ส่วนตัวผมศรัทธาแม่พระ แต่เรียนคำสอนทางไปรษณีย์แล้วรู้สึกว่าราชาศัพท์เยอะมาก และอ่านเข้าใจยากมากเหมือนไม่ค่อยชิน กับคำว่าพระจิตเจ้า ศาสนบริการ สังฆราชา หรรษทาน บรรดานักบุญทั้งหลาย อภิบาล เยอะแยะมากต้องเปิดคำศัพท์แปลไม่หว่านไม่ไหว เหมือนอ่านหนังสือโบราณ พระวจนาถต์ยังงี้ ซึ่งผมดูจากสาวกพระเยซูแล้วก็เป็นชาวประมง แต่ทำไมชาวคาทอลิกในไทย บ้า! ราชาศัพท์กันจังทำให้คนอ่าน อ่านยากมาก น่าจะเขียนอะไรที่เข้าใจง่ายๆ ไม่น่าจะบ้าราชาศัพท์ทำให้คนที่ศรัทธาต้องปวดหัวกันแบบนี้เลย อย่างคำว่า สงฆ์ งี้น่าจะใช้คำว่า สาธุคุณ หรือไม่ก็ บาทหลวง หรือ บิดาที่มาจากพระเจ้า เพราะคำนี้เป็นคำบาลีให้ความหมายถึงผู้เจริญญาณจนบรรลุ โสดาบันขึ้นไป แล้วก็คำว่า สัตบุรุษ นี่ฟังยากมาก คำนี้แปลว่า คุณธรรมของคนดี เป็นคำบาลี ผมว่าน่าจะใช้คำว่า บริสุทธิชนของพระเจ้ามากกว่านะครับ และพวกคำว่า พระภคินี นี่น่าจะใช้คำอื่นเพราะมันราชาศัพท์ใช้ในวังมากกว่ามั้งอะ
ปวดหัวแย่
ใครเรียนคำสอนคาทอลิกแล้วรู้สึกลึกซึ้งเข้าใจยากบ้างมั้ยครับ
-
- โพสต์: 361
- ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ ส.ค. 08, 2012 8:57 pm
ก็พระเยซูเจ้าทรงเป็นมหากษัตริย์แห่งสากลจักรวาลนี่นา การจะใช้คำที่เกี่ยวข้องกับพระองค์ใช้คำเหล่านั้นก็ฟังดูไพเราะดี
(ถ้าไม้ใช้ราชาศัพท์กับพระเจ้า ผมว่าก็คงไม่ต้องใช้ราชาศัพท์กับกษัตริย์มนุษย์ที่ได้รับอำนาจการปกครองจากพระเจ้าเหมือนกันแหละ)
(ถ้าไม้ใช้ราชาศัพท์กับพระเจ้า ผมว่าก็คงไม่ต้องใช้ราชาศัพท์กับกษัตริย์มนุษย์ที่ได้รับอำนาจการปกครองจากพระเจ้าเหมือนกันแหละ)
- roseofshalon
- โพสต์: 173
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ต.ค. 01, 2012 12:08 pm
เวลาพระเยซูคริสต์สอนท่านสอนด้วยภาษาชาวบ้าน ท่านไม่เห็นใช้ราชาศัพท์ที่ยากมากมายขนาดนี้เลย
- dark-kanita
- โพสต์: 317
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ก.ย. 18, 2007 2:37 pm
คำสอนยากที่มนุษย์ปกติจะเข้าใจครับ พูดงี้ละครับ แบบว่าบางอย่างอ่านผ่านๆแล้วหัวเราะ
