แปดวันศักดิ์สิทธิ์แห่งการถวายตัวแด่พระเจ้าพระบิดาของเรา
โพสต์แล้ว: เสาร์ ต.ค. 14, 2023 1:29 pm
สวัสดีครับ ผมขอเสนอ แปดวันศักดิ์สิทธิ์แห่งการถวายตัวแด่พระเจ้าพระบิดาของเรา แปลโดย คุณพ่อสุรินทร์ ชุนฟุ้ง จาก God Our Father, Consecration and Feast Day For The Father Of All Mankind by Father Michael O'Carroll C.S.S.P.
เป็นหนังสือเล่มบางที่มีพื้นฐานทุกอย่างมาจากพระวาจาและเนื้อความศักดิ์สิทธิ์ของพระคัมภีร์ไบเบิล ในพันธสัญญาเก่าและพันธสัญญาใหม่ สรุป: ในสภาพของลูกล้างผลาญของพระเจ้า พวกเราทั้งมวลอยู่ในการเดินทางกลับบ้านไปหาพระบิดา
ผมจะโพสต์หกวัน วันละ 10 หน้า จนจบ ทางไลน์และที่ www.newmana.com เวปบอร์ด สนทนาธรรม สามัคคีธรรม แม่พระผู้เห็นอกเห็นใจฯ ใต้หัวข้อ "แปดวันศักดิ์สิทธิ์แห่งการถวายตัวแด่พระเจ้าพระบิดาของเรา"
(ผู้สนใจอยากอ่านต้นฉบับภาษาอังกฤษ สามารถซื้อได้ที่ amazon.com หรือติดต่อผม ฟรีไม่เสียเงิน )
แปดวันศักดิ์สิทธิ์แห่งการถวายตัวแด่พระเจ้าพระบิดาของเรา
ภาคที่หนึ่ง: พระดํารัส
"ลูกๆ ที่รักทั้งหลาย จงเข้ามาหาเราด้วยใจซื่อๆผ่องใส จงเปิดใจของพวกลูกเข้าสู่อ้อมกอดแห่งรักของพระบิดาของพวกลูกเถิด"
"จงเรียกพระนามของเรา "พระบิดา" ด้วยความรักและมั่นใจเถิด แล้วลูกจะได้รับทุกสิ่งทุกอย่างจากพระทัยพระบิดาที่ทรงพระทัยรักและอ่อนหวาน"
มีที่สงบภายในที่ลึกของวิญญาณ ที่นั่นเป็นที่ประทับสําหรับพระเจ้าเท่านั้น ทุกคนเกิดมาด้วยพระพรอันนี้ ภายในตัวเราทุกคนมีพระบัลลังก์ที่พระเจ้าทรงสร้างขึ้น แต่มันได้ถูกฝัง ได้ถูกปนปลอม และได้ถูกครอบคลุมด้วยกระแสเสียงของโลก เพื่อเราจะได้ค้นพบที่ลึกลับและประเสริฐนี้อีกให้เราภาวนาว่า
"ลูกรักพระองค์ พระบิดาเจ้า และลูกถวายตัวแด่พระองค์"
________________________
1. ชีวิตเราคือ การกลับสู่บ้านพระบิดา
พระศาสนจักรสอนว่า พระบิดาส่งพระบุตรมาเพื่อพาเรากลับบ้านไปหาพระองค์ และยังส่งพระจิตมานําเราบนทางเดินกลับสู่บ้านพระบิดา เราได้เห็นความหมายนี้เกิดขึ้นชัดเจนในการสมโภชปียูบีลี 2000 โดยปี 1997 พระศาสนจักรยกถวายแด่พระเยซูเจ้า ปี 1998 ยกถวายแด่พระจิต และปี 1999 ยกถวายแด่พระบิดา การเดินทางของวิญญาณของเราจึงมีจุดหมายชัดแจ้งไปในทิศทางสู่บ้านพระบิดา
พระเยซูเจ้าสอนเราว่า
"เราลงมาจากสวรรค์ มิใช่เพื่อทําตามนํ้าใจของเรา แต่มาทําตามนํ้าใจพระบิดาผู้ทรงส่งเราลงมา และนํ้าพระทัยพระบิดาผู้ทรงส่งเรามา คือ ทุกคนที่พระองค์ทรงมอบหมายให้เรา เราจะไม่ทําให้เสียไป แต่จะทําให้พวกเขาได้กลับคืนชีพใหม่ในวันสุดท้าย" (ยน. 6, 38-39)
