อาทิตย์ที่ 21 ในเทศกาลธรรมดา 24 สิงหาคม 2025 บทอ่านและบทเทศน์เด็ดของสังฆานุกร รอน วัดนักบุญอันโทนี มารีย์ ดี แคลเรท เมื
โพสต์แล้ว: อังคาร ส.ค. 26, 2025 8:47 am
อาทิตย์ที่ 21 ในเทศกาลธรรมดา 24 สิงหาคม 2025
บทอ่านและบทเทศน์เด็ดของสังฆานุกร รอน วัดนักบุญอันโทนี มารีย์ ดี แคลเรท เมืองคายร์ รัฐเทกซัส สหรัฐอเมริกา ( Deacon Ron, Saint Anthony Marie de Claret, Kyle, Texas, U.S.A.)
บทอ่านที่หนึ่ง อิสยาห์ 66:18-21
พระยาห์เวห์ตรัสว่า “เรารู้การกระทำและความคิดของเขาทั้งหลาย เราจะมารวบรวมชนทุกชาติทุกภาษา เขาเหล่านั้นจะมาและเห็นสิริรุ่งโรจน์ของเรา เราจะให้เครื่องหมายแก่เขา จะส่งผู้รอดชีวิตในหมู่เขาไปยังชนชาติต่าง ๆ คือ ทารชิช พูต ลูด เมเชค ทูบัลและยาวาน ไปยังเกาะและแผ่นดินชายทะเลที่อยู่ห่างไกลซึ่งยังไม่เคยได้ยินผู้ใดกล่าวถึงเรา และไม่เคยเห็นสิริรุ่งโรจน์ของเรา เขาจะประกาศสิริรุ่งโรจน์ของเราแก่นานาชาติ เขาจะนำพี่น้องทุกคนของท่านทั้งหลายจากชนทุกชาติมาเป็นเครื่องบูชาถวายแด่พระยาห์เวห์ เขาจะขี่ม้า ขึ้นรถศึก นั่งเสลี่ยง ขี่ล่อ ขี่อูฐโหนกเดียว มายังกรุงเยรูซาเล็ม ภูเขาศักดิ์สิทธิ์ของเรา เช่นเดียวกับที่ชาวอิสราเอลนำธัญบูชาใส่ภาชนะไร้มลทินมายังพระวิหารของพระยาห์เวห์ พระยาห์เวห์ตรัส และเราจะนำเขาบางคนมาเป็นสมณะ และเป็นชนเลวี"
บทอ่านที่สอง ฮีบรู 12:5-11-13
ท่านลืมคำเตือนที่พระเจ้าตรัสกับท่านในฐานะที่เป็นบุตรแล้วหรือ ลูกเอ๋ย อย่าดูถูกการเฆี่ยนตีสั่งสอนขององค์พระผู้เป็นเจ้า อย่าท้อถอยเมื่อพระองค์ทรงตำหนิเจ้า เพราะองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงเฆี่ยนตีสั่งสอนผู้ที่พระองค์ทรงรัก และทรงเฆี่ยนตีทุกคนที่ทรงรับไว้เป็นบุตร ท่านจงอดทนรับการเฆี่ยนตีสั่งสอนเถิด พระเจ้าทรงกระทำต่อท่านเยี่ยงกระทำต่อบุตร มีบุตรคนใดบ้างที่บิดาไม่เฆี่ยนตีสั่งสอนเลย เป็นความจริงที่ว่า ขณะที่ถูกเฆี่ยนตีสั่งสอนไม่มีความน่ายินดี มีแต่ความทุกข์ แต่ให้ผลเป็นสันติและเป็นความชอบธรรมแก่ผู้ที่ยอมรับการเฆี่ยนตีสั่งสอนเป็นการฝึกฝนตนเอง ดังนั้น ท่านทั้งหลายจงทำให้มือที่อ่อนเปลี้ยและหัวเข่าที่สั่นเทามีกำลังมั่นคงขึ้น จงเดินให้ตรงทาง เพื่อว่าขากะเผลกจะได้ไม่ต้องพิการ แต่จะหายเป็นปกติ
พระวรสาร โดยนักบุญลูกา 13:22-30
