การฆ่าตัวตายและความหวังในพระเมตตาของพระเจ้า

ถาม-ตอบพระคัมภีร์ เรื่องเสริมศรัทธา ความรู้ และสาระ บทความ ในคริสตศาสนา
ตอบกลับโพส
Arttise
โพสต์: 808
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ ก.พ. 19, 2017 3:45 pm

เสาร์ มี.ค. 04, 2023 1:19 am

❤️‍🔥 เรื่องที่ 1

หญิงม่ายของชายคนหนึ่งที่เสียชีวิตด้วยการฆ่าตัวตาย เคยสอบถามเกี่ยวกับสภาพจิตใจของสามีของเธอ และคุณพ่อปีโอตอบว่า “เขารอดแล้ว ระหว่างสะพานกับแม่น้ำ เขาสำนึกผิด”

❤️‍🔥 เรื่องที่ 2

ผู้หญิงคนหนึ่งไปหาคุณพ่อปีโอ เพื่อรู้เรื่องพี่ชายของเธอที่ฆ่าตัวตายหลังจากประสบปัญหาทางการเงิน เธอไปที่พิธีมิสซาของเขาแต่ไม่สามารถพูดคุยกับเขาได้ เธอนั่งในวัด ร้องไห้และสวดอ้อนวอน ขณะที่คุณพ่อปีโอกำลังสารภาพบาป ในช่วงเวลาหนึ่งเธอได้รับการสะกิดและบอกว่า "คุณพ่อกำลังโทรหาคุณ" เธอหันไปทางผู้สารภาพบาป คุณพ่อปีโอกำลังทำสัญลักษณ์ให้เธอด้วยมือ เพื่อเข้าไปหาผู้สารภาพบาป เธอทำและคุกเข่าต่อหน้าเขา และคุณพ่อปีโอกล่าวว่า “อย่ากังวล ใจเย็นๆ เขารอดแล้ว”

❤️‍🔥 เรื่องที่ 3

คุณพ่อปีโอกำลังสวดอ้อนวอนเป็นเวลานาน และแพทย์ของเขาเข้ามาหาเขาเกี่ยวกับสิ่งที่เขากำลังทำอยู่ คุณพ่อปีโอบอกกับแพทย์ของเขาว่า

หมอ : "แต่เขาตายไปร้อยกว่าปีแล้ว"

คุณพ่อปีโอ : "จงจำไว้ว่าสำหรับพระเจ้านั้นไม่มีอดีตและไม่มีอนาคต ดังนั้นพระเจ้าจึงใช้คำภาวนาที่พ่อกำลังพูดอยู่ในเวลานั้น"

รูปภาพ

❤️‍🔥 เรื่องที่ 4

ผู้หญิงคนหนึ่งที่บอกกับนักบุญยอห์น มารีย์ เวียนเนย์ ว่าเธอเสียใจเพราะสามีฆ่าตัวตาย เธอต้องการพบคุณพ่อ แต่สายฝูงชน ของเขามักจะกินเวลานานหลายชั่วโมง และเธอไม่สามารถเข้าถึงเขาได้ เธอพร้อมที่จะยอมแพ้ และในช่วงเวลาแห่งความรู้แจ้งอันลึกลับที่มีแต่นักบุญผู้ยิ่งใหญ่เท่านั้นที่จะรับได้ นักบุญยอห์น มารีย์ เวียนเนย์ก็อุทานผ่านฝูงชนว่า “เขารอดแล้ว!” ผู้หญิงไม่เชื่อดังนั้นนักบุญจึงพูดซ้ำโดยเน้นย้ำทุกคำ “พ่อบอกคุณว่าเขารอดแล้ว เขาอยู่ในไฟชำระและคุณต้องสวดเผื่อเขา ระหว่างเชิงเทินของสะพานกับน้ำเขามีเวลาที่จะแสดงความเสียใจ”

