แบ่งๆกันอ่าน
โพสต์แล้ว: จันทร์ ม.ค. 30, 2006 1:45 pm
การไม่เอาคืน การไม่อาฆาตพยาบาท ไม่กระทำกลับคนที่ทำร้ายเรา
จะคุ้มค่ามาก ขอให้เราสร้างกุศโลบายดังนี้ (นำไปคิดให้ดี)
1.ทำให้เราได้ใช้กรรมเก่าที่เราทำไว้ ทุกอย่างที่เกิดขึ้นกับเรา ล้วนเป็นหนี้สินจากอดีตที่เราต้องชดใช้เค้า ให้เรามีมุทิตาจิตยินดีที่เค้ามากระทำเรา เพราะว่ามันเป็นเหตุสมควรแก่กรรมแล้ว เนื่องจากกฏแห่งกรรมเป็นกฏที่ยุติธรรมที่สุด ทำอะไรไว้ไม่ว่าจากชาติไหน ยังไงก็ต้องตามมาสนอง ดังนั้นเรื่องเลวร้ายทุกชนิดในชีวิตคุณอย่าได้ไปโทษใครเลย มันเกิดจากการกระทำในอดีตของเราทั้งสิ้น
2.การที่เราไปกระทำกลับเค้า ก็เหมือนกับคนที่ไปกู้หนี้ยืมสินเค้ามา พอใช้หนี้ให้เขาแล้ว ดันไปตบหัวเจ้าหนี้เค้าอีก อย่างนี้ก็ต้องตามชดใช้ให้เจ้าหนี้อีกเรื่อยๆ เมื่อไหร่จะหมดเวร จำไว้ว่า ชดใช้หนี้กรรมแล้ว ก็สร้างบุญด้วยอภัยทาน อย่าสร้างหนี้ต่อ
3.การที่เราไม่กระทำกลับเค้า ยิ่งคุ้มเหมือนได้ใช้หนี้แล้วยังได้กำไร คือ อภัยทาน ทานที่ทำได้ยาก แต่พอทำได้แล้ว จะช่วยยกระดับชีวิตและจิตวิญญาณคุณ แล้วใช้อิทธิบาท4 อดทนและข่มใจไว้ คิดต่อคนที่มากระทำผิดต่อเราอย่างบริสุทธิ์ใจ จงกัดฟันแรงๆ ๑ ที หยุดตัวเองจากความแค้นให้ได้ แล้วปล่อยเขาไป เพราะว่า
" กรรม ไม่เคยปรานีต่อผู้ประพฤติชั่ว กรรมมีความยุติธรรมเสมอ ในบางรายผลกรรมชั่วอาจมาช้าเพราะว่าเค้ามีส่วนผสมความดีอยู่มากอาจจะเป็นผลกรรมดีจากอดีตชาติมาช่วยหนุนเค้าไว้ แต่เชื่อเถอะกรรมชั่วไม่เคยหายไปไหน กรรมไม่เคยเบี้ยว กรรมตามติดจิตวิญญาณเค้าเหมือนเงา ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของกรรมจัดการกับเค้าคนนั้นเถอะ "
เชื่อเถิด เดี๋ยวเค้าต้องเจอเรื่องเลวร้ายของเค้าเอง รับรองไม่มีทางหนีพ้น ยิ่งคุณบริสุทธิ์ใจต่อเค้ามากเท่าไหร่ให้อภัยเค้าได้มากเท่าไหร่แผ่เมตตาให้เค้าได้มากเท่าไหร่
" สิ่งที่จะสนองตอบต่อเค้าจะยิ่งรุนแรงมากเท่านั้น และจงกัดฟันขอบคุณ ที่เค้าได้มอบประสบการณ์ชีวิตในด้านที่เลวร้ายให้คุณ "
หากฟุ้งซ่านมาก ให้ลองทำสมาธิ ให้ฝืนใจทำจริงจังแล้วจะชอบติดใจปฏิบัติจนเป็นนิสัย ให้ พิจารณาร่างกายและจิตใจของท่านดู ว่ามันมีสาระพอแค่ไหนที่มานั่งแค้นใครต่อใคร เค้ากระทำคุณให้เจ็บ คนๆนั้นเค้าเลิกคิดไปนานแล้ว แต่คุณกลับเอามาคิดให้เป็นการทำร้ายตัวเองเสียเปล่าๆ
