วันอาทิตย์ปัสกา 9 เมษายน 2023
บทอ่าน พระวรสาร และบทเทศน์เด็ด ของคุณพ่อเคลเม้นท์ วัดพระหฤทัยศักดิ์สิทธิ์ เมืองเลซี่ รัฐวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา ( Father Clement, Sacred Heart, Lacey, WA, U.S.A.) เปลี่ยนบรรยากาศ ระหว่าง การเทศน์ของคุณพ่อที่ประเทศไทยและที่สหรัฐอเมริกา ( รวมทั้งสังฆานุกร) ที่อาจจะแตกต่างเน้นแบบคนละมุมมอง เพราะสภาพแวดล้อมและพื้นฐานของสังคม ของประเทศไทยและของสหรัฐอเมริกา
บทอ่านที่หนึ่ง กิจการอัครสาวก 10:34a, 37-43
เปโตรเริ่มพูดว่า “ท่านทั้งหลายรู้เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั่วแคว้นยูเดีย เริ่มต้นที่แคว้นกาลิลี หลังจากที่ยอห์นได้เทศน์สอนและทำพิธีล้าง พระเจ้าทรงเจิมพระเยซูเจ้าชาวนาซาเร็ธด้วย พระอานุภาพเดชะพระจิตเจ้า พระเยซูเจ้าเสด็จผ่านไปที่ใด ทรงกระทำความดีและทรงรักษาทุกคนที่อยู่ใต้อำนาจของปีศาจ เพราะพระเจ้าสถิตอยู่กับพระองค์ เราทั้งหลายเป็นพยานยืนยันถึงกิจการทั้งปวงที่พระองค์ทรงกระทำในเขตแดนของชาวยิวและที่กรุงเยรูซาเล็ม เขาประหารชีวิตพระองค์โดยตรึงบนไม้กางเขน แต่พระเจ้าทรงบันดาลให้พระเยซูเจ้ากลับคืน พระชนมชีพในวันที่สาม และโปรดให้พระองค์แสดงพระองค์ มิใช่แก่ประชาชนทั้งปวง แต่ทรงแสดงพระองค์แก่บรรดาพยานที่พระเจ้าทรงเลือกสรรไว้ล่วงหน้าแล้ว คือเราทั้งหลายที่ได้กินและได้ดื่มร่วมกับพระองค์หลังจากที่ทรงกลับคืนพระชนมชีพจากบรรดาผู้ตาย พระเยซูเจ้าทรงบัญชาให้เราประกาศสอนประชาชน และเป็นพยานยืนยันว่าพระเจ้าทรงแต่งตั้งพระองค์ให้เป็นผู้พิพากษามนุษย์ทุกคน ทั้งผู้เป็นและผู้ตาย ทุกคนที่มีความเชื่อในพระองค์จะได้รับการอภัยบาปเดชะพระนามของพระองค์”บรรดาประกาศกทั้งปวงเป็นพยานยืนยันถึงพระองค์ว่า “ทุกคนที่มีความเชื่อในพระองค์จะได้รับการอภัยบาปเดชะพระนามของพระองค์”
บทอ่านที่สอง โคโลสี 3:1-4
ถ้าท่านทั้งหลายกลับคืนชีพพร้อมกับพระคริสตเจ้าแล้ว ก็จงใฝ่หาแต่สิ่งที่อยู่เบื้องบนเถิด ณ ที่นั้นพระคริสตเจ้าประทับเบื้องขวาของพระเจ้า จงคิดถึงแต่สิ่งที่อยู่เบื้องบน อย่าพะวงถึงสิ่งของบนแผ่นดินนี้
เพราะท่านทั้งหลายตายไปแล้ว และชีวิตของท่านก็ซ่อนอยู่กับพระคริสตเจ้าในพระเจ้า เมื่อพระคริสตเจ้า องค์ชีวิตของท่านจะทรงสำแดงพระองค์ เมื่อนั้นท่านจะปรากฏพร้อมกับพระองค์ในพระสิริรุ่งโรจน์ด้วย
