หน้า 1 จากทั้งหมด 1

ขอบพระคุณพระเยซูเจ้า พิธีแห่ศีลมหาสนิท

โพสต์แล้ว: จันทร์ มิ.ย. 19, 2006 8:52 pm
โดย minnie
ขอบพระคุณพระเยซูเจ้า พิธิแห่ศีลมหาสนิท

เนื่องจากปาป๊าป่วย ทำใจได้แล้ว สำนึกได้ ขอให้เป็นไปตามน้ำพระทัยของพระองค์

เราก็ดูแลปาป๊า ตามหน้าที่ (เพราะการดูแลพ่อแม่คือหน้าที่ตามที่พระเยซูเจ้าสอน)
เราไม่เคยคาดหวังว่า การดูแลพ่อแม่แล้ว จะได้ผลตอบแทน (อันนี้คนรักสอนมา กะบรรดาคุณพ่อทั้งหลาย)
เพราะมันคือหน้าที่ ที่ลูกต้องดูแล



เราก็ขอให้เพื่อนๆๆ ที่น่ารักสวดให้และมาเยี่ยม พาคุณพ่อที่น่ารักมาอวยพร
(และคุณพ่อที่โรงพยาบาล อวยพร ด้วย)

อ้อมีซิสเตอร์มาปลอบใจด้วย ไม่ได้มาปลอบใจปาป๊า แต่มาปลอบใจญาติ คือเรากะมาม๊า
ให้รู้สึกดีขี้น

ปาป๊ามาม๊า พลมารีที่ใจดี มาเยี่ยม และสวดให้ด้วย

แม่ทูนหัวและเพื่อนก็มาเยี่ยมปาป๊า
ยายทูนหัว(อันนี้ตั้งเอง) ดำเนินการวิ่งกะปุ๊กลุ๊กตามพ่อมาเจิมศีลป่วย(ที่มีน้ำมันงะ)

เมื่อวันอาทิตย์ เรากะมาม๊า ก็ไปแห่ศีลมหาสนิท ก็ไม่รู้เรื่องกะเค้าหรอก เพราะไปครั้งแรก
บังเอิญเจอไกด์แกะจิงจิง แนะนำงะ
อ้อ โฮลี่ก็สอน พี่ เป็นอย่างงี้อย่างงีน๊ะ

เราก็ขอพร จากพระ ขอให้ปาป๊าดีขึ้น

วันนี้ปาป๊าตาแป๋ว รู้สึกตัว เริ่มดื้อ เอามือแกะแผล ต้องขอพยาบาลมัดงะ (การดื้อเป็นสิ่งที่ดีของคนมีอาการทางสมองงะ คือรู้สึกตัวงะ)
แผลสวยมาก สด เนื้อตื้นขึ้นมางะ
อ้อ เริ่มพูดได้ นิดหน่อย แฮะ แฮะ

พรุ่งนี้กลับบ้านแหละ ไปทำแผลเอง

คำว่า เป็นไปตามน้ำพระทัยของพระองค์ ชั่งเป็นคำ ลึกล้ำจริงหนอ
มีพระเป็นเจ้าเท่านั้นที่รู้

ลูกรู้อย่างเดียว ตอนนี้

ทำหน้าที่ให้ดีทีสุด สโคบแค่คำนี้อันเดียวค่ะ :D

Re:ขอบพระคุณพระเยซูเจ้า พิธีแห่ศีลมหาสนิท

โพสต์แล้ว: จันทร์ มิ.ย. 19, 2006 10:11 pm
โดย yuki
พิธิแห่ศีลมหาสนิท คืออะไร มีความสำคัญอย่างไรอธิบายหน่อยสิคับ

Re:ขอบพระคุณพระเยซูเจ้า พิธีแห่ศีลมหาสนิท

โพสต์แล้ว: จันทร์ มิ.ย. 19, 2006 10:43 pm
โดย minnie
วันอาทิตย์ที่ 18 มิถุนายน 2006
สมโภชพระวรกายและพระโลหิตพระคริสตเจ้า



