นักบุญเทเรซากับนักโทษประหาร

ถาม-ตอบพระคัมภีร์ เรื่องเสริมศรัทธา ความรู้ และสาระ บทความ ในคริสตศาสนา
ตอบกลับโพส
Arttise
โพสต์: 808
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ ก.พ. 19, 2017 3:45 pm

ศุกร์ ต.ค. 07, 2022 10:48 pm

รูปภาพ
[รูปภาพนักบุญเทเรซาแห่งพระกุมารเยซูและเฮนรี ปรานซินี่]

ก่อนเข้าสู่คอนแวนต์ นักบุญเทเรซาแห่งพระกุมารเยซูรู้ข่าวจากหนังสือพิมพ์กรณีของเฮนรี ปรานซินี ฆาตกรที่จะถูกประหารชีวิตในข้อหาก่ออาชญากรรม และต้องขอบคุณคำอธิษฐานภาวนาของนักบุญเทเรซา เรื่องราวการกลับใจของฆาตกรจึงเกิดขึ้น

ในปี 2019 ในระหว่างการเยี่ยมเรือนจำบาร์ลินนี (Barlinnie prison) เพื่อนำพระธาตุของนักบุญเทเรซาเข้าไปในเรือนจำแห่งนี้,อาร์คบิชอปแห่งกลาสโกว์ (สกอตแลนด์) Msgr. Philip Tartaglia เล่าถึงเรื่องราวนี้จากชีวิตของนักบุญเทเรซาผู้เป็นองค์อุปถัมภ์ของมิชชันนารี (Patroness of the Missions)

“เมื่อเธออายุได้ 14 ปี และก่อนเข้าสู่คอนแวนต์ เทเรซา มาร์ตินและทุกคนในฝรั่งเศสรู้เรื่องคดีของอองรี ปรานซินี(หรือเฮนรี ปรานซินี) นักโทษที่ฆ่าผู้หญิงสามคนรวมถึงเด็กผู้หญิงคนหนึ่ง ซึ่งเป็นอาชญากรรมที่ทำให้เขาถูกตัดสินประหารชีวิต”

ปรานซินีได้ประกอบอาชญากรรมร้ายแรงในปารีสในเดือนมีนาคม,1887 โดยได้ฆ่า Marie Regnault, Annette Gremeret และ Marie Louise ลูกสาว

อาร์คบิชอปทาร์ทาเกลียระบุว่าฆาตกร “ไม่เคยยอมรับความผิดและไม่สำนึกผิดด้วย ดังนั้นเทเรซาจึงเริ่มสวดภาวนาอ้อนวอนขอให้เขากลับใจ เทเรซาเริ่มอธิษฐานภาวนาเพื่อเขาและเพื่อการกลับใจของเขา”

ในวันประหาร นักบุญเทเรซาได้เขียนเล่าว่า “ปรานซินีไม่ได้สารภาพเลย เขาปีนขึ้นไปบนลานประหารและเตรียมจะก้มหัวลงไปในช่องประหารที่มืดมน ทันใดนั้น จู่ๆเขาก็ได้รับการดลใจอย่างกระทันหัน เขาหันกลับมาหยิบไม้กางเขนที่พระสงฆ์นำมาและจูบบาดแผลอันศักดิ์สิทธิ์สามครั้ง"

“จากนั้นวิญญาณของเขาก็ไปรับคำอธิษฐานภาวนาด้วยความเมตตาของผู้ที่ประกาศว่าในสวรรค์จะมีความปิติยินดีที่ได้เห็นคนบาปคนหนึ่งกลับใจยิ่งกว่าได้เห็นคน99คนที่ไม่เคยทำบาปเลย”

ในท้ายที่สุด อาร์คบิชอปกล่าวว่า “ปรานซินีก็จูบไม้กางเขนก่อนที่เขาจะถูกประหารชีวิต ต่อมาเมื่อเทเรซาเขียนเกี่ยวกับเรื่องนี้ เธอตีความว่าสิ่งนี้เป็นสัญญาณว่าปรานซินีได้วอนขอการอภัยจากพระเจ้า”