รูปภาพ

❤️‍🔥 เรื่องที่ 5

ในปี ค.ศ. 1993 ก่อนคุณพ่อChris Ala บวช คุณยายของคุณพ่อChris Alar เสียชีวิตด้วยการฆ่าตัวตาย ความเสียใจของครอบครัวขยายใหญ่ขึ้นจากสิ่งที่พวกเขามองว่าเป็นคำสอนของพระศาสนจักรเกี่ยวกับการฆ่าตัวตาย “ผมเรียนรู้มาตลอดว่าถ้าคุณปลิดชีวิตตัวเอง นั่นคือการสาปแช่ง” เขากล่าว “และเป็นเวลาหลายปีที่ครอบครัวของเราไม่เคยพูดถึงเรื่องนี้ เพราะไม่มีใครต้องการมีภาระในการพูดถึงย่าของเราที่เราเชื่อว่าอยู่ในนรก” คุณพ่อChris อธิบายว่าหลายปีต่อมาจนกระทั่งเขาเริ่มปฏิบัติศรัทธา เขาจึงเรียนรู้ว่านี่ไม่ใช่คำสอนของพระศาสนจักร

คุณพ่อChris อธิบายว่าหลายปีหลังจากคุณย่าของเขาเสียชีวิต บาดหลวงคนหนึ่งบอกเขาว่าเขายังสวดอ้อนวอนให้เธอได้ “ผมพูดว่า ‘คุณพ่อครับ ทำอย่างไร เธอถูกตัดสินไปแล้ว’ และเขาบอกฉันว่าพระเจ้าอยู่นอกเวลา ไม่มีอดีต ไม่มีอนาคต ทุกสิ่งมีอยู่ชั่วนิรันดร์ ณ ขณะหนึ่งแด่พระเจ้า… พระผู้เป็นเจ้าจะทรงคำนึงถึงคำภาวนาของข้าพเจ้าเพื่อคุณยายของข้าพเจ้าในช่วงเวลาที่เธอเสียชีวิตเมื่อหลายปีก่อน”

🇻🇦 คำสอนของพระศาสนจักรคาทอลิก

📄 2280 ทุกคนต้องรับผิดชอบต่อชีวิตของตนต่อพระพักตร์พระเจ้าผู้ทรงประทานชีวิตให้ เป็นพระเจ้าที่ยังคงเป็นเจ้านายแห่งชีวิต เราจำเป็นต้องยอมรับชีวิตด้วยความสำนึกคุณและรักษาไว้เพื่อเป็นเกียรติแก่พระองค์และความรอดของจิตวิญญาณของเรา เราเป็นมนุษย์ ผู้รับใช้ ไม่ใช่เจ้าของชีวิตที่พระเจ้ามอบให้เรา ไม่ใช่เรื่องของเราที่จะกำจัด

📄 2281 การฆ่าตัวตายขัดแย้งกับความโน้มเอียงตามธรรมชาติของมนุษย์ที่จะรักษาและยืดอายุของเขา มันตรงกันข้ามอย่างมากกับการรักตัวเอง มันยังเป็นการทำร้ายความรักต่อเพื่อนบ้านด้วย เพราะมันทำลายสายสัมพันธ์แห่งความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันของครอบครัว ประเทศชาติ และสังคมมนุษย์อื่นๆ ที่เรายังมีพันธะต่อกันอย่างไม่ยุติธรรม การฆ่าตัวตายตรงกันข้ามกับความรักที่มีต่อพระเจ้าผู้ทรงพระชนม์

📄 2282 หากการฆ่าตัวตายกระทำโดยเจตนาให้เป็นตัวอย่าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับเยาวชน ก็ต้องใช้แรงดึงดูดของเรื่องอื้อฉาวเช่นกัน การร่วมกันฆ่าตัวตายโดยสมัครใจขัดต่อหลักศีลธรรม
ความกระวนกระวายทางจิตใจอย่างรุนแรง ความปวดร้าว หรือความกลัวอย่างรุนแรงต่อความยากลำบาก ความทุกข์ทรมาน หรือการทรมาน สามารถลดความรับผิดชอบของผู้ที่ฆ่าตัวตายได้

