Belong to the Truth Jesus Christ

โพลชี้ ผู้อ่านคล้อยตาม "ดาวินชี โคด" จริง กระตุ้นยอดหนังสือกระฉุด

โดย ผู้จัดการออนไลน์ 17 พฤษภาคม 2549 17:40 น.

ORB หรือกลุ่มธุรกิจเพื่อการวิจัยด้านความคิดเห็น (Opinion Research Business) ได้รายงานผลการวิจัยว่า นักอ่านชาวอังกฤษส่วนใหญ่ที่อ่านหนังสือ "รหัสลับดาวินชี" ต่างมีแนวโน้มคล้อยตามความเห็นในเรื่องศาสนาตามความคิดของผู้เขียนอย่างมาก ขณะที่ยอดขายหนังสือก็สร้างประวัติการณ์ที่ 60 ล้านเล่มทั่วโลกแล้วในขณะนี้

การวิจัยดังกล่าวซึ่งได้รับการสนับสนุนโดยฝ่ายคาธอลิกของประเทศอังกฤษ ได้ทำการสัมภาษณ์นักอ่านระดับผู้ใหญ่ในสหราชอาณาจักรจำนวน 1,000 คน โดยผลการวิจัยรายงานว่าผู้อ่านมีความเชื่อเรื่องการสมรสระหว่างพระเยซูกับนางแมรี แม็กดาลีนถึง 60% ขณะที่ผู้ไม่เคยอ่านหนังสือดังกล่าวมีความเชื่อเช่นนี้แค่ 30% เท่านั้น

ส่วนหัวข้อที่กล่าวถึงการสนับสนุนอาชญากรรมของกลุ่มลัทธิโอปุส เดอีนั้น ผู้ที่อ่านหนังสือของแดน บราวน์เชื่อว่าเป็นความจริง 17 % ส่วนผู้ที่ไม่อ่านมีความเชื่อเรื่องดังกล่าวแค่ 4 %

จากรายงานดังกล่าวทำให้นายแจ๊ค วาเลโร โฆษกของทางกลุ่มโอปุส เดอี ต้องประหลาดใจต่ออิทธิพลของหนังสือที่มีต่อการเปลี่ยนแปลงความคิดของผู้คนอย่างมาก

"ตั้งแต่กลุ่มของเราก่อตั้งขึ้นมาเมื่อปี 1928 โอปุส เดอีได้พัฒนางานด้านมนุษยธรรมอย่างต่อเนื่อง ได้เผยแพร่สารแห่งความรักและความเข้าใจของชาวคริสต์ไปทั่วโลก แต่หนังสือเล่มนั้นกลับทำให้ผู้คนเป็นแสนๆ เชื่อว่าพวกเราก่ออาชญากรรมที่สกปรก"

ตามรายงานแจ้งว่า ผลงานชิ้นนี้ของนักเขียนชาวอเมริกันอย่างแดน บราวน์ ได้ผ่านสายตาของนักอ่านระดับผู้ใหญ่บนเกาะอังกฤษไปแล้วมากกว่า 1 ใน 5 ของประเทศ

ด้วยความร้อนแรงนี้เองที่ส่งผลให้สถิติในการจำหน่ายของ "รหัสลับดาวินชี" ในทั่วโลก ต่างพุ่งทะยานอย่างไม่หยุดยั้ง โดยในช่วงเวลาแค่ไม่ถึง 2 เดือนที่ผ่านมา "รหัสลับดาวินชี" ฉบับปกอ่อนก็ขายไปได้เกือบ 3 ล้านเล่มเข้าไปแล้ว หลังจากที่พิมพ์ครั้งแรกออกมาจำนวน 5 ล้านเล่ม จนทำให้ยอดขายฉบับปกอ่อนตอนนี้อยู่ที่ 6.3 ล้านเล่มด้วยกัน

ซึ่งเมื่อรวมกับฉบับปกแข็งที่ออกขายตั้งแต่ปี 2003 ทำให้มันเป็นหนังสือที่มียอดขายทั่วโลกที่ 60 ล้านเล่มเข้าไปแล้ว และไม่มีทีท่าว่าจะชลอความร้อนแรงลงแม้แต่น้อย แม้ฉบับภาพยนตร์พร้อมจะฉายให้ผู้ชมทั่วโลกในสัปดาห์นี้แล้วก็ตาม

