บทส่งท้ายของฟาติมา "ไยแย ดี โบนาเต"

ถาม-ตอบพระคัมภีร์ เรื่องเสริมศรัทธา ความรู้ และสาระ บทความ ในคริสตศาสนา
ตอบกลับโพส
teyteybboy
โพสต์: 413
ลงทะเบียนเมื่อ: พฤหัสฯ. ธ.ค. 22, 2011 8:16 pm

จันทร์ พ.ย. 10, 2014 10:13 pm

รูปภาพ
ในปี ค.ศ.1944 พระมานดาพระเจ้าได้ทรงประจักษ์มายังตำบลไยแย ดี โบนาเต ตำบลเล็กๆที่แทบจะไม่มีใครในโลกรูจัก ในสังฆมณฑลแบร์กาโม ประเทศอิตาลี ในระหว่างช่วงสงครามโลกครั้งที่สองเฉกเช่นในสงครามโลกครั้งที่หนึ่งที่ฟาติมา ที่ไยแย พระมารดาเจ้าได้ทรงประทานสารแห่งความหวังและสันติอีกครั้ง แก่เด็กหญิงตัวเล็กวัย 7 ปีนาม “อาเดไลเด รอนกัลลี” การประจักษ์ที่ไยแยในครั้งนี้ ถูกเรียกว่า “บทส่งท้ายของฟาติมา”

การประจักษ์ครั้งที่ 1 วันเสาร์ที่ 13 พฤษภาคม ค.ศ.1944
เวลา 18.00 น.
พยาน : เพื่อนหญิงของอาเดไลเด
ภาพนิมิต : ครอบครัวศักดิ์สิทธิ์


เหตุการณ์เริ่มขึ้นขณะหนูอาเดไลเดและเพื่อนไปช่วยกันเก็บดอกไม้มาประดับรูปแม่พระที่แขวนอยู่ตรงกลางของบันไดบ้านของเธอเอง ขณะเลือกเก็บดอกไม้อยู่นั้น เธอก็หันไปเห็นดอกไม้ดอกหนึ่งซึ่งสวยมากๆ แต่ขึ้นอยู่สูงเกินกว่าที่เธอจะเอื้อมมือขึ้นไปเด็ดได้ เธอจึงได้แต่ยืนชมความงามของมัน เวลานั้นเองเธอก็พลันเห็นจุดสีทองค่อยๆลอยลงมาจากฟ้า โดยขณะที่จุดสีทองนั้นใกล้เข้ามาเท่าไรจุดสีทองนั้นก็มีขนาดใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ กระทั้งพลันปรากฏสตรีนางหนึ่งมีเด็กน้อยในอ้อมแขน ด้านซ้ายของสตรีนั้นปรากฏมีชายอีกคนหนึ่ง ทั้งสามล้อมรอบด้วยรัศมีสามชั้น และลอยอยู่ไม่ไกลสายโทรเลขเท่าไรนัก
รูปภาพ
อาเดไลเดเล่าว่าสตรีนางนั้นงดงามและสง่ามากๆ สตรีนั้นสวมชุดสีขาว มีผ้าคลุมสีฟ้า “…บนแขนขวาของเธอมีสายประคำทำจากลูกปัดสีขาว ที่เหนือเท้าทั้งสองข้างของเธอประดับด้วยดอกกุหลาบสีขาวสองดอก ชุดของเธอประดับด้วยสายไข่มุก ซึ่งผูกเข้าด้วยกันด้วยทองคำในรูปแบบของสร้อยคอ รัศมีที่ล้อมรอบทั้งสามคนสว่างสดใสด้วยแสงสีทอง….” ทันทีที่เห็นดังนั้นอาเดไลดาก็เริ่มกลัว เธอจึงเตรียมที่จะวิ่ง แต่สตรีนางนั้นได้ตรัสกับเธอด้วยเสียงอันอ่อนหวานว่า “อย่าได้ไปวิ่งเลย ฉันคือพระนางมารีย์”

ดังนั้นอาเดไลเดจึงหยุดที่จะวิ่งและจ้องมองไปยังทั้งสาม แม้ในใจจะกลัวนิดหน่อย พระมารดาพระเจ้าเมื่อทรงเปิดเผยนามแล้ว ก็ทรงได้มองมายังเธอและตรัสว่า “หนูต้องเป็นเด็กดี ว่านอนสอนง่าย มีสัมมาคารวะต่อเพื่อนบ้านของหนู และซื่อสัตย์ ไปสวดภาวนาอย่างดีและกลับมาที่นี่อีกเก้าครั้ง ในเวลานี้” พระนางทรงมองอาเดไลเดอีกไม่กี่นาที แล้วพระนางจึงค่อยๆหายไปโดยมิได้มองเธอ พระกุมารและนักบุญยอแซฟมิได้พูดอะไร ท่านทั้งสองเพียงแต่มองมายังเธอด้วยสีหน้าที่น่ารัก
รูปภาพ
ภาพเด็กหญิงอาเดไลเด รอนกัลลี
teyteybboy
โพสต์: 413
ลงทะเบียนเมื่อ: พฤหัสฯ. ธ.ค. 22, 2011 8:16 pm

จันทร์ พ.ย. 10, 2014 10:21 pm

การประจักษ์ครั้งที่ 2 วันอาทิตย์ที่ 14 พฤษภาคม ค.ศ.1944
เวลา 18.00 น
พยาน : เด็กหญิงบางคนกับเด็กชายอีกคน
ภาพนิมิต : ครอบครัวศักดิ์สิทธิ์


ขณะอาเดไลเดเล่นกับเพื่อนๆในศูนย์นันทนาการประจำเขตวัด จนถึงเวลาหกโมงเย็น เธอก็รู้สึกว่าได้รับการดลใจให้ไปยังสถานที่ที่พระมารดาพระเจ้าทรงประจักษ์มาเมื่อวานอีกครั้ง เธอจึงรีบไปยังที่นั่นพร้อมเพื่อนบางคน และเหมือนได้การดลใจอีกครั้งเมื่อมาถึง เธอจึงเงยหน้าขึ้นและก็ได้เห็นนกพิราบขาวสองตัว เหนือขึ้นไปจากพวกมันมีจุดสว่าง ที่ค่อยๆกลายเป็นครอบครัวศักดิ์สิทธิ์
รูปภาพ
พระมารดาพระเจ้าทรงยิ้มให้เธอ ก่อนจะทรงย้ำเหมือนเมื่อว่ากับเธอว่า “หนูต้องเป็นเด็กดี ว่านอนสอนง่ายและซื่อสัตย์ และหนูจะต้องสวดภาวนาอย่างดีและมีสัมมาคารวะต่อเพื่อนบ้านของหนู ระหว่างช่วงอายุสิบสี่และสิบห้าปี หนูจะกลายเป็นซิสเตอร์ซากราเมนตินา(คณะศีลมหาสนิท) หนูจะได้รับทรมานมากมาย แต่อย่างร้องไปเลย หนูจะมาสวรรค์พร้อมกับฉัน” ตรัสเสร็จพระมารดาก็ทรงค่อยๆหายไปเหมือนเมื่อครั้งก่อน

