ความฝัน ที่พระองค์ทรงมอบให้แก่ข้าพเจ้า
โพสต์แล้ว: พุธ ม.ค. 04, 2006 8:10 am
ความฝัน
ที่พระองค์ทรงมอบให้แก่ข้าพเจ้า
คืนวันพุธ เช้าพฤหัสบดี ในเดือน ก.พ. 2003
ข้าพเจ้าฝันเห็น พระสังฆราชเทียนชัย สมานจิต กำลังเทศในวันฉลองวัดพระหฤทัยศรีราชา ข้าพเจ้ามาไม่ทันมิสซา เลยยืน อยู่ที่ส่วนปีกของโบสถ์ ในขณะที่คนอื่นๆ เขากำลังนั่งฟังเทศน์อยู่ แต่ที่แปลก มีโต๊ะด้วย ทุกคนกำลังนั่งทานเลี้ยงกันอยู่ สังฆราชก็เทศน์ได้สักพักแล้วก็หันมาเห็นข้าพเจ้า ยืนอยู่
และแล้วมิสซาก็เสร็จสิ้น พระคุณเจ้าได้ประกาศให้พระสงฆ์ที่บวชใหม่ ในโอกาสฉลองวัด เข้ามารับของที่ระลึก พระสงฆ์ใหม่นั้น ได้ของที่ระลึกจากพระสังฆราช เป็นกล่องของขวัญขนาดใหญ่สะพายอยู่ด้านหลังของพระสงฆ์แต่ละคน (คล้ายเป้) ข้าพเจ้าดีใจมากที่เห็นดังนั้น
ข้าพเจ้ากับเพื่อนได้เดินกันไปที่ปีกของโบสถ์อีกด้านหนึ่ง มองมาที่กลุ่มนักขับ ที่ตอนนี้ไม่มีนักขับเหลืออยู่แล้ว ข้าพเจ้ารู้สึกเสียดายที่ไม่มีโอกาสได้เล่นในงานฉลองวัดนี้ และข้าพเจ้าก็เห็นคนกลุ่มหนึ่งกำลังเตรียมแสดงละคร เป็นเยาวชนของวัดนี้เอง มีคนหนึ่งในพวกนั้น ใส่ชุดเหมือนพระเยซูเจ้า (พระหฤทัยพระเยซูเจ้า) เดินออกมาจากบ้านพักพระสังฆราช ข้าพเจ้าถามเพื่อนว่าใช่พระเยซูหรือเปล่า เพื่อนบอกว่า ไม่ใช่
และแล้วข้าพเจ้าก็เดินเข้าไปบนพระท่าน ที่ๆ มีรูปพระเยซูเจ้า (พระหฤทัย) ตั้งอยู่ ข้าพเจ้าไม่เห็นพระรูป นึกว่า มีคนอัญเชิญพระรูปไปตั้งในงานแสดงด้วย แต่ข้าพเจ้ากลับเห็นพระรูปพระหฤทัยพระเยซูเจ้าในโบสถ์ พระหฤทัย ศรีราชา ล้มหน้า ลงจากที่ตั้งพระรูป ข้าพเจ้าเข้าไปผลิกพระรูปหวังจะอุ้มแล้วมาตั้งไว้ที่เดิม พระรูปนั้นกลับมีชีวิตขึ้นมา มือของพระรูปนั้นได้โอบกอดข้าพเจ้าไว้ แล้วก็มีเสียงออกมาจากพระรูปนั้นว่า "ลูก ลูกเป็นคนมีน้ำใจมากนะ ลูกเป็นคนดีมาก" ข้าพเจ้าตอบเสียงนั้นไป ซึ่งข้าพเจ้ารู้แน่ชัดว่าเป็นเสียงของพระเยซูเจ้า จิตข้าพเจ้ารับรู้ได้ทันที จิตข้าพเจ้าจากทุกส่วนของร่างกายวิ่งมารวมกันอยู่ตรงหน้าพระพักตร์พระองค์ แล้วทูนตอบพระองค์ว่า "ลูกไม่ได้เป็นคนดีอะไรเลย ลูกเป็นคนบาป และสิ่งที่ลูกทำก็ยังไม่เหมาะสมต่อพระองค์ พระเจ้าข้า" พระองค์ตรัสตอบว่า "ลูกเป็นคนมีน้ำใจ ลูกเป็นคนดีนะ ถึงเวลาแล้วนะ ลูกอยากจะประกาศอะไรก็ประกาศเถิด" และแล้วพระเยซูเจ้านั้น ก็กลายเป็นพระรูปดังเดิม (ในฝันนั้นข้าพเจ้าจำได้ว่า ไปกับเพื่อนของข้าพเจ้าคนหนึ่ง ไม่ทราบว่าเป็นใคร)
