สวัสดีครับ วันนี้ผมขอเสนอบทความเสริมศรัทธาในช่วงเทศกาลมหาพรต จากรายการออกอากาศของเน็ตเฟลิกซ์ ( Netflix) ชื่อ ความลึกลับแห่งความเชื่อ ( Mysteries of the Faith) เป็นรายการสารคดีแห่งความเชื่อของคริสตศาสนา โดยเฉพาะ พระศาสนจักรโรมันคาทอลิก เจ้าเก่า ของเรา มีสี่ตอน มงกุฎหนาม ถ้วยกาลิสศักดิ์สิทธิ์ ไม้กางเขนศักดิ์สิทธิ์ของประเทศบราซิล ( น่าจะตั้งชื่อรวมกับไม้กางเขนศักดิ์สิทธิ์ ป้ายบนไม้กางเขนศักดิ์สิทธิ์และตะปูหนึ่งอันศักดิ์สิทธิ์ของสามอันที่ตรึงพระเยซูเจ้าบนไม้กางเขน ที่อาสนวิหารไม้กางเขนศักดิ์สิทธิ์ โรม อิตาลี) และ นักบุญข้างบ้าน
( Crown of Thorns, Holy Grail, Holy Cross of Brazil and The Saint Next Door)
ผมดูทั้งสี่ตอนแล้วตัดสินใจเสนอ ไม้กางเขนศักดิ์สิทธิ์ของประเทศบราซิล เป็นอันดับแรก เพราะทุกวันศุกร์ของเทศกาลมหาพรตพวกเราโรมันคาทอลิกมีการทําพิธีเดินรูป 15 ภาคครับ
ไม้กางเขนศักดิ์สิทธิ์ของประเทศบราซิล ( Holy Cross of Brazil)
ประเทศบราซิลมีคริสตชนโรมันคาทอลิก มากกว่า 100 ล้านคน จํานวนมากที่สุดในโลก อดีตเมืองขึ้นของประเทศโปรตุเกส (คริสต์ศักราช 1500-1822)
เมื่อเรือของชาวโปรตุเกสจากเมืองลิสบอนถึงเมืองริโอ ลุยคลื่นลุยลมสองเดือน บางคนเห็นริโอแล้วเรียกเมืองริโอว่า เกาะแห่งไม้กางเขนศักดิ์สิทธิ์ ริโอเป็นเมืองเล็กๆ แต่เมื่อมีการค้นพบทองจํานวนมากมายมหาศาลก็เปลี่ยนประวัติศาสตร์ ชาวโปรตุเกสและนักผจญโชคผจญภัยหลั่งไหลไปที่นั่น ( ชาวโปรตุเกสอพยพไปอยู่ประเทศบราซิล ประมาณ 500,000-600,000 คน)
ในการเผยแพร่ความเชื่อของพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก 1) มีการส่งนักแพร่ธรรม (พระสงฆ์ นักบวช ) ใช้พระวรสารเป็นหลัก และ 2) พระธาตุก็มีส่วนในการเผยแพร่ความเชื่อเช่นกัน
ตัวอย่าง: ปีคศ 1725 ไม้กางเขนศักดิ์สิทธิ์ที่พระสังฆราช อันโตนิโอ ดี กัวดาลูป ( Bishop Antonio De Guadalupe) นําไปสู่โลกใหม่ ประเทศบราซิล ที่อาสนวิหารเมืองริโอ ที่ในอดีตชาวบราซิลส่วนมากไม่รู้ แต่ปัจจุบันเป็นที่รู้กันแพร่หลายเพราะคุณพ่อคลอดิโอ ด๊อส ซันโต๊ส ( Claudio Dos Santos) ที่มีหน้าที่ดูแลไม้กางเขนศักดิ์สิทธิ์ นําออกมาให้สาธุชนเห็น เคารพสักการะ จุมพิต แถมยังเดินขบวนแห่รอบเมือง รวมทั้งสลัมที่ยากจน อันมีการต่อสู้ของแก๊งค์ ตํารวจกับผู้ร้าย อาวุธ ยาเสพติด
