มาอภิปรายพระคัมภีร์ ในหนังสือ อพยบ กันหน่อยดีกว่า

[จอมนางกระบี่เดี่ยว]

แหม ๆ เห็นมีผู้สนใจศึกษาตีความพระคัมภีร์กันก็หลายคน ผู้รู้ก็หลายท่าน มามะ มาช่วยกันอธิบายขยายความ หนังสือ อพยบ กันดีกว่า ว่า

1. พระเป็นเจ้าต้องการสอนคุณธรรมเรื่องอะไร บ้าง
2. หนังสือเล่มนี้ มีภูมิหลังยังไงบ้าง เช่น ขนบธรรมเนียมของยิว ประวัติศาสตร์อียิปต์ยุคนั้น 
3. มีสัญลักษณ์อะไรบ้าง ที่น่าสนใจ 

ลุยเลย ลุยโลด

[minnie]

ยากจังพี่

เดี๊ยวไปค้นตำรามาก่อง เรื่องของเรื่องกัวมั่วอะค่ะ แฮะแฮะ

ที่จำได้ไม่เปิดพระคัมภีร์งะ

เรื่องสัญญาลักษณ์อะค่ะ

ไม้เท้า  ไม้เท้าประกาศกพกจนถึงยุคของ โยเซฟที่ไปอยู่ดินแดนอียิปงะ

มีงูที่พันรอบไม้กางเขน การอธิบายถึงสัญญาลักษ์ ยากงะ
มานา
นกกระทา
เวลาโมเสส ชูมือขึ้นรบชนะทุกทีเยย มีฮาโรน คอยช่วย

ไฟ ที่ปรากฎพุ่มไม้ หมายถึงพระเป็นเจ้า โมเสสไม่กล้ามอง

เดี๊ยวไปค้นมาก่อง 

[St.paul]

คุยกะโปรแตสแตนท์น่าจะได้ไอเดียดีๆนะครับ

[Holy]

ความเป็นจริงแล้ว หนังสืออพยพ มีจุดที่น่าสนใจมาก1จุด นั่นคือ การเปิดตัวพระเจ้า ในพระนาม "ยาเวห์" (เราเป็น) พระเจ้าเพียงผู้เดียว ศักดิ์สิทธิ์สุงสุด มนุษย์ไม่สามารถออกพระนามได้ และไม่สามารถเข้าใจพระองค์ได้ เป็นพระเจ้าในศาสนาเดียวท่ามกลางศาสนาโบราณอื่นๆที่นับถือเทพเจ้าหลายองค์ และมนุษย์ล้วนรู้ประวัติการกำเนิดเทพแต่ละองค์อย่างดี ราวกับเคยไปแอบดูตั้งแต่ตอนกำเนิด แต่ไม่ใช่กับ พระยาเวห์ พระผู้ซึ่งประกาศพระนามที่มนุษย์ไม่เข้าใจ ออกเสียงไม่ได้ และไม่สนใจด้วยว่ามนุษย์จะรู้จักพระองค์แค่ไหน สิ่งเดียวที่พวกเขารู้คือ นี่คือพระเจ้าของ อับราฮัม อิสอัค ยาโคป พระองค์กำเนิดมาจากไหน พำนักที่ใด รูปร่างหน้าตาเป็นอย่างไร คำตอบเดียวคือ"ไม่รู้" แม้แต่โมเสสที่คุยกับพระองคืมาตลอด ก็ไม่รู้เรื่องเหล่านี้เลย

นี่จึงเป็นการแหวกแนวที่สุดในบรรดาศาสนาโบราณทั้งหมด ที่ล้วนมีเทพเจ้ารูปร่างหน้าตาหลากหลายทั้งสัตว์และคล้ายคน มีกำเนิด มีแต่งงาน มีเจ็บ มีตาย มีแพ้พ่าย มีที่สิงสถิตย์ประจำ แยกกันไปทำงานเป้นส่วนๆ ประจำน้ำบ้าง เมฆบ้าง ดินบ้าง

แต่ ยาเวห์ บอกว่าพระองค์คือพระเจ้าของทุกสิ่ง

และพระองค์อยู่ได้ทุกแห่ง

และมีพระองค์เป็นพระเจ้าสูงสุด หนึ่งเดียว

ช่างเป็นพระเจ้าที่ไม่สนใจเลยว่า การมีสถานภาพที่เข้าใจยาก และแปลกประหลาดแบบนี้ คนโบราณจะไม่เข้าใจจะไม่เชื่อเอา แต่พระองค์กลับพิสุจน์ว่าทรงเป็นพระเจ้าเหนือเทพทั่งมวลและนามทั้งหมด แม้แต่เทพที่ปกครองชนชาติที่นมัสการพระองค์อย่าง อียิปต์ ที่มีคณะเทพประจำนั่นประจำนี่มากมาย มีรูปร่างหน้าตาแตกต่างชัดเจน