ไม่ทราบวันที่
ฝันเห็นพระศาสนจักรที่ยังเหลืออยู่
ข้าพเจ้าฝันเห็นพระศาสนจักรที่ยังเหลืออยู่ คือทวีปยุโรป และเอเซีย ในยุโรปมีรูปพระเยซูเจ้าและพระสันตะปาปาเป็นผู้ครองทวีปอยู่ ส่วนในแถบเอเซีย มีองค์พระพุทธเจ้าประจำอยู่
18 ธ.ค. 2005
ฝันเกี่ยวกับพระภิกษุสงฆ์ 3 รูป
ข้าพเจ้าฝันว่า หลังจากที่ข้าพเจ้าเตรียมเครื่องดนตรีเสร็จ ข้าพเจ้าก็ออกจากโบสถ์ (โบสถ์บ้านเณรเล็กพระมหาไถ่ ศรีราชา) มานั่งคุยกับน้องเณร ข้าพเจ้าเห็นพระภิกษุสงฆ์ เดินมาจากทางสนามฟุตบอลของบ้านเณร และเข้าไปทำพิธีมิสซาในโบสถ์ และข้าพเจ้าก็รู้ตัวว่า ข้าพเจ้าลืมเล่นดนตรี ก็เร่งรีบกลับไปเล่นดนตรี ในขณะที่เล่นเพลงอยู่นั้น พระภิกษุ 1 ใน 3 นั้นก็กล่าวว่า "ขอโทษด้วยนะ ที่อาตมาทำมิสซาไม่ค่อยเป็น" และเราก็ร่วมมิสซากันจนจบ แล้วพระภิกษุสงฆ์ ก็เดินกลับไปทางเดิม
วันเดียวกัน (ไม่ใช่ความฝัน)
ข้าพเจ้าลุกขึ้นมาสวดสายประคำ ในขณะที่สวด 3 เม็ดแรกเสร็จ แล้วกำลังรำพึง เพื่อวอนขอสิ่งจำเป็นจากพระเจ้า ข้าพเจ้าก็เผลอหลับไปครู่หนึ่ง ได้ยินเสียงดังสวนขึ้นมาทันที่ว่า "ไม่ต้องมายุ่งกับเรื่องนี้ได้ไหม ไม่เห็นจะเกี่ยวข้องอะไรกับแกเลย" ข้าพเจ้าไม่เคยได้ยินเสียงนี้มาจากที่ใดมาก่อนเลย และรู้ว่าเสียงเหล่านี้เป็นเสียงปีศาจแน่นอน เพราะความดุร้ายของมัน ทำให้เรารับรู้ได้
21 ธ.ค. 2005
บทเพลงของพระเจ้า
ข้าพเจ้าได้ฝันเห็นกลุ่มผู้ศรัทธา ในกลุ่มนั้นมีข้าพเจ้านั่งอยู่ด้วย พวกเขากำลังนั่งเล่นกีตาร์อยู่ บทเพลงที่เขากำลังร้องนั้น เป็นบทเพลง "รอยเท้าบนผืนทราย" แต่เนื้อเพลงในนั้นถูกเปลี่ยนไปเกือบทั้งหมด เป็นเนื้อเพลงที่ไพเราะมาก เสียดายที่ข้าพเจ้าไม่สามารถจดจำได้ทั้งหมด
แล้วข้าพเจ้าก็ได้ยินเสียงพระเยซูเจ้าตรัสออกมาว่า "เราปรารถนาให้เจ้านำบทเพลงนี้ไปร้องในช่วงอัลเลลูยา"
30 ธ.ค. 2005
ฝันเกี่ยวกับการชะล้าง