ท่านทําตามพระประสงค์ของโป๊ปฟรานซิส: จงไปแพร่ธรรมนอกวัด ไปที่มีความยากจน ให้ความหวัง ให้สันติสุข ความรักแท้จริงของพระเจ้าแก่พวกเขา มีส่วนร่วมในทุกขั้นตอนของชีวิตของพวกเขา
คุณพ่อได้รับกระแสเรียกที่วัดของอารามนักบวชหญิง ที่เมืองริโอ: ไม่แน่ใจ อยากเป็นพระสงฆ์จะได้นําการประทับอยู่ของพระเจ้าไปให้สาธุชน ให้ความเชื่อ ความหวัง สันติสุข กําลังใจในการต่อสู้ชีวิต พระเจ้าส่งหญิงผู้ศรัทธาไปหาท่านแล้วบอกให้ติดต่อคุณพ่อเปโดร ( Father Pedro)
เมื่อท่านเทศน์ว่า พระเยซูเจ้าทรงสิ้นพระชนม์บนไม้กางเขนเพื่อไถ่กู้มวลมนุษชาติ แล้วชี้ไปที่ไม้กางเขนศักดิ์สิทธิ์แล้วบอกว่านี่ก็คือชิ้นส่วนเล็กๆของไม้กางเขนศักดิ์สิทธิ์ที่พระองค์ทรงสิ้นพระชนม์บนนั้น ไม่ใช่เป็นการสร้างเรื่องแต่เป็นความจริง สาธุชนก็มีความเชื่อมากขึ้น
คุณพ่อยังทําพิธีแต่งงานในอาสนวิหารให้กับหนุ่มสาว 150 คู่ที่ยากจน อาศัยอยู่ในสลัม ทําให้ความฝันเป็นจริง
ไม้กางเขนเป็นจุดศูนย์กลางของความเชื่อของคริสตศาสนา สืบเนื่องกันมาจนถึงปัจจุบัน นี่คือเหตุผลที่คริสตชนสวมสายสร้อยห้อยไม้กางเขน ทําสําคัญมหากางเขน คุ้มครองอันตราย เป็นชีวิตจิตใจ อัศจรรย์ของไม้กางเขนห้อยคอที่เมืองริโอ ได้รับการบันทึกจากปากของพยานและผู้ได้รับการช่วยเหลือของพระเจ้า ที่ผมจะเล่าให้ฟังจากรายการนี้:
1) คุณฟรังซิสโก ดี อัสซิส ( Francisco De Assis) และครอบครัวอาศัยอยู่ในสลัม เต็มเปี่ยมไปด้วยอันตราย มีหลานสาววัยไม่เกินสามขวบ เขาทําสําคัญมหากางเขนทุกวันก่อนออกจากบ้านกลับเข้าบ้าน ไม่มีอันตรายใดๆมาเยี่ยมกราย บอกลูกบอกหลานให้ทําตาม และบอกว่า บางสิ่งที่เย้ายวนใจ ไม่ใช่สิ่งที่ดีเสมอไป
2) คุณโรซ่า ร๊อดริกัส ( Rosa Rodrigues) อาศัยอยู่ในสลัมเช่นกัน ลูกชายวัยหนุ่มเดินดีๆก็เข้าทางปืนของแก๊งค์ที่ยิงสู้กัน เห็นลูกกระสุนปืนพุ่งผ่านหน้า บอกแม่ว่า พระเจ้าทรงช่วยเพราะเขาสรวมสายสร้อยห้อยไม้กางเขน ไม่ใช่เพราะโชคดีแต่เพราะพระเจ้าทรงช่วย
เมื่อโควิด 19 เริ่มระบาดปี คศ 2020 ชาวบราซิลเสียชีวิตเป็นเหยื่อมากที่สุดในโลก ศพล้นสุสาน ฝังไม่ทัน คุณโรซ่า สวดขอให้พระเจ้าทรงช่วย พระองค์บอกให้เอาไม้กางเขนไปปักที่เสาทางขึ้นอาคารที่เธอ ลูกชาย และเพื่อนบ้านอาศัยอยู่ ทุกคนในอาคารปลอดภัยไม่ตายเพราะโควิด -19
เธอแจกไม้กางเขนให้เจ้าบ่าวเจ้าสาว ผู้คนตามชายหาด และสถานที่ต่างๆ : มองไม้กางเขน เป็นการเตือนใจของความเป็นนิรันดร เราอยู่ในโลกนี้แล้วก็จากไป ไม่ใช่การสิ้นสุด เพราะโลกหน้าเป็นนิรันดร ให้ความเชื่อ ความหวัง ความรักในพระเจ้า