บทอ่านจากหนังสืออพยพ อพย 24.3-8

ในครั้งนั้น โมเสสไปบอกให้ประชากรรู้พระวาจาทุกคำ และข้อกำหนดทั้งหมดของพระยาห์เวห์ ประชากรทุกคนตอบเป็นเสียงเดียวกันว่า "พวกเราจะปฏิบัติตามพระวาจาทุกคำที่พระยาห์เวห์ตรัสกับเรา"
โมเสสบันทึกพระวาจาทุกคำของพระยาห์เวห์ไว้ เช้าตรู่วันรุ่งขึ้น เขาสร้างพระแท่นบูชาไว้ที่เชิงเขา และตั้งหินสิบสองก้อนไว้เป็นตัวแทน ทั้งสิบสองเผ่าของอิสราเอลเขาให้ชายหนุ่มชาวอิสราเอลเป็นผู้ถวายเครื่องบูชาและฆ่าโคถวายแด่พระยาห์เวห์เป็นศานติบูชา โมเสสรองเลือดครึ่งหนึ่งใส่ชามไว้แล้วพรมเลือดอีกครึ่งหนึ่งบนพระแท่นบูชา เขาเอาหนังสือพันธสัญญาขึ้นมาอ่านให้ประชากรฟัง ประชากรตอบว่า
"พวกเราจะเชื่อฟังและปฏิบัติตามพระวาจาที่พระยาห์เวห์ตรัส"
โมเสสนำเลือดในชามประพรมประชากรพูดว่า "นี่คือโลหิตแห่งพันธสัญญาที่พระยาห์เวห์ทรงกระทำกับท่าน ตามพระวาจาเหล่านี้ทั้งหมด"

เพลงสดุดี สดด 116.12-13, 14-16, 17-18

ก) ข้าพเจ้าจะตอบแทนพระยาห์เวห์ได้อย่างไร
ให้สมกับที่ทรงดีต่อข้าพเจ้า?
ข้าพเจ้าจะชูถ้วยแห่งความรอดพ้น
และเรียกขานพระนามพระยาห์เวห์

ข) ข้าพเจ้าจะปฏิบัติตามคำปฏิญาณที่ให้ไว้แก่พระยาห์เวห์
ต่อหน้ามวลประชากรของพระองค์
ความตายของผู้จงรักภักดีต่อพระยาห์เวห์มีค่ายิ่งนักเฉพาะพระพักตร์พระองค์
ข้าแต่พระยาห์เวห์ ข้าพเจ้าเป็นผู้รับใช้ของพระองค์
ข้าพเจ้าเป็นผู้รับใช้ของพระองค์ เป็นบุตรของหญิงรับใช้พระองค์
พระองค์ทรงปลดโซ่ตรวนที่จองจำข้าพเจ้า

ค) ข้าพเจ้าจะถวายเครื่องบูชาขอบพระคุณ
และจะเรียกขานพระนามพระยาห์เวห์
ข้าพเจ้าจะปฏิบัติตามคำปฏิญาณที่ให้ไว้แก่พระยาห์เวห์
ต่อหน้ามวลประชากรของพระองค์

บทอ่านจากจดหมายถึงชาวฮีบรู ฮบ 9.11-15

พระคริสตเจ้าเสด็จมาเป็นมหาสมณะผู้นำพระพรต่างๆที่พระเจ้าทรงสัญญาจะประทานมาให้ พระองค์เสด็จผ่านกระโจมที่ยิ่งใหญ่กว่าและสมบูรณ์กว่าทั้งมิ ใช่กระโจมที่สร้างขึ้นด้วยมือมนุษย์ คือมิใช่กระโจมของโลกนี้พระองค์เสด็จเข้าสู่สถานที่ศักดิ์สิทธิ์อย่างยิ่งเพียงครั้งเดียวตลอดไปสิ่งที่พระองค์ทรงนำไปด้วยมิใช่เลือด แพะ และเลือดลูกโค แต่ทรงนำพระโลหิตของพระองค์เข้าไป และทรงกระทำให้การไถ่กู้นิรันดรสำเร็จ

