อัศจรรย์ดวงอาทิตย์ยืนยันรหัสธรรมการเสด็จสู่สวรรค์ของแม่พระ
โพสต์แล้ว: ศุกร์ พ.ย. 16, 2012 1:16 am
อัศจรรย์ดวงอาทิตย์ยืนยันรหัสธรรมการเสด็จสู่สวรรค์ทั้งกายและวิญญาณของแม่พระ

รหัสธรรมการเสด็จสู่สวรรค์ทั้งกายและวิญญาณของแม่พระ ได้รับการประกาศโดยพระสันตะปาปาปีโอที่ 12 เมื่อ 1 พ.ย. 1950 โดยมีเนื้อหาว่า “พระมารดาของพระเจ้าผู้ปฏิสนธินิรมล พระนางมารีย์พรหมจารีย์ เมื่อระยะเวลาแห่งการดำเนินชีวิตบนโลกนี้สิ้นสุดลงแล้ว พระนางได้รับการยกขึ้นสู่สวรรค์ทั้งร่างกายและวิญญาณ”
ในการประกาศครั้งนี้ไม่ได้บอกว่าแม่พระทรงสิ้นชีวิตตามปกติก่อนหรือไม่ อย่างไรก็ตาม ในสาส์นแรกของแม่พระที่เมดจูกอเรจ์นั้น แม่พระทรงตรัสตอบต่อผู้เห็นแม่พระคนหนึ่งซึ่งถามแม่พระว่า ทรงเสด็จสู่สวรรค์ก่อนหรือหลังจากสิ้นชีวิตแล้ว
“แม่เป็นมารดาของพระเจ้าและเป็นราชินีแห่งสันติภาพ แม่ได้ไปสู่สวรรค์ก่อนที่จะสิ้นชีวิต”
12 ต.ค. 1981

เมื่อสี่ปีก่อน มีเอกสารที่ไม่เปิดเผยชิ้นหนึ่งระบุว่า พระสันตะปาปาปีโอที่ 12 ทรงได้เห็นอัศจรรย์ดวงอาทิตย์ถึง สี่ครั้ง และพระองค์ทรงพิจารณาว่า ปรากฏการณ์นี้เป็นการยืนยันความคิดของพระองค์ที่จะประกาศรหัสธรรมข้อนี้ รายละเอียดในเอกสารนี้เขียนด้วยลายพระหัตถ์ของพระสันตปาปาปีโอที่ 12 ซึ่งได้นำออกแสดงต่อสาธารณชนที่วาติกันนานสองเดือนเมื่อ พ.ย. 2008

วว 12:1
เครื่องหมายยิ่งใหญ่ปรากฏในสวรรค์ คือ สตรีผู้หนึ่งมีดวงอาทิตย์เป็นอาภรณ์ มีดวงจันทร์อยู่ใต้เท้า มีมงกุฎดาวสิบสองดวงประดับศีรษะ นางมีครรภ์แก่
พระสันตะปาปาทรงเป็นพยานยืนยันถึงอัศจรรย์แห่งดวงอาทิตย์ที่รงเห็นด้วยพระองค์เองถึงสี่ครั้ง
ข้อมูลนี้ยืนยันได้จากลายพระหัตถ์ที่พระสันตะปาปาปีโอที่ 12 ทรงเขียนบันทึกไว้ในเอกสาร อันเป็นเอกสารส่วนหนึ่งที่แสดงในนิทรรศการ Pius XII: The Man and the Pontificate
นาย Giornale, Andrea Tornielli, ผู้อำนวยการนิทรรศการและผู้รายงานข่าวของวาติกันเดลลี่ ได้อธิบายให้ทาง ซีนิท ZENIT ทราบว่า เอกสารนี้ถูกพบอยู่ในเอกสารของครอบครัวของปาเชลลิ ซึ่งได้บรรยายถึง “อัศจรรย์ดวงอาทิตย์” และเรื่องนี้ได้รับการรับรองอย่างไม่เป็นทางการจากพระคาร์ดินัล Federico Tedeschini (1873-1959), โดยท่านเคยพูดว่า องค์พระสันตะปาปาได้เห็นอัศจรรย์
พระสันตะปาปาปีโอที่ 12 ทรงเขียนไว้ว่า “เราได้เห็น อัศจรรย์แห่งดวงอาทิตย์ นี่เป็นความจริงแน่แท้”

