อ่านแล้ว สงสัยอีก ช่วยด้วย

ถาม-ตอบพระคัมภีร์ เรื่องเสริมศรัทธา ความรู้ และสาระ บทความ ในคริสตศาสนา
ตอบกลับโพส
boylife
โพสต์: 315
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ ธ.ค. 14, 2005 8:27 pm
ที่อยู่: Nakhonnayok

ศุกร์ มี.ค. 17, 2006 10:49 pm

ในพระคัมภีร์หมายความว่าไงอ่ะ
เรียนแล้ว ลืมอีกแล้ว แง้ว
มธ 5:1-12 ความสุขแท้จริง
(1) พระเยซูเจ้าทอดพระเนตรเห็นประชาชนมากมาย จึงเสด็จขึ้นบนภูเขา เมื่อประทับแล้ว บรรดาศิษย์เข้ามาห้อมล้อมพระองค์
(2) พระองค์ทรงเริ่มตรัสสอนว่า
(3)
ภาพประจำตัวสมาชิก
Zion
~@
โพสต์: 3777
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 8:37 pm
ติดต่อ:

ศุกร์ มี.ค. 17, 2006 11:06 pm

มนุษย์ เป็นผู้ ขาดแคลน
แต่พระเจ้าจะเติมเต็ม :-*

(จะงงกว่าเดิมไหมนะ :-\)
ภาพประจำตัวสมาชิก
~@Little lamb@~
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 9396
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:00 pm
ติดต่อ:

ศุกร์ มี.ค. 17, 2006 11:25 pm

"บุคคลใดรู้สึกบกพร่องฝ่ายวิญญาณ ผู้นั้นก็เป็นสุข เพราะแผ่นดินจากสวรรค์เป็นของเขา"

สมัยก่อนใช้คำว่า "จิตใจยากจน" แทน "บกพร่องฝ่ายวิญญาณ" หมายถึง การที่บุคคลนั้น มีความสำนึกตนว่าเป็นคนบาป และทูลขอโทษพระเจ้า ผู้นั่นก็จะได้แผ่นดินสวรรค์ การมีจิตใจยากจน แสดงถึงความพอใจในสิ่งที่ตนเองมีอยู่ ไม่ยึดติดกับสิ่งของทางโลก สำนึกตนว่า ตนเองยังบกพร่องด้านจิตใจ มีใจสุภาพถ่อมตน ไม่อวดหยิ่ง จองหอง ไม่ตกเป็นทาสของอารมรณ์ มีความเป็นอิสระจากสิ่งทั้งปวง มีสภาวะจิตใจที่เติบโต ผู้นั้นก็จะได้แผ่นดินสวรรค์ คือสภาวะแห่งความสุข ความเป็นอิสระจากสิ่งทั้งปวงเป็นรางวัล


"บุคคลใดมีใจอ่อนโยน ผู้นั้นก็เป็นสุข เพราะเขาจะได้รับแผ่นดินโลกเป็นมรดก

ผู้ที่มีจิตใจอ่อนโยน ก็ย่อมจะเป็นที่รักของทุกคนในโลกนี้ เปรียบเหมือนการได้แผ่นดินโลกไว้เป็นกรรมสิทธิ์ เพราะบุคคลอันเป็นที่รักของทุกคนไปที่ไหนย่อมมีคนต้อนรับ อยากให้เข้าร่วมสังคมด้วย ความอ่อนโยนไม่ได้หมายถึงความอ่อนแอที่ยอมไปทุกเรื่อง การอ่อนโยนจะต้องมีพื้นฐานอยู่บนเหตุผลและความถูกต้องของ สังคมศีลธรรมเสมอ


"บุคคลใดมีใจกรุณา ผู้นั้นก็เป็นสุข เพราะว่าเขาจะได้รับพระกรุณาตอบ"

บุคคลใดที่มีจิตใจกรุณา พระเจ้าก็ทรงพอพระทัยเขายิ่งกว่าคนที่ทำบุญเสียอีก เพราะการให้ มีคุณค่ามากกว่าการรับ โดยเฉพาะการให้แก่คนที่มีความต้องการ หรือคนที่ด้อยโอกาสในสังคมคริสตชนทุกคน จึงควรเป็นผู้มีจิตเมตตากรุณาต่อผู้อื่น โดยเฉพาะคนยากจน คนตกทุกข์ได้ยาก คนเจ็บป่วย คนชรา เด็กพิการและเด็กด้อยโอกาส เพราะเขาก็จะได้รับพระกรุณาจากพระเจ้า เป็นการตอบแทนเช่นกัน


