บาปความไม่บริสุทธิ์ โดย นักบุญอัลฟองโซ ลิกัวรี

ถาม-ตอบพระคัมภีร์ เรื่องเสริมศรัทธา ความรู้ และสาระ บทความ ในคริสตศาสนา
ตอบกลับโพส
Arttise
โพสต์: 802
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ ก.พ. 19, 2017 3:45 pm

พุธ พ.ย. 16, 2022 9:49 pm

รูปภาพ

แม่พระแห่งฟาติมาได้บอกกับยาชินทาว่า “บาปที่ทำให้มนุษย์ไปนรกมากที่สุดคือบาปความไม่บริสุทธิ์”

รูปภาพ

😈 บาปความไม่บริสุทธิ์ โดย นักบุญอัลฟองโซ ลิกัวรี

คนที่พูดว่าบาปผิดต่อความบริสุทธิ์ไม่ใช่บาปที่ใหญ่โตอะไร คนนั้นกำลังหลงผิด
 
ผู้ทำบาปผิดต่อความบริสุทธิ์กล่าวว่าบาปที่ขัดต่อความบริสุทธิ์เป็นเพียงความชั่วเล็กน้อยไม่ใหญ่โตอะไร แต่ 2 เปโตร 2:22 กล่าวว่าคนที่ประพฤติเช่นนั้นเป็นเหมือน “สุกรที่เพิ่งอาบน้ำกลับไปกลิ้งเกลือกโคลนอีก” พวกเขาจมอยู่ในความโสโครกของพวกเขาเอง และเพื่อที่จะได้ไม่เห็นความชั่วในการกระทำของตน ดังนั้นพวกเขาจึงไม่รู้สึกหรือเกลียดชังกลิ่นเหม็นของสิ่งสกปรกซึ่งกระตุ้นความรังเกียจอันน่าสยดสยองของบาป คนที่บอกว่าบาปความไม่บริสุทธิ์เป็นเพียงบาปที่เล็กน้อยนั้น – ข้าพเจ้าขอถามท่านว่า ท่านปฏิเสธได้หรือว่ามันไม่ใช่บาปหนัก? ถ้าหากท่านปฏิเสธ ท่านก็เป็นคนนอกรีต เพราะดังที่นักบุญเปาโลกล่าวไว้ว่า “จงอย่าหลอกตนเอง คนผิดประเวณี คนกราบไหว้รูปเคารพ คนเป็นชู้ คนลักเพศ คนรักร่วมเพศ คนขโมย คนโลภ คนขี้เมา คนปากร้าย คนฉ้อโกง คนเหล่านี้จะไม่ได้รับพระอาณาจักรของพระเจ้าเป็นมรดก ” – (1 โครินธ์ 6: 9-10) มันเป็นบาปหนักอย่างแน่นอน มันไม่สามารถเป็นเพียงความชั่วร้ายเล็กน้อยได้ มันเป็นบาปหนักมากกว่าการลักขโมย การฉ้อโกง หรือการละเมิดการจำศีล แล้วจะพูดได้อย่างไรว่ามันไม่ใช่บาปชั่วร้ายที่หนัก? บางทีบาปหนักอาจดูเหมือนเป็นความชั่วร้ายเล็กน้อยสำหรับท่าน การดูหมิ่นพระหรรษทานของพระเจ้า การหันหลังให้กับพระองค์ และสูญเสียมิตรภาพกับพระองค์เพื่อความสุขชั่วครั้งชั่วคราวหรือการกระทำเยี่ยงอย่างสัตว์ป่าเป็นเรื่องชั่วร้ายหรือไม่?

