ท่านรักเราไหม???
โพสต์แล้ว: เสาร์ พ.ค. 25, 2013 2:40 pm
มีโอกาสไปมิสซาเช้าเมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม 2556 ที่โบสถ์มหาไถ่ ซอยร่วมฤดี
คุณพ่อเทศน์เกี่ยวกับความรัก การเป็นผู้นำ เลยนำมาแบ่งปันกัน .....
(ข้อมูลอาจตกหล่นบ้าง ก็ขออภัย..)
เทศน์โดย คุณพ่อไพบูลย์ อุดมเดช
ถ้าหากคนเราเรียนรู้เพียงทำตามแบบ ธรรมชาติ
คนที่มีปัญญาก็ต้องมานั่งคิดว่ามันหมายถึงอะไรกัน
พระเยซูเจ้าถามเปโตรว่า ท่านรักเราไหม
ทำไมพระเยซูเจ้าจึงถามเปโตรอย่างนั้น....
สำหรับพ่อ พ่อคิดว่า
พระเยซูเจ้า เห็นตัวจริงของเปโตรเมื่อตื่นขึ้นมาว่า
ต่อไปนั้น ท่านจะต้องเป็นผู้นำ นำคนอื่น
นอกจากนำแล้วจะต้อง take care เขาด้วยน๊ะ
ดูแลเขาด้วย เลี้ยงเค้าด้วย
คนที่มาดูแล คนที่จะเป็นผู้นำ หาเลี้ยงดูเนี่ย
ถ้าสมมุติว่า
ไม่มีคุณสมบัติบางอย่างมันจะทำได้ไหมเนี่ย..??
มันจะทำได้ไหม...
คุณสมบัตินั้นมีอะไร
พระเยซูเจ้าบอกว่า ท่านรักเราไหม??
ดังนั้นพระเยซูเจ้า ถามตรงไปที่หัวใจว่า...
ถ้าหากคุณต้องนำเค้า
คุณต้องเลี้ยงดูเค้า
คุณต้องดูแลทุกสิ่งทุกอย่าง
=================================================
ถ้าคุณไม่เริ่มที่ "รักน๊ะ"
มันไปไม่รอดหรอก...
=================================================
ความรักจะเป็นพลังจะต้อง ถามหัวใจ
ถ้าท่านรักเรา พระเยซูเจ้าก็สำคัญ ทุนแห่งความรัก
ถ้าท่านรักเรา ความรักในที่นี่จะช่วยให้ท่านเป็นผู้นำ
เป็นผู้เลี้ยงดู เป็นผู้ที่คอยดูแล ตามลูกแกะ
ก็แปลว่าบริบทเหมือน ๆ กับแนวคิดของเปโตร
ถามว่า การเป็นผู้นำ แล้วเกี่ยวอะไรกับการเรียนรู้จักธรรมชาติ
พ่อมองดูรอบกายเรานั้น พ่อคิดว่าทุกสิ่งทุกอย่างนั้น อยู่กันได้อย่างสมดุล บนพื้นฐานของความรัก
คิดดี ๆ ทุกสิ่งทุกอย่างอยู่กันอย่างเกิดความสมดุล บนพื้นฐานของความรัก อัตตาขจัดความรักที่มันอยากจะรู้ถึงความรัก และนี่คือคำสอน ระเบียบ ของชาวคริสต์ของเรา เพื่อค้นพบว่า ในธรรมชาตินั้นมันอยู่ของมันได้เพราะความรัก
ที่นี้มามองดูชีวิตมนุษย์ ทำไมชีวิตมนุษย์นี่... มันถึงเกิดความวุ่นวายกันนักหนา... ทำไม?
สำหรับพ่อ
พ่อคิดว่า เพราะมนุษย์มองที่ปัญญา ไม่ได้ด้วยสายตาของความรัก แต่ด้วยการ....
อยาก...ปกครอง
อยาก....เป็นเจ้าของ
ดูปัญหาความวุ่นวาย? ในสังคมรอบกายเราในประเทศ ในเมืองไทยนี่หล่ะ
ทำไมถึงวุ่นวาย?