พระวรสาร โดย นักบุญยอห์น 20:1-9
เช้าตรู่วันต้นสัปดาห์aขณะที่ยังมืด มารีย์ชาวมักดาลาออกไปที่พระคูหา ก็เห็นหินถูกเคลื่อนออกไปจากพระคูหาแล้ว นางจึงวิ่งไปหาซีโมนเปโตรกับศิษย์อีกคนหนึ่งที่พระเยซูเจ้าทรงรักบอกว่า “เขานำองค์พระผู้เป็นเจ้าไปจากพระคูหาแล้ว พวกเราไม่รู้ว่าเขานำพระองค์ไปไว้ที่ไหน” เปโตรกับศิษย์คนนั้นจึงออกไป มุ่งไปยังพระคูหา ทั้งสองคนวิ่งไปด้วยกัน แต่ศิษย์คนนั้นวิ่งเร็วกว่าเปโตร จึงมาถึงพระคูหาก่อน เขาก้มลงมองเห็นผ้าพันพระศพวางอยู่บนพื้น แต่ไม่ได้เข้าไปข้างใน ซีโมนเปโตรซึ่งตามไปติดๆ ก็มาถึง เข้าไปในพระคูหาและเห็นผ้าพันพระศพวางอยู่ที่พื้น รวมทั้งผ้าพันพระเศียรซึ่งไม่ได้วางอยู่กับผ้าพันพระศพ แต่พับแยกวางไว้อีกที่หนึ่ง ศิษย์คนที่มาถึงพระคูหาก่อนก็เข้าไปข้างในด้วย เขาเห็นและมีความเชื่อ เขาทั้งสองคนยังไม่เข้าใจพระคัมภีร์ที่ว่า พระองค์ต้องทรงกลับคืนพระชนมชีพจากบรรดาผู้ตาย
คุณพ่อเคลเม้นท์: อัลเลลูยา
ลูกวัด: อัลเลลูยา
คุณพ่อ: อะไรนะ ไม่ค่อยได้ยิน เอาอีกที
ลูกวัด เสียงสนั่นกึกก้อง: อัลเลลูยา
คุณพ่อ: พระเยซูเจ้าทรงฟื้นพระชนมชีพ อัลเลลูยา
ลูกวัด: อัลเลลูยา
คุณพ่อ: ต้องตอบว่า พระองค์ทรงฟื้นพระชนมชีพ เอาใหม่
ลูกวัด หัวเราะลั่น: พระองค์ทรงฟื้นพระชนมชีพ
คุณพ่อ : พระเยซูเจ้าทรงสิ้นพระชนม์แล้วทรงฟื้นพระชนมชีพ พวกเราก็จะเป็นเช่นกันในวันพิพากษาสุดท้าย แต่เราก็เป็นแล้วในขณะนี้ นี่คือพื้นฐานของความเชื่อของเรา เราต้องไม่เพียงแต่ป่าวประกาศความเชื่อของเรา เราต้องดํารงชีวิตในความเชื่อของเราด้วย!
หลังมิสซามีการค้นหาไข่อิสเตอร์ ( Easter eggs ) ในห้องประชุมและห้องเรียนของวัด เพราะฝนตกไม่หยุด สนามหญ้าเฉอะแฉะ ค่อนข้างหนาว มีการแบ่งเด็กออกเป็นสองกลุ่ม อายุ 5-8 ปี และอายุน้อยกว่า5 ปี พ่อแม่กุลีกุจอเอาลูกเรียงแถว เด็กๆ ตื่นเต้นเพราะคอยตั้งแต่ปีที่แล้ว มาวัดวันอิสเตอร์ก็คือวันหาไข่อิสเตอร์ !
(อ่านจบ: อยากอ่านอีกหรืออยากอ่านบทเทศน์ด็ดแทรกอารมณ์ขันของอาทิตย์ต่างๆที่ผ่านมา อ่านที่ www.newmana.com เวปบอร์ด สนทนาธรรม สามัคคีธรรม และสารของแม่พระผู้เห็นอกเห็นใจฯ
viewforum.php?f=8 ใต้หัวข้อ บทเทศน์เด็ดแทรกอารมณ์ขันของมิสซาวันอาทิตย์ โพสต์โดย Yan Agape)