ถ้าการประพรมบุคคลที่มีมลทินด้วยเลือดแพะ เลือดลูกโค รวมกับเถ้าของโคเพศเมีย ยังทำให้บุคคลนั้นบริสุทธิ์ร่วมศาสนพิธีได้ พระโลหิตของพระคริสตเจ้า ย่อมทำได้มากกว่านั้น พระคริสตเจ้าทรงถวายพระองค์โดยปราศจากตำหนิมลทินแด่พระเจ้าเดชะพระจิตเจ้าผู้ทรงดำรงอยู่ตลอดนิรันดร พระโลหิตชำระจิตใจของเรา ให้บริสุทธิ์จากกิจการที่ตายแล้วเพื่อจะได้รับใช้พระเจ้าผู้ทรงชีวิต

ดังนั้น พระคริสตเจ้าทรงเป็นคนกลางในการทำพันธสัญญาใหม่ เพื่อให้ผู้ที่ได้รับเรียกเป็นทายาทกองมรดกนิรันดรได้รับตามพระสัญญา เพราะพระองค์ทรงยอมรับความตายเพื่อลบล้างการล่วงละเมิด ตามเงื่อนไขของพันธสัญญาเดิมแล้ว

บทเสริม

1. นี่คือปังของทูตสวรรค์ ที่กลายเป็นอาหารสำหรับมนุษย์ผู้เดินทาง
เป็นอาหารสำหรับบรรดาบุตร จึงต้องไม่ให้อาหารนี้แก่สุนัข

2. ศีลมหาสนิทนี้มีเครื่องหมายแสดงไว้แล้วในอดีต เมื่ออิสอัคถูกถวายเป็นบูชา
เมื่อลูกแกะปัสกาถูกฆ่าเป็นบูชา เมื่อพระเจ้าประทานมานนาแก่บรรพบุรุษ

3. ข้าแต่พระเยซูเจ้า พระองค์ทรงเป็นผู้เลี้ยงที่ดี ทรงเป็นอาหารแท้จริง
โปรดทรงพระกรุณาข้าพเจ้าทั้งหลายเถิด ขอพระองค์ทรงเลี้ยงดู
และปกปักรักษาข้าพเจ้าทั้งหลาย
โปรดให้ข้าพเจ้าทั้งหลายได้พบความสุขในแดนของผู้มีชีวิตด้วยเถิด

4. พระองค์ทรงทราบทุกสิ่ง พระองค์ทรงทำได้ทุกสิ่ง
พระองค์ทรงเลี้ยงดูข้าพเจ้าทั้งหลาย ผู้รู้ตายในแผ่นดินนี้แล้ว
ขอพระองค์ทรงบันดาลให้ผู้ที่ทรงเชิญให้มาร่วมโต๊ะกับพระองค์
ได้ร่วมรับมรดกและเป็นมิตรสหายกับบรรดาผู้ศักดิ์สิทธิ์ชาวสวรรค์ด้วยเถิด

บทอ่านจากพระวรสารนักบุญมาระโก มก 14.12-16, 22-25

วันแรกของเทศกาลกินขนมปังไร้เชื่อ เมื่อเขาฆ่าลูกแกะปัสกา บรรดาศิษย์ทูลถามพระเยซูเจ้าว่า "พระองค์มีพระประสงค์ให้เราจัดเตรียมการเลี้ยงปัสกาที่ไหน" พระองค์จึงทรงใช้ศิษย์สองคนไป สั่งเขาว่า "จงเข้าไปในกรุง แล้วจะพบชายคนหนึ่งกำลังเดินแบกหม้อน้ำอยู่ จงตามเขาไป เขาเข้าไปที่ไหน จงถามเจ้าของบ้านว่า "พระอาจารย์ถามว่า ห้องที่เราจะกินปัสกากับบรรดาศิษย์นั้นอยู่ที่ไหน"

เขาจะชี้ให้ท่านเห็นห้องใหญ่ชั้นบนปูพรมไว้เรียบร้อย จงจัดเตรียมปัสกาไว้สำหรับพวกเราที่นั่นแหละ" ศิษย์ทั้งสองคนออกเดินทางเข้าไปในกรุง พบสิ่งต่างๆดังที่พระองค์ทรงบอกไว้ จึงจัดเตรียมปัสกา

