หน้า 1 จากทั้งหมด 1

การประจักษ์ของพระพักตร์ศักดิ์สิทธิ์

โพสต์แล้ว: พุธ มี.ค. 04, 2015 3:14 pm
โดย teyteybboy
รูปภาพ
เกริ่นนำ

ในปี ค.ศ.1843 พระเยซูเจ้าและแม่พระได้ทรงประจักษ์มาหาซิสเตอร์รูปหนึ่งชาวฝรั่งเศส ในอารามคาร์แมลในทัวร์ ชื่อ ซิสเตอร์มารี แห่ง นักบุญเปโตร เพื่อกระตุ้นให้เธอความศรัทธาต่อพระพักตร์ศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งเป็นการชดเชยการดูหมิ่นต่างๆนานาที่พระเยซูเจ้าทรงได้รับ ระหว่างรับพระมหาทรมาน ทำให้นับจากนั้นความศรัทธานี้ก็เริ่มแพร่หลายในประเทศฝรั่งเศส และเกือบร้อยปีถัดมา พระองค์ก็ทรงเลือกซิสเตอร์อีกคนที่มีนามเดียวกัน ให้เป็นธรรมทูตพระพักตร์ศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์ โดยทรงสัญญาว่า “ทุกครั้งที่ใบหน้าของเราถูกใคร่ครวญ เราจะเทความรักลงมายังหัวใจทั้งหลายและอาศัยพระพักตร์นี้วิญญาณจำนวนมากก็จะได้รับความรอดพ้น”
และได้ทรงย้ำว่าความศรัทธานี้เป็นความศรัทธาที่จะเสริม ความศรัทธาต่อดวงพระหฤทัยของพระองค์ให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น
รูปภาพ
ซิสเตอร์มารี แห่ง นักบุญเปโตร

Re: การประจักษ์ของพระพักตร์ศักดิ์สิทธิ์

โพสต์แล้ว: พุธ มี.ค. 04, 2015 3:22 pm
โดย teyteybboy
รูปภาพ
ประวัติธรรมทูตแห่งพระพักตร์ศักดิ์สิทธิ์
1.วัยเยาว์
บุญราศีมารีอา เปียรีนา เด มิเกลี มีชื่อเดิมตามทะเบียนศีลล้างบาปว่า ยูเซปปีนา เกิดเมื่อวันที่ 11 กันยายน ค.ศ.1890 ที่มิลาน ประเทศอิตาลี และได้รับศีลล้างบาปที่วัดนักบุญเปโตร ซาลา ในวันเดียวกันกับที่เกิด โดยเป็รลูกคนสุดท้องจากลูกทั้งหมดสิบสามคนของลุยจีนา ราดีเช กับ เซซาเร เด มิเกลี สองสามีภรรยาครอบครัวชนชั้นกลางใจศรัทธาในเมืองมิลาน
แต่น่าเศร้าเพียงสองปีหลังจากลืมตาดูโลก บิดาของท่านก็มาด่วนเสียลง ทิ้งท่านให้ต้องเติบโตขึ้นมาในครอบครัวที่ขาดความรักจากบิดาและทุกข์ยากจากการขาดช้างเท้าหน้าอย่างบิดาท่าน
รูปภาพ
ภาพท่านในวัยเยาว์
2.ความสัมพันธ์พิเศษกับสวรรค์
จวบจนมีวัยได้ 7 ปี ในวันที่ 3 พฤษภาคม ค.ศ.1898 ท่านก็ได้รับศีลมหาสนิทครั้งแรก และเมื่อได้นึกย้อนถึงเหตุการณ์นี้ทีไร ท่านก็จะเต็มไปด้วยความยินดีเสมอ ท่านเห็นอะไร ท่านรู้อะไรในวันนั้น เราก็ไม่อาจทราบ กระทั้งในปี ค.ศ. 1943 หรือกว่า 45 ปีถัดมา ท่านจึงเผยเหตุการณ์ในวันนั้นในบันทึกว่า “ดิฉันได้แลเห็นพระกุมารในแผ่นศีล สวรรค์บนดินแท้ วันนี้ อาศัยความเชื่อเพียงอย่างเดียว ดิฉันก็ได้ทราบว่าพระองค์ทรงรักดิฉัน”
ภาพนิมิตนี้เป็นดั่งโหมโรงของชีวิตในภายภาคหน้า ที่ถูกเตรียมไว้เพื่อประกาศถึงความรักของพระเจ้า นับเป็นการเริ่มต้นของชีวิตแห่งพระหรรษทานและนิมิตพร้อมความทุกข์ยากร่วมกับพระคริสตเจ้า หลังจากภาพนิมิตนั้นอีกครั้งหนึ่ง ขณะท่านสวดภาวนาในวัด พระเยซูเจ้าบนไม้กางเขนก็กลับเป็นขึ้นมาและตรัสกับท่าน
หลังจากนั้นในวันศุกร์ศักดิ์สิทธิ์ ขณะมีอายุได้ 12 ปี เวลานั้นเป็นเวลาประมาณบ่ายสามโมง ขณะท่านอยู่ในวัด ท่านก็ก็ได้ยินเสียงหนึ่งตรัสกับท่านอย่างชัดเจนว่า
“ไม่มีใครมอบจูบแห่งรักให้พักตร์ของเราเพื่อชดเชยจูบของยูดาสเลย”
แต่ด้วยความไร้เดียงสาตามประสาเด็กๆ ท่านก็คิดว่าทุกคนได้ยินเสียงนี้เหมือนกับท่าน และรู้สึกเศร้าใจที่บาดแผลต่างๆกับได้รับการจูบ แต่พระพักตร์ของพระองค์ละ ไฉนไม่มีใครมอบจูบให้พระองค์เลย ท่านอุทานภายในใจว่า “ข้าแต่พระเยซูเจ้า อดทนหน่อยนะ ลูกจะมอบจูบแห่งรักให้พระองค์เอง” ก่อนจะออกมาและมอบจูบแด่พระพักตร์ของพระเยซูเจ้าบนกางเขนด้วยความรัก
รูปภาพ