เห็นดังนั้นแล้วอาเดไลเดที่เปี่ยมไปด้วยความสุขจึงเดินทางกลับไปยังศูนย์นันทนาการประจำเขตวัด แต่ขณะมาได้ครึ่งทางเธอก็พบกับเด็กชายคนหนึ่งเข้ามาเธอ และเมื่อเธอยืนยันว่าเห็นแม่พระจริงๆ เขาจึงรีบบอกเธออย่างใจจดใจว่า “ช่วยย้อนกลับไปและดูทีหากพระนางประจักษ์มาอีกครั้ง ช่วยลองและถามพระนางทีว่าฉันจะได้เป็นพระสงฆ์และอุทิศชีวิตเพื่อพระนางไหม” อาเดไลเดฟังดังนั้นก็รีบวิ่งกลับมาที่นั่นอีกครั้ง พลางเงยหน้าขึ้นฟ้าและก็ไม่ผิดหวัง มี่กี่นาทีต่อมาพระมารดาเจ้าทรงประจักษ์มาอีกครั้ง อาเดไลเดจึงทูลถามถึงความปรารถนาของเด็กชายผู้นั้นต่อพระมานดา พระมารดาเจ้าทรงสดับและตรัสตอบด้วยเสียงอันอ่อนหวานว่า “ใช่ เขาจะเป็นพระสงฆ์ธรรมทูตผู้กลมเกลียวต่อดวงหทัยของฉัน เมื่อสงครามจบลง” ตรัสเสร็จพระนางจึงค่อยๆหายไปเช่นเดิม

เหตุการณ์เป็นจริง

#และก็เป็นดังนั้นจริงๆ อาเดไลเดได้รับอนุญาตจากพระสังฆราชให้สมัครเข้าอารามซิสเตอร์คณะซากราเมนติน ในวันเกิดครบรอบอายุสิบห้าปี แต่เมื่อพระสังฆราชสิ้นใจลงเธอก็ถูกคนบางกลุ่มกดดันให้เธอออกจากอารามในแบร์กาโมเสีย จนที่สุดเธอจึงจำต้องออกจากอารามตามคำทายของพระมารดาในที่สุด

#ภายหลังเด็กชายผู้นั้นเมื่อรู้ถึงคำทำนายก็ได้รีบตรงดิ่งกลับบ้านไปเล่าให้มารดาฟังด้วยความสุข และเด็กชายนั้นก็ได้บวชและเป็นที่รู้กันว่าเด็กชายคนนนั้นก็คือคุณพ่อกันดีโด มัฟเฟยส์ ผู้ถึงแก่มรณกรรมลงอย่างสงบในวันที่ 7 เมษายน ค.ศ.1995
รูปภาพ
ภาพอาเดไลเดขณะเป็นนวกะคณะซากราเมนติน
รูปภาพ
ภาพพิธีบวชพระสงฆ์ที่เกิดขึ้นจริงของคุณพ่อกันดีโด
รูปภาพ
ภาพคุณพ่อกันดีโด มัฟเฟยส์ในวัยชรา
ภาพประจำตัวสมาชิก
rosa-lee
โพสต์: 5975
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 29, 2010 2:37 pm

อังคาร พ.ย. 11, 2014 9:06 am

:s005: ขอบคุณพระเจ้า ขอบคุณพระแม่มารีย์....
น่าสนใจมาก มีรายละเอียดมากกว่านี้ไหมคะ ขอบคุณค่ะ
teyteybboy
โพสต์: 413
ลงทะเบียนเมื่อ: พฤหัสฯ. ธ.ค. 22, 2011 8:16 pm

อังคาร พ.ย. 11, 2014 6:19 pm

การประจักษ์ครั้งที่ 3 วันจันทร์ที่ 15 พฤษภาคม ค.ศ.1944
เวลา 18:00 น.
พยาน : เพื่อนสองคนของอาเดไลเดและผู้คนประมาณร้อยคน
ภาพนิมิต : ครอบครัวศักดิ์สิทธิ์สว่างไสว


เมื่ออาเดไลเดพร้อมเพื่อนอีกสองคนสามารถผ่านคนที่มาดูเหตุการณ์อย่างแออัดแล้ว เมื่อถึงเวลานกพิราบขาวสองตัวก็ได้ปรากฏนำหน้าจุดสว่างลงมาอย่างช้าๆ ทีละนิดละนิด จนเผยให้เห็นครอบครัวศักดิ์สิทธิ์ที่สว่างไสวผิดปกติ ดวงพระเนตรของพระกุมารเป็นสีฟ้าสดใส ชุดของพระองค์เป็นเหมือนชุดขนสัตว์ยาวจรดปลายพระบาทของพระองค์ ซึ่งเป็นขุยๆ ลักษณะเป็นสีชมพูประดับด้วยดาวทอง ส่วนพระมารดาเจ้าทรงสวมชุดสีฟ้า มีผ้าคลุมยาว มีดาวดวงเล็กๆระยิบระยับไปทั่วใบหน้าของพระมารดา เหนือเท้าทั้งสองมีดอกกุหลาบสองดอก มือทั้งสองพนมพร้อมสายประคำ
รูปภาพ
ผู้คนที่อยู่ในเหตุการณ์ต่างพากันขอให้อาเดไลเดขอให้พระมารดาเจ้าทรงรักษาบุตรหลานของพวกเขา พร้อมขอให้ถามว่าเมื่อใดสมครามถึงจะจบลง หนูน้อยอาเดไลเดจึงทูลถามพระมารดาเจ้าถึงปัญหาทั้งสอง และพระมารดาเจ้าก็ตรัสตอบอาเดไลเดว่า “ไปบอกพวกเขาว่าถ้าพวกเขาอยากให้บุตรหลานของพวกเขาได้รับการรักษา พวกเขาจะต้องกลับใจ สวดภาวนาให้มากๆ และหลีกหนีจากบาปทั้งหลาย ถ้าผู้คนกลับใจเร็วๆนี้ สงครามก็จะจบลงภายในสองเดือน มิฉะนั้นแล้วมันก็จะดำเนินต่อไปอีกสองปี” ตรัสเสร็จพระมารดาเจ้าจึงทรงร่วมสวดสายประคำกับอาเดไลเด ก่อนทั้งหมดจะค่อยๆถอยไปและหายไปในที่สุด

เหตุการณ์เป็นจริง
ภายหลังจากการประจักษ์ครั้งนี้หลายคนที่ได้รับทราบคำทำนายของพระมารดาเจ้าก็ต่างพากันเป็นทุกข์ถึงบาป สวดภาวนา และต่างคิดกันว่าพระมารดาเจ้าได้ทรงวอนขอต่อพระเจ้าคือสงครามจะจบลงในสองเดือนนับจากวันที่พระมารดาเจ้าทรงประจักษ์มาคือในวันที่ 15 พฤษภาคม แต่ปรากฏว่าในวันที่ 20 กรกฎาคม ก็ได้เหตุการ์แผนลับ 20 กรกฎาคม อันเป็นความพยายามลอบสังหารอดอล์ฟ ฮิตเลอร์