ตามรายงานจากสำนักพิมพ์กว่าว่า จำนวนของหนังสือที่ขายออกไปสามารถนำไปคลุมรัฐชิคาโกได้ทั้งรัฐ โดยที่มันมีน้ำหนักรวมกันมากกว่าเครื่องบินจัมโบ 747 จำนวน 90 เครื่องรวมกันเสียอีก ซึ่งแอน แมสไสท์ แห่งสำนักพิมพ์วินเทจ-อันชอร์ บู๊ค ตัวแทนผู้พิมพ์ฉบับปกอ่อนของสำนักพิมพ์แรนดอม เฮาส์ ได้กล่าวถึงสถานการณ์ในการจำหน่ายนวนิยายแห่งทศวรรตเรื่องนี้ว่า

"ยอดขายต่างเพิ่มขึ้นอย่างน่าประทับใจสัปดาห์ต่อสัปดาห์ เราจะจัดพิมพ์ใหม่ตามความต้องการของผู้อ่าน และเชื่อแน่ว่ามันจะยังร้อนแรงอย่างนี้ไปอีกหลายเดือนเลยทีเดียว"

http://www.manager.co.th/Entertainment/ ... 0000064695

ขอบพระคุณค่ะ

อยากให้มีคนแต่งเรื่อง ประวัติของแดนบราวน์จัง

นายแดนบราวน์ แต่งนิยาย ได้เนียนมาก ทำให้มีคนอินถึงขนาดเป็นเรื่องจริง

ยอดขายถล่มทลาย แรงบันดาลใจในการแต่งเรื่องนี้

ตอนจบ ตาแดนบราวน์ ไปนั่ง ขอโทษต่อหน้าพระเป็นเจ้า (ขออภัย เอ่ยนามพระเป็นเจ้าโดยไม่สมเหตุ)
น้ำตานองหน้า สำนึกในบาป ว่า ทำอะไรลงไป โดย ความทันสมัย ของโลกเป็นสื่อ


ตาแดนบราวน์ คงออกมาเต้น น่าดู ว่า ประวัติของผม มันคือนิยาย มันคือนิยาย
นักเขียนชื่อดัง อย่างผม ไม่ได้เข้าโบส์ถมานานแล้ว อย่างผม สนใจแต่งาน และเงิน
อิอิ



ที่ยอดขายถล่มทลายก็เล่น จ้าง Marketing มือฉมัง โปรโมทซะขนาดนี้

สื่อทุกชนิด โกยเงินแหลกลานน

ถ้ามีใครแต่งเรื่องตาแดนบราวน์ พร๊อตเรื่องแนวนี้น๊ะ และใช้Marketing ของตาแดนบราวน์ ด้วย

อิอิ มีหวัง pay it forward


ขอโทษค่ะ ที่ลูกคิดอย่างประสามนุษย์ :-[

ขออภัยในความอ่อนแอของลูกด้วยค่ะ

ถ้ามีนิยายเรื่อง TREE WHO DECODING DAVINCHI ละ

หลังจากนิยาย แดนบราวน์ประสบความสำเร็จถล่มทลาย ที่มาของเค้าละ
แต่งนิยาย ไม่ประสบความสำเร็จสักเรื่อง คิดอีกที เอาเรื่องพระมาหากินดีกว่า (อ้างอิง: (เลียนแบบแดนบราวน์มั้ง) จะประสบความสำเร็จ อยู่เสมอ ยิ่งแง่ Nagative ทั้งดังทั้งรวย)

แดนบราวน์มีภารยาที่น่ารัก เป็นนักศาสนศาสน์ และพ่อตาเป็นนักตรรกศาสตร์ ถอดระหัส (อ้างอิง: เปิดเวปอีตาแดนบราวน์ดู)

หลังจากที่แต่งเรื่อง ดาวินชี โคต นิยายเรื่องนี้ประสบความสำเร็จถล่มทลาย ในรอบหลายๆๆปีที่ผ่านมา พิมพ์เป็นภาษาต่างประเทศ แทบทุกประเทศ พิมพ์ครั้งที่ 666 (อ้างอิงมั้ง : 666 ถอดรูท ได้ คำว่า NERO) ได้แล้วมั้ง

ผู้คนต่าง เชื่อว่า นิยายของตาแดนบราวน์เป็นจริง ความรวย ความดังของตาแดนบราวน์ฉุดไม่อยู่ แต่

พ่อตา ของแดนบราวน์ เป็นนักตรรกศาสตร์ ถอดระหัสผู้เชี่ยวชาญ งานวิจัย ได้ถอดระหัส วิจัย ตามความเป็นจริง พ่อตาของแดนบราวน์ทนไม่ได้ (อ้างอิง:ที่ทนไม่ได้ ส่วนแบ่งตูทำไมน้อยจัง ตูเขียนตั้ง 70%) ก็ได้ จัดหา ทีมเวิ๊ก ทั้งทนายทั้งสื่อ ฟ้องตาแดนบราวน์ (อ้างอิงอีกที : ความจริง กับการถอดระหัส กะความโลภมันมาพร้อมๆๆกัน ได้ดัง และ ได้เงินด้วย )

