ขอให้ศาลตัดสินว่าผิดจริง........................
ผู้แต่ง"Da Vinci Code"ถูกฟ้อง!ข้อหาขโมยพล็อต!
โดย ผู้จัดการออนไลน์ 28 กุมภาพันธ์ 2549 16:46 น.
แดน บราวน์ นักเขียนชื่อก้อง เจ้าของผลงาน The Da Vinci Code ที่กำลังจะเข้าโรงฉายในอีก 3 เดือนข้างหน้า มีอันต้องหวานๆ ร้อนๆ กับผลงานที่ตัวเองสร้างขึ้นมาอีกครั้งหนึ่งแล้ว เมื่อถูกฟ้องจากศาลสูงของประเทศอังกฤษเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ในข้อหาขโมยพล็อตเรื่องเกี่ยวกับจอกศักดิ์สิทธิ์จากงานผลงานที่แต่งขึ้นมาตั้งแต่ปี 1982
ไมเคิล ไบเจนท์ และ ริชาร์ด ลี สองนักเขียนเจ้าของงานเขียน The Holy Blood and the Holy Grail เมื่อปี 1982 ยื่นคำฟ้องต่อศาลว่า Random House สำนักพิมพ์ใหญ่ได้ทำการละเมิดลิขสิทธิ์ในการตีพิมพ์ The Da Vinci Code นิยายชื่อดังที่ขายได้ทั่วโลกกว่า 25 ล้านเล่มในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา โทษฐานนำไอเดียของพวกตนไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งถ้าข้อกล่าวหาดังกล่าวถูกตัดสินว่ามีความผิดจริง ตัวหนังที่มีดาราดังอย่างทอม แฮงส์และเอียน แม็คเคลแลนที่มีกำหนดฉายในวันที่ 19 พฤษภาคมอาจจะต้องเลื่อนออกไป
ในเนื้อหาของหนังสือทั้งสองเล่มซึ่งมี Random House เป็นสำนักพิมพ์เจ้าของลิขสิทธิ์ด้วยกันทั้งคู่ ได้อ้างถึงทฤษฏีที่ว่าพระเยซูได้แต่งงานกับแมรี แมกดาลีนและมีโอรสร่วมกัน และรัชทายาทยังคงสืบเชื้อสายมาจนทุกวันนี้ โดยใน The Holy Blood and the Holy Grail ยังอ้างอีกว่าพระเยซูไม่ได้สิ้นชีพบนไม้กางเขน แต่ใช้ชีวิตที่เหลือต่อมาในประเทศฝรั่งเศส
ขณะที่นักเขียนดังอย่างแดน บราวน์ จะมีกำหนดขึ้นแก้ต่างในสัปดาห์หน้า ได้กล่าวต่อนักข่าวที่หน้าศาลว่าแนวคิดของหนังสือเล่มดังกล่าวไม่มีอิทธิพลใดๆ ต่อผลงานของเขาเลย
"ถ้าไม่นับเรื่องเกี่ยวกับการสมรสของพระเยซูเจ้าแล้ว การตั้งคำถามถึงการฟื้นคืนชีพของพระองค์เป็นสิ่งที่สากลในโลกของคริสเตียน"
โจนาธาน เรย์เนอร์ เจมส์ ทนายความของสองนักเขียนกล่าวว่าคดีดังกล่าวไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องแอบอ้างถึงส่วนใดส่วนหนึ่งจากในหนังสือ แต่เป็นการลอกเลียนแนวคิดหลักของผลงานดังกล่าวไป โดยกล่าวว่า "บราวน์ได้ลอกเลียนผลงานเรื่อง The Holy Blood and the Holy Grail ไปใช้ในผลงานอันโด่งดังของเขา ซึ่งถือเป็นการละเมิดสิทธิ์ลูกความของผมอย่างชัดเจน" และยังย้ำว่าการฟ้องร้องดังกล่าวไม่ใช่สิ่งที่เรียกว่า การทำลายความคิดสร้างสรรค์ ,การผูกขาดทางความคิดและการโต้แย้งข้อเท็จจริงทางประวัติศาสตร์
ขณะที่ทาง Random House สำนักพิมพ์ของทั้งสองฝ่ายได้ออกมาปฏิเสธข้อกล่าวหาดังกล่าวแล้ว โดยโจนาธาน บอลด์วินตัวแทนของสำนักพิมพ์ได้ออกมากล่าวถึงความเคลื่อนไหวของสองนักเขียนครั้งนี้ว่าเป็น "การแอบอ้างอย่างสกปรก" โดยกล่าวว่าทั้งสองเคยแนะนำให้นักเขียนคนดังเอาเรื่องดังกล่าวไปใช้ด้วยซ้ำ
"ทั้งสองได้แนะนำให้บราวน์ไม่เพียงแต่ต่อเติมเรื่องราวที่ทั้งสองทำเอาไว้ให้สมบูรณ์เท่านั้น แต่เสนอให้เขาไปสานต่อสิ่งที่ทั้งคู่ทำเอาไว้อีกด้วย ซึ่งก็เป็นสิ่งที่ปรากฏอยู่ใน The Da Vinci Code นั่นเอง ซึ่งในงานเขียนบราวน์ก็ได้อ้างถึง The Holy Blood and the Holy Grail ไปแล้ว แต่งานเขียนดังกล่าวไม่ได้มีอิทธิพลอย่างที่ทั้งสองได้กล่าวอ้างแต่อย่างใด"
การพิจารณาคดีจะมีขึ้นที่ Royal Courts of Justice on The Strand ซึ่งตั้งอยู่ใกล้ๆกับโบสถ์เทมเปิล สถานที่ที่บราวน์กล่าวถึงในหนังสือของเขา ซึ่งรายงานแจ้งว่ามีผู้คนเข้าไปแวะชมในโบสถ์ดังกล่าวเพิ่มมากขึ้นหลังจากที่หนังสือได้ตีพิมพ์ออกไป
ปีที่แล้วบราวน์เคยชนะคดีเรื่องการละเมิดสิทธิ์ในงานเขียนเรื่องดังกล่าวมาแล้ว หลังจากที่ลูอิส เปอร์ดูเจ้าของผลงาน Daughter of God ได้ยื่นฟ้องเขา แต่ศาลของสหรัฐยกฟ้องในที่สุด
http://www.manager.co.th/Entertainment/ ... 0000027700
โดย ผู้จัดการออนไลน์ 28 กุมภาพันธ์ 2549 16:46 น.
