หน้า 1 จากทั้งหมด 1
เพศสัมพันธ์กับความเชื่อในศาสนาคริสต์ ??
โพสต์แล้ว: ศุกร์ พ.ย. 25, 2005 9:01 am
โดย หนอน
การมีเพศสัมพันธ์ก่อนแต่งงาน ในความเชื่อของคริสต์ เป็นความผิดใช่มั้ยครับ
แล้วถ้ามีแล้วจะแก้บาปยังไงดีละครับ
---------------------
มีคำถามฝากมาคับ แล้วช่วยตัวเองละคับ ผิดมั้ยครับ
ขอบคุณครับ
Re:เพศสัมพันธ์กับความเชื่อในศาสนาคริสต์ ??
โพสต์แล้ว: ศุกร์ พ.ย. 25, 2005 9:48 am
โดย Batholomew
เป็นบาปทั้งสองอย่างครับ ทั้งเรื่องของการช่วยตัวเองและการมีเพศสัมพันธ์ก่อนแต่งงานครับ
เพราะเป็นบาปอุลามกครับ
Re:เพศสัมพันธ์กับความเชื่อในศาสนาคริสต์ ??
โพสต์แล้ว: ศุกร์ พ.ย. 25, 2005 9:15 pm
โดย :+: seraphim :+:
หนอน เขียน:
การมีเพศสัมพันธ์ก่อนแต่งงาน ในความเชื่อของคริสต์ เป็นความผิดใช่มั้ยครับ
แล้วถ้ามีแล้วจะแก้บาปยังไงดีละครับ
---------------------
มีคำถามฝากมาคับ แล้วช่วยตัวเองละคับ ผิดมั้ยครับ
ขอบคุณครับ
;D ;D
ทำบาปอะไรก็บอกไปตรงๆได้เลยค่ะ เพราะก่อนที่จะมาแก้บาปพระ
เป็นเจ้าก็ทรงทราบดีอยู่แล้วว่า เราได้กระทำบาปอะไร พระองค์รอวันเวลาที่จะให้เราสำนึกผิด และกลับใจมาหาพระองค์ค่ะ
Re:เพศสัมพันธ์กับความเชื่อในศาสนาคริสต์ ??
โพสต์แล้ว: เสาร์ พ.ย. 26, 2005 12:58 am
โดย Nihil
แค่มองหรือคิดด้วยความใคร่ก็บาปแล้วละครับ :D
Re:เพศสัมพันธ์กับความเชื่อในศาสนาคริสต์ ??
โพสต์แล้ว: เสาร์ พ.ย. 26, 2005 10:43 am
โดย chawannat
ความจริงถ้ามีความรักให้กันจริงๆก็ไม่จำเป็นต้องมีเพศสัมพันธ์ก่อนเวลาอันควรก็ได้หนิค่ะ
แต่ถ้าทำไปแล้ว ไม่สบายใจก็แก้บาปกับพระดีกว่าค่ะ :P
Re:เพศสัมพันธ์กับความเชื่อในศาสนาคริสต์ ??
โพสต์แล้ว: เสาร์ พ.ย. 26, 2005 9:30 pm
โดย Jeab Agape
Nihil เขียน:
แค่มองหรือคิดด้วยความใคร่ก็บาปแล้วละครับ :D
พี่ลิง (กัง) แก้ บาป เรื่องนี้บ่อยไหมฮะ :-*
Re:เพศสัมพันธ์กับความเชื่อในศาสนาคริสต์ ??
โพสต์แล้ว: เสาร์ พ.ย. 26, 2005 9:38 pm
โดย Jeab Agape
หนอน เขียน:
มีคำถามฝากมาคับ แล้วช่วยตัวเองละคับ ผิดมั้ยครับ
การช่วยตัวเองบาปหรือไม่อย่างไร?
คุณพ่อไพบูลย์ อุดมเดช, C.Ss.R.
