ถ้าผู้ใดตบแก้มขวาของท่าน ก็จงหันแก้มซ้ายให้เขาด้วย
โพสต์แล้ว: จันทร์ พ.ย. 25, 2013 1:17 am
ที่เขตชนบททางตอนใต้ของประเทศจีน มีสามีภรรยาคริสตชนคู่หนึ่ง เขามีที่นาอยู่บนภูเขา นาที่เขาปลูกข้าวมีลักษณะเป็นขั้นบันไดถัดกันลงมาเป็นขั้นๆตามแนวเขา ต้องทำคันนาสูงเพื่อขังน้ำไว้สำหรับปลูกข้าว นาของคริสตชนคู่นี้อยู่ค่อนข้างสูง ทุกเช้า เขาทั้งคู่ต้องช่วยกันตักน้ำจากแม่น้ำที่ตีนเขาใส่ถัง แบกขึ้นมาถึงชั้นบนหลายเที่ยวอย่างยากลำบาก เพื่อที่จะเติมให้เต็มนาข้าวของตน
วันหนึ่ง เขาบังเอิญเดินผ่านที่นาของตนในเวลาเย็น ปรากฏว่าน้ำในนานั้นแห้งขอด เขาก็รู้สึกแปลกใจ แต่ไม่ได้คิดอะไร แต่ครั้นลองมาดูในช่วงเย็นวันถัดมา ก็ปรากฏเหตุการณ์เช่นเดิมอีก เขาทั้งคู่จึงเริ่มสงสัย เป็นเช่นนี้อยู่หลายวัน ทั้งคู่จึงตัดสินใจซุ่มอยู่ที่พุ่มไม้ข้างทาง สิ่งที่เขาเห็นคือ เพื่อนบ้านของเขาคนหนึ่ง ซึ่งเป็นเจ้าของที่นาถัดลงไปจากเขาหนึ่งขั้น เมื่อมองซ้ายมองขวาไม่เห็นใครแล้ว จึงได้เจาะรูที่คันนาของเขา ให้น้ำที่เขาทั้งคู่แบกขึ้นมาอย่างยากลำบาก ไหลลงสู่ที่นาของเพื่อนบ้านผู้นั้นจนเต็ม แล้วปิดรูนั้นกลับเช่นเดิม แล้วเสร็จก็กลับบ้านอย่างสบายอารมณ์ ส่วนที่นาของสามีภรรยาคู่นี้กลับแห้งขอด
เมื่อทราบเช่นนี้ทั้งคู่ก็โกรธและขุ่นเคืองมาก รู้สึกไม่เป็นธรรม และถูกเอารัดเอาเปรียบจากเพื่อนบ้านผู้เห็นแก่ตัวอย่างยิ่งผู้นี้ เขาคิดจะไปจัดการกับเพื่อนบ้านนี้ให้รูแล้วรู้รอด ภายในใจร้อนระอุอยู่หลายวัน แต่เมื่อเขาร่วมใจกันอธิษฐานต่อพระเจ้า สิ่งที่พระองค์ดลใจให้เขาทำในวันต่อมาคือ เมื่อเขาตักน้ำแบกขึ้นไปเติมในนาบนเขา เขาได้เติมทั้งที่นาของตน และเติมให้แก่เพื่อนบ้านผู้นั้นด้วย เมื่อเวลาเย็น เพื่อนบ้านขึ้นมาดูนาของตน เห็นว่านานั้นยังมีน้ำเต็มอยู่จึงรู้สึกอัศจรรย์ใจ เป็นเช่นนี้หลายวัน จนวันหนึ่ง ด้วยความสงสัยเพื่อนบ้านผู้นี้ก็ได้แอบดูอยู่ที่พุ่มไม้ริมทางเช่นกัน ภาพที่เห็นทำให้เขาถึงกับน้ำตาตก เพราะผู้ที่เขาเอารัดเอาเปรียบอย่างหนัก กลับดีต่อเขาได้ถึงเพียงนี้
ท้ายที่สุด เพราะเห็นการสำแดงชีวิตพระเจ้าจากตัวของคริสตชนคู่นี้ดลใจเพื่อนบ้านของเขา จึงได้รับความรอดในเวลาต่อมา เช่นนี้ สามีภรรยาจึงได้เข้าใจว่าเหตุใดพระเยซูตรัสจึงไว้ใน มัทธิว 5:38-42 ว่า
