สายัณห์ทัวร์ : แสวงบุญที่สถานที่ศักดิ์สิทธิ์แห่งพระเมตตาและวัดน้อยของพระแม่มารีย์แห่งกัวดาลูป เมืองมอสซี่ร็อค รัฐวอชิงตั

ถาม-ตอบพระคัมภีร์ เรื่องเสริมศรัทธา ความรู้ และสาระ บทความ ในคริสตศาสนา
ตอบกลับโพส
Yan Agape
โพสต์: 1246
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร พ.ค. 17, 2005 10:57 am

พุธ ส.ค. 02, 2023 5:02 pm

สายัณห์ทัวร์ : แสวงบุญที่สถานที่ศักดิ์สิทธิ์แห่งพระเมตตาและวัดน้อยของพระแม่มารีย์แห่งกัวดาลูป เมืองมอสซี่ร็อค รัฐวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา (Pilgrimage to the Shrine of Divine Mercy and Our Lady of Guadalupe Chapel, Mossyrock, Washington State, United States )

เมื่อเช้าของวันอังคาร 1 สิงหาคม 2023 ผมกับภรรยาและสมาชิกของกลุ่มพระเมตตาและสายประคําศักดิ์สิทธิ์ของพระแม่มารีย์ แห่งวัดพระหฤทัยศักดิ์สิทธิ์ รวม 16 คน เดินทางไปแสวงบุญที่สถานที่ศักดิ์สิทธิ์แห่งพระเมตตาและวัดน้อยของพระแม่มารีย์แห่งกัวดาลูป เมืองมอสซี่ร็อค รัฐวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา ระยะทางห่างจากเมืองเลซี่ 98 กิโลเมตร/ ขับรถประมาณ 1 ชั่วโมง เป็นการแสวงบุญประจําปีที่ผมกับภรรยาได้รับคําเชิญให้ไปร่วมเป็นครั้งแรก นัดเจอกันที่สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ฯ 9:30 น 10.00 น จะเริ่มสวดในวัดน้อยและออกเดินทางตามมรรคากางเขนขึ้นเขาระยะทางไปกลับ 1.6 กิโลเมตร

ผมกับภรรยาเดินทางไปถึงก่อน 10.00 น ทักทายกันเสร็จแล้วเขียนอุทิศผลกุศลของการแสวงบุญมอบให้หัวหน้ากลุ่มที่จะรวบรวมไปวางไว้ใต้ไม้กางเขนบนยอดเขา

ผมนั่งสํารวมตัวสวดภาวนาอยู่ครู่หนึ่งแล้วขออนุญาตพระเป็นเจ้าและพระแม่มารีย์ถ่ายรูปในวัดน้อยเป็นที่ระลึกและแบ่งปันให้กับญาติมิตรพี่น้องและผู้อ่านทุกคน

องค์ประธานของวัดน้อยก็คือพระเยซูเจ้าที่ทรงถูกตรึงบนไม้กางเขน ( พระรูปปั้นและไม้กางเขนมีอายุประมาณ 123 ปี จากประเทศอิตาลี่ ประทับในวัดเมืองซีแอทเทิ้ล ไฟไหม้วัด กางเขนเสียหายแบบซ่อมแทบไม่ได้ วัดจะกําจัดทิ้ง ลูกวัดชื่อจอห์น คารร์/ John Carr ขอแล้วซ่อมดีจนดูไม่ออกว่าเคยเสียหายอย่างหนัก พอคุณจอห์นสิ้นลมขึ้นสวรรค์ เมื่อปีคศ 2007 ลูกๆก็มอบให้วัดน้อยฯ)