นักบุญโทมัส อไควนัสสอนว่า บาปหนักเป็นการดูหมิ่นพระเจ้าผู้ทรงเป็นนิรันดร์ และจะได้รับพระพิโรธไม่สิ้นสุดด้วย “บาปที่กระทำต่อพระเจ้านั้นทำให้พระพิโรธไม่มีที่สิ้นสุด เนื่องจากความยิ่งใหญ่ไม่มีที่สิ้นสุดของพระเจ้านิรันดร” – นักบุญโทมัสถามว่า บาปหนักเป็นความชั่วร้ายเพียงเล็กน้อยหรือ? หาไม่, มันเป็นความชั่วร้ายที่ยิ่งใหญ่มากจนกระทั่งว่า ถ้าหากทูตสวรรค์และนักบุญทั้งหมด , อัครสาวก , มรณสักขี และแม้แต่พระมารดาของพระผู้เป็นเจ้า ถวายบุญกุศลทั้งหมดของพวกท่านเพื่อชดเชยใช้โทษบาปหนักเพียงบาปเดียวแล้ว เครื่องถวายบูชาทั้งหมดก็ยังคงไม่เพียงพอ ไม่เพียงพอหรอก เพราะการชดเชยใช้โทษบาปหรือการถวายบูชานั้นมีขอบเขต แต่หนี้ที่เกิดจากบาปหนักไม่มีสิ้นสุด เนื่องจากความยิ่งใหญ่อันหาที่สุดมิได้ของพระเจ้าซึ่งถูกทำให้ขุ่นเคือง ความเกลียดชังที่พระเจ้าทรงแบกรับไว้จากบาปผิดต่อความบริสุทธิ์นั้นยิ่งใหญ่เกินกว่าจะวัดได้ หากสุภาพสตรีพบว่าจานอาหารของเธอเปื้อนสกปรก เธอก็คงรู้สึกรังเกียจและไม่สามารถกินอาหารในจานได้ แล้วพระเจ้าเล่า, พระองค์จะต้องทรงรังเกียจและขุ่นเคืองมากสักเพียงไร พระองค์คือองค์ความบริสุทธิ์เอง ดูเถิด สิ่งเจือปนสกปรกแห่งบาปหนักนั้นได้ล่วงละเมิดพระบัญญัติของพระเจ้า? พระองค์ทรงรักความบริสุทธิ์ด้วยความรักที่ไม่มีที่สิ้นสุด และด้วยเหตุนี้ พระองค์จึงทรงมีความเกลียดชังอย่างไม่มีขอบเขตต่อบาปแห่งราคะซึ่งคนลามกอนาจารเรียกว่าเป็นความชั่วร้ายที่เล็กน้อย แม้แต่ปีศาจที่ดำรงตำแหน่งสูงในสวรรค์ก่อนการตกต่ำของพวกมัน ก็ยังรู้สึกดูถูกเหยียดหยามที่จะล่อลวงมนุษย์ให้ทำบาปเนื้อหนัง
 
นักบุญโทมัสกล่าวว่าลูซิเฟอร์ซึ่งน่าจะเป็นปีศาจที่ล่อลวงพระเยซูคริสต์ในทะเลทราย มันล่อลวงให้พระองค์ทำบาปอื่นๆ แต่กลับไม่ล่อลวงพระองค์ให้ล่วงละเมิดความบริสุทธิ์ บาปนี้เป็นความชั่วร้ายเล็กน้อยหรือ? เป็นการชั่วร้ายเล็กน้อยไหมที่ได้เห็นชายคนหนึ่งซึ่งได้รับจิตวิญญาณที่มีเหตุผล และเปี่ยมด้วยพระหรรษทานอันสูงส่งมากมาย แต่กลับนำตัวเขาเองให้แปดเปื้อนด้วยบาปที่นำไปสู่ระดับของสัตว์เดรัจฉาน “การผิดประเวณีและความเพลิดเพลินในราคะตัณหา” นักบุญเยโรมกล่าว “บิดเบือนความเข้าใจ และเปลี่ยนมนุษย์ให้เป็นสัตว์เดรัจฉาน” นักบุญเยโรมกล่าวว่า ไม่มีอะไรชั่วช้าหรือเสื่อมทรามมากไปกว่าการยอมให้ตนเองถูกเนื้อหนังยึดครอง “Nihil vilius quam vinci a carne” เป็นความชั่วเล็กน้อยหรือไม่ที่จะลืมพระเจ้าและขับไล่พระองค์ออกจากจิตวิญญาณและยอมให้ร่างกายได้รับความพึงพอใจที่เลวทรามซึ่งเมื่อเสร็จแล้วท่านก็รู้สึกละอายใจ? เกี่ยวกับเรื่องนี้พระเจ้าทรงบ่นโดยผ่านทางประกาศกเอเสเคียล "พระยาห์เวห์องค์พระผู้เป็นเจ้าจึงตรัสดังนี้ : เจ้าได้ลืมเราและหันหลังให้เรา เจ้าจึงต้องรับโทษของความเลวทรามและการเล่นชู้ของเจ้า" - เอเสเคียล 23:35 นักบุญโทมัสกล่าวว่า บรรดาบาปหนักทั้งหลาย แต่โดยเฉพาะอย่างยิ่งบาปหนักแห่งความไม่บริสุทธิ์ ทำให้มนุษย์ห่างไกลจากพระเจ้า “Per luxuriam maxime recedit a Deo”.
 