"ท่านทั้งหลายได้ยินคำซึ่งกล่าวไว้ว่า ตาแทนตา และฟันแทนฟัน ฝ่ายเราบอกท่านว่า อย่าต่อสู้คนชั่ว ถ้าผู้ใดตบแก้มขวาของท่าน ก็จงหันแก้มซ้ายให้เขาด้วย ถ้าผู้ใดอยากจะฟ้องศาล เพื่อจะปรับเอาเสื้อของท่านไป ก็จงให้เสื้อคลุมแก่เขาเสียด้วย ถ้าผู้ใดจะเกณฑ์ท่านให้เดินทางไปหนึ่งกิโลเมตร ก็ให้เลยไปกับเขาถึงสองกิโลเมตร ถ้าเขาจะขอสิ่งใดจากท่าน ก็จงให้อย่าเมินหน้าจากผู้ที่อยากขอยืมจากท่าน
ผมฟังจากคำพยานของพี่น้องชาวจีนท่านหนึ่งครับ ผมว่าเป็นประโยชน์ต่อชีวิตคริสตชนมาก นี่เป็นแบบอย่างของการสำแดงออกถึงความเป็นคริสตชน ไม่ใช่เป็นคริสตชนอยู่ที่ปาก แต่เป็นคริสตชนที่สำแดงชีวิตพระเจ้าผ่านการประพฤติของเขา สิ่งที่พระองค์เรียกร้องจากเรา ไม่เพียง "ตาแทนตา ฟันแทนฟัน" หรือ "เวรย่อมระงับด้วยการไม่จองเวร" หากแต่เป็น "การทำดีตอบแทนการชั่ว" เพราะเช่นนี้ จะแสดงให้เห็นถึงพระสิริของพระเจ้า เพราะโดยธรรมชาติของเรา มาตรฐานความดีของมนุษย์เรา ไปไม่ถึง
ท่านผู้เป็นที่รักของข้าพเจ้า อย่าทำการแก้แค้น แต่จงมอบการนั้นไว้แล้วแต่พระเจ้าจะทรงลงพระอาชญา เพราะมีคำเขียนไว้แล้วว่า `องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสว่า "การแก้แค้นเป็นของเรา เราเองจะตอบสนอง" เหตุฉะนั้น ถ้าศัตรูของท่านหิว จงให้อาหารเขารับประทาน ถ้าเขากระหาย จงให้น้ำเขาดื่ม เพราะว่าการทำอย่างนั้นเป็นการสุมถ่านที่ลุกโพลงไว้บนศีรษะของเขา' อย่าให้ความชั่วชนะท่านได้ แต่จงชนะความชั่วด้วยความดี (โรม 12:19-21)
ปล.อิมมานูเอล
วันหนึ่ง เขาบังเอิญเดินผ่านที่นาของตนในเวลาเย็น ปรากฏว่าน้ำในนานั้นแห้งขอด เขาก็รู้สึกแปลกใจ แต่ไม่ได้คิดอะไร แต่ครั้นลองมาดูในช่วงเย็นวันถัดมา ก็ปรากฏเหตุการณ์เช่นเดิมอีก เขาทั้งคู่จึงเริ่มสงสัย เป็นเช่นนี้อยู่หลายวัน ทั้งคู่จึงตัดสินใจซุ่มอยู่ที่พุ่มไม้ข้างทาง สิ่งที่เขาเห็นคือ เพื่อนบ้านของเขาคนหนึ่ง ซึ่งเป็นเจ้าของที่นาถัดลงไปจากเขาหนึ่งขั้น เมื่อมองซ้ายมองขวาไม่เห็นใครแล้ว จึงได้เจาะรูที่คันนาของเขา ให้น้ำที่เขาทั้งคู่แบกขึ้นมาอย่างยากลำบาก ไหลลงสู่ที่นาของเพื่อนบ้านผู้นั้นจนเต็ม แล้วปิดรูนั้นกลับเช่นเดิม แล้วเสร็จก็กลับบ้านอย่างสบายอารมณ์ ส่วนที่นาของสามีภรรยาคู่นี้กลับแห้งขอด