ภารยาที่แสนน่ารัก ก็เป็น นักศาสนศาสน์ เริ่มระหองระแหง กะตาแดนบราวน์ ในเรื่องของเวลา (อ้างอิง: จะอยู่ด้วยกันได้ ก็เริ่มเขียนนิยายเรื่องใหม่ ) เพื่อนที่แสนดี ของภารยา แดนบราวน์ ก็ยุยงส่งเสริม หย่าเลย พร้อมส่วนแบ่ง เรื่อง ดาร์วินชี เธอต้องได้ 85%( อ้างอิง: ในนิยายเรื่องดาร์วินชีโค๊ต ภารยาของแดนบราวน์เป็นผู้ยก index ในพระคัมภีร์มาทั้งหมด)
(คนตัดต่อ เพิ่มเติมแต่งเติมผิดเพี้ยน ก็ แดนบราวน์) พร้อมทีมเวิ๊ก ฟ้องตาแดนบราวน์ ด้วย

มีการออกทีวี ด่ากันแฉกัน ผ่านสื่อ ต่างๆๆๆ NNG BBC PBS discovery CNN รับเงินกันบานเบอะ ไม่นับท๊อลโชว์ชื่อดังต่างๆๆๆ
แฟนคลับดาร์วินชีโคต เริ่ม เซ็ง เอียน กับดาร์วินชี่โคต

ในขณะที่ กลุ่ม ออร์ปุสเดอี สวดให้ตาแดนบราวน์อย่างเงียบๆๆ ขอให้แดนบราวน์กลับใจ


จู่ๆๆๆ ภารยาของแดนบราวน์ตายโดยไม่ทราบสาเหตุ ทิ้งหลักฐาน เขียนด้วยเลือดคำว่า 666 ทำให้แดนบราวน์ทุกข์ใจมาก เพราะแดนบราวน์ ตกเป็นผู้ต้องสงสัย ว่าฆาตกรรมภารยาของตนเอง (อ้างอิง : ตามกระแสหนังฝรั่งทั่วไป) ทำให้แดนบราวน์ต้องหนี หัวซุกหัวซุน ต้องไปถอดระหัส คำว่า 666 มาจากใหน ที่แท้ ก็มาจากพิมพ์ครั้งที่ 666 นั้นเอง (อ้างอิง: ฉลองครบรอบ 66 ปี และวันที่ 6 พ่อต่าของแดนบราวน์)

แดนบราวน์ ได้ทราบความจริงว่า ผู้ที่ฆาตกรรม ภารยาของตัวเองคือ พ่อแท้ๆๆของภารยาแดนบราวน์นั้นเอง
แดนบราวน์ ถึงกับรับไม่ได้ กับความโหดร้าย ของคนที่ใกล้ตัวที่สุด

แดนบราวน์ก็วิ่งๆๆๆๆๆๆๆ ไปที่โบส์ถนักบุณ มารีมักดารา ที่ประเทศ ฝรั่งเศส (อ้างอิง : คงหาระหัสกันมั่วซั่ว หน้าดูเลยไปฝรั่งเศส) ไปคุกเข่าต่อหน้าพระแทน ขอโทษพระ น้ำตานองหน้า กับความโหดร้ายที่สุด ของคนใกล้ตัวที่สุด
(อ้างอิง : แดนบราวน์ มักจะระวังตัวคนแปลกหน้าอยู่เสมอ กลัวถูกเก็บ เคยมีข่าวแต่งนิยายเชิงศาสนา มีคนโดนเก็บมาแล้ว)