📄 2283 เราไม่ควรสิ้นหวังกับความรอดนิรันดร์ของบุคคลที่ปลิดชีวิตตนเอง โดยวิธีที่เขารู้จักแต่เพียงผู้เดียว พระเจ้าสามารถจัดเตรียมโอกาสสำหรับการกลับใจด้วยความเคารพ

*พระศาสนจักรสวดภาวนาเผื่อบุคคลที่ปลิดชีวิตตนเอง

😇 ชีวประวัติ นักบุญคุณพ่อปีโอ (Saint Padre Pio)
http://dondaniele.blogspot.com/2010/09/ ... 2.html?m=1
รูปภาพ

😇 ชีวประวัติ นักบุญยอห์น มารีย์ เวียนเนย์ (Saint John Mary Vianney)
https://www.cbct.or.th/.../st-john-bapt ... ianney.../#
รูปภาพ

ขอพระเจ้าสถิตกับท่านทุกคนนะครับ 💒💒😇😇
#คริสต์ #คาทอลิก #คริสต์ศรัทธา #ฆ่าตัวตาย #ความหวัง #พระเมตตา #พระเจ้า #นักบุญคุณพ่อปีโอ #คุณพ่อปีโอ #นักบุญยอห์นมารีย์เวียนเนย์ #คำสอนพระศาสนจักรคาทอลิก #คำสอน #พระศาสนจักรคาทอลิก #พระศาสนจักร #ไฟชำระ #catholic #suicide #hope #God #SaintPadrePio #PadrePio #SaintJohnMaryVianney #purgatory
Arttise
โพสต์: 808
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ ก.พ. 19, 2017 3:45 pm

เสาร์ มี.ค. 04, 2023 1:20 am

  ชีวประวัติ นักบุญคุณพ่อปีโอ (Saint Padre Pio)

คุณพ่อปีโอ นักบุญผู้มีรอยแผลศักดิ์สิทธิ์

     23 กันยายน เป็นวันระลึกถึง นักบุญปีโอแห่งปิเอเตรลชีนา หรือ "คุณพ่อปีโอ" ขณะที่ศึกษาอยู่ที่กรุงโรม ได้มีโอกาสไปแสวงบุญที่ซานโจวานนี โรตอนโด แคว้นปูเลีย ประเทศอิตาลี ที่เก็บร่างของนักบุญผู้มีรอยแผลศักดิ์สิทธิ์ ร่วมสมัยองค์นี้ พร้อมกับบิชอป พระสงฆ์ และชาวไทยในโรม

ชีวิตของคุณพ่อปีโอ

     นักบุญปีโอแห่งปิเอเตรลชินา หรือที่เรียกกันติดปากว่า “คุณพ่อปีโอ” (Padre Pio) เกิดเมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม ค.ศ. 1887 ที่ปิเอเตรลชินา (Pietrelcina) เมืองเล็กๆ ในอัครสังฆมณฑลเบเนเวนโต (Benevento) เขตปูเลียทางภาคใต้ของประเทศอิตาลี เป็นบุตรของ กราซีโอ มารีโอ ฟอร์โจเน (Grazio Mario Forgione) กับ มาเรีย จูเซปปา เด นุนซิโอ (Maria Guiseppa de Nunzio) บิดามารดาได้พาไปรับศีลล้างบาปในวันต่อมาที่วัดแม่พระแห่งทูตสวรรค์ (La Madonna degli Angeli) ใกล้บ้าน โดยได้ชื่อว่า “ฟรันเชสโก” (Francesco) ตามชื่อของพี่ชายที่ตายตั้งแต่ยังเล็ก มีพี่น้องทั้งหมด 4 คน พี่ชายหนึ่งคนชื่อ มิเกลเล (Michele) และน้องสาวอีกสามคนคือ เฟลิชิตา (Felicita), เปลเลกรินา (Pellegrina) และกราเซีย (Grazia)