เมื่อทราบเช่นนี้ทั้งคู่ก็โกรธและขุ่นเคืองมาก รู้สึกไม่เป็นธรรม และถูกเอารัดเอาเปรียบจากเพื่อนบ้านผู้เห็นแก่ตัวอย่างยิ่งผู้นี้ เขาคิดจะไปจัดการกับเพื่อนบ้านนี้ให้รูแล้วรู้รอด ภายในใจร้อนระอุอยู่หลายวัน แต่เมื่อเขาร่วมใจกันอธิษฐานต่อพระเจ้า สิ่งที่พระองค์ดลใจให้เขาทำในวันต่อมาคือ เมื่อเขาตักน้ำแบกขึ้นไปเติมในนาบนเขา เขาได้เติมทั้งที่นาของตน และเติมให้แก่เพื่อนบ้านผู้นั้นด้วย เมื่อเวลาเย็น เพื่อนบ้านขึ้นมาดูนาของตน เห็นว่านานั้นยังมีน้ำเต็มอยู่จึงรู้สึกอัศจรรย์ใจ เป็นเช่นนี้หลายวัน จนวันหนึ่ง ด้วยความสงสัยเพื่อนบ้านผู้นี้ก็ได้แอบดูอยู่ที่พุ่มไม้ริมทางเช่นกัน ภาพที่เห็นทำให้เขาถึงกับน้ำตาตก เพราะผู้ที่เขาเอารัดเอาเปรียบอย่างหนัก กลับดีต่อเขาได้ถึงเพียงนี้
ท้ายที่สุด เพราะเห็นการสำแดงชีวิตพระเจ้าจากตัวของคริสตชนคู่นี้ดลใจเพื่อนบ้านของเขา จึงได้รับความรอดในเวลาต่อมา เช่นนี้ สามีภรรยาจึงได้เข้าใจว่าเหตุใดพระเยซูตรัสจึงไว้ใน มัทธิว 5:38-42 ว่า
"ท่านทั้งหลายได้ยินคำซึ่งกล่าวไว้ว่า ตาแทนตา และฟันแทนฟัน ฝ่ายเราบอกท่านว่า อย่าต่อสู้คนชั่ว ถ้าผู้ใดตบแก้มขวาของท่าน ก็จงหันแก้มซ้ายให้เขาด้วย ถ้าผู้ใดอยากจะฟ้องศาล เพื่อจะปรับเอาเสื้อของท่านไป ก็จงให้เสื้อคลุมแก่เขาเสียด้วย ถ้าผู้ใดจะเกณฑ์ท่านให้เดินทางไปหนึ่งกิโลเมตร ก็ให้เลยไปกับเขาถึงสองกิโลเมตร ถ้าเขาจะขอสิ่งใดจากท่าน ก็จงให้อย่าเมินหน้าจากผู้ที่อยากขอยืมจากท่าน
ผมฟังจากคำพยานของพี่น้องชาวจีนท่านหนึ่งครับ ผมว่าเป็นประโยชน์ต่อชีวิตคริสตชนมาก นี่เป็นแบบอย่างของการสำแดงออกถึงความเป็นคริสตชน ไม่ใช่เป็นคริสตชนอยู่ที่ปาก แต่เป็นคริสตชนที่สำแดงชีวิตพระเจ้าผ่านการประพฤติของเขา สิ่งที่พระองค์เรียกร้องจากเรา ไม่เพียง "ตาแทนตา ฟันแทนฟัน" หรือ "เวรย่อมระงับด้วยการไม่จองเวร" หากแต่เป็น "การทำดีตอบแทนการชั่ว" เพราะเช่นนี้ จะแสดงให้เห็นถึงพระสิริของพระเจ้า เพราะโดยธรรมชาติของเรา มาตรฐานความดีของมนุษย์เรา ไปไม่ถึง
ท่านผู้เป็นที่รักของข้าพเจ้า อย่าทำการแก้แค้น แต่จงมอบการนั้นไว้แล้วแต่พระเจ้าจะทรงลงพระอาชญา เพราะมีคำเขียนไว้แล้วว่า `องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสว่า "การแก้แค้นเป็นของเรา เราเองจะตอบสนอง" เหตุฉะนั้น ถ้าศัตรูของท่านหิว จงให้อาหารเขารับประทาน ถ้าเขากระหาย จงให้น้ำเขาดื่ม เพราะว่าการทำอย่างนั้นเป็นการสุมถ่านที่ลุกโพลงไว้บนศีรษะของเขา' อย่าให้ความชั่วชนะท่านได้ แต่จงชนะความชั่วด้วยความดี (โรม 12:19-21)
ปล.อิมมานูเอล