ข้าพเจ้าฝันว่าฝนกำลังจะตกที่บ้านข้าพเจ้า ข้าพเจ้ากังวลว่า ผ้าที่ตากไว้จะเปียกและล่วงลงพื้น ข้าพเจ้าได้ยินแม่บอกให้ไปเก็บอย่างเร็ว ข้าพเจ้าเห็นเสื้อผ้าหลายตัว ไปตากอยู่บนต้นไม้ใกล้บ้านซึ่งยากนักที่จะเก็บ ข้าพเจ้าร้องให้คนช่วยเก็บผ้า คนเหล่านั้น ก็มาช่วยเก็บผ้าด้วย แต่ไม่ใช่เก็บผ้าอย่างเดียว คนเหล่านั้น เก็บทั้งผ้า และแม้กระทั่งบ้านของข้าพเจ้าไปหมดสิ้น พื้นดินใต้ผืนบ้านข้าพเจ้า เป็นทราย (คล้ายทรายริมทะเล) และพื้นที่รอบๆ เป็นต้นไม้กอเล็ก กอใหญ่ขึ้นอยู่เรียงกัน ข้าพเจ้ามองไปดูรอบๆ ธารต่างๆ ที่เคย ไหลอยู่ กลับแห้งสนิท บ้านของญาติข้าพเจ้าก็กลายเป็นดุจเดียวกัน และพวกเขากำลังซ่อมแซมที่อยู่กันอยู่ ส่วนข้าพเจ้าก็เปรยออกมาว่า "อะไรจะเขียวชะอุ่ม ชุ่มชื้นจริงหนอ"
31 ธ.ค. 2005
คืนนี้เป็นคือนับถอยหลังเตียมตัวอำลาปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ จิตใจข้าพเจ้าพบกับการผจญล่อลวงมากมาย ข้าพเจ้ารู้สึกน้อยใจเป็นอย่างยิ่ง ก่อนนอนข้าพเจ้าจึงหยิบรูปพระเยซูเจ้าที่ถ่ายไว้จากหน้าปกหนังสือ ชีวิตแท้ในพระเจ้า มาดูแล้วกล่าวว่า "ลูกรู้สึกได้รับการผจญอย่างมากพระเจ้าข้า โปรดให้ข้าพเจ้ามีกำลังใจเถิด อย่างน้อยก็ขอให้ข้าพเจ้าได้เห็นพระพักตร์พระองค์สักครา ข้าพเจ้าอ่อนแรง ไม่สามารถที่จะอ่านหนังสือของพระองค์ต่อไปได้ ขอให้ข้าพเจ้าได้พักผ่อนก่อน แล้วโปรดตรัสเรียกในเวลาที่พระองค์ปรารถนาเถิด"
ข้าพเจ้าฝันเห็นพระพักตร์พระเยซูเจ้าในลักษณะ ที่ไม่เคยเห็นในรูปใดมาก่อน ลอย จากทางซ้าย (ตาซ้าย) และเคลื่อนมาทางขวา และก็หายไป พระพักตร์พระองค์เป็นพระพักตร์ในช่วงวัยรุ่น ก่อนที่จะประกาศพระศาสนา
1 ม.ค. 2006
ฝันเห็นตนเองยืนอยู่ในหอประชุมใหญ่
พระเยซูเจ้า เป็นประธานในหอประชุมนั้น หอประชุมนั้นโล่งไม่มีผู้ใด นอกจาก พระแม่มารีย์ ยืนอยู่เคียงข้าง พระองค์ อ่านสาส์น ประกาศว่า "เราไม่ต้องการให้สัตบุรุษ ฆาราวาส มาก้าวก่ายงานของสงฆ์ และนักบวช"