อาร์คบิชอปตั้งข้อสังเกตว่า โดยการอธิษฐานภาวนาเพื่อเขา นักบุญเทเรซา "ได้ตระหนักถึงศักดิ์ศรีของเขาในฐานะบุตรของพระเจ้าที่ทรงเรียกเขาให้มาเป็นเพื่อนกับพระองค์"

“เธอยังตระหนักอีกว่า พระเจ้ามิได้ทรงพิจารณามนุษย์ด้วยบาปหรืออาชญากรรมของเขา แต่ลูกล้างผลาญถูกเรียกให้สำนึกผิดและกลับใจ ถูกเรียกให้กลับมาสู่ความบริบูรณ์ของชีวิตและความรอด”

“เนื่องจากการเชื่อมโยงกับนักโทษนี้ จึงมีการเสนอว่าเมื่อมีการนำพระธาตุของนักบุญเทเรซาไปเยี่ยมเยียนตามสถานที่ต่างๆ พระธาตุจึงควรถูกนำเข้าไปในเรือนจำหลายแห่งให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้” อาร์คบิชอปอธิบาย

อาร์คบิชอป Tartaglia ยังได้กล่าวแบ่งปันกับผู้ต้องขังถึงสิ่งที่พวกเขาสามารถเรียนรู้อย่างเป็นรูปธรรมจากนักบุญที่ "กลายเป็นที่รู้จักในการดำเนินชีวิตบนเส้นทางสายน้อยของเธอหรือก็คือเส้นทางแห่งความศักดิ์สิทธิ์นั่นเอง"

“เธอเป็นแม่ชีคาร์เมไลท์ และเธอไม่มีโอกาสที่จะประกอบกิจการดีอันยิ่งใหญ่หรือมีชื่อเสียงจนโด่งดังไปทั่วโลก (แม้ว่าเธอจะทำอย่างนั้นก็ตาม!)”

ด้วยเหตุผลนี้ ท่านนักบุญ "จึงเลือกเส้นทางสายน้อยแห่งความศักดิ์สิทธิ์โดยผ่านทางพระนางมารีย์เพื่อไปหาพระเยซูเจ้า โดยมอบความสุขและความเศร้าโศกประจำวันของเธอ รวมทั้งการเสียสละของเธอแด่พระเจ้า ทั้งหมดนี้เพื่อความรักที่ไม่เห็นแก่ตัว"

บิชอปได้เน้นย้ำว่าเส้นทางสายน้อยนี้ "เป็นความดีและการปฏิบัติฝ่ายจิตที่นักโทษสามารถทำตามได้เนื่องจากพวกเขาถูกกักขังและไม่สามารถประกอบกิจการที่ยิ่งใหญ่หรือทำความดีที่ยิ่งใหญ่ได้"

อย่างไรก็ตาม "พวกเขาสามารถทำสิ่งเล็กน้อย การกระทำที่เล็กๆน้อยๆ ที่นี่และที่นั่น ในระหว่างวันที่สามารถสร้างความแตกต่างได้ในที่สุด"

“ตัวอย่างเช่น คุณสามารถพูดคำพูดที่หวังดีกับเพื่อนร่วมงานที่กำลังดิ้นรนกับชีวิตในคุก คุณสามารถร่วมมือกับพนักงานที่นี่ให้มากขึ้น คุณสามารถทำหน้าที่ของคุณได้อย่างสมบูรณ์แบบมากขึ้นเพื่อประโยชน์ของทุกคน”

หลังจากยอมรับว่า “ชีวิตในคุกไม่ใช่เรื่องง่าย” อาร์คบิชอปได้สนับสนุนให้ผู้ต้องขัง “มอบช่วงเวลาที่ยากลำบากและความทุกข์ของคุณให้กับพระเจ้าเพื่อประโยชน์ของเพื่อนๆของคุณทุกคน”

“คุณสามารถพูดคำที่สุภาพแทนที่จะพูดคำที่รุนแรง คุณสามารถสร้างโอกาสได้มากกว่าที่คุณเคยมีสำหรับชีวิตภายนอก คุณรู้ดีกว่าผมหมายถึงโอกาสที่จะดำเนินชีวิตประจำวันของคุณในคุกตามเส้นทางสายน้อยของนักบุญเทเรซา" อาร์คบิชอปกล่าวสรุป

CR. : จิตอิสระ
ตอบกลับโพส