ยิ่งไปกว่านั้น บาปแห่งความไม่บริสุทธิ์ เนื่องจากมีการกระทำผิดมากมาย จึงเป็นความชั่วอย่างใหญ่หลวง คนปากร้ายไม่ได้ปากร้ายเสมอไป แต่เฉพาะเมื่อเขาเมาหรือถูกทำให้โกรธเท่านั้น มือปืนรับจ้างซึ่งรับจ้างฆ่าคนอื่นๆ ไม่ได้กระทำการฆาตกรรมมากกว่าแปดหรือสิบครั้ง แต่คนทำผิดต่อความบริสุทธิ์กระทำความผิดอย่างไม่ลดละ โดยความคิด , วาจา , การมองดู , ความพึงพอใจ ,และโดยการสัมผัส จนกระทั่งว่าเมื่อพวกเขาไปสารภาพบาป พวกเขาพบว่าเป็นไปไม่ได้ที่จะบอกจำนวนบาปที่พวกเขาทำผิดต่อความบริสุทธิ์ แม้แต่ในยามหลับ ปีศาจยังแสดงให้เขาเห็นสิ่งลามกอนาจาร ซึ่งเมื่อตื่นขึ้น พวกเขาอาจรู้สึกปีติยินดีในสิ่งเหล่านั้น และเพราะพวกเขาได้กลายเป็นทาสของศัตรูของมนุษย์ พวกเขาจึงเชื่อฟังและยินยอมตามคำแนะนำของมัน เพราะมันง่ายที่จะติดเป็นนิสัยของบาปความไม่บริสุทธิ์นี้ สำหรับบาปอื่นๆ เช่น การดูหมิ่นศาสนา , การเพิกเฉย และการฆาตกรรม คนเรากระทำไม่ง่ายนัก แต่สำหรับบาปความไม่บริสุทธิ์นี้ มนุษย์มีความโน้มเอียงตามธรรมชาติอยู่แล้ว ดังนั้น นักบุญโทมัสจึงกล่าวว่า ไม่มีคนบาปคนใดที่พร้อมจะทำให้พระเจ้าขุ่นเคือง เว้นแต่อยู่ในโอกาสแห่งความลุ่มหลงทุกครั้งที่เกิดขึ้นกับพวกเขา “Nullus ad Dei contemptum promptior” บาปความไม่บริสุทธิ์ชักนำบาปอื่นๆให้ติดตามมา เช่น บาปการหมิ่นประมาท , การโจรกรรม , ความเกลียดชัง และการโอ้อวดสิ่งที่น่าสะอิดสะเอียน นอกจากนี้ มันมักจะเกี่ยวข้องกับความอาฆาตพยาบาทในเรื่องอื้อฉาว บาปอื่นๆ เช่น การดูหมิ่น , การเป็นพยานเท็จ และการฆาตกรรม ปลุกเร้าความกลัวให้กับผู้ที่พบเห็น แต่บาปนี้ชักชวนผู้ฝักใฝ่ในเนื้อหนังให้ร่วมกระทำความผิดด้วย หรืออย่างน้อยที่สุด ก็กระทำด้วยความเกรงกลัวที่น้อยลง