จากหนังสือคำสอนเล่มใหม่ที่ประกาศใช้โดยพระสันตะปาปายอห์นพอลที่สอง ข้อที่ 2396 บอกว่าโดยตัวมันเองการช่วยตัวเองทางเพศเป็น บาป ครับรวม ทั้งบาป Fornication, (การใช้เพศนอกศีลแต่งงาน) Homosexual, Pornography) เป็นบาปที่ตรงกันข้ามหรือผิดต่อความบริสุทธิ์
ในแง่นี้จะสังเกตว่านักเทววิทยาเองพยายามเน้นให้เข้าใจคำว่า บาป หรือ Sin ให้กระจ่างด้วย เนื่องจากพฤติกรรมของคนเรานั้นจะเข้าข่ายของบาปได้ต้องพิจารณาถึง สิ่งที่ทำ เจตนาผู้กระทำ และสภาพแวดล้อมนั้นๆ เนื่องจากไม่สามารถจะบอกลงไปได้ว่าพฤติกรรมของคนๆหนึ่งที่ช่วยตัวเองทางเพศนั้นเกิดขึ้นมาจากแรงกระตุ้นอะไร เพราะฉะนั้นต่อคำถามที่ว่าบาปหรือไม่นั้นตัวของมันเองนั้นเป็นบาปแต่คนที่ได้กระทำนั้นได้กระทำบาปหรือเปล่าอันนี้ไม่สามารถจะตอบได้เพราะเป็นเรื่องของเจ้าตัวเองว่ามีเจตนาเช่นไร ยกตัวอย่างเช่น ถ้าหากบุคคลถูกรุมล้อมด้วยแรงกดทางภายนอกให้เขาต้องเครียด เขาอาจต้องปลดปล่อยความเครียดนั้นในชวยตัวเองทางเพศ หรือบุคคลมีความผิดปรกติทางฮอร์โมนผิดปรกติก็จะถูกกดดันให้เขาต้องกระทำแม้ใจของเขาไม่อยากดังนี้เป็นต้น
การที่จะบอกว่าคนหนึ่งคนใดทำบาปหรือเปล่านั้นเรามนุษย์ไม่สามารถจะตัดสินใครได้เนื่องจากเราไม่รู้สภาพแวดล้อม สภาพของจิตใจของผู้ใดได้ พระศาสนจักรได้วางมาตรการไว้กว้างๆ ตามบัญญัติสิบประการดังที่เราทราบดีว่าเป็นบัญญัติของพระเป็นเจ้า อย่างไรก็ตามก็ต้องมีการตีความและแจกแจงเหตุผลว่าพฤติกรรมนั้นๆเข้าข่ายผิดมากผิดน้อยเพียงใดต่อพระบัญญัติ
นักจริยศาสตร์ในยุคปัจจุบันอยากเปลี่ยนแนวคิดของคริสตชนเราให้หันมามองด้านบวกมากกว่าด้านลบ ความหมายคือ แทนที่คนเราจะมองแต่ด้านบาปมากเกินไปก็ให้หันมามองด้านความเมตตาของพระเป็นเจ้าให้มากขึ้น โดยพยายามอธิบายว่า คนเราเกิดมาพร้อมกับความอ่อนแอ การตกลงในความผิดหรือไม่ได้มาตรฐานตามกฏนั้นดูเหมือนจะเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นเสมอในความเป็นมนุษย์ ขอให้เรามองไปที่พระเมตตาและเน้นการกลับใจให้มากขึ้น อันที่จริงเพราะบาปนั่นเองพระผู้ไถ่ถึงได้เสด็จมาเพื่อเรา นั่นคือผลดีที่เกิดจากบาป
ท่าทีของนักเทวศาสตร์เกี่ยวกับบาปคืออะไร?
