กลุ่มลูกแกะฯได้มาร่วมสมทบกับพวกเราประมาณเที่ยงคืน เราจึงได้เริ่มต้นสวดบท นพวารของพระแม่ผู้เห็นอกเห็นใจพร้อมกัน ในระหว่างที่สวดหลายๆคนในกลุ่ม ของพวกเราได้เห็นการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นกับรูปปั้นของแม่พระ บางคนเห็นเสื้อ คลุมของแม่พระสีเปลี่ยนไปจากสีขาวกลายเป็นสีน้ำตาล แล้วกลายเป็นสีเทาอม ชมพูเรื่อๆ ที่หน้าของแม่พระเปลี่ยนไปเป็นมีเคราและผมสีขาวขึ้นมาแทนที่ผ้า คลุมของแม่พระ ที่เหนือพระเศียรของแม่พระเห็นเป็นรูปนกอันเป็นสัญญลักษณ์ ขององค์พระจิตเจ้า ที่ใต้ข้อศอกด้านขวาของแม่พระตรงบริเวณชายเสื้อคลุม พวก เรามองเห็นดวงดาวส่องเป็นประกาย เป็นดาวลักษณะเดียวกับที่ผมมองเห็นใน ตอนหัวค่ำแต่ไม่ใช่ดาวสีแดง ที่ก้อนหินหน้าถ้ำด้านขวาหลายๆคนมองเห็นเป็นรูป พระเยซูเจ้าหลังจากที่พระองค์สิ้นพระชนม์โดยมีแม่พระโอบกอดพระองค์ไว้ ที่ใบ หน้าของพระองค์สามารถมองเห็นรอยบาดแผลที่เกิดขึ้นจากการถูกทรมานได้ อย่างชัดเจน ปากของพระองค์เผยอออกเห็นลิ้นที่ถูกของแหลมที่มแทงจนทะลุ ดั้งจมูกที่ถูกตีจนหัก และภาพที่เห็นนี้ยังคงปรากฏให้อยู่จนถึงวันอาทิตย์ก่อน เวลามิซซาเช้า
เมื่อพวกเราสวดจบเวลาประมาณตี3 ผมขอเวลาเตรียมตัวเพื่อรอรับสาสน์จาก แม่พระ วันนี้ผมรู้สึกตื่นเต้นมาก เพราะจะเป็นสาสน์ที่สองที่ผมจะได้รับจากแม่พระ ในคืนเดียวกันนี้ เมื่อพวกเราเงียบเสียงลงสักครู่แม่พระก็ได้เริ่มประทานสาสน์แก่ ผมดังต่อไปนี้
“ ลูกที่รักของเราทั้งหลาย วันนี้เราสุขใจยิ่งนักที่เห็นลูกของเรามีมาเพิ่มอีกหลายคน สิ่งที่เจ้าขอนั้นขึ้นอยู่กับจิตใจของผู้รับว่าเขาจะสามารถเห็นเราได้ในลักษณะเช่นเดียวกับที่อาเดเรียได้เห็นหรือไม่ วันนี้เราอนุญาตให้พวกเจ้าได้เห็น ขอให้จิตใจของ เจ้าจดจ่ออยู่กับเราเถิด จงเพ่งพินิจเราให้ดี ถ้าระดับในจิตใจของเจ้าสูงเพียงพอ เจ้าก็จะได้เห็น
จงอย่าประหลาดใจในความคล้ายคลึงกันของสาสน์ที่เจ้าได้รับวันนี้ กับในครั้ง ก่อนๆ ที่มีความสอดคล้องกัน มนุษย์ยังหลงลืมพระผู้เป็นเจ้า และยังมัวเมาอยู่ใน บาปอย่างมากมาย (น้ำเสียงของแม่พระเริ่มเศร้าลงจนผมต้องร้องไห้ออกมา) ทุกครั้งที่เรามา เป็นพระประสงค์ของพระบิดาเจ้า ให้เรามาเตือนพวกเจ้า การสวด ภาวนาของพวกเจ้า จะช่วยให้น้ำพระทัยของพระองค์อ่อนโยนลง และเมตตาไม่ ลงโทษทัณฑ์แก่คนบาปทั้งหลายซึ่งขณะนี้มีมากมายเหลือเกิน
ขอให้เจ้าทั้งหลายจงภูมิใจเถิดว่าวันนี้ เราได้มาพบพวกเจ้าจริงๆ อย่าได้สงสัยอีก ต่อไปเลย มีน้อยคนนักในโลกปัจจุบันนี้ที่จะเปิดจิตใจหาเรา เหมือนอย่างที่พวก เจ้าทั้งหลายได้กำลังปฏิบัติอยู่นี้