ข้างซ้ายภายในวัดข้างพระแท่น มีพระรูปของพระแม่มารีย์แห่งกัวดาลูป และอีกสองข้างมีหกรูปของพระแม่กับนักบุญฮวน ดิเอโก ( Saint Juan Diago) ที่สวยงามแบบผมไม่เคยเห็นมาก่อน เมื่อผมมีเวลาอ่านใบปลิวของวัด ผมก็ถึงบางอ้อ: ทุกพระรูปเหมือนกับพระรูปที่สถานที่ศักดิ์สิทธิ์แห่งพระแม่กัวดาลูป ประเทศเม็กซิโก มอนซิเออร์ ดิเอโก มอนรอย พอนซ์ ( Monsignor Diego Monroy Ponce ) เอาทุกพระรูปสัมผัสกับพระรูปของพระแม่ที่สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ฯ แล้วประกาศว่า ทุกพระรูปมีพระหรรษทานของการประกาศข่าวประเสริฐของพระเยซูเจ้า การกลับใจ การบำบัดรักษา และความจริง เหมือนปี คศ 1531 และเฉกเช่นกับการเดินทางเป็นพันๆกิโลเมตรของการแสวงบุญที่สถานที่ศักดิ์สิทธิ์แห่งพระแม่กัวดาลูป ประเทศเม็กซิโก ท่านและพระคาร์ดินัล นอร์เบอโต ริเวียรา คารเรล่า ( Cardinal Norberto Riverra Carra) ของประเทศเม็กซิโก เซ็นชื่อทุกพระรูปครับ

ข้างขวามือของพระแท่นเป็นพระรูปพระเมตตา (เป็นพระรูปแรก: นักวาดภาพ ยูจีน คาซเมียโรสกี / Eugene Kazmierrowski วาดพระรูปของพระองค์ตามที่พระองค์ทรงบอกนักบุญโพสตินา ปัจจุบันประดิษฐานในสถานที่ศักดิ์สิทธิ์แห่งพระเมตตา ที่เมืองวิวเนียส ประเทศลิทัวเนีย/ Vilnius, Lithuania พระรูปที่สองสุดยอดนิยม เหมือนรูปภาพของคนจริงๆ นักวาดภาพ อด๊อฟ ไฮลา/ Adolf Hyla แก้บนที่พระองค์ทรงช่วยให้เขาและครอบครัวรอดภัยจากนาซี/ เยอรมนี ปัจจุบันประดิษฐานที่สักการะสถานแห่งพระเมตตา เมืองแครเคา ประเทศโปแลนด์/ Sanctuary of the Divine Mercy, Krakow, Poland พระรูปที่สาม นักวาดภาพชาวอเมริกัน รอเบิร์ด สเกม/ Robert Skemp ได้รับจ้างจากคณะสงฆ์แมเรี่ยนให้วาด ( The Marian Fathers) จะเอาให้เหมือนที่นักบุญโพสตินาบรรยายไว้ เสร็จปีคศ 1982 รูปนี้คงประดิษฐานในอารามคณะสงฆ์แมเรี่ยนในสหรัฐอเมริกา ชาวฟิลิบปินส์นิยมมากครับ )

ข้างซ้ายมือของวัดน้อยเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์อุทิศให้กับความศักดิ์สิทธิ์ของชีวิตมนุษย์ ( Shrine Dedicated to The Sanctify of Human Life) เด็กไม่ได้เกิดเพราะแม่ทําแท้ง มีปัายชื่อของแม่ที่โศกเศร้าเสียใจและลูกของตัว (พระแม่มารีย์เป็นองค์อุปถัมฐ์ของเด็กในครรภ์ด้วยครับ ลูกา 1: 40-44: พระ​นาง​เสด็จ​เข้า​ไป​ใน​บ้าน​ของ​เศ​คา​ริ​ยาห์​และ​ทรง​ทักทาย​นาง​เอลี​ซา​เบธ เมื่อ​นาง​เอลี​ซา​เบธ​ได้ยิน​คำ​ทักทาย​ของ​พระ​นาง​มา​รีย์ บุตร​ใน​ครรภ์​ก็​ดิ้น นาง​เอลี​ซา​เบธ​ได้​รับ​พระ​จิต​เจ้า​เต็มเปี่ยม ร้อง​เสียง​ดัง​ว่า “เธอ​ได้​รับ​พระ​พร​ยิ่ง​กว่า​หญิง​ใด ๆ และ​ลูก​ของ​เธอ​ก็ได้​รับ​พระ​พร​ด้วย ทำไม​​พระ​มารดา​ของ​องค์​พระ​ผู้​เป็น​เจ้าจึง​เสด็จ​มา​เยี่ยม​ข้าพ​เจ้า เมื่อ​ฉัน​ได้ยิน​คำ​ทักทาย​ของ​เธอ ลูก​ใน​ครรภ์​ของ​ฉัน​ก็​ดิ้น​ด้วย​ความ​ยินดี ) มีรูปปั้นนักบุญโยเซฟอุ้มพระกุมารเยซูเจ้า หัวหน้าครอบครัวศักดิ์สิทธิ์ด้วยครับ