     ครอบครัวฟอร์โจเน เป็นคริสตชนที่ศรัทธาและเคร่งครัดไปร่วมพิธีมิสซาทุกวัน สวดสายประคำร่วมกันทุกคืน และอดเนื้ออาทิตย์ละสามวันเพื่อถวายเกียรติแด่แม่พระแห่งภูเขาคาร์เมล แม้ว่าบิดามารดาจะอ่านหนังสือไม่ออกแต่รู้พระคัมภีร์ดีมาก จดจำได้ขึ้นใจและเล่าเรื่องราวในพระคัมภีร์ให้ลูกๆ ฟังเป็นประจำ ทำให้เมล็ดพันธ์แห่งความเชื่อได้รับการปลูกฝังในตัวของเด็กชายฟรันเชสโกตั้งแต่ยังเล็ก ขณะอายุได้ห้าขวบได้ปวารณาตัวที่จะอุทิศตนเพื่อพระเยซูเจ้า อายุ 12 ปี ได้รับศีลมหาสนิทและศีลกำลัง มีความปรารถนาอย่างแรงกล้าที่จะเป็นพระสงฆ์ ต่อมาได้เข้าคณะภราดาน้อยกาปูชินที่มอร์โคเน (Morcone) อายุได้16 ปีได้สวมเครื่องแต่งกายของคณะกาปูชินเมื่อวันที่ 22 มกราคม ค.ศ. 1903 และเข้าเป็นโนวิส โดยได้ชื่อว่า “ปีโอ” (Pio) เพื่อเป็นเกียรติแด่นักบุญปีโอที่ 5 องค์อุปถัมภ์ของเมือง และเป็นที่รู้จักในชื่อ “ปีโอ” ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา

     ภราดาปีโอ ได้ปฏิญาณตัวครั้งแรกเมื่อวันที่ 22 มกราคม ค.ศ. 1904 จากนั้นได้เดินทางไปเมืองอัสซีซี เพื่อศึกษาและเตรียมตัวเป็นพระสงฆ์และได้ปฏิญาณตนตลอดชีพที่นั่นเมื่อวันที่ 27 มกราคม ค.ศ. 1907 หลังเรียนจบได้บวชเป็นพระสงฆ์เมื่อวันที่ 10 สิงหาคม ค.ศ. 1910 โดยพระอัครสังฆราชเปาโล สกิโนซี (Paolo Schinosi) ที่อาสนวิหารเบเนเวนโต ต่อมาเนื่องจากมีปัญหาด้านสุขภาพจึงได้พักอยู่กับครอบครัวจนถึงปี ค.ศ. 1916 เดือนกันยายนปีเดียวกันได้ถูกส่งตัวมาอยู่ที่อารามที่ซานโจวานนี โรตอนโด และอยู่ที่นั่นจนถึงวันสุดท้ายของชีวิต

ผู้มีรอยแผลศักดิ์สิทธิ์และญาณหยั่งรู้

     หลังจากเป็นพระสงฆ์ได้ไม่ถึงเดือน พระเยซูเจ้าและแม่พระได้ปรากฏมาและให้รอยแผลศักดิ์สิทธิ์กับคุณพ่อปีโอเป็นช่วงเวลาสั้นๆ ขณะภาวนาหลังจากถวายมิสซาที่ปิอานา โรมานา (Piana Romana) คุณพ่อได้ขอพระเยซูเจ้าให้ขจัดมันออกไป กระทั่งวันที่ 22 กันยายน ค.ศ. 1918 คุณพ่อได้รับรอยแผลนี้อีกครั้งขณะที่กำลังภาวนาในวัดน้อยของอาราม คุณพ่อต้องเจ็บปวดมากและมีเลือดไหลที่มือและเท้าจนต้องพันผ้าไว้ รอยแผลนี้ได้อยู่กับคุณพ่อเป็นเวลา 50 ปี และค่อยๆ จางหายไปในวันที่คุณพ่อมรณภาพ

