Belong to the Truth Jesus Christ

มีบทความอีกมากมายเกี่ยวกับเมื่อถูกยั่วยุให้ทำบาปครับ http://geocities.com/pisonh/NewVision.htm สามารถไปอ่านเพิ่มเติมได้ครับ


เมื่อเผชิญการยั่วยุให้ทำบาป

เมื่อผู้ใดถูกล่อให้หลง อย่าให้ผู้นั้นพูดว่า "พระเจ้าทรงล่อข้าพเจ้าให้หลง " เพราะว่าความชั่วจะมาล่อพระเจ้าให้หลงไม่ได้ พระองค์เองก็ไม่ทรงล่อผู้ใดให้หลงเลย แต่ว่าทุกคนก็ถูกล่อให้หลงเมื่อกิเลสของตัวเองล่อและชักนำให้กระทำตาม ( ยากอบ 1 :13 - 14)
มีคนจำนวนไม่น้อยที่ชอบเล่นกับสิ่งที่ผิดศิลธรรม และหลงในวัตถุนิยม พวกเขาคิดว่าซาตานทำอะไรกับเขาไม่ได้ น่าอนาจ พวกเขากำลังคิดผิดไปเสียแล้ว !

ถ้าเรากำลังคิดเช่นนั้น จงคิดเสียใหม่ได้แล้ว เพราะซาตานฉลาดมาก มันมีเหลี่ยมคูสารพัด เราไม่อาจวางใจมันได้

จงจำไว้ด้วยว่า จริงอยู่พระเจ้ามีพระประสงค์ให้เราอยู่กับพระองค์ในสวรรค์ชั่วนิรันดร์ แต่ซาตานก็ต้องการพรากเราจากพระองค์ชั่วนิรันดร์เช่นกัน

ดังนั้นจงป้องกันจิตใจของคุณเมื่อต้องเผชิญกับการยั่วยุ คุณสามารถเผชิญกับมันอย่างกล้าหาญด้วยความมั่นใจว่าพระเจ้าไม่ได้ประทานจิตที่ขาดกลัว แต่ทรงประทานจิตที่กอปรด้วยการบังคับตนเอง (2ทธ.1:7) ว่าแต่คุณละ ! คุณดึงเอาพลังนี้ที่พระเจ้าให้มาใช้บ้างหรือยัง ? อย่าลืมว่าคุณมีมันอยู่แล้ว มันขึ้นที่ว่าคุณจะเอามันมาใช้หรือไม่เท่านั้นเอง



วิธีต่อสู้


มี 4 สิ่งที่พึงกระทำเมื่อต้องเผชิญกับการยั่วยุให้ทำบาป

ให้รีบสลัดความคิดที่เป็นบาปออกจากความคิด และให้ความคิดจดจ่อที่พระคริสต์ พระคัมภีร์สอนว่า "...น้อมนำความคิดทุกประการให้เข้าอยู่ไต้บังคับจนถึงรับฟังพระคริสต์ "( 2 โครินธ์ 10 :5 ) เราควรมีท่าทีดังนี้ " ของพรรคอย่างงี้ไม่ควรมีอยู่ในความคิดของผม และไม่ควรอยู่ในใจ " ดังนั้นเราควรให้ความคิดที่เป็นลบและเป็นบาปอยู่ไต้การควบคุมของพระคริสต์
ให้พระวจนะของพระเจ้าฝังในชีวิต จนเป็นชีวิตของเรา
จำไว้ด้วยว่าลำพังตัวเราเอง ไม่อาจสู้รบปรบมือกับมันได้ เราควรขอความช่วยเหลือจากพระวิญญาณพระเจ้า
จงตระหนักว่า การรักพระคริสต์เป็นแรงจูงใจไม่ให้เราทำบาป

แน่นอนละ บางครั้งเราย่อมพลาดบ้าง แต่ถ้าเราพลาดไป ให้เราหันกลับมาสู้ต่อไป

Lost Lamb เขียน: ขอเพียงยอมให้พระองค์ทรงนำ มอบใจไว้กับพระองค์เราจะไม่ต้องกลัวอะไร

ใช่ครับ

ขอบคุณที่เอามาให้อ่านครับ ;)