ถ้าแต่งแบบนี้ แย้ว ประโคมข่าวขึ้นมา อีตาแดนบราวน์ ออกมาฟ้องแหงมๆๆๆ :D

ผมคิดว่าทุกศาสนาสอนให้คนเป็นคนดี และกับสิ่งที่เกิดขึ้น ผมคิดว่าศาสดาขอศาสนาทุกศาสนาถ้ารับรู้เรื่องนี้ได้ ท่านก็คงให้อภัยในสิ่งที่เกิดขึ้น เพราะคงไม่มีศาสดาองค์ใดอยากให้เกิดความแตกแยกในสังคม แต่อย่างไรก็ตาม
ผมมองว่าปัญหาไม่ว่าจะศาสนาอะไร ก็เกิดมาจากตัวสาวกเอง มิใช่ศาสดา
ผมคิดว่า ถ้าศาสดาของศาสนาคริสต์ยังอยู่ คือ พระเยซู ผมคิดว่าท่านคงบอกกับสาวกทั้งหลาย เลิกวุ่นวาย เลิกสร้างความขัดแย้ง ให้กับสังคม เพราะเท่าที่ได้รู้มา นะครับสำหรับคริสต์ คือ ความรักและการให้อภัย แต่บางทีผมเคยคุย กับเพื่อที่เป็นคริสต์นะครับ กับหนังเรื่องนี้เค้าจะเป็นเดือดเป็นร้อนมาก ผมก็เลยย้อนถามเค้ากลับว่า ศาสนาเค้าสอนให้คนมาทะเลาะกันหรอ ไหนบอว่าสริสต์สอนการให้อภัย สอนเรื่องความรัก แต่ตอนนี้มันมีความอาคาด ความแค้นเคือง ถ้าอย่างนี้แสดงว่าปัญหาไม่ใช่อยู่ที่ศาสนาหรือองค์ศาสดา แต่อยู่ที่สาวกแล้วใช่ไหม เพราะที่เป็นเดือดเป็นแค้นอยู่ การให้อภัยกับความรักตามหลักคำสอนไปไหนละ ผมก็ไม่ใช่คริสต์ เป็นพุทธ แต่ก็มองอะไรหลายๆ อย่างโดยอาศัยหลักความจริง ศาสนาของคุณมีหลักคำสอนที่ดี แต่ปัญหาผมมองว่าอยู่ที่คนรับไปปฏิบัติมากกว่า ผมฑุดถึงบางคนนะครับ ที่เอาศาสนามาอ้าง โดยให้ความเครียดแค้นมาครอบงำ

ปอนด์ เขียน: ผมคิดว่าทุกศาสนาสอนให้คนเป็นคนดี และกับสิ่งที่เกิดขึ้น ผมคิดว่าศาสดาขอศาสนาทุกศาสนาถ้ารับรู้เรื่องนี้ได้ ท่านก็คงให้อภัยในสิ่งที่เกิดขึ้น เพราะคงไม่มีศาสดาองค์ใดอยากให้เกิดความแตกแยกในสังคม แต่อย่างไรก็ตาม
ผมมองว่าปัญหาไม่ว่าจะศาสนาอะไร ก็เกิดมาจากตัวสาวกเอง มิใช่ศาสดา
ผมคิดว่า ถ้าศาสดาของศาสนาคริสต์ยังอยู่ คือ พระเยซู ผมคิดว่าท่านคงบอกกับสาวกทั้งหลาย เลิกวุ่นวาย เลิกสร้างความขัดแย้ง ให้กับสังคม เพราะเท่าที่ได้รู้มา นะครับสำหรับคริสต์ คือ ความรักและการให้อภัย แต่บางทีผมเคยคุย กับเพื่อที่เป็นคริสต์นะครับ กับหนังเรื่องนี้เค้าจะเป็นเดือดเป็นร้อนมาก ผมก็เลยย้อนถามเค้ากลับว่า ศาสนาเค้าสอนให้คนมาทะเลาะกันหรอ ไหนบอว่าสริสต์สอนการให้อภัย สอนเรื่องความรัก แต่ตอนนี้มันมีความอาคาด ความแค้นเคือง ถ้าอย่างนี้แสดงว่าปัญหาไม่ใช่อยู่ที่ศาสนาหรือองค์ศาสดา แต่อยู่ที่สาวกแล้วใช่ไหม เพราะที่เป็นเดือดเป็นแค้นอยู่ การให้อภัยกับความรักตามหลักคำสอนไปไหนละ ผมก็ไม่ใช่คริสต์ เป็นพุทธ แต่ก็มองอะไรหลายๆ อย่างโดยอาศัยหลักความจริง ศาสนาของคุณมีหลักคำสอนที่ดี แต่ปัญหาผมมองว่าอยู่ที่คนรับไปปฏิบัติมากกว่า ผมฑุดถึงบางคนนะครับ ที่เอาศาสนามาอ้าง โดยให้ความเครียดแค้นมาครอบงำ

ลองมีคนแต่งนิยายบิดเบือนศาสนาพุทธมั่งไหมครับ เผื่อจะได้เข้าใจความรู้สึก "เอาใจเขามาใส่ใจเรา" ครับ คนที่บอกแบบคุณมีเยอะครับแต่ถามว่าเค้าโดนกับตัวเองไหม ฌปล่าเลยเค้าเป็นคนวงนอก เอาง่ายๆถ้ามีคนพูดลอยๆว่า เฮ้ยผมแต่งนิยายว่าพ่อคุณมีภรรยาน้อย แต่เอาสถานที่ ชื่อคน ที่มีอยู่จริงมาแต่งจนคนคิดว่าเป็นเรื่องจริง คุณจะโมโหไหมครับ