Re: การประจักษ์ของพระพักตร์ศักดิ์สิทธิ์

โพสต์แล้ว: พุธ มี.ค. 04, 2015 3:34 pm
โดย teyteybboy
3.เข้าอารามคณะธิดาแม่พระผู้ปฏิสนธินิรมลแห่งกรุงบัวโนส ไอเรส

การเป็น “เจ้าสาว” นับเป็นความฝันอีกหนึ่งฝันของผู้หญิงหลายๆคน ท่านก็เช่นกันท่านก็มีความฝันที่จะเป็น “เจ้าสาว” แต่ไม่ใช่เจ้าสาวฝ่ายโลก แต่คือเจ้าฝ่ายจิตหรือคือ “เจ้าสาวของพระคริสต์” มาตั้งแต่เล็กๆ แล้วจะเข้าคณะไหนละ คำตอบนี้ไม่ได้ไกลไปไหน ภายหลังจากแสวงหาคำตอบท่านก็ตัดสินใจสมัครเข้าคณะธิดาแม่พระผู้ปฏิสนธินิรมลแห่งกรุงบัวโนส ไอเรส ที่มาตั้งอารามยังมิลานใกล้ๆบ้านครอบครัวท่าน ตั้งปี ค.ศ.1912 ในวันที่ 15 ตุลาคม ค.ศ.1913 ขณะอายุได้ 23 ปี
รูปภาพ
ภาพท่านและมารดา
และในฐานะนวกะหรือโนวิสของคณะ ท่านก็ได้รับอนุญาตให้เฝ้าศีลตอนกลางคืนในช่วงระหว่างคืนของวันเสาร์ศักดิ์สิทธิ์ถึงศุกร์ศักดิ์สิทธิ์ได้ และในขณะที่ท่านกำลังสวดภาวนาอยู่เบื้องหน้ากางเขนนั้นเอง ท่านก็ได้ยินเสียงตรัสว่า
“จูบเรา”
ดังนั้นท่านจึงได้ประทับจูบลงบนพระพักตร์ของพระองค์ และทันทีท่านก็สัมผัสได้ว่า นี่ไม่ใช่ปูนปาสเตอร์ที่ท่านกำลังจูบ แต่เป็นพระพักตร์อันแท้จริงของพระเยซูเจ้า จนเมื่อคุณแม่อธิการมาเรียกท่านในตอนเช้า หัวใจของท่านเออล้นไปด้วยความทรมานของพระเยซูคริสตเจ้าความปรารถนาที่จะชดเชยบาปผิดที่พระพักตร์ของพระองค์ทรงได้รับ และความปรารถนาที่จะรับศีลในมิสซาทุกๆวัน