"บุคคลใดโศกเศร้า ผู้นั้นก็เป็นสุข เพราะว่าเขาจะได้รับการปลอบประโลม"

แม้ว่าเราจะพบกับความเศร้าโศกในบางครั้ง เราจะพบว่า พระเจ้ามิได้ทรงทอดทิ้งเราให้อยู่ตามลำพัง พระองค์จะประทับอยู่กับเรา และคอยปลอบประโลมใจเราเสมอ การที่เรามีความทุกข์ เราจะนึกถึงพระ และได้รับพระเมตตาจากพระองค์ในที่สุด จงยอมรับว่า เราเป็นทุกข์ และมันไม่ได้เป็นนายเหนือเรา การเป็นสุข เกิดจากการยอมรับว่าตนเองเป็นผู้มีความทุกข์ และยอมรับสภาพแห่งทุกข์นั้น พร้อมที่จะเข้าพึ่งพาอาศัยพระเมตตาจากพระเจ้า การเป็นทุกข์เกิดจากความไม่เป็นอิสระของใจเรา การตกเป็นทาสของอารมณ์ การไม่ปล่อยวาง และเมื่อเรายอมรับได้ เมื่อนั้น เราจะพบว่า เราได้รับการปลอบโยนจากพระองค์ผู้ไม่เคยทอดทิ้งเรา



"บุคคลใดมีความหิวกระหายความชอบธรรม ผู้นั้นก็เป็นสุข เพระว่าพระเจ้าจะทรงให้อิ่มสมบูรณ์"

ผู้ที่ยึดมั่นในความชอบธรรม ด้วยการปฏิบัติตามพระวาจาของพระเจ้าพระองค์จะทรงประทานบำเหน็จให้เขา ในวันที่เขาจะต้องได้รับการพิพากษา เพราะเมื่อเรารักความชอบธรรม หรือแสวงหาความชอบธรรม (อย่างมีสันติ) เราจะไม่รู้สึกว่าตนเองถูกข่มเหง เบียดเบียน ไม่แสวงหาความสุขใส่ตน แต่ทำเพื่อผู้อื่น เราก็จะเป็นคนดีพร้อมในสายพระเนตรของพระเจ้าเสมอ


"บุคคลใดมีจิตใจบริสุทธิ์ เขาจะได้เห็นพระเจ้า"

ผู้ที่มีจิตใจบริสุทธิ์ คือผู้ที่ไม่คิดร้ายต่อใคร ไม่ทำบาป หรือทำความผิดต่อพระเจ้า และคนอื่น มีมโนธรรมที่เที่ยงตรง ยำเกรงพระเจ้า ซื่อ ๆ สงบ มีสันติในจิตใจ เขาก็จะได้เห็นพระเจ้า เมื่อเวลาที่เขาจากโลกนี้ไปแล้ว เพราะพระเจ้า คือจิตที่บริสุทธิ์ คนที่จะพบพระเจ้าได้ จะต้องเป็นผู้ที่มีจิตใจบริสุทธิ์เช่นเดียวกัน


"บุคคลใดสร้างสันติ ผู้นั้นก็เป็นสุข เพราะว่าพระเจ้าจะทรงเรียกเขาเป็นบุตร"

ผู้ที่อยู่กับผู้อื่นอย่างสันติ ผู้นั้นก็จะได้เข้าใกล้ชิดพระเจ้า เพราะพระเจ้าเป็นองค์แห่งความสันติ ไม่ใช่องค์แห่งความวุ่นวาย ถ้าเราไม่มีสันติในจิตใจ คือ มีจิตใจที่อาฆาต พยาบาท เป็นจิตชั่วของปีศาจ ไม่ใช่จิตของพระเจ้า ดังนั้น ผู้ที่ดำรงตนอยู่ในสันติ จะต้องสร้างความปรองดองในหมู่ชน ไม่เว้นแม้แต่กับบุคคลที่เราไม่ชอบ หรือศัตรู เพราะพระเจ้าทรงรักมนุษย์ทุกคน ในฐานะที่เป็นพระบิดาของทุกคน เมื่อเราสร้างสันติเกิดขึ้น เท่ากับเราเป็นพี่น้องของเขา เราก็จะได้เป็นบุตรของพระเจ้าเช่นกัน


"บุคคลผู้ใดถูกข่มเหง เพราะเหตุของความชอบธรรม ผู้นั้นก็เป็นสุข เพราะว่าแผ่นดินสวรรค์ก็เป็นของเขา"

