พิธีกรรมในสัปดาห์ศักดิ์สิทธิ์ ปี B
วันอาทิตย์ใบลาน
ความหมาย :: เป็นวันเริ่มต้นของอาทิตย์พระมหาทรมานของพระเยซูคริสตเจ้า พระศาสนจักรจัดให้มีพิธีระลึกถึงพระคริสตเจ้า เสด็จเข้ากรุงเยรูซาเล็ม เพื่อเข้าสู่ช่วงสุดท้ายของการดำเนินชีวิตที่จะทำให้ธรรมล้ำลึกแห่งปัสกาสำเร็จไป
พิธีกรรม :: อ่านเรื่องราวของพระเยซูเจ้าเสด็จเข้ากรุงเยรูซาเล็ม ณ สถานที่ได้จัดเตรียมไว้ภายนอกวัด และแห่ใบลาน/อ่านพระมหาทรมานของพระเยซูเจ้าทั้งหมด ในช่วงอ่านพระวรสารประจำอาทิตย์
ขั้นตอน :: เสกใบลาน แห่ใบลานอย่างสง่า เข้าโบสถ์ ฟังพระวรสาร วันนี้อ่านพระทรมานของพระเยซูเจ้ามีผู้ร่วมอ่านเป็นผู้เล่าพระทรมาน ผู้พูดซึ่งจะอ่านคำพูดต่างๆ พร้อมกับเนื้อเรื่อง พระสงฆ์อ่าน ในส่วนที่เป็นเนื้อเรื่องของพระคริสตเจ้า
ข้อพึงปฏิบัติ ::
1. ทุกครั้งที่เราเดินข้ามธรณีประตูเข้าสู่วัดเราพึงเตือนใจเราเสมอว่าเรากำลังเดินแห่เข้าสู่กรุงเยรูซาเล็มเพื่อร่วมการถวายชีวิตพร้อมกับพระองค์ ณ พระแท่นบูชา
2. พึงสวมจิตใจแบบพระเยซูเจ้า ที่ยินดีเป็นผู้รับใช้ของพระเจ้า ยอมให้ความทุกข์ยากลำบากต่าง ๆ ตกลงบนชีวิตของตนและร้องขอพระเมตตาจากพระเจ้า และให้เรานำเอาความอ่อนแอ ความผิดบาปทั้งหลายที่กระทำเหมือนบุคคลต่าง ๆ ในภาคพระมหาทรมานขึ้นถวายแด่พระบิดา เพื่อขอรับการอภัยและรับพละกำลังที่จะเริ่มต้นชีวิตใหม่อีกครั้ง
พระทรมานของพระเยซูคริสตเจ้าจากพระวรสารนักบุญมาระโก (มก. 14:1-15:47)
พอรุ่งเช้า พวกมหาปุโรหิตพร้อมกับพวกผู้ใหญ่และพวกธรรมาจารย์ และบรรดาสมาชิกสภาซันเฮดรินทุกคน ได้วางแผนการไว้แล้ว จึงมัดพระเยซูเจ้านำไปมอบให้ปิลาต
ปิลาตจึงถามพระเยซูเจ้าว่า
พ.