หลายคนสงสัยว่า ไม้กางเขนศักดิ์สิทธิ์เดินทางไปทั่วโลกได้อย่างไร เพราะมีที่โรม เวนิส พิซ่า ฟลอเร้นท์ ประเทศเอธิโอเปีย และ ประเทศฟิลิปปินส์:
เมื่อปีคศ 326 นักบุญจักรพรรดินีเฮเลนาวัย 80 ปีพระมารดาของจักรพรรดิคอนแสตนทีนแห่งอาณาจักรโรมันอันเกรียงไกร ( Saint Empress Helena, Emperor Constantine the Great ) ได้เดินทางจากกรุงโรมถึงกรุงเยรูซาเล็ม ระยะทาง 3,218.70 กิโลเมตร ( 2,000 ไมล์) เป็นการแสวงบุญ พระองค์อยากเห็น อยากสัมผัส ทุกสิ่งที่เกี่ยวกับพระเยซูเจ้า ชีวิตและการสิ้นพระชนมชีพของพระองค์ ตํานาน เล่าขานกันดังนี้:
ทรงบัญชาให้ขุดหาไม้กางเขนที่ตรึงพระองค์ให้สิ้นพระชนม์ เจอสามอัน พระองค์ให้เอาศพคนตายคนเดียวกันวางบนไม้กางเขน อันแรก อันสอง ไม่มีอะไรเกิดขึ้น อันสามคนตายฟื้นคืนชีพ ทรงเอาไม้กางเขนศักดิ์สิทธิ์ ไปเมืองโรม แล้วมีการสับท่อน ชิ้นใหญ่ชิ้นน้อย เป็นของขวัญกระจัดกระจายทั่วอาณาจักรโรมันและทั่วโลกในปัจจุบัน ( มีผู้ทรงความรู้ระดับด๊อกเตอร์ในรายการออกความเห็นว่า ถ้ารวบรวมชิ้นส่วนของไม้กางเขนศักดิ์สิทธิ์ทั่วโลกคงสามารถสร้างบ้านไม้ได้หนึ่งหลัง)
นักบุญจักรพรรดินีเฮลานายังทรงนําป้ายไม้ที่แขวนอยู่บนกางเขนศักดิ์สิทธิ์ที่ตรึงพระเยซูเจ้า ประกาศว่า" เยซูชาวนาซาเรธ กษัตริย์ของชาวยิว" เป็นสามภาษา (ลาติน กรีก ฮีบรู) ป้ายนี้คือข้อกล่าวหาว่าพระองค์เป็นกบฏ เพราะอาณาจักรโรมันมีจักรพรรดิอยู่แล้ว พระองค์จะเป็นกษัตริย์ของชาวยิวไม่ได้และมีโทษประหารชีวิตด้วยการตรึงบนไม้กางเขน ป้ายนี้เป็นการประชดประชันพระองค์ และเป็นการข่มขวัญผู้คนไม่ให้ทําตาม
นักบุญจักรพรรดินีเฮลานายังทรงเอาตะปูอันหนึ่งของสามอันที่ตรึงพระองค์บนไม้กางเขนมาที่โรมเช่นกัน
นักบุญจักรพรรดินีเฮลานายังทรงนําทรายจากกรุงเยรูซาเล็มมาโรยพื้นในวัดน้อยของพระองค์ ( Chapel of Saint Helena) เป็นการประกาศว่า นี่ก็คือกรุงเยรูซาเล็มเช่นกัน
นักบุญจักรพรรดินีเฮลานาทรงเป็นผู้ริเริ่มการแสวงบุญและการเคารพบูชาพระธาตุครับ