ลองมีคนแต่งนิยายบิดเบือนศาสนาพุทธมั่งไหมครับ เผื่อจะได้เข้าใจความรู้สึก "เอาใจเขามาใส่ใจเรา" ครับ คนที่บอกแบบคุณมีเยอะครับแต่ถามว่าเค้าโดนกับตัวเองไหม ฌปล่าเลยเค้าเป็นคนวงนอก เอาง่ายๆถ้ามีคนพูดลอยๆว่า เฮ้ยผมแต่งนิยายว่าพ่อคุณมีภรรยาน้อย แต่เอาสถานที่ ชื่อคน ที่มีอยู่จริงมาแต่งจนคนคิดว่าเป็นเรื่องจริง คุณจะโมโหไหมครับ

ในความคิดผม ก็ไม่แปลก ถ้าจะบิดเบือนศาสนาพุทธ บ้าง
เพราะทุกอย่างมันไม่แน่นอน ทุกอย่างเกิดจากผลของการกระทำ ถ้าจะมีใครมาสร้างหนังว่าพระพุทธเจ้าไม่ได้เกิดมามีดอกบัวมารองรับ หรือ กล่าวหาอะไรก็ตาม ผมก็ยอมรับได้ เพราะผมมีกระบวนการทางความคิดที่มีเหตุและผล ทุกอย่างมันมีเหตุผล จึงได้เป็นเช่นนั้น ผมไม่ได้ยึดติดกับภาพลักษณ์ ผมเองก็เกิดไม่ทันสมัยพระพุทธเจ้า แต่หลักธรรมคำสอน คือสิ่งที่ผมยึดถือ ใครทำอะไร ก็ได้ผลเช่นนั้น เพียงแต่สิ่งที่จะบอกก็คือ อยากให้ไปดูว่าปัญหามันเกิดจากอะไร ไม่ใช่จะมาบอกว่าเอาใจเค้ามาใส่ใจเรา ไม่เช่นนั้นมันก็ไม่จบ ความจริงคืออะไร ก็ชี้แจ้งไป พูดง่ายทำตามหน้าที่และบทบาท อย่างมีเหตุและมี อย่าใช้อารมณ์ เพราะถ้าใช้อารมณ์ ก็เป็นการเอาความโกรธมาใส่ตัว แสดงว่าจิตใจคุณเข้าสู่ด้านมืด ตกอยู่ในกิเลส หรือพวกมาร แต่ในศาสนาคุณอาจจะหมายถึงซาตาน หรือศาสดาของคุณสอนให้คุณสามารถโกรธแค้น ใครก็ตามที่มาดูหมิ่นศาสนาคุณโดยที่เค้าอาจะรู้หรือไม่ก็ตาม ผมไม่ได้คิดอะไรหรอกนะ ถ้าคุณจะว่าอะไรก็ตาม เพราะผมถือ ว่าโกรธก็คือโง่ โมโหคือบ้า ถ้าผมเข้าใจไม่ผิดหลักคำสอนการให้อภัย เป็นหัวใจหลักของคริสต์ แต่เท่าที่ดูจากเวปบอร์ดส่วนใหญ่ ดูเหมือนจะขาดการให้อภัยในสิ่งที่เกิดขึ้นในบางท่าน และมีอารมณ์มาเกี่ยวข้องด้วย ผมก็จะถามเลยนะครับ ว่าถ้าคุณเชื่อมั่นในพระเจ้า ในศาสดาของคุณ คุณก็ควรนำหลักคำสอนของท่านมาใช้ด้วย ถ้าหลังเรื่องนี้ลบหลู่จะด้วยเหตุอันใดก็ตาม คิดว่าพระเจ้าท่านจะมาโกรธแค้นเหมือนที่พวกคุณทำหรือไม่ ตอบให้ตรงคำถามด้วยนะครับ ขอบคุณครับ

ตอบคำถามคุณ dadar

พระเป็นเจ้าไม่ทรงโกรธแค้นครับ แต่พระองค์กำลังเศร้าพระทัย เพราะมนุษย์เรียกร้องและท้าทายพระยุติธรรมของพระองค์ เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นนั้นคือการบิดเบือนความเชื่ออย่างสาหัส และผลที่ตามมาก็ร้ายแรง