หลังจากนั้นเยอรมันก็มาถึงจุดตกต่ำและพ่ายแพ้ต่อสงคราม กระทั้งสงครามจบลงในวันสมโภชพระคริสตเจ้าทรงกลับคืนพระชนม์ชีพ ปี ค.ศ.1945 แบบค่อยๆเป็นค่อยๆไปด้วยระยะเวลาเกือบๆสองปีตามคำทำนายของพระมารดาเจ้า
รูปภาพ
ภาพห้องประชุมใน "รังหมาป่า" ไม่นานหลังจากเกิดการระเบิดที่มีเป้าหมายเพื่อลอบสังหารฮิตเลอร์
teyteybboy
โพสต์: 413
ลงทะเบียนเมื่อ: พฤหัสฯ. ธ.ค. 22, 2011 8:16 pm

อังคาร พ.ย. 11, 2014 6:47 pm

การประจักษ์ครั้งที่ 4 วันอังคารที่ 16 พฤษภาคม ค.ศ.1944
เวลา 18:00 น.
พยาน : ผู้คนประมาณร้อยห้าสิบคน
ภาพนิมิต : ครอบครัวศักดิ์สิทธิ์

ผู้คนที่ทราบข่าวการประจักษ์ต่างแห่กันมาที่บ้านของอาเดไลเด จนถึงใกล้ถึงเวลาอาเดไลเดก็ถูกพาอุ้มไปจนถึงสถานที่ประจักษ์ และเหมือนเมื่อวานจุดสว่างปรากฏขึ้นบนท้องฟ้านำหน้าด้วยสองนกพิราบขาว ครอบครัวศักดิ์สิทธิ์ประจักษ์มาอีกครั้งในชุดแบบเดิมเหมือนเมื่อวาน พระมารดาเจ้าทรงยิ้มให้อาเดไลเด ก่อนจะทรงกลายเป็นเศร้าขณะพระนางเริ่มตรัสว่า “มีมารดาจำนวนมากได้ทำให้ลูกๆได้รับบาดเจ็บเพราะบาปหนักขอพวกเขา ขอให้พวกเขาอย่าได้ทำบาปไปมากกว่านี้เลย และขอให้ลูกๆของพวกเธอได้รับการรักษาเถิด” หลังจากนั้นอาเดไลเดจึงทูลขอเครื่องหมายอัศจรรย์ให้เป็นที่ประจักษ์ตามความปรารถนาของผู้คน แต่พระมารดาเจ้าทรงตรัสตอบเธอว่า “มันจะมาถึงในเวลาที่กำหนดไว้ จงสวดภาวนาเพื่อคนบาปผู้น่าสงสารผู้ต้องการคำภาวนาของเด็กๆเป็นจำนวนมากเถิด” ตรัสเสร็จพระมารดาเจ้าพร้อมครอบครัวศักดิ์สิทธิ์ก็ค่อยๆถอยออกไปและหายไปในที่สุด
รูปภาพ
บ้านของอาเดไลเด
ขอบคุณการแปลจากพี่ Josh Tuam
teyteybboy
โพสต์: 413
ลงทะเบียนเมื่อ: พฤหัสฯ. ธ.ค. 22, 2011 8:16 pm

อังคาร พ.ย. 11, 2014 6:59 pm

การประจักษ์ครั้งที่ 5 วันพุธที่ 17 พฤษภาคม ค.ศ.1944
เวลา 18.00 น.
พยาน : ประมาณสามพันคน
ภาพนิมิต : พระมารดาพระเจ้าพร้อมด้วยบรรดาทูตสวรรค์

เมื่อถึงเวลานกพิราบสองตัวได้ปรากฏมานำหน้าจุดสว่าง ก่อนพระมารดาเจ้าจะทรงประจักษ์มาในชุดสีแดง มีผ้าคลุมสีเขียวยาว ล้อมรอบด้วยรัศมีสามชั้น ต่ำกว่าระดับข้อศอกของพระมารดาลงไป มีทูตสวรรค์จำนวนแปดองค์แต่งกายด้วยชุดสีฟ้าและชมพูเรียงกันเป็นรูปครึ่งวงกลม ทันทีที่มาถึงพระมารดาก็ได้บอกความลับสำหรับพระสังฆราชและพระสันตะปาปาแก่หนูน้อยอาเดไลเดในทันทีว่า “ไปบอกพระสังฆราชและสมเด็จพระสันตะปาปาถึงความลับที่ฉันบอกแก่หนู … ฉันขอแนะนำให้หนูทำสิ่งที่หนูพูด แต่อย่าบอกเรื่องนี้แก่ใครคนอื่นทั้งสิ้น” ตรัสเสร็จพระมารดาเจ้าก็ค่อยๆหายไป
รูปภาพ
อาเดไลเด ได้นำความลับนี้ไปบอกแก่พระสังฆราชในอีกสามวันถัดมาคือในวันที่ 20 พฤษภาคม และได้ถูกพาไปเข้าเฝ้าทูลความลับนี้กับสมเด็จพระสันตะปาปาปิโอ ที่ 12 เป็นการส่วนตัว ในวันที่ 17 พฤษภาคม ค.ศ.1944
รูปภาพ
พระสังฆราชอาเดรียโน เบรนาเรกจี ผู้ได้ทราบความลับเป็นคนที่สอง
รูปภาพ
สมเด็จพระสันตะปาปาปีโอ ที่ 12 ผู้รับทราบความเป็นคนที่สาม
teyteybboy
โพสต์: 413
ลงทะเบียนเมื่อ: พฤหัสฯ. ธ.ค. 22, 2011 8:16 pm

อังคาร พ.ย. 11, 2014 7:24 pm

การประจักษ์ครั้งที่ 6 วันพฤหัสบดีที่ 18 พฤษภาคม ค.ศ.1944 : สมโภชแม่พระรับเกียรติยกขึ้นสวรรค์
เวลา 18.00 น.
พยาน : ประมาณเจ็ดพันคน
ภาพนิมิต : พระมารดาพระเจ้าพร้อมด้วยบรรดาทูตสวรรค์

วันนี้พระมารดาพระเจ้าทรงประจักษ์มาในลักษณะเหมือนเมื่อวานคือทรงสวมชุดสีแดง ผ้าคลุมสีเขียว มีทูตสวรรค์ พระมารดาทรงยิ้มให้หนูน้อย และตรัสซ้ำกันสามครั้งว่า “จงสวดภาวนาและกลับใจ” จากนั้นพระมารดาเจ้าจึงทรงตรัสเสริมว่า “จงสวดภาวนาเพื่อคนบาปที่ดื้อดึงน่าสงสารทั้งหลายผู้กำลังจะสิ้นใจในเวลานี้และเป็นผู้ทิ่มแทงดวงหทัยของฉัน”
และเนื่องจากมีผู้คนต่างถามเธอว่าพระมารดาเจ้าทรงชื่นชมบทภาวนาบทใดเป็นพิเศษ อาเดไลเดจึงได้ทูลถามข้อสงสัยนี้ต่อพระมารดาเจ้า และพระนางก็ทรงตรัสตอบ ก่อนจะค่อยๆหายไปว่า “บทภาวนาที่ฉันชอบมาที่สุดก็คือบทวันทามารีย์จ๊ะ”
รูปภาพ
teyteybboy
โพสต์: 413
ลงทะเบียนเมื่อ: พฤหัสฯ. ธ.ค. 22, 2011 8:16 pm