ทันใดนั้น ฉันก็ทูนพระองค์ว่า "ข้าพเจ้าเคยได้เห็นนิมิตเหล่านี้มาครั้งหนึ่งแล้ว กล่าวคือ ข้าพเจ้าเป็นนักเรียน ที่อยู่ในกลุ่มของคนอื่นๆ (คล้ายๆ หอประชุมโรงเรียน) ในหอประชุมที่เดียวกัน มีการประกาศให้แยกเป็นกลุ่มๆ ห้ามปะปนกัน แต่ตัวข้าพเจ้ายังคงอยู่ในกลุ่มของพระสงฆ์ ข้าพเจ้าเป็นกังวล พยายามหาเสื้อผ้าที่เหมือนพระสงฆ์มาใส่ แต่หาไม่ได้ พระเจ้าข้า" ข้าแต่พระองค์ พระองค์ต้องการที่จะแยกเป็นกลุ่มๆ เพื่อที่พระองค์จะสามารถอวยพรเป็นกลุ่มได้ใช่ไหมพระเจ้าข้า พระองค์ตอบว่า "ใช่"
2 ม.ค. 2006
ฝันเห็นห้องเช่าที่ร้างอยู่
ข้าพเจ้าฝันเห็นห้องเช่าที่แม่ข้าพเจ้าเป็นเจ้าของอยู่ มีผู้คนย้ายออกไปหลายห้องแล้ว ปรากฏเป็นห้องว่างรกร้าง ข้าพเจ้าจึงเข้าไปดูห้องเหล่านั้น ข้าพเจ้าได้พบกับกลิ่นไอของเจ้าที่ และผีประเภทต่างๆ ในที่นั้น ข้าพเจ้าตุกเข่าวิงวอนขอต่อพระเจ้าให้ทำอะไรสักประการกับวิญญาณเหล่านี้ และแล้วข้าพเจ้าก็ได้เห็นรูป "พระเมตตา" ลอยอยู่บนฟ้า (เหมือนในหน้าปกหนังสือพระเมตตา)
3 ม.ค. 2006
ฝันเห็น น้าจรัส เทียนทอง
น้าได้ยืนเตือนข้าพเจ้า ในฝันว่า ไม่ต้องนำเรื่องของพระเจ้า ไปประกาศ กับกลุ่มชนชาวอิสลาม และชาวพุทธคนอื่นเด็ดขาด เพราะกลุ่มคนเหล่านั้นมีผู้ประกาศให้พวกเขารับรู้แล้ว
ฝันเห็น บราเดอร์ จิตตพล ปลั่งกลาง
บราเดอร์ได้ชวนให้เราเข้าไปเรียนหนังสือในห้องเรียนห้องหนึ่ง ซึ่งในนั้นมีฝรั่งสอนหนังสืออยู่ วิชาที่เรียนคือการฟังเพลงในแนวต่างๆ ในขณะที่เริ่มจะฟังดนตรีนั้น พื้นกระเบื้องด้านหน้าข้าพเจ้าและบราเดอร์นั้น ก็กลายเป็นหนังสือ อฐิษฐาน ภาวนา (หนังสือ ชุด อธิษฐานของ คณะพระมหาไถ่ ฉบับเทศกาลคริสตสมภพ)
ฝันเห็น คุณจินตหรา สุขพัฒน์
คุณจินตหราได้อยู่ในรายการทอล์กโชว์ ของคุณสัญญา คุณากรณ์ พิธีกรได้สัมภาษณ์เธอเกี่ยวกับการนับถือศาสนา เธอพูดว่า เธอเป็นคริสต์ ดังนั้น ถ้าถามว่า เธอนับถือศาสนาหรือไม่ เธอตอบว่า เธอนับถือศาสนาอยู่ คือ เธอเป็นคนมีศาสนาคริสต์
แต่ถ้าถามเธอว่า เธอมีศาสนาพุทธไหม? เธอก็ตอบว่า ฉันเป็นคนไม่มีศาสนา (ไม่มีศาสนาพุทธ) เช่นกัน ฉันก็ไม่มีศาสนาอิสลาม
เพราะฉะนั้น (จินตหรา พูดต่อ) ถ้าไปถามคนพุทธ ว่ามีศาสนาคริสต์ไหม เขาก็จะตอบว่า ฉันเป็นคนมีศาสนาพุทธ แต่ฉันเป็นคนไม่มีศาสนาคริสต์ เช่นกัน หากไปถามพวกอิสลาม พวกเขาก็จะตอบว่า เขามีศาสนาอิสลาม แต่เขาเป็นคนไม่มีศาสนาอื่นใดเลย...