"ในบ้านพระบิดาของเรา มีที่อยู่มากมาย ถ้าไม่มี เราคงได้บอกท่านแล้ว เรากําลังไปเตรียมที่ให้ท่าน เมื่อเราไปเตรียมที่ให้ท่านแล้ว เราจะกลับมารับท่านไปกับเรา ให้ท่านอยู่ในที่ที่เราอยู่ด้วย...เราเป็นหนทาง สัจจะ และชีวิต ไม่มีใครมาหาพระบิดาได้นอกจากผ่านทางเรา" (ยน. 14, 2-3)
ในพระสมณสาร Tertio Millenio Adveniente พระสันตะปาปา ยอห์นปอล ที่ 2 ทรงยืนยันว่า
"ชีวิตคริสตังทั้งชีวิตเป็นการจาริกยิ่งใหญ่ไปสู่บ้านพระบิดา พระผู้ทรงมีความรักอันไม่มีขอบเขตต่อมนุษยชาติ โดยเฉพาะต่อลูกล้างผลาญ (ลก. 15, 11-32) และเราทุกคนสามารถพบความรักของพระบิดาเช่นนี้ได้ทุกวันในชีวิตของเรา...และพระแม่มารีย์ พระมารดาของเราทรงเชื้อเชิญเราทุกคนอยู่ตลอดเวลาด้วยความรักและด้วยความเอาพระทัยใส่ให้เราลูกๆ ทุกคนกลับสู่บ้านพระบิดา และทรงสอนเราให้ฟังเสียงของพระอาจารย์ภายในใจของเราว่าจงทําทุกสิ่งที่พระองค์ทรงสั่งท่าน (ยน. 2, 5)"
2. การกลับสู่บ้านพระบิดาเป็นกระบวนการ
การกลับสู่บ้านพระบิดาได้รับการกําหนดไว้ให้เป็นขั้นตอนไป มันจึงเป็นกระบวนการที่เริ่มจากพระแม่มารีย์ทรงนําเราด้วยรักและเอาใจใส่ไปสู่องค์พระบุตร จากนั้นองค์พระเยซูทรงเมตตายกเราขึ้น ณ บนกางเขนของพระองค์นั้นเองถวายแด่องค์พระบิดา ส่วนองค์พระจิตเจ้า ทรงให้ความบรรเทาแก่เราตลอดทางเดินกลับบ้านของเรา องค์พระจิตทําให้เราบริสุทธิ์ ชําระเราให้สดใสสวยงามเพื่อให้พระบิดาเสด็จมาประทับอยู่ในตัวเราประดุจเป็นพระวิหารของพระองค์ ดังนี้ เราก็สามารถสวมสนิทในพระองค์พระบิดาเจ้าของเรา
เพื่อทําให้ขั้นตอนต่างๆ บรรลุล่วงไป เราต้องทําตรงข้ามกับบิดามารดาเดิมของเรา เพราะโดยการพูดว่า "ไม่" ต่อพระองค์ มนุษยชาติก็สูญเสียพระพรแห่งการสถิตย์อยู่ของพระเจ้า และถูกขับไล่ออกจากสวนสวรรค์ ณ แผ่นดิน เราต้องพูดว่า "ใช่" ต่อนํ้าพระทัยพระบิดาแห่งทุกขั้นตอน และ เสมอไป
3. เครื่องมือนําทางเราสู่บ้านพระบิดา
ในฐานะที่เป็นลูกของพระ เราได้รับเครื่องมืออันประเสริฐที่จะช่วยเรากลับสู่บ้านพระบิดา กระบวนการที่หนุนเนื่องตลอดเวลาที่ท่านนักบุญหลุยส์ เดอ มงฟอร์ต ได้บรรยายไว้ในหนังสือความลับของพระแม่มารีย์ว่า
"ถ้าเพียงแต่บรรดาที่จะหลงผิดไป และถูกชักนําเดินทางผิด ถ้าหากพวกเขาเพียงแต่ได้รู้จักเข้าหาพระแม่มารีย์ แม้ด้วยคําภาวนาวิงวอนก็ยังดี และโดยอาศัยพระนาง พวกเขาจะเข้าพบพระเยซู และโดยอาศัยพระเยซู พวกเขากลับคืนสู่อ้อมแขนของพระบิดา พวกเขาคงไม่ตกอยู่ในสภาพที่เลวร้ายเช่นนั้น"