ความหมาย :: เป็นวันเริ่มต้นของอาทิตย์พระมหาทรมานของพระเยซูคริสตเจ้า พระศาสนจักรจัดให้มีพิธีระลึกถึงพระคริสตเจ้า เสด็จเข้ากรุงเยรูซาเล็ม เพื่อเข้าสู่ช่วงสุดท้ายของการดำเนินชีวิตที่จะทำให้ธรรมล้ำลึกแห่งปัสกาสำเร็จไป
พิธีกรรม :: อ่านเรื่องราวของพระเยซูเจ้าเสด็จเข้ากรุงเยรูซาเล็ม ณ สถานที่ได้จัดเตรียมไว้ภายนอกวัด และแห่ใบลาน/อ่านพระมหาทรมานของพระเยซูเจ้าทั้งหมด ในช่วงอ่านพระวรสารประจำอาทิตย์
ขั้นตอน :: เสกใบลาน แห่ใบลานอย่างสง่า เข้าโบสถ์ ฟังพระวรสาร วันนี้อ่านพระทรมานของพระเยซูเจ้ามีผู้ร่วมอ่านเป็นผู้เล่าพระทรมาน ผู้พูดซึ่งจะอ่านคำพูดต่างๆ พร้อมกับเนื้อเรื่อง พระสงฆ์อ่าน ในส่วนที่เป็นเนื้อเรื่องของพระคริสตเจ้า
ข้อพึงปฏิบัติ ::
1. ทุกครั้งที่เราเดินข้ามธรณีประตูเข้าสู่วัดเราพึงเตือนใจเราเสมอว่าเรากำลังเดินแห่เข้าสู่กรุงเยรูซาเล็มเพื่อร่วมการถวายชีวิตพร้อมกับพระองค์ ณ พระแท่นบูชา
2. พึงสวมจิตใจแบบพระเยซูเจ้า ที่ยินดีเป็นผู้รับใช้ของพระเจ้า ยอมให้ความทุกข์ยากลำบากต่าง ๆ ตกลงบนชีวิตของตนและร้องขอพระเมตตาจากพระเจ้า และให้เรานำเอาความอ่อนแอ ความผิดบาปทั้งหลายที่กระทำเหมือนบุคคลต่าง ๆ ในภาคพระมหาทรมานขึ้นถวายแด่พระบิดา เพื่อขอรับการอภัยและรับพละกำลังที่จะเริ่มต้นชีวิตใหม่อีกครั้ง
พระทรมานของพระเยซูคริสตเจ้าจากพระวรสารนักบุญมาระโก (มก. 14:1-15:47)
พอรุ่งเช้า พวกมหาปุโรหิตพร้อมกับพวกผู้ใหญ่และพวกธรรมาจารย์ และบรรดาสมาชิกสภาซันเฮดรินทุกคน ได้วางแผนการไว้แล้ว จึงมัดพระเยซูเจ้านำไปมอบให้ปิลาต
ปิลาตจึงถามพระเยซูเจ้าว่า
พ.
แก้ไขล่าสุดโดย Divine Mercy เมื่อ อาทิตย์ เม.ย. 09, 2006 12:42 am, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
วันอังคารสัปดาห์ศักดิ์สิทธิ์
บทอ่านจากหนังสือประกาศกอิสยาห์ อสย 49.1-6
บรรดาเกาะทั้งหลายเอ๋ย จงฟังข้าพเจ้าเถิด
ประชาชนที่อยู่สุดแดนไกล จงตั้งใจฟังเถิด
พระเจ้าทรงเรียกข้าพเจ้าก่อนที่ข้าพเจ้าจะเกิดมา
พระองค์ทรงขานชื่นข้าพเจ้าตั้งแต่ในครรภ์มารดา
พระองค์ทรงทำให้ปากข้าพเจ้าเหมือนดาบคม
ทรงซ่อนข้าพเจ้าไว้ในร่มพระหัตถ์ของพระองค์
ทรงกระทำให้ข้าพเจ้าเป็นลูกศรแหลมคม
และทรงซ่อนข้าพเจ้าไว้ในแล่งเก็บลูกศรของพระองค์
พระองค์ทรงตรัสกับข้าพเจ้าว่า
บทอ่านจากหนังสือประกาศกอิสยาห์ อสย 49.1-6
บรรดาเกาะทั้งหลายเอ๋ย จงฟังข้าพเจ้าเถิด
ประชาชนที่อยู่สุดแดนไกล จงตั้งใจฟังเถิด