พระเยซูเจ้าเสด็จผ่านเมืองและหมู่บ้าน ทรงสั่งสอนประชาชนและทรงเดินทางมุ่งไปกรุงเยรูซาเล็ม คนคนหนึ่งทูลถามพระองค์ว่า “พระเจ้าข้า มีคนน้อยคนใช่ไหมที่รอดพ้นได้” พระองค์ตรัสกับเขาทั้งหลายว่า “จงพยายามเข้าทางประตูแคบ เพราะเราบอกท่านทั้งหลายว่าหลายคนพยายามจะเข้าไป แต่จะเข้าไม่ได้” “เมื่อเจ้าของบ้านจะลุกขึ้นเพื่อปิดประตู ท่านจะยืนอยู่ข้างนอก เคาะประตูพูดว่า “นายเจ้าข้า เปิดประตูให้พวกเราด้วย” แต่เขาจะตอบว่า “เราไม่รู้ว่าพวกเจ้ามาจากที่ใด” แล้วท่านก็จะพูดว่า “พวกเราได้กินได้ดื่มอยู่กับท่าน ท่านได้สอนในลานสาธารณะของเรา” แต่เจ้าของบ้านจะตอบว่า “เราไม่รู้ว่าพวกเจ้ามาจากที่ใดไปให้พ้นจากเราเถิด เจ้าทั้งหลายที่กระทำการอยุติธรรม” “เวลานั้น ท่านทั้งหลายจะร่ำไห้คร่ำครวญและขบฟันด้วยความขุ่นเคืองเมื่อแลเห็นอับราฮัม อิสอัคและยาโคบกับบรรดาประกาศกในพระอาณาจักรของพระเจ้า แต่ท่านทั้งหลายกลับถูกไล่ออกไปข้างนอก จะมีคนจากทิศตะวันออกและทิศตะวันตก ทิศเหนือและทิศใต้ มานั่งร่วมโต๊ะในพระอาณาจักรของพระเจ้า ‘ดังนั้น พวกที่เป็นกลุ่มสุดท้ายจะกลับกลายเป็นกลุ่มแรก และพวกที่เป็นกลุ่มแรกจะกลับกลายเป็นกลุ่มสุดท้าย”
สังฆานุกรรอน: "จงพยายามเข้าทางประตูแคบ เพราะเราบอกท่านทั้งหลายว่าหลายคนพยายามจะเข้าไป แต่จะเข้าไม่ได้”...พระวาจาของพระเยซูเจ้าน่ากลัวมากนะครับ แต่พระองค์ต้องการให้เราได้ยิน เป็นคําพูดที่เราไม่ต้องการฟัง ฟังแล้วไม่สบายใจ แต่เป็นการทําให้เราต้องมองตัวเองอย่างถ่องแท้: ครุ่นคิด เปลี่ยนแปลง และเติบโต
ประตูแคบคือหนทางของพระเป็นเจ้าที่เราต้องปรับตัวให้เข้าที่เข้าทางร่วมกับพระองค์ เราต้องการพระหรรษทานและสันติสุขของพระองค์
เราต้องมีการปฏิเสธตัวเอง มีการพลีกรรม ไม่ทําอะไรเกินไป เช่นการดูทีวี การกินอาหาร ฯลฯ การพลีกรรมทําให้เราแข็งแรงขึ้นในคุณงามความดีและความพอประมาณ
เราต้องวางใจในพระเป็นเจ้า จะได้รับพระหรรษทาน และรู้ความหมายของชีวิต เราคือลูกของพระเป็นเจ้า
จงวางการฝ่าฟันอุปสรรคของชีวิตไว้ใต้ไม้กางเขนของพระองค์ จงขอพระองค์ให้ทรงเอามันไป
จงมีความถ่อมตนเพราะเราต้องการพระองค์และจงวางใจในพระองค์
ประตูกว้างคือหนทางของโลกที่จะพาเราไปสู่ความหายนะของตัวเราเอง
เมื่อเรารับศีลมหาสนิทในมิสซา เรารับพระองค์ เราต้องเป็นหนึ่งเดียวกับพระองค์ เราต้องปรับตัวของเราให้เข้าที่เข้าทางกับพระองค์
การเป็นสานุศิษย์ที่แท้จริงของพระองค์เป็นสิ่งที่ยากมาก...
____________________
อ่านแล้วถูกใจ อยากอ่านอีกหรืออยากอ่านบทอ่านและบทเทศน์เด็ดของมิสซาวันอาทิตย์ และบทอ่านเสริมศรัทธาหลากหลาย เชิญอ่านได้ที่ www.newmana.com เวปบอร์ด สนทนาธรรม สามัคคีธรรม และ สารแม่พระผู้เห็นอกเห็นใจฯ
viewtopic.php?f=8&t=20940.