"บรรดานักบุญสอนเราเสมอว่า เมื่อเราได้พบพระแม่มารีย์ โดยอาศัยพระนาง เราจะพบพระเยซูเจ้า และโดยอาศัยพระเยซูเจ้า เราจะพบพระบิดา ดังนี้ เราจะได้พบทุกสิ่งทุกอย่างที่ประเสริฐสุด"
"พวกเขาจะได้พบพระหรรษทานและความสัมพันธ์กับพระเจ้า พวกเขาจะได้ความคุ้มครองป้องกันภัยจากศัตรูทุกชนิด พวกเขาจะได้สัจจะสําหรับต่อสู้กับความเท็จทุกอย่าง พวกเขาจะได้พละกําลังยิ่งใหญ่เอาชนะความยากลำบากบนทางเดินสู่ความรอด พวกเขาจะได้รับความสะดวกสบายและความยินดีในท่ามกลางความทุกข์ยากของชีวิต"
การเดินทางของเราเป็นกระบวนการแท้จริงที่ทรงพลังที่พาเราไปโดยอาศัยพระแม่มารีย์ไปหาพระเยซูในความเป็นหนึ่งเดียวกับองค์พระจิต เพื่อกลับสู่บ้านพระบิดาเจ้า นี่แหละคือเหตุผลอันเดียวที่เรามีชีวิตอยู่ และถ้าเราออกไปนอกโลกและมองเข้ามายังประวัติศาสตร์แห่งความรอดของมนุษยชาติแล้ว เราจะมองเห็นชัดเจนว่ามนุษย์ได้รับการสร้างสรรค์มาเพื่อจุดหมายเดียวเท่านั้น คือ เดินทางกลับสู่พระผู้สร้างคือองค์พระบิดาเจ้า
4. พระแม่มารีย์ร่วมแผนการณ์การไถ่กู้กับองค์พระเยซูเจ้า
บทบาทยิ่งใหญ่พระแม่มารีย์ คือ โดยร่วมกับพระเยซูเจ้า นําเรากลับสู่บ้านพระบิดาและส่งเราคืนสู่อ้อมพระหัตถ์ของพระบิดา พระแม่มารีย์ทรงเป็นธิดาองค์แรกท่ามกลางบุตรธิดาของพระบิดาที่ได้ถวายคําว่า "ใช่" ( FIAT) แด่พระบิดาเจ้า พระนางจึงได้เป็นทางนําพระเยซูเจ้าพระผู้ไถ่เข้ามาสู่โลก พระแม่มารีย์เป็นผู้นําลูกๆของพระแม่ให้ตอบคําว่า "ใช่" แด่พระเจ้า โดยนัยความนี้ พระแม่ก็ "เหยียบหัว" ของเจ้างูร้ายที่ได้ล่อลวงมนุษยชาติให้ขัดขืนปฎิเสธพระเจ้าซึ่งเป็นเหตุให้มนุษย์ตกตํ่าสู่แดนเนรเทศ (ปฐมกาล. 3, 15)
โดยอาศัยพระแม่มารีย์ ลูกๆของพระเจ้า พระบิดา เหมือนในสมัยแรกครั้งกระโน้น จะกลับคืนสู่ที่อาศัยกับพระองค์ในสวนสวรรค์แห่งนํ้าพระทัยของพระองค์อีกครั้ง พระแม่มารีย์ทรงเป็นพระมารดาของมวลมนุษยชาติอย่างแท้จริง ทรงร่วมแผนการณ์ความรอดกับพระเจ้าสําหรับการไถ่บาปของเรา ทรงนําเราเข้าคืนดีกับพระบิดาและรวมเราสนิทกับพระบิดาเสียใหม่ และทรงเป็นผู้ช่วยเหลือเราในการเสนอวิงวอนต่อพระบิดาเพื่อลูกๆของพระองค์ทุกคน
เหมือนกับพระมารดาของพระองค์ พระเยซูเจ้าตรัสคําว่า "ใช่" ต่อพระบิดาเจ้าสวรรค์ โดยคําคําเดียวนี้ พระเยซูเจ้าถวายบูชาพระองค์เองสําหรับเราแต่ละคนทุกๆคน พระมหาทรมานของพระองค์ ความตาย และการกลับคืนพระชนม์ชีพของพระองค์ทําลายบาป และความตาย ซึ่งเป็นผลมาจากนํ้าใจอิสระของอาดัมและเอวาที่ได้เปล่งคําว่า "ไม่" ต่อนํ้าพระทัยพระบิดาของเรา