เราไม่อยากกล่าวพาดพิงทำให้พระศาสนจักรต้องมัวหมอง แต่เป็นความจริงที่แม้ แต่ผู้ที่อยู่ในเครื่องแบบของนักบวช ก็ได้ถูกอำนาจของผีปีศาจและซาตานชักจูงไป ในทางที่ผิดหลายต่อหลายคนแล้ว จงสวดให้อภัย ขออภัยโทษต่อพระผู้เป็นเจ้าให้ นักบวชเหล่านั้นด้วยเถิดเพราะเขาได้ถูกเลือกสรรค์มาให้เป็นนายชุมพาบาลนำลูกๆของพระองค์ไปสู่สวรรค์นิรันดร จงสวดภาวนาให้มากขึ้นกว่านี้ จงถวายพลีกรรม ให้มากกว่านี้ เพื่อให้คนบาปทั้งหลายได้กลับใจ จงเพ่งพินิจเราให้ดีเถิด เจ้าจะรู้ว่า เราเจ็บปวดหัวใจเพียงใด
พระบุตรสุดที่รักของเรา ได้มาประทับอยู่ท่ามกลางพวกเจ้าทั้งหลาย ณ ที่นี้แล้ว จงมอบตัวเจ้าและจิตวิญญาณของเจ้าให้อยู่ใต้เบื้องพระบาทของพระองค์เถิด ให้พระองค์เป็นผู้นำชีวิตของเจ้าจนกว่าชีวิตจะหาไม่ พระองค์ทรงพระทัยดียิ่งนัก ให้โอกาสพวกเจ้าแต่ละคนได้วอนขอพระองค์ด้วยหัวใจของพวกเจ้าแต่ละคน จงขอเถิดแล้วเจ้าจะได้รับ พระองค์กำลังสดับฟังอยู่ (ช่วงนี้พวกเราแต่ละคนต่างขอ พระพรจากพระองค์กันในใจ)
พระบุตรสุดที่รักของเราทรงพอพระทัยมาก ที่พวกเจ้า สมัครใจรับใช้พระองค์ จงจำ ไว้เถิดว่าเหตุการณ์ ณ วันนี้เป็นสิ่งที่ได้ถูกกำหนดไว้นานแล้ว ไม่ต้องแปลกใจหรอก ว่าพวกเจ้ามาเจอกันได้ยังไง นั่นคือพระประสงค์ของพระบิดาเจ้าสวรรค์ให้เจ้าทั้งหลายได้มีส่วนร่วมกับมหากางเขนของพระเยซูเจ้า
ลูกแกะทั้งหลายเจ้าจำได้มั๊ย เราเคยถามเจ้าครั้งหนึ่งว่า เจ้ายินดีที่จะแบกกางเขน หรือเปล่า เราขอคำยืนยันจากพวกเจ้าอีกหนึ่งครั้ง ว่าเจ้ายินดี จงกลับไปพิจารณาดู ในแต่ละวัน ในแต่นาที พวกเจ้าได้ถวายตัวรับใช้พระองค์มากเพียงใด ถ้าเจ้ายังไม่ ได้ทำ พระองค์ก็เฝ้ามองเจ้าอยู่ คอยหยั่งใจดูน้ำใจของเจ้า
พระบิดาเจ้าตรัสว่า พระองค์ไม่ต้องการสิ่งใดก็ตามที่ไม่ได้มาจากการกระทำด้วย สิ้นสุดจิตใจ เจ้าหลอกลวงพระองค์ไม่ได้ พระองค์ต้องการความสมัครใจเท่านั้น
หลังจากนี้ไปอีกครึ่งชั่วโมง เราขอให้พวกเจ้าเพ่งพินิจเราให้ดีถ้าเจ้าคือผู้ที่เหมาะ สมเจ้าจะได้เห็นเราในภาพลักษณ์ที่เจ้าปรารถนา”
ขอขอบพระคุณพระแม่ผู้เห็นอกเห็นใจสุดที่รักของลูกและพระเยซูเจ้าที่เสด็จมาประทับอยู่ท่ามกลางพวกเราอยู่ ณ เวลานี้ ลูกขอบพระคุณด้วยสิ้นสุดจิตใจ และขอถวาย ชีวิตและจิตวิญญาณของพวกลูกทั้งหลายแด่พระองค์ตลอดไป
จบสาสน์แต่เพียงเท่านี้ครับ
วันอาทิตย์ที่ 28 สิงหาคม 2548 เวลา 03.30น. – 04.00น.
