บทเทศน์เด็ดของคุณพ่อเจสซี่ ในวันอาทิตย์ที่สองของเทศกาลปัสกา/วันฉลองพระเมตตา 7 เมษายน 2024
โพสต์แล้ว: จันทร์ เม.ย. 08, 2024 7:08 am
บทเทศน์เด็ดของคุณพ่อเจสซี่ ในวันอาทิตย์ที่สองของเทศกาลปัสกา/วันฉลองพระเมตตา 7 เมษายน 2024
สวัสดีครับ วันนี้ผมขอเสนอบทเทศน์เด็ดของคุณพ่อเจสซี่ เจ้าอาวาสวัดไม้กางเขนศักดิ์สิทธิ์ เมืองบิวดา รัฐเทกซัส สหรัฐอเมริกา ในวันอาทิตย์ที่สองของเทศกาลปัสกา/วันฉลองพระเมตตา 7 เมษายน 2024 ( Father Jessie, Santa Cruz Catholic Church and School, Buda, Texas, U.S.A.)
บทอ่านที่หนึ่ง กิจการอัครสาวก: 4:32-35
กลุ่มผู้มีความเชื่อดำเนินชีวิตเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน ไม่คิดว่าสิ่งที่ตนมีเป็นกรรมสิทธิ์ของตน แต่ทุกสิ่งเป็นของส่วนรวม บรรดาอัครสาวกยังคงเป็นพยานยืนยันถึงการกลับคืนพระชนมชีพของพระเยซู องค์พระผู้เป็นเจ้าด้วยเครื่องหมายอัศจรรย์ยิ่งใหญ่ และทุกคนได้รับความเคารพนับถืออย่างสูง ในกลุ่มของเขาไม่มีใครขัดสน ผู้ใดมีที่ดินหรือบ้านก็ขายและมอบเงินที่ได้ ให้บรรดาอัครสาวก เพื่อแจกจ่ายให้ผู้มีความเชื่อแต่ละคนตามความต้องการ
บทอ่านที่สอง 1 ยอห์น 5:1-6
ทุกคนที่เชื่อว่าพระเยซูเป็นพระคริสตเจ้า ย่อมบังเกิดจากพระเจ้า ทุกคนที่รักบิดา ย่อมรักบุตรของเขาด้วย เรารู้ว่าเรารักบรรดาบุตรของพระเจ้า เมื่อเรารักพระเจ้าและปฏิบัติตามบทบัญญัติของพระองค์ ความรักต่อพระเจ้าคือการปฏิบัติตามบทบัญญัติ บทบัญญัติของพระองค์มิใช่ภาระหนัก
เพราะทุกคนที่บังเกิดจากพระเจ้าชนะโลกแล้ว ชัยชนะที่ชนะโลกก็คือความเชื่อของเรา ใครเล่าชนะโลกได้ ถ้ามิใช่ผู้ที่เชื่อว่าพระเยซูเจ้าเป็นพระบุตรของพระเจ้า พระองค์ทรงเป็นผู้เสด็จมาโดยน้ำและโดยพระโลหิต พระองค์คือ พระเยซูคริสตเจ้า พระองค์มิได้เสด็จมาโดยน้ำเพียงอย่างเดียว แต่เสด็จมาโดยน้ำและโดยพระโลหิต และพระจิตเจ้าทรงเป็นพยานถึงเรื่องนี้ เพราะพระจิตเจ้าทรงเป็นความจริง
พระวรสาร โดยนักบุญยอห์น: 20:19-31