อังคาร พ.ย. 11, 2014 10:07 pm

การประจักษ์ครั้งที่ 7 วันศุกร์ที่ 19 พฤษภาคม ค.ศ.1944
เวลา 18.00 น.
พยาน : ประมาณหนึ่งหมื่นคน
ภาพนิมิต : ครอบครัวศักดิ์สิทธิ์

เหมือนครั้งก่อนๆในการเริ่มต้นการประจักษ์ มีจุดสว่างปรากฏขึ้น ก่อนจะปรากฏครอบครัวศักดิ์สิทธิ์ออกมา พระมารดาเจ้าทรงมีสวมชุดสีฟ้าสว่าง มีผ้าคลุม พระมารดาทรงมีผ้าคาดเอวสีขาว เหนือเท้ามีดอกกุหลาบวางอยู่ทั้งสองข้าง ที่มือมีสายประคำ ส่วนพระกุมารเยซูทรงสวมชุดขนสัตว์สีชมพูประดับดาวทอง พระหัตถ์ยกประสานกัน พระพักตร์สงบนิ่ง จวนเจียนจะยิ้ม ฝั่งนักบุญยอแซฟ ก็แต่งชุดสีน้ำตาล มีผ้าคล้ายๆผ้าคลุมไหล่ยาวสีน้ำตาลเช่นเดียวกับชุดของท่าน ในมือของท่านถือไม้เท้ายอดดอกลิลลี่ ท่านอย่างสงบนิ่ง แต่มิได้ยิ้ม พร้อมกันนั้นยังมีทูตสวรรค์ไม่กี่องค์อีกด้วย
รูปภาพ
พระมารดาเจ้าทรงมองดูอาเดไลเดด้วยรอยยิ้ม อาเดไลเดจึงเริ่มทูลถามความปรารถนาของหลายคนว่า “แม่พระคะ หลายคนบอกหนูว่าให้ถามท่านว่าลูกๆที่เจ็บป่วยของพวกเขาจะต้องมาที่นี้เพื่อให้ได้รับการรักษาไหมคะ”
พระมารดาเจ้าจึงทรงแก้ข้อสงสัยนั้นว่า “ไม่จ๊ะ ไม่ใช่ทุกคนที่มายังที่นี่ บรรดาคนเหล่านั้นที่มีทุนอาจจะมาที่นี่และได้รับการรักษาหรือไม่ก็ยังคงป่วยเพื่อให้สอดคล้องกับเครื่องบูชาของพวกเขา แต่พวกเขาจะต้องไม่กระทำบาปหนักอีกต่อไป” หลังจากนั้นอาเดไลเดจึงทูลขอเครื่องหมายอัศจรรย์กับพระมารดาเจ้าเพื่อให้ผู้คนได้เชื่อในสารของพระนาง พระมารดาเจ้าทรงตรัสว่า “เมื่อเวลานั้นมาถึง ผู้คนมากมายจะกลับใจและฉันจะได้รับการรับรองจากพระศาสนจักร” จากนั้นพระมารดเจ้าจึงทรงตรัสเสริมอย่างเคร่งขรึมว่า “จงรำพึงถึงคำพูดเหล่านี้ทุกวันของชีวิตหนู จงเรียกความกล้าของหนูขึ้นมาจากความทุกข์ทั้งหลาย หนูจะได้เห็นฉันในเวลาแห่งความตายของหนู ฉันจะคลุมหนูไว้ด้วยผ้าคลุมของฉัน และจะพาหนูไปสวรรค์”

เดี๋ยวมาต่อการประจักษ์อีก 6 ครั้งที่เหลือนะครับ
kay-su
โพสต์: 68
ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ มี.ค. 17, 2012 7:04 am

พุธ พ.ย. 12, 2014 10:18 am

ขอบคุณค่ะ รอฟังนะคะ
teyteybboy
โพสต์: 413
ลงทะเบียนเมื่อ: พฤหัสฯ. ธ.ค. 22, 2011 8:16 pm

พุธ พ.ย. 12, 2014 6:44 pm

การประจักษ์ครั้งที่ 8 วันเสาร์ที่ 20 พฤษภาคม ค.ศ.1944
เวลา 18.00 น.
พยาน : ประมาณสามหมื่นคน
ภาพนิมิต : ครอบครัวศักดิ์สิทธิ์

ในวันนี้เมื่อทุกอย่างพร้อมแล้วและอาเดไลเดได้ขึ้นไปยื่นบนหินเป็นที่เรียบร้อย จวบจนถึงเวลาครอบครัวศักดิ์สิทธิ์ก็ได้ประจักษ์มา เมื่อมาถึงแล้วพระมารดาเจ้าก็ทรงเริ่มตรัสกับอาเดไลเดว่า “พรุ่งนี้จะเป็นวันสุดท้ายแล้วที่ฉันจะพูดกับหนู หลังจากนั้นอีกเจ็ดวันฉันจะปล่อยให้หนูได้ตริตรองถึงสิ่งที่ฉันได้บอกหนูไป จงเพียรพยายามและเข้าใจคำพูดอันเที่ยงตรงของฉัน เพราะพวกมันจะเป็นประโยชน์มากมายสำหรับหนู เมื่อหนูโตขึ้นแล้วต้องการเป็นของฉันทั้งครบ ภายหลังเจ็ดวันแล้วฉันจะมาหาหนูอีกสี่ครั้ง” อาเดไลเดบันทึกว่า “เสียงประกาศของพระนางช่างไพเราะและอ่อนหวาน จนถึงเดี๋ยวนี้หนูก็ไม่สามารถเลียนแบบได้ แม้ว่าจะพยายามเท่าก็ตาม”

อัศจรรย์ดวงอาทิตย์

คุณหมอเอลีอานา มักจี แพทย์ผู้เฝ้าสังเกตการประจักษ์ให้การต่อหน้าคณะกรรมการของพระสังฆราชในวันที่ 16 มกราคม ค.ศ.1946 ว่า “วันเสาร์นั้นเป็นวันฝนตก จนถึงในช่วงเริ่มการประจักษ์แสงอาทิตย์ก็ได้ส่องมายังศีรษะของหนูน้อย ดิฉันจึงมองขึ้นไปบนท้องฟ้าและก็ได้เห็นรอยแยกออกเป็นรูปกางเขน และฝนที่ตกปรอยๆเป็นจุดสีเงินกับสีทอง ประมาณหนึ่งถึงสองนาที และทุกคนก็ต่างพากันเรียกมันว่าอัศจรรย์”

คุณพ่อลุยจิ กอร์เตซี เขียนถึงเหตุแสงอัศจรรย์ในเย็นวันเสาร์นี้ว่า “มีบางคนสังเกตเห็นลำแสงแปลกประหลาด ส่องลงมาเหนือเด็กน้อยและสะท้อนไปทั่ว คนอื่นยังสังเกตเห็นกางเขนบนดวงอาทิตย์ ขณะอีกกลุ่มเห็นรัศมีรูปวงแหวนหมุนรอบดวงอาทิตย์ ทั้งนั้นในด้านใต้บางคนเห็นฝนสีทอง มีกลุ่มเมฆสีเหลือขนาดเล็กรูปร่างห่วง ที่มีขนาดหนาและอยู่ใกล้ผู้คนที่พยายามจะจับมัน นอกจากนั้นในมือและใบหน้าของผู้เข้าชมยังมีสีต่างๆ โดดเด่นด้วยสีเหลือง ยังมีการเห็นลูกโลกในรูปร่างศีลมหาสนิทอีก…”
รูปภาพ
teyteybboy
โพสต์: 413
ลงทะเบียนเมื่อ: พฤหัสฯ. ธ.ค. 22, 2011 8:16 pm