พระเจ้าทรงเรียกข้าพเจ้าก่อนที่ข้าพเจ้าจะเกิดมา
พระองค์ทรงขานชื่นข้าพเจ้าตั้งแต่ในครรภ์มารดา
พระองค์ทรงทำให้ปากข้าพเจ้าเหมือนดาบคม
ทรงซ่อนข้าพเจ้าไว้ในร่มพระหัตถ์ของพระองค์
ทรงกระทำให้ข้าพเจ้าเป็นลูกศรแหลมคม
และทรงซ่อนข้าพเจ้าไว้ในแล่งเก็บลูกศรของพระองค์
พระองค์ทรงตรัสกับข้าพเจ้าว่า
วันพฤหัสศักดิ์สิทธิ์ (ระลึกถึงการตั้งศีลมหาสนิท และศีลบวช)
ความหมาย :: เป็นวันที่ระลึกถึงการสถาปนาการศีลบวชเป็นพระสงฆ์ และการตั้งศีลมหาสนิทของพระเยซูเจ้า
พิธีกรรม :: มิสซาตอนเสกน้ำมันศักดิ์สิทธิ์ในช่วงเช้าที่อาสนวิหารอัสสัมชัญ และมิสซาระลึกถึงงานเลี้ยงของพระเยซูเจ้าในตอนค่ำ มีพิธีล้างเท้า และหลังมิสซาบูชาขอบพระคุณ เฝ้าศีลมหาสนิท
ขั้นตอน :: มิสซาช่วงเช้า รื้อฟื้นคำสัญญาแห่งการเป็นพระสงฆ์ พิธีเสกน้ำมันศักดิ์สิทธิ์ ต่างๆในพิธีมิสซา และมิสซาตอนเย็นระลึกถึงงานเลี้ยงของพระเยซูเจ้า เริ่มพิธีกรรมภาควจนพิธีกรรม และล้างเท้าต่อด้วยภาคบูชาขอบพระคุณ จบด้วยการแห่ศีลไปเก็บไว้ในที่ๆจัดไว้
ข้อพึงปฏิบัติ ::
1. ภาวนาให้พระสงฆ์ในวัดของท่าน ให้ซื่อสัตย์ในการปฏิบัติหน้าที่ และมั่นคงในคำสัญญาแห่งการเป็นพระสงฆ์ของท่าน ร่วมมือกับพระสงฆ์ในวัดของท่าน เพื่อให้สามารถปฏิบัติหน้าที่แห่งการเป็นพระสงฆ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพครบสมบูรณ์
2. ภาวนาและส่งเสริมให้มีกระแสเรียกในการเป็นพระสงฆ์มาก ๆ ในสังฆมณฑลของเรา
3. ร่วมทุกข์กับพระเยซูเจ้าต่อหน้าศีลมหาสนิท
บทอ่านจากหนังสืออพยพ อพย . 12:1-8, 11-14
ในสมัยนั้น พระเจ้าตรัสกับโมเสสและอาโรนในแผ่นดินอียิปต์ว่า
ความหมาย :: เป็นวันที่ระลึกถึงการสถาปนาการศีลบวชเป็นพระสงฆ์ และการตั้งศีลมหาสนิทของพระเยซูเจ้า
พิธีกรรม :: มิสซาตอนเสกน้ำมันศักดิ์สิทธิ์ในช่วงเช้าที่อาสนวิหารอัสสัมชัญ และมิสซาระลึกถึงงานเลี้ยงของพระเยซูเจ้าในตอนค่ำ มีพิธีล้างเท้า และหลังมิสซาบูชาขอบพระคุณ เฝ้าศีลมหาสนิท
ขั้นตอน :: มิสซาช่วงเช้า รื้อฟื้นคำสัญญาแห่งการเป็นพระสงฆ์ พิธีเสกน้ำมันศักดิ์สิทธิ์ ต่างๆในพิธีมิสซา และมิสซาตอนเย็นระลึกถึงงานเลี้ยงของพระเยซูเจ้า เริ่มพิธีกรรมภาควจนพิธีกรรม และล้างเท้าต่อด้วยภาคบูชาขอบพระคุณ จบด้วยการแห่ศีลไปเก็บไว้ในที่ๆจัดไว้
ข้อพึงปฏิบัติ ::
1. ภาวนาให้พระสงฆ์ในวัดของท่าน ให้ซื่อสัตย์ในการปฏิบัติหน้าที่ และมั่นคงในคำสัญญาแห่งการเป็นพระสงฆ์ของท่าน ร่วมมือกับพระสงฆ์ในวัดของท่าน เพื่อให้สามารถปฏิบัติหน้าที่แห่งการเป็นพระสงฆ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพครบสมบูรณ์