มันวุ่นวายเพราะคนเก่งอยากจะปกครอง
อยากจะเพาะนำ
อยากจะควบคุม
แล้วมันไปขัดแย้งกับอะไรหล่ะ
มันไปขัดแย้งกับ องค์ประกอบทุกสิ่งทุกอย่าง
แต่ละคนที่มันมีมิตรภาพ
มันไม่อยากให้ปกครอง
มันไม่อยากให้มาดูแลกัน
ตรงนี้หล่ะ
============================================================
คุณจะเอาอะไรจูงใจเขาได้
ถ้าคุณอยากเป็นนักปกครอง
คุณต้องถาม ความรัก
============================================================
คุณต้องมองดูธรรมชาติรอบกาย มองอย่างธรรมชาติ
มองอย่างมีสมดุลมากกว่านี้ มันอยู่กันได้อย่างไร
มันอยู่กันด้วย อย่างความรัก ความเอื้ออาทร
ไม่ใช่การที่จะพยายามปกครอง
มีวันหนึ่ง พ่อจำได้ว่ามีพระภิกษุที่อยู่ภาคอีสาน เค้าพูดตามวิทยุ เสียงวิทยุชาวบ้านว่า
อย่าไปเอามาปลูกน๊ะ ต้นยูคาลิปตัสน๊ะ
??...แล้วทำไมปลูกต้นยูคาลิปตัสหล่ะ
มันไม่เอื้อเฟื้อ ภาษาชาวบ้าน
ยูคาลิปตัสมาจากออสเตเลีย นักการเมืองให้เอามาปลูก
มันไม่เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ต่อพืชพันธุ์อื่น ๆ เลย
มันไปกินเขาหมด ต้นพืช ต้นหญ้า ต้นยา ของพวกเราอยู่ตามต้นไม้มันตายหมด
มันไม่เอื้อเฟื้อ...
เอ๋ !! พ่อก็มานั่งมองนั่งคิด มองว่า เมื่อสังเกตุดูธรรมชาติ
มนุษย์เราก็เกี่ยวข้องกับธรรมชาติด้วย
เมื่อไหร่ก็ตามที่หัวใจของมนุษย์เรา เข้าใจในความรัก กฎของคำว่าความรัก กฎนั้น
นั่นหล่ะ พ่อคิดว่า "ความสุข" จึงเกิดขึ้น
ความเอื้ออาทรกัน
ความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่
************************************************************************
ในหลักของการปกครอง มันมีคำคำหนึ่ง
บอกว่า นักปกครองที่ดีนั้น
"จงปกครองโดยที่อย่าให้เค้ารู้ว่าเค้าถูกปกครอง "
*************************************************************************
แปลว่าอะไร?
ก็แปลว่าอะไรหล่ะ
ที่ทำให้คนเรา เกิดความรู้สึกบอกว่า ไม่ถูกข่มขู่ ข่มเหง
คำตอบ
ก็คือ รัก
เพราะรักอยู่ในธรรมชาติรอบกาย
นึกดูชาวคริสต์ของเราค้นพบว่า รักมาจากกาย
มาจากองค์พระผู้เป็นเจ้า
ที่นี่ก็จะมีการบ้านที่มันยากขึ้นมาหน่อยสำหรับพวกเราเกี่ยวกับงานที่ค้น
แต่เมื่อมาถึงจุดหนึ่งเราพบว่าความรักมาจากงาน มาจากองค์พระผู้เป็นเจ้า
เราต้องถามตัวเราเองว่า เรายังเป็นควบคู่กับงานไหมหล่ะ
ถ้าเรายังไปควบคู่ กับงาน เราเดินผิดทาง
ถ้าเราอยากจะเป็นหนึ่ง
เป็นส่วนหนึ่งของความรักขององค์พระผู้เป็นเจ้าเราเดินมาถูกทาง
==========================================================================
แล้วท่านหล่ะ
รักพระเยซูเจ้าแบบไหน...???
รักเพื่อนมนุษย์กันแบบไหน...???
