การประจักษ์ที่ Kibeho Rwanda
โพสต์แล้ว: ศุกร์ ก.ย. 02, 2005 1:15 am
การประจักษ์ที่ Kibeho Rwanda
พระสังฆราช Augustin Misago แห่ง Gikongoro, Rwanda, ได้ออกแถลงการณ์เกี่ยวกับ "การตัดสิน" ซึ่งทางผู้ติดตามเรื่องของการประจักษ์ที่กีเบโฮเราได้รับรายงานมา. ทางวาติกันได้พิมพ์แถลงการณ์นี้ในเมื่อ 29 มิถุนายน 2001
การประจักษ์เริ่มต้นที่กีเบโฮ, ราวันดาในเดือนพฤศจิกายน 1981,. ผู้ที่ได้รับการประจักษ์ได้แก่
1.อัลฟองซีน มูมูเรกี ,เกิดปี 1965.
2.มารี-แคลร์ มูคางแกง(Marie-Claire Mukangang), เกิดปี 1961.
3.สเตฟานี มูคามูเรนสี(Stephanie Mukamurenzi), เกิดปี 1968. ไม่มีรูปภาพ.
4.อักเนส คามากาจู(Agnes Kamagaju), เกิดปี 1960.
5.เอมมานูเอล ซีกาทาชิยา(Emanuel Segatashya), เกิดปี 1967.
6.เวสทีน ซาลิมา(Vestine Salima), เกิดปี 1960.
รายละเอียดของการประจักษ์มีมากเกินกว่าที่จะเล่าได้หมดในบทความนี้ ,ดังนั้นเราจะเล่าแต่เพียงบางอย่างเท่านั้น.
วันที่ 15 พฤษภาคม 1982, หลังจากการประจักษ์ถึง 8 ชั่วโมง , ผู้เห็นแม่พระก็ได้เห็นภาพนิมิตของประชาชนกำลังเข่นฆ่าซึ่งกันและกัน, แม่น้ำแดงฉานไปด้วยเลือด, ซากศพเกลื่อนไปทั่วไม่มีคนฝัง,ต้นไม้จำนวนมากถูกเผาลุกโชน. อักเนสได้เห็นเหตุการณ์อันน่าสยดสยองนี้อีกครั้งในปี 1983 ระหว่างการประจักษ์ของพระเยซูเจ้า ท่ามกลางคนที่มาดูเป็นจำนวนมาก
ผู้เห็นภาพประจักษ์ที่เมดจูกอเรจ , อิแวนกาก็ได้เห็นเหตุการณ์ที่น่าหวาดหวั่นที่จะเกิดขึ้นในอัฟริกา เมื่อวันที่ 25 มถุนายน 1993. แม่พระบอกเธอว่าเหตุการณ์จะเกิดขึ้นในไม่ช้าแต่สามารถหยุดยั้งได้ด้วยการสวดภาวนา.
ในเดือนกุมภาพันธ์ 1994, แม่พระได้เตรียมตัวอักเนสสำหรับการประจักษ์ด้วยภาพเหตุการณ์ที่เจ็บปวด. ในภาพนิมิต,อักเนสเห็นพ่อแม่ของเธอกำลังถูกฆ่าในกีเบโฮ .
"มีเวลาเหลืออยู่ไม่มากแล้วสำหรับการพิพากษาครั้งสุดท้าย เราต้องเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตของเรา, หลีกหนีบาป. สวดภาวนาและเตรียมตัวสำหรับความตายของเราและอวสานของโลก. จงเตรียมตัวขณะที่ยังมีเวลาเหลืออยู่ คนที่ทำดีจะได้เข้าสู่สวรรค์. คนที่ทำความชั่ว, เขาได้สาปแช่งตัวเองโดยไม่สามารถหวังหรืออุธรณ์ได้อีก. อย่าชักช้าต่อไปอีกที่จะกระทำความดีและสวดภาวนา มีเวลาไม่มากนักแล้วก่อนที่พระเยซูเจ้าจะเสด็จมา ."
