อาทิตย์ที่ 27 ในเทศกาลธรรมดา (วันอาทิตย์ที่ 5 ตุลาคม 2025) บทอ่านและบทเทศน์เด็ดของคุณพ่อโยแซฟ วัดนักบุญอันโทนี มารีย์
โพสต์แล้ว: อังคาร ต.ค. 07, 2025 8:48 am
อาทิตย์ที่ 27 ในเทศกาลธรรมดา (วันอาทิตย์ที่ 5 ตุลาคม 2025)
บทอ่านและบทเทศน์เด็ดของคุณพ่อโยแซฟ วัดนักบุญอันโทนี มารีย์ ดี แคลเรท เมืองคายร์ รัฐเทกซัส สหรัฐอเมริกา ( Father Joseph, Saint Anthony Marie de Claret, Kyle, Texas, U.S.A.)
บทอ่านที่หนึ่ง ฮาบากุก 1:2-3,2:2-4
ข้าแต่พระยาห์เวห์ ข้าพเจ้าจะต้องร้องขอความช่วยเหลือนานสักเท่าใด พระองค์จึงจะทรงฟัง ข้าพเจ้าจะร้องเสียงดังทูลพระองค์ว่า “ทารุณ” พระองค์ก็ไม่ทรงช่วยให้รอดพ้น ทำไมพระองค์ทรงให้ข้าพเจ้าเห็นการทำผิด และทรงนิ่งมองดูการกดขี่ข่มเหง ทั้งการปล้นและการใช้ความรุนแรงอยู่ต่อหน้าข้าพเจ้า การทะเลาะวิวาทและแตกสามัคคีเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง พระยาห์เวห์ตรัสตอบข้าพเจ้าว่า “จงเขียนนิมิต และสลักไว้ให้ชัดเจนบนแผ่นกระดาน เพื่อให้อ่านได้ง่าย ยังไม่ถึงเวลาที่นิมิตนี้จะเป็นจริง แต่จะเป็นจริงในไม่ช้าตามที่กำหนดไว้อย่างแน่นอน แม้นิมิตนี้จะล่าช้าไปบ้าง ก็จงคอยสักระยะหนึ่ง นิมิตนี้จะเกิดขึ้นอย่างแน่นอนโดยไม่ชักช้า ดูซิ ผู้มีจิตใจไม่ซื่อตรงก็จะล้มลง แต่ผู้ชอบธรรมจะมีชีวิตเพราะความซื่อสัตย์”
บทอ่านที่สอง 2 ทิโมธี 1:6-8,13-14
ข้าพเจ้าจึงเตือนความจำของท่านเพื่อให้พระพรพิเศษของพระเจ้าเป็นไฟที่รุ่งโรจน์ขึ้นอีก ท่านได้รับพระพรนี้โดยการปกมือของข้าพเจ้า พระเจ้าไม่ได้ประทานจิตที่ขลาดกลัวแต่ตรงกันข้ามจิตที่บันดาลความเข้มแข็ง ความรักและการควบคุมตนเองแก่เรา ดังนั้น ท่านอย่าอายที่จะเป็นพยานถึงองค์พระผู้เป็นเจ้าของเรา หรืออายที่ข้าพเจ้าต้องถูกจองจำเพราะพระองค์ แต่จงเข้ามามีส่วนร่วมทนทุกข์ทรมานกับข้าพเจ้าเพื่อข่าวดีโดยพระอานุภาพของพระเจ้า จงยึดถือคำสอนที่ถูกต้องซึ่งท่านได้ยินมาจากข้าพเจ้าไว้เป็นแบบอย่างด้วยความเชื่อและความรักในพระคริสตเยซู เดชะพระจิตเจ้าผู้สถิตในเรา จงรักษาของมีค่าที่ได้รับมอบไว้
พระวรสาร โดยนักบุญลูกา 17:5-10
บรรดาอัครสาวกทูลองค์พระผู้เป็นเจ้าว่า “โปรดเพิ่มความเชื่อให้พวกเราเถิด” องค์พระผู้เป็นเจ้าจึงตรัสว่า ‘ถ้าท่านมีความเชื่อเท่าเมล็ดมัสตาร์ด และพูดกับต้นหม่อนต้นนี้ว่า “จงถอนรากแล้วไปขึ้นอยู่ในทะเลเถิด” ต้นหม่อนต้นนั้นก็จะเชื่อฟังท่าน “ท่านผู้ใดที่มีคนรับใช้ออกไปไถนา หรือไปเลี้ยงแกะ เมื่อคนรับใช้กลับจากทุ่งนา ผู้นั้นจะพูดกับคนรับใช้หรือว่า “เร็วเข้า มานั่งโต๊ะเถิด” แต่จะพูดมิใช่หรือว่า “จงเตรียมอาหารมาให้ฉันเถิด จงคาดสะเอว คอยรับใช้ฉันขณะที่ฉันกินและดื่ม หลังจากนั้นเจ้าจึงกินและดื่ม” นายย่อมไม่ขอบใจผู้รับใช้ที่ปฏิบัติตามคำสั่งมิใช่หรือ ท่านทั้งหลายก็เช่นเดียวกัน เมื่อท่านได้ทำตามคำสั่งทุกประการแล้ว จงพูดว่า “ฉันเป็นผู้รับใช้ที่ไร้ประโยชน์ เพราะฉันทำตามหน้าที่ที่ต้องทำเท่านั้น”
คุณพ่อโยแซฟ: พระเยซูเจ้าพูดถึงความเชื่อและนายที่เหมือนกับจะกดขี่คนรับใช้ เราต้องถามตัวเองว่า ทําไมเรามามิสซาวันอาทิตย์...ทําไมเราถึงเป็นผู้รับใช้ของพระเป็นเจ้า...ทําไมเราถึงให้บริการ...เราหวังอะไร?