แดน บราวน์ นักเขียนชื่อก้อง เจ้าของผลงาน The Da Vinci Code ที่กำลังจะเข้าโรงฉายในอีก 3 เดือนข้างหน้า มีอันต้องหวานๆ ร้อนๆ กับผลงานที่ตัวเองสร้างขึ้นมาอีกครั้งหนึ่งแล้ว เมื่อถูกฟ้องจากศาลสูงของประเทศอังกฤษเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ในข้อหาขโมยพล็อตเรื่องเกี่ยวกับจอกศักดิ์สิทธิ์จากงานผลงานที่แต่งขึ้นมาตั้งแต่ปี 1982
ไมเคิล ไบเจนท์ และ ริชาร์ด ลี สองนักเขียนเจ้าของงานเขียน The Holy Blood and the Holy Grail เมื่อปี 1982 ยื่นคำฟ้องต่อศาลว่า Random House สำนักพิมพ์ใหญ่ได้ทำการละเมิดลิขสิทธิ์ในการตีพิมพ์ The Da Vinci Code นิยายชื่อดังที่ขายได้ทั่วโลกกว่า 25 ล้านเล่มในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา โทษฐานนำไอเดียของพวกตนไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งถ้าข้อกล่าวหาดังกล่าวถูกตัดสินว่ามีความผิดจริง ตัวหนังที่มีดาราดังอย่างทอม แฮงส์และเอียน แม็คเคลแลนที่มีกำหนดฉายในวันที่ 19 พฤษภาคมอาจจะต้องเลื่อนออกไป
ในเนื้อหาของหนังสือทั้งสองเล่มซึ่งมี Random House เป็นสำนักพิมพ์เจ้าของลิขสิทธิ์ด้วยกันทั้งคู่ ได้อ้างถึงทฤษฏีที่ว่าพระเยซูได้แต่งงานกับแมรี แมกดาลีนและมีโอรสร่วมกัน และรัชทายาทยังคงสืบเชื้อสายมาจนทุกวันนี้ โดยใน The Holy Blood and the Holy Grail ยังอ้างอีกว่าพระเยซูไม่ได้สิ้นชีพบนไม้กางเขน แต่ใช้ชีวิตที่เหลือต่อมาในประเทศฝรั่งเศส
ขณะที่นักเขียนดังอย่างแดน บราวน์ จะมีกำหนดขึ้นแก้ต่างในสัปดาห์หน้า ได้กล่าวต่อนักข่าวที่หน้าศาลว่าแนวคิดของหนังสือเล่มดังกล่าวไม่มีอิทธิพลใดๆ ต่อผลงานของเขาเลย
"ถ้าไม่นับเรื่องเกี่ยวกับการสมรสของพระเยซูเจ้าแล้ว การตั้งคำถามถึงการฟื้นคืนชีพของพระองค์เป็นสิ่งที่สากลในโลกของคริสเตียน"
โจนาธาน เรย์เนอร์ เจมส์ ทนายความของสองนักเขียนกล่าวว่าคดีดังกล่าวไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องแอบอ้างถึงส่วนใดส่วนหนึ่งจากในหนังสือ แต่เป็นการลอกเลียนแนวคิดหลักของผลงานดังกล่าวไป โดยกล่าวว่า "บราวน์ได้ลอกเลียนผลงานเรื่อง The Holy Blood and the Holy Grail ไปใช้ในผลงานอันโด่งดังของเขา ซึ่งถือเป็นการละเมิดสิทธิ์ลูกความของผมอย่างชัดเจน" และยังย้ำว่าการฟ้องร้องดังกล่าวไม่ใช่สิ่งที่เรียกว่า การทำลายความคิดสร้างสรรค์ ,การผูกขาดทางความคิดและการโต้แย้งข้อเท็จจริงทางประวัติศาสตร์
ขณะที่ทาง Random House สำนักพิมพ์ของทั้งสองฝ่ายได้ออกมาปฏิเสธข้อกล่าวหาดังกล่าวแล้ว โดยโจนาธาน บอลด์วินตัวแทนของสำนักพิมพ์ได้ออกมากล่าวถึงความเคลื่อนไหวของสองนักเขียนครั้งนี้ว่าเป็น "การแอบอ้างอย่างสกปรก" โดยกล่าวว่าทั้งสองเคยแนะนำให้นักเขียนคนดังเอาเรื่องดังกล่าวไปใช้ด้วยซ้ำ
"ทั้งสองได้แนะนำให้บราวน์ไม่เพียงแต่ต่อเติมเรื่องราวที่ทั้งสองทำเอาไว้ให้สมบูรณ์เท่านั้น แต่เสนอให้เขาไปสานต่อสิ่งที่ทั้งคู่ทำเอาไว้อีกด้วย ซึ่งก็เป็นสิ่งที่ปรากฏอยู่ใน The Da Vinci Code นั่นเอง ซึ่งในงานเขียนบราวน์ก็ได้อ้างถึง The Holy Blood and the Holy Grail ไปแล้ว แต่งานเขียนดังกล่าวไม่ได้มีอิทธิพลอย่างที่ทั้งสองได้กล่าวอ้างแต่อย่างใด"
การพิจารณาคดีจะมีขึ้นที่ Royal Courts of Justice on The Strand ซึ่งตั้งอยู่ใกล้ๆกับโบสถ์เทมเปิล สถานที่ที่บราวน์กล่าวถึงในหนังสือของเขา ซึ่งรายงานแจ้งว่ามีผู้คนเข้าไปแวะชมในโบสถ์ดังกล่าวเพิ่มมากขึ้นหลังจากที่หนังสือได้ตีพิมพ์ออกไป
ปีที่แล้วบราวน์เคยชนะคดีเรื่องการละเมิดสิทธิ์ในงานเขียนเรื่องดังกล่าวมาแล้ว หลังจากที่ลูอิส เปอร์ดูเจ้าของผลงาน Daughter of God ได้ยื่นฟ้องเขา แต่ศาลของสหรัฐยกฟ้องในที่สุด
http://www.manager.co.th/Entertainment/ ... 0000027700
- ~@Little lamb@~
- Defender of lawS
- โพสต์: 9396
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:00 pm
- ติดต่อ:
ขอให้ศาลตัดสินว่าผิด....อาแมน อาแมน
เริ่มพิจารณาคดีฟ้อง"ดาวินชี โค้ด" - 'ลอก'ธีมเรื่องของนักประวัติศาสตร์
โดย ผู้จัดการออนไลน์ 28 กุมภาพันธ์ 2549 20:14 น.