ขณะที่ทุกคนกำลังกินอาหารอยู่นั้น พระองค์ทรงหยิบขนมปัง ตรัสถวายพระพรทรงบิขนมปัง ประทานให้เขาเหล่านั้น ตรัสว่า "จงรับเถิด นี่เป็นกายของเรา" แล้วพระองค์ทรงหยิบถ้วย ตรัสขอบพระคุณ ประทานให้เขาและทุกคนดื่มจากถ้วยนั้น พระองค์ตรัสกับเขาว่า "นี่เป็นโลหิตของเราโลหิตแห่งพันธสัญญาที่หลั่งออกเพื่อคนจำนวนมาก เราบอกความจริงกับท่านทั้งหลายว่า เราจะไม่ดื่มน้ำจากผลองุ่นใดจนกว่าจะถึงวันที่เราจะดื่มเหล้าองุ่นใหม่ในพระอาณาจักรของพระเจ้า"



บทเทศน์จากพระวาจาของพระเจ้า
อาทิตย์สมโภชพระกายและพระโลหิตของพระเยซูเจ้า
อาทิตย์ที่ 18 มิถุนายน 2006

วันนี้ วินาที่นี้ เพื่อที่เราจะตัดสินใจทำสิ่งใด ผลที่ได้จะได้ดีหรือไม่ดีมีองค์ประกอบหลายด้านเหลือเกินที่เข้ามาพัวพันเกี่ยวข้องด้วย ประการแรก สิ่งที่เราคิดและตั้งใจจะทำในวันนั้น ในวินาทีนั้น ออกมาจากความคิดความตั้งใจที่ดีและมุ่งมั่นขนาดไหน ประการที่สอง อดีตที่ผ่านมาในชีวิตมีความดีความเลวที่จะเข้ามารบกวนบ่อนทำลายความตั้งใจอันดีงามในขณะนี้หรือไม่มากน้อยขนาดไหน ประการที่สาม องค์ประกอบแวดล้อมถึงตัวบุคคลหรือธรรมชาติต่างๆในสิ่งสร้างทั้งหลายในโลกที่เต็มไปด้วยบาปจะเข้ามามีส่วนเอื้อหรือขัดขวางความตั้งใจอันดีงามในครั้งนี้หรือไม่มากน้อยเพียงใด และประการสุดท้ายที่สำคัญยิ่ง พระเจ้าทรงมีแผนการกับชีวิตของเราให้พึงต้องเป็นเช่นไรในขณะนี้และจะส่งผลให้เกิดผลดีอะไรต่อไปในอนาคต สิ่งที่เราคิดว่าดีนั้นๆสอดคล้องหรือขัดต่อพระประสงค์ในแผนการของพระองค์หรือไม่