เลือกเดินทางไหน...???
ไปรับผิดชอบต่อหน้าพระกันเอง.....
==========================================================================
คุณพ่อเทศน์เกี่ยวกับความรัก การเป็นผู้นำ เลยนำมาแบ่งปันกัน .....
(ข้อมูลอาจตกหล่นบ้าง ก็ขออภัย..)
เทศน์โดย คุณพ่อไพบูลย์ อุดมเดช
ถ้าหากคนเราเรียนรู้เพียงทำตามแบบ ธรรมชาติ
คนที่มีปัญญาก็ต้องมานั่งคิดว่ามันหมายถึงอะไรกัน
พระเยซูเจ้าถามเปโตรว่า ท่านรักเราไหม
ทำไมพระเยซูเจ้าจึงถามเปโตรอย่างนั้น....
สำหรับพ่อ พ่อคิดว่า
พระเยซูเจ้า เห็นตัวจริงของเปโตรเมื่อตื่นขึ้นมาว่า
ต่อไปนั้น ท่านจะต้องเป็นผู้นำ นำคนอื่น
นอกจากนำแล้วจะต้อง take care เขาด้วยน๊ะ
ดูแลเขาด้วย เลี้ยงเค้าด้วย
คนที่มาดูแล คนที่จะเป็นผู้นำ หาเลี้ยงดูเนี่ย
ถ้าสมมุติว่า
ไม่มีคุณสมบัติบางอย่างมันจะทำได้ไหมเนี่ย..??
มันจะทำได้ไหม...
คุณสมบัตินั้นมีอะไร
พระเยซูเจ้าบอกว่า ท่านรักเราไหม??
ดังนั้นพระเยซูเจ้า ถามตรงไปที่หัวใจว่า...
ถ้าหากคุณต้องนำเค้า
คุณต้องเลี้ยงดูเค้า
คุณต้องดูแลทุกสิ่งทุกอย่าง
=================================================
ถ้าคุณไม่เริ่มที่ "รักน๊ะ"
มันไปไม่รอดหรอก...
=================================================
ความรักจะเป็นพลังจะต้อง ถามหัวใจ
ถ้าท่านรักเรา พระเยซูเจ้าก็สำคัญ ทุนแห่งความรัก
ถ้าท่านรักเรา ความรักในที่นี่จะช่วยให้ท่านเป็นผู้นำ
เป็นผู้เลี้ยงดู เป็นผู้ที่คอยดูแล ตามลูกแกะ
ก็แปลว่าบริบทเหมือน ๆ กับแนวคิดของเปโตร
ถามว่า การเป็นผู้นำ แล้วเกี่ยวอะไรกับการเรียนรู้จักธรรมชาติ
พ่อมองดูรอบกายเรานั้น พ่อคิดว่าทุกสิ่งทุกอย่างนั้น อยู่กันได้อย่างสมดุล บนพื้นฐานของความรัก
คิดดี ๆ ทุกสิ่งทุกอย่างอยู่กันอย่างเกิดความสมดุล บนพื้นฐานของความรัก อัตตาขจัดความรักที่มันอยากจะรู้ถึงความรัก และนี่คือคำสอน ระเบียบ ของชาวคริสต์ของเรา เพื่อค้นพบว่า ในธรรมชาตินั้นมันอยู่ของมันได้เพราะความรัก
ที่นี้มามองดูชีวิตมนุษย์ ทำไมชีวิตมนุษย์นี่... มันถึงเกิดความวุ่นวายกันนักหนา... ทำไม?
สำหรับพ่อ
พ่อคิดว่า เพราะมนุษย์มองที่ปัญญา ไม่ได้ด้วยสายตาของความรัก แต่ด้วยการ....
อยาก...ปกครอง
อยาก....เป็นเจ้าของ
ดูปัญหาความวุ่นวาย? ในสังคมรอบกายเราในประเทศ ในเมืองไทยนี่หล่ะ
ทำไมถึงวุ่นวาย?