เอเอฟพี - แดน บราวน์ ผู้ประพันธ์นวนิยาย "เดอะ ดาวินชี โค้ด" นั่งอยู่ในศาลกรุงลอนดอนด้วยเมื่อวันจันทร์(27) เพื่อรับฟังการเริ่มต้นพิจารณาคดีที่นักประวัติศาสตร์ 2 คน กล่าวหาว่า เขาขโมยเอาความคิดของบุคคลทั้งสอง มาเขียนเป็นหนังสือขายระเบิดเถิดเทิงเล่มนี้
นักประวัติศาสตร์ทั้งสอง คือ ริชาร์ด ลีจ์ และ ไมเคิล ไบเกนต์ ฟ้องร้อง แรนดอม เฮาส์ สำนักพิมพ์ซึ่งเป็นผู้จัดพิมพ์เรื่อง เดอะ ดาวินชี โค้ด ในข้อหาว่า ขโมย "สถาปัตยกรรมโดยองค์รวม" ของงานวิจัยซึ่งพวกเขาได้นำมาเขียนเป็นหนังสือประเภทสารคดี/บทความ(non-fiction) เรื่อง "The Holy Blood, and the Holy Grail" ที่ตีพิมพ์เมื่อปี 1982 โดยแรมดอม เฮาส์เช่นกัน และก็เป็นหนังสือในอันดับขายดีเล่มหนึ่ง
โจทก์ทั้งสองยังได้ยื่นขอให้ศาลออกคำสั่งชั่วคราว เพื่อป้องกันไม่ให้มีการละเมิดลิขสิทธิ์ของพวกเขาอีก ซึ่งหากศาลตกลงตามนี้ ก็หมายความว่า แรมดอม เฮาส์จะไม่สามารถตีพิมพ์นวนิยายเล่มนี้ของบราวน์ได้ต่อไป รวมทั้งจะส่งผลกระทบต่อการฉายภาพยนตร์ซึ่งสร้างขึ้นจากนวนิยายเล่มนี้ในประเทศอังกฤษ ทั้งนี้ ภาพยนตร์เรื่องนี้แสดงโดยพระเอกเจ้าบทบาทอย่าง ทอม แฮงค์ และมีกำหนดนำออกฉายทั่วโลกในเดือนพฤษภาคม
โจนาธาน เจมส์ ทนายความฝ่ายโจทก์แถลงต่อศาลว่า บราวน์ได้ "ริบ" แกนเรื่องหลักไปจากหนังสือของลีจ์กับไบเกนต์ และ "ไม่อาจมีข้อโต้แย้งเลยว่า ในตอนที่เขาเขียนเดอะ ดาวินชี โค้ด นั้น บราวน์ตระหนักดีถึงความสำคัญของหนังสือของโจทก์ซึ่งมีต่อแกนเรื่องหลักของนวนิยายดังกล่าว"
"มันไม่เพียงถูกใช้เป็นแค่แหล่งที่มาของข้อมูล หากแต่เป็นจุดอ้างอิงอันสำคัญมาก สำหรับการแต่งเดอะ ดาวินชี โค้ด" ทนายผู้นี้บอก
ทางด้าน จอห์น บอลด์วิน ทนายความของแรมดอม เฮาส์ แถลงต่อศาลว่า "คำฟ้องดูจะมีอยู่ว่า หนังสือของโจทก์ได้เผยถึงแนวความคิดที่พวกเขาเสนอว่า พระเยซูนั้นได้สมรสกับ แมรี แมกดาเลน, ว่าพวกเขามีลูกหลานซึ่งรอดชีวิต และได้สมรสเข้าอยู่ในสายสันตติวงศ์ของกษัตริย์ฝรั่งเศสสายหนึ่ง, ว่าสายสันตติวงศ์ดังกล่าวนี้ยังคงสืบเนื่องมาจนถึงทุกวันนี้, และว่ามีสมาคมลับแห่งหนึ่งซึ่งตั้งฐานอยู่ในฝรั่งเศส มีวัตถุประสงค์ในการฟื้นฟูให้สายสันตติวงศ์นี้ได้กลับขึ้นครองบัลลังก์ ไม่เพียงของฝรั่งเศสเท่านั้น แต่ยังบัลลังก์ของชาติยุโรปอื่นๆ อีกด้วย และเดอะ ดาวินชี โค้ด ก็ได้ใช้บางส่วนของแนวความคิดนี้"
เขากล่าวต่อไปว่า "ฝ่ายโจทก์ต่อสู้ว่าแนวความคิดของพวกเขาดังกล่าวนั้น ได้รับความคุ้มครองในฐานะเป็นลิขสิทธิ์ ขณะที่ฝ่ายแรมดอม เฮาส์ ขอต่อสู้ว่าข้อมูลข่าวสารในลักษณะเช่นนี้ ไม่ได้มีลิขสิทธิ์แต่อย่างใด และดังนั้นไม่ว่าในกรณีใดจึงมิได้มีการก็อปปี้ลอกเลียน"
ดิ ออบเซอร์เวอร์ หนังสือพิมพ์รายสัปดาห์ของอังกฤษรายงานในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยคาดหมายว่าฝ่ายจำเลยน่าจะสู้คดี ด้วยการโต้แย้งว่า พวกนักเขียนย่อมมีการนำเอาเค้าโครงเรื่อง, แกนเรื่องหลัก, และแนวความคิด จากงานของคนอื่นๆ มาดัดแปลงปรับปรุงเพื่อสร้างเป็นงานของตัวเองขึ้นมา โดยทำกันเช่นนี้มาหลายร้อยปีแล้ว
หนังสือพิมพ์นี้ยังได้อ้างบุคคลในแวดวงวรรณกรรมผู้หนึ่งซึ่งกล่าวว่า อย่างบทละครของวิลเลียม เชคสเปียร์นั้น นอกเหนือจากเรื่อง "A Midsummer Night's Dream" แล้ว เรื่องอื่นๆ ที่เหลือล้วนแต่ได้พึ่งพาอาศัยแหล่งที่มาอื่นๆ ทั้งนั้น
คาดหมายกันว่า ศาลจะใช้เวลาพิจารณาคดีนี้ราว 2 สัปดาห์ ก็คงจะมีคำพิพากษาออกมาได้
-------------------------------------------------------------------------------------------------
อ้าวเวร เฉพาะอังกฤษนี่ น่าจะโดนมันทั่วโลก
โดย ผู้จัดการออนไลน์ 28 กุมภาพันธ์ 2549 20:14 น.