วันเสาร์ที่ 27 สิงหาคม 2548 ตอนเช้าผมได้รับโทรศัพท์จากพี่สุดจิตว่าจะไปวัด พระสุทธิวงส์แต่ไปไม่ถูก พี่เขาขอให้ผมช่วยบอกทางให้หน่อย ผมดีใจมากที่จะมี คนไปร่วมสวดที่หน้าถ้าแม่พระเพิ่มขึ้นอีกถึงสามคนคือพี่สุดจิต พี่สาวของพี่สุดจิต และพี่น้อย ผมนึกในใจว่านี่คงเป็นพระประสงค์ของแม่พระ ที่จะให้ผมเป็นผู้ที่นำทาง ให้แก่พี่ๆทั้งสาม ทั้งๆที่ผมไม่คุ้นกับเส้นทางเหมือนกัน แต่ก็สมัครใจที่จะไปพบกับ พี่ๆ ตามนัด ความที่ผมเองก็ไม่รู้จักเส้นจึงพาพี่เขาไปหลงทางเสียนานเหมือนกัน พี่สุดจิตได้กรุณาแวะมารับครอบครัวของผมด้วยที่เมืองนนท์ กว่าเราจะเริ่มออก เดินทางไปวัดพระสุทธิวงส์ได้ก็ประมาณ 16.00น. ผมมีความรู้สึกว่าวันนี้ผมไป แสวงบุญจริงๆ เพราะระหว่างทางที่ไปนั้นมีการสวดภาวนา และร้องเพลงสรรเสริญ พระเจ้าแทบตลอดเวลา ขอบคุณแม่พระครับที่แม่กรุณาส่งพี่ๆทั้งสามมาร่วมสมทบ กับพวกเรา
เมื่อถึงลำไทรหลังจากที่ทานอาหารเย็นกันเสร็จแล้ว ผมก็ขอตัวไปสวดที่หน้าถ้ำ ก่อนที่จะมืด เพราะทุกๆวันเสาร์ผมตั้งใจจะสวดสายประคำเพิ่มขึ้นเป็นพิเศษ 5 สาย เพื่อเป็นการทำพลีกรรมตามที่ได้ตั้งใจไว้ เวลาผ่านไปเร็วมากจนกระทั่ง พระอาทิตย์ได้ตกดินไปแล้ว ผมเริ่มมองไม่เห็นบทสวดภาวนา แต่ก็พยายามที่จะ สวดต่อไปให้ครบสายที่ 4 และในระหว่างนั้นเองผมก็เห็นที่ผ้าคลุมใต้ข้อศอกของ รูปปั้นของแม่พระมีแสงเป็นประกายเหมือนดาวสีแดงสดใสปรากฎขึ้นมา ผม เหลียวหลังไปดูว่าเป็นแสงสะท้อนของพระอาทิตย์หรือเปล่าแต่ก็เป็นไปไม่ได้ เพราะท้องฟ้ามืดหมดแล้ว ทำให้ผมคิดว่าวันนี้แม่พระคงมีพระประสงค์ที่จะบอก อะไรสักอย่างเป็นแน่ และในระหว่างที่ผมสวดอยู่นั้น ผมรับรู้ด้วยจิตเป็นเวลาเพียง แว๊บเดียวว่ารูปปั้นแม่พระที่อยู่ในถ้ำได้เปลี่ยนไป แม่พระมีเสื้อคลุมเป็นแก้วใสคลุม ทับชุดสีเงินข้างในอีกที พระหัตถ์ข้างขวาของแม่พระทรงถือหนังสือเล่มหนึ่งแนบไว้ กับอก รอบๆแม่พระนั้นห้อมล้อมไปด้วยเทวดาที่มีดาบอยู่ในมือข้างหนึ่ง แม่พระ สวมมงกุฎที่เป็นทรงสูงแต่ผมเห็นไม่ถนัด ผมจึงทูลขอแม่พระในใจว่าถ้าเป็นพระ ประสงค์ของแม่ที่จะให้ลูกได้เห็นภาพของแม่ในลักษณะเช่นนี้แล้ว ขอแม่ได้โปรด ให้ลูกได้เห็นแม่อีกสักครั้ง และผมก็ได้เห็นอีกครั้งจริงๆ แต่เป็นเวลาเพียงเสี้ยว วินาทีเท่านั้นผมจึงไม่สามารถบอกในรายละเอียดอะไรเพิ่มเติมได้อีก