หากเราสามารถจัดการกับชีวิตของเราให้คิดดีทำดีอย่างสอดคล้องกับพระประสงค์และแผนการของพระเจ้าได้ ชีวิตของเราก็จะรู้สึกปลอดโปร่งผ่องใส ทำให้ก้าวเดินไปข้างหน้าได้อย่างราบรื่นมั่นใจ เช่นเดียวกัน หากเราสามารถจัดการกับอดีตที่มีความบาปผิดพลาดติดอยู่ ให้สามารถเปลี่ยนมาเป็นชีวิตใหม่ในปัจจุบันที่ปราศจากมลทินบาปความผิด รวมทั้งพลิกฟื้นจัดการความบาปผิด และสิ่งเลวร้ายทั้งหลายทั้งจากบุคคลรอบข้างและธรรมชาติในสิ่งสร้างทั้งหลายให้กลายเป็นสิ่งดีๆบริสุทธิ์ผุดผ่อง หากทำได้เช่นนี้ การดำเนินชีวิตก็สามารถดำเนินไปได้อย่างราบรื่นจนบรรลุถึงความสุขความพึงพอใจเสมอ แต่น่าเสียดายที่ความจริงในชีวิตนั้น การจัดการกับชีวิตมิได้ง่ายอย่างที่กล่าวถึง เพราะเรามนุษย์แต่ละคนเต็มไปด้วยความจำกัดสารพัด เราจะสามารถจัดการกับองค์ประกอบต่างๆที่มีส่วนเข้ามากระทบกับความคิดความตั้งใจของเรา เพื่อทำให้ชีวิตของเราประสบความสำเร็จดังตั้งใจได้อย่างไรในเมื่อชีวิตของเราแต่ละคนมีเพียง "สองมือสองเท้า" และสิ่งที่มีอยู่ก็มีอย่างจำกัดก็ถูกคลอบงำไปด้วยผลร้ายของบาปทั้งที่ตกทอดสืบกันมาและที่ทำด้วยมือตนเองอีกด้วย ต่อให้นำเอาผู้คนทั้งโลกเข้ามาร่วมกันจัดการกับองค์ประกอบทั้งหลายดังกล่าวข้างต้นก็ไม่สามารถทำได้สำเร็จ ดีไม่ดียิ่งเข้ามาช่วยกันมากๆแทนที่จะมาช่วยกลับนำความยุ่งยากเข้ามาสมทบด้วย เพราะโลกของเรารวมทั้งสิ่งสร้างทั้งหลายได้ชื่อว่าเป็นโลกและสิ่งสร้างที่เวียนว่ายอยู่ในความบาปนั่นเอง ด้วยเหตุนี้ความหวังของเรามนุษย์จึงอยู่ที่พระหัตถ์ของพระเจ้าที่จะทรงพระกรุณายื่นเข้ามาชำระล้างปลดเปลื้องปลดล็อคความบาปผิดให้กับเรามนุษย์และธรรมชาติของสิ่งสร้างทั้งหลาย เมื่อชีวิตและสิ่งสร้างทั้งหลายได้รับการชำระให้บริสุทธิ์ ความตั้งใจของเราที่จะทำสิ่งใดๆก็ย่อมบริสุทธิ์สอดคล้องกับแผนการและพระประสงค์ของพระเจ้า เมื่ออดีตที่ผ่านมาของชีวิตได้รับการชำระให้บริสุทธิ์ การตัดสินใจทำสิ่งดีในวันนี้ก็ไม่มีความมัวหมองเข้ามารบกวน เมื่อชีวิตของผู้คนรอบข้างได้รับการชำระให้บริสุทธิ์ ความสัมพันร่วมมือกับผู้คนรอบข้างก็ย่อมราบรื่น และในที่สุดเมื่อธรรมชาติและสิ่งสร้างทั้งหลายรอบข้างที่ได้รับการชำระให้บริสุทธิ์พ้นจากอิทธิพลของบาป ธรรมชาติและสิ่งสร้างทั้งหลายก็มีแต่จะเอื้อเกื้อกูลสนับสนุนให้สิ่งที่เราตั้งใจกระทำดีสามารถก้าวเดินไปได้อย่างสะดวกราบรื่นบรรลุผลสอดคล้องกับเป้าประสงค์ที่พระเจ้าทรงมีต่อชีวิตของเราเองป็นส่วนตัว กับมวลมนุษย์เป็นส่วนรวม และกับธรรมชาติสิ่งสร้างอีกด้วย

คำตอบทั้งหลายทั้งปวงกับสิ่งที่พ่อกล่าวมาทั้งหมดนี้อยู่ใน "ศีลมหาสนิท" ที่เราสมโภชกันในอาทิตย์นี้ เพราะศีลมหาสนิทเป็นโลหิตของพระเยซูเจ้า เป็นโลหิตแห่งพันธสัญญาที่ทรงยินดีหลั่งออกเพื่อชำระมวลมนุษย์และสิ่งสร้างทั้งหลาย ตามที่ท่านนักบุญเปาโลกล่าวไว้ในบทจดหมายของท่านถึงชาวฮีบรูว่า "พระโลหิตชำระจิตใจของเราให้บริสุทธิ์จากกิจการที่ตายแล้วเพื่อจะได้รับใช้พระเจ้าผู้ทรงชีวิต" อีกทั้งศีลมหาสนิทยังเป็น อาหารที่กลั่นออกมาจากเนื้อขององค์พระเยซูเจ้า ที่จะเป็นพลังให้เราก้าวเดินไปได้ดีดังที่ตั้งใจได้ตลอดรอดฝั่งที่พระเยซูเจ้าทรงพระกรุณาประทานให้กับเราตามที่ทรงตรัสไว้ในพระวรสารโดยท่านนักบุญมารโกประจำอาทิตย์นี้ว่า "จงรับเถิด นี่เป็นกายของเรา" แล้วพระองค์ทรงหยิบถ้วย ตรัสขอบพระคุณ ประทานให้เขาและทุกคนดื่มจากถ้วยนั้น พระองค์ตรัสกับเขาว่า "นี่เป็นโลหิตของเรา โลหิตแห่งพันธสัญญาที่หลั่งออกเพื่อคนจำนวนมาก"