ที่พระองค์ทรงมอบให้แก่ข้าพเจ้า
คืนวันพุธ เช้าพฤหัสบดี ในเดือน ก.พ. 2003
ข้าพเจ้าฝันเห็น พระสังฆราชเทียนชัย สมานจิต กำลังเทศในวันฉลองวัดพระหฤทัยศรีราชา ข้าพเจ้ามาไม่ทันมิสซา เลยยืน อยู่ที่ส่วนปีกของโบสถ์ ในขณะที่คนอื่นๆ เขากำลังนั่งฟังเทศน์อยู่ แต่ที่แปลก มีโต๊ะด้วย ทุกคนกำลังนั่งทานเลี้ยงกันอยู่ สังฆราชก็เทศน์ได้สักพักแล้วก็หันมาเห็นข้าพเจ้า ยืนอยู่
และแล้วมิสซาก็เสร็จสิ้น พระคุณเจ้าได้ประกาศให้พระสงฆ์ที่บวชใหม่ ในโอกาสฉลองวัด เข้ามารับของที่ระลึก พระสงฆ์ใหม่นั้น ได้ของที่ระลึกจากพระสังฆราช เป็นกล่องของขวัญขนาดใหญ่สะพายอยู่ด้านหลังของพระสงฆ์แต่ละคน (คล้ายเป้) ข้าพเจ้าดีใจมากที่เห็นดังนั้น
ข้าพเจ้ากับเพื่อนได้เดินกันไปที่ปีกของโบสถ์อีกด้านหนึ่ง มองมาที่กลุ่มนักขับ ที่ตอนนี้ไม่มีนักขับเหลืออยู่แล้ว ข้าพเจ้ารู้สึกเสียดายที่ไม่มีโอกาสได้เล่นในงานฉลองวัดนี้ และข้าพเจ้าก็เห็นคนกลุ่มหนึ่งกำลังเตรียมแสดงละคร เป็นเยาวชนของวัดนี้เอง มีคนหนึ่งในพวกนั้น ใส่ชุดเหมือนพระเยซูเจ้า (พระหฤทัยพระเยซูเจ้า) เดินออกมาจากบ้านพักพระสังฆราช ข้าพเจ้าถามเพื่อนว่าใช่พระเยซูหรือเปล่า เพื่อนบอกว่า ไม่ใช่
และแล้วข้าพเจ้าก็เดินเข้าไปบนพระท่าน ที่ๆ มีรูปพระเยซูเจ้า (พระหฤทัย) ตั้งอยู่ ข้าพเจ้าไม่เห็นพระรูป นึกว่า มีคนอัญเชิญพระรูปไปตั้งในงานแสดงด้วย แต่ข้าพเจ้ากลับเห็นพระรูปพระหฤทัยพระเยซูเจ้าในโบสถ์ พระหฤทัย ศรีราชา ล้มหน้า ลงจากที่ตั้งพระรูป ข้าพเจ้าเข้าไปผลิกพระรูปหวังจะอุ้มแล้วมาตั้งไว้ที่เดิม พระรูปนั้นกลับมีชีวิตขึ้นมา มือของพระรูปนั้นได้โอบกอดข้าพเจ้าไว้ แล้วก็มีเสียงออกมาจากพระรูปนั้นว่า "ลูก ลูกเป็นคนมีน้ำใจมากนะ ลูกเป็นคนดีมาก" ข้าพเจ้าตอบเสียงนั้นไป ซึ่งข้าพเจ้ารู้แน่ชัดว่าเป็นเสียงของพระเยซูเจ้า จิตข้าพเจ้ารับรู้ได้ทันที จิตข้าพเจ้าจากทุกส่วนของร่างกายวิ่งมารวมกันอยู่ตรงหน้าพระพักตร์พระองค์ แล้วทูนตอบพระองค์ว่า "ลูกไม่ได้เป็นคนดีอะไรเลย ลูกเป็นคนบาป และสิ่งที่ลูกทำก็ยังไม่เหมาะสมต่อพระองค์ พระเจ้าข้า" พระองค์ตรัสตอบว่า "ลูกเป็นคนมีน้ำใจ ลูกเป็นคนดีนะ ถึงเวลาแล้วนะ ลูกอยากจะประกาศอะไรก็ประกาศเถิด" และแล้วพระเยซูเจ้านั้น ก็กลายเป็นพระรูปดังเดิม (ในฝันนั้นข้าพเจ้าจำได้ว่า ไปกับเพื่อนของข้าพเจ้าคนหนึ่ง ไม่ทราบว่าเป็นใคร)