พุธ พ.ย. 12, 2014 8:36 pm

การประจักษ์ครั้งที่ 9 วันอาทิตย์ที่ 21 พฤษภาคม ค.ศ.1944
เวลา 18.00 น.
พยาน : ประมาณสองแสนคน
ภาพนิมิต : ครอบครัวศักดิ์สิทธิ์

การประจักษ์นำมาโดยนกพิราบขาว ก่อนครอบครัวศักดิ์สิทธิ์จะปรากฏขึ้นในชุดแบบเดิม ครอบครัวศักดิ์สิทธิ์ประทับอยู่กลางวัด ทางประตูใหญ่มีลาสีเทา แกะสีขาว สุนัขดำลายจุดสีน้ำตาล และม้าสีน้ำตาล พวกมันทั้งสี่ต่างคุกเข่าและขยับปากขึ้นลงประดุจว่ากำลังสวดภาวนาอยู่ ทันใดนั้นเองเจ้าม้าก็ลุกขึ้น และเดินผ่านไหล่ของพระมารดาเจ้าออกประตู ไปตามถนนที่มุ่งสู่ทุ่งลิลลี่ แต่อย่างไรมันก็ไม่สามารถกระทำได้ดั่งใจหวัง เพราะนักบุญยอแซฟได้วิ่งตามมันไป และจับมันได้ในขณะมันกำลังซ่อนตัวอยู่ชิดกำแพงของทุ่งลิลลี่ภายหลังจากเห็นท่านนักบุญยอแซฟ ซึ่งมันก็ยอมให้ท่านนักบุญจับและพากับมาคุกเข่าสวดในวัดตามเดิม โดยที่ไม่มีใครตรัสส่งใดทั้งสิ้นตลอดการประจักษ์

รูปภาพ
คำอธิบายภาพนิมิต

โดยครั้งอาเดไลเดเข้าใจภาพนิมิตนี้เพียงว่า ม้าหมายถึงคนไม่ดีที่ต้องการจะทำลายความดี แต่ภายหลังจากการรำพึงอาเดไลเดจึงอธิบายภาพนิมิตนี้ว่า ม้าคือบุคคลผู้เป็นเลิศ ผู้ชั่วร้ายและโลภในลาภยศ ซึ่งหลังจากที่เขายอมแพ้ต่อการสวดภาวนาแล้ว เขาก็ต้องการที่จะทำลายดอกลิลลี่ในทุ่งที่สวยงามด้วยการเหยียบย้ำและทำลายความบริสุทธิ์และความไร้อคติอันเรียบง่าย ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความเสียหายภายใน จนเมื่อมันได้เห็นนักบุญยอแซฟตามมันมาตามทางแห่งความเสียหายที่มันได้ก่อ มันจึงได้ไปซ่อนหลังกำแพงเตี้ยของทุ่ง ท่านนักบุญยอแซฟเดินเข้ามายังมันพลางมองดูด้วยสายตาอ่อนหวานเชิงติเตียน ก่อนจะพามันกลับสู่บ้านแห่งการภาวนา ซึ่งในระหว่างที่ม้ากำลังทำลายบรรดาลิลลี่อยู่นั้น ไม่ก็ไม่อาจรบกวนการสวดภาวนาของสัตว์อีกสามตัวได้
สัตว์สีขาวเหล่านั้นคือคุณธรรมที่ขาดไม่ได้ที่จะสร้างครอบครัวอันศักดิ์สิทธิ์ ม้า คือ ผู้นำ จะต้องไม่ละจากการสวดภาวนา เพราะเมื่อหากไกลจากการสวดภาวนาแล้ว มันก็จะมีเพียงแค่ความสามารถที่จะทำลาย มันจึงได้ปฏิเสธที่จะอดทน ที่จะซื่อสัตย์ อ่อนโยนและเงียบ อันเป็นสัญลักษณ์แทนด้วยสัตว์ตัวอื่น
จุดที่แปลกคือขนของสุนัขที่แทนความซื่อสัตย์ของครอบครัวมีความเสียหาย ส่วนประตูที่เปิดออกของวัดแทนอิสระที่พระเจ้าทรงให้แก่มนุษย์

อัศจรรย์ดวงอาทิตย์ในวันนี้

มีหลายคนทั้งในสถานที่นี้และหมู้บ้านใกล้ๆได้เห็นดวงอาทิตย์ลอยออกมาจากก้อนเมฆ ก่อนจะเริ่มหมุนและฉายแสงสีเหลือง สีเขียว สีฟ้า และสีม่วงไปทั่วทุกทิศ ฉาบไปทั่วทั้งก้อนเมฆ ท้องทุ่ง ต้นไม้ และฝูงชนที่แห่แหนกันมาจนแน่นขนัด หลังจากนั้นไม่กี่นาทีเหตุการณ์จึงหยุดลง ก่อนจะเริ่มขึ้นอีก
-ซึ่งในขณะที่ดวงอาทิตย์กำลังหมุนอยู่นั้นก็ยังมีหลายคนเห็นเป็นคล้ายแผ่นศีล
-ก้อนเมฆบางก้อนก็ยังเหมือนลอยต่ำลงเหนือผู้คน
-ยังมีบางคนรายงานว่าเห็นสายประคำอยู่บนท้องฟ้า
-บ้างเห็นหน้าพระมารดาเจ้าในดวงอาทิตย์
-บ้างก็เห็นพระมารดาเจ้าผู้งดงามพร้อมผ้าคลุม
-มีบางคนจากแบร์กาโมสังเกตเห็นดวงอาทิตย์มีสีซีดลง ขณะแผ่รังสีสีรุ้งไปรอบๆทั่วทุกทิศทาง
-ผู้คนยังเห็นลำแสงสีเหลืองขนาดใหญ่สาดลงในแนวตั้งฉากกับตำบลไยแยอย่างพอดิบพอดีอีกด้วย
teyteybboy
โพสต์: 413
ลงทะเบียนเมื่อ: พฤหัสฯ. ธ.ค. 22, 2011 8:16 pm

พฤหัสฯ. พ.ย. 13, 2014 8:24 pm

การประจักษ์ครั้งที่ 10 วันอาทิตย์ที่ 28 พฤษภาคม ค.ศ.1944
เวลา 18.00 น.
พยาน : ประมาณสองแสนคน
ภาพนิมิต : แม่พระพร้อมสองนักบุญ