คำสอนของเราบอกว่าบาปแบ่งได้สองประการคือบาปหนักและเบา นักเทวศาสตร์ปัจจุบันมองว่าคนเราจะทำบาปหนักบริสุทธิ์จริงๆได้นั้นมันไม่ใช่เรื่องง่ายนักเพราะนั่นหมายความว่าเขาจะต้องรักตัวบาปนั้นจริงๆเต็มหัวใจ เขาจะต้องต่อต้านพระเป็นเจ้าจริง กระนั้นก็ตามไม่ได้บอกว่าเป็นไปไม่ได้ เพราะคนประเภทนี้ก็มีเหมือนกัน แต่ถ้าจะนับเป็นจำนวนแล้วก็น้อย ส่วนใหญ่คนเรามักจะทำบาปเนื่องจากมีแรงกดดันด้านอื่นๆเขามาแทรก รวมถึงบาปหนักเช่นการฆ่าคน การทำแท้ง ฯลฯ ยิ่งทุกวันนี้วิทยาการด้านจิตวิทยาและการแพทย์เจริญมากขึ้น ชี้ให้เราเห็นว่าพฤติกรรมของคนเรานั้น ฮอร์โมนในร่างกาย ความผิดปรกติของยีนส์มีส่วนอย่างมากที่จะทำให้คนเราเมื่อเติบโตขึ้นมามีพฤติกรรมที่เบี่ยงเบน การตัดสินว่าพฤติกรรมหนึ่งๆเป็นบาปโดยมิได้ตระหนักถึงความผิดปรกติของยีนส์ในร่างกายเลยนั้นก็ไม่ถูกต้อง เช่น คนเมาลืมตัวฆ่าเพื่อนด้วยโทสะ อันนี้ก็เห็นได้ชัด แต่ถ้ากรณีที่เห็นไม่ชัดแต่มีผลจริงเช่น คนที่มีความผิดปรกติทางจิตใจแล้วเขาฆ่าคนอื่น เราจะว่าอย่างไร บาปของเขานั้นเท่ากับบาปของคนที่มีจิตปรกติดีหรือ คนที่ถือว่าคนเราเกิดมาบริบูรณ์เมื่อทำผิดก็ต้องรับผลเต็มที่ แต่คนเราเกิดมาบริบูรณ์จริงหรือ คำว่าสมบูรณ์ของคนเรานั้นสมบูรณ์ขนาดไหน มองจากภายนอกหรือว่าต้องมองจากภายในด้วย นี่คือสิ่งที่ท้าทายเราในทุกวันนี้ในการมองว่าอะไรบาปหรือไม่บาป
ด้วยเหตุผลอะไรพระศาสนจักรถึงบอกว่าการช่วยตัวเองทางเพศเป็นพฤติกรรมที่ผิด?
ด้วยเหตุผลที่พระศาสนจักรถือว่าชีวิตเป็นผลงานที่ล้ำค่าของพระเป็นเจ้าและเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่เรามนุษย์ต้องให้ความเคารพ พฤติกรรมที่ทำให้องค์ประกอบของการกำเนิดชีวิตเสียหายโดยตั้งใจเพียงเพื่อความพึงพอใจของตัวเองเท่านั้นจึงเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง (ฟังแล้วก็เข้าใจยากใช่ไหมครับ เพราะมันเป็นปัญหาที่คล้ายกับการที่เราจะแยกช่วงไหนว่าเป็นสีขาวหรือสีเทาหรือสีดำ มันแยกยากครับ ดังนั้นพฤติกรรมของเราจึงต้องดูที่เจตนาเป็นหลัก แต่เจตนาเองจะถูกครอบงำด้วยแรงกดดันทั้งภายนอกและภายในก็ได้เช่นกัน เช่นนี้แล้ว