ไม่ทราบวันที่
ฝันเห็นพระศาสนจักรที่ยังเหลืออยู่
ข้าพเจ้าฝันเห็นพระศาสนจักรที่ยังเหลืออยู่ คือทวีปยุโรป และเอเซีย ในยุโรปมีรูปพระเยซูเจ้าและพระสันตะปาปาเป็นผู้ครองทวีปอยู่ ส่วนในแถบเอเซีย มีองค์พระพุทธเจ้าประจำอยู่
18 ธ.ค. 2005
ฝันเกี่ยวกับพระภิกษุสงฆ์ 3 รูป
ข้าพเจ้าฝันว่า หลังจากที่ข้าพเจ้าเตรียมเครื่องดนตรีเสร็จ ข้าพเจ้าก็ออกจากโบสถ์ (โบสถ์บ้านเณรเล็กพระมหาไถ่ ศรีราชา) มานั่งคุยกับน้องเณร ข้าพเจ้าเห็นพระภิกษุสงฆ์ เดินมาจากทางสนามฟุตบอลของบ้านเณร และเข้าไปทำพิธีมิสซาในโบสถ์ และข้าพเจ้าก็รู้ตัวว่า ข้าพเจ้าลืมเล่นดนตรี ก็เร่งรีบกลับไปเล่นดนตรี ในขณะที่เล่นเพลงอยู่นั้น พระภิกษุ 1 ใน 3 นั้นก็กล่าวว่า "ขอโทษด้วยนะ ที่อาตมาทำมิสซาไม่ค่อยเป็น" และเราก็ร่วมมิสซากันจนจบ แล้วพระภิกษุสงฆ์ ก็เดินกลับไปทางเดิม
วันเดียวกัน (ไม่ใช่ความฝัน)
ข้าพเจ้าลุกขึ้นมาสวดสายประคำ ในขณะที่สวด 3 เม็ดแรกเสร็จ แล้วกำลังรำพึง เพื่อวอนขอสิ่งจำเป็นจากพระเจ้า ข้าพเจ้าก็เผลอหลับไปครู่หนึ่ง ได้ยินเสียงดังสวนขึ้นมาทันที่ว่า "ไม่ต้องมายุ่งกับเรื่องนี้ได้ไหม ไม่เห็นจะเกี่ยวข้องอะไรกับแกเลย" ข้าพเจ้าไม่เคยได้ยินเสียงนี้มาจากที่ใดมาก่อนเลย และรู้ว่าเสียงเหล่านี้เป็นเสียงปีศาจแน่นอน เพราะความดุร้ายของมัน ทำให้เรารับรู้ได้
21 ธ.ค. 2005
บทเพลงของพระเจ้า
ข้าพเจ้าได้ฝันเห็นกลุ่มผู้ศรัทธา ในกลุ่มนั้นมีข้าพเจ้านั่งอยู่ด้วย พวกเขากำลังนั่งเล่นกีตาร์อยู่ บทเพลงที่เขากำลังร้องนั้น เป็นบทเพลง "รอยเท้าบนผืนทราย" แต่เนื้อเพลงในนั้นถูกเปลี่ยนไปเกือบทั้งหมด เป็นเนื้อเพลงที่ไพเราะมาก เสียดายที่ข้าพเจ้าไม่สามารถจดจำได้ทั้งหมด
แล้วข้าพเจ้าก็ได้ยินเสียงพระเยซูเจ้าตรัสออกมาว่า "เราปรารถนาให้เจ้านำบทเพลงนี้ไปร้องในช่วงอัลเลลูยา"
30 ธ.ค. 2005
ฝันเกี่ยวกับการชะล้าง