“Totum hominem agit in triumhum libidinis” นักบุญซีเปรียนกล่าว “โดยบาปความไม่บริสุทธิ์ ปีศาจมีชัยเหนือมนุษย์ทั้งครบ เหนือร่างกายและจิตใจของเขา เหนือความทรงจำของเขา และเติมเต็มจิตใจของเขาด้วยการระลึกถึงความยินดีที่ไม่บริสุทธิ์ เพื่อทำให้เขาพึงพอใจในสิ่งเหล่านั้นเหนือสติปัญญาของเขา ทำให้เขาปรารถนาโอกาสที่จะทำบาปอีก; เหนือเจตจำนงของเขาโดยทำให้เขารักสิ่งสกปรกอันไม่บริสุทธ์ตลอดชีวิตของเขาและราวกับว่าไม่มีพระเจ้า “ข้าพเจ้าตกลงกับดวงตาของข้าพเจ้าว่าจะไม่จ้องมองหญิงพรหมจารีย์ใดๆ แล้วพระเจ้าผู้สถิตเบื้องบนทรงกำหนดอะไรไว้ให้ข้าพเจ้า” – โยบ 31:1-2 โยบกลัวที่จะมองดูหญิงพรหมจารีย์ เพราะเขารู้ว่าถ้าเขายอมคิดไม่ดี พระเจ้าก็ไม่ควรมีส่วนในตัวเขา ตามคำกล่าวของนักบุญเกรโกรี จากความไม่บริสุทธ์ทำให้เกิดความมืดบอดของสติปัญญา การทำลายล้าง ความเกลียดชังพระเจ้า และความสิ้นหวังในชีวิตนิรันดร์ นักบุญออกัสตินกล่าวว่าแม้คนไม่บริสุทธิ์จะแก่ชราขึ้น แต่ความชั่วร้ายกลับไม่แก่ชราตามวัยของเขา ดังนั้นนักบุญโทมัสจึงกล่าวว่าไม่มีบาปใดที่ซาตานพอใจมากเท่ากับในบาปความไม่บริสุทธิ์นี้ เพราะไม่มีบาปอื่นใดที่มีความโน้มเอียงทางธรรมชาติอย่างเหนียวแน่นเหมือนบาปนี้ บาปความไม่บริสุทธิ์นั้นยึดติดแน่นจนทำให้ไม่รู้จักพอในกิเลสตัณหา ไปให้พ้นเสียเถอะ ถ้ายังกล่าวว่าบาปความไม่บริสุทธ์เป็นเพียงความชั่วเล็กน้อย เมื่อถึงเวลาแห่งความตาย ท่านจะไม่พูดเช่นนี้ บาปทุกประเภทนั้นจะปรากฏแก่ท่านในลักษณะของสัตว์น่ากลัวแห่งนรก ท่านจะกล้าพูดเช่นนี้เบื้องหน้าพระบัลลังก์พิพากษาของพระเยซูคริสต์หรือ? ผู้จะทรงบอกท่านถึงสิ่งที่อัครสาวกเคยบอกท่านแล้วว่า “คนผิดประเวณี คนลามกโสมมและคนโลภ… ไม่ได้รับมรดกในพระอาณาจักรของพระคริสตเจ้าและของพระเจ้าเลย” - เอเฟซัส 5:5 ชายผู้ดำเนินชีวิตเยี่ยงสัตว์เดรัจฉาน ไม่สมควรที่จะได้นั่งกับทูตสวรรค์