พระเจ้าผู้ทรงอัศจรรย์
มีอีกมากมายหรืออ่านพิ่มเติมได้ที่http://www.geocities.com/alumniccc/testimony/testimony.htmนะครับ :)
เรื่องของคุณคุณณัฐพาณิภัค ติณสูลานนท์
ก่อนรับเชื่อพระเยซูคริสต์ได้เกิดเหตุการณ์ร้ายแรงที่สุดในชีวิตของบุคคลที่ข้าพเจ้ารัก ในวันอาทิตย์ที่ 25 ก.ค. 1999 น้องโน๊ตบุตรชายคนเดียวของข้าพเจ้าประสบอุบัติเหตุรถชน อาการบาดเจ็บสาหัส น้องสาวที่ชื่อฟ้าซึ่งเป็นคริสเตียนได้พาพี่น้องคริสเตียนจากกลุ่มแคร์ของคริสตจักรมหาพรสุขุมวิทมาเยี่ยมเรา และมาร่วมอธิษฐานขอให้พระเจ้าช่วยชีวิตและรักษาน้องโน๊ต โดยเชิญชวนให้ข้าพเจ้าร่วมมีความเชื่อศรัทธาในการอธิษฐานต่อพระเจ้า
ในขณะนั้นน้องโน๊ตกำลังเข้ารับการผ่าตัดที่โรงพยาบาลรัตนาธิเบศร์ อาการของน้องโน๊ตกระดูกโหนกแก้มซ้าย-ขวาหัก จมูกหัก ฟันบนและฟันล่างหักประมาณ 18 ซี่ กระดูกขากรรไกรหัก ริมฝีปากและคางมีบาดแผล กระดูกแขนซ้ายแตก นิ้วชี้มือขวาเกือบขาด และที่อันตรายที่สุดที่มองไม่เห็นคือ ปอดด้านซ้ายฉีกจากแรงกระชากของเข็มขัดนิรภัย
เวลาตี 2 ของคืนวันอังคารที่ 27 ก.ค. 1999 น้องโน๊ตซึ่งพูดไม่ได้ ใส่ท่ออ๊อกซิเจนทางปาก แขนเข้าเฝือกทั้ง 2 ข้าง ใช้นิ้วชี้มือขวาเขียนข้อความขอย้ายโรงพยาบาล ซึ่งในความเป็นจริงไม่สามารถเป็นไปได้เพราะกำลังอยู่ในอาการสาหัส ข้าพเจ้าอธิษฐานขอพระเจ้าในขณะนั้น ปรากฏว่าเกิดการอัศจรรย์ 9.00 น. วันพุธ 28 ก.ย. 1999 โรงพยาบาลเจ้าพระยาติดต่อแจ้งมาว่า 12.00 น. จะมารับน้องโน๊ต ประมาณบ่าย 2 โมงวันนั้น น้องโน๊ตก็ได้ย้ายไปอยู่ ICU ที่โรงพยาบาลเจ้าพระยา ขอบคุณพระเจ้า!
น้องโน๊ตได้รับการผ่าตัดอีกเป็นครั้งที่ 2 ในวันอังคารที่ 3 ส.ค. และครั้งที่ 3 เมื่อวันศุกร์ที่ 20 สิงหาคม 1999 พระเจ้าได้ทรงพระเมตตาให้อาการน้องโน๊ตดีขึ้นอย่างรวดเร็วจนคุณหมอในโรงพยาบาลประหลาดใจ พระเจ้าทรงเมตตารักษาและคุ้มครองชีวิตน้องโน๊ตให้รอดปลอดภัย และออกจากโรพยาบาลได้ในวันที่ 1 กันยายน 1999 ขอบคุณพระเจ้า!
นอกจากนั้นพระเจ้ายังได้ทรงเมตตาให้ข้าพเจ้าได้เห็นนิมิตพบพระเจ้าในความฝันตอนเช้า ขณะข้าพเจ้าอธิษฐานกับพระองค์บนดาดฟ้าโรงพยาบาล ข้าพเจ้าปลื้มปิติมาก ณ โรงพยาบาลเจ้าพระยา ข้าพเจ้าจึงได้ต้อนรับพระเยซูคริสต์เป็นพระผู้ช่วยให้รอด
หลังจากที่รับเชื่อพระเยซูคริสต์แล้ว ข้าพเจ้าเห็นการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นในชีวิตของข้าพเจ้า คือ ข้าพเจ้าพบสันติสุขซึ่งข้าพเจ้าได้แสวงหามานานถึง 45 ปี ข้าพเจ้าไม่กระวนกระวายใจ ไม่โกรธใคร ถ่อมใจ และข้าพเจ้าประหยัดมัธยัสถ์ ข้าพเจ้าเคารพรักพระเจ้าด้วยสิ้นสุดใจ สิ้นสุดกำลัง พระองค์ทรงเป็นแสงสว่าง ทรงประทานสติปัญญาในการทำงาน และทรงนำในทุกสิ่ง ในเวลาเช้าเมื่อข้าพเจ้าขับรถไปทำงาน ข้าพเจ้านมัสการพระเจ้าโดยฟังเทปเพลงของพระเจ้า และข้าพเจ้ามักจะร้องไห้ด้วยความซาบซึ้งในพระคุณของพระเจ้า องค์พระผู้ช่วยให้รอด
พระคำที่ข้าพเจ้าประทับใจที่สุดคือ