ท่านได้เข้าพิธีปฏิญาณตนครั้งแรกในวันที่ 23 พฤษภาคม ค.ศ.1915 พร้อมได้รับนามใหม่ว่า “ซิสเตอร์มารีอา เปียรีนา” ก่อนในปี ค.ศ.1919 ท่านจะถูกส่งไปยังบ้านแม่ของคณะที่กรุงบัวโนส ไอเรส ประเทศอาเจนตินา ที่นั่นวันหนึ่งซึ่งตรงกับวันที่ 12 เมษายน ค.ศ.1920 ด้วยความทุกข์ใจ ท่านจึงบ่นกับพระเยซูเจ้า ทันใดพระองค์ก็ทรงปรากฏพระองค์ขึ้นในสภาพเต็มไปด้วยคราบพระโลหิตทั่วพระวรกาย พระพักตร์เศร้าเวลาเดียวกันก็เปี่ยมด้วยรัก ท่านบรรยายในบันทึกว่า “ดิฉันจะไม่มีทางลืมวันนั้น” พระองค์ทรงตรัสกับท่านว่า “และอะไรที่เราได้ทำลงไปละ” ทันทีท่านก็เข้าใจและนับจากวันนั้นมาพระพักตร์ศักดิ์สิทธิ์กลายมาเป็นหนังสือรำพึงและประตูสู่ดวงพระหฤทัยของท่าน
รูปภาพ
ภาพท่านและคุณแม่เอาตานิสลาดา
ภายหลังปฏิญาณตนตลอดชีพแล้วในปี ค.ศ.1921 ท่านก็เดินทางกลับมายังอิตาลีและยังคงได้รับพระหรรษทานต่างๆพร้อมความทุกข์ยากตลอด ท่านรับหน้าที่เป็นนวกจารย์ของคณะ จวบจนปี ค.ศ.1928 เนื่องจากคุณแม่เอสตานิสลาดา อธิการประจำอารามได้รับการเลือกตั้งเป็นมหาอธิการิณี จึงจำต้องไประจำบ้านที่กรุงบัวโนส ไอเรส ดังนั้นท่านจึงได้รับเลือกให้เป็นคุณแม่อธิการสืบต่อ และได้ดำรงตำแหน่งอีกสองครั้งคือในปี ค.ศ.1932 และ ค.ศ.1936

Re: การประจักษ์ของพระพักตร์ศักดิ์สิทธิ์

โพสต์แล้ว: พุธ มี.ค. 04, 2015 3:38 pm
โดย teyteybboy
4.พระพักตร์ศักดิ์สิทธิ์
รูปภาพ
ตลอดหลายปีที่ผ่านมาพระเยซูเจ้ามักปรากฏพระองค์มาในสภาพไม่เศร้าก็เต็มไปด้วยพระโลหิต ขอให้ท่านชดเชยบาปผิด อันหมายถึงการเพิ่มความปรารถนาที่จะรับความทุกข์ยากและถวายตนเป็นยัญบูชาเพื่อความรอดของวิญญาณทั้งหลาย กระทั้งในคืนของศุกร์แรกของเทศกาลมหาพรตปี ค.ศ.1936 ขณะท่านเฝ้าศีล พระองค์ก็ทรงให้ท่านได้ร่วมในความทุกข์ระทมในวิญญาณของพระองค์ในสวนเกทเสมณี ด้วยพระพักตร์เศร้าสร้อยที่อาบนองไปด้วยพระโลหิต พระองค์ก็ทรงเผยถึงความปรารถนาของพระองค์ต่อท่านว่า
“เราหวังให้ใบหน้าของเราอันสะท้อนให้เห็นถึงความทุกข์ในวิญญาณเราอย่างใกล้ชิด ความทรมานและความรักในดวงหทัยของเรา จะได้รับการถวายเกียรติมากขึ้น ผู้ใดก็ตามที่ใครครวญถึง เขาก็จะปลอบประโลมเรา”
หลังจากนั้นในวันอังคารหลังจากวันอาทิตย์พระมหาทรมาน พระเยซูเจ้ากลับมาหาท่านอีกครั้ง ทรงตรัสว่า
“ทุกครั้งที่ใบหน้าของเราถูกใคร่ครวญ เราจะเทความรักลงมายังหัวใจทั้งหลายและอาศัยพระพักตร์นี้วิญญาณจำนวนมากก็จะได้รับความรอดพ้น”
รูปภาพ
ก่อนที่ในวันอังคารแรกของปี ค.ศ.1937 ขณะท่านกำลังสวดภาวนา พระเยซูเข้าก็ทรงประจักษ์มาหาท่านอีกครั้ง พระองค์ทรงสั่งให้ท่านเผยแพร่ความศรัทธาต่อพระพักตร์ศักดิ์สิทธิ์ และได้อธิบายกับท่านในตอนท้ายว่า
“บางทีวิญญาณหลายดวงเกรงอาจว่าความศรัทธาพิเศษต่อพระพักตร์ของเรานี้จะไปลดทอนดวงหฤทัยของเรา ได้ จงไปบอกเขาเถิดว่า ในทางตรงกันข้าม มันจะยิ่งบริบูรณ์และทำให้มันยิ่งงอกเงยขึ้น การใคร่ครวญถึงพระพักตร์ของเรา วิญญาณทั้งหลายจะได้มีส่วนร่วมในความทุกข์ของเราและจะได้รู้สึกถึงความต้องการความรักและการชดเชย นี่ไม่ใช่ความศรัทธาอย่างงถูกต้องต่อดวงหฤทัยของงั้นหรือ”