ดังนี้ จึงโดยอาศัยคําว่า "ใช่" ของพระเยซูและของพระมารดามารีย์ เราลูกๆก็ไม่ต้องถูกเนรเทศอีกต่อไป พระเยซูเจ้าทรงเป็น หนทาง สัจจะ และชีวิต ทั้งพระเยซูเจ้า ทั้งพระแม่มารีย์ ทั้งสองพระองค์ต่างก็รอคอยด้วยความกระวนกระวายที่จะถึงเวลานําเรากลับบ้านพระบิดาเจ้า พระองค์ทั้งสองกําลังรอคําว่า "ใช่" จากเรา
เมื่อพระองค์ทั้งสองได้เปล่งคําว่า "ใช่" แล้ว พระบิดาก็ทรงส่งพระจิตเจ้าตามที่พระเยซูเจ้าได้ทรงขอไว้ เพื่อช่วยเราไม่ให้เป็นกําพร้าอีกต่อไป พระจิตเจ้าทรงบรรเทา ทรงนำทาง และทรงชําระเราให้บริสุทธิ์ บนทางเดินกลับสู่บ้านพระบิดา โดยอาศัยคําว่า "ใช่" ของเรา พระจิตเจ้าทรงเตรียมเราให้พร้อมและเหมาะสมที่จะเป็นวิหารของพระพระเจ้าผู้ทรงชีวิต
เมื่อพระเจ้าทรงชีวิตสถิตย์อยู่ในตัวเราอย่างแท้จริง เราลูกหลานของเอวาที่ต้องเนรเทศ เราที่เป็นลูกล้างผลาญ ที่สุดเราก็ได้กลับคืนดีกับพระบิดาเจ้า ณ ที่นี้เองดวงหทัยนิรมลของพระแม่มารีย์จึงได้รับชัยชนะ ณ เวลานั้นเองพระราชัยของพระบิดาเจ้าก็มาถึง!
5. ที่อันเหมาะสมของพระบิดาอยู่ที่ใด
"บุตรย่อมให้เกียรติแก่บิดาของตน และคนใช้ย่อมให้เกียรติแก่นายของตน ถ้าเช่นนั้น เราที่เป็นพระบิดา เกียรติของเราอยู่ที่ไหน? (มลค. 1, 6)
พระศาสนจักรโรมันคาทอลิกเชื่อในพระเจ้าเดียวทรงมี 3 พระบุคคล พระบิดา พระบุตร และพระจิต ตั้งแต่เริ่มแรก พระศาสนจักรเน้นไปที่พระบุคคลที่สอง องค์พระเยซูเจ้า พระบุตรพระบิดาเจ้า และมีการรื้อฟื้นศรัทธาต่อพระบุคคลที่สาม องค์พระจิตเจ้า เมื่อกลางศตวรรษที่ 20 แม้จะมีน้ำหนักน้อยกว่ามาก...แล้วพระบิดาอยู่ที่ไหน?
จริงอยู่ที่สักการะบูชามิสซาถวายแด่พระเจ้าพระบิดา และบทข้าแต่พระบิดาในมิสซาก็สวดถึงพระองค์ แต่ถามว่า เรารู้จักพระบิดาไหม? หรือเราเชื่อว่าพระเยซูเสด็จมาบังเกิดฐานะทรงเป็นพระเจ้าอวตาร แล้วเราไม่จำเป็นต้องรู้จัก รัก รับใช้ และถวายเกียรติแด่พระบิดาอีก? เราคิดว่าพระเยซูเจ้าแทนที่พระบิดาได้หรือ? หรือเรารู้สึกว่าพระบิดาขึ้นอยู่กับพระธรรมเก่าเท่านั้น และพระเยซูทรงเข้าแทนที่ในพระธรรมใหม่ เราเรียนรู้จักพระบิดาว่าทรงเป็นลักษณะโบราณ ลึกลับ ดุ ชรา และไม่น่าเข้าหาหรือ? เรารู้จักพระองค์จริงหรือ? เรารักพระองค์ไหม? เรารับใช้พระองค์หรือเปล่า? และเราถวายเกียรติอันสมควรแก่พระองค์หรือไม่? คําตอบที่ได้จากคริสตังส่วนใหญ่ย่อมชี้ให้เห็นว่า มีบางอย่างที่สำคัญขาดไปจากการรับรู้และความสัมพันธ์กับพระบิดาเจ้าสวรรค์
ลองตรองดูสักหน่อยว่า เราเคยเห็นรูปหรือภาพวาดพระบิดาในวัดคาทอลิกของเราไหม? เคยมีวัดไหนที่ถวายแด่นามชื่อพระบิดาบ้าง? พระศาสนจักรคาทอลิกกําหนดวันสมโภชพระบิดาหรือไม่?