เป็นระยะเวลานับหนึ่งสัปดาห์ที่พระมารดาเจ้าได้ทรงปล่อยให้อาเดไลเดให้เตรียมจิตใจของเธอ ให้พร้อมรับพระคริสตเจ้าในศีลมหาสนิท ในอารามของคณะซิสเตอร์อุร์สุลินที่แบร์กาโม และภายหลังจากเธอได้รับศีลมหาสนิทแล้ว ในเวลาบ่ายๆอาเดไลเดก็ถูกพากลับมายังสถานที่ประจักษ์เพื่อมาตามสัญญาของพระมารดาเจ้า และเมื่อถึงเวลาพระมารดเจ้าก็ทรงประจักษ์ในชุดสีแดง ผ้าคลุมสีเขียว สวมมงกุฎประดับด้วยไข่มุกสีต่างๆ ในมือของพระนางถือนกพิราบดำสองตัว อันหมายถึงความกลมเกลียวของคู่สมรสที่จำต้องมีเพื่อสร้างครอบครัวแห่งพระพรเฉพาะพักตร์พระมารดา
รูปภาพ
นอกจากนั้นที่ด้านข้างของพระมารดา ยังปรากฏมีนักบุญสองท่านปรากฏมา ท่านทั้งสองสวมชุดสีม่วงมีผ้าคลุมสีน้ำตาล พระมารดาเจ้ามิได้ทรงเปิดเผยแก่อาเดไลเดทั้งสองท่านนั้นเป็นใคร พระมารดาเจ้าเพียงตรัสว่า“จงสวดภาวนาเพื่อคนบาปทั้งหลายที่ดื้อดึง ผู้ทำให้ดวงหทัยของฉันต้องทุกข์ทรมาน เพราะพวกเขาไม่ยอมคิดถึงความตายเลย จงสวดภาวนาเพื่อสันตะบิดรผู้กำลังมีชีวิตอยู่ท่ามกลางความยากลำบาก พระองค์ได้รับการปฏิบัติอย่างไม่ดีต่อพระองค์ด้วยหลายและหลายความพยายามที่จะลอบปลงพระชนม์พระองค์ ฉันจะปกป้องพระองค์ และพระองค์จะไม่ทรงเสด็จออกจากวาติกัน สันติภาพจะมาถึงเร็วๆนี้ แต่ฉันห่วงเรื่องสันติภาพของโลกซึ่งทุกคนรักกันฉันพี่น้อง วิธีนี้เท่านั้นที่พระสันตะปาปาจะทรงรับทุกข์ยากน้อยลง”

นอกจากนั้นพระมารดาเจ้ายังได้สอนอาเดไลเดอีกว่าการเจริญชีวิตครอบครัวแห่งพระพรจะไม่มีทางเกิดได้โดยมิได้เจริญชีวิตฝากความอารักขาไว้ ในหัตถ์ของพระมารดาเจ้า และแม้ตลอดการประจักษ์พระมารดาเจ้าจะมิได้ทรงเผยนามของท่านนักบุญทั้งสอง เพียงแต่มองไปยังพวกท่านก่อนจะค่อยๆหายไป อาเดไลเด ก็ได้รับการดลใจให้เข้าในว่าท่าทั้งสองนั้นคือ นักบุญยูดา และนักบุญมัทธิว ผู้นิพนธ์พระวรสาร
นักบุญยูดา คือ ต้นแบบของการเป็นธรรมทูตและการเป็นใช้ชชีวิตเป็นพยานเพื่อประโยชน์ทั้งขแงพระเยซูเจ้า และพระมารดาเจ้าเอง พร้อมกันนั้นยังเป็นเครื่องหมายถึงความทุกข์ยากที่อาเดไลเดจะต้องพบตามคำทำนายของพระนาง
นักบุญมัทธิว คือ ต้นแบบของความมั่นใจในความรอดเพราะท่านเคยเป็นคนบาป แต่ได้สละทุกสิ่งและติดตามพระเยซูเจ้า และได้เป็นอัครสาวกแห่งพระนามอันศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์
รูปภาพ
อัศจรรย์ดวงอาทิตย์

จากวารสารของตำบลตาเวรโนรา ประจำเดือนมิถุนายน ค.ศ.1944 “เวลาสิบแปดนาฬิกา ฝูงชนต่างสังเกตเห็นแสงอาทิตย์จางๆพร้อมกับแสงแลบ เหมือนฟ้าผ่า ปรากฏการณ์นี้ถูกสังเกตเห็นเป็นครั้งแรกผู้เล่นที่มีหน้าขว้างบอลในเกมส์คริกเก็ตบางคน ดวงอาทิตย์กลายเป็นสีเขียว จากนั้นก็สีแดง ก่อนตามด้วยสีเหลืองทอง ซึ่งนอกจากนั้นแล้วมันยังหมุนเคว้ง ฝ่ายฝูงชนที่เห็นเหตุนั้นก็ต่างพากันออกมาตามท้องถนน… ”
teyteybboy
โพสต์: 413
ลงทะเบียนเมื่อ: พฤหัสฯ. ธ.ค. 22, 2011 8:16 pm

พฤหัสฯ. พ.ย. 13, 2014 8:47 pm

การประจักษ์ครั้งที่ 11 วันจันทร์ที่ 29 พฤษภาคม ค.ศ.1944
เวลา 18.00 น.
พยาน : ประมาณสามแสนคน
ภาพนิมิต : พระมารดาเจ้าพร้อมบรรดาทูตสวรรค์

บัดนี้ข่าวการประจักษ์ของพระมารดาเจ้ายังตำบลไยแย ได้แพร่ไป จนมีคนป่วยมากมายต่างหลั่งไหลมายังที่นี่ และก็ได้เกิดอัศจรรย์การรักษามากมายเสียจนแบร์กาโมคูเรียถึงกับต้องตั้งคณะกรรมการตรวจสอบเรื่องนี้เป็นพิเศษขึ้น
รูปภาพ
ในวันนี้พระมารดาเจ้าทรงประจักษ์มาในชุดสีแดง ผ้าคลุมสีเขียว พร้อมทูตสวรรค์บางองค์ นำมาโดยสองนกพิราบขาวหน้าจุดสว่าง พระมารดาเจ้าทรงถือนกพิราบดำสองตัวไว้ในมือและมีสายประคำอยู่ที่แขนของพระนางเอง พระมารดาเจ้าทรงยิ้มให้หนูน้อยอาเดไลดา ก่อนจะเริ่มตรัสว่า “บรรดาผู้ป่วยที่ต้องการการรักษาต้องวางใจในฉันให้มากๆและต้องยกถวายความทุกข์ยากของพวกเขาหากพวกเขาต้องการสวรรค์ หากพวกเขาไม่ปฏิบัติเช่นนี้แล้ว พวกเขาจะไม่ได้รับรางวัลใดทั้งสิ้นและจะได้รับการลงทัณฑ์อย่างรุนแรงแทน ฉันหวังว่าทุกๆคนที่ได้รับรู้คำของฉันแล้วจะเพียรพยายามทุกวิถีทางเพื่อให้ได้มาซึ่งสวรรค์ บรรดาผู้ทุกยากทั้งหลายที่มิได้ปริปากบ่นจะได้ตามที่เขาขอจากพระบุตรของฉันและฉันด้วย จงสวดภาวนาให้มากๆเพื่อบรรดาผู้ป่วยฝ่ายจิต พระบุตรเยซูของฉัน สิ้นพระชนม์บนกางเขนก็เพื่อกอบกู้พวกเขา หลายคนเหลือเกินยังไม่เข้าใจคำของฉัน นั่นแหละคือเหตุผลที่ฉันต้องระทมทุกข์เป็นยิ่งนัก”