ส่วนคำเฉพาะยากๆเดี๋ยวเข้าใจเอง
แต่ว่า โดนพระจิตเจ้าตามหลอหลอนจนในที่สุดก็เชื่อ และเข้าใจแล้วว่าพระเจ้ามีจริง เรื่องตรีเอกานุภาพ ก็เหมือนกัน เข้าใจสามพระธรรมชาติ ก่อนที่จะเรียนอีกนะครับ มีอะไรถามพระเลย ตอบดิริฟเวอรี่ มากกก ขอบอกครับ ตอนนี้เข้าใจนิสัย พ่อพวกเราแล้วว่า เป็นยังไง หุหุ ที่ต้องวิ่งจุกตูดมาเป็นคาทอลิก เพราะ โดนไล่ต้อน คำถามแรกตอนซีสเตอร์ถาม พระเจ้าของเธอคืออะไร ผมตอบไปเลยว่า เป็นอะไรสักอย่างที่ไล่ผมมาที่วัดละครับซีสเตอร์ อย่าไล่ผมหรือถามมากเลยครับ จากนั้นผมก็บุกวัดไปหาคุณพ่อแล้วข่มขู่เรื่องเรียนคำสอน คำสอนหรือความเข้าใจบางอย่างที่ถูกสอนโดยพระจิตเองครับ ใจเย็นๆ
ท่านสอนเรื่องยากๆ ได้หน้าตาเฉยมาก บางทีทำให้เราเจออะไรสักอย่างเป็นข้อพิสูจน์ คำสอนนั้นเลยก็มี อุอุ
ส่วนคำเฉพาะยากๆเดี๋ยวเข้าใจเอง
แต่ว่า โดนพระจิตเจ้าตามหลอหลอนจนในที่สุดก็เชื่อ และเข้าใจแล้วว่าพระเจ้ามีจริง เรื่องตรีเอกานุภาพ ก็เหมือนกัน เข้าใจสามพระธรรมชาติ ก่อนที่จะเรียนอีกนะครับ มีอะไรถามพระเลย ตอบดิริฟเวอรี่ มากกก ขอบอกครับ ตอนนี้เข้าใจนิสัย พ่อพวกเราแล้วว่า เป็นยังไง หุหุ ที่ต้องวิ่งจุกตูดมาเป็นคาทอลิก เพราะ โดนไล่ต้อน คำถามแรกตอนซีสเตอร์ถาม พระเจ้าของเธอคืออะไร ผมตอบไปเลยว่า เป็นอะไรสักอย่างที่ไล่ผมมาที่วัดละครับซีสเตอร์ อย่าไล่ผมหรือถามมากเลยครับ จากนั้นผมก็บุกวัดไปหาคุณพ่อแล้วข่มขู่เรื่องเรียนคำสอน คำสอนหรือความเข้าใจบางอย่างที่ถูกสอนโดยพระจิตเองครับ ใจเย็นๆ
ท่านสอนเรื่องยากๆ ได้หน้าตาเฉยมาก บางทีทำให้เราเจออะไรสักอย่างเป็นข้อพิสูจน์ คำสอนนั้นเลยก็มี อุอุ
...สมัยก่อนพระองค์ก็สอนด้วยภาษาธรรมดาแบบชาวบ้าน ตอนนั้นบางคนก็เชื่อ
บางคนก็ไม่เชื่อแถมเยาะเย้ยพระองค์อีก..และบางคนยังไม่รับพระองค์
...หลังจากพระองค์สิ้นพระชนม์และกลับคืนชีพในวันที่3 และต่อมาพระองค์ได้เสด็จ
ขึ้นสวรรค์ ต่อหน้าสาวกและคนอื่นๆอีกเป็นจำนวนมาก และสาวกได้ออกไปสั่งสอน
ประกาศเทศนาให้นานาชาติ ได้รู้ว่าพระองค์เป็นใคร..อย่างไร...ทำไม...