สาหัสและร้ายแรงอย่างไรลองอ่านดูนะครับ

ต้องทำควมเข้าใจก่อนว่าคริสตศาสนาถือความรอดเข้าเมืองสวรรค์ เป็นจุดมุ่งหมายของชีวิต

key แห่งความรอดนั่นก็คือ ความเชื่อ และ การกระทำตามคำสอน(ความรัก ความถ่อมตน ฯลฯ) ซึ่งจะขาด 2 สิ่งนี้ไม่ได้

ดังนั้นสิ่งที่เกิดขึ้นจะนำมาเทียบกับศาสนาพุทธ ไม่ได้ครับ เพราะศาสนาพุทธมีจุดมุ่งหมายที่นิพพานซึ่งก็คือการละซึ่งทุกสิ่งสิ้นแล้ว นั่นหมายถึงไม่ว่าจะมีคนมาทำหนังออกมาดูหมิ่นพระพุทธเจ้ายังไง คำสอนของพระองค์ก็ไม่บิดเบือนยังสามารถนำมาปฏิบัติธรรมจนสามารถเข้าสู่นิพพานได้อยู่ดี

แต่คริสตศาสนามิใช่แบบนั้น ความเชื่อที่เป็น key ในการเข้าสู่อาณาจักรสวรรค์นั้นหลักๆต้องเชื่อว่า

"พระเยซูทรงเป็นพระเจ้า"

เมื่อเป็นดังนี้จึงเกิดคำถามขึ้นว่า "หลังจากอ่านนิยายแล้วยังคิดว่าพระเยซูเป็นพระเจ้าอยู่หรือไม่?"

ซึ่งแน่นอนว่าบางคนก็คิดว่านี่เป็นเพียงนิยาย ก็โอเคกับคนกลุ่มนี้ แต่ก็มีคนบางกลุ่มที่เชื่อนิยายนี้อย่างสุดใจ และอย่างที่บอกในข้างต้นว่าตามความเชื่อคริสเตียน การจะเข้าสู่พระอาณาจักรสวรรค์ได้นั้นต้องมีความเชื่อ แต่ผลของนิยายเรื่องนี้คือการทำลายความเชื่อดังกล่าว หรือพูดง่ายๆก็คือนิยายทำให้คริสชนกลุ่มหนึ่งสูญเสียความเชื่อซึ่งเป็นกุญแจสำคัญของการเข้าสวรรค์ไป(ไม่ได้หมายความว่าจะตกนรกนะครับ)

ดังนั้นนี่คือเหตุผลที่เราไม่สามารถจะอยู่เฉยได้ตามความเชื่อของเรา

ผมก็บอกแล้วไงครับว่า เอาใจเขามาใส่ใจเรา ถ้าศาสนาพุทธโดนบิดเบือนเอาไปสร้างเป็นนิยายเน่าๆ อย่างนู้นอย่างนี้ โอเค คุณน่ะอาจจะไม่เดือดร้อน เพราะคุณเข้าใจแต่บางคนล่ะคุณคิดว่าคนอื่นๆเค้าจะคิดเหมือนคุณเหรอ
ส่วนประเด็นการให้อภัยกรุณาแยกให้ออกกับการชี้แจงนะครับ คงไม่อยากให้มีใครเข้าใจศาสดาศาสนาคุณตามนิยายเน่าๆมันบรรยายหรอกนะ

MichaelPaul เขียน: ผมก็บอกแล้วไงครับว่า เอาใจเขามาใส่ใจเรา ถ้าศาสนาพุทธโดนบิดเบือนเอาไปสร้างเป็นนิยายเน่าๆ อย่างนู้นอย่างนี้ โอเค คุณน่ะอาจจะไม่เดือดร้อน เพราะคุณเข้าใจแต่บางคนล่ะคุณคิดว่าคนอื่นๆเค้าจะคิดเหมือนคุณเหรอ
ส่วนประเด็นการให้อภัยกรุณาแยกให้ออกกับการชี้แจงนะครับ คงไม่อยากให้มีใครเข้าใจศาสดาศาสนาคุณตามนิยายเน่าๆมันบรรยายหรอกนะ

ก็นี่ไงที่ต้องการจะบอกปัญหาที่เกิดขึ้นตอนนี้ อยู่ที่คนไม่ใช่ศาสนา แล้วก็ไม่ใช่ศาสดาด้วย