เจตจำนงของเราก็มีปัญหา และนี่คือปัญหาทางจริยศาสตร์ในปัจจุบันที่กำลังเผชิญอยู่ครับว่าเราจะชี้ชัดได้อย่างไรว่าเจตจำนงอยู่ที่ใด เกิดขึ้นเมื่อได้ มีผลกระทบจากที่ไหน เมื่อไหร่บ้าง) นอกนั้นพระศาสนจักรยังถือว่าการช่วยตัวเองทางเพศขัดต่อคุณธรรมความบริสุทธิ์และบูรณการของธรรมชาติของเพศมนุษย์
พระศาสนจักรไม่ได้เชื่อพระคัมภีร์อีกต่อไปแล้วหรือถึงพูดอะไรเหมือนไม่เคารพพระคัมภีร์เลย? หามิได้ พระศาสนจักรยังเคารพพระคัมภีร์คือเสียงของพระเป็นเจ้าเช่นเดิม แต่ความเข้าใจพระคัมภีร์ก็มีการพัฒนามากขึ้น พระศาสนจักรต้องตีความพระคัมภีร์อย่างรอบคอบ สิ่งที่ต้องระวังมากคือการตีความพระคัมภีร์ตามตัวอักษรโดยมิได้เข้าใจถึงเจตจำนงและสภาพแวดล้อมของผู้เขียนในยุคนั้น ความผิดพลาดนี้พระศาสนจักรเคยทำผิดมาแล้วเมื่อใช้พระคัมภีร์เหมือนหนังสือวิทยาศาสตร์เรื่องโลกเป็นศูนย์กลางของจักรวาล หรือตีความเรื่องการเสด็จมาอีกครั้งของพระคริสตเจ้า ดังที่เกิดปัญหาการฆ่าหมู่ของสาธุคุณ จิมส์โจนที่ กายานาซึ่งทำให้คนตายถึงเก้าร้อยกว่าคน หรือที่เกิดเร็วๆนี้ก่อนปีสองพันที่เกาหลี หรือที่ คานุงกุ ประเทศอูกันดาซึ่งคนตายไม่น้อยกว่าสี่ร้อยคน เพียงเพราะผู้นำหลงผิดในความเข้าใจในพระคัมภีร์ จะเห็นได้ว่าแม้พระคัมภีร์ไบเบิ้ลจะเป็นพื้นฐานทางจริยธรรมของเราก็จริงแต่เราก็ต้องพยายามเข้าใจตัวจริยธรรมนั้นเองด้วยว่าหมายถึงอะไร ลึกซึ้งเพียงใด มีผลกระทบในภาคปฏิบัติอย่างไร สภาพแวดล้อมในคำสอนของพระคัมภีร์ยุคนั้นกับยุคปัจจุบันต่างกันเช่นไร ดังจะเห็นได้จากสิ่งที่คนในอดีตถือว่าบาปเช่นการถูกเกณฑ์เป็นทหารนั้นปัจจุบันก็ไม่ถือว่าเป็นบาปแล้ว(แม้บางลัทธิจะยังถืออยู่เช่น กลุ่มพี่น้องพยานยะโฮวา) บาปการหักดอกเบี้ยซึ่งอดีตถือว่าผิดเพราะเป็นการขูดรีดคนจนที่มากู้และผิดต่อความรัก ในปัจจุบันนี้พระศาสนจักรก็ให้ขึ้นอยู่กับมโนธรรมของเจ้าของเงินเองว่าจะคิดดอกเบี้ยกี่เปอร์เซ็นต์เป็นต้น สรุปคือ พระศาสนจักรยึดถือพระคัมภีร์เป็นรากฐานทางจริยศาสตร์แน่นอนแต่ก็ไม่แนะนำให้คริสตชนตีความพระคัมภีร์ตามใจตัวเองเกินไป การสุดโต่งไม่ว่าจะซ้ายหรือขวานั้นย่อมไม่ใช่ทางไปสู่ความจริงแน่นอน