2. ภาวนาและส่งเสริมให้มีกระแสเรียกในการเป็นพระสงฆ์มาก ๆ ในสังฆมณฑลของเรา
3. ร่วมทุกข์กับพระเยซูเจ้าต่อหน้าศีลมหาสนิท
บทอ่านจากหนังสืออพยพ อพย . 12:1-8, 11-14
ในสมัยนั้น พระเจ้าตรัสกับโมเสสและอาโรนในแผ่นดินอียิปต์ว่า
แก้ไขล่าสุดโดย Divine Mercy เมื่อ อาทิตย์ เม.ย. 09, 2006 12:53 am, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
วันศุกร์ศักดิ์สิทธิ์ (ระลึกถึงการสิ้นพระชนม์ของพระเยซูเจ้า)
ความหมาย :: เป็นวันแห่งการร่วมในพระมหาทรมานกับพระคริสตเจ้า (อดเนื้อ อดอาหาร)
พิธีกรรม :: เดินรูป 14 ภาค/ฟังพระมหาทรมานของพระเยซูเจ้า ในภาควจนพิธีกรรม/พิธีนมัสการกางเขน/และรับศีลมหาสนิท
ขั้นตอน :: ตลอดทั้งวันไม่ประกอบพิธีศักดิ์สิทธิ์ใดๆ ราวบ่ายสามโมง หรือในช่วงเวลาที่เหมาะสมของแต่ละวัดมีการประกอบพิธีระลึกถึงพระมหาทรมานของพระคริสตเจ้า ซึ่งมีสามภาค คือ ภาควจนพิธีกรรม ภาคนมัสการกางเขน และภาครับศีลมหาสนิท วันนี้มีการแจกศีลมหาสนิทแก่สัตบุรุษเฉพาะในระหว่างพิธีระลึกถึงพระมหาทรมานของพระคริสตเจ้าเท่านั้น แต่พระสงฆ์จะส่งศีลให้คนไข้ได้ไม่ว่าเวลาใด
ข้อพึงปฏิบัติ ::
1.ทุกครั้งที่พบกับความทุกข์ยากลำบากในชีวิต ควรเตือนใจเสมอว่า บาปความผิด และสิ่งไม่ดีทั้งหลายที่คนกระทำขึ้น ย่อมส่งผลเป็นคนทุกข์ยากลำบากต่อคนอื่นเสมอเหมือนเราที่ต้องทุกข์ยากลำบาก เพราะรับผลกระทบจากบาปความผิดทั้งของคนอื่นและของตนเอง
2. ประสบการณ์ความสงบสุขในชีวิต ที่เราได้อันเนื่องมาจากการพลีชีพของพระเยซูเจ้าให้กับเรานั้น ควรเป็นสิ่งกระตุ้นเตือนให้ยินดี เสียสละชีวิตเพื่อคนทั้งหลายด้วยเช่นกัน
3. พึงระลึกอยู่เสมอว่า การสู้ทนในความทุข์ยากลำบากในชีวิตของเราจะเป็นตัวอย่างใหู้ผู้อื่นได้สู้ทน ความยากลำบากของเขา จนได้รับความรอด เหมือนตัวอย่างชีวิตของพระเยซูเจ้าที่แบกไม้กางเขน แล้วมีอานุภาพช่วยเหลือเราทั้งหลายให้ได้พบความรอด
วันศุกร์สัปดาห์ศักดิ์สิทธิ์ (ห้ามเนื้อและถือศีลอดอาหาร)
บทอ่านจากหนังสือประกาศกอิสยาห์ อสย . 52: 13-53:12
นี่แน่ะ ผู้รับใช้ของข้าจะเจริญรุ่งเรือง
ท่านจะได้รับการยกย่องเทิดทูนขึ้นสูงลิบ
คนเป็นอันมากต่างตะลึงเมื่อเห็นท่านฉันใด
(หน้าตาของท่านเสียโฉมจนไม่เหมือนมนุษย์รูปร่างก็ผิดไปจากผู้คน)
ท่านจะกระทำให้บรรดาประชาชาติตกตะลึงฉันนั้น
บรรดาพระราชาจะนิ่งอั้นเพราะท่าน