ลองคิดดูว่า ตัวตนของเรามันยิ่งใหญ่สักแค่ไหน เราโกรธเราแค้นมากใช่ไหม ที่ตัวตนของเรามันเป็นของเรา เค้าจะมากระทำแบบนี้ เราโมโห เราแค้น มาทำได้อย่างไร
ตอบให้ก็ได้ว่า ก็เราไปทำเขามาก่อน เราก็ต้องตามใช้สิ จะเรียกร้องอะไร ก็กรรมของเราเองทั้งนั้น
ดังนั้น จงลองคิดเสียว่า หากเค้าไปกระทำคนอื่นใครไม่รู้ที่ไม่ใช่เรา เราจะแค้นเค้ามั้ย เราไม่แค้น เพราะว่า คนอื่นไม่ใช่เรา นั่นไง เรากำลังยึดตัวตนของเราว่า เราคือเรา เขามาทำไม่ได้ (คุณไม่มีสิทธิ์คิดว่าเค้าทำอะไรเราไม่ได้ เพราะคุณเคยไปทำเค้ามาแล้ว ต้องยอมรับกรรม)
ดังนั้น เชื่อในกรรม ซะ แล้วไม่ต้องคิดว่าตัวตนของเรายิ่งใหญ่เกินกว่าที่ใครจะมาทำอะไรได้ เพราะมันเป็นไปไม่ได้ ตัวเราคือที่อยู่อาศัยของดวงจิต ตายแล้วก็เริ่มต้นใหม่หมดในภพใหม่ ฉะนั้น อย่าจองเวร อย่าผูกโกรธ ผูกเวรใครเลย จะลำบากชาติหน้าเสียเปล่าๆ (สมัยนี้กรรมติดจรวด กรรมอาจตามสนองในชาติเดียวก็ได้ จงดำรงอยู่ในความไม่ประมาท มีสตินะ)
บทความนี้เขียนเผยแพร่ที่เอ็มไทยเป็นที่แรก ขอให้ช่วยก็อปปี้ส่งต่อกันด้วย เป็นธรรมทาน ช่วยให้หนี้กรรมของคุณเบาบางลง
จะคุ้มค่ามาก ขอให้เราสร้างกุศโลบายดังนี้ (นำไปคิดให้ดี)
1.ทำให้เราได้ใช้กรรมเก่าที่เราทำไว้ ทุกอย่างที่เกิดขึ้นกับเรา ล้วนเป็นหนี้สินจากอดีตที่เราต้องชดใช้เค้า ให้เรามีมุทิตาจิตยินดีที่เค้ามากระทำเรา เพราะว่ามันเป็นเหตุสมควรแก่กรรมแล้ว เนื่องจากกฏแห่งกรรมเป็นกฏที่ยุติธรรมที่สุด ทำอะไรไว้ไม่ว่าจากชาติไหน ยังไงก็ต้องตามมาสนอง ดังนั้นเรื่องเลวร้ายทุกชนิดในชีวิตคุณอย่าได้ไปโทษใครเลย มันเกิดจากการกระทำในอดีตของเราทั้งสิ้น
2.การที่เราไปกระทำกลับเค้า ก็เหมือนกับคนที่ไปกู้หนี้ยืมสินเค้ามา พอใช้หนี้ให้เขาแล้ว ดันไปตบหัวเจ้าหนี้เค้าอีก อย่างนี้ก็ต้องตามชดใช้ให้เจ้าหนี้อีกเรื่อยๆ เมื่อไหร่จะหมดเวร จำไว้ว่า ชดใช้หนี้กรรมแล้ว ก็สร้างบุญด้วยอภัยทาน อย่าสร้างหนี้ต่อ
3.การที่เราไม่กระทำกลับเค้า ยิ่งคุ้มเหมือนได้ใช้หนี้แล้วยังได้กำไร คือ อภัยทาน ทานที่ทำได้ยาก แต่พอทำได้แล้ว จะช่วยยกระดับชีวิตและจิตวิญญาณคุณ แล้วใช้อิทธิบาท4 อดทนและข่มใจไว้ คิดต่อคนที่มากระทำผิดต่อเราอย่างบริสุทธิ์ใจ จงกัดฟันแรงๆ ๑ ที หยุดตัวเองจากความแค้นให้ได้ แล้วปล่อยเขาไป เพราะว่า