Re: การประจักษ์ของพระพักตร์ศักดิ์สิทธิ์

โพสต์แล้ว: พุธ มี.ค. 04, 2015 3:44 pm
โดย teyteybboy
5.สายจำพวกพระพักตร์ศักดิ์สิทธิ์
รูปภาพ
หลังจากนั้นอีกครั้งขณะที่อยู่ในวัดน้อยของอารามในเวลากลางคืนของวันที่ 31 พฤษภาคม ค.ศ.1938 พระมารดาพระเจ้าก็ได้ทรงพระดำเนินลงมาจากพระแท่นท่ามกลางแสงสว่าง พร้อมด้วยสายจำพวกในมือ ลักษณะเป็นผ้าสักหลาดสองชิ้นเล็กๆ เชื่อมด้วยสาย ที่ผ้าชิ้นหนึ่งมีรูปพระพักตร์ศักดิ์สิทธิ์ของพระเยซูเจ้าพร้อมอักษรจารึกว่า “Iliumina Domine Vultum Tuum Super Nos” หรือ “ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า ขอความสว่างของพระพักตร์ ฉายแสงมายังลูกทั้งหลายเถิด” และอีกด้านเป็นรูปแผ่นปังล้อมรอบด้วยรัศมี พร้อมอักษรว่า “Mane Nobiscum Domine” หรือ “ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า โปรดพักกับลูกก่อนเถิด”พระนางดำเนินลงมาใกล้กับท่านก่อนเริ่มตรัส
“จงฟังอย่างรอบคอบและไปบอกทุกสิ่งกับคุณพ่อ(คุณพ่อวิญญาณของท่าน) สายจำพวกนี้คือเกราะป้องกัน คือโล่อันแข็งแกร่ง คือเครื่องประกันถึงพระเมตตาที่พระเยซูเจ้าทรงประสงค์ประทานแก่โลกในเวลานี้ เวลาของโลกีย์และการต่อต้านพระเจ้าพร้อมพระศาสนจักรของพระองค์ บรรดาอัครสาวกแท้มีน้อยเหลือเกิน ยาของพระเจ้าจึงเป็นสิ่งจำเป็นนัก และยานั้นก็คือพระพักตร์ศักดิ์สิทธิ์ของพระเยซูเจ้าทุกคนที่สวมสายจำพวกแบบนี้และทำตามนี้ หากเป็นไปได้ก็ให้ไปเฝ้าศีลทุกวันอังคารเพื่อชดเชยความขมขื่นที่พระเยซูเจ้าบุตรของแม่ได้รับระหว่างรับมหาทรมาน และก็ยังคงได้รับในศีลมหาสนิททุกๆวัน
จะมีความเชื่อที่เข้มแข็งและพร้อมเสมอที่จะปกป้องมัน
จะเอาชนะความยากลำบากทุกอย่าง ทั้งภายในและภายนอก
และพวกเขาจะได้สิ้นใจอย่างสงบภายใต้สายพระเนตรเปี่ยมรักของพระบุตรของแม่”