เพราะจะเห็นสิ่งที่ไม่มีใครเคยบอก
จะเข้าใจสิ่งที่ไม่เคยได้ยิน
ความหมาย :: เป็นวันแห่งการร่วมในพระมหาทรมานกับพระคริสตเจ้า (อดเนื้อ อดอาหาร)
พิธีกรรม :: เดินรูป 14 ภาค/ฟังพระมหาทรมานของพระเยซูเจ้า ในภาควจนพิธีกรรม/พิธีนมัสการกางเขน/และรับศีลมหาสนิท
ขั้นตอน :: ตลอดทั้งวันไม่ประกอบพิธีศักดิ์สิทธิ์ใดๆ ราวบ่ายสามโมง หรือในช่วงเวลาที่เหมาะสมของแต่ละวัดมีการประกอบพิธีระลึกถึงพระมหาทรมานของพระคริสตเจ้า ซึ่งมีสามภาค คือ ภาควจนพิธีกรรม ภาคนมัสการกางเขน และภาครับศีลมหาสนิท วันนี้มีการแจกศีลมหาสนิทแก่สัตบุรุษเฉพาะในระหว่างพิธีระลึกถึงพระมหาทรมานของพระคริสตเจ้าเท่านั้น แต่พระสงฆ์จะส่งศีลให้คนไข้ได้ไม่ว่าเวลาใด
ข้อพึงปฏิบัติ ::
1.ทุกครั้งที่พบกับความทุกข์ยากลำบากในชีวิต ควรเตือนใจเสมอว่า บาปความผิด และสิ่งไม่ดีทั้งหลายที่คนกระทำขึ้น ย่อมส่งผลเป็นคนทุกข์ยากลำบากต่อคนอื่นเสมอเหมือนเราที่ต้องทุกข์ยากลำบาก เพราะรับผลกระทบจากบาปความผิดทั้งของคนอื่นและของตนเอง
2. ประสบการณ์ความสงบสุขในชีวิต ที่เราได้อันเนื่องมาจากการพลีชีพของพระเยซูเจ้าให้กับเรานั้น ควรเป็นสิ่งกระตุ้นเตือนให้ยินดี เสียสละชีวิตเพื่อคนทั้งหลายด้วยเช่นกัน
3. พึงระลึกอยู่เสมอว่า การสู้ทนในความทุข์ยากลำบากในชีวิตของเราจะเป็นตัวอย่างใหู้ผู้อื่นได้สู้ทน ความยากลำบากของเขา จนได้รับความรอด เหมือนตัวอย่างชีวิตของพระเยซูเจ้าที่แบกไม้กางเขน แล้วมีอานุภาพช่วยเหลือเราทั้งหลายให้ได้พบความรอด
วันศุกร์สัปดาห์ศักดิ์สิทธิ์ (ห้ามเนื้อและถือศีลอดอาหาร)
บทอ่านจากหนังสือประกาศกอิสยาห์ อสย . 52: 13-53:12
นี่แน่ะ ผู้รับใช้ของข้าจะเจริญรุ่งเรือง
ท่านจะได้รับการยกย่องเทิดทูนขึ้นสูงลิบ
คนเป็นอันมากต่างตะลึงเมื่อเห็นท่านฉันใด
(หน้าตาของท่านเสียโฉมจนไม่เหมือนมนุษย์รูปร่างก็ผิดไปจากผู้คน)
ท่านจะกระทำให้บรรดาประชาชาติตกตะลึงฉันนั้น
บรรดาพระราชาจะนิ่งอั้นเพราะท่าน
เพราะจะเห็นสิ่งที่ไม่มีใครเคยบอก
จะเข้าใจสิ่งที่ไม่เคยได้ยิน
วันเสาร์ศักดิ์สิทธิ์ (เสกน้ำเสกไฟ)
ความหมาย ::คืนนี้เป็นคืนพิเศษ เป็นคืนแห่งการถวายเป็นเกียรติแด่พระเจ้า (อพย.12:42) เป็นคืนที่บรรดาสัตบุรุษจะปฏิบัติตามคำตักเตือนของพระวรสาร(ลก.12:35-38) ให้ถือเทียนจุดในมือเสมอเหมือนคนใช้ที่คอยนายกลับมา เมื่อนายกลับจะได้พบเขาตื่นคอยอยู่ แล้วจะจัดให้เข้านั่งกินเลี้ยงที่โต๊ะของนาย