คําตอบที่น่าเศร้าที่สุดคือ "ไม่"
เป็นหนังสือเล่มบางที่มีพื้นฐานทุกอย่างมาจากพระวาจาและเนื้อความศักดิ์สิทธิ์ของพระคัมภีร์ไบเบิล ในพันธสัญญาเก่าและพันธสัญญาใหม่ สรุป: ในสภาพของลูกล้างผลาญของพระเจ้า พวกเราทั้งมวลอยู่ในการเดินทางกลับบ้านไปหาพระบิดา
ผมจะโพสต์หกวัน วันละ 10 หน้า จนจบ ทางไลน์และที่ www.newmana.com เวปบอร์ด สนทนาธรรม สามัคคีธรรม แม่พระผู้เห็นอกเห็นใจฯ ใต้หัวข้อ "แปดวันศักดิ์สิทธิ์แห่งการถวายตัวแด่พระเจ้าพระบิดาของเรา"
(ผู้สนใจอยากอ่านต้นฉบับภาษาอังกฤษ สามารถซื้อได้ที่ amazon.com หรือติดต่อผม ฟรีไม่เสียเงิน )
แปดวันศักดิ์สิทธิ์แห่งการถวายตัวแด่พระเจ้าพระบิดาของเรา
ภาคที่หนึ่ง: พระดํารัส
"ลูกๆ ที่รักทั้งหลาย จงเข้ามาหาเราด้วยใจซื่อๆผ่องใส จงเปิดใจของพวกลูกเข้าสู่อ้อมกอดแห่งรักของพระบิดาของพวกลูกเถิด"
"จงเรียกพระนามของเรา "พระบิดา" ด้วยความรักและมั่นใจเถิด แล้วลูกจะได้รับทุกสิ่งทุกอย่างจากพระทัยพระบิดาที่ทรงพระทัยรักและอ่อนหวาน"
มีที่สงบภายในที่ลึกของวิญญาณ ที่นั่นเป็นที่ประทับสําหรับพระเจ้าเท่านั้น ทุกคนเกิดมาด้วยพระพรอันนี้ ภายในตัวเราทุกคนมีพระบัลลังก์ที่พระเจ้าทรงสร้างขึ้น แต่มันได้ถูกฝัง ได้ถูกปนปลอม และได้ถูกครอบคลุมด้วยกระแสเสียงของโลก เพื่อเราจะได้ค้นพบที่ลึกลับและประเสริฐนี้อีกให้เราภาวนาว่า
"ลูกรักพระองค์ พระบิดาเจ้า และลูกถวายตัวแด่พระองค์"
________________________
1. ชีวิตเราคือ การกลับสู่บ้านพระบิดา
พระศาสนจักรสอนว่า พระบิดาส่งพระบุตรมาเพื่อพาเรากลับบ้านไปหาพระองค์ และยังส่งพระจิตมานําเราบนทางเดินกลับสู่บ้านพระบิดา เราได้เห็นความหมายนี้เกิดขึ้นชัดเจนในการสมโภชปียูบีลี 2000 โดยปี 1997 พระศาสนจักรยกถวายแด่พระเยซูเจ้า ปี 1998 ยกถวายแด่พระจิต และปี 1999 ยกถวายแด่พระบิดา การเดินทางของวิญญาณของเราจึงมีจุดหมายชัดแจ้งไปในทิศทางสู่บ้านพระบิดา
พระเยซูเจ้าสอนเราว่า
"เราลงมาจากสวรรค์ มิใช่เพื่อทําตามนํ้าใจของเรา แต่มาทําตามนํ้าใจพระบิดาผู้ทรงส่งเราลงมา และนํ้าพระทัยพระบิดาผู้ทรงส่งเรามา คือ ทุกคนที่พระองค์ทรงมอบหมายให้เรา เราจะไม่ทําให้เสียไป แต่จะทําให้พวกเขาได้กลับคืนชีพใหม่ในวันสุดท้าย" (ยน. 6, 38-39)
"ในบ้านพระบิดาของเรา มีที่อยู่มากมาย ถ้าไม่มี เราคงได้บอกท่านแล้ว เรากําลังไปเตรียมที่ให้ท่าน เมื่อเราไปเตรียมที่ให้ท่านแล้ว เราจะกลับมารับท่านไปกับเรา ให้ท่านอยู่ในที่ที่เราอยู่ด้วย...เราเป็นหนทาง สัจจะ และชีวิต ไม่มีใครมาหาพระบิดาได้นอกจากผ่านทางเรา" (ยน. 14, 2-3)
