ปรีชาญาณมีประโยชน์มากกว่าความรู้ทั้งปวงที่หามาได้
โพสต์แล้ว: ศุกร์ มี.ค. 10, 2006 4:38 am
บทที่ 1
ปรีชาญาณมีประโยชน์มากกว่าความรู้ทั้งปวงที่หามาได้
พระเจ้าตรัส
1. คำพูดของเราหวานเหมือนน้ำผึ้งสำหรับผู้ที่รักคำสอนของเรา และถือบัญญัติของเรา
2. แต่เสียงของเราเป็นพายุร้ายแบบถอนต้นสนสีดาแห่งเลบานอนสำหรับผู้ที่ดูหมิ่นคำแนะนำของเรา และคิดว่าตัวเองใหญ่ เขาทำบาปในความรู้ของเขา
3.ความอธรรมมีชัยในความหายนะ แต่ความชอบธรรมมีชัยในสิริมงคลเสมอ
4.คนชั่วยิ่งยกตัวเองก็ยิ่งตกต่ำ ส่วนคนดีมีธรรมยิ่งถ่อมตัวลงก็ยิ่งถูกยกให้สูงขึ้น
5. คนจองหองจะได้ยินเสียงของเรา แต่หาเข้าใจไม่
6. คนสภาพถ่อมตนจะฟังคำสอนของเรา และจะได้รับความบรรเทา
7. ยิ่งคำพูดของเราลงลึกในตัวลูกมากเพียงใด ลูกก็จะยิ่งไตร่ตรองลึกซึ้งได้มากเพียงนั้น
8. ยิ่งนักปราชญ์ที่ไม่เอาพระเจ้าจองหองพองขนมากเพียงใด เขาก็จะยิ่งไม่เห็นการไขแสดงในงานของเรามากเพียงนั้น
9. เขาเท่านั้นจะได้ยินเสียงของเราและได้รับประโยชน์ จะเข้าใจสิ่งที่เราพูดคือคนที่คิดถึงความรู้ของตัวเองน้อย แต่กระหายสัจธรรมนิรันดรและความรู้ของบรรดานักบุญ
10. เมื่อนั้นแหละความรู้ของมนุษย์จะเป็นประโยชน์แก่เขา เพราะความจริงทุกอย่างล้วนเป็นสักขึพยานถึงความดีงามและพระปรีชาญาณของเรา
11. เมื่อนั้นผู้ถ่อมตนจะเป็นผู้รู้ และผู้รู้ที่มีใจซื่อบริสุทธิ์ก็จะเป็นผู้ถ่อมตน
12.ความสุภาพถ่อมตนใหนแสงสว่างแก่สติปัญญามากกว่าความรู้ทางโลกที่หล่อเลี้ยงความจองหองพองขน
13.การศึกษาเล่าเรียนเพื่อรู้อย่างเดียวเป็นสิ่งอนิจจัง ถ้าชีวิตไม่มี
14.การเรียนรู้เพื่อจะได้หน้าให้ตนชมว่าเป็นผู้มีความรู้เป็นความโอ้อวดที่สุด คนเช่นนี้สมองไม่ได้พัก
15.การเรียนรู้เพื่อเอาเปรียบคนใจซื่อ เป็นการหลอกลวงและเป็นความชั่วร้ายของคนหยิ่งจองหอง
16. บุญของผู้ที่เชื่อ เพราะเขาจะเข้าใจความล้ำลึกมากมายของชีวิต และจะไม่ตกเป็นเหยื่อของนักปราชญ์เทียม
17. บุญของผู้ที่มีความรู้และสุภาพถ่อมตน เหตุว่าเขาจะได้ปรีชาญาณแห่งความเชื่อเป็นกรรมสิทธิ์ ความเชื่อที่ส่องสว่างจิตใจ ใจที่สว่างนี้แหละจะเป็นประโยชน์แก่เพื่อน ๆ ที่ประสบปัญหาชีวิต
18.คนที่เชื่อและสอนพี่น้องของเราอย่างสุภาพจะพบความบรรเทาใจในคำสอนของเราและจะได้จิตตารมณ์การดำเนินชีวิตท่ามกลางคำพูดมากมายของเรา
19.ถ้าพระเจ้าแห่งความรู้ทรงพระกรุณาส่องสว่างแก่ลูก ลูกจงทำงานเป็นสาวกแห่งความจริงตามฐานะของลูกเถิด
20.ยิ่งลูกเรียนรู้พระศาสนจักรมากเพียงใด ลูกก็จะยิ่งเป็นคนสุภาพถ่อมตนในการพิพากษาตัดสิน และจะปลอดภัยในการเรียนรู้มากเพียงนั้น