...ประเทศไทยก็โชคดีที่ได้รู้จักพระองค์ ประเทศไทยมีระบบกษัตริย์ มีคำราชาศัพย์
สำหรับใช้กับราชวงค์
..ดังนั้นเมื่อคริสตชนยอมรับพระองค์ เป็นพระเจ้าเป็นกษัตริย์ของคริสตชนและมวล
มนุษย์ทั้งหลาย เราจึงถวายเกิยรติแด่พระองค์ ใช้คำราชาศัพย์บ้าง พอสมควร และ
ใช้คำพูดที่ให้เกียรติยกย่อง พระองค์อย่างสุภาพ เพราะเป็นภาษาเขียน เป็นอักษร
...แต่ถ้าเราจะสวดจะอธิฐานภาวนา เป็นการส่วนตัว เราก็พูดธรรมดานี่แหละ เหมือน
ลูกพูดกับพ่อแม่ พระองค์เข้าใจลูกๆของพระองค์เสมอ..
...คุณrose..ค่อยๆเปิดใจเรียนรู้คำสอน ของพระองค์ไม่ต้องกังวลใจกับคำศัพย์ต่างๆ
แล้วสักวันก็จะเข้าใจและชินไปเอง
... ขอพระจิตเจ้าประทานความสว่าง สติปํญญา ความรู้ ให้กับคุณrose...
ได้รู้จักและรักพระองค์มากยิ่งขึ้น...
....
บางคนก็ไม่เชื่อแถมเยาะเย้ยพระองค์อีก..และบางคนยังไม่รับพระองค์
...หลังจากพระองค์สิ้นพระชนม์และกลับคืนชีพในวันที่3 และต่อมาพระองค์ได้เสด็จ
ขึ้นสวรรค์ ต่อหน้าสาวกและคนอื่นๆอีกเป็นจำนวนมาก และสาวกได้ออกไปสั่งสอน
ประกาศเทศนาให้นานาชาติ ได้รู้ว่าพระองค์เป็นใคร..อย่างไร...ทำไม...
...ประเทศไทยก็โชคดีที่ได้รู้จักพระองค์ ประเทศไทยมีระบบกษัตริย์ มีคำราชาศัพย์
สำหรับใช้กับราชวงค์
..ดังนั้นเมื่อคริสตชนยอมรับพระองค์ เป็นพระเจ้าเป็นกษัตริย์ของคริสตชนและมวล
มนุษย์ทั้งหลาย เราจึงถวายเกิยรติแด่พระองค์ ใช้คำราชาศัพย์บ้าง พอสมควร และ
ใช้คำพูดที่ให้เกียรติยกย่อง พระองค์อย่างสุภาพ เพราะเป็นภาษาเขียน เป็นอักษร
...แต่ถ้าเราจะสวดจะอธิฐานภาวนา เป็นการส่วนตัว เราก็พูดธรรมดานี่แหละ เหมือน
ลูกพูดกับพ่อแม่ พระองค์เข้าใจลูกๆของพระองค์เสมอ..
...คุณrose..ค่อยๆเปิดใจเรียนรู้คำสอน ของพระองค์ไม่ต้องกังวลใจกับคำศัพย์ต่างๆ
แล้วสักวันก็จะเข้าใจและชินไปเอง
... ขอพระจิตเจ้าประทานความสว่าง สติปํญญา ความรู้ ให้กับคุณrose...
ได้รู้จักและรักพระองค์มากยิ่งขึ้น...
....
เป็นธรรมเนียมปฏิบัติมานานแล้วครับ เดี๋ยวคุณก็จะชินไปเอง คำศัพท์ในภาษาไทยคาทอลิกกับโปรเตสแตนท์เรียกต่างกันเยอะมากครับ
ของคาทอลิกสมัยโบราณติดใช้ศัพท์คล้ายๆคนไทยพุทธอยู่มากครับ อย่างวัด พระสงฆ์ สัตบุรุษ อะไรประมาณนี้ แต่เวลาคนไทยพุทธเรียกของเราเค้าเรียกโบสถ์ บาทหลวง คริสตศาสนิกชน
ยังดีนะครับไม่ต้องเรียนคำสอนเป็นภาษาละตินเพราะคงจะยากสูสีกับคนพุทธเค้าเรียนพระบาลีเหมือนกัน
ของคาทอลิกสมัยโบราณติดใช้ศัพท์คล้ายๆคนไทยพุทธอยู่มากครับ อย่างวัด พระสงฆ์ สัตบุรุษ อะไรประมาณนี้ แต่เวลาคนไทยพุทธเรียกของเราเค้าเรียกโบสถ์ บาทหลวง คริสตศาสนิกชน
ยังดีนะครับไม่ต้องเรียนคำสอนเป็นภาษาละตินเพราะคงจะยากสูสีกับคนพุทธเค้าเรียนพระบาลีเหมือนกัน
-
- โพสต์: 423
- ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ มี.ค. 28, 2009 8:55 pm
- ที่อยู่: Maka-Diyos, Makatao, Makakalikasan, at Makabansa
สวัสดีครับ คุณ"sansrepos"
ต้องแยกกันระหว่าง "คำสอน" กับ "ความเชื่อ" นะครับ...