การประจักษ์ในวันนี้จบลงด้วยการส่งจูบจากพระมารดาเจ้ามายังหนูน้อยอาเดไลเดด้วยนิ้วหัวแม่มือและนิ้วชี้ของพระนาง ก่อนที่นกพิราบสองตัวจะค่อยๆกระพือปีกอยู่ข้างๆพระมารดเจ้าและพาพระนางค่อยไกลๆจากเธอไปในที่สุด
teyteybboy
โพสต์: 413
ลงทะเบียนเมื่อ: พฤหัสฯ. ธ.ค. 22, 2011 8:16 pm

พฤหัสฯ. พ.ย. 13, 2014 9:05 pm

การประจักษ์ครั้งที่ 12 วันจันทร์ที่ 30 พฤษภาคม ค.ศ.1944
เวลา 18.00 น.
พยาน : ประมาณสองแสนห้าหมื่นคน
ภาพนิมิต : พระมารดาเจ้าพร้อมบรรดาทูตสวรรค์

วันนี้จัดเป็นวันที่ร้อนมากๆ ร้อนแบบอบอ้าวจนเกินจะเยียวยา ชนิดยากจะทนได้ในฝูงชนที่เบียดสียดเพื่อชมการประจักษ์ และเมื่อเวลามาถึงพระมารดาเจ้าก็ทรงประจักษ์มาในชุดสีชมพูพร้อมผ้าคลุมหน้าสีขาว พระนางถือนกพิราบดำ รอบๆพระนางก็ปรากฏมีทูตสวรรค์อยู่รายล้อมเท่านั้น พระมารดเจ้าทรงยิ้มให้แก้อาเดไลเด ก่อนจะทรงตรัสกับเธอว่า “เด็กน้อยที่รัก หนูเป็นของฉันทั้งครบแล้ว แต่แม้ว่าหนูจะเป็นดั่งแก้วตาดวงใจของดวงหทัยฉัน พรุ่งนี้ฉันก็ต้องทิ้งหนูไว้ในหุบเขาแห่งความเศร้าและน้ำตานี้ หนูจะได้เห็นฉันอีกครั้งก็ในเวลาใกล้จะตาย ฉันจะพาหนูไปสวรรค์ภายใต้ผ้าคลุมของฉัน ฉันก็จะยังเข้าใจหนูและความทุกข์ของหนูด้วยตัวฉันเสมอ”

ตรัสเสร็จพระมารดาจึงอวยพรอาเดไลเด ก็หายไปอย่างรวดเร็ว ต่างจากทุกวัน
รูปภาพ
teyteybboy
โพสต์: 413
ลงทะเบียนเมื่อ: พฤหัสฯ. ธ.ค. 22, 2011 8:16 pm

พฤหัสฯ. พ.ย. 13, 2014 9:43 pm

การประจักษ์ครั้งที่ 13 วันพุธที่ 31 พฤษภาคม ค.ศ.1944 , ครั้งสุดท้าย
เวลา 20.00 น.
พยาน : ประมาณสามแสนห้าหมื่นคน
ภาพนิมิต : ครอบครัวศักดิ์สิทธิ์

เนื่องจากเป็นการประจักษ์ครั้งสุดท้ายจึงมีคนมากมายหลั่งไหลกันมายังที่นี่จนมืดฟ้ามัวดิน อาเดไลเดถูกพามายังสานที่ประจักษ์ในเวลาราวหกโมงครึ่ง ตลอดเวลาก่อนการประจักษ์อาเดไลเดได้บ่นถึงความทุกข์ถายในใจน้อยๆของเธอ แต่ถึงกระนั้นเธอก็เฝ้าคอยพระมารดาเจ้าอย่างใจเย็น แม้นจะรู้เต็มอกว่านี่จะเป็นครั้งสุดท้ายที่เธอจะได้เห็นพระมารดาเจ้า ก่อนจะได้เห็นอีกครั้งในขณะจะสิ้นใจ แต่แม้นจะเศร้าเช่นนี้อาเดไลเดก็ไม่ยอมกลับบ้านตามคำเกลี้ยกล่อมของครอบครัว ในวันนั้นมีแพทย์หลายคนได้มาสังเกตการณ์ด้วย
รูปภาพ
และฉับพลันเธอก็พุดลุกขึ้นก่อนจะเริ่มสวดภาวนา จากนั้นสักครู่หนึ่งจึงบอกว่า “พระนางกำลังจะมาแล้ว” ก่อนเธอจะถอนหายใจลึกๆ แล้วทั่วทั้งใบหน้าโดยเฉพาะดวงตาของเธอก็กลายสดใส บัดนี้ครอบครัวศักดิ์สิทธิ์ได้มาอยู่เบื้องหน้าเธอแล้ว พระมารดาเจ้าวันนี้ทรงสวมชุดเหมือนในการประจักษ์วันแรก พระนางยิ้ม แต่มิได้ร่าเริงเหมือนครั้งก่อน แต่ด้วยเสียงอันอ่อนหวานพระมารเจ้าจึงประทานสารสุดท้ายแก่อาเดไลเดว่า
“ลูกสาวของฉัน ฉันขอโทษที่ฉันต้องทิ้งหนูไป แต่เวลาของฉันได้หมดลงแล้ว อย่าเสียใจไปเลยถ้ากนูจะไม่ได้เห็นฉันเพียงครู่หนึ่ง จงคิดถึงสิ่งที่ฉันได้บอกแก่หนูไป ฉันจะกลับมาในเวลาสุดท้ายของหนู หนูจะเป็นมรณสักขีน้อยๆในหุบเข้าแห่งความทุกข์อันแท้จริงนี้ อย่าท้อใจไปเลย ฉันหวังว่าชัยชนะของฉันจะเกิดขึ้นในเร็วๆนี้ จงสวดภาวนาเพื่อพระสันตะปาปาและทูลพระองค์ให้ทรงปฏิบัติหน้าที่อย่างรวดเร็วเพราะฉันต้องการความร้อนรนแก่ทุกๆคนในสถานที่นี้ ส่วนสิ่งใดที่ต้องการจากฉัน ฉันก็จะร้องขอพระบุตรของฉันเพื่อมัน ฉันจะเป็นรางวัลของหนูถ้าความเป็นมรณสักขีของหนูเป็นความชื่นบาน คำพูดเหล่านี้ของฉันเองที่จะปลอบประโลมหนูในการทดลอง จงอดทนต่อทุกสิ่งด้วยความเพียรและหนูก็จะได้พบฉันในสวรรค์ บรรดาผู้ตั้งใจทำให้หนูต้องทุกข์ยากจะไม่ได้ไปสวรรค์หากพวกเขาไม่ยอมชดเชยบาปผิดของพวกเขาและกลับใจอย่างสุดซึ้ง สู้ๆนะ เพราะพวกเราจะได้พบกันอีกครั้ง มรณสักขีน้อยที่รักของฉัน”

“ฉันรู้สึกถึงจูบอันอ่อนหวานและอ่อนโยนบนหน้าผากของฉัน แล้วพระนางก็ทรงหายไปเหมือนที่พระนางทรงเคยทำมาทุกๆเย็น”
จากสมุดบันทึกของอาเดไลเด
รูปภาพ
teyteybboy
โพสต์: 413
ลงทะเบียนเมื่อ: พฤหัสฯ. ธ.ค. 22, 2011 8:16 pm