ผู้ที่ถูกข่มเหง เพราะความเชื่อที่เขามีต่อพระเจ้า หรือเพราะการกระทำดีตามพระวาจาของพระเจ้า เขาก็จะได้รับบำเหน็จในสวรรค์ ในชีวิตของเรามักจะถูกเบียดเบียนจากความอยุติธรรม เพราะเราจะหาความยุติธรรมบนโลกนี้ได้น้อยมาก แต่พระเจ้าจะประทานความยุติธรรมให้อย่างแน่นอน ทั้งในโลกนี้และโลกหน้า





จากนี่คะ

http://www.mariarosa.org/teach5.html
แก้ไขล่าสุดโดย Anonymous เมื่อ ศุกร์ มี.ค. 17, 2006 11:26 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
Divine Mercy

ศุกร์ มี.ค. 17, 2006 11:55 pm

เรื่องนี้เป็นพระโอวาทพื้นฐานของการดำเนินชีวิตในโลกนี้ เรียกว่า ความสุขแท้ หรือบุญลาภ 8 ประการครับ ถ้าจะให้อธิบายทีละข้อก็คือ

1.จงมีใจยากจน คือ การไม่ผูกใจติดกับทรัพย์สินเงินทอง ทำมาหากินสุจริตไม่คดโกง
2.เมื่อประสบความทุกข์ร้อน ทั้งฝ่ายกายและใจ ก็ต้องมีความเชื่อ วางใจในพระเจ้า เปลี่ยนความทุกข์ให้เป็นความชื่นชมยินดี
3.จงมีจิตใจสุภาพอ่อนโยนต่อทุกคน แม้กระทั่งศัตรู หาก "ผู้ใดยกตนเองขึ้น จะถูกกดให้ต่ำลง และผู้ใดที่ถ่อมตัวลง ก็จะได้รับยกย่องให้สูงขึ้น"(มธ.23:12)
4.จงหิวกระหายความยุติธรรม ไม่เอารัดเอาเปรียบใคร แล้วจะมีความชุ่มชื่นสบายอกสบายใจเป็นการตอบแทน
5.จงมีใจเมตตากรุณา ต่อผู้ที่ยากจน ผู้ที่รับทุกข์เดือดร้อนเพราะพระเจ้าทรงรักเขาทุกคนเช่นเดียวกับเรา
6.จงมีใจบริสุทธิ์ ไม่หลงไหลเรื่องกิเลสตัณหา ไม่อาฆาตพยาบาท ไม่ฝักใฝ่แต่เรื่องการกินการดื่ม พระเจ้าจะทรงอวยพระพร
7. จงดำเนินชีวิตโดยสร้างสันติ ไม่เบียดเบียน ข่มเหงใคร สร้างสันติในครอบครัว ในสังคมและประเทศชาติ จะได้ชื่อว่าเป็นบุตรของพระเจ้า
8. จงยืนหยัดถึงความชอบธรรม ความถูกต้อง ในการดำเนินชีวิตตามหนทางของพระ แม้จะต้องเอาชีวิตเข้าแลก เพราะจะเป็นผู้มีบุญในสายพระเนตรของพระเจ้า

ก็พอสรุปได้ว่า ถ้าเรายึดหลักความสุขแท้ หรือบุญลาภ 8 ประการ ที่พระเยซูเจ้าทรงมอบแก่เรา นำมาปฏิบัติในชีวิตประจำวันเราจะได้ชื่อว่าเป็น "ผู้มีบุญ" หรือมีความสุขแท้เช่นเดียวกับพระแม่มารีของเรา ขอพระเจ้าและแม่พระอวยพระพรนะครับ
พระเจ้าสถิตย์กับเราเสมอ
~@
โพสต์: 2546
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 10:54 pm

เสาร์ มี.ค. 18, 2006 2:18 am

ครับผมที่พี่ๆยกมานั้นได้อธิบายไปหมดแล้ว แต่ผมขอเสริมที่ว่า

คือคริสตชนเรามองโลกนี้เป็นเพียงทางผ่านอะครับ เราให้ความสำคัญกับวิญญาณมากกว่า ถ้าใครทนทุกข์ทรมาณในโลกนี้เพราะว่าเราหวังให้วิญญาณของเรารอดพ้น(ถูกโจมตี กีดกันทางความเชื่อ)ก็ย่อมเป็นสุขครับ เพราะสิ่งที่เราจะได้หลังจากตายไปแล้วคือแผ่นดินสวรรค์ ....นั่นคือความสุขของเราคริสต์ชนไม่ได้เกิดขึ้นอยู่กับสิ่งที่ไม่นิรันดร์บนโลกนี้ครับ แต่อยู่ในอาณาจักรสวรรค์ที่เป็นนิรันดร์โลกหน้า
ตอบกลับโพส