นับเป็นการเร่งเร้าให้ท่านเร่งทำงานนี้มากขึ้น แต่ท่านก็ตอบพระแม่ไปว่างานนี้ไม่ได้อยู่ในอำนาจของท่านที่จะทำตามนั้น เพราะต้องรับคำอนุญาตจากคุณพ่อวิญญาณของท่านและเงินทุนจำนวนหนึ่ง
รูปภาพ
หลังจากนั้นพระเยซูเจ้าก็ประจักษ์มากอีกครั้งในปีเดียวกันด้วยพระโลหิตอาบนอง พระองค์ตรัสอย่างเศร้าสร้อยกับท่านว่า
“ลูกเห็นไหมว่าเราต้องทรมานแค่ไหน แต่กระนั้นก็เถอะ ก็น้อยเหลือเกินที่จะเข้าใจเราได้ คนเหล่านั้นที่บอกว่าพวกเขารักเราคือคนที่เนรคุณมากที่สุด เราได้มอบดวงหทัยของเราให้เป็นดั่งเครื่องหมายอันเห็นได้ชัดของความที่เรามีต่อมนุษย์ และเราก็ได้มอบใบหน้าของเราให้เป็นดั่งเครื่องหมายอันเห็นได้ชัดถึงความทุกข์ของเราเพื่อบาปทั้งหลายของมวลมนุษย์ เราปรารถนาให้มันได้รับการถวายสักการะโดยวันฉลองพิเศษในวันอังคาร ก่อนวันพุธรับเถ้า เราปรารถนาให้ก่อนวันฉลองมีการทำนพวารเพื่อชดเชยเรา รวมและมีส่วนร่วมในความทุกข์ของเรา”
และทรงตรัสกับท่านอีกครั้งในปี ค.ศ.1939 อีกว่า
“เราปรารถนาให้พักตร์ของเราได้รับเกียรติเป็นพิเศษในทุกๆวันอังคาร”

Re: การประจักษ์ของพระพักตร์ศักดิ์สิทธิ์

โพสต์แล้ว: พุธ มี.ค. 04, 2015 3:53 pm
โดย teyteybboy
6.การจัดสร้าง – การโจมตีของปีศาจ

กระทั้งในปี ค.ศ.1939 ท่านได้รับหน้าที่ให้ดูแลการวารากฐานบ้านของคณะในกรุงโรม และได้รับเลือกให้เป็นคุณแม่อธิการที่นั่นตั้งแต่เดือนกันยายนปีเดียวกันจนสิ้นชีวิต นอกจากนี้ในปีถัดมา ท่านก็ได้รับเลือกให้เป็นเจ้าคณะแขวงของคณะในอิตาลี
รูปภาพ
ภาพท่านกับมหาอธิการิณีระหว่างการก่อสร้างบ้านคณะในโรม
เป็นเวลานี้เอง ที่ท่านรู้สึกถึงความปรารถนาของแม่พระมากขึ้นและมากขึ้นอย่างแรงกล้า และเมื่อได้รับคำอนุญาตจากคุณพ่อวิญญาณณารักษ์ของท่าน คุณพ่ออิลเดบรันโด เกรโกรี แม้จะไม่มีทุนอะไรใดๆทั้งสิ้นในเวลานั้น ท่านก็ได้เริ่มงานของพระเยซูเจ้าและแม่พระ เริ่มจากการไปขอสำเนาภาพถ่ายผ้าห่อศพที่ถ่ายโดยนายโยวันนี บรูเนร เพื่อเป็นต้นแบบ ตามด้วยการขออนุญาตจากอัครสังฆณฑลมิลานในการจัดทำดังนั้น ซึ่งก็ได้คำอนุญาตและพรเป็นอย่างดีจากพระคุณเจ้าพระคาร์ดินัลชูสเตร ในวันที่ 9 สิงหาคม ค.ศ.1940
รูปภาพ
ภาพต้นแบบ
แล้วจะเอาเงินที่ไหนจ่ายละ? แม้จะหาทุนไม่ได้ท่านก็ไม่ลดละที่จะเชื่อ จนวันหนึ่งอัศจรรย์ก็บังเกิดขึ้น ท่านพบซองจดหมายบนโต๊ะและเมื่อเปิดออกท่านก็พบเงินจำนวน 11,200 ลีร์ ครบจำนวนที่ต้องการพอดี เรื่องนี้ยังความไม่พอใจแก่พวกปีศาจเป็นยิ่งนัก จนทำให้พวกบ้าคลั่ง พวกมันพยายามขู่และป้องกันการเผยแพร่เหรียญ มันโยนท่านลงบนทางเดิน ฉีกภาพวาดและภาพถ่ายของพระพักตร์ศักดิ์สิทธิ์ แต่เหล่านี้ก็ไม่ทำให้ท่านหวั่นไหว ตรงข้ามท่านรับแบกมันด้วยความอดทนและเสียสละเพื่อที่ว่าพระพักตร์ศักดิ์สิทธิ์จะได้รับการถวายเกียรติ
รูปภาพ
ภาพบุญราศีพระคุณเจ้าอัลเฟรโด อิลเดฟอนโซ ชูสเตร ผู้อนุมัติ