ถ้าหากรวันดาไม่หันกลับมาหาพระเป็นเจ้า , แม่พระตรัสในภาพนิมิต , จะเกิด "แม่น้ำสายเลือด. " ให้เห็น
ตั้งแต่ เมษายน ถึง มิถุนายน 1994, หัวหน้าเผ่าฮูตูได้ทำการฆ่าล้างเผ่าพันธ์ชนเผ่าทูซซี่จำนวนมากกว่า 800,000 คน และคนเผ่าฮูตูตายไปจำนวนมากเช่นกัน
มารี - แคลร์ถูกฆ่าตายในเมืองบูมบา(Byumba) ในฤดูร้อนปี 1994. เอ็มมานูเอลตายระหว่างที่กำลังวิ่งหนีออกจาก คิกาลี (kigali. )
การประจักษ์สิ้นสุดในปลายปี 1983, อัลฟองโซยังคงได้รับการประจักษ์ทุกวันที่ 28 พฤศจิกายน ของทุกปี . การประจักษ์ครั้งสุดท้ายของเธอคือวันที่ 28 พฤศจิกายน 1989
แม่พระประจักษ์มาภายใต้พระนามว่า , "พระมารดาแห่งพระวจนาตถ์." พระนางทรงย้ำเตือนหลายครั้งถึงความสำคัญของการสวดภาวนาและการสวดสายประคำ . ในการประจักษ์ครั้งหนึ่งพระนางทรงอธิบายถึงเหตุผลที่ทรงประจักษ์มา , "แม่มาเพื่อเตรียมหนทางสำหรับพระบุตรของแม่ และสำหรับความดีของพวกลูก และพวกลูกก็ยังไม่ต้องการที่จะเข้าใจ. เวลาเหลือน้อยแล้วและพวกลูกก็ไม่สำนึกเลย. พวกลูกหลงออกนอกทางไปโดยสินค้าต่างๆของโลกนี้ซึ่งเสื่อมสลายไป. แม่ได้เห็นลูกๆของแม่จำนวนมากหลงทางและแม่มาที่นี้เพื่อชี้ทางที่ถูกต้องให้แก่พวกเขา ." แม่พระยังได้บอกแก่ผู้เห็นภาพประจักษ์ถึงความสำคัญของการรักซึ่งกันและกัน.
ระหว่างการประจักษ์ครั้งหนึ่ง, พระเยซูเจ้าได้บอกแก่เอ็มมานูเอลว่า , "คนเป็นจำนวนมากไม่ซื่อสัตย์ต่อเพื่อนบ้านของตน . โลกเต็มไปด้วยความเกลียดชัง. ลูกจะรู้ได้ว่าการกลับมาครั้งที่สองของเราอยู่ใกล้เพียงใด โดยดูจากการต่อสู้ขั้นแตกหักของสงครามศาสนา. แล้วนั้น, จงรู้ไว้เถิดว่าเรากำลังจะมาแล้ว."
พระสังฆราช Augustin Misago แห่ง Gikongoro, Rwanda, ได้ออกแถลงการณ์เกี่ยวกับ "การตัดสิน" ซึ่งทางผู้ติดตามเรื่องของการประจักษ์ที่กีเบโฮเราได้รับรายงานมา. ทางวาติกันได้พิมพ์แถลงการณ์นี้ในเมื่อ 29 มิถุนายน 2001
การประจักษ์เริ่มต้นที่กีเบโฮ, ราวันดาในเดือนพฤศจิกายน 1981,. ผู้ที่ได้รับการประจักษ์ได้แก่
1.อัลฟองซีน มูมูเรกี ,เกิดปี 1965.
2.มารี-แคลร์ มูคางแกง(Marie-Claire Mukangang), เกิดปี 1961.
3.สเตฟานี มูคามูเรนสี(Stephanie Mukamurenzi), เกิดปี 1968. ไม่มีรูปภาพ.
4.อักเนส คามากาจู(Agnes Kamagaju), เกิดปี 1960.
5.เอมมานูเอล ซีกาทาชิยา(Emanuel Segatashya), เกิดปี 1967.
6.เวสทีน ซาลิมา(Vestine Salima), เกิดปี 1960.
รายละเอียดของการประจักษ์มีมากเกินกว่าที่จะเล่าได้หมดในบทความนี้ ,ดังนั้นเราจะเล่าแต่เพียงบางอย่างเท่านั้น.
วันที่ 15 พฤษภาคม 1982, หลังจากการประจักษ์ถึง 8 ชั่วโมง , ผู้เห็นแม่พระก็ได้เห็นภาพนิมิตของประชาชนกำลังเข่นฆ่าซึ่งกันและกัน, แม่น้ำแดงฉานไปด้วยเลือด, ซากศพเกลื่อนไปทั่วไม่มีคนฝัง,ต้นไม้จำนวนมากถูกเผาลุกโชน. อักเนสได้เห็นเหตุการณ์อันน่าสยดสยองนี้อีกครั้งในปี 1983 ระหว่างการประจักษ์ของพระเยซูเจ้า ท่ามกลางคนที่มาดูเป็นจำนวนมาก
ผู้เห็นภาพประจักษ์ที่เมดจูกอเรจ , อิแวนกาก็ได้เห็นเหตุการณ์ที่น่าหวาดหวั่นที่จะเกิดขึ้นในอัฟริกา เมื่อวันที่ 25 มถุนายน 1993. แม่พระบอกเธอว่าเหตุการณ์จะเกิดขึ้นในไม่ช้าแต่สามารถหยุดยั้งได้ด้วยการสวดภาวนา.
