วันอาทิตย์ที่ 19 ในเทศกาลธรรมดา 7 สิงหาคม 2022 บทอ่าน พระวรสาร และ บทเทศน์เด็ดแทรกอารมณ์ขันของคุณพ่อจอห์นซั่น นิลลิสเซรี่ ( Father Johnson Nellissery) วัดเซนต์ปอล เมืองออสติน รัฐเท็กซัส สหรัฐอเมริกา ( Saint Paul Catholic Church, Austin, Texas, U.S.A. )
บทอ่านแรก: ปรีชาญาณ 18:6-9
6 บรรพบุรุษของข้าพเจ้าทั้งหลายได้รับรู้ล่วงหน้าถึงคืนนั้น เขาจะได้มีใจกล้าหาญเพราะมั่นใจในพระสัญญาที่เขาเคยเชื่อ 7 ประชากรของพระองค์รอคอยความรอดพ้นของผู้ชอบธรรม และรอคอยความพินาศของศัตรู 8 ถูกต้องแล้ว สิ่งที่พระองค์ทรงใช้ลงโทษศัตรู พระองค์ก็ทรงใช้ประทานเกียรติแก่ข้าพเจ้าทั้งหลายที่ทรงเรียกมาอยู่กับพระองค์ 9 บรรดาบุตรหลานศักดิ์สิทธิ์ของผู้ชอบธรรมถวายสักการบูชาอย่างลับๆพร้อมใจกันจะปฏิบัติตามพระบัญญัติข้อนี้ของพระเจ้า คือบรรดาผู้ศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์จะร่วมทุกข์ร่วมสุขด้วยกัน เขาจึงขับร้องเพลงสดุดีของบรรพบุรุษ
บทอ่านที่สอง: ฮีบรู 11:1-2, 6-9
1ความเชื่อคือความมั่นใจในสิ่งที่เราหวังไว้ เป็นข้อพิสูจน์ถึงสิ่งที่มองไม่เห็น 2 เพราะความเชื่อนี้ คนในสมัยก่อนจึงได้รับการยกย่องในพระคัมภีร์ 6 แต่ถ้าไม่มีความเชื่อแล้ว จะเป็นที่พอพระทัยของพระเจ้าไม่ได้เลย เพราะผู้ที่มาเฝ้าพระเจ้า จำเป็นต้องเชื่อว่า พระองค์ทรงดำรงอยู่และประทานบำเหน็จแก่ผู้แสวงหาพระองค์ 7 เพราะความเชื่อ เมื่อโนอาห์ได้รับคำเตือนของพระเจ้าเกี่ยวกับเรื่องที่ยังมิได้เห็น เขาจึงมีความยำเกรงพระองค์และสร้างเรือใหญ่เพื่อช่วยให้ครอบครัวของตนรอดตาย และเพราะความเชื่อนี้เอง เขาตัดสินลงโทษโลกและได้เป็นทายาทแห่งความชอบธรรมซึ่งบังเกิดมาจากความเชื่อ 8 เพราะความเชื่ออับราฮัมเชื่อฟังเมื่อพระเจ้าทรงเรียกให้ออกเดินทางไปสู่สถานที่ที่เขาจะได้รับเป็นมรดก เขาออกเดินทางไปโดยไม่รู้ว่าจะไปไหน
9 เพราะความเชื่อ เขาพำนักในดินแดนแห่งพระสัญญาเยี่ยงคนต่างด้าวในต่างแดน เขาอาศัยอยู่ในกระโจมเช่นเดียวกับอิสอัคและยาโคบผู้เป็นทายาทร่วมพระสัญญาเดียวกัน
พระวรสาร โดยนักบุญลูกา: 12:32-48
32 ฝูงแกะน้อย ๆ เอ๋ย อย่ากลัวเลย’ เพราะพระบิดาของท่านพอพระทัยจะประทานพระอาณาจักรให้แก่ท่าน” 33 จงขายทรัพย์สินของท่านและให้ทาน จงหาถุงเงินที่ไม่มีวันชำรุด จงหาทรัพย์สมบัติที่ไม่มีวันหมดสิ้นในสวรรค์ ที่นั่นขโมยเข้าไม่ถึงและตัวขมวนไม่ทำลาย 34 เพราะทรัพย์สมบัติของท่านอยู่ที่ใด ใจของท่านก็จะอยู่ที่นั่นด้วย” 35 “ท่านทั้งหลายจงคาดสะเอว และจุดตะเกียงเตรียมพร้อมไว้ 36 จงเป็นเสมือนผู้รับใช้ที่กำลังคอยนายกลับจากงานสมรส เมื่อนายมาและเคาะประตูจะได้เปิดรับ 