ในพระสมณสาร Tertio Millenio Adveniente พระสันตะปาปา ยอห์นปอล ที่ 2 ทรงยืนยันว่า
"ชีวิตคริสตังทั้งชีวิตเป็นการจาริกยิ่งใหญ่ไปสู่บ้านพระบิดา พระผู้ทรงมีความรักอันไม่มีขอบเขตต่อมนุษยชาติ โดยเฉพาะต่อลูกล้างผลาญ (ลก. 15, 11-32) และเราทุกคนสามารถพบความรักของพระบิดาเช่นนี้ได้ทุกวันในชีวิตของเรา...และพระแม่มารีย์ พระมารดาของเราทรงเชื้อเชิญเราทุกคนอยู่ตลอดเวลาด้วยความรักและด้วยความเอาพระทัยใส่ให้เราลูกๆ ทุกคนกลับสู่บ้านพระบิดา และทรงสอนเราให้ฟังเสียงของพระอาจารย์ภายในใจของเราว่าจงทําทุกสิ่งที่พระองค์ทรงสั่งท่าน (ยน. 2, 5)"
2. การกลับสู่บ้านพระบิดาเป็นกระบวนการ
การกลับสู่บ้านพระบิดาได้รับการกําหนดไว้ให้เป็นขั้นตอนไป มันจึงเป็นกระบวนการที่เริ่มจากพระแม่มารีย์ทรงนําเราด้วยรักและเอาใจใส่ไปสู่องค์พระบุตร จากนั้นองค์พระเยซูทรงเมตตายกเราขึ้น ณ บนกางเขนของพระองค์นั้นเองถวายแด่องค์พระบิดา ส่วนองค์พระจิตเจ้า ทรงให้ความบรรเทาแก่เราตลอดทางเดินกลับบ้านของเรา องค์พระจิตทําให้เราบริสุทธิ์ ชําระเราให้สดใสสวยงามเพื่อให้พระบิดาเสด็จมาประทับอยู่ในตัวเราประดุจเป็นพระวิหารของพระองค์ ดังนี้ เราก็สามารถสวมสนิทในพระองค์พระบิดาเจ้าของเรา
เพื่อทําให้ขั้นตอนต่างๆ บรรลุล่วงไป เราต้องทําตรงข้ามกับบิดามารดาเดิมของเรา เพราะโดยการพูดว่า "ไม่" ต่อพระองค์ มนุษยชาติก็สูญเสียพระพรแห่งการสถิตย์อยู่ของพระเจ้า และถูกขับไล่ออกจากสวนสวรรค์ ณ แผ่นดิน เราต้องพูดว่า "ใช่" ต่อนํ้าพระทัยพระบิดาแห่งทุกขั้นตอน และ เสมอไป
3. เครื่องมือนําทางเราสู่บ้านพระบิดา
ในฐานะที่เป็นลูกของพระ เราได้รับเครื่องมืออันประเสริฐที่จะช่วยเรากลับสู่บ้านพระบิดา กระบวนการที่หนุนเนื่องตลอดเวลาที่ท่านนักบุญหลุยส์ เดอ มงฟอร์ต ได้บรรยายไว้ในหนังสือความลับของพระแม่มารีย์ว่า
"ถ้าเพียงแต่บรรดาที่จะหลงผิดไป และถูกชักนําเดินทางผิด ถ้าหากพวกเขาเพียงแต่ได้รู้จักเข้าหาพระแม่มารีย์ แม้ด้วยคําภาวนาวิงวอนก็ยังดี และโดยอาศัยพระนาง พวกเขาจะเข้าพบพระเยซู และโดยอาศัยพระเยซู พวกเขากลับคืนสู่อ้อมแขนของพระบิดา พวกเขาคงไม่ตกอยู่ในสภาพที่เลวร้ายเช่นนั้น"
"บรรดานักบุญสอนเราเสมอว่า เมื่อเราได้พบพระแม่มารีย์ โดยอาศัยพระนาง เราจะพบพระเยซูเจ้า และโดยอาศัยพระเยซูเจ้า เราจะพบพระบิดา ดังนี้ เราจะได้พบทุกสิ่งทุกอย่างที่ประเสริฐสุด"