ในเดือนกุมภาพันธ์ 1994, แม่พระได้เตรียมตัวอักเนสสำหรับการประจักษ์ด้วยภาพเหตุการณ์ที่เจ็บปวด. ในภาพนิมิต,อักเนสเห็นพ่อแม่ของเธอกำลังถูกฆ่าในกีเบโฮ .
"มีเวลาเหลืออยู่ไม่มากแล้วสำหรับการพิพากษาครั้งสุดท้าย เราต้องเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตของเรา, หลีกหนีบาป. สวดภาวนาและเตรียมตัวสำหรับความตายของเราและอวสานของโลก. จงเตรียมตัวขณะที่ยังมีเวลาเหลืออยู่ คนที่ทำดีจะได้เข้าสู่สวรรค์. คนที่ทำความชั่ว, เขาได้สาปแช่งตัวเองโดยไม่สามารถหวังหรืออุธรณ์ได้อีก. อย่าชักช้าต่อไปอีกที่จะกระทำความดีและสวดภาวนา มีเวลาไม่มากนักแล้วก่อนที่พระเยซูเจ้าจะเสด็จมา ."
ถ้าหากรวันดาไม่หันกลับมาหาพระเป็นเจ้า , แม่พระตรัสในภาพนิมิต , จะเกิด "แม่น้ำสายเลือด. " ให้เห็น
ตั้งแต่ เมษายน ถึง มิถุนายน 1994, หัวหน้าเผ่าฮูตูได้ทำการฆ่าล้างเผ่าพันธ์ชนเผ่าทูซซี่จำนวนมากกว่า 800,000 คน และคนเผ่าฮูตูตายไปจำนวนมากเช่นกัน
มารี - แคลร์ถูกฆ่าตายในเมืองบูมบา(Byumba) ในฤดูร้อนปี 1994. เอ็มมานูเอลตายระหว่างที่กำลังวิ่งหนีออกจาก คิกาลี (kigali. )
การประจักษ์สิ้นสุดในปลายปี 1983, อัลฟองโซยังคงได้รับการประจักษ์ทุกวันที่ 28 พฤศจิกายน ของทุกปี . การประจักษ์ครั้งสุดท้ายของเธอคือวันที่ 28 พฤศจิกายน 1989
แม่พระประจักษ์มาภายใต้พระนามว่า , "พระมารดาแห่งพระวจนาตถ์." พระนางทรงย้ำเตือนหลายครั้งถึงความสำคัญของการสวดภาวนาและการสวดสายประคำ . ในการประจักษ์ครั้งหนึ่งพระนางทรงอธิบายถึงเหตุผลที่ทรงประจักษ์มา , "แม่มาเพื่อเตรียมหนทางสำหรับพระบุตรของแม่ และสำหรับความดีของพวกลูก และพวกลูกก็ยังไม่ต้องการที่จะเข้าใจ. เวลาเหลือน้อยแล้วและพวกลูกก็ไม่สำนึกเลย. พวกลูกหลงออกนอกทางไปโดยสินค้าต่างๆของโลกนี้ซึ่งเสื่อมสลายไป. แม่ได้เห็นลูกๆของแม่จำนวนมากหลงทางและแม่มาที่นี้เพื่อชี้ทางที่ถูกต้องให้แก่พวกเขา ." แม่พระยังได้บอกแก่ผู้เห็นภาพประจักษ์ถึงความสำคัญของการรักซึ่งกันและกัน.
ระหว่างการประจักษ์ครั้งหนึ่ง, พระเยซูเจ้าได้บอกแก่เอ็มมานูเอลว่า , "คนเป็นจำนวนมากไม่ซื่อสัตย์ต่อเพื่อนบ้านของตน . โลกเต็มไปด้วยความเกลียดชัง. ลูกจะรู้ได้ว่าการกลับมาครั้งที่สองของเราอยู่ใกล้เพียงใด โดยดูจากการต่อสู้ขั้นแตกหักของสงครามศาสนา. แล้วนั้น, จงรู้ไว้เถิดว่าเรากำลังจะมาแล้ว."