Belong to the Truth Jesus Christ

อยากจะถามเพื่อนๆว่า มีวิธีคิดยังไง เวลาที่ถูกโกงอ่ะคะ
การปกป้องสิทธิของตนเอง เช่นแจ้งตำรวจจับ ฟ้องร้องหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
ส่ง Forward mail ถือว่าเป็นการทำการชั่วตอบแทนการชั่วมั๊ยคะ
หรือเราควรจะปล่อยให้เค้าทำไป

ล่าสุดเพื่อนสนิททำงานที่บริษัทแห่งหนึ่ง (ย้ายงานใหม่)
ตอนสัมภาษณ์ และ เข้างานไม่มีสัญญาให้เซ็น
ตกลงเงินเดือนกันที่ 15,000 บาทต่อเดือน
ทำงานครบ 1 เดือน เงินเดือนออกมา 9 พันเศษๆ

สอบถามไปที่บัญชี เค้าบอกว่า เป็นระเบียบของบริษัทที่จะจ่ายเงินพนักงานที่ทำงาน
ยังไม่ครบ 3 เดือนเป็นแบบรายวัน เราก็งงว่า อ้าว ก็อยู่ 1 - 30 เมษายน เต็มเดือน
ไม่ได้ขาดงานอะไรเลย ทำไมจาก 15,000 ถึงได้เงินเดือนแค่ 9,000 บาท

เค้าตอบหน้าตาเฉยว่า ก็ช่วง 3 เดือนแรกจะคำนวณเงินให้เป็นรายวันไง
วันเสาร์-อาทิตย์ และ วันจักรี รวมทั้งวันสงกรานต์ บริษัทปิดทำการ
คุณไม่ได้มาทำงาน จะรับเงินได้ยังไง (ต่อให้ตูอยากจะมาทำงาน บริษัทก็ปิดนี่หว่า)

พี่แกเอา 30 ไปหารเงินเดือน แล้วจ่ายให้เฉพาะวันทำการอ่ะค่ะ
คิดดูว่า ถ้างั้นมันก็ไม่ใช่ 15,000 ต่อเดือนตามที่ตกลงกันแล้ว
เพราะไม่มีเดือนไหนหรอกที่ไม่มีหยุดวันเสาร์-อาทิตย์

สรุปคือ ทำงานยังไง ก็ไม่ได้เงินเดือนตามที่ได้ตกลงกันไว้ตอนสมัครงานค่ะ
ทั้งๆที่ตอนสมัครงานก็ไม่ได้มีการแจ้งเงื่อนไขนี้มาก่อนเลย
โกงมั๊ยล่ะ และเนื่องจากเป็นสัญญาปากเปล่า ไม่ได้มีเอกสาร
ดังนั้น เราจึงไม่มีหลักฐานจะฟ้องร้องเอาผิดอะไรกับเค้าได้เลย
นอกจากทำการชั่วตอบแทนการชั่ว เช่น ส่งเมลบอกให้คนระวังตัวเวลามาสมัครงานที่นี่ ทำลายชื่อเสียงมันซะ
หรือ แกล้งวางยาไว้ แล้วลาออกหนีไปเลย ซึ่งไม่ควรทำใช่มั๊ยล่ะ ถ้ามองในแง่ของคริสตชน

แล้วแบบนี้ เราควรทำยังไงคะ ถ้าเราไม่ทำอะไร มันก็จะโกงคนอื่นต่อๆไป
ถ้าเราทำอะไร ก็จะกลายเป็นว่า เราทำการชั่วตอบแทนการชั่วเสียอีกหรือเปล่า

ตอนนี้ก็สงสารเพื่อนมากเลย อธิษฐานเผื่อเค้าอยู่
นี่เค้าก็จะออกแล้ว วันนี้ก็บอกให้เค้าไปคุยกับผู้จัดการบริษัท
ให้ไปขอเงินเดือนในส่วนที่เราควรจะได้ แต่ไม่รู้เค้าจะว่ายังไง
เพื่อนไปคุยกับบัญชี และคุยกับหัวหน้าแล้ว เค้าบอกช่วยอะไรไม่ได้
ให้ไปคุยกับผู้จัดการเอง

ขอให้ผู้จัดการกลับใจ ให้ความเป็นธรรมกับเพื่อนเรด้วย
ใครว่างๆ ก็ช่วยอธิษฐานเผื่อด้วยนะคะ ขอให้คนบาปกลับใจ
ขอให้เพื่อนเรได้เงินในส่วนที่เค้าลงแรงไป
แล้วจะลาออกไปอยู่ที่อื่นแล้วละค่ะ
รวมทั้ง ขอให้เจ้าของบริษัทเลิกพฤติกรรมโกงๆแบบนี้ด้วย

และช่วยคิดหน่อยค่ะว่า เรควรจะบอกให้เพื่อนทำยังไงดี
นี่เรก็เครียดๆอยู่ บางครั้งเราก็ไม่รู้ว่า อะไรคือการทำชั่วตอบแทนการชั่ว
เราอยากจะทำดีนะคะ แต่ว่า เราควรทำยังไง ?
ควรจะทนทำงานให้เค้าอย่างดีต่อไปทั้งๆที่รู้อยู่เต็มอกว่าถูกโกง หรือเปล่า ?
เรว่าไม่น่าจะใช่มั้ง แต่ก็คิดไม่ออกค่ะ รู้แต่ว่า ลาออกน่าจะดีที่สุด
แล้วควรบอกคนอื่นๆมั๊ยคะ ถ้าพูดไปแล้วเค้าเสียชื่อเสียง ถือว่าเราทำการชั่วมั๊ยคะ?