     คุณพ่อปีโอได้ยึดเอางานธรรมทูตและไม้กางเขนของพระเยซูเจ้าเป็นพลัง ปรีชาญาณและเกียรติสำหรับตัวเองเหมือนนักบุญเปาโล ความรักของพระเยซูเจ้าเร่งเร้าทำให้คุณพ่อกลายเป็นเหมือนกับพระองค์ในการทนทรมานเพื่อความรอดของโลก คุณพ่อได้ติดตามและเรียนแบบพระคริสต์ผู้ถูกตรึงบนไม้กางเขนด้วยการเจริญชีวิตในความรักต่อพระเจ้าและต่อเพื่อนมนุษย์ ซึ่งแสดงออกในการแนะนำวิญญาณผู้คนมากมายที่มาหา ในการฟังแก้บาป การภาวนา และการถวายพิธีบูชาขอบพระคุณ คุณพ่อแซร์โจเล่าว่า คุณพ่อปีโอใช้เวลาถวายมิสซานานนับชั่วโมง และฟังแก้บาปวันหนึ่ง 15 ชั่วโมง

     คุณพ่อปีโอเป็นผู้ที่มีชีวิตจิตที่ลึกซึ้งมาก ได้รับพระพรพิเศษในการรู้จิตใจคน สามารถรู้ก่อนที่คนนั้นจะบอกบาปหรือมาหาเสียอีก และสามารถรู้เหตุการณ์ล่วงหน้า พระคาร์ดินัล อัลฟอนส์ สติ๊กเลอร์ (Alfons Stickler) แห่งออสเตรียเล่าว่าในปี ค.ศ. 1947 คุณพ่อคาโรล วอยติยา ซึ่งต่อมาคือพระสันตะปาปายอห์น ปอลที่ 2 ขณะเป็นนักศึกษาที่กรุงโรม ได้ยินเรื่องของคุณพ่อปีโอและปรารถนาจะพบจึงได้เดินทางไปที่ซานจีโอวานนี โรตอนโด ระหว่างที่พบกันคุณพ่อปีโอได้ยืนยันกับคุณพ่อวอยติยาว่า “วันหนึ่งท่านจะอยู่ในตำแหน่งที่สูงที่สุดของพระศาสนจักร” พระคาร์ดินัลสติ๊กเลอร์ เล่าต่อไปว่าคุณพ่อวอยติยาเชื่อว่าคำทำนายนี้เป็นจริงเมื่อท่านได้รับแต่งตั้งเป็นพระคาร์ดินัลไม่ใช่พระสันตะปาปา เล่ากันว่าวันนั้นคุณพ่อปีโอได้เห็นคุณพ่อวอยติยาแต่งกายด้วยเครื่องแบบของพระสันตะปาปาและมีรอยเลือดสีแดงเปื้อนอยู่บนผ้าคลุมไหล่สีขาว ข่าวนี้แพร่กระจายออกไปอย่างรวดเร็วภายหลังจากที่พระคาร์ดินัลวอยติยาได้รับเลือกเป็นพระสันตะปาปาแล้ว

นักบุญร่วมสมัย ผู้มีความศรัทธาต่อแม่พระ

     สิ่งที่คุณพ่อปีโอใช้เป็นอาวุธในการประจญคือ การภาวนา คุณพ่อน้อมรับพระประสงค์ของพระอย่างไม่มีเงื่อนไข ตัวอย่างในช่วงปี ค.ศ. 1931-1933 พระสันตะปาปาปิอุส ที่ 11 ได้มีคำสั่งห้ามคุณพ่อฟังแก้บาป ห้ามถวายมิสซาในที่สาธารณะเนื่องจากมีพระสังฆราชและพระสงฆ์ไปรายงานว่างานอภิบาลของคุณพ่อไม่โปร่งใส แต่คุณพ่อได้กล่าวว่า "ลูกจะตอบแทนพระคุณพระองค์ได้อย่างไร ในงานอภิบาลอย่างแสนสาหัสครั้งนี้" นี่เป็นลักษณะความนบนอบของคุณพ่อ