พี่น้องที่รักทั้งหลาย ขอให้เราอธิษฐานภาวนาต่อพระเจ้าต่อไปเพื่อปลดปล่อยเราจากความชั่วร้ายนี้ ถ้าเราไม่ทำ เราจะสูญเสียจิตวิญญาณของเรา บาปความไม่บริสุทธิ์นำมาซึ่งความมืดบอดและความดื้อรั้น ความชั่วร้ายทุกอย่างก่อให้เกิดความมืดมิดแห่งความเข้าใจ แต่สิ่งเจือปนก่อให้เกิดความชั่วช้ากว่าบาปอื่นๆ “การผิดประเวณี , เหล้าองุ่นเก่าและเหล้าองุ่นใหม่ , ทำให้เสียสติ” - โฮเชยา 4:11 ไวน์ทำให้เราขาดความเข้าใจและเหตุผล ความไม่บริสุทธิ์ก็เช่นเดียวกัน ดังนั้น นักบุญโทมัสจึงกล่าวว่าชายผู้หลงระเริงในกาม ย่อมไม่ดำเนินชีวิตตามเหตุผลใน “nullo procedit secundum judicium rationis.” ถ้าคนอธรรมถูกลิดรอนจากความสว่าง และไม่เห็นความชั่วที่พวกเขาทำอีกต่อไป พวกเขาจะเกลียดชังและแก้ไขชีวิตของพวกเขาได้อย่างไร? ประกาศกโฮเชยากล่าวว่า พวกเขาถูกปิดบังด้วยโคลนตมของพวกเขาเอง พวกเขาไม่ได้คิดที่จะกลับไปหาพระเจ้า เพราะความไม่บริสุทธิ์ของเขาได้เอาความรู้ทั้งสิ้นของพระเจ้าไปจากพวกเขา “กิจการของเขาไม่ทำให้เขากลับมาหาพระเจ้าของตน เพราะเขามีจิตแห่งการขายตัวในหมู่พวกเขา เขาจึงไม่รู้จักพระยาห์เวห์” - โฮเชยา 5:4 ดังนั้น นักบุญลอเรนซ์ จัสติเนียนจึงเขียนว่า บาปนี้ทำให้มนุษย์ลืมพระเจ้า “ความปิติยินดีของเนื้อหนังทำให้เกิดการหลงลืมพระเจ้า” และนักบุญยอห์น ดามาซีนสอนว่า “มนุษย์ฝ่ายเนื้อหนังไม่สามารถมองดูแสงสว่างแห่งความจริงได้” ดังนั้น คนลามกและยั่วยวนไม่เข้าใจอีกต่อไปว่าพระหรรษทานของพระเจ้าหมายถึงอะไร อันได้แก่การพิพากษา , นรก และนิรันดร “ไฟตกบนเขาแล้ว เขาจะไม่เห็นดวงอาทิตย์” - สดุดี 57:9 พวกหลอกลวงตาบอดบางคนพูดได้เต็มปากว่า การผิดประเวณีไม่ได้เป็นบาปในตัวมันเอง พวกเขากล่าวว่าไม่มีข้อห้ามในธรรมบัญญัติเก่า และเพื่อสนับสนุนหลักคำสอนที่เลวทรามนี้ พวกเขาอ้างพระวจนะของพระเจ้าที่ตรัสกับโฮเชยาว่า “ไปซิ ไปรับหญิงแพศยามาเป็นภรรยา และจงมีบุตรจากหญิงแพศยานั้น” - โฮเชยา 1:2 ข้าพเจ้าขอตอบว่า พระเจ้าไม่อนุญาตให้โฮเชยาทำผิดล่วงประเวณี แต่ปรารถนาให้เขาหาหญิงคนหนึ่งซึ่งล่วงประเวณีมาเป็นภรรยา และบุตรในการแต่งงานครั้งนี้ได้ชื่อว่าเป็นบุตรแห่งการผิดประเวณี เพราะมารดามีความผิดในการกระทำผิดประเวณี ตามคำกล่าวของนักบุญเยโรมเกี่ยวกับความหมายของพระวาจาของพระเจ้าที่มีต่อโฮเชยา ท่านนักบุญกล่าวว่า "Idcirco" "fornicationis appellandi sunt filii, quod sunt de meretrice generati" แต่การผิดประเวณีเป็นสิ่งต้องห้ามเสมอ ภายใต้ความเข้มงวดของธรรมบัญญัติทั้งเก่าและใหม่ นักบุญเปาโลกล่าวว่า “มีคนผิดประเวณี คนลามกโสมม… ไม่ได้รับมรดกในอาณาจักรของพระคริสตเจ้าและของพระเจ้าเลย” - เอเฟซัส 5:5 ดูเถิด ความชั่วช้าที่คนบาปเหล่านั้นแบกรับความมืดบอดไว้! จากความมืดบอดนี้ ถึงแม้ว่าพวกเขาจะไปสารภาพบาป การสารภาพของพวกเขาก็ไร้ผลเพราะไม่ต้องการสำนึกผิดอย่างแท้จริง เป็นไปได้อย่างไรที่พวกเขาจะมีความเศร้าโศกอย่างแท้จริง ในเมื่อพวกเขาไม่ยอมรับรู้หรือเกลียดชังบาปของตน?