Re: การประจักษ์ของพระพักตร์ศักดิ์สิทธิ์

โพสต์แล้ว: พุธ มี.ค. 04, 2015 4:00 pm
โดย teyteybboy
7.เหรียญพระพักตร์ศักดิ์สิทธิ์

เนื่องจากท่านนบนอบต่อคุณพ่อวิญญาณณารักษ์ ให้ทำเหรียญแทนสายจำพวก ซึ่งทำให้ท่านรู้สึกเป็นห่วงมากเพราะท่านรู้สึกว่าถูกเรียกร้องให้ทำสายจำพวก เวลาเช่นนี้ท่านจึงหันหน้าไปหาแม่พระเพื่อวิงวอนขอความสงบในจิตใจ กระทั้งวันที่ 17 เมษายน ค.ศ.1943 แม่พระก็ทรงประจักษ์มาหาท่านและทรงตรัสไขข้อข้องใจของท่านว่า
“ลูกสาวของแม่ จงมั่นใจเถิด การที่สายจำพวกถูกแทยที่ด้วยเหรียญมีคำสัญญาและพระหรรษทานเดียวกัน มันจะต้องได้รับการเผยแพร่ไปอย่างกว้างขวาง เวลานี้ใจของแม่อยู่ที่งานฉลองพระพักตร์ของพระบุตรของแม่ ไปบอกพระสันตะปาปาว่าแม่ต้องการสิ่งนี้”
ฉะนั้นเมื่อปราศจากข้อกังขาใดๆแล้ว ท่านจึงเริ่มเผยแพร่ความศรัทธาเป็นพิเศษต่อพระพักตร์ศักดิ์สิทธิ์และเหรียญ ตามคำพูดที่ท่านเคยกล่าวไว้ “ดิฉันปรารถนาในสิ่งที่พระเจ้าทรงปรารถนา” และก็ได้เกิดอัศจรรย์มากมายขึ้นจากเหรียญนี้
รูปภาพ
8.มรณกรรม
“ให้พระเยซูเจ้า ให้ทุกอย่าง ให้เสมอ” เป็นคำขวัญของท่าน ในวันที่ 7 มิถุนายน ค.ศ.1945 ท่านก็ได้ขอกลับไปยังมิลาน และได้ถึงแก่มรณกรรมอย่างสงบที่เซนโตนารา ดาโต ในเมืองเวรบาเนีย ตอนเหนือของประเทศอิตาลี ในวันที่ 26 กรกฎาคม ค.ศ.1945 ท่ามกลางบรรดาลูกๆวิญญาณในวัย 54 ปี หลังจากนั้นอีก 13 ปีคือในปี ค.ศ.1958 ความปรารถนาชิ้นสุดท้ายก็สำเร็จ สมเด็จพระสันตะปาปาปิอุสที่ 12 ทรงอนุมัติงานฉลองพระพักตร์ศักดิ์สิทธิ์ให้เป็นตามคำขอของพระเยซูเจ้าก็คือในวันอังคารก่อนวันพุธรับเถ้า
และได้รับการบันทึกนามในสารบบบุญราศีในวันที่ 30 พฤษภาคม ค.ศ.2010 ณ มหาวิหารซานตามาเรีย มัจจอเร
รูปภาพ
“ดิฉันรู้สึกถึงความปรารถนาลึกๆ ที่จะดำรงอยู่เป็นหนึ่งเดียวกับพระเยซูเจ้า ที่จะรักพระองค์อย่างแรงกล้า ด้วยมีความตายของดิฉันเท่านั้นที่จะสามารถส่งรักไปพร้อมเจ้าบ่าวของดิฉัน พระเยซูเจ้า”
จากบันทึกของท่านลงวันที่ 19 กรกฎาคม ค.ศ.1941