     คุณพ่อปีโอใช้เวลาหลายชั่วโมงในการสวดภาวนาต่อหน้าพระรูปแม่พระมหาการุณย์ วิงวอนขอการช่วยเหลือจากแม่พระเพื่อผู้ที่มาหาคุณพ่อ เมื่อพบปัญหาที่ยากเป็นพิเศษคุณพ่อจะพูดว่า "เราจำเป็นต้องพึ่งแม่พระ" พระนางเป็นผู้ที่คุณพ่อมักคิดถึงเสมอเป็นคนแรก เพราะพระนางทรงแนะนำและทำให้คุณพ่อมีใจร้อนรน คุณพ่อชอบจินตนาการถึงพระนางขณะที่อยู่ใต้ไม้กางเขนและพูดถึงพระนางว่า "แม่พระทรงรับความทุกข์เพื่อพวกเรา พระนางมีความสามารถเข้าใจในความทุกข์ทุกอย่าง อย่างลึกซึ้งภายใต้ธรรมล้ำลึกแห่งไม้กางเขน เพราะพระนางทรงร่วมรับความทุกข์ทรมานกับพระเยซูเจ้า พระบุตรของพระนาง” คุณพ่อได้บอกผู้มาหาเสมอว่า แม่พระคือช่องทางที่ทำให้เราไปหาพระเยซูเจ้า ผู้เป็นแหล่งน้ำทรงชีวิต

     คุณพ่อปีโอแสดงความศรัทธาต่อแม่พระด้วยการสวดสายประคำไม่หยุดหย่อน มีสายประคำติดมือตลอดเวลาเพราะตระหนักว่านี่เป็นอาวุธอันทรงอานุภาพในการต่อสู้กับปีศาจ เพื่อเอาชนะการประจญ เป็นที่สบพระทัยพระเจ้าและรับพระหรรษทานต่างๆ แม้กระทั่งในวาระสุดท้ายของชีวิต คุณพ่อถือสายประคำในมือแต่ไม่มีแรงสวดบทวันทามารีอา นอกจากคำว่า “เยซู มารีอา” ก่อนมอบคืนดวงวิญญาณแด่พระเจ้าอย่างสงบ หลังจากได้รับศีลอภัยบาปเป็นครั้งสุดท้ายและรื้อฟื้นคำปฏิญาณในคณะฟรังซิสกัน ตอนเช้าตรู่ของวันที่ 23 กันยายน ค.ศ. 1968 เวลา 02.30 น. เป็นการปิดฉากชีวิตผู้ศักดิ์สิทธิ์ในโลกนี้ด้วยวัย 81 ปี ร่างของคุณพ่อได้รับการฝังไว้ใต้โบสถ์ในอีกสามวันต่อมา มีผู้คนมาร่วมพิธีศพมากกว่าแสนคน

     วันที่ 29 พฤศจิกายน ค.ศ. 1982 พระสันตะปาปายอห์น ปอล ที่ 2 ได้ลงนามในการเริ่มกระบวนการสอบสวนเพื่อดำเนินเรื่องว่าคุณพ่อปีโอสมควรได้รับการพิจารณาให้เป็นนักบุญหรือไม่ หลังจากนั้น 7 ปี คือ ค.ศ. 1990 คุณพ่อปีโอได้รับการประกาศเป็น “ผู้รับใช้ของพระเจ้า” ซึ่งเป็นขั้นตอนแรกของการประกาศเป็นนักบุญ วันที่ 21 ธันวาคม ค.ศ. 1998 ได้รับการประกาศเป็น “ผู้น่าเคารพ” และวันที่ 2 พฤษภาคม ค.ศ. 1999 ได้รับการประกาศเป็น “บุญราศี” ที่สุด พระสันตะปาปายอห์น ปอล ที่ 2 ได้ประกาศให้คุณพ่อปีโอเป็น “นักบุญปีโอแห่งปิเอเตรลชินา” เมื่อวันที่ 16 มิถุนายน ค.ศ. 2002 มีผู้คนมากกว่า 3 แสนคนไปร่วมในพิธีแต่งตั้งเป็นนักบุญในวันนั้น วันฉลองประจำปีคือวันที่ 23 กันยายน ของทุกปี

http://dondaniele.blogspot.com/2010/09/ ... 2.html?m=1

รูปภาพ
Arttise
โพสต์: 808
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ ก.พ. 19, 2017 3:45 pm