บาปแห่งความไม่บริสุทธิ์นำมาซึ่งความดื้อรั้นเช่นกัน เพื่อเอาชนะการล่อลวง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการประพฤติผิดต่อพรหมจรรย์ การสวดภาวนาอย่างต่อเนื่องเป็นสิ่งจำเป็น “จงตื่นเฝ้าและอธิษฐานภาวนาเพื่อจะไม่เข้าสู่การทดลอง จิตใจพร้อมแล้วก็จริง แต่เนื้อหนังอ่อนกำลัง” - มาระโก 14:38 แต่คนไม่บริสุทธิ์ซึ่งแสวงหาการถูกทดลองอยู่เสมอจะอธิษฐานภาวนาต่อพระเจ้าเพื่อปลดปล่อยพวกเขาจากการทดลองได้อย่างไร? บางครั้งพวกเขาก็เป็นเช่นเดียวกับนักบุญออกัสตินก่อนที่ท่านจะสารภาพบาป พวกเขาละเว้นจากการสวดภาวนา ด้วยความกลัวว่าจะไปสารภาพบาปและได้รับการเยียวยารักษาจากโรคซึ่งพวกเขาต้องการจะกระทำต่อไป "ข้าพเจ้ากลัวว่า" นักบุญกล่าว "ในไม่ช้าท่านจะฟังการสารภาพบาปของข้าพเจ้าและรักษาบาปแห่งความใคร่ซึ่งข้าพเจ้ายังอยากจะทำให้อิ่มเอมใจแทนที่จะดับมันไปให้หมดสิ้น" นักบุญเปโตรเรียกความชั่วร้ายนี้ว่าบาปที่ไม่สิ้นสุด “มีนัยน์ตาเจ้าชู้ ทำบาปโดยไม่สิ้นสุด” - 2 เปโตร 2:14 ความไม่บริสุทธิ์ถูกเรียกว่าบาปที่ไม่สิ้นสุดเพราะความดื้อรั้นที่มันชักนำมา บางคนที่ติดใจกับความชั่วนี้พูดว่า : ฉันไปสารภาพบาปเสมอ แต่มันแย่กว่านั้นมาก เพราะเนื่องจากท่านมักทำผิดซ้ำในบาปเดิมนี้ การสารภาพบาปเหล่านี้ไม่ทำให้ท่านเลิกทำมันแต่กลับทำให้ท่านทำบาปนี้ต่อไป ความกลัวในการถูกลงโทษลดลงด้วยการพูดว่า : ฉันสารภาพบาปเสมอ ถ้าท่านรู้สึกว่าบาปนี้สมควรได้รับโทษในนรก ท่านก็จะไม่พูดว่า : ฉันจะไม่เลิกทำมัน ฉันไม่สนใจว่าฉันจะถูกสาปแช่ง แต่ปีศาจหลอกลวงคุณว่า ให้กระทำบาปนี้มันพูดว่า; ไปสารภาพบาปในภายหลังก็ได้ แต่เพื่อที่จะสารภาพบาปของท่านได้ดี ท่านต้องมีความทุกข์เสียใจในบาปอย่างแท้จริง และตั้งใจแน่วแน่ที่จะไม่ทำบาปอีกต่อไป ความทุกข์เสียใจในบาปอย่างสมบูรณ์และจุดประสงค์อันแน่วแน่ที่จะแก้ไขนี้อยู่ที่ไหนเมื่อท่านกลับมาสำรอกออกมาอยู่เสมอ? หากคุณมีอาการเหล่านี้ และได้รับพระหรรษทานอันศักดิ์สิทธิ์ในการสารภาพบาปของท่าน ท่านไม่ควรมีอาการกำเริบ หรืออย่างน้อยท่านควรงดเว้นจากการกำเริบเป็นเวลานาน แต่นี่ท่านกลับมาทำบาปได้เสมอในแปดหรือสิบวัน และอาจจะในเวลาอันสั้นหลังจากสารภาพบาป นี่คือสัญญาณอะไร? เป็นสัญญาณว่าท่านเป็นศัตรูกับพระเจ้าเสมอ ถ้าคนป่วยอาเจียนยาที่กินเข้าไปทันที แสดงว่าโรคของเขารักษาไม่หาย