พระองค์จึงใช้มนุษย์พูดติดอ่าง1คน กับพี่ชายเขา พร้อมไม้เท้าต้อนแกะเก่าๆ1อัน ไปถล่มชนชาติยิ่งใหญ่ ที่ถือฟาโรห์ผู้ปกครองเป็นเทพองค์หนึ่ง พระองค์ได้ชัยชนะเหนือเทพเจ้าทั้งที่มองเห้นได้และมองไม่เห็นของพวกเขา และนำคนของพระองค์กลับมา ผ่าน "ภัยพิบัติ10อย่าง" ที่น่าสะพรึงกลัว

บางคนเมื่ออ่านแล้วอาจจะเห็นว่าพระเจ้านั้นได้ลงโทษ"มนุษย์"ชาวอียิปต์มากมาย แต่ที่จริง พระองค์อาจไม่ได้มีพระประสงค์มุ่งเน้นจะลงโทษพวกชาวอียิปต์ หากแต่พระองค์กำลังสำแดงฤทธานุภาพยิ่งใหญ่เหนือคณะเทพทั้งหมดของอียิปต์ เพื่อประกาศว่า พระเจ้าที่อิสราเอลนับถือนี้ ไม่ใช่เทพองค์หนึ่งของชนชาติหนึ่งเท่านั้น แต่พระองค์คือพระเจ้าสูงสุดที่ทรงอยู่ทุกหนแห่ง ทุกสถานที่ และทุกประเทศเป็นของพระองค์ ทุกอย่างอยู่ในพระหัตถ์พระองค์ และพระองค์อยู่เหนือนามอื่นใดทั้งหมด เป็นพระผู้ "ทรงเป็น" (ยาเวห์) ตั้งแต่นิรันดร์

อพยพ7:5
ชาวอียิปต์จะรู้ว่าเราคือพระเจ้า  ต่อเมื่อเราได้ยกมือขึ้นปราบอียิปต์ 

[Holy]

ภัยพิบัติประการแรกแม่น้ำไนล์กลายเป็นเลือด

ทรงชัยชนะเหนือเทพHapiเทพแห่งแม่น้ำไนล์บิดาแห่งเทพอียิปต์ทั้งปวง,เทพโอซิริส(แม่น้ำไนล์คือสายโลหิตของโอซิริส),และเทพคานุม และอามอน ผู้พิทักษ์แม่น้ำนี้

อพยพ7
19พระเจ้าตรัสสั่งโมเสสอีกว่า 

[Holy]

ภัยพิบัติประการที่6โรคระบาด

ทรงชัยชนะเหนือเทพ ฮิมโฮเทปเทพแห่งยา เพพทอธเทพแห่งการรักษา และในบางครั้งมีการบูชายัญมนุษย์ต่อเทพแห่งยาโดยเผาคนทั้งเป็น แล้วเอาขี้เถ้าโปรยเหนือประชาชนเป็นสิริมงคล และพระเจ้าให้โมเสสทำการนำขี้เถ้าขึ้นโปรยเพื่อให้เกิดโรคระบาดนี้เหมือนเย้ยเทพทอธ

อพยพ9
8พระเจ้าจึงตรัสแก่โมเสสและอาโรนว่า 

[Zion]

http://www.youtube.com/watch?v=jctx6YO3F3A

8ภัยพิบัติ  (เว้น แม่น้ำลืด กับ มรณบุตรหัวปี) ฉบับการ์ตูน

[อันตน]

ขอบคุณครับ เพิ่งจะรู้ความหมายของภัยพิบัติก็คราวนี้นี่เอง

[จอมนางกระบี่เดี่ยว]

แหะๆๆ เพิ่งจะว่างมาดู

ใคร อยากอภิปรายเพิ่มเติมก็ได้นะค๊า เอ คุณ Q ,Phulasso แอนด์น้องบัดดี้ ไม่เข้ามาแจมเหรอ

[Buddy]

แหะๆๆ เพิ่งจะว่างมาดู

ใคร อยากอภิปรายเพิ่มเติมก็ได้นะค๊า เอ คุณ Q ,Phulasso แอนด์น้องบัดดี้ ไม่เข้ามาแจมเหรอ

ขอตัวค่ะพี่  ความรู้ไม่เข้าขั้น   

[Phulasso]

มาแล้วจ้า แต่ยังไม่มีตำราในมือเพราะอยู่ต่างแดน
แต่ขออภิปรายประเด็นที่คุณ HOLY ยกมา
ความเป็นจริงแล้ว หนังสืออพยพ มีจุดที่น่าสนใจมาก1จุด นั่นคือ การเปิดตัวพระเจ้า ในพระนาม "ยาเวห์" (เราเป็น) พระเจ้าเพียงผู้เดียว ศักดิ์สิทธิ์สุงสุด มนุษย์ไม่สามารถออกพระนามได้ และไม่สามารถเข้าใจพระองค์ได้ เป็นพระเจ้าในศาสนาเดียวท่ามกลางศาสนาโบราณอื่นๆที่นับถือเทพเจ้าหลายองค์ และมนุษย์ล้วนรู้ประวัติการกำเนิดเทพแต่ละองค์อย่างดี
การเป็นทาสของชาวยิวเป็นเรื่องปกติของสังคมโบราณ
ผู้แพ้จะถูกจับไปเป็นแรงงานทาส ซึ่งมีทาสมากมายหลายสัญชาติในอียิปต์
สังคมก็ถูกกำหนดเป็น นาย และ ทาส
แต่ชาวยิวมีความเป็นเอกภาพสูงที่สุด เพราะมีพระยะโฮวาห์