เอเอฟพี - แดน บราวน์ ผู้ประพันธ์นวนิยาย "เดอะ ดาวินชี โค้ด" นั่งอยู่ในศาลกรุงลอนดอนด้วยเมื่อวันจันทร์(27) เพื่อรับฟังการเริ่มต้นพิจารณาคดีที่นักประวัติศาสตร์ 2 คน กล่าวหาว่า เขาขโมยเอาความคิดของบุคคลทั้งสอง มาเขียนเป็นหนังสือขายระเบิดเถิดเทิงเล่มนี้
นักประวัติศาสตร์ทั้งสอง คือ ริชาร์ด ลีจ์ และ ไมเคิล ไบเกนต์ ฟ้องร้อง แรนดอม เฮาส์ สำนักพิมพ์ซึ่งเป็นผู้จัดพิมพ์เรื่อง เดอะ ดาวินชี โค้ด ในข้อหาว่า ขโมย "สถาปัตยกรรมโดยองค์รวม" ของงานวิจัยซึ่งพวกเขาได้นำมาเขียนเป็นหนังสือประเภทสารคดี/บทความ(non-fiction) เรื่อง "The Holy Blood, and the Holy Grail" ที่ตีพิมพ์เมื่อปี 1982 โดยแรมดอม เฮาส์เช่นกัน และก็เป็นหนังสือในอันดับขายดีเล่มหนึ่ง
โจทก์ทั้งสองยังได้ยื่นขอให้ศาลออกคำสั่งชั่วคราว เพื่อป้องกันไม่ให้มีการละเมิดลิขสิทธิ์ของพวกเขาอีก ซึ่งหากศาลตกลงตามนี้ ก็หมายความว่า แรมดอม เฮาส์จะไม่สามารถตีพิมพ์นวนิยายเล่มนี้ของบราวน์ได้ต่อไป รวมทั้งจะส่งผลกระทบต่อการฉายภาพยนตร์ซึ่งสร้างขึ้นจากนวนิยายเล่มนี้ในประเทศอังกฤษ ทั้งนี้ ภาพยนตร์เรื่องนี้แสดงโดยพระเอกเจ้าบทบาทอย่าง ทอม แฮงค์ และมีกำหนดนำออกฉายทั่วโลกในเดือนพฤษภาคม
โจนาธาน เจมส์ ทนายความฝ่ายโจทก์แถลงต่อศาลว่า บราวน์ได้ "ริบ" แกนเรื่องหลักไปจากหนังสือของลีจ์กับไบเกนต์ และ "ไม่อาจมีข้อโต้แย้งเลยว่า ในตอนที่เขาเขียนเดอะ ดาวินชี โค้ด นั้น บราวน์ตระหนักดีถึงความสำคัญของหนังสือของโจทก์ซึ่งมีต่อแกนเรื่องหลักของนวนิยายดังกล่าว"
"มันไม่เพียงถูกใช้เป็นแค่แหล่งที่มาของข้อมูล หากแต่เป็นจุดอ้างอิงอันสำคัญมาก สำหรับการแต่งเดอะ ดาวินชี โค้ด" ทนายผู้นี้บอก
ทางด้าน จอห์น บอลด์วิน ทนายความของแรมดอม เฮาส์ แถลงต่อศาลว่า "คำฟ้องดูจะมีอยู่ว่า หนังสือของโจทก์ได้เผยถึงแนวความคิดที่พวกเขาเสนอว่า พระเยซูนั้นได้สมรสกับ แมรี แมกดาเลน, ว่าพวกเขามีลูกหลานซึ่งรอดชีวิต และได้สมรสเข้าอยู่ในสายสันตติวงศ์ของกษัตริย์ฝรั่งเศสสายหนึ่ง, ว่าสายสันตติวงศ์ดังกล่าวนี้ยังคงสืบเนื่องมาจนถึงทุกวันนี้, และว่ามีสมาคมลับแห่งหนึ่งซึ่งตั้งฐานอยู่ในฝรั่งเศส มีวัตถุประสงค์ในการฟื้นฟูให้สายสันตติวงศ์นี้ได้กลับขึ้นครองบัลลังก์ ไม่เพียงของฝรั่งเศสเท่านั้น แต่ยังบัลลังก์ของชาติยุโรปอื่นๆ อีกด้วย และเดอะ ดาวินชี โค้ด ก็ได้ใช้บางส่วนของแนวความคิดนี้"
เขากล่าวต่อไปว่า "ฝ่ายโจทก์ต่อสู้ว่าแนวความคิดของพวกเขาดังกล่าวนั้น ได้รับความคุ้มครองในฐานะเป็นลิขสิทธิ์ ขณะที่ฝ่ายแรมดอม เฮาส์ ขอต่อสู้ว่าข้อมูลข่าวสารในลักษณะเช่นนี้ ไม่ได้มีลิขสิทธิ์แต่อย่างใด และดังนั้นไม่ว่าในกรณีใดจึงมิได้มีการก็อปปี้ลอกเลียน"
ดิ ออบเซอร์เวอร์ หนังสือพิมพ์รายสัปดาห์ของอังกฤษรายงานในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยคาดหมายว่าฝ่ายจำเลยน่าจะสู้คดี ด้วยการโต้แย้งว่า พวกนักเขียนย่อมมีการนำเอาเค้าโครงเรื่อง, แกนเรื่องหลัก, และแนวความคิด จากงานของคนอื่นๆ มาดัดแปลงปรับปรุงเพื่อสร้างเป็นงานของตัวเองขึ้นมา โดยทำกันเช่นนี้มาหลายร้อยปีแล้ว
หนังสือพิมพ์นี้ยังได้อ้างบุคคลในแวดวงวรรณกรรมผู้หนึ่งซึ่งกล่าวว่า อย่างบทละครของวิลเลียม เชคสเปียร์นั้น นอกเหนือจากเรื่อง "A Midsummer Night's Dream" แล้ว เรื่องอื่นๆ ที่เหลือล้วนแต่ได้พึ่งพาอาศัยแหล่งที่มาอื่นๆ ทั้งนั้น
คาดหมายกันว่า ศาลจะใช้เวลาพิจารณาคดีนี้ราว 2 สัปดาห์ ก็คงจะมีคำพิพากษาออกมาได้
-------------------------------------------------------------------------------------------------
อ้าวเวร เฉพาะอังกฤษนี่ น่าจะโดนมันทั่วโลก
ซาตาน ยังดำเนินกิจการต่อไปในโลก
แย่แล้วสิ! >:(
แย่แล้วสิ! >:(
-
- ~@
- โพสต์: 8259
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 9:56 pm
- ที่อยู่: Bangkok
มันก็ทำอยู่เป็นนิจแหละ ระวังนะ มันอยู่ในตัวเราเองด้วยNKL เขียน: ซาตาน ยังดำเนินกิจการต่อไปในโลก
แย่แล้วสิ! >:(
ดังนั้น จงเข้าระวังอธิษฐานอย่าให้มารมีโอกาส
-
- โพสต์: 1946
- ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ มิ.ย. 01, 2005 8:23 pm
- ที่อยู่: On this earth obviously
โฮะๆ เดี๋ยวซัมเมอร์นี้มันจามาเป็นหนังโรงแล้วละ เหอะๆๆ
-
- โพสต์: 659
- ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ ก.ย. 10, 2005 2:01 pm
- ที่อยู่: I believe in God...