เสาร์ มี.ค. 04, 2023 1:20 am

  ชีวประวัติ นักบุญยอห์น มารีย์ เวียนเนย์ (Saint John Mary Vianney)

     นักบุญผู้โดดเด่นองค์นี้ ซึ่งพระศาสนจักรยกย่องให้เป็นแบบอย่างและองค์อุปถัมภ์ของพระสงฆ์พื้นเมือง เกิดเมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม 1786 ในระหว่างช่วงเวลาที่มีการต่อต้านบรรดาสมณะอย่างรุนแรง (ช่วงปฏิวัติฝรั่งเศส) และช่วงที่ไม่นับถือศาสนา (สมัยของ นโปเลียน โบนาปาร์ต) ท่านเป็นลูกคนที่ 4 ในทั้งหมด 6 คนจากพ่อแม่ที่ศรัทธา อาศัยทางตะวันออกเฉียงใต้ของฝรั่งเศส ตอนเด็กไม่ได้ร่ำเรียนหนังสือ เพราะขาดพื้นฐานการศึกษาเช่นนี้เอง ทำให้ท่านต้องเผชิญกับความลำบากเป็นอย่างมากในการเรียนที่บ้านเณรเพื่อเป็นพระสงฆ์ และเป็นแต่เพียงลักษณะนิสัยซื่อๆและมีชีวิตจิตที่ลึกซึ้งของท่าน ผนวกกับคำขอร้องพิเศษจากเจ้าอาวาสของท่าน จึงทำให้ท่านได้รับศีลบวชเป็นพระสงฆ์ในปี ค.ศ. 1815

     เมื่อบวชแล้วท่านได้รับมอบหมายให้ไปดูแลวัดเล็กๆที่ตำบลอาร์ส ใกล้เมืองลีอองส์ อุปสังฆราชบอกท่านว่า “สัตบุรุษที่นั่นไม่ค่อยรักพระ จงไปทำให้เกิดขึ้นมาให้ได้” แต่ในความเป็นจริงแล้ว ชาวบ้านและชาวนาถูกทอดทิ้งให้อยู่ในสถานะทางด้านฝ่ายจิตและศีลธรรมอย่างนั้น นักบุญยอห์น เวียนเนย์ ได้เริ่มทำงานอย่างเงียบๆกับสัตบุรุษที่ยากจน และพวกเจ็บไข้ได้ป่วยในวัดก่อน นอกนั้นใช้เวลาหลายชั่วโมงต่อวันอยู่ต่อหน้าศีลมหาสนิท เพื่อภาวนาขอให้ลูกแกะของท่านกลับใจ และตลอดเวลา 40 ปีของชีวิตที่ยังคงเหลืออยู่ ท่านได้พลีกรรมโดยเฆี่ยนตัวเองจนมีเลือดออก และทำพลีกรรมอย่างเคร่งครัดทุกชนิดเพื่อใช้โทษบาปแทนพวกสัตบุรุษ ท่านเทศน์ด้วยภาษาง่ายๆ โดยใช้ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดจากการดำรงชีวิตประจำวัน สำหรับบรรดาเด็กผู้หญิงที่ยากจนข้นแค้นอย่างมาก ท่านเปิดบ้านเป็นสถานที่รับเลี้ยงเด็กเหล่านี้ ชื่อบ้าน “La Providence” ซึ่งในกาลเวลาต่อมากลายเป็นโรงเรียนและเป็นสถานที่ที่เปิดตามกันมาอย่างแพร่หลายทั่วประเทศฝรั่งเศส คณะภราดรภาพของศีลมหาสนิทก็เริ่มต้นขึ้นที่นี่ด้วย