ค่ำวันนั้นซึ่งเป็นวันต้นสัปดาห์ ประตูห้องที่บรรดาศิษย์กำลังชุมนุมกันปิดอยู่เพราะกลัวชาวยิว พระเยซูเจ้าเสด็จเข้ามาประทับยืนอยู่ตรงกลาง ตรัสกับเขาทั้งหลายว่า “สันติสุขจงสถิตอยู่กับท่านทั้งหลายเถิด” ตรัสดังนี้แล้ว พระองค์ทรงให้บรรดาศิษย์ดูพระหัตถ์และด้านข้างพระวรกาย เมื่อเขาเหล่านั้นเห็นองค์พระผู้เป็นเจ้า ก็มีความยินดี พระองค์ตรัสกับเขาอีกว่า “สันติสุขจงสถิตอยู่กับท่านทั้งหลายเถิด พระบิดาทรงส่งเรามาฉันใด เราก็ส่งท่านทั้งหลายไปฉันนั้น” ตรัสดังนี้แล้ว พระองค์ทรงเป่าลมเหนือเขาทั้งหลาย ตรัสว่า “จงรับพระจิตเจ้าเถิด ท่านทั้งหลายอภัยบาปของผู้ใด บาปของผู้นั้นก็ได้รับการอภัย ท่านทั้งหลายไม่อภัยบาปของผู้ใด บาปของผู้นั้นก็ไม่ได้รับการอภัยด้วย” โทมัส ซึ่งเรียกกันว่า “ฝาแฝด” เป็นคนหนึ่งในบรรดาอัครสาวกสิบสองคน ไม่ได้อยู่กับอัครสาวกคนอื่น ๆ เมื่อพระเยซูเจ้าเสด็จมา ศิษย์คนอื่นบอกเขาว่า “พวกเราเห็นองค์พระผู้เป็นเจ้าแล้ว” แต่เขาตอบว่า “ถ้าข้าพเจ้าไม่ได้เห็นรอยตะปูที่พระหัตถ์ และไม่ได้เอานิ้วแยงเข้าไปที่รอยตะปู และไม่ได้เอามือคลำที่ด้านข้างพระวรกายข้าพเจ้าจะไม่เชื่อเป็นอันขาด” แปดวันต่อมา บรรดาศิษย์อยู่ด้วยกันในบ้านนั้นอีก โทมัสก็อยู่กับเขาด้วย พระเยซูเจ้าเสด็จเข้ามาประทับยืนอยู่ตรงกลางทั้ง ๆ ที่ประตูปิดอยู่ ตรัสกับเขาทั้งหลายว่า “สันติสุขจงสถิตอยู่กับท่านทั้งหลายเถิด”
แล้วตรัสกับโทมัสว่า “จงเอานิ้วมาที่นี่ และดูมือของเราเถิด จงเอามือมาที่นี่ คลำที่สีข้างของเรา อย่าสงสัยอีกต่อไป แต่จงเชื่อเถิด” โทมัสทูลพระองค์ว่า “องค์พระผู้เป็นเจ้าของข้าพเจ้า และพระเจ้าของข้าพเจ้า” พระเยซูเจ้าตรัสกับเขาว่า “ท่านเชื่อเพราะได้เห็นเรา ผู้ที่เชื่อแม้ไม่ได้เห็น ก็เป็นสุข” พระเยซูเจ้ายังทรงกระทำเครื่องหมายอัศจรรย์อื่นอีกหลายประการให้บรรดาศิษย์เห็น แต่ไม่ได้บันทึกไว้ในหนังสือเล่มนี้ เรื่องราวเหล่านี้ถูกบันทึกไว้เพื่อท่านทั้งหลายจะได้เชื่อว่า พระเยซูเจ้าเป็นพระคริสตเจ้า พระบุตรของพระเจ้า และเมื่อมีความเชื่อนี้แล้ว ท่านทั้งหลายก็จะมีชีวิตเดชะพระนามของพระองค์
คุณพ่อเจสซี่: วันนี้เป็นวันฉลองพระเมตตา ก่อนที่พ่อจะกลับใจเป็นโรมันคาทอลิก พ่อเรียนที่มหาวิทยาลัยในรัฐแมสซาชูเซตส์ ( Massachusetts) พ่อเดินไปที่วัดของชาวโปแลนด์ เห็นพวกเขากําลังสวดสายประคําพระเมตตาเป็นภาษาของเขา พ่อไม่เข้าใจ แต่สามารถสัมผัสถึงความศรัทธาและสันติสุขที่แผ่ออกมา พ่ออยากจะเป็นหนึ่งในพวกเขา! ต่อมาเมื่อพ่อไปเรียนในมหาวิทยาลัยของกรุงโรม วัดที่ใกล้กับที่พักของพ่อเป็นวัดพระเมตตามีชาวโปแลนด์เป็นลูกวัด!
