ในช่วงต้นศตวรรษที่ 4 ครอบครัวของท่านนับถือศาสนาคริสต์ ท่านได้รับการศึกษาที่อารามท้องถิ่น และต่อมาได้รับศีลบวชเป็นพระสงฆ์ เมื่อจักรวรรดิโรมันทำการเบียดเบียนคริสตชนในรัชสมัยของ “จักรพรรดิจูเลียน ผู้ละทิ้งศาสนา (Julian the Apostate)” นักบุญมัทธิวพร้อมด้วยพี่น้องคริสตชนได้หลบหนีไปยังจักรวรรดิเปอร์เซีย (Persian Empire) ที่อยู่ใกล้เคียง และแสวงหาที่หลบภัยในถ้ำอันห่างไกลบนยอดเขาอัลฟาฟ (Mount Alfaf - ܛܘܪܐ ܕܐܠܦܦ) (جبل مقلوب) จากที่นั่น นักบุญมัทธิวเริ่มต้นชีวิตอันศักดิ์สิทธิ์ของท่านที่ถ้ำแห่งนั้นเอง นักบุญมัทธิวเริ่มถือสันโดษอย่างลึกซึ้ง จนได้รับฉายาว่า “ฤาษีสันโดษ (Hermit)” ต่อมาท่านได้รับความศักดิ์สิทธิ์จากการทำอัศจรรย์มากมาย และดึงดูดผู้คนมากมาย นักบุญมัทธิวมีชื่อเสียงโด่งดังจนดึงดูดความสนใจจากราชวงศ์ หนึ่งในนั้นคือ “เจ้าชายเบห์นัม (Prince Behnam)” ผู้นับถือลัทธิเพแกน ซึ่งต่อมาได้เป็น “นักบุญเบห์นัม (Saint Behnam)” นักบุญมัทธิวได้ขอให้เจ้าชายเบห์นัมให้ละทิ้งบรรดาเทพเจ้าโบราณเพื่อหันไปนับถือพระเจ้าเที่ยงแท้แต่องค์เดียว เจ้าชายทรงพอพระทัยในพระวรสารมากจนขอให้ท่านนักบุญคนนี้รักษา “เจ้าหญิงซาราห์ (Princess Sarah)” พระขนิษฐาของพระองค์จากโรคเรื้อน ซึ่งต่อมาได้เป็น “นักบุญซาราห์ (Saint Sarah)”
เมื่อท่านทำการรักษาเจ้าหญิงซาราห์ให้หายจากอาการป่วยแล้ว ทั้งเจ้าชายและเจ้าหญิงต่างตกลงที่จะรับศีลล้างบาปและให้ประชาชนในประเทศของตนให้กลับใจมานับถือศาสนาคริสต์ พระราชบิดาของทั้งสองพระองค์ คือ “กษัตริย์เซนนาเคอริบ (King Sinharib)” ผู้ซึ่งเคร่งครัดในลัทธิเพแกน และทรงไม่สำนึกในบุญคุณ แม้พระราชธิดาจะทรงหายจากโรคเรื้อนก็ตาม ด้วยพระพิโรธ พระองค์จึงทรงข่มขู่ลูกๆของพระองค์เองและบรรดาคริสตชนให้ละทิ้งพระคริสตเจ้าและให้กลับไปนับถือบรรดาเทพเจ้าโบราณ เมื่อพวกเขาปฏิเสธ พวกเขาก็ถูกประหารชีวิต ณ ที่นั้น นับเป็นการรำลึกถึงนักบุญเบห์นัม , นักบุญซาราห์ และเพื่อนมรณสักขี 40 องค์ (Saint Behnam , Saint Sarah and the 40 Martyrs) แล้วพระองค์ทรงเสียพระทัย และความพยายามของที่ปรึกษาพระองค์ที่พยายามปลอบประโลมก็ไร้ผล เช่นเดียวกับที่ทูตสวรรค์ปรากฏกายแก่นักบุญเบห์นัมเพื่อตามหานักบุญมัทธิว แล้วทูตสวรรค์ได้ประจักษ์แก่พระมเหสีของกษัตริย์อีกครั้งเพื่อตามหาฤาษีผู้ศักดิ์สิทธิ์ (นักบุญมัทธิว)