หลังจากใช้ห้องนํ้าแล้ว ( ไม่มีห้องนํ้าในทางมรรคากางเขนและสถานที่สวดสายประคํา) พวกเราก็พากันเดินสวดจนถึงสถานที่ 14 สูงเด่นเป็นสง่าบนยอดเขา คือไม้กางเขนที่ทําจากปูนซิเมนต์สีขาวทําให้ทั้งข้างนอกข้างในเป็นสีขาวล้วน สูง 21.34 เมตร หนัก 18,597 กิโลกรัม มีสปอรต์ไลท์ที่ฐาน ส่องสว่างกลางคืนให้ทุกคนที่ขับรถผ่านได้เห็นด้วย ที่ฐานด้านหน้ามีตัวหนังสือสลัก: (มธ 18:21-22) เป​โตร​เข้า​มา​ทูลถาม​พระ​เยซู​เจ้า​ว่า “พระ​เจ้า​ข้า ถ้า​พี่​น้อง​ทำ​ผิด​ต่อ​ข้าพ​เจ้า ข้าพ​เจ้า​ต้อง​ยกโทษ​ให้​เขา​สัก​กี่​ครั้ง ถึง​เจ็ด​ครั้ง​หรือ​ไม่” พระ​เยซู​เจ้า​ตรัส​ตอบ​ว่า “เรา​ไม่​ได้​บอก​ท่าน​ว่า​ต้อง​ยกโทษ​ให้​เจ็ด​ครั้ง แต่​ต้อง​ยกโทษ​ให้​เจ็ด​คูณ​เจ็ดสิบ​ครั้ง”

*คุณแฮ้งค์ และคุณฮิลเดการ์ด ดิโกดิ ( ภรรยา)/Hank and Hildegard DeGoede เจ้าของสถานที่ ไปแสวงบุญที่เมืองเมจูจอร์จี ประเทศบอสเนีย- เฮอร์ซีโกวีนา/ Medjugorje , Bosnia- Herzegovina หลายครั้ง เพราะมีความศรัทธาต่อพระแม่มารีย์ที่ทรงปรากฎองค์ให้เด็กหกคนเห็นแล้วมอบสารให้ตั้งแต่วันที่ 24 มิถุนายน 1981 จนถึงปัจจุบัน สามีภรรยาเห็นไม้กางเขนบนยอดเขากริซีสแวกค์/ Krizevack ใกล้เมืองเมจูจอร์จี ชอบมากเลยเลียนแบบ เอาเลข 7 เป็นหลักตามพระวรสารโดยนักบุญลูกา ฐานลึก 7 ฟุต/2.134 เมตร ( เพื่อนชื่อ เฮ๊ก/ Heck ช่างและผู้รับเหมาก่อสร้างคาทอลิก บอกอยากจะให้ลึกสัก 2.44 เมตร แต่เจาะพื้นไปถึง 7 ฟุต/2.134 เมตร ก็เจอหินแข็ง เจาะไม่ได้ บอกกันว่าพระเป็นเจ้าตัดสินให้แล้ว) 7 ตารางฟุต/.65 ตารางเมตร 7 ก้าวไปถึง แท่น 7 ความทุกข์โศกเศร้าของพระแม่มารีย์ บนแท่นเป็นเสาหนุนไม้กางเขนสูง 7 ฟุต/2.134 เมตร 7 ตารางฟุต/.65 ตารางเมตร เหนือแท่นเป็นไม้กางเขนสูง 70X7 นิ้ว/ 12.45 เมตร