"พวกเขาจะได้พบพระหรรษทานและความสัมพันธ์กับพระเจ้า พวกเขาจะได้ความคุ้มครองป้องกันภัยจากศัตรูทุกชนิด พวกเขาจะได้สัจจะสําหรับต่อสู้กับความเท็จทุกอย่าง พวกเขาจะได้พละกําลังยิ่งใหญ่เอาชนะความยากลำบากบนทางเดินสู่ความรอด พวกเขาจะได้รับความสะดวกสบายและความยินดีในท่ามกลางความทุกข์ยากของชีวิต"
การเดินทางของเราเป็นกระบวนการแท้จริงที่ทรงพลังที่พาเราไปโดยอาศัยพระแม่มารีย์ไปหาพระเยซูในความเป็นหนึ่งเดียวกับองค์พระจิต เพื่อกลับสู่บ้านพระบิดาเจ้า นี่แหละคือเหตุผลอันเดียวที่เรามีชีวิตอยู่ และถ้าเราออกไปนอกโลกและมองเข้ามายังประวัติศาสตร์แห่งความรอดของมนุษยชาติแล้ว เราจะมองเห็นชัดเจนว่ามนุษย์ได้รับการสร้างสรรค์มาเพื่อจุดหมายเดียวเท่านั้น คือ เดินทางกลับสู่พระผู้สร้างคือองค์พระบิดาเจ้า
4. พระแม่มารีย์ร่วมแผนการณ์การไถ่กู้กับองค์พระเยซูเจ้า
บทบาทยิ่งใหญ่พระแม่มารีย์ คือ โดยร่วมกับพระเยซูเจ้า นําเรากลับสู่บ้านพระบิดาและส่งเราคืนสู่อ้อมพระหัตถ์ของพระบิดา พระแม่มารีย์ทรงเป็นธิดาองค์แรกท่ามกลางบุตรธิดาของพระบิดาที่ได้ถวายคําว่า "ใช่" ( FIAT) แด่พระบิดาเจ้า พระนางจึงได้เป็นทางนําพระเยซูเจ้าพระผู้ไถ่เข้ามาสู่โลก พระแม่มารีย์เป็นผู้นําลูกๆของพระแม่ให้ตอบคําว่า "ใช่" แด่พระเจ้า โดยนัยความนี้ พระแม่ก็ "เหยียบหัว" ของเจ้างูร้ายที่ได้ล่อลวงมนุษยชาติให้ขัดขืนปฎิเสธพระเจ้าซึ่งเป็นเหตุให้มนุษย์ตกตํ่าสู่แดนเนรเทศ (ปฐมกาล. 3, 15)
โดยอาศัยพระแม่มารีย์ ลูกๆของพระเจ้า พระบิดา เหมือนในสมัยแรกครั้งกระโน้น จะกลับคืนสู่ที่อาศัยกับพระองค์ในสวนสวรรค์แห่งนํ้าพระทัยของพระองค์อีกครั้ง พระแม่มารีย์ทรงเป็นพระมารดาของมวลมนุษยชาติอย่างแท้จริง ทรงร่วมแผนการณ์ความรอดกับพระเจ้าสําหรับการไถ่บาปของเรา ทรงนําเราเข้าคืนดีกับพระบิดาและรวมเราสนิทกับพระบิดาเสียใหม่ และทรงเป็นผู้ช่วยเหลือเราในการเสนอวิงวอนต่อพระบิดาเพื่อลูกๆของพระองค์ทุกคน
เหมือนกับพระมารดาของพระองค์ พระเยซูเจ้าตรัสคําว่า "ใช่" ต่อพระบิดาเจ้าสวรรค์ โดยคําคําเดียวนี้ พระเยซูเจ้าถวายบูชาพระองค์เองสําหรับเราแต่ละคนทุกๆคน พระมหาทรมานของพระองค์ ความตาย และการกลับคืนพระชนม์ชีพของพระองค์ทําลายบาป และความตาย ซึ่งเป็นผลมาจากนํ้าใจอิสระของอาดัมและเอวาที่ได้เปล่งคําว่า "ไม่" ต่อนํ้าพระทัยพระบิดาของเรา
ดังนี้ จึงโดยอาศัยคําว่า "ใช่" ของพระเยซูและของพระมารดามารีย์ เราลูกๆก็ไม่ต้องถูกเนรเทศอีกต่อไป พระเยซูเจ้าทรงเป็น หนทาง สัจจะ และชีวิต ทั้งพระเยซูเจ้า ทั้งพระแม่มารีย์ ทั้งสองพระองค์ต่างก็รอคอยด้วยความกระวนกระวายที่จะถึงเวลานําเรากลับบ้านพระบิดาเจ้า พระองค์ทั้งสองกําลังรอคําว่า "ใช่" จากเรา