ความผิดพลาดที่มีประโยชน์

คำว่า "ผิด" หมายความว่า ไม่ตรงกับความจริงหรือที่กำหนดนิยามไว้ไม่ถูก ต่างไป และแปลกไป คำว่า "พลาด" คือ ไม่ตรงที่หมาย เช่น เพลี่ยงไป เลี่ยงไป หรือไถลไป
"ผิดพลาด" เพราะไม่รู้เท่า หรือเชื่อตัวเองเกินไป ในชีวิตจริงของคุณก็คงจะมีประสบการณ์กับความผิดและพลาดมาไม่น้อย และทุกครั้งที่เราผิดพลาด เราเรียนรู้บทเรียนที่ล้ำค่าสำหรับชีวิตคุณผ่านความผิดพลาดของผู้อื่นแทน ด้วยเหตุนี้คุณจึงเป็นหนี้ ความผิดพลาดของทุกคนที่ช่วยให้เราเรียนรู้บทเรียนแห่งชีวิตโดยที่คุณไม่ต้องเสียเวลา เสียทรัพย์ เสียตัว หรือรวมทั้งเสียชีวิตกับความผิดพลาดในเรื่องเหล่านั้นก่อน



ในหนังสือสุภาษิตได้เตือนไว้ว่า "ในวิถีของความชอบธรรมเป็นชีวิต แต่ทางของความผิดพลาดนำไปถึงความมรณา" ดังนั้นอย่าปล่อยให้ชีวิตของคุณผิดพลาดจนต้องเสียชีวิต เพียงเพื่อเรียนรู้ว่าคุณควรหรือไม่ควรทำอะไร เพราะไม่คุ้ม อย่าให้คุณทำความผิดพลาดเหมือนการเล่นสนุกเพราะผลที่เกิดขึ้นตามมาคือทุกข์ถนัด ให้คุณระมัดระวังตัวของคุณให้ดีเพื่อจะไม่กระทำสิ่งผิดพลาดใด ๆ ด้วยตัวของคุณเองอันเป็นการเปลืองตัวเปล่า ๆ แต่ให้เรียนจากความผิดพลาดของคนอื่นแทน


และในเวลาเดียวกันขอให้คุณเรียนรู้จักแนวทางในการประกอบกิจจากความสำเร็จของผู้อื่นเพื่อเป็นแนวทางการดำเนินชีวิต แล้วคุณจะพบว่าโลกนี้ช่างน่าอยู่เสียเหลือเกิน


โดย อ.ธงชัย ประดับชนานุรัตน์ หรืออ่านได้ที่ http://www.geocities.com/alumniccc/christian/christian.htm

ชื่อเสียงรักษาชีวิต

คนหลายคนกังวลเรื่องชื่อเสียงของตนมากเกินไปจนกระทั่งต้องทำหลายสิ่งที่ไม่สมควร และทำให้ชื่อเสียงของตนเองต้องเสียไปในที่สุด สิ่งที่คนมีชื่อเสียงกลัวมากที่สุดอย่างหนึ่งก็คือ "การแบล็คเมล์" ซึ่งหมายถึง การขู่เข็ญเอาเงิน โดยข่มขู่ว่าจะเปิดเผยความลับหรือพฤติกรรมบางอย่างที่ไม่ด้องการจะให้เปิดเผย