มุมมองของคริสตชนคือ...ให้แบบไม่หวังผลตอบแทนใดๆ ให้เพราะเรารัก...เหมือนพระเยซูเจ้าที่ทรงมอบชีวิตของพระองค์แก่เราเพราะความรัก...ให้แบบไม่มีเงื่อนไข...ให้แบบไม่หวังผลตอบแทนใดๆ...
ความรักต้องเคียงคู่กับความเชื่อ...เราต้องสลัดทิ้งความเห็นแก่ตัว...ความกล้าหาญและการควบคุมตัวเองเป็นข้อกําหนดเบื้องต้นของการรักแบบอิสระไม่หวังผลตอบแทน...เราต้องขอพระจิตเจ้าให้ทรงช่วยเรา...
เราต้องเป็นเหมือนทหารที่ไม่อยู่ในหลุมกลางสนามรบ...เราต้องรุกไล่แบบไม่โง่เขลา...เราต้องวางแผนและร่วมมือกันเพื่อจะได้ชัยชนะ...
พระเป็นเจ้าทรงเอาเราออกจากสิ่งตรงกันข้าม ทรงเอาเราให้รับใช้พระองค์...สิ่งใดที่เป็นพระประสงค์ของพระองค์สิ่งนั้นเป็นของเรา...
เราทําเพราะเรารักพระองค์...เราให้แบบอิสระ...และเราเปลี่ยนแปลงโลก!
____________________
อ่านแล้วถูกใจ อยากอ่านอีกหรืออยากอ่านบทอ่านและบทเทศน์เด็ดของมิสซาวันอาทิตย์ และบทอ่านเสริมศรัทธาหลากหลาย เชิญอ่านได้ที่ www.newmana.com เวปบอร์ด สนทนาธรรม สามัคคีธรรม และ สารแม่พระผู้เห็นอกเห็นใจฯ
viewtopic.php?f=8&t=20940.
บทอ่านและบทเทศน์เด็ดของคุณพ่อโยแซฟ วัดนักบุญอันโทนี มารีย์ ดี แคลเรท เมืองคายร์ รัฐเทกซัส สหรัฐอเมริกา ( Father Joseph, Saint Anthony Marie de Claret, Kyle, Texas, U.S.A.)
บทอ่านที่หนึ่ง ฮาบากุก 1:2-3,2:2-4
ข้าแต่พระยาห์เวห์ ข้าพเจ้าจะต้องร้องขอความช่วยเหลือนานสักเท่าใด พระองค์จึงจะทรงฟัง ข้าพเจ้าจะร้องเสียงดังทูลพระองค์ว่า “ทารุณ” พระองค์ก็ไม่ทรงช่วยให้รอดพ้น ทำไมพระองค์ทรงให้ข้าพเจ้าเห็นการทำผิด และทรงนิ่งมองดูการกดขี่ข่มเหง ทั้งการปล้นและการใช้ความรุนแรงอยู่ต่อหน้าข้าพเจ้า การทะเลาะวิวาทและแตกสามัคคีเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง พระยาห์เวห์ตรัสตอบข้าพเจ้าว่า “จงเขียนนิมิต และสลักไว้ให้ชัดเจนบนแผ่นกระดาน เพื่อให้อ่านได้ง่าย ยังไม่ถึงเวลาที่นิมิตนี้จะเป็นจริง แต่จะเป็นจริงในไม่ช้าตามที่กำหนดไว้อย่างแน่นอน แม้นิมิตนี้จะล่าช้าไปบ้าง ก็จงคอยสักระยะหนึ่ง นิมิตนี้จะเกิดขึ้นอย่างแน่นอนโดยไม่ชักช้า ดูซิ ผู้มีจิตใจไม่ซื่อตรงก็จะล้มลง แต่ผู้ชอบธรรมจะมีชีวิตเพราะความซื่อสัตย์”
บทอ่านที่สอง 2 ทิโมธี 1:6-8,13-14