พระเยซูเจ้าทรงบอกกับนักบุญโพสตินาว่าพระองค์ค้นหาคนที่ตํ่าต้อยที่สุดและไม่พบใครที่ตํ่าต้อยที่สุดเหมือนท่าน ดังนั้น พระองค์ต้องการให้ท่านทําให้มวลมนุษยชาติรู้จักพระองค์และพระเมตาของพระองค์ สองสิ่งที่ขาดแคลนก็คือ ความไม่วางใจในพระเมตตาของพระองค์และความไม่แยแส
ผู้ใดที่ยิ่งต่ำต้อยต้องการพระเมตตาของพระองค์ผู้นั้นยิ่งมีสิทธิในการได้รับพระเมตตาของพระองค์
พระเมตตาของพระองค์คืออะไร? คือการเคลื่อนไหวด้วยความรู้สึกเอื้ออาทรที่เกิดขึ้นในหัวใจของพระองค์ และเมื่อเราได้รับพระเมตตาของพระองค์แล้ว เราต้องมีการเคลื่อนไหวด้วยความรู้สึกเอื้ออาทรที่เกิดขึ้นในหัวใจของเราเช่นกัน
คุณพ่อเจสซี่: พ่อต้องการให้พวกเราทุกคนกล่าวว่า " พระเยซูเจ้า ลูกวางใจในพระองค์" สามครั้ง เริ่มเลย สาธุชนพากันกล่าวสามครั้งเสียงดังสนั่นหวั่นไหว
แล้วท่านก็ทําพิธีโปรดศีลกําลังให้ชายหนุ่มหญิงสาวสองคน เสร็จพิธี ท่านบอกทั้งสองคนให้หันหน้ามองพวกเรา พวกเราตบมือต้อนรับดังลั่นวัด
( อ่านจบ: อยากอ่านอีกหรืออยากอ่านบทเทศน์ด็ดแทรกอารมณ์ขันของอาทิตย์ต่างๆที่ผ่านมา อ่านที่ www.newmana.com เวปบอร์ด สนทนาธรรม สามัคคีธรรม และสารของแม่พระผู้เห็นอกเห็นใจฯ
http://www.newmana.com/phpbb/viewforum.php?f=8 ใต้หัวข้อ บทเทศน์เด็ดแทรกอารมณ์ขันของมิสซาวันอาทิตย์ โพสต์โดย Yan Agape)
ขอบคุณ: พระคัมภีร์คาทอลิก www.google.com
กราบขอบพระคุณ: พระเป็นเจ้า (พระบิดา พระบุตร และพระจิต) พระแม่มารีย์ นักบุญโยเซฟ อัครเทวดาไมเกิ้ล เกเบรียล ราฟาเอล คุณพี่อารักขเทวดา สหพันธ์นักบุญทุกท่าน
สวัสดีครับ วันนี้ผมขอเสนอบทเทศน์เด็ดของคุณพ่อเจสซี่ เจ้าอาวาสวัดไม้กางเขนศักดิ์สิทธิ์ เมืองบิวดา รัฐเทกซัส สหรัฐอเมริกา ในวันอาทิตย์ที่สองของเทศกาลปัสกา/วันฉลองพระเมตตา 7 เมษายน 2024 ( Father Jessie, Santa Cruz Catholic Church and School, Buda, Texas, U.S.A.)
บทอ่านที่หนึ่ง กิจการอัครสาวก: 4:32-35
กลุ่มผู้มีความเชื่อดำเนินชีวิตเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน ไม่คิดว่าสิ่งที่ตนมีเป็นกรรมสิทธิ์ของตน แต่ทุกสิ่งเป็นของส่วนรวม บรรดาอัครสาวกยังคงเป็นพยานยืนยันถึงการกลับคืนพระชนมชีพของพระเยซู องค์พระผู้เป็นเจ้าด้วยเครื่องหมายอัศจรรย์ยิ่งใหญ่ และทุกคนได้รับความเคารพนับถืออย่างสูง ในกลุ่มของเขาไม่มีใครขัดสน ผู้ใดมีที่ดินหรือบ้านก็ขายและมอบเงินที่ได้ ให้บรรดาอัครสาวก เพื่อแจกจ่ายให้ผู้มีความเชื่อแต่ละคนตามความต้องการ