บางครั้งเพราะกลัวเสียชื่อเสียงที่ส่ำสมมา คนที่มีชื่อเสียงก็อาจจะจำใจยอมจ่ายเงินหรือสิ่งแลกเปลี่ยนให้แก่ผู้ขู่เข็ญตามที่เรียกร้องมา แต่ถ้าผู้มีชื่อเสียงดังกล่าวมีอิทธิพลและสมุนมารายล้อมก็อาจจะสั่งการให้กำจัดผู้ขู่เข็ญก็เป็นได้ เมื่อเรื่องราวเกิดขึ้นและความจริงเปิดเผย ผู้มีชื่อเสียงนั้นอาจถูกจับกุม และชื่อเสียงอาจมัวหมองลงจนหมดความน่าเชื่อถือหรือความน่าศรัทธาก็เป็นได้
ดังนั้นอย่าให้เราประพฤติตัวที่ด่างพร้อยหรือมีมลทิน เพราะถ้าเราไม่ได้กระทำสิ่งใดที่น่าละอายเราย่อมไม่มีความลับใดให้ผู้อื่น "แบล็คเมล์"
หากเรามีชีวิตที่ซื่อสัตย์และดีงามก็ไม่ต้องกังวลว่าใครจะนินทาว่าร้ายหรือเป็นพยานเท็จใส่ร้ายเราให้มัวหมอง เพราะจะไม่มีใครเชื่อคำกล่าวหาดังกล่าวนั้น เพราะความจริงคือความจริง ถ้าเราไม่ได้ทำความผิดทำชั่ว พิสูจน์กันกี่ครั้ง ๆ ก็ต้องออกมาว่าเราไม่ได้ทำชั่ว ถ้าตราบใดดวงจันทร์ยังคงส่องแสงอยู่ ไม่ว่าสุนัขจะเห่าดวงจันทร์นั้นอย่างไร ดวงจันทร์ก็ยังคงเป็นดวงจันทร์อยู่ตลอดไป ดังนั้นจงรักษาชีวิตและความประพฤติของคุณไว้ให้ดี แล้วชื่อเสียงที่ดีของคุณจะปกป้องคุ้มครองชีวิตของคุณ
2000 ปีก่อน ท่านเปโตรผู้ยิ่งใหญ่ได้กล่าวอมตะวาจาไว้ว่า "จงรักษาความประพฤติอันดีของท่านไว้ เพื่อว่าเมือมีคนติเตียนท่านว่าประพฤติชั่ว เขาจะได้เห็นการดีของท่าน" วันนี้อย่าท้อใจ
ถ้ามีใครใส่ร้ายท่านหรือกล่าวเท็จเกี่ยวกับตัวท่าน ขอให้รักษาความประพฤติอันดีไว้เป็นเกราะป้องกันชีวิตจะดีกว่า เห็นด้วยไหมครับ ?
โดย อ.ธงชัย ประดับชนานุรัตน์ http://www.geocities.com/alumniccc/christian/christian.htm

ไม่เป็นไรครับ :D

ท่านเปโตรผู้ยิ่งใหญ่ได้กล่าวอมตะวาจาไว้ว่า "จงรักษาความประพฤติอันดีของท่านไว้ เพื่อว่าเมือมีคนติเตียนท่านว่าประพฤติชั่ว เขาจะได้เห็นการดีของท่าน" วันนี้อย่าท้อใจ
ชอบตอนนี้มาก :D

เป็นข้อคิดที่ดีและสามารถนำไปใช้จริงได้ด้วย ดีจริงๆครับ ;)

I think that too :D

พระเจ้าทรงทำให้ข้าพเจ้าอดกลั้นได้ถึงที่สุด 

ช่วงนี้เราเองก็ถูกบาปล่อลวงและลากไปให้คิดเลวทำไม่ดีบ่อย ๆเหมือนกัน

ขอพระองค์ช่วยเหลือด้วย 

พระเยซูเจ้าและพระแม่มารีย์ทรงเป็น i dol ของความสุภาพถ่อมตน