:( การตัดสินครั้งนี้ พระอาจดลใจให้ศาลตัดสินตามพระทัยของพระองค์เองก็ได้ครับ
- ~@Little lamb@~
- Defender of lawS
- โพสต์: 9396
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:00 pm
- ติดต่อ:
ปีศาจมันไม่ยอมน้อยหน้างัย
พอมีหนังเดอะ แพชชั่น ซึ่งทำให้คนศรัทธา
ปีศาจมันก็ต้องทำหนังออกมา.....ทำให้คนเสื่อมศรัทธา
:-\
พอมีหนังเดอะ แพชชั่น ซึ่งทำให้คนศรัทธา
ปีศาจมันก็ต้องทำหนังออกมา.....ทำให้คนเสื่อมศรัทธา
:-\
ขอให้ผิด ขอให้เจอแบน ขอให้ล้มเหลว ขอให้แผนการกิจการของมารซาตานล้มเหลวลง >:(
อนึ่ง ตอนอ่าน reply เจอพี่ปอไป post ด้วย ;D
อนึ่ง ตอนอ่าน reply เจอพี่ปอไป post ด้วย ;D
ผมคงจะไม่ร้องขอให้ศาลตัดสินความผิดของเขาหรอกครับ แม้เขาจะทำผิดแต่เราก็ต้องให้อภัยเขา แม้เขาจะดูหมิ่นพระเป็นเจ้าและพระศาสนจักรก็ตาม พระเป็นเจ้าคงไม่ต้องการที่จะเห็นลูกๆของพระองค์มาแสดงความโกรธแค้นกล่าวโทษต่อเขา เช่นเดียวกับที่ชาวยิวได้ตะโกนกันเป็นเสียงอันดังว่า "ตรึงเขาเสีย ตรึงเขาเสีย" ในตอนที่พระบุตรของพระองค์ถูกตัดสินโทษเป็นแน่
กลับมาอ่านอีกทีก็เลยมีความสงสัย
มีใครแสดงความโกรธแค้นเหรอครับ ไม่มีใครตะโกนให้ฆ่าแดน บราว์นเลย
ผมเห็นแต่เสียงภาวนาของคนที่ต้องการให้เกิดความยุติธรรม และเสียงภาวนาให้กิจการงานของมารล้มเหลว
ต่อให้คุณไม่ขอให้ศาลตัดสินความผิดของเขา กระบวนการทางศาลก็ดำเนินไปแล้ว ไม่ใช่เพราะคนฟ้องต้องการปกป้องพระศาสนจักรอะไรด้วย เขาเพียงแค่ปกป้องลิขสิทธิ์ตัวเอง เพียงแต่ว่าถ้าเกิดศาลตัดสินว่าผิดจริงก็อาจมีผลพลอยได้ต่อพระศาสนจักรในอังกฤษเท่านั้น คือจะเกิดการระงับการเผยแพร่
ทำไมถึงมองคนที่เข้ามาในกระทู้นี้ว่า เพียงแค่ตะโกนระบายอารมณ์ หรือแสดงความโกรธแค้นล่ะครับ
ทำไมถึงคิดว่าคนอื่นจะคิดได้แค่นั้นครับ
ทำไมคุณมองความน่ากลัวของหนังสือเล่มนี้ที่การดูหมิ่น ซึ่งเป็นจุดจิ๊บจ๊อยมาก เพราะคนอื่นดูหมิ่นพระองค์ยิ่งกว่านี้เยอะแยะ
ทำไมมองไม่พบว่า มีคนมากมายกำลังเข้าใจว่าสิ่งที่หนังสือเขียนเป็นเรื่องจริง ซึ่งผมกล้าท้าให้คนทั้งบอร์ดออกมาบอกได้ว่าแทบจะทุกคน เคยเจอใครบางคนที่เขารู้จักอ่านหนังสือเล่มนี้แล้วคิดว่ามันเป็นเรื่องจริง โดยเฉพาะประเด็นที่น่ากลัวยิ่งกว่าพระเยซูจะมีเมียหรือไม่ มันคือประเด็นที่นิยายบอกเราพร้อมยกหลักฐานเท็จมาประกอบว่า"แรกเริ่มนั้นไม่เคยมีความเชื่อว่าพระเยซูเป็นพระเจ้าในพระคัมภีร์ ความเชื่อนี้ถูกสร้างขึ้นมาเองโดยคอนสแตนตินและพระศาสนจักรเมื่อศตวรรษที่4"
ซึ่งนี่คือการสร้างความเชื่อที่เป็นเท็จให้กับคนทั่วไป และหากคริสตชนคนใดเชื่อตามนั้นก็เท่ากับไม่ใช่คริสตชนเพราะคือการไม่เชื่อว่าพระเยซูคือพระเจ้า
อยากรู้ไม๊ครับว่าพระเจ้าอยากเห็นอะไร
ไม่ใช่การนั่งเฉยๆแน่ๆครับ
1ทธ 1:3-7 การขจัดผู้สอนผิด
ขณะที่ออกเดินทางไปแคว้นมาซิโดเนีย ข้าพเจ้าขอร้องให้ท่านอยู่ในเมือง เอเฟซัสต่อไป เพื่อกำชับบางคนมิให้สอนผิด และให้เลิกสนใจเรื่องเทพนิยายและการลำดับวงศ์ตระกูลที่ไม่รู้จบ ซึ่งจะก่อให้เกิดปัญหามากกว่าที่จะช่วยให้เข้าใจแผนการที่พระเจ้าทรงแสดงให้เรารู้เพราะความเชื่อ จุดประสงค์ที่ข้าพเจ้าแนะนำดังนี้ก็คือความรักที่มาจากใจบริสุทธิ์ มาจากมโนธรรมที่ถูกต้องและมาจากความเชื่อแท้จริง บางคนหลงทางไปจากจุดประสงค์นี้ จึงเปลี่ยนไปพูดเรื่องไร้สาระ เพราะต้องการทำตนเป็นครูสอนธรรมบัญญัติ ทั้ง ๆ ที่ไม่เข้าใจสิ่งที่พูดและสิ่งที่ตนยืนยันอย่างมั่นใจ