บทอ่านและบทเทศน์เด็ดของสังฆานุกร รอน วัดนักบุญอันโทนี มารีย์ ดี แคลเรท เมืองคายร์ รัฐเทกซัส สหรัฐอเมริกา ( Deacon Ron, Saint Anthony Marie de Claret, Kyle, Texas, U.S.A.)
บทอ่านที่หนึ่ง อิสยาห์ 66:18-21
พระยาห์เวห์ตรัสว่า “เรารู้การกระทำและความคิดของเขาทั้งหลาย เราจะมารวบรวมชนทุกชาติทุกภาษา เขาเหล่านั้นจะมาและเห็นสิริรุ่งโรจน์ของเรา เราจะให้เครื่องหมายแก่เขา จะส่งผู้รอดชีวิตในหมู่เขาไปยังชนชาติต่าง ๆ คือ ทารชิช พูต ลูด เมเชค ทูบัลและยาวาน ไปยังเกาะและแผ่นดินชายทะเลที่อยู่ห่างไกลซึ่งยังไม่เคยได้ยินผู้ใดกล่าวถึงเรา และไม่เคยเห็นสิริรุ่งโรจน์ของเรา เขาจะประกาศสิริรุ่งโรจน์ของเราแก่นานาชาติ เขาจะนำพี่น้องทุกคนของท่านทั้งหลายจากชนทุกชาติมาเป็นเครื่องบูชาถวายแด่พระยาห์เวห์ เขาจะขี่ม้า ขึ้นรถศึก นั่งเสลี่ยง ขี่ล่อ ขี่อูฐโหนกเดียว มายังกรุงเยรูซาเล็ม ภูเขาศักดิ์สิทธิ์ของเรา เช่นเดียวกับที่ชาวอิสราเอลนำธัญบูชาใส่ภาชนะไร้มลทินมายังพระวิหารของพระยาห์เวห์ พระยาห์เวห์ตรัส และเราจะนำเขาบางคนมาเป็นสมณะ และเป็นชนเลวี"
บทอ่านที่สอง ฮีบรู 12:5-11-13
ท่านลืมคำเตือนที่พระเจ้าตรัสกับท่านในฐานะที่เป็นบุตรแล้วหรือ ลูกเอ๋ย อย่าดูถูกการเฆี่ยนตีสั่งสอนขององค์พระผู้เป็นเจ้า อย่าท้อถอยเมื่อพระองค์ทรงตำหนิเจ้า เพราะองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงเฆี่ยนตีสั่งสอนผู้ที่พระองค์ทรงรัก และทรงเฆี่ยนตีทุกคนที่ทรงรับไว้เป็นบุตร ท่านจงอดทนรับการเฆี่ยนตีสั่งสอนเถิด พระเจ้าทรงกระทำต่อท่านเยี่ยงกระทำต่อบุตร มีบุตรคนใดบ้างที่บิดาไม่เฆี่ยนตีสั่งสอนเลย เป็นความจริงที่ว่า ขณะที่ถูกเฆี่ยนตีสั่งสอนไม่มีความน่ายินดี มีแต่ความทุกข์ แต่ให้ผลเป็นสันติและเป็นความชอบธรรมแก่ผู้ที่ยอมรับการเฆี่ยนตีสั่งสอนเป็นการฝึกฝนตนเอง ดังนั้น ท่านทั้งหลายจงทำให้มือที่อ่อนเปลี้ยและหัวเข่าที่สั่นเทามีกำลังมั่นคงขึ้น จงเดินให้ตรงทาง เพื่อว่าขากะเผลกจะได้ไม่ต้องพิการ แต่จะหายเป็นปกติ
พระวรสาร โดยนักบุญลูกา 13:22-30