คืนนี้ท้องฟ้าเป็นในเพราะไม่มีเค้าว่าจะมีฝนตกเลย เราจึงไปสวดกันที่สนามหญ้า หน้าถ้ำแม่พระ พี่น้อยเริ่มนำพวกเราสวดภาวนาแบบเซนาเกิลซึ่งผมเองยังไม่เคย ได้ยินที่ไหนมาก่อนเลยในชีวิต (การสวดภาวนาแบบเซนาเกิล เป็นการสวดภาวนา ตามแบบอย่างของบรรดาอัครสาวก ที่พวกท่านร่วมกันสวดภาวนาในห้องเซนาเกิล (ห้องชั้นบน)พร้อมกับแม่พระ เพื่อเตรียมต้อนรับพระจิตที่เสด็จมาครั้งแรกในวัน เปนเตกอสเต) นี่เป็นสิ่งใหม่ที่วันนี้ผมได้เรียนรู้ เมื่อการภาวนาจบ ลง พี่น้อยบอกให้ ผมอธิฐานแล้วเปิดหนังสือสาสน์ของแม่พระที่ทรงประทานผ่าน คุณพ่อ ดอน สเตฟาโน ก็อบบี้ ผมเปิดได้ที่หน้า134 สาสน์มีข้อความดังนี้
6 ก.ย.1986 หัวใจของแม่หลั่งเลือด เพราะพระศาสนจักรถูกแทงด้วยดาบของ ความไม่ซื่อสัตย์ ความเย็นเฉย และการละทิ้งความเชื่อ
“มนุษย์ไม่ตอบสนองเสียงเรียกของแม่ ที่เรียกซ้ำแล้วซ้ำเล่าให้กลับใจ การลงทัณฑ์ อันยิ่งใหญ่ในประวัติศาสตร์กำลังรออยู่ข้างหน้า ไฟจะตกจากฟากฟ้า มหาสมุทร ส่วนมากจะถูกทำลาย
พระศาสนจักรถูกแทงด้วยดาบของความไม่ซื่อสัตย์ ความเย็นเฉยและการละทิ้ง ความเชื่อ ภายนอกทุกอย่างดูราบรื่น แต่จริงๆแล้วพระศาสนจักรกำลังถูกรุกราน ด้วยแผลขาดความเชื่อจนกลายเป็นการละทิ้งความเชื่ออย่างกว้างขวาง
พระสังฆราช พระสงฆ์ นักบวชและสัตบุรุษจำนวนมากหมดความเชื่อในพระเยซูเจ้า และพระวรสาร เหตุนี้พระศาสนจักรจะต้องถูกชำระด้วยการเบียดเบียนและด้วย เลือด
ความแตกแยก ความขัดแย้ง และการขัดสู้กันกำลังเกิดขึ้นภายในพระศาสนจักร อำนาจของลัทธิเทวนิยม และพวกฟรีเมซอนได้เข้าไปเกาะติดในวงในพระ ศาสนจักร
แล้วส่งผลให้เกิดการแตกหักภายในพระศาสนจักร ศักดิ์ศรีและความศักดิ์สิทธิ์ แห่งพระศาสนจักรถูกบดบัง
นี่คือเวลาที่แม่บอกล่วงหน้าไว้แล้วว่า พระคาร์ดินันจะขัดสู้กับพระคาร์ดินัน พระสังฆราชกับพระสังฆราช พระสงฆ์กับพระสงฆ์ และฦูงชนก็จะถูกตระครุบ และ ถูกฉีกเป็นชิ้นๆโดยสุนัขป่าที่แผงมาโดยคราบลูกแกะเชื่องๆน่ารัก