ศีลมหาสนิทคือชีวิตของพระเยซูเจ้าที่แม้เรามองเห็นปรากฏเป็นแต่เพียงแผ่นปังต่อหน้า แต่แท้ที่จริงแล้ว "ธาตุแท้" ในแผ่นปังขาวๆที่เรามองเห็นได้เปลี่ยนไปกลายเป็น "ธาตุแท้" ใหม่ กลายเป็น "เนื้อชีวิตของพระเยซูเจ้า" บรรจุอยู่ เพียงแต่ตาของเรามองเห็นธาตุแท้ที่เป็นเนื้อชีวิตของพระเยซูเจ้าไม่ได้ด้วยตาเปล่า จะเห็นได้ด้วยใจที่มีความเชื่อในพระองค์ ตาของเรามนุษย์มีความจำกัดมองเห็นความจริงของศีลมหาสนิทได้เท่าที่ตามีความสามารถอยู่อันน้อยนิดเท่านั้น เปรียบเหมือนการมองเห็น "เนื้อสี" บนจอมอนิเตอร์ของเครื่องคอมพิวเตอร์ที่มีคามสามารถแสดงผลอย่างจำกัด จริงๆแล้วสีที่เรามองเห็นสีจากจอมอนิเตอร์นั้นไม่ตรงกับเนื้อสีจริงของไฟล์ภาพที่อาจจะมีความละเอียดของเม็ดสีมากกว่า แต่ความสามารถของจอภาพสามารถแสดงผลออกให้เห็นได้จำกัดเท่าที่คุณภาพของจอมีอยู่เท่านั้น ในทำนองเดียวกัน แผ่นปังขาวๆที่พระสงฆ์เสกในพิธีมิสซาบูชาขอบพระคุณมีความสามารถจำกัดไม่สามารถแสดงผล "พระธรรมชาติของพระเจ้า" ในแผ่นปังเสกนั้นออกมาให้เราได้สัมผัสอย่างครบถ้วนเหมือนจอมอนิเตอร์ของเครื่องคอมพิวเตอร์เช่นกัน แต่โดยอาศัยความเชื่อในจิตใจร่วมประสานกับสายตาอันจำกัดของเรา เราจึงสามารถมองเห็นและรับผลแห่งการชำระล้างจากพระเยซูเจ้าในศีลมหาสนิทให้กับชีวิตของเราได้ การเข้ามารับศีลมหาสนิทด้วยจิตใจที่สำนึกถึงความจริงเช่นนี้จะส่งผลทำให้พระเยซูเจ้าในศีลมหาสนิทกลายเป็นท่อธารแห่งพระหรรษทานที่พระเจ้าประทานให้กับชีวิตของเราตามที่ท่านนักบุญเปาโล กล่าวไว้ในบทจดหมายของท่านถึงชาวฮีบรูประจำอาทิตย์นี้ว่า "พระคริสตเจ้าเสด็จมาเป็นมหาสมณะผู้นำพระพรต่างๆที่พระเจ้าทรงสัญญาจะประทานมาให้"

พี่น้องที่เคารพโอกาสวันสามโภชพระกายและพระโลหิตของพระเยซูเจ้าในศีลมหาสนิทประจำอาทิตย์นี้ พ่อขอเชิญชวนให้พี่น้องเปิดใจน้อมรับความจริงแห่งศีลมหาสนิทและเข้ามารับศีลมหาสนิท เพื่อให้พระองค์ได้มีโอกาสเข้ามาประทับใจจิตของพี่น้องทุกคน จะได้สามารถเข้ามาชำระจัดการกับชีวิตของพี่น้องเองและองค์ประกอบต่างๆรอบชีวิตของพี่น้องให้บริสุทธิ์อย่างลงตัว พี่น้องจะได้ก้าวเดินไปในภารกิจการงานที่พี่น้องกระทำอยู่อย่างสงบสุขและบังเกิดผล ประสบการณ์ดีๆที่พี่น้องได้รับจากพระเยซูเจ้าในศีลมหาสนิทนี้เองเป็นเป็นประสบการณ์ที่พี้องพึงต้องนำเอาไปประกาศเป็นข่าวดีให้กับผู้คนทั้งหลายรอบข้างให้ได้รับรู้ ตามคำขวัญของปีแพร่ธรรมปีนี้ที่ว่า "บอกเรื่องราวของพระเยซูให้แก่ชาวเอเชีย" ซี่งพระศาสนจักรในประเทศไทยได้ปรับคำขวัญดังกล่าวให้เข้ากับเราคริสตังไทยว่า "บอกเล่าเรื่องราวของพระเยซูให้แก่ชาวไทย"