     แต่งานที่สำคัญที่สุดและเกิดผลสูงสุดคือ “การให้คำแนะนำฝ่ายจิตแก่คนทั้งหลายในที่ฟังแก้บาป” ที่ซึ่งท่านใช้เวลาในแต่ละวัน 14 ถึง 18 ชั่วโมง (ไม่ว่าจะเป็นวันที่ร้อนมากในฤดูร้อน หรือ วันที่หนาวจนสั่นในฤดูหนาว) ไม่นานต่อมาก็เป็นที่เลื่องลือว่าท่านมีความสามารถในการอ่านใจคน มีความรู้เหนือธรรมชาติต่อบาปที่ยังไม่สารภาพออกมาและสิ่งที่จะติดตามมา และโดยคำภาวนาของท่านทำให้คนป่วยได้รับการรักษาให้หายอย่างอัศจรรย์ ไม่เพียงคนในหมู่บ้านที่ตำบลอาร์สเท่านั้นที่เปลี่ยนแปลงดีขึ้นทั้งทางด้านจิตและทางด้านจริยธรรม แต่ผู้คนเริ่มเดินทางมาหาท่านจากทุกภาคส่วนของทวีปยุโรปและอเมริกาด้วย ท่านนักบุญเองเคยกล่าวไว้ว่า “ผู้ที่มีพระจิตเจ้าทรงนำทาง จะสามารถมองเห็น(=อ่าน)สิ่งต่างๆได้” อีกครั้งหนึ่งท่านประกาศว่า “และนี่เองที่ทำไมคนที่โง่เขลาจึงล่วงรู้มากกว่าคนที่ปรีชาฉลาด” ผู้คนหลั่งไหลกันมามากจนต้องจัดรถบัสพิเศษเพิ่มขึ้น 5 สาย และต้องมีช่องขายตั๋วรถไฟพิเศษจากสถานีที่เมืองลีอองส์สำหรับผู้แสวงบุญที่มุ่งไปเมืองอาร์ส ถ้าจะนับจำนวนนักแสวงบุญในระยะเวลา 20 ปี ซึ่งรวมทั้งคนสุขภาพดี คนป่วย และคนที่ต้องทุกข์ทรมาน ในบรรดาคนเหล่านี้มีทั้งพวกพระคาร์ดินัล พระสังฆราช (บางทีไม่เปิดเผยตน) พระสงฆ์ นักบวช และฆราวาส จากทุกๆรูปแบบของชีวิต รวมแล้วเกินกว่า 2 ล้านคน

     นักบุญยอห์น เวียนเนย์ เป็นผู้มีใจร้อนรนอย่างมาก และมีความเป็นมิตรดียิ่ง มีความอดทนและสุภาพเป็นที่สุด พูดตามภาษามนุษย์แล้ว การกินและนอนที่น้อยเกินไปตลอดระยะเวลา 40 ปีในงานอภิบาลของท่าน ย่อมไม่สามารถทำให้ท่านมีชีวิตต่อไปได้ พวกชาวบ้านเหล่านี้เองยังเป็นพยานว่า ท่านได้ทนทรมานจากฤทธิ์อำนาจของปีศาจเป็นเวลาหลายปี บั้นปลายชีวิตท่านได้รับตำแหน่งทรงเกียรติเป็น Honorary Canon of Lyons และรัฐบาลฝรั่งเศสให้เกียรติแก่ท่านด้วยตำแหน่งอัศวิน A Knighthood of the Legion of Honour ซึ่งแน่นอนว่าท่านไม่ได้สนใจตำแหน่งใดๆทางฝ่ายโลกนี้อยู่แล้ว

     ท่านสิ้นใจในวันที่ 4 สิงหาคม 1859 และได้รับการแต่งตั้งเป็นนักบุญโดยพระสันตะปาปาปีโอ ที่ 11 ในปี ค.ศ.1925

(ถอดความโดย คุณพ่อ วิชา หิรัญญการ จากหนังสือ Saint Companions For Each Day ; เขียนโดย A.J.M. Mausolfe และ J.K. Mausolfe)

https://www.cbct.or.th/.../st-john-bapt ... ianney.../#

รูปภาพ
ตอบกลับโพส