พิธีกรรม :: พิธีตื่นเฝ้าประกอบด้วยพิธีเสกไฟและเทียนปัสกา/พระสงฆ์ประกาศสมโภชปัสกา เสกน้ำล้างบาป/พิธีโปรดศีลล้างบาปคริสตชนใหม่/ภาคบูชาขอบพระคุณ
ขั้นตอน :: เสกไฟและเทียนปัสกา จุดเทียนปัสกา และแห่เข้าวัด อ่านบทอ่านจากหนังสือพันธสัญญาเดิม และจากหนังสือพันธสัญญาใหม่ เพื่อให้คริสตชนไตร่ตรองชีวิตของตนเองถึงการทำงานของพระเจ้า ตั้งแต่ในพันธสัญญาเดิมต่อชีวิตมนุษย์ในโลก และการกระทำอย่างต่อเนื่อง จนบังเกิดผลสมบูรณ์ ในองค์พระคริสตเจ้าผู้ทรงกลับคืนชีพ ซึ่งจะกระทำต่อมากับชีวิตของเราแต่ละคนในทำนองเดียวกัน แล้วต่อจากนั้นผู้ช่วยพิธีกรรมจะจุดเทียนบนพระแท่น สั่นกระดิ่ง ย่ำระฆัง พร้อมๆกับขับร้องบทพระสิริรุ่งโรจน์ เมื่ออ่านพระวรสารจบจะมีพิธีเสกน้ำล้างบาป และโปรดศีลล้างบาปให้แก่คริสตชนใหม่ต่อด้วยภาคบูชามิสซาขอบพระคุณ
ข้อพึงปฏิบัติ :: 1.ทุกครั้งที่ชีวิตประสบความยากลำบาก หรือวิกฤตการณ์ต่าง ๆ เราควรหยุดฟังพระวาจาของพระเป็นเจ้า เพื่อให้พระวาจาแต่ละคำ เป็นแสงสว่างนำเราให้หลุดพ้นจากวิกฤต และความยุ่งยากของชีิวิต
2. เราควรรื้อฟื้นคำมั่นสัญญาแห่งศีลล้างบาป เสมอ ๆ ว่า เราจะละทิ้งปีศาจและกิจกรรมชั่วร้ายของมัน และเชื่อในพระเยซูคริสตเจ้าแต่เพียงผู้เดียว
3. ทุกครั้งที่เรารับศีลมหาสนิท เราพึงเตือนตนเองเสมอว่า พระเยซูในศีลมหาสนิท คือองค์พระเยซูเจ้าผู้กลับคืนชีพ ทรงร่วมอยู่ในชีวิตของเรา เพื่อทำให้เรามีชีวิตใหม่พร้อมกับพระองค์เสมอ
วันเสาร์สัปดาห์ศักดิ์สิทธิ์ (เสกน้ำ เสกไฟ)
บทอ่านจากจดหมายนักบุญเปาโลอัครสาวกถึงชาวโรม รม. 6:3-11
พี่น้อง เราทุกคนที่ได้รับศีลล้างบาปเดชะพระคริสตเยซูแล้ว ก็ได้รับศีลล้างบาปโดยร่วมกับการสิ้นพระชนม์ของพระองค์ด้วย ถูกแล้วสิ เรายังถูกฝังไว้ในความตายพร้อมกับพระองค์ด้วยศีลล้างบาป เพื่อว่าดุจเดียวกับที่พระคริสตเจ้าได้กลับคืนชีพจากบรรดาผู้ตายเดชะฤทธานุภาพของพระบิดา เราก็เช่นเดียวกันจะได้ดำเนินชีวิตใหม่
เพราะถ้าเราเข้าสนิทกับพระองค์แล้วในความตายเหมือนพระองค์ เราก็จะสนิทกับพระองค์ในการกลับคืนชีพเหมือนพระองค์ด้วย เราทราบแล้วว่าสภาพมนุษย์เก่าของเราถูกตรึงกางเขนไว้กับพระองค์แล้ว เพื่อว่ากายที่เป็นทาสของบาปจะได้ถูกทำลายเสีย แล้วเราจะได้ไม่เป็นทาสบาปอีกต่อไป เพราะว่าผู้ตายแล้วก็เป็นอันพ้นจากบาปไป
เราเชื่อว่า หากเราตายกับพระคริสตเจ้าแล้ว เราจะมีชีวิตกับพระองค์ด้วย เพราะเรารู้ว่าพระคริสตเจ้า เมื่อกลับคืนชีพจากบรรดาผู้ตายแล้ว จะไม่สิ้นพระชนม์อีกความตายจะไม่มีอำนาจเหนือพระองค์อีกต่อไป ผู้ที่ตายแล้วก็ตายต่อบาปตลอดไป ผู้ที่มีชีวิตก็มีชีวิตเพื่อพระเป็นเจ้า ดังนี้ ท่านต้องถือว่าท่านตายจากบาปแล้ว แต่ท่านมีชีวิตอยู่เพื่อพระเป็นเจ้าในพระคริสตเยซู