สร้างเสร็จปี คศ 1996 ปีนักบุญโป็ป จอห์น ปอล ที่สองประกาศเป็นปีแห่งการคืนดีและให้อภัย และเริ่มฉลอง 3,000 ปีของคริสตศาสนา ไม้กางเขนถูกยกขึ้น วันศุกร์ ที่ 1 พฤศจิกายน 1996 วันฉลองนักบุญทั้งหลาย เวลาบ่ายโมง และลงหลุมที่ฐาน เวลาบ่ายสามโมง ที่พระเยซูเจ้าทรงสิ้นพระชนม์และเป็นชั่วโมงพระเมตตา คุณแฮ้งค์บอกไม่ใช่เครดิตของผู้ใดที่ทุกอย่างลงตัวในชั่วโมงพระเมตตา เป็นการกระทําของพระเป็นเจ้า

คุณแฮ้งค์: ไม้กางเขนพาคนมาหากัน คริสตชนมีหลายแขนงแตกต่างกัน เราควรเป็นพี่เป็นน้องกัน ไม่ทําร้ายกัน ต่อสู้กัน เราควรจะหาสิ่งที่เราตกลงเห็นชอบกันได้ ไม้กางเขนเป็นสัญญลักษณ์แห่งการให้อภัย อย่างน้อยที่สุดเราควรสามารถอยู่ร่วมกันได้ใต้ไม้กางเขน พระเยซูเจ้าทรงต้องการให้เราเป็นหนึ่งเดียวกัน วันหนึ่งเราจะเป็นนายชุมพาบาลคนเดียวและแกะฝูงเดียว มันเป็นทัศนคติเพื่ออนาคตที่เราต้องเริ่มทํางานและสวดภาวนา เราไม่สามารถหวังที่จะประกาศข่าวประเสริฐของพระเยซูเจ้าให้แก่โลกได้จนกระทั่งเมื่อเรารวมตัวเป็นหนึ่งเดียวกันได้

พวกเราถ่ายรูปภาพร่วมกันเป็นที่ระลึก แล้วเคลื่อนขบวนลงเขา บ่ายหน้าไปที่สถานที่สวดสายประคํา แล้วก็สวดสายประคําภาคชื่นชมยินดี สวดเสร็จก็เดินลงเขา ทานอาหารที่ทุกคนเตรียมมาแบ่งปัน พูดคุยสนุกสนาน

ภรรยาหัวหน้ากลุ่มพูดเสียงใสให้ทุกคนตั้งใจฟังขณะทานข้าว: มีเรื่องหนึ่งเกี่ยวกับมรรคากางเขนและไม้กางเขนแห่งนี้ที่ฉันอยากจะเล่าให้ทุกคนฟัง มีกลุ่มคนเดินไปบนมรรคากางเขนเส้นนี้ เกือบทุกคนเดินไปตามทางที่ลดเลี้ยวเคี้ยวคด มีผู้หนึ่งตัดทางลัดเดินไปถึงบนเขาก่อนทุกคน
ไม่หนื่อยล้า อ่อนเพลีย รอคอยผู้อื่นที่ตามมา ทุกคนเหนื่อยล้า เหงื่อตก เมื่อทุกคนรวมตัวกันต่อหน้าพระเยซูเจ้า พระองค์ทรงชี้นิ้วไปเบื้องหน้าว่าสวรรค์อยู่ข้างหน้าที่มีหุบเหวลึกขวางกั้นอยู่นี้เอง ทุกคนถามพระองค์ว่าจะทํายังไงถึงจะข้ามเหวนี้ได้ พระเยซูเจ้าทรงบอกว่า ความกว้างของเหวนี้ยาวเท่ากับไม้กางเขนของทุกคนที่แบกตามมรรคากางเขนเส้นนี้...

* ล่วงลับไปแล้ว

กราบขอบพระคุณ: พระเป็นเจ้า พระแม่มารีย์ นักบุญโยเซฟ อัครเทวดาไมเกิ้ล เกเบรียล ราฟาเอล คุณพี่อารักขเทวดา สหพันธ์นักบุญทุกท่าน

เครดิต/ Credit: Cross of Christ Apostolate pamphlet, Google search engine for various websites
ตอบกลับโพส