ศาสนจักรซีโร-มาลาบาร์คาทอลิกบวชพระที่เป็นใบ้และมีความผิดปกติในการพูด คนแรก ในประวัติศาสตร์คาทอลิกอินเดีย

ถาม-ตอบพระคัมภีร์ เรื่องเสริมศรัทธา ความรู้ และสาระ บทความ ในคริสตศาสนา
ตอบกลับโพส
Arttise
โพสต์: 918
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ ก.พ. 19, 2017 3:45 pm

จันทร์ พ.ค. 06, 2024 7:44 pm

เมื่อวันพฤหัส ศาสนจักรซีโร-มาลาบาร์คาทอลิก ซึ่งเป็นคาทอลิกตะวันออกที่มีความเก่าแก่ของอินเดียได้บวชพระที่เป็นใบ้และมีความผิดปกติในการพูด (Speech-impaired) คนแรกในประวัติศาสตร์คาทอลิกอินเดียครับ

หลวงพ่อชื่อโจเซฟ เธอร์มาดม (Joseph Thermadom) บวชโดยอาร์คบิชอปแอนดรูว์ ธาชาธ อัครสังฆมณฑลทริชู ตอนบวชและทำมิสซาครั้งแรกก็ทำเป็นภาษามือแล้วมีคนบรรยายเสียงครับ

(สังเกตว่าศาสนจักรทำพิธีแบบ Look East หรือหันหน้าทิศเดียวกับสัตบุรุษแล้ว อันเป็นผลจากการ unify ระเบียบพิธีกรรมของศาสนจักรในปี 2021 ซึ่งแต่เดิมเคยถือว่าภาควจนพิธีกรรมให้หันหน้าหาสัตบุรุษ ตอนเข้าภาคบูชาขอบพระคุณค่อยหันกลับ แต่ตอนนี้หันทิศเดียวแล้ว)

/AdminMichael

รูปภาพ

CR. : ประวัติศาสตร์คริสต์ศาสนา
https://www.facebook.com/share/p/K3oRVv ... tid=WC7FNe
แก้ไขล่าสุดโดย Arttise เมื่อ พฤหัสฯ. พ.ค. 16, 2024 12:52 am, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
Arttise
โพสต์: 918
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ ก.พ. 19, 2017 3:45 pm