เพลงสดุดี สดด. 118:1-2, 16-17, 22-23
ก)ขอขอบพระคุณพระเจ้าการุญพระคุณสุดประมาณ
ความหมาย ::คืนนี้เป็นคืนพิเศษ เป็นคืนแห่งการถวายเป็นเกียรติแด่พระเจ้า (อพย.12:42) เป็นคืนที่บรรดาสัตบุรุษจะปฏิบัติตามคำตักเตือนของพระวรสาร(ลก.12:35-38) ให้ถือเทียนจุดในมือเสมอเหมือนคนใช้ที่คอยนายกลับมา เมื่อนายกลับจะได้พบเขาตื่นคอยอยู่ แล้วจะจัดให้เข้านั่งกินเลี้ยงที่โต๊ะของนาย
พิธีกรรม :: พิธีตื่นเฝ้าประกอบด้วยพิธีเสกไฟและเทียนปัสกา/พระสงฆ์ประกาศสมโภชปัสกา เสกน้ำล้างบาป/พิธีโปรดศีลล้างบาปคริสตชนใหม่/ภาคบูชาขอบพระคุณ
ขั้นตอน :: เสกไฟและเทียนปัสกา จุดเทียนปัสกา และแห่เข้าวัด อ่านบทอ่านจากหนังสือพันธสัญญาเดิม และจากหนังสือพันธสัญญาใหม่ เพื่อให้คริสตชนไตร่ตรองชีวิตของตนเองถึงการทำงานของพระเจ้า ตั้งแต่ในพันธสัญญาเดิมต่อชีวิตมนุษย์ในโลก และการกระทำอย่างต่อเนื่อง จนบังเกิดผลสมบูรณ์ ในองค์พระคริสตเจ้าผู้ทรงกลับคืนชีพ ซึ่งจะกระทำต่อมากับชีวิตของเราแต่ละคนในทำนองเดียวกัน แล้วต่อจากนั้นผู้ช่วยพิธีกรรมจะจุดเทียนบนพระแท่น สั่นกระดิ่ง ย่ำระฆัง พร้อมๆกับขับร้องบทพระสิริรุ่งโรจน์ เมื่ออ่านพระวรสารจบจะมีพิธีเสกน้ำล้างบาป และโปรดศีลล้างบาปให้แก่คริสตชนใหม่ต่อด้วยภาคบูชามิสซาขอบพระคุณ
ข้อพึงปฏิบัติ :: 1.ทุกครั้งที่ชีวิตประสบความยากลำบาก หรือวิกฤตการณ์ต่าง ๆ เราควรหยุดฟังพระวาจาของพระเป็นเจ้า เพื่อให้พระวาจาแต่ละคำ เป็นแสงสว่างนำเราให้หลุดพ้นจากวิกฤต และความยุ่งยากของชีิวิต
2. เราควรรื้อฟื้นคำมั่นสัญญาแห่งศีลล้างบาป เสมอ ๆ ว่า เราจะละทิ้งปีศาจและกิจกรรมชั่วร้ายของมัน และเชื่อในพระเยซูคริสตเจ้าแต่เพียงผู้เดียว
3. ทุกครั้งที่เรารับศีลมหาสนิท เราพึงเตือนตนเองเสมอว่า พระเยซูในศีลมหาสนิท คือองค์พระเยซูเจ้าผู้กลับคืนชีพ ทรงร่วมอยู่ในชีวิตของเรา เพื่อทำให้เรามีชีวิตใหม่พร้อมกับพระองค์เสมอ
วันเสาร์สัปดาห์ศักดิ์สิทธิ์ (เสกน้ำ เสกไฟ)
บทอ่านจากจดหมายนักบุญเปาโลอัครสาวกถึงชาวโรม รม. 6:3-11
พี่น้อง เราทุกคนที่ได้รับศีลล้างบาปเดชะพระคริสตเยซูแล้ว ก็ได้รับศีลล้างบาปโดยร่วมกับการสิ้นพระชนม์ของพระองค์ด้วย ถูกแล้วสิ เรายังถูกฝังไว้ในความตายพร้อมกับพระองค์ด้วยศีลล้างบาป เพื่อว่าดุจเดียวกับที่พระคริสตเจ้าได้กลับคืนชีพจากบรรดาผู้ตายเดชะฤทธานุภาพของพระบิดา เราก็เช่นเดียวกันจะได้ดำเนินชีวิตใหม่