(คำนี้เคยคุยกับคนยิว เธอบอกว่า เธอไม่สามารถที่จะเอ่ยพูดคำนี้ได้ในการสนทนา เป็นคำศักดิ์สิทธิ์)

ทุกเผ่าพันธุ์ต้องการเป็นอิสระ แต่ขาด เอกภาพ
ยิวเป็นชาติที่ถูกเลือกสรร ได้รู้จัก และนมัสการพระยะโฮวาห์ ด้วยความเชื่อที่มั่นคง
ทำให้อียิปต์ไม่สามารถกลืนชาติยิวได้ แม้จะให้โจเซฟเป็นมหาอุปราช แต่เขาก็ไม่เปลี่ยนความเชื่อ
เป็นเรื่องที่แปลกมาก น่าทึ่งจริงๆ ในความเชื่อที่มั่นคงของเขา เขาไม่ยอมถูกกลืนเป็นชาติใดๆนอกจากเป็นยิว
สมกับเป็นชาติที่ได้รับการเลือกสรรจริงๆ
พระยะโฮวาห์ ทรงทำอย่างไรให้ยิวมีความเชื่อที่มั่นคงเช่นนั้น
ใน อพยพ ก็เขียนไว้ชัดเจนว่า ทรงให้อำนาจแก่ผู้นำชาวยิว
เพื่อแสดงถึงความเป็นพระเจ้าของพระองค์ และคาทอลิกก็เชื่อในการเป็นชาติที่ถูกเลือกสรรด้วย
ทุก Good Friday จะมีการภาวนาให้ชาวยิวตลอดมา

ขอเวลาหน่อยนะจ๊ะ จะมาเม้าท์เรื่องอัศจรรย์
ตอนนี้งานเยอะมากเลย

[Batholomew]

รออ่านต่อนะครับ

[จอมนางกระบี่เดี่ยว]

เร็ว เด้อค่ะ

คุณ Q หายไปไหน

คุณ holy เพิ่มเติมได้นะคะ ในแง่คุณธรรม ว่า พระเป้นเจ้าต้องการเน้นเรื่องอะไร

หรือจะเน้นในเรื่องประวัติศาสตร์ก็ได้ ถ้าพอจะมีข้อมูล เช่น คาดว่าเขียนขึ้นในสมัยใด ใครเป้ฯคนเขียนอะไรประมาณเนี้ยอ่ะค่ะ

ร่วมกันแบ่งปัน เด้อค่ะ

[minnie]

หรือจะเน้นในเรื่องประวัติศาสตร์ก็ได้ ถ้าพอจะมีข้อมูล เช่น คาดว่าเขียนขึ้นในสมัยใด ใครเป้ฯคนเขียนอะไรประมาณเนี้ยอ่ะค่ะ


เจ๊กระบี่นางเดียว เจ๊ลองอ่านของ เพื่อนยิวดูงะ เค้าบอกว่าว่า

The Exodus story is certainly one of the most significant events in Jewish history. It is a model -- in microcosm -- for what happens later. We see again and again the roller-coaster ride from high points to low. Generally, the higher the Jews manage to rise, the lower they fall.

The story of Exodus recounts the Jews going from a good situation (as when they were welcomed into Egypt by the Pharaoh himself) to a very bad situation (when they were enslaved) to the highest heights, the pinnacles of spirituality (when they were freed from slavery by God Himself and given the Torah at Mount Sinai).


Assuming that each family had 12 children, in five generations there would be 3 million people or more. 

At the point in time when the Exodus story begins the family of 70 individuals that arrived in Egypt at the time of Joseph has grown to a nation of about 3 million people. This is not as far-fetched as it may seem. All you have to do is assume that each family had 12 children (as did Jacob and as is happening today in ultra-Orthodox families in Israel) and you can easily compute that in five generations there will be this many people if not more. This is far from the most supernatural thing to happen in Jewish history.

The rapid multiplication of the Jews has made the Egyptians nervous -- "there are too many of them, what if they rise up against us" -- and the Pharaoh issues a genocidal decree: Kill all the Jewish boys. (This is a classic anti-Semitic pattern -- the Jew in Diaspora is always loyal to his host country, yet can never escape unfounded suspicion of treachery.)

At this point, baby Moses is born. His parents decide to hide him, but after a few months they realize that very shortly they will be found out. So his mother, in order to save him somehow, puts him in a waterproof basket and floats it down the Nile. As we all know, he is saved by none other than the daughter of Pharaoh.

Irony of ironies? It's all part of the plan. As noted earlier, God puts the cure before the disease. This is another classic case.