พฤหัสฯ. พ.ย. 13, 2014 10:15 pm

ประวัติของอาเดไลเด
รูปภาพ
อาเดไลเด รอนกัลลี เกิด เมื่อวันที่ 23 เมษายน ค.ศ.1937ที่บ้านเลขที่ 11 หมู่บ้านโตรกีโร ในตำบลไบแบ ดี โบนาเต บิดามารดาคือนายเอนรีโก ที่ทำงานเป็นลูกจ้างโรงงานท้องถิ่น กับอันนา แม่บ้าน ที่มีลูกด้วยกันแปดคนคือ ลุยจิ กาเตรีนา วิตตอรีอา มารีอาอาเดไลเด ปัลมีนา อันนูนเซียตา โรมานา และเฟเดริกา อาเดไลเดเป็นเหมือนเด็กหญิงทั่วไปเธอเข้าโรงเรียนประถม เธอมีสุขภาพดี ร่าเริงและสนุกกับการเล่นตลอดทั้งวัน
รูปภาพ
กระทั้งครอบครัวศักดิ์ได้ประจักษ์มาหาเธอในบ่ายวันที่ 13 พฤษภาคม ค.ศ.1944 ในขณะที่โลกกำลังลุกเป็นไฟด้วยสงครามพระมารดาเจ้าทรงเลือกเธอเพื่อเป็นผู้มอบสารจากพระนางไปสู่บรรดานานาชาติดั่งที่ฟาติมาเป็นระยะเวลาถึงสิบสามครั้งในสองช่วงคือระหว่างวันที่ 13 ถึง 21 พฤษภาคมและในวันที่ 28 ถึง 31 พฤษภาคม ปีเดียวกัน
รูปภาพ
ภายหลังจากการประจักษ์จบลง คำทำนายที่พระมารดาเจ้าทรงมอบแด่เธอก็เป็นจริง เธอถูกข่มขู่ ถูกทรมานจิตใจต่างๆนานา จากบรรดาผู้ไม่หวังดีทั้งหลาย เธอถูกเย้ยหยันประหนึ่งเป็นคนบ้า คนหลอกลวง จนอายุ 15 ปี เธอก็ได้เข้าอารามคณะซากราเมนติน แต่ก็ถูกกลั่นแกล้งต่างๆบีบให้เธอต้องออกจากอาราม เธอจึงจำต้องออกจากอารามของคณะ และที่สุดเธอก็ได้ตัดสินใจย้ายไปอยู่ดูแลผู้ป่วยที่มิลาน พลางเก็บความลับเรื่องการประจักษ์นี้ไว้
รูปภาพ
พิธีปลงศพของอาเดไลเด ณ ไยแย
ที่สุดภายหลังจากการสังคายนาวาติกันที่สอง เธอก็ตัดสินใจออกมายืนยันถึงความจริงของการะประจักษ์อีกครั้งต่อหน้าสาธารณชน ไปจนกระทั้งเธอสิ้นใจลงในวันที่ 24 สิงหาคม ค.ศ.2014 ในโรงพยาบาลที่มิลาน ด้วยอายุ 77 ปี พร้อมคำพูดสุดท้ายว่า “เสด็จมาเถิด เสด็จมาเถิด” พิธีปลงศพของเธอถูกจัดขึ้น ณ ไยแย และเช่นเดียวกันเธอได้พำนักร่างของเธอ ณ ที่นี่ โดยมีผู้ร่สมพิธีในวันนั้นมากกว่าสองพันคน
teyteybboy
โพสต์: 413
ลงทะเบียนเมื่อ: พฤหัสฯ. ธ.ค. 22, 2011 8:16 pm

พฤหัสฯ. พ.ย. 13, 2014 10:37 pm

รูปภาพ
ภาพหินในปัจจุบันที่อาเดไลเดใช้ยื่นเวลาได้รับการประจักษ์
รูปภาพ
ภาพพระแท่นแม่พระตรงกลางบันไดบ้านอาเดไลเด
รูปภาพ
ภาพฝูงชนที่แห่แหนมายังไยแย
รูปภาพ
ภาพสถานที่ภายหลังการประจักษ์
รูปภาพ
ภาพอัศจรรย์ในปี ค.ศ.1999
รูปภาพ
ภาพรถเข็นอาเดไลเดใช้ ขณะได้รับการประจักษ์ครั้งแรก
รูปภาพ
ภาพอาเดไลเด ก่อนสิ้นใจไม่นาน
รูปภาพ
ภาพวัดแม่พระแห่งไยแยร์ ใน ปัจจุบัน
teyteybboy
โพสต์: 413
ลงทะเบียนเมื่อ: พฤหัสฯ. ธ.ค. 22, 2011 8:16 pm

พฤหัสฯ. พ.ย. 13, 2014 10:43 pm

รูปภาพ
“ในฟาติมาฉันเพิ่มการอุทิศตนต่อดวงหทัยนิรมลของฉัน ในโบนาติฉันพยายามแนะนำการอุทิศตนนี้สู่ครอบครัวคริสตชน”
สารแม่พระกุหลาบทิพย์แห่งมอนตีกีอารี แก่ เปียรีนา กิลลี ในการประจักษ์ครั้งที่ 6 วันที่7 ธันวาคม ค.ศ.1947
*อาจมีข้อผิดพลาดบ้างในการแปลก็ขออภัยมา ณ ที่นี้ เจตนาของผมเพียงต้องการแบ่งปันเรื่องราวการประจักษ์ ณ ที่แห่งนี้เท่านั้น
รุ่งอรุณ
โพสต์: 477
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ธ.ค. 06, 2010 9:26 pm
ที่อยู่: Bangkok

ศุกร์ พ.ย. 14, 2014 7:52 am

ขอบคุณสำหรับการแบ่งปันค่ะ

::013::
ภาพประจำตัวสมาชิก
rosa-lee
โพสต์: 5975
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 29, 2010 2:37 pm

ศุกร์ พ.ย. 14, 2014 7:27 pm

ดีมากเลยค่ะ น้องteyteybboy ที่เอาเรื่องดีดีมาแบ่งปัน
เสริมศรัทธาดีมากค่ะ ขอบคุณค่ะ.....
:s002:
kay-su
โพสต์: 68
ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ มี.ค. 17, 2012 7:04 am

จันทร์ พ.ย. 17, 2014 8:11 am

ขอบคุณที่เอามาแบ่งปันนะคะ
ภาพประจำตัวสมาชิก
sunofgod
โพสต์: 2477
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ ก.ย. 18, 2011 8:17 pm

เสาร์ พ.ย. 22, 2014 11:36 pm

ข้าแต่พระมารดาแห่งไยแยช่วยวิงวอนเทอญ
ภาพประจำตัวสมาชิก
siritawatss
โพสต์: 559
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ พ.ย. 18, 2012 8:11 pm
ที่อยู่: อ มะขาม จ จันทบุรี
ติดต่อ:

อาทิตย์ พ.ย. 30, 2014 7:13 pm

อ่านเสริมศรัทรารายละเอียดมากมาย ขอบคุณในความพยายามที่นำเรื่องดีๆมาแบ่งปันกันครับ :s002:
ภาพประจำตัวสมาชิก
Holy
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 10011
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:06 pm

อาทิตย์ ธ.ค. 07, 2014 3:27 am

ขอพระเจ้าประทานพระพรแก่ผู้แปลและแบ่งปัน
ตอบกลับโพส