เมื่อพระองค์ทั้งสองได้เปล่งคําว่า "ใช่" แล้ว พระบิดาก็ทรงส่งพระจิตเจ้าตามที่พระเยซูเจ้าได้ทรงขอไว้ เพื่อช่วยเราไม่ให้เป็นกําพร้าอีกต่อไป พระจิตเจ้าทรงบรรเทา ทรงนำทาง และทรงชําระเราให้บริสุทธิ์ บนทางเดินกลับสู่บ้านพระบิดา โดยอาศัยคําว่า "ใช่" ของเรา พระจิตเจ้าทรงเตรียมเราให้พร้อมและเหมาะสมที่จะเป็นวิหารของพระพระเจ้าผู้ทรงชีวิต
เมื่อพระเจ้าทรงชีวิตสถิตย์อยู่ในตัวเราอย่างแท้จริง เราลูกหลานของเอวาที่ต้องเนรเทศ เราที่เป็นลูกล้างผลาญ ที่สุดเราก็ได้กลับคืนดีกับพระบิดาเจ้า ณ ที่นี้เองดวงหทัยนิรมลของพระแม่มารีย์จึงได้รับชัยชนะ ณ เวลานั้นเองพระราชัยของพระบิดาเจ้าก็มาถึง!
5. ที่อันเหมาะสมของพระบิดาอยู่ที่ใด
"บุตรย่อมให้เกียรติแก่บิดาของตน และคนใช้ย่อมให้เกียรติแก่นายของตน ถ้าเช่นนั้น เราที่เป็นพระบิดา เกียรติของเราอยู่ที่ไหน? (มลค. 1, 6)
พระศาสนจักรโรมันคาทอลิกเชื่อในพระเจ้าเดียวทรงมี 3 พระบุคคล พระบิดา พระบุตร และพระจิต ตั้งแต่เริ่มแรก พระศาสนจักรเน้นไปที่พระบุคคลที่สอง องค์พระเยซูเจ้า พระบุตรพระบิดาเจ้า และมีการรื้อฟื้นศรัทธาต่อพระบุคคลที่สาม องค์พระจิตเจ้า เมื่อกลางศตวรรษที่ 20 แม้จะมีน้ำหนักน้อยกว่ามาก...แล้วพระบิดาอยู่ที่ไหน?
จริงอยู่ที่สักการะบูชามิสซาถวายแด่พระเจ้าพระบิดา และบทข้าแต่พระบิดาในมิสซาก็สวดถึงพระองค์ แต่ถามว่า เรารู้จักพระบิดาไหม? หรือเราเชื่อว่าพระเยซูเสด็จมาบังเกิดฐานะทรงเป็นพระเจ้าอวตาร แล้วเราไม่จำเป็นต้องรู้จัก รัก รับใช้ และถวายเกียรติแด่พระบิดาอีก? เราคิดว่าพระเยซูเจ้าแทนที่พระบิดาได้หรือ? หรือเรารู้สึกว่าพระบิดาขึ้นอยู่กับพระธรรมเก่าเท่านั้น และพระเยซูทรงเข้าแทนที่ในพระธรรมใหม่ เราเรียนรู้จักพระบิดาว่าทรงเป็นลักษณะโบราณ ลึกลับ ดุ ชรา และไม่น่าเข้าหาหรือ? เรารู้จักพระองค์จริงหรือ? เรารักพระองค์ไหม? เรารับใช้พระองค์หรือเปล่า? และเราถวายเกียรติอันสมควรแก่พระองค์หรือไม่? คําตอบที่ได้จากคริสตังส่วนใหญ่ย่อมชี้ให้เห็นว่า มีบางอย่างที่สำคัญขาดไปจากการรับรู้และความสัมพันธ์กับพระบิดาเจ้าสวรรค์
ลองตรองดูสักหน่อยว่า เราเคยเห็นรูปหรือภาพวาดพระบิดาในวัดคาทอลิกของเราไหม? เคยมีวัดไหนที่ถวายแด่นามชื่อพระบิดาบ้าง? พระศาสนจักรคาทอลิกกําหนดวันสมโภชพระบิดาหรือไม่?
คําตอบที่น่าเศร้าที่สุดคือ "ไม่"