บทอ่านที่สอง 1 ยอห์น 5:1-6
ทุกคนที่เชื่อว่าพระเยซูเป็นพระคริสตเจ้า ย่อมบังเกิดจากพระเจ้า ทุกคนที่รักบิดา ย่อมรักบุตรของเขาด้วย เรารู้ว่าเรารักบรรดาบุตรของพระเจ้า เมื่อเรารักพระเจ้าและปฏิบัติตามบทบัญญัติของพระองค์ ความรักต่อพระเจ้าคือการปฏิบัติตามบทบัญญัติ บทบัญญัติของพระองค์มิใช่ภาระหนัก
เพราะทุกคนที่บังเกิดจากพระเจ้าชนะโลกแล้ว ชัยชนะที่ชนะโลกก็คือความเชื่อของเรา ใครเล่าชนะโลกได้ ถ้ามิใช่ผู้ที่เชื่อว่าพระเยซูเจ้าเป็นพระบุตรของพระเจ้า พระองค์ทรงเป็นผู้เสด็จมาโดยน้ำและโดยพระโลหิต พระองค์คือ พระเยซูคริสตเจ้า พระองค์มิได้เสด็จมาโดยน้ำเพียงอย่างเดียว แต่เสด็จมาโดยน้ำและโดยพระโลหิต และพระจิตเจ้าทรงเป็นพยานถึงเรื่องนี้ เพราะพระจิตเจ้าทรงเป็นความจริง
พระวรสาร โดยนักบุญยอห์น: 20:19-31
ค่ำวันนั้นซึ่งเป็นวันต้นสัปดาห์ ประตูห้องที่บรรดาศิษย์กำลังชุมนุมกันปิดอยู่เพราะกลัวชาวยิว พระเยซูเจ้าเสด็จเข้ามาประทับยืนอยู่ตรงกลาง ตรัสกับเขาทั้งหลายว่า “สันติสุขจงสถิตอยู่กับท่านทั้งหลายเถิด” ตรัสดังนี้แล้ว พระองค์ทรงให้บรรดาศิษย์ดูพระหัตถ์และด้านข้างพระวรกาย เมื่อเขาเหล่านั้นเห็นองค์พระผู้เป็นเจ้า ก็มีความยินดี พระองค์ตรัสกับเขาอีกว่า “สันติสุขจงสถิตอยู่กับท่านทั้งหลายเถิด พระบิดาทรงส่งเรามาฉันใด เราก็ส่งท่านทั้งหลายไปฉันนั้น” ตรัสดังนี้แล้ว พระองค์ทรงเป่าลมเหนือเขาทั้งหลาย ตรัสว่า “จงรับพระจิตเจ้าเถิด ท่านทั้งหลายอภัยบาปของผู้ใด บาปของผู้นั้นก็ได้รับการอภัย ท่านทั้งหลายไม่อภัยบาปของผู้ใด บาปของผู้นั้นก็ไม่ได้รับการอภัยด้วย” โทมัส ซึ่งเรียกกันว่า “ฝาแฝด” เป็นคนหนึ่งในบรรดาอัครสาวกสิบสองคน ไม่ได้อยู่กับอัครสาวกคนอื่น ๆ เมื่อพระเยซูเจ้าเสด็จมา ศิษย์คนอื่นบอกเขาว่า “พวกเราเห็นองค์พระผู้เป็นเจ้าแล้ว” แต่เขาตอบว่า “ถ้าข้าพเจ้าไม่ได้เห็นรอยตะปูที่พระหัตถ์ และไม่ได้เอานิ้วแยงเข้าไปที่รอยตะปู และไม่ได้เอามือคลำที่ด้านข้างพระวรกายข้าพเจ้าจะไม่เชื่อเป็นอันขาด” แปดวันต่อมา บรรดาศิษย์อยู่ด้วยกันในบ้านนั้นอีก โทมัสก็อยู่กับเขาด้วย พระเยซูเจ้าเสด็จเข้ามาประทับยืนอยู่ตรงกลางทั้ง ๆ ที่ประตูปิดอยู่ ตรัสกับเขาทั้งหลายว่า “สันติสุขจงสถิตอยู่กับท่านทั้งหลายเถิด”