37 ผู้รับใช้เหล่านั้นเป็นสุข ถ้านายกลับมาพบเขากำลังตื่นเฝ้าอยู่ เราบอกความจริงแก่ท่านทั้งหลายว่า นายจะคาดสะเอวพาผู้รับใช้เหล่านั้นไปนั่งโต๊ะและจะรับใช้เขาด้วย 38 ไม่ว่านายจะมาเวลาสองยามหรือสามยาม ถ้าพบผู้รับใช้กำลังทำเช่นนี้ ผู้รับใช้เหล่านั้นก็เป็นสุข 39 พึงรู้ไว้เถิด ถ้าเจ้าของบ้านรู้ว่าขโมยจะมาเวลาใด เขาคงไม่ปล่อยให้ขโมยงัดแงะบ้านของตน 40 ท่านทั้งหลายจงเตรียมพร้อมไว้ เพราะบุตรแห่งมนุษย์จะเสด็จมาในเวลาที่ท่านมิได้คาดหมาย” 41 เปโตรทูลว่า “พระเจ้าข้า พระองค์ตรัสอุปมานี้สำหรับพวกเราหรือสำหรับทุกคน” 42 องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสว่า “ใครเล่าเป็นผู้จัดการที่ซื่อสัตย์และรอบคอบซึ่งนายจะแต่งตั้งให้ดูแลผู้รับใช้อื่นๆ เพื่อปันส่วนอาหารให้ตามเวลาที่กำหนด 43 ผู้รับใช้คนนั้นเป็นสุข ถ้านายกลับมาพบเขากำลังทำดังนี้ 44 เราบอกความจริงแก่ท่านทั้งหลายว่า นายจะแต่งตั้งเขาให้ดูแลทรัพย์สินทั้งหมดของตน 45 แต่ถ้าผู้รับใช้คนนั้นคิดว่า “นายจะมาช้า” และเริ่มตบตีผู้รับใช้ทั้งชายและหญิง กินดื่มจนเมามาย 46 นายของผู้รับใช้คนนั้นจะกลับมาในวันที่เขามิได้คาดหมาย ในเวลาที่เขาไม่รู้ นายจะแยกเขาออก ให้ไปอยู่กับพวกคนที่ไม่ซื่อสัตย์” 47 “ผู้รับใช้ที่รู้ใจนายของตน แต่ไม่เตรียมพร้อมและไม่ทำตามใจนาย จะต้องถูกเฆี่ยนมาก 48 แต่ผู้รับใช้ที่ไม่รู้ใจนาย แม้ทำสิ่งที่ควรจะถูกเฆี่ยน ก็จะถูกเฆี่ยนน้อย ผู้ใดได้รับฝากไว้มาก ผู้นั้นก็จะถูกทวงกลับไปมากด้วย”
คุณพ่อจอห์นซั่น: มีบุคคลสามประเภทที่เกี่ยวพันกับพระเยซูเจ้า (ประเภทที่หนึ่ง) รู้สึกสนใจใคร่รู้แล้วก็จากไป ( ประเภทที่สอง) เป็นสานุศิษย์ ติดตามพระองค์ ( ประเภทที่สาม) เป็นศัตรูของพระองค์
พวกเราขอกราบขอบพระคุณพระเป็นเจ้าที่พระองค์ทรงเรียก คุณมิเชล โอซูนา ( Michelle Ozuna) ให้เป็นนักบวชหญิงของคณะฟรังซิสกัน ( Franciscan Sisters of Charity) เธอเป็นโรมันคาทอลิกได้สามปี และจะไปเป็นซิสเตอร์ อีกสามอาทิตย์หน้า
คุณมิเชล: ดิฉันได้รับแรงบันดาลใจจากเรื่องราวของสองพี่น้องในพระวรสาร มารธาและมารีย์ค่ะ ดิฉันเลือกรับใช้พระเป็นเจ้าเหมือนมารีย์ ตามการดลใจของพระจิตเจ้าในตัวดิฉัน และเป็นพระจิตเจ้าองค์เดียวกันที่ประทับในตัวของคุณทุกคนเช่นกัน เราทุกคนรับใช้พระองค์ตามแต่กระแสเรียกของพระองค์ที่มีต่อเราแต่ละคน
ทุกคนยืนตบมือให้เกียรติคุณมิเชลเสียงดังลั่นสนั่นวัด
ก่อนจบมิสซา ทุกคนหันหน้าไปที่พระรูปพระแม่มารีย์แห่งกัวดาลูเปที่มีมงกุฎเหนือพระรูปใกล้พระแท่น แล้วขับร้องเพลงถวายเกียรติให้พระแม่ มารดาพระเป็นเจ้า และแม่ของพวกเรามวลมนุษยชาติ