อยากจะถามเพื่อนๆว่า มีวิธีคิดยังไง เวลาที่ถูกโกงอ่ะคะ
การปกป้องสิทธิของตนเอง เช่นแจ้งตำรวจจับ ฟ้องร้องหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
ส่ง Forward mail ถือว่าเป็นการทำการชั่วตอบแทนการชั่วมั๊ยคะ
หรือเราควรจะปล่อยให้เค้าทำไป

การปกป้องสิทธิ์ตัวเองไม่ใช่ความชั่วครับ ชั่วตอบแทนชั่วคือ มันโกงเรา เราโกงมันกลับ

แล้วมันจะดูเหมือนว่า เราไม่ให้อภัยหรือเปล่าคะพี่
ถ้าเรายังตอแยเค้าต่อไป เช่น เราไปฟ้องกรมแรงงาน
เรื่องก็อาจจะยืดเยื้อ แล้วกลายเป็นว่าเราไม่สามารถให้อภัยเค้าได้จนกว่าเรื่องจะจบ

เพราะถึงเราจะพูดว่า "ชั้นไม่โกรธบริษํทนี้หรอกนะ แต่ชั้นอยากเตือนให้คนอื่นๆรู้ไว้ว่ามันโกง"
คำว่า "ชั้นไม่โกรธ" ก็เหมือนหลอกตัวเองอ่ะค่ะ

แต่จะให้อธิษฐานให้บริษัทเค้าเจริญรุ่งเรืองมันก็ทำไม่ได้จริงๆ
ในเมื่อเค้ายังโกงเราได้หน้าตาเฉย จะไม่โกงคนอื่นต่อไปหรือยังไง

เรจะช่วยเพื่อนวีน ก็ไม่สบายใจยังไงชอบกล
แต่จะไม่ทำอะไรเลย มันก็หงุดหงิดง่า

ในแง่ของเราที่มีควมเชื่อเรามองว่าเขาทำไม่เหมาะสมนะครับ

มธ 18:15-17
ถ้าพี่น้องของท่านทำผิดจงไปตักเตือนเขาตามลำพัง ถ้าเขาเชื่อฟัง ท่านจะได้พี่น้องกลับคืนมา ถ้าเขาไม่เชื่อฟัง จงพาอีกคนหนึ่งหรือสองคนไปด้วย คำพูดของพยานสองคนหรือสามคนจะได้จัดเรื่องราวให้เรียบร้อย ถ้าเขาไม่ยอมฟังพยาน จงแจ้งให้หมู่คณะทราบถ้าเขาไม่ยอมฟังหมู่คณะอีก จงปฏิบัติต่อเขาเหมือนเขาเป็นคนต่างศาสนา หรือคนเก็บภาษีเถิด


การกระทำบางอย่างนั้นไม่สามารถบอกได้หรือกว่าผิดหรือไม่ผิด มันต้องดูที่จิตใจด้วย ถ้าเราทำไปเพื่ออยากแก้แค้น อันนี้ในสายพระเนตรของพระเป็นเจ้าคงผิดแน่นอน แต่ถ้าเราทำไปเพราะไม่อยากให้คนอื่นหลงเชื่อแบบเราอันนี้ในสายพระเนตรของพระเป็นเจ้าผมว่าไม่ผิด เราเมื่อได้ชื่อว่าเป็นคริสตชนผู้มีความเชื่อแล้วจิตใจของเราต้องให้ความรักของพระเป็นเจ้าและของพี่น้องมาเป็นอันดับ 1 ซึ่งต้องให้ความรักนี้ส่งผลออกมาเป็นการกระทำ ปั้มขอแนะนำว่าถ้าเป็นปั้ม ปั้มจะไปคุยกับเขาก่อน ถ้าไม่ได้ก็ถามตัวเองว่าจะอยู่ต่อหรือไม่อยู่ต่อ ถ้าไม่ก็ขอลาออก แล้วก็เตือนคนอื่นๆในแง่ของความรอบคอบในการเซ็นใบสัญญาก่อนที่จะทำงาน เพราะว่าถ้าเราออกไปป่าวประกาศถึงความไม่ยุติธรรมบริษัทนี้โดยที่ไม่มีหลักฐาน(แม้จะเป็นความจริง) เราอาจจะโดนฟ้องกลับได้ครับ