เมื่อกษัตริย์เซนนาเคอริบและพระมเหสีพบกับนักบุญมัทธิว ท่านตกลงที่จะรักษาพระองค์เพื่อแลกกับการที่พระองค์กลับใจมานับถือศาสนาคริสต์ เมื่อทรงหายดีแล้ว พระองค์ก็รับศีลล้างบาปพร้อมกับพระมเหสี และกษัตริย์ทรงพอพระทัยจึงทรงถวายของกำนัล นักบุญมัทธิวจึงขอให้กษัตริย์สร้างอาราม ณ บริเวณถ้ำที่ตัวท่านได้ถือสันโดษ นักบุญมัทธิวจึงได้อาศัยอยู่ที่สถานที่แห่งนี้ในเวลาต่อมา และอารามแห่งนี้ก็ยังคงใช้ชื่อของท่านมาจนถึงปัจจุบัน
อารามที่ใช้ชื่อของท่านนักบุญยังคงมีอยู่มาจนถึงทุกวันนี้ คือ “อารามนักบุญมาร์ แมทธาย (Mar Mattai Monastery - ܕܝܪܐ ܕܡܪܝ ܡܬ) (دير مار متي)” ในประเทศอิรัก
แม้จะต้องเผชิญกับการปล้นสะดมและการโจมตีจากบรรดาโจร และยังมีห้องสมุดอยู่ด้วย วันฉลองของมอนักบุญมัทธิว ฤาษี คือทุกวันที่ 18 กันยายน ของทุกปี และท่านได้รับการเคารพในนิกายออเรียนทัลออร์โธด็อกซ์ (Oriental Orthodox) อารามที่ท่านก่อตั้งขึ้นจะเป็นที่ประทับของแมฟเรียน (Maphrian - ܡܦܪܝܢܐ) ซึ่งเป็นลำดับชั้นที่ 2 รองจากอัครบิดรแห่งแอนติออก (Patriarch of Antioch) ปัจจุบันอารามแห่งนี้เป็นที่ประทับของอาร์คบิชอปท้องถิ่น ชาวบ้านยังคงเรียกท่านว่า “เชค มัทธาย (Shaikh Mattai)” และผู้ที่ไม่ใช่คริสตชนและคริสตชนที่ไม่ใช่ชาวซีเรีย
ต่างหลั่งไหลมายังสุสานของท่านเพื่อแสวงหาการรักษาโรค เดิมทีเป็นที่ประทับของนักบวชอาวุโสอันดับสองรองจากอัครบิดร และมีฤาษีหลายพันคน ปัจจุบันมีฤาษีเพียง 2 คน และสุสานแห่งนี้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวและสถานที่สำคัญของศาสนาคริสต์ในแถบตะวันออก
Mar Mattai Monastery (อารามนักบุญมาร์ แมทธาย - ܕܝܪܐ ܕܡܪܝ ܡܬ) (دير مار متي)
Google Mapshttps://maps.app.goo.gl/apdyZdLjyz9RDtbFA?g_st=ipc
เพจhttps://www.facebook.com/share/1CdVpmHL ... tid=wwXIfr
หากท่านชอบบทความความสามารถโดเนทเพื่อสนับสนุนมาได้ที่ธนาคารทีเอ็มบีธนชาต (ttb)
235-2-54394-2
#คริสต์ #ออร์โธด็อกซ์ #คาทอลิก #คริสต์ศรัทธา #ชีวประวัติ #นักบุญ #ประวัติศาสตร์ #ซีรีแอก #ซีรีแอกออร์โธด็อกซ์ #ซีรีแอกคาทอลิก #นักบุญมัทธิวฤาษี #ฤาษี #นักพรต #คาทอลิกตะวันออก #อาราม #orthodox #catholic #syriac #SyriacOrthodox #SyriacCatholic #EasternCatholic #SaintMatthewTheHermit #hermit
CR. : คริสต์ศรัทธา
https://www.facebook.com/share/p/19MjAT ... tid=wwXIfr