ในจำนวนคนเหล่านี้ บางคนอยู่ในตำแห่งสูงๆเสียด้วย อาศัยคนเหล่านี้ซาตานได้ โอกาสเข้าไปบงการถึงชั้นยอดของพระศาสนจักรทีเดียว
โอ้บรรดาพระสังฆราชและพระสงฆ์ ความรับผอดชอบของท่านนั้นใหญ่แค่ไหน?
พระเป็นเจ้าจะทรงคิดบัญชีกับพวกท่าน ว่าพวกท่านได้บริหารสวนองุ่นของพระ องค์อย่างไร?
จงกลับใจ จงขออภัย และจงชดเชยบาป และเป็นต้นจงเป็นผู้ซื่อสัตย์ในพันธกิจที่ ท่านได้รับเถิด
นี่เป็นเหตุผลที่ว่าทำไม่หัวใจของแม่จึงหลั่งเลือด เพราะความใจแข็ง ดื้อกระด้าง ไม่ยอมเชื่อของลูกนั่นแหละ
หัวใจของแม่ต้องหลั่งเลือดเพราะเห็นว่า ลูกนั้นปิดใจ ไม่ร้อนไม่หนาวกับการเตือน อันแสนระทมของแม่
หัวใจของแม่หลั่งเลือด เพราะเห็นถนนหนทางถูกละเลงด้วยเลือด แต่ลูกก็ยังดื้อดัน เฉยๆกับสิ่งที่กำลังอยู่ข้างหน้าลูก”
เมื่อผมอ่านสาสน์ของแม่พระจบลง ทำให้ผมนึกย้องหลังถึงสาสน์ต่างๆที่แม่พระได้ ดรัสกับผมในช่วงหลังๆนี้ มีหลายสิ่งหลายอย่างที่ใกล้เคียงกันมากทีเดียว โลกนี้ จะเป็นเช่นไรถ้ามนุษย์ยังตกอยู่ในสภาพเช่นนี้ สาสน์ของแม่พระทำให้ผมรู้ว่า สิ่งที่ผมคิดว่าเป็นการทำพลีกรรมนั้นยังไม่เพียงพอที่จะชดเชยความแข็งกระด้าง ของมนุษย์ต่อน้ำพระทัยของพระเป็นเจ้าได้ ลูกจะต้องทำสิ่งใดเล่า ผมได้แต่ถามแม่ พระอยู่ในใจ
กลุ่มลูกแกะฯได้มาร่วมสมทบกับพวกเราประมาณเที่ยงคืน เราจึงได้เริ่มต้นสวดบท นพวารของพระแม่ผู้เห็นอกเห็นใจพร้อมกัน ในระหว่างที่สวดหลายๆคนในกลุ่ม ของพวกเราได้เห็นการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นกับรูปปั้นของแม่พระ บางคนเห็นเสื้อ คลุมของแม่พระสีเปลี่ยนไปจากสีขาวกลายเป็นสีน้ำตาล แล้วกลายเป็นสีเทาอม ชมพูเรื่อๆ ที่หน้าของแม่พระเปลี่ยนไปเป็นมีเคราและผมสีขาวขึ้นมาแทนที่ผ้า คลุมของแม่พระ ที่เหนือพระเศียรของแม่พระเห็นเป็นรูปนกอันเป็นสัญญลักษณ์ ขององค์พระจิตเจ้า ที่ใต้ข้อศอกด้านขวาของแม่พระตรงบริเวณชายเสื้อคลุม พวก เรามองเห็นดวงดาวส่องเป็นประกาย เป็นดาวลักษณะเดียวกับที่ผมมองเห็นใน