จากปัญหาดังกล่าวพ่อขอแนะนำในด้านการอภิบาลดังต่อไปนี้
หนึ่ง เมื่อเกิดความรู้สึกอยากช่วยตัวเองทางเพศ ขอให้พยายามต่อสู้และปัดความคิดไปทางอื่น เรียกหาพระองค์ช่วย บอกพระองค์ว่าลูกไม่อยากทำให้พระองค์เสียพระทัย นั่นจะช่วยตั้งมโนธรรมของเราให้อยู่ในทางที่ตรงได้ แม้เราจะทำผิดอีกก็จะช่วยได้ว่าเจตจำนงของเราไม่ได้ต้องการทำบาปแต่มันอาจจะเกิดจากภาวะของฮอร์โมนผลักดันหรือสภาพแวดล้อมผลักดัน
สอง ถ้าทำผิดแล้วมโนธรรมเตือนเรา เราควรจะทำอย่างไร ก็ให้ขอโทษพระองค์ในใจ หรืออาจทำกิจการดีอื่นชดเชย การช่วยตัวเองคงไม่ร้ายแรงถึงเป็นบาปหนัก (แต่ถ้าลุ่มหลงในมันมากเกินไปก็จะนำไปสู่บาปหนักได้เนื่องจากอภัยตัวเองจนเคยตัว) ดังนั้นการชดเชยเช่น การสวดสายประคำ การทำบุญให้ทาน การร่วมมิสซาอย่างดีก็จะช่วยชดเชยความผิดได้
สาม จำเป็นเสมอไปหรือไม่ที่ต้องบอกบาปกับคุณพ่อเวลาช่วยตัวเอง คำตอบคือไม่จำเป็นเสมอไป เนื่องด้วยเหตุผลที่ว่า เครื่องหมายของการกลับใจนั้นทำโดยวิธีอื่นก็ได้ เช่น ร่วมมิสซาอย่างดี สวดเรียกหาพระองค์ให้มากขึ้น ไปสวดตามวัดต่างๆ ดังนี้เป็นต้น แต่ถ้าเป็นบาปหนักอื่นก็จำเป็นต้องแก้บาปกับคุณพ่อครับเพราะพระศาสนจักรสอนว่าบาปหนักนั้นต้องการศีลแก้บาปเป็นเครื่องเยียวยา
หวังว่าคงจะช่วยให้กระจ่างได้บ้างต่อปัญหาข้อนี้นะครับ
+++++++++++++++++++++++++++++++++++
ขอเชิญ พี่เจ้าของกระทู้ ซื้อ ซี วี ดี "บาป ไม่ บาป " ของพ่อ ไพบูลย์ ไปดู ได้ จะเข้าใจ เรื่อง บาป ได้ดีขึ้นฮะ 8)
Re:เพศสัมพันธ์กับความเชื่อในศาสนาคริสต์ ??
โพสต์แล้ว: เสาร์ พ.ย. 26, 2005 11:32 pm
โดย Junior Boy
เอ่อ...ถ้าสมมติว่าเรากระทำการอะไรก็ตาม ที่ไม่แน่ใจหรือไม่รู้ว่าบาปหรือเปล่า นี่จาบาปไหมครับ?
ปล.ผมคิดว่าบาปแบบนี้ถ้ามันเป็นบาปเบาซักวันมันก็ต้องกลายเป็นหนักอยู่ดีเพราะไม่คิดที่จะแก้ตัวหรือไม่พยายาม ประมาณว่า ดินพอกหางหมู อะครับ
Re:เพศสัมพันธ์กับความเชื่อในศาสนาคริสต์ ??
โพสต์แล้ว: อาทิตย์ พ.ย. 27, 2005 12:47 am
โดย Zion
Junior Boy เขียน:
เอ่อ...ถ้าสมมติว่าเรากระทำการอะไรก็ตาม ที่ไม่แน่ใจหรือไม่รู้ว่าบาปหรือเปล่า นี่จาบาปไหมครับ?