พระธาตุสุดศักดิ์สิทธิ์ทั้งสามนี้และทรายจากกรุงเยรูซาเล็มอยู่ที่อาสนวิหารไม้กางเขนศักดิ์สิทธิ์ชานเมืองกรุงโรม ( Holy Cross Basilica) มีผู้ดูแลชื่อ คุณโรเมล อัลโมนีดา ( Romel Almoneda) เป็นชาวฟิลิบปินส์ ทําหน้าที่ 15 ปี ก่อนจะกลับบ้านไปอยู่กับลูกเมียที่ขอร้องให้กลับเพราะไม่เห็นลูกโต คุณโรเมลบอกเห็นไม้กางเขนศักดิ์สิทธิ์เห็นป้ายศักดิ์สิทธิ์และตะปูศักดิ์สิทธิ์ครั้งแรก นํ้าตาไหลอาบหน้า พระจิตเจ้าทรงเสด็จมาประทับในตัวเขา ก่อนตัดสินใจจะกลับบ้าน เขาถามพระเจ้าว่า ควรกลับหรือไม่? พระองค์ให้สัญญาณว่า กลับไปอยู่กับครอบครัวได้แล้ว หน้าที่ของลูกสิ้นสุดแล้ว เขาบอกการเป็นผู้ดูแลพระธาตุเป็นการเพิ่มพูนความเชื่อของเขา เป็นความภาคภูมิใจที่เขาจะรําลึกถึงตลอดเวลา จะบอกกับลูกกับหลานว่าครั้งหนึ่งในชีวิตเขาได้รับใชัพระเจ้าดูแลพระธาตุของพระองค์
อ้างอิงและขอบคุณ: เน็ตเฟลิกซ์ ( Netflix) รายการความลึกลับแห่งความเชื่อ ( Mysteries of the Faith) ทุกคนที่ปรากฏในรายการ และกูเกิ้ล
กราบขอบพระคุณ: พระเป็นเจ้า (พระบิดา พระบุตร และพระจิต) พระแม่มารีย์ นักบุญโยเซฟ อัครเทวดาไมเกิ้ล เกเบรียล ราฟาเอล คุณพี่อารักขเทวดา สหพันธ์นักบุญทุกท่าน
รายการออกอากาศของเน็ตเฟลิกซ์ ( Netflix) ชื่อ ความลึกลับแห่งความเชื่อ ( Mysteries of the Faith)
ที่ตรึงพระเยซูไว้บนกางเขน
ความรัก..ต่างหาก
ที่ตรึงพระองค์ไว้
อย่าสงสัยในความรักที่พระเจ้ามีต่อคุณ
จงมองไปที่กางเขน...เพราะที่นั่น...
คุณจะได้เห็น ความรักที่ชัดเจนที่สุด...
มากกว่าที่ไหนๆในโลก...พระเจ้ารักคุณ
ฉลองเทิดทูนไม้กางเขน
https://youtu.be/4rGg_w1Q7IY
https://youtu.be/U3yH5dVflfE?si=R7iGOb42cFb05yG0
✝The Old Rugged Cross
https://youtu.be/CltrLsjsQl0
http://youtu.be/dkzsg7CoPu8
วันเสาร์ที่ 14 กันยายน 2024
ฉลองเทิดทูนไม้กางเขน
อ่าน :
กดว 21:4-9
ยน 3:13-17
ความรักของพระเจ้าต่อโลก แสดงออกอย่างอดทน
ด้วยการยอมมอบ พระบุตรแต่องค์เดียวที่ทรงรัก
เพื่อช่วยโลกให้รอด
ในอดีต ประชากรของพระเจ้าถูกตีสอนด้วยความรัก
ให้ต้องพบกับความทุกข์ เมื่อพวกเขา
พบกับความทุกข์ยาก ลำบาก
แล้วพากันบ่น เบือนหน้าหนีจากพระองค์
แต่เมื่อพวกเขาสำนึกว่าตน เป็นคนบาป
วอนขอพระเมตตา และการอภัยจากพระเจ้า
ผ่านทางผู้แทนของพระองค์ พวกเขากลับพบความสุขอีกครั้ง
การฉลองเทิดทูนไม้กางเขน เป็นเครื่องหมายยืนยันถึง
ผู้ที่ยอมแบกรับ ความทุกข์ยาก โดยมีกางเขนเป็นรูปแบบ
เมื่อผ่านหนทางแห่งความทุกข์ยาก เขาจะกลับได้พบกับความสุข
หมายเหตุ..
ภาวนา สำหรับทุกคนที่รักไม้กางเขน
เป็นต้น สำหรับคณะภคิณีรักกางเขน
(จากบทเทศน์ของคพ.อมรกิจ พรหมภักดี)