ตอนหัวค่ำแต่ไม่ใช่ดาวสีแดง ที่ก้อนหินหน้าถ้ำด้านขวาหลายๆคนมองเห็นเป็นรูป พระเยซูเจ้าหลังจากที่พระองค์สิ้นพระชนม์โดยมีแม่พระโอบกอดพระองค์ไว้ ที่ใบ หน้าของพระองค์สามารถมองเห็นรอยบาดแผลที่เกิดขึ้นจากการถูกทรมานได้ อย่างชัดเจน ปากของพระองค์เผยอออกเห็นลิ้นที่ถูกของแหลมที่มแทงจนทะลุ ดั้งจมูกที่ถูกตีจนหัก และภาพที่เห็นนี้ยังคงปรากฏให้อยู่จนถึงวันอาทิตย์ก่อน เวลามิซซาเช้า
เมื่อพวกเราสวดจบเวลาประมาณตี3 ผมขอเวลาเตรียมตัวเพื่อรอรับสาสน์จาก แม่พระ วันนี้ผมรู้สึกตื่นเต้นมาก เพราะจะเป็นสาสน์ที่สองที่ผมจะได้รับจากแม่พระ ในคืนเดียวกันนี้ เมื่อพวกเราเงียบเสียงลงสักครู่แม่พระก็ได้เริ่มประทานสาสน์แก่ ผมดังต่อไปนี้
“ ลูกที่รักของเราทั้งหลาย วันนี้เราสุขใจยิ่งนักที่เห็นลูกของเรามีมาเพิ่มอีกหลายคน สิ่งที่เจ้าขอนั้นขึ้นอยู่กับจิตใจของผู้รับว่าเขาจะสามารถเห็นเราได้ในลักษณะเช่นเดียวกับที่อาเดเรียได้เห็นหรือไม่ วันนี้เราอนุญาตให้พวกเจ้าได้เห็น ขอให้จิตใจของ เจ้าจดจ่ออยู่กับเราเถิด จงเพ่งพินิจเราให้ดี ถ้าระดับในจิตใจของเจ้าสูงเพียงพอ เจ้าก็จะได้เห็น
จงอย่าประหลาดใจในความคล้ายคลึงกันของสาสน์ที่เจ้าได้รับวันนี้ กับในครั้ง ก่อนๆ ที่มีความสอดคล้องกัน มนุษย์ยังหลงลืมพระผู้เป็นเจ้า และยังมัวเมาอยู่ใน บาปอย่างมากมาย (น้ำเสียงของแม่พระเริ่มเศร้าลงจนผมต้องร้องไห้ออกมา) ทุกครั้งที่เรามา เป็นพระประสงค์ของพระบิดาเจ้า ให้เรามาเตือนพวกเจ้า การสวด ภาวนาของพวกเจ้า จะช่วยให้น้ำพระทัยของพระองค์อ่อนโยนลง และเมตตาไม่ ลงโทษทัณฑ์แก่คนบาปทั้งหลายซึ่งขณะนี้มีมากมายเหลือเกิน
ขอให้เจ้าทั้งหลายจงภูมิใจเถิดว่าวันนี้ เราได้มาพบพวกเจ้าจริงๆ อย่าได้สงสัยอีก ต่อไปเลย มีน้อยคนนักในโลกปัจจุบันนี้ที่จะเปิดจิตใจหาเรา เหมือนอย่างที่พวก เจ้าทั้งหลายได้กำลังปฏิบัติอยู่นี้