ข้าพเจ้าฝันว่าฝนกำลังจะตกที่บ้านข้าพเจ้า ข้าพเจ้ากังวลว่า ผ้าที่ตากไว้จะเปียกและล่วงลงพื้น ข้าพเจ้าได้ยินแม่บอกให้ไปเก็บอย่างเร็ว ข้าพเจ้าเห็นเสื้อผ้าหลายตัว ไปตากอยู่บนต้นไม้ใกล้บ้านซึ่งยากนักที่จะเก็บ ข้าพเจ้าร้องให้คนช่วยเก็บผ้า คนเหล่านั้น ก็มาช่วยเก็บผ้าด้วย แต่ไม่ใช่เก็บผ้าอย่างเดียว คนเหล่านั้น เก็บทั้งผ้า และแม้กระทั่งบ้านของข้าพเจ้าไปหมดสิ้น พื้นดินใต้ผืนบ้านข้าพเจ้า เป็นทราย (คล้ายทรายริมทะเล) และพื้นที่รอบๆ เป็นต้นไม้กอเล็ก กอใหญ่ขึ้นอยู่เรียงกัน ข้าพเจ้ามองไปดูรอบๆ ธารต่างๆ ที่เคย ไหลอยู่ กลับแห้งสนิท บ้านของญาติข้าพเจ้าก็กลายเป็นดุจเดียวกัน และพวกเขากำลังซ่อมแซมที่อยู่กันอยู่ ส่วนข้าพเจ้าก็เปรยออกมาว่า "อะไรจะเขียวชะอุ่ม ชุ่มชื้นจริงหนอ"
31 ธ.ค. 2005
คืนนี้เป็นคือนับถอยหลังเตียมตัวอำลาปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ จิตใจข้าพเจ้าพบกับการผจญล่อลวงมากมาย ข้าพเจ้ารู้สึกน้อยใจเป็นอย่างยิ่ง ก่อนนอนข้าพเจ้าจึงหยิบรูปพระเยซูเจ้าที่ถ่ายไว้จากหน้าปกหนังสือ ชีวิตแท้ในพระเจ้า มาดูแล้วกล่าวว่า "ลูกรู้สึกได้รับการผจญอย่างมากพระเจ้าข้า โปรดให้ข้าพเจ้ามีกำลังใจเถิด อย่างน้อยก็ขอให้ข้าพเจ้าได้เห็นพระพักตร์พระองค์สักครา ข้าพเจ้าอ่อนแรง ไม่สามารถที่จะอ่านหนังสือของพระองค์ต่อไปได้ ขอให้ข้าพเจ้าได้พักผ่อนก่อน แล้วโปรดตรัสเรียกในเวลาที่พระองค์ปรารถนาเถิด"
ข้าพเจ้าฝันเห็นพระพักตร์พระเยซูเจ้าในลักษณะ ที่ไม่เคยเห็นในรูปใดมาก่อน ลอย จากทางซ้าย (ตาซ้าย) และเคลื่อนมาทางขวา และก็หายไป พระพักตร์พระองค์เป็นพระพักตร์ในช่วงวัยรุ่น ก่อนที่จะประกาศพระศาสนา
1 ม.ค. 2006
ฝันเห็นตนเองยืนอยู่ในหอประชุมใหญ่
พระเยซูเจ้า เป็นประธานในหอประชุมนั้น หอประชุมนั้นโล่งไม่มีผู้ใด นอกจาก พระแม่มารีย์ ยืนอยู่เคียงข้าง พระองค์ อ่านสาส์น ประกาศว่า "เราไม่ต้องการให้สัตบุรุษ ฆาราวาส มาก้าวก่ายงานของสงฆ์ และนักบวช"