มันวุ่นวายเพราะคนเก่งอยากจะปกครอง
อยากจะเพาะนำ
อยากจะควบคุม
แล้วมันไปขัดแย้งกับอะไรหล่ะ
มันไปขัดแย้งกับ องค์ประกอบทุกสิ่งทุกอย่าง
แต่ละคนที่มันมีมิตรภาพ
มันไม่อยากให้ปกครอง
มันไม่อยากให้มาดูแลกัน
ตรงนี้หล่ะ
============================================================
คุณจะเอาอะไรจูงใจเขาได้
ถ้าคุณอยากเป็นนักปกครอง
คุณต้องถาม ความรัก
============================================================
คุณต้องมองดูธรรมชาติรอบกาย มองอย่างธรรมชาติ
มองอย่างมีสมดุลมากกว่านี้ มันอยู่กันได้อย่างไร
มันอยู่กันด้วย อย่างความรัก ความเอื้ออาทร
ไม่ใช่การที่จะพยายามปกครอง
มีวันหนึ่ง พ่อจำได้ว่ามีพระภิกษุที่อยู่ภาคอีสาน เค้าพูดตามวิทยุ เสียงวิทยุชาวบ้านว่า
อย่าไปเอามาปลูกน๊ะ ต้นยูคาลิปตัสน๊ะ
??...แล้วทำไมปลูกต้นยูคาลิปตัสหล่ะ
มันไม่เอื้อเฟื้อ ภาษาชาวบ้าน
ยูคาลิปตัสมาจากออสเตเลีย นักการเมืองให้เอามาปลูก
มันไม่เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ต่อพืชพันธุ์อื่น ๆ เลย
มันไปกินเขาหมด ต้นพืช ต้นหญ้า ต้นยา ของพวกเราอยู่ตามต้นไม้มันตายหมด
มันไม่เอื้อเฟื้อ...
เอ๋ !! พ่อก็มานั่งมองนั่งคิด มองว่า เมื่อสังเกตุดูธรรมชาติ
มนุษย์เราก็เกี่ยวข้องกับธรรมชาติด้วย
เมื่อไหร่ก็ตามที่หัวใจของมนุษย์เรา เข้าใจในความรัก กฎของคำว่าความรัก กฎนั้น
นั่นหล่ะ พ่อคิดว่า "ความสุข" จึงเกิดขึ้น
ความเอื้ออาทรกัน
ความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่
************************************************************************
ในหลักของการปกครอง มันมีคำคำหนึ่ง
บอกว่า นักปกครองที่ดีนั้น
"จงปกครองโดยที่อย่าให้เค้ารู้ว่าเค้าถูกปกครอง "
*************************************************************************
แปลว่าอะไร?
ก็แปลว่าอะไรหล่ะ
ที่ทำให้คนเรา เกิดความรู้สึกบอกว่า ไม่ถูกข่มขู่ ข่มเหง
คำตอบ
ก็คือ รัก
เพราะรักอยู่ในธรรมชาติรอบกาย
นึกดูชาวคริสต์ของเราค้นพบว่า รักมาจากกาย
มาจากองค์พระผู้เป็นเจ้า
ที่นี่ก็จะมีการบ้านที่มันยากขึ้นมาหน่อยสำหรับพวกเราเกี่ยวกับงานที่ค้น
แต่เมื่อมาถึงจุดหนึ่งเราพบว่าความรักมาจากงาน มาจากองค์พระผู้เป็นเจ้า
เราต้องถามตัวเราเองว่า เรายังเป็นควบคู่กับงานไหมหล่ะ
ถ้าเรายังไปควบคู่ กับงาน เราเดินผิดทาง
ถ้าเราอยากจะเป็นหนึ่ง
เป็นส่วนหนึ่งของความรักขององค์พระผู้เป็นเจ้าเราเดินมาถูกทาง
==========================================================================
แล้วท่านหล่ะ
รักพระเยซูเจ้าแบบไหน...???
รักเพื่อนมนุษย์กันแบบไหน...???
เลือกเดินทางไหน...???
ไปรับผิดชอบต่อหน้าพระกันเอง.....
==========================================================================