เราไม่อยากกล่าวพาดพิงทำให้พระศาสนจักรต้องมัวหมอง แต่เป็นความจริงที่แม้ แต่ผู้ที่อยู่ในเครื่องแบบของนักบวช ก็ได้ถูกอำนาจของผีปีศาจและซาตานชักจูงไป ในทางที่ผิดหลายต่อหลายคนแล้ว จงสวดให้อภัย ขออภัยโทษต่อพระผู้เป็นเจ้าให้ นักบวชเหล่านั้นด้วยเถิดเพราะเขาได้ถูกเลือกสรรค์มาให้เป็นนายชุมพาบาลนำลูกๆของพระองค์ไปสู่สวรรค์นิรันดร จงสวดภาวนาให้มากขึ้นกว่านี้ จงถวายพลีกรรม ให้มากกว่านี้ เพื่อให้คนบาปทั้งหลายได้กลับใจ จงเพ่งพินิจเราให้ดีเถิด เจ้าจะรู้ว่า เราเจ็บปวดหัวใจเพียงใด
พระบุตรสุดที่รักของเรา ได้มาประทับอยู่ท่ามกลางพวกเจ้าทั้งหลาย ณ ที่นี้แล้ว จงมอบตัวเจ้าและจิตวิญญาณของเจ้าให้อยู่ใต้เบื้องพระบาทของพระองค์เถิด ให้พระองค์เป็นผู้นำชีวิตของเจ้าจนกว่าชีวิตจะหาไม่ พระองค์ทรงพระทัยดียิ่งนัก ให้โอกาสพวกเจ้าแต่ละคนได้วอนขอพระองค์ด้วยหัวใจของพวกเจ้าแต่ละคน จงขอเถิดแล้วเจ้าจะได้รับ พระองค์กำลังสดับฟังอยู่ (ช่วงนี้พวกเราแต่ละคนต่างขอ พระพรจากพระองค์กันในใจ)
พระบุตรสุดที่รักของเราทรงพอพระทัยมาก ที่พวกเจ้า สมัครใจรับใช้พระองค์ จงจำ ไว้เถิดว่าเหตุการณ์ ณ วันนี้เป็นสิ่งที่ได้ถูกกำหนดไว้นานแล้ว ไม่ต้องแปลกใจหรอก ว่าพวกเจ้ามาเจอกันได้ยังไง นั่นคือพระประสงค์ของพระบิดาเจ้าสวรรค์ให้เจ้าทั้งหลายได้มีส่วนร่วมกับมหากางเขนของพระเยซูเจ้า
ลูกแกะทั้งหลายเจ้าจำได้มั๊ย เราเคยถามเจ้าครั้งหนึ่งว่า เจ้ายินดีที่จะแบกกางเขน หรือเปล่า เราขอคำยืนยันจากพวกเจ้าอีกหนึ่งครั้ง ว่าเจ้ายินดี จงกลับไปพิจารณาดู ในแต่ละวัน ในแต่นาที พวกเจ้าได้ถวายตัวรับใช้พระองค์มากเพียงใด ถ้าเจ้ายังไม่ ได้ทำ พระองค์ก็เฝ้ามองเจ้าอยู่ คอยหยั่งใจดูน้ำใจของเจ้า
พระบิดาเจ้าตรัสว่า พระองค์ไม่ต้องการสิ่งใดก็ตามที่ไม่ได้มาจากการกระทำด้วย สิ้นสุดจิตใจ เจ้าหลอกลวงพระองค์ไม่ได้ พระองค์ต้องการความสมัครใจเท่านั้น
หลังจากนี้ไปอีกครึ่งชั่วโมง เราขอให้พวกเจ้าเพ่งพินิจเราให้ดีถ้าเจ้าคือผู้ที่เหมาะ สมเจ้าจะได้เห็นเราในภาพลักษณ์ที่เจ้าปรารถนา”
ขอขอบพระคุณพระแม่ผู้เห็นอกเห็นใจสุดที่รักของลูกและพระเยซูเจ้าที่เสด็จมาประทับอยู่ท่ามกลางพวกเราอยู่ ณ เวลานี้ ลูกขอบพระคุณด้วยสิ้นสุดจิตใจ และขอถวาย ชีวิตและจิตวิญญาณของพวกลูกทั้งหลายแด่พระองค์ตลอดไป
จบสาสน์แต่เพียงเท่านี้ครับ