It does give one pause though -- that the savior of the Jewish people is going to be raised in the house of the ultimate enemy of the Jews. The only modern equivalent would be of some fellow who is meant to overthrow Nazi Germany being raised as Adolf Hitler's adopted grandson. That's what we have here. You realize what a wild story this is if you imagine it in a modern context.

EGYPTIAN HISTORY

By the way, who is the Pharaoh in the story here?

The events of Exodus happened circa 1314-1313 BCE if we translate Jewish chronology into the Christian dating system the world uses today. But that may be misleading. For one thing, the Egyptian chronologies we use in modern world history have only been calculated in the last century by scholars who tried to estimate the reigns of the kings of Egypt and Assyria, two of the oldest empires in the world. There's a huge amount of educated guesswork involved in these chronologies. If you open any books on ancient Egypt you'll get lots of different opinions as to when different Pharaohs reigned.

Generally, the Pharaohs associated with the Exodus are Seti and Rameses. Rameses II was certainly the great builder of this period of time. And it's interesting that the Bible says that the Jewish slaves built the cities of Pitom and Ramses. (See Exodus 1:11.) Of course, it took them 116 years to build these cities so that covers the reign of more than one Pharaoh.


After Rameses, Egyptian history records a ten-year period of chaos, which would fit with the ten plagues. 

Now what's fascinating is that after Rameses there was a ten-year period of chaos in Egypt; this much we know from available records. This would fit if Egypt was, in fact, destroyed by ten supernatural plagues; they would be in bad state for a number of years afterwards. So there we have some evidence of it.

The Pharaoh who reigned after Rameses is named Merenptah and he ruled from the late 13th to early 12th century BCE. Now what's most interesting is that there was found an inscription from his reign which is today called the "Israel Stele." On that stele is a record of Merenptah's campaigning in the area of Canaan, the Sinai/Israel area. And it's the first extra-Biblical mention of "Israel" anywhere in human history. We're talking about something that's around 3,200 years old. And this would correspond in Jewish chronology to some time after the Exodus story.

What does the stele say? "Israel is a widow. Her seed is no more." That is, we've wiped out the Jewish people, they're gone. This means:

1) The Egyptians lie when they record things. Jews are here today 3,200 years later, they hardly wiped the Jews out; in fact, they're gone. (This is not surprising as the ancient people are notorious for lying in their official records to make their rulers look good.)

2) At this early time in history, corresponding to the time when the Jews just entered the Promised Land, we have concrete references to a people called Israel in the records of another country. This is very significant piece of archeology.

PRINCE OF EGYPT

Moses grows up as the grandson of Pharaoh, who is then (whoever he was) the most powerful human being on earth, being the ruler of the mightiest nation on earth.

Moses could easily have grown up to be a totally assimilated, totally spoilt Egyptian kid. But the Pharaoh's daughter has hired his own mother as his nanny and so he never loses the connection to the Jewish people.

It is no surprise therefore that, when one day he sees an Egyptian taskmaster beating a Jew, he cannot stand it and he kills the taskmaster. Then, of course, some Jews inform on him, which is another classic case we're going to see in Jewish history -- Jews informing on other Jews. And Moses has to flee for his life.

He goes to the land of Midian, which is across the Sinai Peninsula. There he meets Jethro, an excommunicated priest who has several daughters, one of whom Moses marries. His wife's name is Tzipporah, and the Bible describes her as being black. Moses has two sons, Gershon and Eliezer, (about whom we don't hear much) and he becomes a shepherd.


Today, being a shepherd is not considered an acceptable occupation for a good Jewish boy. 

In this regard he follows the example of the other great leaders of the Jewish people; Abraham, Isaac, Jacob, and Jacob's twelve sons were all shepherds. So, we have to ask: Why were so many Jewish leaders shepherds?

Now if you've ever watched shepherds at work, you might have noticed that most of them sit around doing nothing except daydreaming. A shepherd has a lot of time to think, and this is an absolute prerequisite for being a prophet. To elevate oneself to the highest level, where one transcends the physical reality and enters a higher dimension of communicating with the Infinite, requires a huge amount of work, and a lot of time to think.

Another reason why Jewish leaders were shepherds has to do with the fact that the work of a shepherd is practice for dealing with large groups of living creatures. Leading the Jews is the hardest job on the planet. One of the great lessons that we need to learn from Jewish history is the difficulty and the challenges of unifying and trying to lead the most individualistic nation on the earth. Being a shepherd is good practice for this daunting task.

THE BURNING BUSH

While Moses is tending the sheep, he has a vision of the burning bush.

The story of Moses' encounter with God at the burning bush is incredibly profound and laden with many deep meanings, but for our purposes in analyzing Jewish history we will consider the burning bush as synonymous with the Jewish people.

The burning bush is burning, but it is never consumed by fire. So, too, the Jewish people seem to be forever on the verge of being destroyed yet we always survive. On another level, we could say that the Jewish people are burning with the fire of Torah, with an ideology that is going to change the world.

When Moses encounters God at the burning bush, God identifies Himself repeatedly (Exodus 3:6, 3:13, 3:15, 3:16, 4:5) as the God of his forefathers -- Abraham, Isaac and Jacob with whom He had made an eternal covenant.