ปล.ผมคิดว่าบาปแบบนี้ถ้ามันเป็นบาปเบาซักวันมันก็ต้องกลายเป็นหนักอยู่ดีเพราะไม่คิดที่จะแก้ตัวหรือไม่พยายาม ประมาณว่า ดินพอกหางหมู อะครับ
1.บาป ท่านเปาโลให้คำนิยามว่า
"สิ่งที่รู้ว่าไม่ดี แต่ก็ทำ"
ฉะนั้น อย่างที่น้อง ถาม ถ้าไม่รู้จริงๆ ก็ไม่น่าบาปครับ ::)
2.ถูก ;D
Re:เพศสัมพันธ์กับความเชื่อในศาสนาคริสต์ ??
โพสต์แล้ว: อาทิตย์ พ.ย. 27, 2005 1:26 am
โดย Buddy.
Junior Boy เขียน:
เอ่อ...ถ้าสมมติว่าเรากระทำการอะไรก็ตาม ที่ไม่แน่ใจหรือไม่รู้ว่าบาปหรือเปล่า นี่จาบาปไหมครับ?
ปล.ผมคิดว่าบาปแบบนี้ถ้ามันเป็นบาปเบาซักวันมันก็ต้องกลายเป็นหนักอยู่ดีเพราะไม่คิดที่จะแก้ตัวหรือไม่พยายาม ประมาณว่า ดินพอกหางหมู อะครับ
ไม่แน่ใจก็ไปแก้บาปได้ ไม่ผิดอะไร ถ้าไม่บาป คุณพ่อก็บอกเองแหละค่ะ :) ถือเป็นการแสดงความนบนอบ
Re:เพศสัมพันธ์กับความเชื่อในศาสนาคริสต์ ??
โพสต์แล้ว: อาทิตย์ พ.ย. 27, 2005 11:31 am
โดย Breath
การช่วยตัวเองนี่ภาษาอังกฤษเรียกว่าอะไรหรือคะ
Re:เพศสัมพันธ์กับความเชื่อในศาสนาคริสต์ ??
โพสต์แล้ว: อาทิตย์ พ.ย. 27, 2005 11:59 am
โดย buddy...
Breath เขียน:
การช่วยตัวเองนี่ภาษาอังกฤษเรียกว่าอะไรหรือคะ
masturbation
Re:เพศสัมพันธ์กับความเชื่อในศาสนาคริสต์ ??
โพสต์แล้ว: อาทิตย์ พ.ย. 27, 2005 6:15 pm
โดย Nihil
Jeab Agape เขียน:
Nihil เขียน:
แค่มองหรือคิดด้วยความใคร่ก็บาปแล้วละครับ :D
พี่ลิง (กัง) แก้ บาป เรื่องนี้บ่อยไหมฮะ :-*
อย่ามาแทงใจดำนะ :-X
Re:เพศสัมพันธ์กับความเชื่อในศาสนาคริสต์ ??
โพสต์แล้ว: อาทิตย์ พ.ย. 27, 2005 11:06 pm
โดย Batholomew
Nihil เขียน:
Jeab Agape เขียน:
Nihil เขียน:
แค่มองหรือคิดด้วยความใคร่ก็บาปแล้วละครับ :D
พี่ลิง (กัง) แก้ บาป เรื่องนี้บ่อยไหมฮะ :-*
อย่ามาแทงใจดำนะ :-X
เชื่อปะ ไม่เคยเห็นลิงแก้บาปเลย....(ล้อเล่นนะ)
Re:เพศสัมพันธ์กับความเชื่อในศาสนาคริสต์ ??