2ทธ 4:1-5
ข้าพเจ้าขอกำชับท่านเฉพาะพระพักตร์ของพระเจ้า และเฉพาะพระพักตร์ของพระคริสตเยซูผู้จะทรงพิพากษาทั้งผู้เป็นและผู้ตาย โดยอ้างถึงการแสดงพระองค์และพระอาณาจักรของพระองค์ จงประกาศพระวาจา จงพร้อมสรรพทั้งเมื่อมีโอกาสและเมื่อไม่มีโอกาส จงว่ากล่าว จงตักเตือน จงให้กำลังใจ โดยพร่ำสอนด้วยความพากเพียรอย่างเต็มที่ จะถึงเวลาหนึ่งที่พวกเขาจะไม่ต้องการฟังคำสอนที่ถูกต้อง แต่จะแสวงหาครูจำนวนมากมาอยู่ร่วมกัน เพื่อจะได้สอนสิ่งที่ตนอยากฟัง พวกเขาจะไม่ยอมฟังความจริง แต่จะเปลี่ยนไปฟังเทพนิยาย ส่วนท่านจงหนักแน่นมั่นคงในทุกกรณี จงอดทนต่อความทุกข์ยาก จงทำงานของผู้ประกาศข่าวดี จงปฏิบัติศาสนบริการให้สำเร็จ
-----------------------------------
หน้าที่คริสตชนไม่ใช่หน้าที่ตัดสินให้ประหารใคร แต่ก็ไม่ใช่หน้าที่นั่งเฉยๆด้วยครับ
แต่พระคัมภีร์บอกแล้วว่าหน้าที่ของเราคือ ต้องสร้างความเชื่อที่ถูกต้อง ต้องแก้ไขความผิดหลงที่คนทำขึ้น และเราต้องยินดีกับความถูกต้อง และไม่สนับสนุนความชั่ว
1คร 13:6
ความรักไม่ยินดีในความชั่ว แต่ร่วมยินดีในความถูกต้อง
ผู้ที่เราควรต่อสู้ ไม่ใช่มนุษย์ที่ฆ่าเราได้แต่กาย แต่เป็นมารซาตานที่สามารถพาเราไปนรกได้ด้วย
สิ่งที่เราอยากเห็นมันล้มเหลว ไม่ใช่ตัวมนุษย์ แต่เป็น กิจการของมาร ที่กระทำผ่านมนุษย์คนนนั้นๆ
มีใครแสดงความโกรธแค้นเหรอครับ ไม่มีใครตะโกนให้ฆ่าแดน บราว์นเลย
ผมเห็นแต่เสียงภาวนาของคนที่ต้องการให้เกิดความยุติธรรม และเสียงภาวนาให้กิจการงานของมารล้มเหลว
ต่อให้คุณไม่ขอให้ศาลตัดสินความผิดของเขา กระบวนการทางศาลก็ดำเนินไปแล้ว ไม่ใช่เพราะคนฟ้องต้องการปกป้องพระศาสนจักรอะไรด้วย เขาเพียงแค่ปกป้องลิขสิทธิ์ตัวเอง เพียงแต่ว่าถ้าเกิดศาลตัดสินว่าผิดจริงก็อาจมีผลพลอยได้ต่อพระศาสนจักรในอังกฤษเท่านั้น คือจะเกิดการระงับการเผยแพร่
ทำไมถึงมองคนที่เข้ามาในกระทู้นี้ว่า เพียงแค่ตะโกนระบายอารมณ์ หรือแสดงความโกรธแค้นล่ะครับ
ทำไมถึงคิดว่าคนอื่นจะคิดได้แค่นั้นครับ
ทำไมคุณมองความน่ากลัวของหนังสือเล่มนี้ที่การดูหมิ่น ซึ่งเป็นจุดจิ๊บจ๊อยมาก เพราะคนอื่นดูหมิ่นพระองค์ยิ่งกว่านี้เยอะแยะ
ทำไมมองไม่พบว่า มีคนมากมายกำลังเข้าใจว่าสิ่งที่หนังสือเขียนเป็นเรื่องจริง ซึ่งผมกล้าท้าให้คนทั้งบอร์ดออกมาบอกได้ว่าแทบจะทุกคน เคยเจอใครบางคนที่เขารู้จักอ่านหนังสือเล่มนี้แล้วคิดว่ามันเป็นเรื่องจริง โดยเฉพาะประเด็นที่น่ากลัวยิ่งกว่าพระเยซูจะมีเมียหรือไม่ มันคือประเด็นที่นิยายบอกเราพร้อมยกหลักฐานเท็จมาประกอบว่า"แรกเริ่มนั้นไม่เคยมีความเชื่อว่าพระเยซูเป็นพระเจ้าในพระคัมภีร์ ความเชื่อนี้ถูกสร้างขึ้นมาเองโดยคอนสแตนตินและพระศาสนจักรเมื่อศตวรรษที่4"
ซึ่งนี่คือการสร้างความเชื่อที่เป็นเท็จให้กับคนทั่วไป และหากคริสตชนคนใดเชื่อตามนั้นก็เท่ากับไม่ใช่คริสตชนเพราะคือการไม่เชื่อว่าพระเยซูคือพระเจ้า
อยากรู้ไม๊ครับว่าพระเจ้าอยากเห็นอะไร
ไม่ใช่การนั่งเฉยๆแน่ๆครับ
1ทธ 1:3-7 การขจัดผู้สอนผิด