This is an extremely important passage because later on in Jewish history a lot of different people are going to come -- the Christians, for example -- claiming that God changed His mind, abandoned the Jews and made a new covenant (new "testament" to use the Greek term) with them.


God made an "eternal" covenant with Abraham, Isaac and Jacob and He renews the deal at several intervals. 

But God made an "eternal" covenant with Abraham, Isaac and Jacob and He renews the deal at several intervals. We learn that God has a master plan for humanity and the Jews have an absolutely essential part in that plan.

At this juncture, God has decided to bring the Jews out of Egypt. And it's important to keep in mind that God put the Jews in Egypt in the first place -- that God is responsible for the bad things and good things that happen.

It says in the Talmud, you have to bless the bad as well as the good. When a person dies, the observant Jew will say "blessed is the true Judge," because everything God does is part of a plan, even though we don't always see what that is. Sometimes He puts people into a bad situation so they can accomplish their mission on earth. It's not just that the bad things are the product of "the devil" and the good things are from God.

So, in effect, we come to understand that Egypt served as a womb, where the Jews were formed as a nation in a very difficult situation, so that when they were ready, God could bring them out and establish a special relationship with them.

God tells this to Moses in effect and then commands, "Go back and tell Pharaoh to let My people go."

"LET MY PEOPLE GO"

As commanded, Moses goes back down to Egypt, confronts the Pharaoh with his brother Aaron, and he says, "The God of my forefathers told me to tell you: 'Let My people go.'" And in response, the Pharaoh is incredulous "What are you talking about? Who is this God? I don't know him."


The Egyptians had around 2,000 gods, but they didn't have a laptop to do a "god-search." 

The ancient Egyptians had around 2,000 gods. They took their spirituality and knowledge of the spiritual world very seriously. Since they didn't have a laptop to do a "god-search," their priests starting furiously flipping through their lists of the different gods and couldn't find the God that Moses was invoking.

The notion of one, infinite, all-powerful God was an idea that was incomprehensible to the ancient polytheistic people -- it simply did not fit with their fragmented way of viewing the world.

When the Pharoah won't listen, what does Moses do? He takes his staff and he throws it down and it turns into a snake.

The Pharaoh is not impressed. His magicians can do the same thing.

It is very important to stress that the ancient world understood spirituality in the way we cannot even fathom today. Today we talk about magic, but magic for us is illusion, not a manipulation of the forces of nature as they were able to do.

It is a fundamental idea of Judaism that there's a spiritual reality, and that there's a physical reality. You can transcend the physical into the spiritual; you can use the spiritual to manipulate the physical. And you can do this by accessing the dark forces or the light forces. And the Egyptians were able to access the dark forces and they knew how to turn a stick into a snake, so they were not impressed by what Moses did.

But Moses was just getting started.

NEXT: THE TEN PLAGUES

This overview of Jewish history is also available on audio cassette by Rabbi Spiro. It is entitled "A-Z Jewish History in 24 Hours". For more information visit the Aish HaTorah Audio Store.


ของคาทอลิก หาอยู่งะ

ที่มาhttp://www.aish.com/literacy/jewishhistory/Cra ... _Moses.asp

[จอมนางกระบี่เดี่ยว]

ง่ะ จะไม่ช่วยแปลหน่อยเหรอ เผื่อน้อง  ๆ เขาอยากจะอ่าน

[จอมนางกระบี่เดี่ยว]

ง่ะ ชักเงียบไปนะ บรรดาปิตาจารย์ไปไหนกันโม้ด

[Phulasso]

มาอีกแล้วจ้า รีบพิมพ์ก่อนจะไปวัด
ในหนังสืออพยพมีข้อความ เขียนไว้น่าแปลกใจว่า

4 (24) ณ ที่พักแรมแห่งหนึ่งตามทาง พระยาห์เวห์เสด็จมาพบโมเสสและพยายามจะฆ่าเขา 

ทำไมพระยาเวห์ถึงจะอยากฆ่า โมเสส และโมเสสรอดชีวิตแบบแปลกๆดังนี้

(25) นางศิปโปราห์จึงเอาหินคมมาตัดหนังหุ้มปลายองคชาตของบุตรชาย แล้วเอาไปแตะองคชาติของโมเสส พูดว่า "ท่านเป็นเจ้าบ่าวที่ข้าพเจ้าได้มาด้วยเลือด" (26) นางพูดว่า "เจ้าบ่าวที่ได้มาด้วยเลือด" เพราะพิธีสุหนัตนั่นเอง พระยาห์เวห์ทรงยอมให้โมเสสรอดชีวิตอยู่ต่อไป