ผมมองว่าทุกท่านเลย ไม่ได้คุยกันในหัวข้อของข่าวเลยนะครับ

ผมว่าข่าวนี้น่าจะทำให้เราฉุกคิด ว่าคนที่มักออกมาเป็นตัวแทนคนอื่นพูดในทำนองว่า คนอ่านมีวิจารณญาณแยกแยะได้นั้น ขนาดคนที่อยู่ในประเทศที่นับถือคริสตศาสนามาก ยังมีคนเชื่อจริงๆตามนิยาย แม้แต่ประเด็นที่สร้างความเสียหายให้แก่องค์กรที่มีตัวตนอยู่จริง ซึ่งสิ่งนี้ น่าจะถือว่าเป็นความรับผิดชอบโดยตรงของผู้แต่งนิยายนะครับ

ผมยกตัวอย่างง่ายๆว่า ถ้ามีมูลนิธิอะไรสักอย่างในไทย มีนักเขียนไทยแต่งนิยายทำนองว่ามูลนิธินี้มีฆาตกรเป็นมาเฟีย แล้วบอกว่า 100 คนมีคนเชื่อว่าจริงไป 17 คน เท่ากับถ้าคนอ่านนิยายไป 10 ล้านเล่ม มีคนเชื่อแบบนั้นไปแล้วเป็น1ล้าน7แสนคนนะครับ

คุณคิดว่าถ้าเป็นแบบนี้แล้ว มูลนิธินั้นจะฟ้องหมิ่นประมาทได้ไหม เพราะนิยายทำให้เขาเสียชื่อเสียงจริงๆ

ตามกฏหมายมันได้อยู่แล้วครับ

และเขามีสิทธิ์ด้วย

แต่ไม่มีใครพูดเรื่องนี้เลย มีคนอ้างว่าตัวเองแยกแยะได้ และตอบแทนคนอื่นราวกับว่าคนทุกคนแยกแยะได้

ยอมรับความจริงเถอะครับว่า

"มีคนแยกแยะไม่ได้จริงๆ"

และจนบัดนี้คนแต่งนิยายรับทรัพย์ร่ำรวยโดยไม่เคยแสดงความรับผิดชอบว่าได้ทำสิ่งเลวร้ายลงไปกับใครบ้าง

สิ่งนี้เป็นความจริงแท้แน่นอนอที่คุณเห็นจากหัวข้อข่าวครับ

จนปัจจุบันนี้ โอปุส เดอี ยังไม่ฟ้องแดน บราว์น เพราะเขาถือหลักให้อภัยนี่แหละ

แต่นั้นไม่ได้ทำให้ความจริงที่ว่า ผู้แต่งนิยายทำร้ายผู้อื่นอย่างร้ายกาจ เปลี่ยนไปครับ

ผมมองว่าทุกท่านเลย ไม่ได้คุยกันในหัวข้อของข่าวเลยนะครับ

เรียน คุณ Holy

ก็อ่านข่าวแล้ว รู้สึกเศร้าใจ ที่พี่น้องคริสชน รู้เรื่องพระวารสาร ไปอินกับหนังสือนิยายนี้แหละ

ถึงได้ โพสประชดประชัน ขึ้นมาไง

เพื่อนต่างศาสนาอ่านนิยายแล้วรู้สึกอิน กะหนังสือ เราไม่รู้สึกอะไรเลย
แต่นี้ เพื่อนคริสชน ไปอินกะหนังสือเข้าจริงๆๆนี้สิ


พี่จะบาปก็บาปเรื่องนี้แหละ (เอ่ยนามพระเป็นเจ้าโดยไม่สมเหตุ) บาปโมโห ใจแคบ
โพสไปก็รู้สึกผิดต่อบาปเหมือนกัน :(

เข้าใจความรู้สึกครับ

ขอพระเจ้าประทานสันติสุขครับ

MichaelPaul เขียน:

ปอนด์ เขียน: ผมคิดว่าทุกศาสนาสอนให้คนเป็นคนดี และกับสิ่งที่เกิดขึ้น ผมคิดว่าศาสดาขอศาสนาทุกศาสนาถ้ารับรู้เรื่องนี้ได้ ท่านก็คงให้อภัยในสิ่งที่เกิดขึ้น เพราะคงไม่มีศาสดาองค์ใดอยากให้เกิดความแตกแยกในสังคม แต่อย่างไรก็ตาม
ผมมองว่าปัญหาไม่ว่าจะศาสนาอะไร ก็เกิดมาจากตัวสาวกเอง มิใช่ศาสดา
ผมคิดว่า ถ้าศาสดาของศาสนาคริสต์ยังอยู่ คือ พระเยซู ผมคิดว่าท่านคงบอกกับสาวกทั้งหลาย เลิกวุ่นวาย เลิกสร้างความขัดแย้ง ให้กับสังคม เพราะเท่าที่ได้รู้มา นะครับสำหรับคริสต์ คือ ความรักและการให้อภัย แต่บางทีผมเคยคุย กับเพื่อที่เป็นคริสต์นะครับ กับหนังเรื่องนี้เค้าจะเป็นเดือดเป็นร้อนมาก ผมก็เลยย้อนถามเค้ากลับว่า ศาสนาเค้าสอนให้คนมาทะเลาะกันหรอ ไหนบอว่าสริสต์สอนการให้อภัย สอนเรื่องความรัก แต่ตอนนี้มันมีความอาคาด ความแค้นเคือง ถ้าอย่างนี้แสดงว่าปัญหาไม่ใช่อยู่ที่ศาสนาหรือองค์ศาสดา แต่อยู่ที่สาวกแล้วใช่ไหม เพราะที่เป็นเดือดเป็นแค้นอยู่ การให้อภัยกับความรักตามหลักคำสอนไปไหนละ ผมก็ไม่ใช่คริสต์ เป็นพุทธ แต่ก็มองอะไรหลายๆ อย่างโดยอาศัยหลักความจริง ศาสนาของคุณมีหลักคำสอนที่ดี แต่ปัญหาผมมองว่าอยู่ที่คนรับไปปฏิบัติมากกว่า ผมฑุดถึงบางคนนะครับ ที่เอาศาสนามาอ้าง โดยให้ความเครียดแค้นมาครอบงำ

ลองมีคนแต่งนิยายบิดเบือนศาสนาพุทธมั่งไหมครับ เผื่อจะได้เข้าใจความรู้สึก "เอาใจเขามาใส่ใจเรา" ครับ คนที่บอกแบบคุณมีเยอะครับแต่ถามว่าเค้าโดนกับตัวเองไหม ฌปล่าเลยเค้าเป็นคนวงนอก เอาง่ายๆถ้ามีคนพูดลอยๆว่า เฮ้ยผมแต่งนิยายว่าพ่อคุณมีภรรยาน้อย แต่เอาสถานที่ ชื่อคน ที่มีอยู่จริงมาแต่งจนคนคิดว่าเป็นเรื่องจริง คุณจะโมโหไหมครับ

พี่เอกใจเย็นๆ - -"
ก้ออ่านะ พี่พูดถูกบางคนแบบ บอกว่าแล้วเราจามาเดือดร้อนกานทำไม เขาไม่เข้าใจอ่ะ ลองเขาเจอแบบนี้มั้งอยากรู้นักว่าจาเป็นไงกัน

พูดถึงเรื่องนี้มันก้อมีคนเชื่ออ่านะ บางคนบอก แบว่า ถ้ามันไม่จริงแล้วเขาแต่งมาได้ไง มันก้อต้องมีข้อมูลจิ *swt
เวงกรรม เชื่อกันเป็นตุเป็นตะ
เมื่อเช้ามีเพื่อนมาถามเรื่องนี้เหมือนกันนะ เหอะๆ ตอนนี้บูกำลังป๊อปเลย มีแต่คนมาถาม บูก้อเล่าให้ฟัง ไปๆมาๆมันถามว่า แล้วอ้าว ตกลงพระเยซุม่ะมีเมียช่ายม่ะ กรรรมมมมมม - -"

dadar เขียน:

MichaelPaul เขียน: ผมก็บอกแล้วไงครับว่า เอาใจเขามาใส่ใจเรา ถ้าศาสนาพุทธโดนบิดเบือนเอาไปสร้างเป็นนิยายเน่าๆ อย่างนู้นอย่างนี้ โอเค คุณน่ะอาจจะไม่เดือดร้อน เพราะคุณเข้าใจแต่บางคนล่ะคุณคิดว่าคนอื่นๆเค้าจะคิดเหมือนคุณเหรอ
ส่วนประเด็นการให้อภัยกรุณาแยกให้ออกกับการชี้แจงนะครับ คงไม่อยากให้มีใครเข้าใจศาสดาศาสนาคุณตามนิยายเน่าๆมันบรรยายหรอกนะ

ก็นี่ไงที่ต้องการจะบอกปัญหาที่เกิดขึ้นตอนนี้ อยู่ที่คนไม่ใช่ศาสนา แล้วก็ไม่ใช่ศาสดาด้วย

เอ๊า แล้วผมไปพูดถึงเรื่อง ศาสนากะศาสดาตั้งแต่เมื่อไหร่ล่ะคร๊าบ ผมแค่บอกว่าลองโดนดูมั้งก็เท่านั้น

http://chubby.exteen.com/20060518/the-da-vinci-code

ลองดูที่นี่สิครับ :-[