อัศจรรย์แห่งดวงอาทิตย์นี้เป็นแบบเดียวกับที่เกิดที่ฟาติมา โปรตุเกส ในวันที่ 13 ต.ค. 1917 ตามที่เด็กๆที่เห็นแม่พระได้แจ้งล่วงหน้าให้ทราบว่า แม่พระตรัสว่าจะมีอัศจรรย์ในวันดังกล่าวและประชาชนจะมาดูเพื่อจะได้เชื่อ มีประชาชนนับหมื่นคนได้มาในวันนั้นและได้เห็นพระอาทิตย์ “เต้น” เสื้อผ้าของพวกเขาซึ่งเปียกชุ่มเนื่องด้วยมีฝนตกก่อนหน้านั้นก็แห้งผาก พื้นดินที่เป็นโคลนก็แห้งด้วย
บันทึกของพระสันตะปาปาปีโอที่ 12 ระบุว่า พระองค์เห็นอัศจรรย์ดวงอาทิตย์ในปีที่พระองค์ประกาศรหัสธรรมการเสด็จสู่สวรรค์ทั้งกายและวิญญาณของแม่พระ ปี 1950 ขณะนั้นพระองค์กำลังทรงพระดำเนินอยู่ในสวนชองวาติกัน พระองค์ทรงเห็นปรากฏการณ์นี้ในหลายโอกาส ซึ่งเท่ากับเป็นการยืนยันความคิดของพระองค์ที่จะประกาศรหัสธรรมข้อนี้

พระองค์บันทึกว่า เวลา 16.00 น.ของวันที่ 30 ต.ค. 1950 ระหว่างที่กำลังเดินเล่นในสวนของวาติกัน อ่านหนังสือและศึกษาอยู่ เมื่อมาถึงพระรูปของแม่พระแห่งลูรดส์ ทรงมองไปที่ยอดเนินเขา […] เราต้องประหลาดใจที่ได้เห็นปรากฏการณ์ซึ่งไม่เคยเห็นมาก่อนเลย”
“พระอาทิตย์ที่อยู่เหนือสูงขึ้นไปนั้น ดูเหมือน ทรงกลมทึบสีซีดล้อมรอบด้วยแสงกระจ่าง และเราสามารถมองดูได้โดยไม่ระคายสายตา มีเมฆที่มีแสงอ่อนลอยอยู่ข้างหน้าด้วย”
พระสันตะปาปาบรรยายต่อไปว่า “ทรงกลมทึบนี้เคลื่อนไหวเล็กน้อย คล้ายกับหมุน หรือเคลื่อนจากซ้ายไปขวาและสลับกัน แต่ยังอยู่ในทรงกลม เราสามารถมองดูการเคลื่อนไหวนี้ได้อย่างชัดเจนและต่อเนื่อง”
พระสันตะปาปาตรัสว่า พระองค์ทรงเห็นปรากฏการณ์เดียวกันนี้อีก "ในวันที่ 31 ต.ค. และ 1 พ.ย. ซึ่งเป็นวันที่จะประกาศรหัสธรรมด้วย และยังได้เห็นในวันที่ 8 พ.ย. อีกครั้งหนึ่ง แต่หลังจากนี้ก็ไม่เห็นอีกเลย”
พระสันตะปาปาตรัสว่า หลังจากวันเหล่านี้แล้ว ในช่วงเวลาเดียวกัน พระองค์พยายามมองดูว่าจะเกิดปรากฏการณ์ซ้ำอีกหรือไม่ “แต่ไม่มีเลย – เราไม่สามารถจ้องมองดูดวงอาทิตย์แม้เพียงชั่วครู่เดียว สายตาของเราไม่อาจทนได้”
พระสันตะปาปาทรงเล่าเรื่องนี้ให้พระคาร์ดินัลบางคนและผู้ใกล้ชิดเท่านั้น อย่างเช่น ซิสเตอร์ Pascalina Lehnert ซึ่งเป็นผู้ดูแลห้องพักของพระสันตะปาปา และเธอได้ยืนยันกับเราว่า “พระสันตะปาปาปีโอที่ 12 ทรงมั่นพระทัยเป็นอย่างยิ่งที่ทรงได้เห็นปรากฏการณ์ที่ไม่ธรรมดานี้ถึงสี่ครั้ง”
พระสันตะปาปาปีโอที่ 12 ทรงรับรองการประจักษ์ของแม่พระที่ฟาติมา และในปี 1942 พระองค์ทรงถวายโลกทั้งโลกแด่ดวงหทัยนิรมลของแม่พระ