จันทร์ พ.ค. 06, 2024 7:45 pm

ซีโร - มาลาบาร์คาทอลิก กลุ่มคริสเตียนอินเดียโบราณ มุ่งสืบสานพันธกิจนักบุญโธมัส
.
ตามตำนาน ศาสนาคริสต์ไปถึงอินเดียตั้งแต่ยุคอัครสาวกแล้ว โดยมีนักบุญโธมัสไปเผยแผ่ที่นั่นเมื่อค.ศ. 52 ท่านไปขึ้นฝั่งที่มาลาบาร์ หรือรัฐเกรละ ทางตะวันตกเฉียงใต้ของอินเดียในปัจจุบัน และได้สถาปนาชุมชนคริสเตียนขึ้นมา 7 ชุมชน ก่อนสิ้นชีพเป็นมรณสักขีเมื่อค.ศ. 72
.
ชาวอินเดียที่เปลี่ยนเป็นคริสต์จึงได้ชื่อว่าเป็น คริสเตียนของนักบุญโธมัส (St. Thomas Christians) หรือ นาซารานี (Nazrani) อันหมายถึงผู้ตามรอยพระเยซูแห่งนาซาเร็ธ
.
หนึ่งในศาสนจักรของคริสเตียนกลุ่มดังกล่าวที่ใหญ่ที่สุดและยังคงอยู่มาจนถึงปัจจุบัน เป็นศาสนจักรคาทอลิกตะวันออกครับ นามว่า "ซีโร - มาลาบาร์คาทอลิก" (Syro-Malabar Catholic Church)
.
ช่วงศตวรรษแรก ศาสนจักรคริสเตียนของนักบุญโธมัสอยู่ใต้การนำของศาสนจักรแห่งตะวันออก (เนสตอเรียน) โดยจะส่งบิชอปมาปกครองจากเปอร์เซีย ส่วนในอินเดีย จะมีอัครสังฆานุกร (จริงๆ คือบาทหลวงนั่นล่ะ เป็นชื่อตำแหน่งเขาเฉยๆ) เป็นผู้นำชุมชนคริสเตียนท้องถิ่น ศาสนจักรจึงรับเอาเทววิทยาและจารีตประเพณีแบบซีรีแอกตะวันออก ตามศาสนจักรแม่ที่เปอร์เซียด้วย
.
เมื่อโปรตุเกสมาถึงอินเดีย แม้ดีใจในตอนแรกว่ามีคริสเตียนอยู่ที่นี่ก่อนแล้ว แต่ก็เลิกดีใจ เมื่อรู้ว่าคริสต์ในอินเดียมีส่วนเชื่อมโยงกับศาสนจักรเนสตอเรียนในเปอร์เซียซึ่งถือเป็นศาสนจักรนอกรีต อีกทั้งยังถือจารีตซีรีแอกตามเขา โปรตุเกสที่ถือจารีตละตินไม่คุ้นเคยกับคริสต์แบบนี้ เพราะมันไม่ใช่คริสต์ในแบบของโปรตุเกสเขา
.
ดังนั้นเมื่อบิชอปจากเปอร์เซียองค์สุดท้ายเสียชีวิตลง โปรตุเกสที่ร้อนรนในศาสนา จึงเข้าปกครองศาสนจักรคริสเตียนของนักบุญโธมัส โดยอาร์คบิชอปแห่งกัวตั้งสภาดายัมเปอร์ (Synod of Diamper) ค.ศ.1599 เพื่อรวมศาสนจักรไปขึ้นกับอัครสังฆมณฑลโรมันคาทอลิกที่กัว ผ่านสิทธิ์อุปถัมภ์ ที่โปรตุเกสได้รับสิทธิ์จากพระสันตะปาปาทำหน้าที่ดูแลกิจการศาสนาดินแดนใหม่ที่ค้นพบ
.
และเพราะโปรตุเกสไม่ปลื้มจารีตซีรีแอก จึงทำการปรับจารีตซีรีแอกเดิมให้มีความเป็นละติน และเผาเอกสารซีรีแอกโบราณทิ้งหมด ทำให้ชาวคริสต์กลุ่มนี้ไม่พอใจมาก จึงให้สัตย์สาบานกับกางเขนคูนัน (Coonan Cross Oath) ในปี 1653 ว่าจะไม่เอาพระเยซูอิตโปรตุเกสและโรม จนทางโรมต้องส่งคนมาเคลียร์ใจ
.
กลุ่มที่เปลี่ยนใจและขออยู่กับคาทอลิกต่อ คือศาสนจักรซีโร-มาลาบาร์ในปัจจุบัน ส่วนกลุ่มที่ยังไงก็ไม่เอาพระละตินมาปกครองแน่ จึงย้ายนิกายเป็นออเรียนทัลออร์โธด็อกซ์
.
แต่ภายหลัง ปี 1887 ทางโรมได้ช่วยซีโร-มาลาบาร์ โดยให้มีสังฆมณฑลปกครองเอง ไม่ต้องผ่านโรมันคาทอลิกที่กัวอีกต่อไป มีอัครสังฆมณฑลปี 1923 จากนั้นก็ค่อยๆฟื้นจารีตประเพณีเดิม เติบโตอย่างรวดเร็วจนผู้นำได้ตำแหน่ง Major Archbishop (เหนือกว่าอาร์คบิชอป เทียบเท่าอัครบิดร) ในปี 1992
.
คำว่า "ซีโร-มาลาบาร์" เป็นการประดิษฐ์คำจากจารีตซีรีแอก (ซีโร) กับชายฝั่งมาลาบาร์ อันเป็นชื่อเดิมของพื้นที่รัฐเกรละ มีผู้นับถือราว 4 ล้านกว่า (บางแห่งให้ 5 ล้าน) ถือว่ามากที่สุดในบรรดาศาสนจักรที่สืบจากนักบุญโธมัสทั้งหมด
.
ซีโร-มาลาบาร์คาทอลิกยึดถือจารีตซีรีแอกตะวันออก (East Syriac rite) เหมือนคาลเดียนคาทอลิกที่อิรัก ด้วยความเกี่ยวโยงกับศาสนจักรเนสตอเรียนในอดีต แต่เพราะผ่านอิทธิพลละตินมานานจากโปรตุเกส ศาสนจักรจึงรับความเป็นละตินหลายประการ อย่างการใช้แผ่นปังแบบไร้เชื้อ
.
แต่กระนั้น ศาสนจักรก็ยังคงธรรมเนียมโบราณได้มากเช่นกัน เช่น หลายโบสถ์ไม่มีม้านั่ง ผู้ร่วมพิธีต้องยืน โดยชายหญิงยืนแยกกันและผู้หญิงจะคลุมศีรษะตลอดเมื่ออยู่ในโบสถ์ เป็นต้น
.
ในภาพที่ผมทำมา มีนักบุญที่มีชื่อเสียงของซีโร-มาลาบาร์ 2 องค์ ซึ่งผมว่าควรรู้จัก

- คนผู้ชายคือคุณพ่อคูรีอาโคส เอลียาส ชาวารา (Kuriakose Elias Chavara) ผู้ร่วมก่อตั้งคณะคาร์เมไลต์แห่งพระนางมารีย์นิรมล (Carmelites of Mary Immaculate - C.M.I.) อันเป็นคณะนักบวชที่ใหญ่ที่สุดของศาสนจักร เป็นนักบุญชายชาวอินเดียคนแรก สถาปนาโดยพระสันตะปาปาฟรังซิส ปี 2014

- คนผู้หญิงคือซิสเตอร์อัลฟองซา (Saint Alphonsa) สังกัดคณะฟรังซิสกันชั้นสาม เป็นนักบุญหญิงชาวอินเดียคนแรกเหมือนกัน สถาปนาโดยพระสันตะปาปาเบเนดิกต์ที่ 16 ปี 2008
.
ผมนำภาพน่าสนใจมาให้ดูกันทางซ้ายด้วย คือในปี 1986 เพื่อฉลองครบรอบ 1 ปี ที่สมณกระทรวงศาสนจักรตะวันออกรับรองหนังสือพิธีกรรมของซีโร-มาลาบาร์ พระสันตะปาปายอห์น ปอลที่ 2 จึงสวมอาภรณ์แบบซีโร-มาลาบาร์เมื่อครั้งเสด็จเยือนรัฐเกรละด้วย พระองค์เคารพจารีตท้องถิ่นมากทีเดียว

/AdminMichael

รูปภาพ

CR. : ประวัติศาสตร์คริสตศาสนา
https://www.facebook.com/share/oQEDygUN ... tid=WC7FNe
Arttise
โพสต์: 918
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ ก.พ. 19, 2017 3:45 pm

จันทร์ พ.ค. 06, 2024 7:45 pm

ที่เอแบคหัวหมากก็เคยมีพ่ออินเดีย มาทำมิสซาจารีตซีโรมาลาบาร์ครับ ผมต้องเช็คอีกทีว่าตอนนี้ ยังมีอยู่ไหม

รูปภาพ

CR. : เม้นในลิ้งค์นี้
https://www.facebook.com/share/fvcFc1Nt ... tid=WC7FNe
ตอบกลับโพส