คำสอน คือ การศึกษาหาความรู้ในเรื่องของ คาทอลิก การศึกษาประวัติ
ประเยซู แม่พระ นักบุญทั้งหลาย ผ่านพระวรสาร ก็ดี ผ่านคำบอกเล่า หรือ
หนังสือหนังหา และ ครูคำสอน คุณพ่อ หรือ ผู้รู้ ...อันนี้เป็นเรื่องทางโลก
ที่เราต้องศึกษาเล่าเรียน.... "เป็นการใช้สมองซีกซ้าย"
ความเชื่อ คือ การที่เราเชื่อในพระเจ้า เชื่อในพระเยซู ว่าพระองค์ คือ
หนทาง ความจริง และ ชีวิต พระเยซูทรงสิ้นพระชนม์ ทรงกลับคืนชีพ และจะ
เสด็จกลับมาอีกครั้งหนึ่ง ... "เป็นการใช้สมองซีกขวา"
หลักง่าย ๆ ของ คาทอลิก คือ...
รักเพื่อนมนุษย์ เหมือนรักตนเอง
รู้จักการให้ และการให้สูงสุด คือ....
"การให้อภัย"
ดั่งพระเยซูตรัส "หากใครตบแก้มขวาของท่าน จงยื่นแก้มซ้ายให้เขาด้วย"
ศาสนาเป็นเรื่องของความลึกซึ้งก็จริงอยู่ แต่มนุษย์มีสิ่งที่พระเจ้าประทานมา
เท่ากันทุกคน คือ มี "สมอง" ถ้า มนุษย์ ซึ่งเป็น บาทหลวง ซิสเตอร์ ครูคำสอน
ฯลฯ สามารถ ศึกษาศาสนาให้แตกฉานได้...เราทุกคนก็สามารถศึกษาให้แตกฉาน
ได้เช่นกัน
มีคริสตชนมากมาย...สามารถศึกษาทางโลก ได้ ปริญญาตรี ปริญญาโท บางคน
เป็น ด๊อกเตอร์....แต่กลับอ่อนในเรื่องของ การศึกษา "คำสอน"
นั่นไม่ใช่เพราะ "สมอง" เค้าไม่ไป...แต่เพราะเค้าไม่ใส่ใจใน "พระเจ้า"
และมีคริสตชน อีกบางประเภท...ไปโบสถ์ ไปวิหาร ทุกอาทิตย์ ทุกสัปดาห์
ไปมุ่งเน้นแต่พิธีกรรม แต่กลับ รู้เรื่อง "คำสอน" น้อย มาก นั่งฟังแต่พระวรสาร ๆ
โดยไม่ศึกษา ไม่ตีความ เช่น ฟังบทอ่านจากนักบุญเปาโล ถึงชาวโครินทร์...
ฟังมาแต่เด็ก >>> แต่ยังไม่รู้ว่า "ชาวโครินทร์" คือใคร อยู่ที่ไหน เพราะอะไร
นักบุญเปาโล จึงเขียนจดหมาย ถึง...