เพราะถ้าเราเข้าสนิทกับพระองค์แล้วในความตายเหมือนพระองค์ เราก็จะสนิทกับพระองค์ในการกลับคืนชีพเหมือนพระองค์ด้วย เราทราบแล้วว่าสภาพมนุษย์เก่าของเราถูกตรึงกางเขนไว้กับพระองค์แล้ว เพื่อว่ากายที่เป็นทาสของบาปจะได้ถูกทำลายเสีย แล้วเราจะได้ไม่เป็นทาสบาปอีกต่อไป เพราะว่าผู้ตายแล้วก็เป็นอันพ้นจากบาปไป
เราเชื่อว่า หากเราตายกับพระคริสตเจ้าแล้ว เราจะมีชีวิตกับพระองค์ด้วย เพราะเรารู้ว่าพระคริสตเจ้า เมื่อกลับคืนชีพจากบรรดาผู้ตายแล้ว จะไม่สิ้นพระชนม์อีกความตายจะไม่มีอำนาจเหนือพระองค์อีกต่อไป ผู้ที่ตายแล้วก็ตายต่อบาปตลอดไป ผู้ที่มีชีวิตก็มีชีวิตเพื่อพระเป็นเจ้า ดังนี้ ท่านต้องถือว่าท่านตายจากบาปแล้ว แต่ท่านมีชีวิตอยู่เพื่อพระเป็นเจ้าในพระคริสตเยซู
เพลงสดุดี สดด. 118:1-2, 16-17, 22-23
ก)ขอขอบพระคุณพระเจ้าการุญพระคุณสุดประมาณ
-
- ~@
- โพสต์: 12724
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 2:28 pm
- ที่อยู่: Thailand
ขอบคุณครับ กำลังหาบทอ่านวันศุกร์อยู่พอดีเลย
- ~@Little lamb@~
- Defender of lawS
- โพสต์: 9396
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:00 pm
- ติดต่อ:
จริงๆแล้วก็ไม่ได้บังคับนะคะ
แต่ผู้ใหญ่เขาคิดว่าวันพระตายก็น่าจะใส่สีดำ
เลยใส่กันมาเต็มวัดเลย
แต่จริงๆแล้วก็ไม่ได้บังคับหรอกคะ
จะใส่อะไรก็ใส่เถอะคะ
แต่ถ้ากลัวแปลกแยก ก็ใส่สีสุภาพก็ได้ ขาว ดำ เทา กรมท่า น้ำตาล *no1
แต่ผู้ใหญ่เขาคิดว่าวันพระตายก็น่าจะใส่สีดำ
เลยใส่กันมาเต็มวัดเลย
แต่จริงๆแล้วก็ไม่ได้บังคับหรอกคะ
จะใส่อะไรก็ใส่เถอะคะ
แต่ถ้ากลัวแปลกแยก ก็ใส่สีสุภาพก็ได้ ขาว ดำ เทา กรมท่า น้ำตาล *no1
ดีใจกับพี่ๆน้องๆ ทุกท่านที่ได้มีโอกาสไปร่วมพิธีกรรมอันศักดิ์สิทธิ์
เอาเป็นว่าเมื่อมีโอกาสแล้ว ก็ทำให้ดีที่สุด รักพระ ให้พระชื่นใจนะครับ
ผมจะภาวนาเพื่อทุกคนนะครับ
เอาเป็นว่าเมื่อมีโอกาสแล้ว ก็ทำให้ดีที่สุด รักพระ ให้พระชื่นใจนะครับ
ผมจะภาวนาเพื่อทุกคนนะครับ
สีแดง หมายถึงการยอมสละชีวิตเป็นมรณสักขีไงครับ ผมเองไม่ค่อยชอบให้ใส่ชุดสีดำในวันศุกร์ศักดิ์สิทธิ์เลย มันดูน่ากลัว มืดมนยังไงไม่รู้ ใส่สีม่วงแบบชุดของพระสงฆ์ยังดีกว่า เพราะเป็นสีแห่งความหวัง เพราะพระเยซูสิ้นพระชนม์นำความหวังแห่งชีวิตใหม่มาสู่เรามนุษย์ ส่วนสีดำเป็นสีแห่งความตาย สีของปีศาจ