ทันใดนั้น ฉันก็ทูนพระองค์ว่า "ข้าพเจ้าเคยได้เห็นนิมิตเหล่านี้มาครั้งหนึ่งแล้ว กล่าวคือ ข้าพเจ้าเป็นนักเรียน ที่อยู่ในกลุ่มของคนอื่นๆ (คล้ายๆ หอประชุมโรงเรียน) ในหอประชุมที่เดียวกัน มีการประกาศให้แยกเป็นกลุ่มๆ ห้ามปะปนกัน แต่ตัวข้าพเจ้ายังคงอยู่ในกลุ่มของพระสงฆ์ ข้าพเจ้าเป็นกังวล พยายามหาเสื้อผ้าที่เหมือนพระสงฆ์มาใส่ แต่หาไม่ได้ พระเจ้าข้า" ข้าแต่พระองค์ พระองค์ต้องการที่จะแยกเป็นกลุ่มๆ เพื่อที่พระองค์จะสามารถอวยพรเป็นกลุ่มได้ใช่ไหมพระเจ้าข้า พระองค์ตอบว่า "ใช่"
2 ม.ค. 2006
ฝันเห็นห้องเช่าที่ร้างอยู่
ข้าพเจ้าฝันเห็นห้องเช่าที่แม่ข้าพเจ้าเป็นเจ้าของอยู่ มีผู้คนย้ายออกไปหลายห้องแล้ว ปรากฏเป็นห้องว่างรกร้าง ข้าพเจ้าจึงเข้าไปดูห้องเหล่านั้น ข้าพเจ้าได้พบกับกลิ่นไอของเจ้าที่ และผีประเภทต่างๆ ในที่นั้น ข้าพเจ้าตุกเข่าวิงวอนขอต่อพระเจ้าให้ทำอะไรสักประการกับวิญญาณเหล่านี้ และแล้วข้าพเจ้าก็ได้เห็นรูป "พระเมตตา" ลอยอยู่บนฟ้า (เหมือนในหน้าปกหนังสือพระเมตตา)
3 ม.ค. 2006
ฝันเห็น น้าจรัส เทียนทอง
น้าได้ยืนเตือนข้าพเจ้า ในฝันว่า ไม่ต้องนำเรื่องของพระเจ้า ไปประกาศ กับกลุ่มชนชาวอิสลาม และชาวพุทธคนอื่นเด็ดขาด เพราะกลุ่มคนเหล่านั้นมีผู้ประกาศให้พวกเขารับรู้แล้ว
ฝันเห็น บราเดอร์ จิตตพล ปลั่งกลาง
บราเดอร์ได้ชวนให้เราเข้าไปเรียนหนังสือในห้องเรียนห้องหนึ่ง ซึ่งในนั้นมีฝรั่งสอนหนังสืออยู่ วิชาที่เรียนคือการฟังเพลงในแนวต่างๆ ในขณะที่เริ่มจะฟังดนตรีนั้น พื้นกระเบื้องด้านหน้าข้าพเจ้าและบราเดอร์นั้น ก็กลายเป็นหนังสือ อฐิษฐาน ภาวนา (หนังสือ ชุด อธิษฐานของ คณะพระมหาไถ่ ฉบับเทศกาลคริสตสมภพ)
ฝันเห็น คุณจินตหรา สุขพัฒน์
คุณจินตหราได้อยู่ในรายการทอล์กโชว์ ของคุณสัญญา คุณากรณ์ พิธีกรได้สัมภาษณ์เธอเกี่ยวกับการนับถือศาสนา เธอพูดว่า เธอเป็นคริสต์ ดังนั้น ถ้าถามว่า เธอนับถือศาสนาหรือไม่ เธอตอบว่า เธอนับถือศาสนาอยู่ คือ เธอเป็นคนมีศาสนาคริสต์
แต่ถ้าถามเธอว่า เธอมีศาสนาพุทธไหม? เธอก็ตอบว่า ฉันเป็นคนไม่มีศาสนา (ไม่มีศาสนาพุทธ) เช่นกัน ฉันก็ไม่มีศาสนาอิสลาม
เพราะฉะนั้น (จินตหรา พูดต่อ) ถ้าไปถามคนพุทธ ว่ามีศาสนาคริสต์ไหม เขาก็จะตอบว่า ฉันเป็นคนมีศาสนาพุทธ แต่ฉันเป็นคนไม่มีศาสนาคริสต์ เช่นกัน หากไปถามพวกอิสลาม พวกเขาก็จะตอบว่า เขามีศาสนาอิสลาม แต่เขาเป็นคนไม่มีศาสนาอื่นใดเลย...