ขณะที่ออกเดินทางไปแคว้นมาซิโดเนีย ข้าพเจ้าขอร้องให้ท่านอยู่ในเมือง เอเฟซัสต่อไป เพื่อกำชับบางคนมิให้สอนผิด และให้เลิกสนใจเรื่องเทพนิยายและการลำดับวงศ์ตระกูลที่ไม่รู้จบ ซึ่งจะก่อให้เกิดปัญหามากกว่าที่จะช่วยให้เข้าใจแผนการที่พระเจ้าทรงแสดงให้เรารู้เพราะความเชื่อ จุดประสงค์ที่ข้าพเจ้าแนะนำดังนี้ก็คือความรักที่มาจากใจบริสุทธิ์ มาจากมโนธรรมที่ถูกต้องและมาจากความเชื่อแท้จริง บางคนหลงทางไปจากจุดประสงค์นี้ จึงเปลี่ยนไปพูดเรื่องไร้สาระ เพราะต้องการทำตนเป็นครูสอนธรรมบัญญัติ ทั้ง ๆ ที่ไม่เข้าใจสิ่งที่พูดและสิ่งที่ตนยืนยันอย่างมั่นใจ
2ทธ 4:1-5
ข้าพเจ้าขอกำชับท่านเฉพาะพระพักตร์ของพระเจ้า และเฉพาะพระพักตร์ของพระคริสตเยซูผู้จะทรงพิพากษาทั้งผู้เป็นและผู้ตาย โดยอ้างถึงการแสดงพระองค์และพระอาณาจักรของพระองค์ จงประกาศพระวาจา จงพร้อมสรรพทั้งเมื่อมีโอกาสและเมื่อไม่มีโอกาส จงว่ากล่าว จงตักเตือน จงให้กำลังใจ โดยพร่ำสอนด้วยความพากเพียรอย่างเต็มที่ จะถึงเวลาหนึ่งที่พวกเขาจะไม่ต้องการฟังคำสอนที่ถูกต้อง แต่จะแสวงหาครูจำนวนมากมาอยู่ร่วมกัน เพื่อจะได้สอนสิ่งที่ตนอยากฟัง พวกเขาจะไม่ยอมฟังความจริง แต่จะเปลี่ยนไปฟังเทพนิยาย ส่วนท่านจงหนักแน่นมั่นคงในทุกกรณี จงอดทนต่อความทุกข์ยาก จงทำงานของผู้ประกาศข่าวดี จงปฏิบัติศาสนบริการให้สำเร็จ
-----------------------------------
หน้าที่คริสตชนไม่ใช่หน้าที่ตัดสินให้ประหารใคร แต่ก็ไม่ใช่หน้าที่นั่งเฉยๆด้วยครับ
แต่พระคัมภีร์บอกแล้วว่าหน้าที่ของเราคือ ต้องสร้างความเชื่อที่ถูกต้อง ต้องแก้ไขความผิดหลงที่คนทำขึ้น และเราต้องยินดีกับความถูกต้อง และไม่สนับสนุนความชั่ว
1คร 13:6
ความรักไม่ยินดีในความชั่ว แต่ร่วมยินดีในความถูกต้อง
ผู้ที่เราควรต่อสู้ ไม่ใช่มนุษย์ที่ฆ่าเราได้แต่กาย แต่เป็นมารซาตานที่สามารถพาเราไปนรกได้ด้วย
สิ่งที่เราอยากเห็นมันล้มเหลว ไม่ใช่ตัวมนุษย์ แต่เป็น กิจการของมาร ที่กระทำผ่านมนุษย์คนนนั้นๆ
แก้ไขล่าสุดโดย Holy เมื่อ จันทร์ มี.ค. 06, 2006 1:58 am, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
ถ้าพระเจ้าใส่ภาระใจให้กับบางคน ให้เกิดความทุกข์ใจในเรื่องนี้ พระองค์ก็มีจุดประสงค์ให้เราออกไปทำอะไรบางอย่าง ไม่ใช่อยู่เฉยๆ
2คร 7:9
บัดนี้ ข้าพเจ้ามีความยินดี ไม่ใช่เพราะท่านได้มีความทุกข์ แต่เพราะความทุกข์นั้นทำให้ท่านกลับใจ ความทุกข์ใจของท่านเป็นไปตามพระประสงค์ของพระเจ้า ดังนั้น ท่านจึงไม่ได้รับความเสียหายใด ๆ จากเรา ความทุกข์ใจตามพระประสงค์ของพระเจ้าทำให้กลับใจ ทำให้รอดพ้น จึงไม่มีผู้ใดเสียใจ ส่วนความทุกข์ใจของโลกนำไปสู่ความตาย ความทุกข์ใจตามพระประสงค์ของพระเจ้าก่อให้เกิดผลดีหลายประการแก่ท่าน เช่น ความเอื้ออาทร การป้องกันตน ความไม่พอใจ ความกลัว ความปรารถนา ความกระตือรือร้น การลงโทษผู้ผิด ท่านได้พิสูจน์ตนเองแล้วว่าเป็นผู้บริสุทธิ์ในทุกเรื่องเหล่านี้
2คร 5:13
ถ้าเราเสียสติไปบ้าง เราก็เสียสติเพื่อพระเจ้า ถ้าเรามีสติสัมปชัญญะ เราก็มีสติเพื่อท่านทั้งหลาย เพราะความรักของพระคริสตเจ้าผลักดันเรา
2คร 7:9