นักบุญเยโรมกล่าวว่า บาปแห่งความไม่บริสุทธิ์ เมื่อกลายเป็นนิสัย จะหยุดลงได้ก็ต่อเมื่อชายผู้ไม่มีความสุขที่หมกมุ่นอยู่กับมันนั้นถูกโยนลงในไฟนรก “โอ้ เพลิงนรก ความลุ่มหลงแห่งราคะเป็นเชื้อเพลิงที่สุมมัน ประกายไฟของมันเป็นการสนทนาสั้นๆ ปลายทางของมันคือนรก” ความไม่บริสุทธิ์กลายเป็นเหมือนนกแร้งที่รอให้เหยื่อถูกฆ่าตายและเน่าเปื่อยเสียก่อน แทนที่จะละทิ้งความเน่าเปื่อยของซากศพ มันกลับกินเข้าไป นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นกับหญิงสาวคนหนึ่งซึ่งหลังจากที่ได้ใช้ชีวิตในความบาปร่วมกับชายหนุ่มคนหนึ่งแล้ว เธอก็ล้มป่วยและดูเหมือนจะเสียใจและกลับใจในเวลาใกล้ตาย ในชั่วโมงแห่งความตาย เธอขออนุญาติพระสงฆ์ผู้ฟังสารภาพบาป ที่จะไปพบกับชายหนุ่มเพื่อชักชวนให้เขาเปลี่ยนชีวิตของเขา โดยให้เขาเห็นการตายของเธอ พระสงฆ์ผู้ฟังสารภาพบาปอนุญาตอย่างไม่รอบคอบนัก และสอนสิ่งที่เธอควรพูดกับชายหนุ่มผู้สมรู้ร่วมคิดในบาป แต่จงฟังว่าเกิดอะไรขึ้น ทันทีที่เธอเห็นเขา เธอก็ลืมสัญญาที่ให้ไว้กับพระสงฆ์ผู้ฟังสารภาพบาปและคำแนะนำของท่านถึงสิ่งที่เธอควรพูดกับชายหนุ่ม และเธอทำอะไร? เธอลุกขึ้นนั่งบนเตียง เอื้อมแขนไปหาเขา แล้วพูดว่า : เพื่อนเอ๋ย ฉันรักเธอเสมอมา และแม้ตอนนี้ในบั้นปลายชีวิต ฉันก็ยังรักเธอ ฉันเห็นว่าในการอยู่กับเธอ จะทำให้ฉันไปนรก แต่ฉันไม่สนใจ ฉันยินดีที่จะถูกสาปแช่งสำหรับความรักของเธอ หลังจากคำพูดเหล่านี้ เธอก็ล้มตัวลงนอนบนเตียงและหมดสติไป เรื่องจริงนี้เกี่ยวข้องกับคุณพ่อเซกเนรี (Father Segneri) โอ้! ยากสักเพียงไรหนอ สำหรับคนที่ติดนิสัยชั่วช้าที่จะแก้ไขชีวิตของเขาและกลับมาหาพระเจ้าอย่างจริงใจ! ยากสักเพียงใดหนอ ที่เขาไม่เลิกนิสัยนี้ในนรก เหมือนกับหญิงสาวผู้เคราะห์ร้ายที่ข้าพเจ้าเพิ่งพูดถึง

CR. : จิตอิสระ
ตอบกลับโพส