- - - ปรากฏการณ์ดวงอาทิตย์นี้ได้มีผู้เห็นในเมดจูกอเรจ์ ภาพถ่ายด้านบนสุดนี้ถ่ายโดยผู้แสวงบุญในเวลา 15.50 น. (ตามเวลาท้องถิ่นที่นั่น) เมื่อวันที่ 19 ก.ย. 2008 ดวงอาทิตย์ดูเหมือนหมุน(spinning)และเต้นอยู่เบื้องหลังภูเขาครีซาวัก
http://www.palangjai.0fees.net/Assumption.html
รหัสธรรมการเสด็จสู่สวรรค์ทั้งกายและวิญญาณของแม่พระ ได้รับการประกาศโดยพระสันตะปาปาปีโอที่ 12 เมื่อ 1 พ.ย. 1950 โดยมีเนื้อหาว่า “พระมารดาของพระเจ้าผู้ปฏิสนธินิรมล พระนางมารีย์พรหมจารีย์ เมื่อระยะเวลาแห่งการดำเนินชีวิตบนโลกนี้สิ้นสุดลงแล้ว พระนางได้รับการยกขึ้นสู่สวรรค์ทั้งร่างกายและวิญญาณ”
ในการประกาศครั้งนี้ไม่ได้บอกว่าแม่พระทรงสิ้นชีวิตตามปกติก่อนหรือไม่ อย่างไรก็ตาม ในสาส์นแรกของแม่พระที่เมดจูกอเรจ์นั้น แม่พระทรงตรัสตอบต่อผู้เห็นแม่พระคนหนึ่งซึ่งถามแม่พระว่า ทรงเสด็จสู่สวรรค์ก่อนหรือหลังจากสิ้นชีวิตแล้ว
“แม่เป็นมารดาของพระเจ้าและเป็นราชินีแห่งสันติภาพ แม่ได้ไปสู่สวรรค์ก่อนที่จะสิ้นชีวิต”
12 ต.ค. 1981

เมื่อสี่ปีก่อน มีเอกสารที่ไม่เปิดเผยชิ้นหนึ่งระบุว่า พระสันตะปาปาปีโอที่ 12 ทรงได้เห็นอัศจรรย์ดวงอาทิตย์ถึง สี่ครั้ง และพระองค์ทรงพิจารณาว่า ปรากฏการณ์นี้เป็นการยืนยันความคิดของพระองค์ที่จะประกาศรหัสธรรมข้อนี้ รายละเอียดในเอกสารนี้เขียนด้วยลายพระหัตถ์ของพระสันตปาปาปีโอที่ 12 ซึ่งได้นำออกแสดงต่อสาธารณชนที่วาติกันนานสองเดือนเมื่อ พ.ย. 2008

วว 12:1
เครื่องหมายยิ่งใหญ่ปรากฏในสวรรค์ คือ สตรีผู้หนึ่งมีดวงอาทิตย์เป็นอาภรณ์ มีดวงจันทร์อยู่ใต้เท้า มีมงกุฎดาวสิบสองดวงประดับศีรษะ นางมีครรภ์แก่
พระสันตะปาปาทรงเป็นพยานยืนยันถึงอัศจรรย์แห่งดวงอาทิตย์ที่รงเห็นด้วยพระองค์เองถึงสี่ครั้ง
ข้อมูลนี้ยืนยันได้จากลายพระหัตถ์ที่พระสันตะปาปาปีโอที่ 12 ทรงเขียนบันทึกไว้ในเอกสาร อันเป็นเอกสารส่วนหนึ่งที่แสดงในนิทรรศการ Pius XII: The Man and the Pontificate
นาย Giornale, Andrea Tornielli, ผู้อำนวยการนิทรรศการและผู้รายงานข่าวของวาติกันเดลลี่ ได้อธิบายให้ทาง ซีนิท ZENIT ทราบว่า เอกสารนี้ถูกพบอยู่ในเอกสารของครอบครัวของปาเชลลิ ซึ่งได้บรรยายถึง “อัศจรรย์ดวงอาทิตย์” และเรื่องนี้ได้รับการรับรองอย่างไม่เป็นทางการจากพระคาร์ดินัล Federico Tedeschini (1873-1959), โดยท่านเคยพูดว่า องค์พระสันตะปาปาได้เห็นอัศจรรย์
พระสันตะปาปาปีโอที่ 12 ทรงเขียนไว้ว่า “เราได้เห็น อัศจรรย์แห่งดวงอาทิตย์ นี่เป็นความจริงแน่แท้”