" กรรม ไม่เคยปรานีต่อผู้ประพฤติชั่ว กรรมมีความยุติธรรมเสมอ ในบางรายผลกรรมชั่วอาจมาช้าเพราะว่าเค้ามีส่วนผสมความดีอยู่มากอาจจะเป็นผลกรรมดีจากอดีตชาติมาช่วยหนุนเค้าไว้ แต่เชื่อเถอะกรรมชั่วไม่เคยหายไปไหน กรรมไม่เคยเบี้ยว กรรมตามติดจิตวิญญาณเค้าเหมือนเงา ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของกรรมจัดการกับเค้าคนนั้นเถอะ "
เชื่อเถิด เดี๋ยวเค้าต้องเจอเรื่องเลวร้ายของเค้าเอง รับรองไม่มีทางหนีพ้น ยิ่งคุณบริสุทธิ์ใจต่อเค้ามากเท่าไหร่ให้อภัยเค้าได้มากเท่าไหร่แผ่เมตตาให้เค้าได้มากเท่าไหร่
" สิ่งที่จะสนองตอบต่อเค้าจะยิ่งรุนแรงมากเท่านั้น และจงกัดฟันขอบคุณ ที่เค้าได้มอบประสบการณ์ชีวิตในด้านที่เลวร้ายให้คุณ "
หากฟุ้งซ่านมาก ให้ลองทำสมาธิ ให้ฝืนใจทำจริงจังแล้วจะชอบติดใจปฏิบัติจนเป็นนิสัย ให้ พิจารณาร่างกายและจิตใจของท่านดู ว่ามันมีสาระพอแค่ไหนที่มานั่งแค้นใครต่อใคร เค้ากระทำคุณให้เจ็บ คนๆนั้นเค้าเลิกคิดไปนานแล้ว แต่คุณกลับเอามาคิดให้เป็นการทำร้ายตัวเองเสียเปล่าๆ
ลองคิดดูว่า ตัวตนของเรามันยิ่งใหญ่สักแค่ไหน เราโกรธเราแค้นมากใช่ไหม ที่ตัวตนของเรามันเป็นของเรา เค้าจะมากระทำแบบนี้ เราโมโห เราแค้น มาทำได้อย่างไร
ตอบให้ก็ได้ว่า ก็เราไปทำเขามาก่อน เราก็ต้องตามใช้สิ จะเรียกร้องอะไร ก็กรรมของเราเองทั้งนั้น
ดังนั้น จงลองคิดเสียว่า หากเค้าไปกระทำคนอื่นใครไม่รู้ที่ไม่ใช่เรา เราจะแค้นเค้ามั้ย เราไม่แค้น เพราะว่า คนอื่นไม่ใช่เรา นั่นไง เรากำลังยึดตัวตนของเราว่า เราคือเรา เขามาทำไม่ได้ (คุณไม่มีสิทธิ์คิดว่าเค้าทำอะไรเราไม่ได้ เพราะคุณเคยไปทำเค้ามาแล้ว ต้องยอมรับกรรม)
ดังนั้น เชื่อในกรรม ซะ แล้วไม่ต้องคิดว่าตัวตนของเรายิ่งใหญ่เกินกว่าที่ใครจะมาทำอะไรได้ เพราะมันเป็นไปไม่ได้ ตัวเราคือที่อยู่อาศัยของดวงจิต ตายแล้วก็เริ่มต้นใหม่หมดในภพใหม่ ฉะนั้น อย่าจองเวร อย่าผูกโกรธ ผูกเวรใครเลย จะลำบากชาติหน้าเสียเปล่าๆ (สมัยนี้กรรมติดจรวด กรรมอาจตามสนองในชาติเดียวก็ได้ จงดำรงอยู่ในความไม่ประมาท มีสตินะ)
บทความนี้เขียนเผยแพร่ที่เอ็มไทยเป็นที่แรก ขอให้ช่วยก็อปปี้ส่งต่อกันด้วย เป็นธรรมทาน ช่วยให้หนี้กรรมของคุณเบาบางลง