มีหลายคนให้ความเห็นว่าเหตุการณ์นี้  น่าจะเกิดหลังจากโมเสสไปพบฟาโรห์และแจ้งว่าบุตรหัวปีของชาวอียิปต์ทุกคนจะต้องตาย ซึ่งการจำแนกชายชาวยิวและอียิปต์คือการสุหนัต
เป็นไปได้ไหมว่าลูกคนแรกของโมเสสไม่ได้เข้าสุหนัต นางศิปโปราห์จึงรีบทำสุหนัตให้แก่ลูกตน แต่ปัญหาตามมาก็คือว่า แล้วมันเกี่ยวตรงไหนกับการที่โมเสสจะถูกฆ่า ก็มีคนอธิบายต่อว่าเป็นไปได้ที่โมเสสไม่เคยเข้าพิธีสุหนัต เพราะถูกเลี้ยงดูโดยชาวอียิปต์และเขาก็เป็นลูกหัวปี ก็มีสิทธิถูกฆ่าด้วย

ในหนังสือ  Apocrypha อย่าง LLX (Septuagint) เขียนว่า _angel of the Lord เป็นเทวดาไม่ใช่ พระยาเวห์

หรือ  Book of Jubilees เขียนไว้ว่า คนที่พยายามฆ่าโมเสส ไม่ใช่พระยาเวห์ แต่เป็น Prince Mastema หรืออีกชื่อหนึ่งของซาตาน 
ยังมีการอธิบายว่าจริงๆแล้วนางศิปโปราห์ทำสุหนัตให้โมเสส แต่ต่อมาภายหลังได้เขียนเป็นบุตรของโมเสส ด้วยเหตุผลไม่แน่ชัด ฯลฯ
แต๋ประเด็นทั้งหมด คือชาวยิวจะต้องปฏิบัติตามกฎของพระเจ้าอย่างเคร่งครัด มิฉะนั้นจะถูกลงโทษ ไม่เว้นแม้แต่โมเสส
ท่านใดมีความเห็นประการใดช่วยเสริมด้วยนะจ๊ะ
ขอตบแค่นี้ก่อนเดี๋ยวไปวัดไม่ทัน จะขยายต่อวันหลังจ้า

[mind]

การสังหารบุตรหัวปีนั้น ใช้ เลือดแกะ ที่ป้ายบนวงกบประตูเป็นหมายสำคัญ มิใช้หรือฮับ
เกี่ยวด้วยหรอว่าต้องเข้าสุหนัด เพราะ สัตว์หัวปีของชาวอิสราเอลคงไม่ได้เข้าสุหนัดกระมังนิ

ผมยังเข้าใจว่า คืนนั้นหากใครที่ไม่ทำตามที่โมเสสบอกไว้คือ เอาเลือดแกะป้ายที่วงกบประตู ถึงแม้จะเป็นอิสราเอลก็จะได้รับชะตากรรมนั้นเช่นกัน และในทางกลับกันคิดว่าชาวอียิปต์ครอบครัวไหนที่กระทำตามนั้นก็น่าจะรอด

[Phulasso]

การสังหารบุตรหัวปีนั้น ใช้ เลือดแกะ ที่ป้ายบนวงกบประตูเป็นหมายสำคัญ มิใช้หรือฮับ
เกี่ยวด้วยหรอว่าต้องเข้าสุหนัด เพราะ สัตว์หัวปีของชาวอิสราเอลคงไม่ได้เข้าสุหนัดกระมังนิ

ถูกแล้วจ้า ตามพระคัมภีร์เขียนไว้เช่นนั้น
แต่ที่เขียนไป ก็เพื่อให้มีการท้วงอย่างนั้นแหละ
กลัวเหงา จ้า

วันนี่ไปวัดมาพระวรสารเล่าเรื่อง โมเสมาเฝ้าพระเยซูที่เขาการ์บอร์ พอดี
เอาว่าต่อดีกว่า
แต่ขอแก้ไขบางคำที่ post ไว้กอ่นหน้านี้

[Phulasso]

4 (24) ณ ที่พักแรมแห่งหนึ่งตามทาง พระยาห์เวห์เสด็จมาพบโมเสสและพยายามจะฆ่าเขา 

เรามาพิจารณาข้อความนี้กันดีกว่า
เพราะข้อความในหนังสืออพยพ ไม่บอกสาเหตุ ว่า
1. ทำไมพระยาเวห์จะต้องพยายามฆ่าโมเสส
2. โมเสสทำผิดอะไรจึงจะต้องถูกฆ่า
3.นางศิปโปราห์รู้วิธีช่วยชีวิตโมเสสได้อย่างไร

และอยากถามอีกข้อว่า
4. พระยาเวห์พยายามฆ่าโมเสสจริงหรือ
และที่แปลกก็คือ ทำไมคาทอลิกจึง มีข้อความนี้คงไว้ในหนังสืออพยพ
ข้อความนี้ต้องมีนัยที่สำคัญพอที่จะต้องคงไว้..