แล้วตรัสกับโทมัสว่า “จงเอานิ้วมาที่นี่ และดูมือของเราเถิด จงเอามือมาที่นี่ คลำที่สีข้างของเรา อย่าสงสัยอีกต่อไป แต่จงเชื่อเถิด” โทมัสทูลพระองค์ว่า “องค์พระผู้เป็นเจ้าของข้าพเจ้า และพระเจ้าของข้าพเจ้า” พระเยซูเจ้าตรัสกับเขาว่า “ท่านเชื่อเพราะได้เห็นเรา ผู้ที่เชื่อแม้ไม่ได้เห็น ก็เป็นสุข” พระเยซูเจ้ายังทรงกระทำเครื่องหมายอัศจรรย์อื่นอีกหลายประการให้บรรดาศิษย์เห็น แต่ไม่ได้บันทึกไว้ในหนังสือเล่มนี้ เรื่องราวเหล่านี้ถูกบันทึกไว้เพื่อท่านทั้งหลายจะได้เชื่อว่า พระเยซูเจ้าเป็นพระคริสตเจ้า พระบุตรของพระเจ้า และเมื่อมีความเชื่อนี้แล้ว ท่านทั้งหลายก็จะมีชีวิตเดชะพระนามของพระองค์
คุณพ่อเจสซี่: วันนี้เป็นวันฉลองพระเมตตา ก่อนที่พ่อจะกลับใจเป็นโรมันคาทอลิก พ่อเรียนที่มหาวิทยาลัยในรัฐแมสซาชูเซตส์ ( Massachusetts) พ่อเดินไปที่วัดของชาวโปแลนด์ เห็นพวกเขากําลังสวดสายประคําพระเมตตาเป็นภาษาของเขา พ่อไม่เข้าใจ แต่สามารถสัมผัสถึงความศรัทธาและสันติสุขที่แผ่ออกมา พ่ออยากจะเป็นหนึ่งในพวกเขา! ต่อมาเมื่อพ่อไปเรียนในมหาวิทยาลัยของกรุงโรม วัดที่ใกล้กับที่พักของพ่อเป็นวัดพระเมตตามีชาวโปแลนด์เป็นลูกวัด!
พระเยซูเจ้าทรงบอกกับนักบุญโพสตินาว่าพระองค์ค้นหาคนที่ตํ่าต้อยที่สุดและไม่พบใครที่ตํ่าต้อยที่สุดเหมือนท่าน ดังนั้น พระองค์ต้องการให้ท่านทําให้มวลมนุษยชาติรู้จักพระองค์และพระเมตาของพระองค์ สองสิ่งที่ขาดแคลนก็คือ ความไม่วางใจในพระเมตตาของพระองค์และความไม่แยแส
ผู้ใดที่ยิ่งต่ำต้อยต้องการพระเมตตาของพระองค์ผู้นั้นยิ่งมีสิทธิในการได้รับพระเมตตาของพระองค์
พระเมตตาของพระองค์คืออะไร? คือการเคลื่อนไหวด้วยความรู้สึกเอื้ออาทรที่เกิดขึ้นในหัวใจของพระองค์ และเมื่อเราได้รับพระเมตตาของพระองค์แล้ว เราต้องมีการเคลื่อนไหวด้วยความรู้สึกเอื้ออาทรที่เกิดขึ้นในหัวใจของเราเช่นกัน
คุณพ่อเจสซี่: พ่อต้องการให้พวกเราทุกคนกล่าวว่า " พระเยซูเจ้า ลูกวางใจในพระองค์" สามครั้ง เริ่มเลย สาธุชนพากันกล่าวสามครั้งเสียงดังสนั่นหวั่นไหว
แล้วท่านก็ทําพิธีโปรดศีลกําลังให้ชายหนุ่มหญิงสาวสองคน เสร็จพิธี ท่านบอกทั้งสองคนให้หันหน้ามองพวกเรา พวกเราตบมือต้อนรับดังลั่นวัด
( อ่านจบ: อยากอ่านอีกหรืออยากอ่านบทเทศน์ด็ดแทรกอารมณ์ขันของอาทิตย์ต่างๆที่ผ่านมา อ่านที่ www.newmana.com เวปบอร์ด สนทนาธรรม สามัคคีธรรม และสารของแม่พระผู้เห็นอกเห็นใจฯ
http://www.newmana.com/phpbb/viewforum.php?f=8 ใต้หัวข้อ บทเทศน์เด็ดแทรกอารมณ์ขันของมิสซาวันอาทิตย์ โพสต์โดย Yan Agape)
ขอบคุณ: พระคัมภีร์คาทอลิก www.google.com
กราบขอบพระคุณ: พระเป็นเจ้า (พระบิดา พระบุตร และพระจิต) พระแม่มารีย์ นักบุญโยเซฟ อัครเทวดาไมเกิ้ล เกเบรียล ราฟาเอล คุณพี่อารักขเทวดา สหพันธ์นักบุญทุกท่าน