ปรีชาญาณมีประโยชน์มากกว่าความรู้ทั้งปวงที่หามาได้
พระเจ้าตรัส
1. คำพูดของเราหวานเหมือนน้ำผึ้งสำหรับผู้ที่รักคำสอนของเรา และถือบัญญัติของเรา
2. แต่เสียงของเราเป็นพายุร้ายแบบถอนต้นสนสีดาแห่งเลบานอนสำหรับผู้ที่ดูหมิ่นคำแนะนำของเรา และคิดว่าตัวเองใหญ่ เขาทำบาปในความรู้ของเขา
3.ความอธรรมมีชัยในความหายนะ แต่ความชอบธรรมมีชัยในสิริมงคลเสมอ
4.คนชั่วยิ่งยกตัวเองก็ยิ่งตกต่ำ ส่วนคนดีมีธรรมยิ่งถ่อมตัวลงก็ยิ่งถูกยกให้สูงขึ้น
5. คนจองหองจะได้ยินเสียงของเรา แต่หาเข้าใจไม่
6. คนสภาพถ่อมตนจะฟังคำสอนของเรา และจะได้รับความบรรเทา
7. ยิ่งคำพูดของเราลงลึกในตัวลูกมากเพียงใด ลูกก็จะยิ่งไตร่ตรองลึกซึ้งได้มากเพียงนั้น
8. ยิ่งนักปราชญ์ที่ไม่เอาพระเจ้าจองหองพองขนมากเพียงใด เขาก็จะยิ่งไม่เห็นการไขแสดงในงานของเรามากเพียงนั้น
9. เขาเท่านั้นจะได้ยินเสียงของเราและได้รับประโยชน์ จะเข้าใจสิ่งที่เราพูดคือคนที่คิดถึงความรู้ของตัวเองน้อย แต่กระหายสัจธรรมนิรันดรและความรู้ของบรรดานักบุญ
10. เมื่อนั้นแหละความรู้ของมนุษย์จะเป็นประโยชน์แก่เขา เพราะความจริงทุกอย่างล้วนเป็นสักขึพยานถึงความดีงามและพระปรีชาญาณของเรา
11. เมื่อนั้นผู้ถ่อมตนจะเป็นผู้รู้ และผู้รู้ที่มีใจซื่อบริสุทธิ์ก็จะเป็นผู้ถ่อมตน
12.ความสุภาพถ่อมตนใหนแสงสว่างแก่สติปัญญามากกว่าความรู้ทางโลกที่หล่อเลี้ยงความจองหองพองขน
13.การศึกษาเล่าเรียนเพื่อรู้อย่างเดียวเป็นสิ่งอนิจจัง ถ้าชีวิตไม่มี
14.การเรียนรู้เพื่อจะได้หน้าให้ตนชมว่าเป็นผู้มีความรู้เป็นความโอ้อวดที่สุด คนเช่นนี้สมองไม่ได้พัก
15.การเรียนรู้เพื่อเอาเปรียบคนใจซื่อ เป็นการหลอกลวงและเป็นความชั่วร้ายของคนหยิ่งจองหอง
16. บุญของผู้ที่เชื่อ เพราะเขาจะเข้าใจความล้ำลึกมากมายของชีวิต และจะไม่ตกเป็นเหยื่อของนักปราชญ์เทียม
17. บุญของผู้ที่มีความรู้และสุภาพถ่อมตน เหตุว่าเขาจะได้ปรีชาญาณแห่งความเชื่อเป็นกรรมสิทธิ์ ความเชื่อที่ส่องสว่างจิตใจ ใจที่สว่างนี้แหละจะเป็นประโยชน์แก่เพื่อน ๆ ที่ประสบปัญหาชีวิต
18.คนที่เชื่อและสอนพี่น้องของเราอย่างสุภาพจะพบความบรรเทาใจในคำสอนของเราและจะได้จิตตารมณ์การดำเนินชีวิตท่ามกลางคำพูดมากมายของเรา
19.ถ้าพระเจ้าแห่งความรู้ทรงพระกรุณาส่องสว่างแก่ลูก ลูกจงทำงานเป็นสาวกแห่งความจริงตามฐานะของลูกเถิด
20.ยิ่งลูกเรียนรู้พระศาสนจักรมากเพียงใด ลูกก็จะยิ่งเป็นคนสุภาพถ่อมตนในการพิพากษาตัดสิน และจะปลอดภัยในการเรียนรู้มากเพียงนั้น