นี่แหละครับไม่ใช่เฉพาะปัญหา ของคุณ"sansrepos" แต่เป็นปัญหาของ
คริสตชนส่วนใหญ่ ซึ่งบุคคลากรทางศาสนา ตั้งแต่คุณพ่อ และครูบา อาจารย์
ต้องให้การใส่ใจ
โดย : ฟรังซิสโก ณัฐวุฒิ เดินทางทุกที่ ที่มีพระองค์
ต้องแยกกันระหว่าง "คำสอน" กับ "ความเชื่อ" นะครับ...
คำสอน คือ การศึกษาหาความรู้ในเรื่องของ คาทอลิก การศึกษาประวัติ
ประเยซู แม่พระ นักบุญทั้งหลาย ผ่านพระวรสาร ก็ดี ผ่านคำบอกเล่า หรือ
หนังสือหนังหา และ ครูคำสอน คุณพ่อ หรือ ผู้รู้ ...อันนี้เป็นเรื่องทางโลก
ที่เราต้องศึกษาเล่าเรียน.... "เป็นการใช้สมองซีกซ้าย"
ความเชื่อ คือ การที่เราเชื่อในพระเจ้า เชื่อในพระเยซู ว่าพระองค์ คือ
หนทาง ความจริง และ ชีวิต พระเยซูทรงสิ้นพระชนม์ ทรงกลับคืนชีพ และจะ
เสด็จกลับมาอีกครั้งหนึ่ง ... "เป็นการใช้สมองซีกขวา"
หลักง่าย ๆ ของ คาทอลิก คือ...
รักเพื่อนมนุษย์ เหมือนรักตนเอง
รู้จักการให้ และการให้สูงสุด คือ....
"การให้อภัย"
ดั่งพระเยซูตรัส "หากใครตบแก้มขวาของท่าน จงยื่นแก้มซ้ายให้เขาด้วย"
ศาสนาเป็นเรื่องของความลึกซึ้งก็จริงอยู่ แต่มนุษย์มีสิ่งที่พระเจ้าประทานมา
เท่ากันทุกคน คือ มี "สมอง" ถ้า มนุษย์ ซึ่งเป็น บาทหลวง ซิสเตอร์ ครูคำสอน
ฯลฯ สามารถ ศึกษาศาสนาให้แตกฉานได้...เราทุกคนก็สามารถศึกษาให้แตกฉาน
ได้เช่นกัน
มีคริสตชนมากมาย...สามารถศึกษาทางโลก ได้ ปริญญาตรี ปริญญาโท บางคน
เป็น ด๊อกเตอร์....แต่กลับอ่อนในเรื่องของ การศึกษา "คำสอน"
นั่นไม่ใช่เพราะ "สมอง" เค้าไม่ไป...แต่เพราะเค้าไม่ใส่ใจใน "พระเจ้า"
และมีคริสตชน อีกบางประเภท...ไปโบสถ์ ไปวิหาร ทุกอาทิตย์ ทุกสัปดาห์
ไปมุ่งเน้นแต่พิธีกรรม แต่กลับ รู้เรื่อง "คำสอน" น้อย มาก นั่งฟังแต่พระวรสาร ๆ
โดยไม่ศึกษา ไม่ตีความ เช่น ฟังบทอ่านจากนักบุญเปาโล ถึงชาวโครินทร์...
ฟังมาแต่เด็ก >>> แต่ยังไม่รู้ว่า "ชาวโครินทร์" คือใคร อยู่ที่ไหน เพราะอะไร
นักบุญเปาโล จึงเขียนจดหมาย ถึง...
นี่แหละครับไม่ใช่เฉพาะปัญหา ของคุณ"sansrepos" แต่เป็นปัญหาของ
คริสตชนส่วนใหญ่ ซึ่งบุคคลากรทางศาสนา ตั้งแต่คุณพ่อ และครูบา อาจารย์
ต้องให้การใส่ใจ
โดย : ฟรังซิสโก ณัฐวุฒิ เดินทางทุกที่ ที่มีพระองค์