โพสต์แล้ว: จันทร์ พ.ย. 28, 2005 12:14 am
โดย Jeab Agape
Nihil เขียน:
Jeab Agape เขียน:
Nihil เขียน:
แค่มองหรือคิดด้วยความใคร่ก็บาปแล้วละครับ :D
พี่ลิง (กัง) แก้ บาป เรื่องนี้บ่อยไหมฮะ :-*
อย่ามาแทงใจดำนะ :-X
อ้าวแค่ล้อเล่น เป็นจริงไปได้ไง ฮะ ??? :-*
Re:เพศสัมพันธ์กับความเชื่อในศาสนาคริสต์ ??
โพสต์แล้ว: อังคาร พ.ย. 29, 2005 3:14 am
โดย Nihil
Batholomew เขียน:
Nihil เขียน:
Jeab Agape เขียน:
พี่ลิง (กัง) แก้ บาป เรื่องนี้บ่อยไหมฮะ :-*
อย่ามาแทงใจดำนะ :-X
เชื่อปะ ไม่เคยเห็นลิงแก้บาปเลย....(ล้อเล่นนะ)
เคยก็แปลกแล้ว เกิดลิง (monkey) เดินเข้าไปแก้บาปคงเป็นข่าวแล้ว หมา แมว อะไรด้วย ::)
Re:เพศสัมพันธ์กับความเชื่อในศาสนาคริสต์ ??
โพสต์แล้ว: อังคาร พ.ย. 29, 2005 4:05 pm
โดย Batholomew
Nihil เขียน:
Batholomew เขียน:
Nihil เขียน:
อย่ามาแทงใจดำนะ :-X
เชื่อปะ ไม่เคยเห็นลิงแก้บาปเลย....(ล้อเล่นนะ)
เคยก็แปลกแล้ว เกิดลิง (monkey) เดินเข้าไปแก้บาปคงเป็นข่าวแล้ว หมา แมว อะไรด้วย ::)
*shock....มุข
Re:เพศสัมพันธ์กับความเชื่อในศาสนาคริสต์ ??
โพสต์แล้ว: ศุกร์ ธ.ค. 02, 2005 8:03 pm
โดย Junior Boy
มีเรื่องมาถามครับ หนังฝรั่งครับบางฉากมันมีฉากเลิฟซีน ผมก็ไม่แปลกใจหรอกที่มันจะมีฉากแบบนี้บ้าง ซึ่งประเทศไทยจะเป็นแบบไม่เปิดเผยแต่หนังฝรั่งทำไมเขาเปิดเผยอะครับ หรือคนที่นั่นเขาเคร่ง(ดูเป็นเรื่องปกติ) หรือเป็นแค่ละคร - หนังจึงไม่บาปครับ
Re:เพศสัมพันธ์กับความเชื่อในศาสนาคริสต์ ??
โพสต์แล้ว: ศุกร์ ธ.ค. 02, 2005 10:26 pm
โดย Zion
เรื่องบันเทิง กับความเชื่อมันคนละเรื่องนะผมว่า :-\
อย่าง วรรณคดีไทย ยอ่างขุนช้างขุนแผน
ขุนแผนมีเมียตั้ง5คน....ใครจะเอาอย่าง :-X
Re:เพศสัมพันธ์กับความเชื่อในศาสนาคริสต์ ??
โพสต์แล้ว: ศุกร์ ธ.ค. 02, 2005 11:24 pm
โดย Prod Pran
Jo-Han เขียน:
เรื่องบันเทิง กับความเชื่อมันคนละเรื่องนะผมว่า :-\
อย่าง วรรณคดีไทย ยอ่างขุนช้างขุนแผน
ขุนแผนมีเมียตั้ง5คน....ใครจะเอาอย่าง :-X
King Solomon มีเป็น พัน นะน้องยศ ;D
Re:เพศสัมพันธ์กับความเชื่อในศาสนาคริสต์ ??
โพสต์แล้ว: ศุกร์ ธ.ค. 02, 2005 11:44 pm
โดย Unlikelihood
King Solomon มีเป็น พัน นะน้องยศ
งั้นผมขอเป็นกองทัพเลยละกานเอาสวยๆคิกๆ :P *sad