ขอพิจารณาข้อที่ 4 ก่อน เพราะง่ายที่สุด
พระยาเวห์พยายามฆ่าโมเสสจริงหรือ คำตอบน่าจะเป็นไม่จริง เพราะถ้าพระยาเวห์ต้อการให้โมเสสตาย โมเสสก็ตายไปแล้ว พระยาเวห์ไม่ใช่มือปืนที่มาลอบยิงนี่ พอยิงพลาดก็ใช้คำว่าพยายามฆ่า แต่ทำไมในหนังสือใช้คำนี้ ขอคิดแบบมนุษย์ ถ้านาย ก ถูกบีบคอจนตาเหลือกโดยนาย ข  คนที่มาเห็นก็จะบอกว่า นาย ข พยายามฆ่านาย ก
คิดอย่างนี้ พี่น้องท่านใดมีข้อเสนอเชิญร่วมวงได้จ้า

[Phulasso]

พอมาถึงตรงนี้ ก็จะเข้าปัญหาข้อที่ 3
นางศิปโปราห์รู้วิธีช่วยชีวิตโมเสสได้อย่างไร
การที่นางรู้ น่าจะมาจาก ก่อนที่โมเสสจะถูก...............นั้น
ได้มีการสนทนากันระหว่าง โมเสส และพระยาเวห์
ในประเด็น ประเด็นอะไร
ประเด็นที่โมเสสว่า ไม่เชื่อ สอนไม่ฟัง ชอบเถียงดังเช่น

10) โมเสสทูลพระยาห์เวห์ว่า "โปรดเถิด พระเจ้าข้า โปรดอภัยให้ข้าพเจ้าเถิด ข้าพเจ้าพูดไม่คล่องทั้งในอดีตและตั้งแต่พระองค์เริ่มตรัสกับข้าพเจ้าผู้รับใช้ของพระองค์แล้ว ข้าพเจ้าก็ยังพูดไม่คล่อง ทั้งพูดช้าและตะกุกตะกัก (11) พระยาห์เวห์ทรงถามว่า "ใครเล่าเป็นผู้ให้มนุษย์มีปาก ใครเป็นผู้ทำให้มนุษย์หูหนวกหรือเป็นใบ้ ทำให้มองเห็นหรือตาบอดเล่า ไม่ใช่เรา พระยาห์เวห์ดอกหรือ? (12) บัดนี้ จงไปเถิด เราจะช่วยท่านพูด เราจะสอนท่านว่า จะต้องพูดอะไรบ้าง"
      (13) แต่โมเสสทูลแย้งว่า "ขอทรงอภัยข้าพเจ้าด้วยเถิด พระเจ้าข้า โปรดส่งผู้อื่นไปเถิด" (14) พระยาห์เวห์ทรงพิโรธโมเสส
อ่านดูแล้วไม่ใช่โมเสสพูดไม่เก่ง แต่ ดื้อ ชอบเถียง เกี่ยงงอน ปัดให้คนอื่นทำ และน่าจะพูดเก่งด้วยซ้ำไป

แล้วที่พักแรมนี้ล่ะ โมเสสเถียงอะไรพระยาเวห์อีก

การกระทำและคำพูดของนางศิปโปราห์คือคำตอบ
นางพูดว่า "เจ้าบ่าวที่ได้มาด้วยเลือด" เพราะพิธีสุหนัตนั่นเอง พระยาห์เวห์ทรงยอมให้โมเสสรอดชีวิตอยู่ต่อไป

คำโต้งแย้งของโมเสสน่าจะมาจากเรื่องการทำสุหนัต

แล้วทำไมต้องโต้แย้งเรื่องนี้ล่ะ
ก็จะมาเข้าสู่คำถามข้อที่ 2

[จอมนางกระบี่เดี่ยว]

โห นาน ๆเฮียจะเปิดประเด็น เอาอีกๆๆๆ

[Phulasso]

มาถึงคำถามที่ 2โมเสสทำผิดอะไรจึงจะต้องถูกฆ่า
จะต้องถูกฆ่า คงยกไปแล้ว เพราะโมเสสไม่ได้ถูกพยายามทำร้ายให้ตาย
แต่คำถามยังคงไว้ที่ว่า โมเสสทำผิดอะไร

ในหนังสือปฐมกาล ฉบับ King James
เขียนไว้ว่า พระยาห์เวห์ปรากฏมาต่ออับราฮัม และประทานพันธสัญญา
ต่ออับราฮัมและลูกหลานของเขา แต่พวกเขาจะต้องทำสุหนัต
ถ้าชายใดไม่ทำถือว่าเป็นการละเมิดพันธสัญญา
And when Abram was ninety years old and nine, the LORD appeared to Abram, and said unto him, I am the 1Almighty God; walk before me, and be thou perfect

This is my covenant, which ye shall keep, between me and you and thy seed after thee;

Every man child among you shall be 1circumcised.
And ye shall circumcise the flesh of your foreskin; and it shall be a 1token of the covenant betwixt me and you.