บัดนี้ ข้าพเจ้ามีความยินดี ไม่ใช่เพราะท่านได้มีความทุกข์ แต่เพราะความทุกข์นั้นทำให้ท่านกลับใจ ความทุกข์ใจของท่านเป็นไปตามพระประสงค์ของพระเจ้า ดังนั้น ท่านจึงไม่ได้รับความเสียหายใด ๆ จากเรา ความทุกข์ใจตามพระประสงค์ของพระเจ้าทำให้กลับใจ ทำให้รอดพ้น จึงไม่มีผู้ใดเสียใจ ส่วนความทุกข์ใจของโลกนำไปสู่ความตาย ความทุกข์ใจตามพระประสงค์ของพระเจ้าก่อให้เกิดผลดีหลายประการแก่ท่าน เช่น ความเอื้ออาทร การป้องกันตน ความไม่พอใจ ความกลัว ความปรารถนา ความกระตือรือร้น การลงโทษผู้ผิด ท่านได้พิสูจน์ตนเองแล้วว่าเป็นผู้บริสุทธิ์ในทุกเรื่องเหล่านี้
2คร 5:13
ถ้าเราเสียสติไปบ้าง เราก็เสียสติเพื่อพระเจ้า ถ้าเรามีสติสัมปชัญญะ เราก็มีสติเพื่อท่านทั้งหลาย เพราะความรักของพระคริสตเจ้าผลักดันเรา
ยน 2:13 การชำระพระวิหาร
เทศกาลปัสกาของชาวยิวใกล้จะมาถึง พระเยซูเจ้าเสด็จขึ้นไปยังกรุงเยรูซาเล็ม ในบริเวณพระวิหาร พระองค์ทรงพบพ่อค้าขายโค พ่อค้าขายแกะ พ่อค้าขายนกพิราบ และคนแลกเงินนั่งอยู่ที่โต๊ะ พระองค์ทรงใช้เชือกเป็นแส้ ทรงขับไล่ทุกคนรวมทั้งแกะและโคออกจากพระวิหาร ทรงปัดเงินกระจายเกลื่อนกลาด และทรงคว่ำโต๊ะของผู้แลกเงิน แล้วตรัสแก่คนขายนกพิราบว่า
เทศกาลปัสกาของชาวยิวใกล้จะมาถึง พระเยซูเจ้าเสด็จขึ้นไปยังกรุงเยรูซาเล็ม ในบริเวณพระวิหาร พระองค์ทรงพบพ่อค้าขายโค พ่อค้าขายแกะ พ่อค้าขายนกพิราบ และคนแลกเงินนั่งอยู่ที่โต๊ะ พระองค์ทรงใช้เชือกเป็นแส้ ทรงขับไล่ทุกคนรวมทั้งแกะและโคออกจากพระวิหาร ทรงปัดเงินกระจายเกลื่อนกลาด และทรงคว่ำโต๊ะของผู้แลกเงิน แล้วตรัสแก่คนขายนกพิราบว่า
- fizzy vippie
- โพสต์: 371
- ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ ม.ค. 26, 2005 10:58 am
อยากจะบอกว่า ... นี่แหละพวกมาร ...
พอมันคิดว่าบ่อนทำลายพระศาสนจักรได้สำเร็จ
ก็เข้ามาแก่งแย่งความมีชื่อเสียงกันเองแล้วล่ะ
นักเขียนทั้งคู่ ไม่ได้เขียนเกี่ยวกับพระในแง่ดีเลย
พอเห็นว่าอีกฝ่ายนึงดูเหมือนจะดังกว่าตัว
ก็ตีกันเองซะแล้ว .... อย่าไปสนใจดีกว่า
ตีกันเข้าไป เดี๋ยวก็เจ๊งทั้งหนังและหนังสือเองนั่นแหละ
น้องๆปล่อยให้มันเป็นไปเถอะ ... แค่นี้ก็รู้แล้ว
ว่ายังไงๆ ซาตานก็ไม่มีทางจะเอาชนะองค์พระผู้เป็นเจ้าได้
พอมันคิดว่าบ่อนทำลายพระศาสนจักรได้สำเร็จ
ก็เข้ามาแก่งแย่งความมีชื่อเสียงกันเองแล้วล่ะ
นักเขียนทั้งคู่ ไม่ได้เขียนเกี่ยวกับพระในแง่ดีเลย
พอเห็นว่าอีกฝ่ายนึงดูเหมือนจะดังกว่าตัว
ก็ตีกันเองซะแล้ว .... อย่าไปสนใจดีกว่า
ตีกันเข้าไป เดี๋ยวก็เจ๊งทั้งหนังและหนังสือเองนั่นแหละ
น้องๆปล่อยให้มันเป็นไปเถอะ ... แค่นี้ก็รู้แล้ว
ว่ายังไงๆ ซาตานก็ไม่มีทางจะเอาชนะองค์พระผู้เป็นเจ้าได้
- -*-St.GrEGoRY-*-
- โพสต์: 309
- ลงทะเบียนเมื่อ: พฤหัสฯ. ธ.ค. 15, 2005 2:06 pm
เข้าโรงเมื่อไหร่ คาดว่าคนคงไปดูกันเยอะแน่ๆๆๆๆ และคนก้จะเข้าใจผิดกานอีกเยอะเหอะๆๆๆๆ
ก็เป็น หน้าที่ของเราทุกคน-*-St.GrEGoRY-*- เขียน: เข้าโรงเมื่อไหร่ คาดว่าคนคงไปดูกันเยอะแน่ๆๆๆๆ และคนก้จะเข้าใจผิดกานอีกเยอะเหอะๆๆๆๆ
ลูกแกะของพระเจ้า
ที่จะให้ความเข้าใจที่ถูกต้องนะครับ ;)
เรื่องนี้ร้ายกาจมาก หลอกลวงคนกว่าครึ่งโลก
เป็นการโกหกที่ร้ายกาจมาก
เป็นการโกหกที่ร้ายกาจมาก
อ่านแล้วรู้สึกสะเทือนใจครับ สงสารพระเหลือเกินที่ต้องโดนลบหลู่พระเกียรติ
โปรดเมตตาและประทานความสว่างในจิตใจแก่ทุกคนด้วยเทอญ
โปรดเมตตาและประทานความสว่างในจิตใจแก่ทุกคนด้วยเทอญ