Re: การประจักษ์ของพระพักตร์ศักดิ์สิทธิ์

โพสต์แล้ว: พุธ มี.ค. 04, 2015 4:06 pm
โดย teyteybboy
9.บางส่วนจากบันทึก
รูปภาพ
-อย่าปฏิเสธสิ่งใดกับพระเยซูเจ้า
-ข้าแต่พระเยซูเจ้า ลูกเป็นของพระองค์ ขอให้พระองค์ทรงกระทำตามสิ่งพระองค์ทรงประสงค์กับลูกเถิด
-พระเยซูเจ้าทรงตรัสกับดิฉันว่า “มีเพียงวิญญาณไม่กี่ดวงที่ปล่อยให้เรากระทำเขาอย่างอิสระ ฉะนั้นเราจึงไม่สามารถมอบพระหรรษทานมากมายให้ได้”
-เช้าวันนี้ ดิฉันทูลถามพระองค์ถึงความรักของพระองค์ พระเยซูเจ้าก็ทรงตรัสตอบว่า “ถ้าลูกได้รู้ว่าเรารักรู้มากแค่ไหน ลูกจะตายจากความยินดี”
-ดิฉันทูลพระเยซูเจ้าว่า “ข้าแต่พระเยซูเจ้า พระองค์เชื่อไหมว่าลูกรักพระองค์” พระเยซูเจ้าก็ทรงตรัสตอบว่า “เราเชื่อ และลูกรู้ไหมว่าเมื่อไรที่เราเชื่อมากที่สุด ก็ตอนที่ลูกคิดว่าเราได้ละทิ้งลูกแล้ว เพราะเป็นเวลาที่ความซื่อสัตย์ของลูกมากที่สุด”
-ข้าแต่พระเยซูเจ้าผู้อ่อนหวาน เพื่อพระพักตร์ของพระองค์ที่อาบนองด้วยน้ำพระเนตร ขอรัชสมัยแห่งศีลมหาสนิทของพระองค์มีชัยเหนือความศักดิ์สิทธิ์ของบรรดาสงฆ์ของพระองค์เทอญ
-ข้าแต่พระเยซูเจ้าผู้อ่อนหวาน เพื่อความสว่างของพระองค์อันกระจายออกมาจากพระพักตร์ของพระองค์ โปรดขจัดความมืดของความไม่รู้ความเข้าใจผิด และโปรดเป็นความสว่างของความศักดิ์สิทธิ์เพื่อบรรดาสงฆ์ของพระองค์เถิด
-ข้าแต่พระเยซูเจ้าผู้อ่อนหวาน เพื่อพระพักตร์ของพระองค์ที่อาบนองไปด้วยเหงื่อเลือดในความทุกข์ในสวนเกทเสมณี โปรดมอบความกระจ่างและสร้างเสริมวิญญาณทั้งหลายถวายแด่พระองค์เถิด
-สิ่งสำคัญก็คือการรักพระเยซูเจ้า
รูปภาพ
ข้าแต่ท่านบุญราศีมารีอา เปียรีนา เด มิเกลี ช่วยวิงวอนเทอญ
อาจมีผิดพลาด ก็ขออภัยด้วยนะครับ (มือสมัครเล่น)
ข้อมูลอ้างอิง
http://en.wikipedia.org/wiki/Maria_Pierina
http://www.santiebeati.it/dettaglio/94958
http://www.mysticsofthechurch.com/2011/ ... ce-of.html
http://beatapierina.weebly.com/her-life.html

Re: การประจักษ์ของพระพักตร์ศักดิ์สิทธิ์

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. พ.ค. 21, 2015 6:00 pm
โดย rosa-lee
:s002: ขอบคุณค่ะ
ที่เอาเรื่องดีๆมาแบ่งปัน