อัศจรรย์แห่งดวงอาทิตย์นี้เป็นแบบเดียวกับที่เกิดที่ฟาติมา โปรตุเกส ในวันที่ 13 ต.ค. 1917 ตามที่เด็กๆที่เห็นแม่พระได้แจ้งล่วงหน้าให้ทราบว่า แม่พระตรัสว่าจะมีอัศจรรย์ในวันดังกล่าวและประชาชนจะมาดูเพื่อจะได้เชื่อ มีประชาชนนับหมื่นคนได้มาในวันนั้นและได้เห็นพระอาทิตย์ “เต้น” เสื้อผ้าของพวกเขาซึ่งเปียกชุ่มเนื่องด้วยมีฝนตกก่อนหน้านั้นก็แห้งผาก พื้นดินที่เป็นโคลนก็แห้งด้วย
บันทึกของพระสันตะปาปาปีโอที่ 12 ระบุว่า พระองค์เห็นอัศจรรย์ดวงอาทิตย์ในปีที่พระองค์ประกาศรหัสธรรมการเสด็จสู่สวรรค์ทั้งกายและวิญญาณของแม่พระ ปี 1950 ขณะนั้นพระองค์กำลังทรงพระดำเนินอยู่ในสวนชองวาติกัน พระองค์ทรงเห็นปรากฏการณ์นี้ในหลายโอกาส ซึ่งเท่ากับเป็นการยืนยันความคิดของพระองค์ที่จะประกาศรหัสธรรมข้อนี้

พระองค์บันทึกว่า เวลา 16.00 น.ของวันที่ 30 ต.ค. 1950 ระหว่างที่กำลังเดินเล่นในสวนของวาติกัน อ่านหนังสือและศึกษาอยู่ เมื่อมาถึงพระรูปของแม่พระแห่งลูรดส์ ทรงมองไปที่ยอดเนินเขา […] เราต้องประหลาดใจที่ได้เห็นปรากฏการณ์ซึ่งไม่เคยเห็นมาก่อนเลย”
“พระอาทิตย์ที่อยู่เหนือสูงขึ้นไปนั้น ดูเหมือน ทรงกลมทึบสีซีดล้อมรอบด้วยแสงกระจ่าง และเราสามารถมองดูได้โดยไม่ระคายสายตา มีเมฆที่มีแสงอ่อนลอยอยู่ข้างหน้าด้วย”
พระสันตะปาปาบรรยายต่อไปว่า “ทรงกลมทึบนี้เคลื่อนไหวเล็กน้อย คล้ายกับหมุน หรือเคลื่อนจากซ้ายไปขวาและสลับกัน แต่ยังอยู่ในทรงกลม เราสามารถมองดูการเคลื่อนไหวนี้ได้อย่างชัดเจนและต่อเนื่อง”
พระสันตะปาปาตรัสว่า พระองค์ทรงเห็นปรากฏการณ์เดียวกันนี้อีก "ในวันที่ 31 ต.ค. และ 1 พ.ย. ซึ่งเป็นวันที่จะประกาศรหัสธรรมด้วย และยังได้เห็นในวันที่ 8 พ.ย. อีกครั้งหนึ่ง แต่หลังจากนี้ก็ไม่เห็นอีกเลย”
พระสันตะปาปาตรัสว่า หลังจากวันเหล่านี้แล้ว ในช่วงเวลาเดียวกัน พระองค์พยายามมองดูว่าจะเกิดปรากฏการณ์ซ้ำอีกหรือไม่ “แต่ไม่มีเลย – เราไม่สามารถจ้องมองดูดวงอาทิตย์แม้เพียงชั่วครู่เดียว สายตาของเราไม่อาจทนได้”
พระสันตะปาปาทรงเล่าเรื่องนี้ให้พระคาร์ดินัลบางคนและผู้ใกล้ชิดเท่านั้น อย่างเช่น ซิสเตอร์ Pascalina Lehnert ซึ่งเป็นผู้ดูแลห้องพักของพระสันตะปาปา และเธอได้ยืนยันกับเราว่า “พระสันตะปาปาปีโอที่ 12 ทรงมั่นพระทัยเป็นอย่างยิ่งที่ทรงได้เห็นปรากฏการณ์ที่ไม่ธรรมดานี้ถึงสี่ครั้ง”
พระสันตะปาปาปีโอที่ 12 ทรงรับรองการประจักษ์ของแม่พระที่ฟาติมา และในปี 1942 พระองค์ทรงถวายโลกทั้งโลกแด่ดวงหทัยนิรมลของแม่พระ

- - - ปรากฏการณ์ดวงอาทิตย์นี้ได้มีผู้เห็นในเมดจูกอเรจ์ ภาพถ่ายด้านบนสุดนี้ถ่ายโดยผู้แสวงบุญในเวลา 15.50 น. (ตามเวลาท้องถิ่นที่นั่น) เมื่อวันที่ 19 ก.ย. 2008 ดวงอาทิตย์ดูเหมือนหมุน(spinning)และเต้นอยู่เบื้องหลังภูเขาครีซาวัก
http://www.palangjai.0fees.net/Assumption.html