พระเยซูเจ้าเสด็จผ่านเมืองและหมู่บ้าน ทรงสั่งสอนประชาชนและทรงเดินทางมุ่งไปกรุงเยรูซาเล็ม คนคนหนึ่งทูลถามพระองค์ว่า “พระเจ้าข้า มีคนน้อยคนใช่ไหมที่รอดพ้นได้” พระองค์ตรัสกับเขาทั้งหลายว่า “จงพยายามเข้าทางประตูแคบ เพราะเราบอกท่านทั้งหลายว่าหลายคนพยายามจะเข้าไป แต่จะเข้าไม่ได้” “เมื่อเจ้าของบ้านจะลุกขึ้นเพื่อปิดประตู ท่านจะยืนอยู่ข้างนอก เคาะประตูพูดว่า “นายเจ้าข้า เปิดประตูให้พวกเราด้วย” แต่เขาจะตอบว่า “เราไม่รู้ว่าพวกเจ้ามาจากที่ใด” แล้วท่านก็จะพูดว่า “พวกเราได้กินได้ดื่มอยู่กับท่าน ท่านได้สอนในลานสาธารณะของเรา” แต่เจ้าของบ้านจะตอบว่า “เราไม่รู้ว่าพวกเจ้ามาจากที่ใดไปให้พ้นจากเราเถิด เจ้าทั้งหลายที่กระทำการอยุติธรรม” “เวลานั้น ท่านทั้งหลายจะร่ำไห้คร่ำครวญและขบฟันด้วยความขุ่นเคืองเมื่อแลเห็นอับราฮัม อิสอัคและยาโคบกับบรรดาประกาศกในพระอาณาจักรของพระเจ้า แต่ท่านทั้งหลายกลับถูกไล่ออกไปข้างนอก จะมีคนจากทิศตะวันออกและทิศตะวันตก ทิศเหนือและทิศใต้ มานั่งร่วมโต๊ะในพระอาณาจักรของพระเจ้า ‘ดังนั้น พวกที่เป็นกลุ่มสุดท้ายจะกลับกลายเป็นกลุ่มแรก และพวกที่เป็นกลุ่มแรกจะกลับกลายเป็นกลุ่มสุดท้าย”
สังฆานุกรรอน: "จงพยายามเข้าทางประตูแคบ เพราะเราบอกท่านทั้งหลายว่าหลายคนพยายามจะเข้าไป แต่จะเข้าไม่ได้”...พระวาจาของพระเยซูเจ้าน่ากลัวมากนะครับ แต่พระองค์ต้องการให้เราได้ยิน เป็นคําพูดที่เราไม่ต้องการฟัง ฟังแล้วไม่สบายใจ แต่เป็นการทําให้เราต้องมองตัวเองอย่างถ่องแท้: ครุ่นคิด เปลี่ยนแปลง และเติบโต
ประตูแคบคือหนทางของพระเป็นเจ้าที่เราต้องปรับตัวให้เข้าที่เข้าทางร่วมกับพระองค์ เราต้องการพระหรรษทานและสันติสุขของพระองค์
เราต้องมีการปฏิเสธตัวเอง มีการพลีกรรม ไม่ทําอะไรเกินไป เช่นการดูทีวี การกินอาหาร ฯลฯ การพลีกรรมทําให้เราแข็งแรงขึ้นในคุณงามความดีและความพอประมาณ
เราต้องวางใจในพระเป็นเจ้า จะได้รับพระหรรษทาน และรู้ความหมายของชีวิต เราคือลูกของพระเป็นเจ้า
จงวางการฝ่าฟันอุปสรรคของชีวิตไว้ใต้ไม้กางเขนของพระองค์ จงขอพระองค์ให้ทรงเอามันไป
จงมีความถ่อมตนเพราะเราต้องการพระองค์และจงวางใจในพระองค์
ประตูกว้างคือหนทางของโลกที่จะพาเราไปสู่ความหายนะของตัวเราเอง
เมื่อเรารับศีลมหาสนิทในมิสซา เรารับพระองค์ เราต้องเป็นหนึ่งเดียวกับพระองค์ เราต้องปรับตัวของเราให้เข้าที่เข้าทางกับพระองค์
การเป็นสานุศิษย์ที่แท้จริงของพระองค์เป็นสิ่งที่ยากมาก...
____________________
อ่านแล้วถูกใจ อยากอ่านอีกหรืออยากอ่านบทอ่านและบทเทศน์เด็ดของมิสซาวันอาทิตย์ และบทอ่านเสริมศรัทธาหลากหลาย เชิญอ่านได้ที่ www.newmana.com เวปบอร์ด สนทนาธรรม สามัคคีธรรม และ สารแม่พระผู้เห็นอกเห็นใจฯ
viewtopic.php?f=8&t=20940.