ข้าพเจ้าจึงเตือนความจำของท่านเพื่อให้พระพรพิเศษของพระเจ้าเป็นไฟที่รุ่งโรจน์ขึ้นอีก ท่านได้รับพระพรนี้โดยการปกมือของข้าพเจ้า พระเจ้าไม่ได้ประทานจิตที่ขลาดกลัวแต่ตรงกันข้ามจิตที่บันดาลความเข้มแข็ง ความรักและการควบคุมตนเองแก่เรา ดังนั้น ท่านอย่าอายที่จะเป็นพยานถึงองค์พระผู้เป็นเจ้าของเรา หรืออายที่ข้าพเจ้าต้องถูกจองจำเพราะพระองค์ แต่จงเข้ามามีส่วนร่วมทนทุกข์ทรมานกับข้าพเจ้าเพื่อข่าวดีโดยพระอานุภาพของพระเจ้า จงยึดถือคำสอนที่ถูกต้องซึ่งท่านได้ยินมาจากข้าพเจ้าไว้เป็นแบบอย่างด้วยความเชื่อและความรักในพระคริสตเยซู เดชะพระจิตเจ้าผู้สถิตในเรา จงรักษาของมีค่าที่ได้รับมอบไว้
พระวรสาร โดยนักบุญลูกา 17:5-10
บรรดาอัครสาวกทูลองค์พระผู้เป็นเจ้าว่า “โปรดเพิ่มความเชื่อให้พวกเราเถิด” องค์พระผู้เป็นเจ้าจึงตรัสว่า ‘ถ้าท่านมีความเชื่อเท่าเมล็ดมัสตาร์ด และพูดกับต้นหม่อนต้นนี้ว่า “จงถอนรากแล้วไปขึ้นอยู่ในทะเลเถิด” ต้นหม่อนต้นนั้นก็จะเชื่อฟังท่าน “ท่านผู้ใดที่มีคนรับใช้ออกไปไถนา หรือไปเลี้ยงแกะ เมื่อคนรับใช้กลับจากทุ่งนา ผู้นั้นจะพูดกับคนรับใช้หรือว่า “เร็วเข้า มานั่งโต๊ะเถิด” แต่จะพูดมิใช่หรือว่า “จงเตรียมอาหารมาให้ฉันเถิด จงคาดสะเอว คอยรับใช้ฉันขณะที่ฉันกินและดื่ม หลังจากนั้นเจ้าจึงกินและดื่ม” นายย่อมไม่ขอบใจผู้รับใช้ที่ปฏิบัติตามคำสั่งมิใช่หรือ ท่านทั้งหลายก็เช่นเดียวกัน เมื่อท่านได้ทำตามคำสั่งทุกประการแล้ว จงพูดว่า “ฉันเป็นผู้รับใช้ที่ไร้ประโยชน์ เพราะฉันทำตามหน้าที่ที่ต้องทำเท่านั้น”
คุณพ่อโยแซฟ: พระเยซูเจ้าพูดถึงความเชื่อและนายที่เหมือนกับจะกดขี่คนรับใช้ เราต้องถามตัวเองว่า ทําไมเรามามิสซาวันอาทิตย์...ทําไมเราถึงเป็นผู้รับใช้ของพระเป็นเจ้า...ทําไมเราถึงให้บริการ...เราหวังอะไร?
มุมมองของคริสตชนคือ...ให้แบบไม่หวังผลตอบแทนใดๆ ให้เพราะเรารัก...เหมือนพระเยซูเจ้าที่ทรงมอบชีวิตของพระองค์แก่เราเพราะความรัก...ให้แบบไม่มีเงื่อนไข...ให้แบบไม่หวังผลตอบแทนใดๆ...
ความรักต้องเคียงคู่กับความเชื่อ...เราต้องสลัดทิ้งความเห็นแก่ตัว...ความกล้าหาญและการควบคุมตัวเองเป็นข้อกําหนดเบื้องต้นของการรักแบบอิสระไม่หวังผลตอบแทน...เราต้องขอพระจิตเจ้าให้ทรงช่วยเรา...
เราต้องเป็นเหมือนทหารที่ไม่อยู่ในหลุมกลางสนามรบ...เราต้องรุกไล่แบบไม่โง่เขลา...เราต้องวางแผนและร่วมมือกันเพื่อจะได้ชัยชนะ...
พระเป็นเจ้าทรงเอาเราออกจากสิ่งตรงกันข้าม ทรงเอาเราให้รับใช้พระองค์...สิ่งใดที่เป็นพระประสงค์ของพระองค์สิ่งนั้นเป็นของเรา...
เราทําเพราะเรารักพระองค์...เราให้แบบอิสระ...และเราเปลี่ยนแปลงโลก!
____________________
อ่านแล้วถูกใจ อยากอ่านอีกหรืออยากอ่านบทอ่านและบทเทศน์เด็ดของมิสซาวันอาทิตย์ และบทอ่านเสริมศรัทธาหลากหลาย เชิญอ่านได้ที่ www.newmana.com เวปบอร์ด สนทนาธรรม สามัคคีธรรม และ สารแม่พระผู้เห็นอกเห็นใจฯ
viewtopic.php?f=8&t=20940.