http://www.catholic.or.th/spiritual/hom ... une06.html

Re:ขอบพระคุณพระเยซูเจ้า พิธีแห่ศีลมหาสนิท

โพสต์แล้ว: จันทร์ มิ.ย. 19, 2006 10:56 pm
โดย Buddy.
Y u K i เขียน: พิธิแห่ศีลมหาสนิท คืออะไร มีความสำคัญอย่างไรอธิบายหน่อยสิคับ
Do you know about 'Benediction'? .... visit the Blessed Sacrament?

Re:ขอบพระคุณพระเยซูเจ้า พิธีแห่ศีลมหาสนิท

โพสต์แล้ว: อังคาร มิ.ย. 20, 2006 12:06 am
โดย Divine Mercy
รูปภาพ
หน้าขบวนแห่จะมีธงรูปพระ แม่พระ และบรรดานักบุญต่าง
เรียงเป็นขบวนอยู่หน้าขบวนแห่ศีลมหสนิท อย่างสง่างาม

รูปภาพ
พระสงฆ์ผู้เป็นประธานยกรัศมีที่บรรจุศีลมหาสนิท(แผ่นปัง)
แห่ไปรอบบริเวณวัด โดยมีฉัตรปฎลกางรับเสด็จ

รูปภาพ
มีการจัดพลับพลาที่ประทับรอบบริเวณวัดเป็นพระแท่นที่ประทับ
จัดตกแต่งประดับประดาอย่างสวยงามสมพระเกียรติ และอวยพรศีลมหาสนิท

รูปภาพ
มีเด็กๆแต่งชุดทูตสวรรค์น้อยๆ ฟ้อนรำโปรยดอกไม้รับเสด็จตลอดขบวนแห่
เมื่อรัศมีศีลอัญเชิญถึงพระแท่นที่ประทับทุกคนจะคุกเขาสวดภาวนา
และรอรับการอวยพรศีลมหาสนิท

รูปภาพ
สุดท้ายก็จะอัญเชิญศีลกลับเข้าไปในวัด

รูปภาพ
และอวยพรศีลอีกครั้งในวัดอย่างสง่างาม

การแห่ศีลมหาสนิทคือ การอัญเชิญศีลมหาสนิท(แผ่นปังที่ทำพิธีเสกแล้ว)ซึ่งคาทอลิกเชื่อว่าได้เปลี่ยนเป็นพระกายของพระเยซูคริสตเจ้าในรูปปรากฏของแผ่นปังประทับในรัศมีสีทองอร่าม แห่รอบบริเวณวัดอย่างสง่ามีฉัตรปฎลกางรับเสด็จ รอบบริเวณวัดจะจัดพระแท่นที่ประทับเป็นพลับพลาชั่วคราวสำหรับทำพิธีอวยพรอย่างสง่า ประมาณ2-3 พลับพลา ขึ้นอยู่กับอาณาบริเวณของวัด ขณะที่ศีลมหาสนิทผ่านประชาสัตบุรุษทุกคนจะคุกเข่าให้ความเคารพอย่างนบนอบและสวดภาวนาขอพร สรุป การแห่ศีลมหาสนิทคือ การออัญเชิญพระเยซูเจ้ามาอวยพรอย่างใกล้ชิดและสง่างาม ถือเป็นพิธีกรรมที่มองเห็นถึงความน่าเคารพเกรงขาม สง่างาม และศักดิสิทธิ์สูงสุดอีกพิธีหนึ่งของคาทอลิก หนึ่งปีมีเพียงครั้งเดียว จัดขึ้นทุกวัดทั่วประเทศในวันสมโภชพระวรกายและพระโลหิตของพระคริสตเจ้า