And the uncircumcised man child whose flesh of his foreskin is not circumcised, that soul shall be 1cut off from his people; he hath broken my covenant

ในหนังสืออพยพเขียนไว้ชัดเจนว่า ลูกของโมเสส ไม่ได้ทำ
(ก็เพิ่งจะทำเมื่อโมเสสร้องอ๊อกๆนี่เอง)
แปลว่าโมเสสละเมิดพันธสัญญาของพระเจ้า
เท่าที่รู้แน่ๆเขาไม่ได้ทำให้ลูก และ
เมื่อนางศิปโปราห์ทำสุหนัตให้ลูกชายแล้ว
จึงพูดว่า "ท่านเป็นเจ้าบ่าวที่ข้าพเจ้าได้มาด้วยเลือด"
Surely a bloody husband art thou to me
ถ้าสรุปก็คือ  ข้าพเจ้าขอเอาเลือดนี้แลก(ชีวิต)สามี  อันนี้สรุปเอง ท้วงได้จ้า

ความผิดของโมเสสคือไม่ปฏิบัติตามพันธสัญญา

[Holy]

ผิดนี้หรือเปล่าที่ทำให้ไม่ได้เข้าดินแดนพันธสัญญา

[Phulasso]

ก็เหลืออีกคำถามเดียว ทำไมพระยาห์เวห์จะต้องพยายาม (ฆ่าโมเสส)
หรือต้องทำร้ายโมเสส
เมื่อโมเสสไม่ทำสุหนัต ก็ไม่ทำสิ เพราะ เขาจะต้องถูกตัดออกจากการเป็น
ประชากรของพระองค์ รวมทั้งวิญญาณของเขาด้วย
that soul shall be 1cut off from his people; he hath broken my covenant

แต่เป็นเพราะโมเสสเป็นยิวที่ถูกเลือกสรรเป็นพิเศษให้เป็นผู้นำชาวยิวออกจากอียิปต์
เขาจึงต้องถูกลงทัณฑ์ เพราะความดื้อรั้น เพื่อให้เชื่อและปฏิบัติตามพันธสัญญานี้
และปฏิบัติตามแผนการของพระองค์

สรุปก็คือหนังสืออพยพนี้แสดงความสำคัญของพันธสัญญา
ระหว่างพระยาห์เวห์ต่ออับราฮัมและลูกหลาน ที่สืบเนื่องจาก
บทปฐมกาล
และจะต่อเนื่องกับพันธสัญญาใหม่ต่อไป
เชิญพี่น้องเติมให้เต็มด้วยจ้า

[จอมนางกระบี่เดี่ยว]

เรอะ เข้าใจมาตลอดว่า เพราะโมเสส ไม่ค่อยวางใจ ไม่ค่อยเชื่อพระเจ้าแบบสุดจิตสุดใจ แบบอับราฮัม เลยไม่ได้เข้าคานาอัน

[จอมนางกระบี่เดี่ยว]

เอ่อ มีใครพบเห็นพี่ พีพี หรือคุณ Q หรือคนอิ่น ๆที่ชอบสนทนาเรื่องพระคัมภีร์ ไปสะกิดมาร่วมด้วยก็จะดีนะคะ สนุกดีออก

[Phulasso]

ผิดนี้หรือเปล่าที่ทำให้ไม่ได้เข้าดินแดนพันธสัญญา

ไม่น่าจะใช่ เพราะเป็นเหตุการณ์ก่อนการออกเดินทาง
แต่มีเหตุการณ์ขณะเดินทาง 40 ปีเช่น

After leaving Sinai, the Israelites camped in Kadesh. After more complaints from the Israelites, Moses struck the stone twice, and water gushed forth. However, because Moses and Aaron had not shown the Lord's holiness, they were not permitted to enter the land to be given to the Israelites (Num. 20:1-13


พระยาห์เวห์ตรัสตอบโมเสสว่า 'จงเดินไปข้างหน้าประชาชน จงนำผู้อาวุโสชาวอิสราเอลบางคนไปกับท่าน เอาไม้เท้าที่ท่านใช้ตีน้ำในแม่น้ำไนล์ไปด้วย (6) เราจะยืนอยู่ต่อหน้าท่านที่หน้าผา บนภูเขาโฮเรบ จงตีหิน จะมีน้ำไหลออกมาให้ประชาชนดื่ม' โมเสสทำดังนี้ต่อหน้าผู้อาวุโสชาวอิสราเอล (7) สถานที่แห่งนั้นจึงได้ชื่อว่ามัสสาห์และเมรีบาห์ เพราะชาวอิสราเอลได้ต่อว่าและทดลองพระยาห์เวห์โดยถามว่า 'พระยาห์เวห์ทรงสถิตอยู่กับเราหรือไม่?'

ในฉบับภาษาอังกฤษบอกว่า แม้โมเสสเองยังเอาไม้เท้าตีหินเสียสองที เรียกว่าเผื่อเหนียว เหมือนกับไม่มั่นคงว่า
'พระยาห์เวห์ทรงสถิตอยู่กับเราหรือไม่?'

[จอมนางกระบี่เดี่ยว]

อืมม์ น่าสนใจ เหตุการณ์ไหนกันแน่ ที่ทำให้โมเสสไม่ได้เข้าแผ่นดินพันธสัญญา พระเปนเจ้าต้องการจะสอนเรื่องคุณธรรมข้อไหนกับเรา

[Buddy]

สุดท้าย  ภรรยาของโมเสสเข้าสุหนัตให้รึเปล่าคะ