The 95 Thesis by Martin Luther

ถาม-ตอบพระคัมภีร์ เรื่องเสริมศรัทธา ความรู้ และสาระ บทความ ในคริสตศาสนา
ตอบกลับโพส
TheGrace
โพสต์: 93
ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ มี.ค. 25, 2006 8:34 pm
ที่อยู่: Rayong

ศุกร์ ส.ค. 18, 2006 2:14 pm

เป็นการแปลอย่างไม่เป็นทางการ
โปรดใช้วิจารณญาณ


The 95 Thesis
By Martin Luther


1. เมื่อพระเยซูคริสต์องค์พระผู้เป็นเจ้าของเรากล่าวว่า
แก้ไขล่าสุดโดย Holy เมื่อ ศุกร์ ส.ค. 18, 2006 11:22 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
TheGrace
โพสต์: 93
ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ มี.ค. 25, 2006 8:34 pm
ที่อยู่: Rayong

ศุกร์ ส.ค. 18, 2006 2:16 pm

11. มัทธิว 13.25

12. บทลงโทษทางศาสนาถูกกำหนดขึ้นมาก่อนการอภัยโทษบาปไม่ใช่ในภายหลัง เพื่อใช้ทดสอบการกลับใจที่แท้จริง

13. ตราบเท่าที่บทบัญญัติทางศาสนาเข้ามาเกี่ยวข้อง  ผู้ตายเป็นอิสระจากบทลงโทษทั้งหลายโดยความตาย และมีสิทธิ์ที่จะได้รับการปลดปล่อยจากบทบัญญัติเหล่านั้น

14. บทบัญญัติทางศาสนาที่ปฏิบัติได้ไม่ครบถ้วน ความรักที่ไม่สมบูรณ์ ทำให้ผู้ที่กำลังจะตายหวาดกลัวอย่างมาก  ความรักที่ยิ่งมีน้อย ความหวาดกลัวก็ยิ่งมีมากขึ้น

15. โดยไม่ต้องกล่าวอะไรอีก ความกลัวหรือความหวาดวิตกก็เพียงพอแล้วที่จะประกอบขึ้นเป็นบทลงโทษของสถานลงทัณฑ์สำหรับดวงวิญญาณผู้ตาย เนื่องจากมันเข้าใกล้ความน่ากลัวของความสิ้นหวังอย่างยิ่ง

16. นรก สถานลงทัณฑ์ และสวรรค์ ดูเหมือนจะแตกต่างกัน เช่นเดียวกับความแตกต่างของ ความหมดหวัง ความกลัว และความมั่นใจในความรอด

17. มันดูราวกับว่า สำหรับดวงวิญญาณในสถานลงทัณฑ์แล้ว จำเป็นอย่างยิ่งที่ความกลัวควรจะลดลง  ขณะที่ความรักควรจะเพิ่มขึ้น

18. ยิ่งกว่านั้น ดูเหมือนจะไม่มีการพิสูจน์  ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลหรือด้วยพระคัมภีร์ ที่ว่า เหล่าดวงวิญญาณในสถานลงทัณฑ์นั้นอยู่นอกเหนือคุณงามความดี ความรักจึงไม่สามารถก่อตัวขึ้นได้

19. และดูเหมือนจะไม่มีการพิสูจน์เช่นกันว่า เหล่าดวงวิญญาณในสถานลงทัณฑ์นั้น อย่างน้อยก็ไม่ใช่ทั้งหมดของดวงวิญญาณเหล่านั้นที่แน่ใจและมั่นใจในความรอดของตัวเอง ถึงแม้ ตัวเราเองจะมั่นใจอย่างเต็มที่ในเรื่องนี้

20. ดังนั้น เมื่อพระสันตะปาปา ใช้คำว่า
TheGrace
โพสต์: 93
ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ มี.ค. 25, 2006 8:34 pm
ที่อยู่: Rayong

ศุกร์ ส.ค. 18, 2006 2:17 pm

21. ดังนั้น บรรดานักเทศน์ที่ขายใบล้างบาปก็กระทำผิด คือผู้ที่กล่าวว่า มนุษย์ได้รับการอภัยจากบทลงโทษทุกอย่าง และรอดได้โดยใบล้างบาปของพระสันตะปาปา

22. ในความเป็นจริง พระสันตะปาปาไม่ได้ให้อภัยโทษแก่ดวงวิญญาณดวงใดเลยในสถานลงทัณฑ์  ซึ่งตามบทบัญญัติของศาสนาแล้ว ดวงวิญญาณเหล่านั้นควรจะได้ชดใช้โทษในชีวิตนี้

23. ถ้าการให้อภัยบาปทุกประเภท สามารถให้กับใครได้ทั้งหมดแล้วละก้อ ก็เป็นที่แน่นอนว่า มันก็จะให้ได้กับคนที่สมบูรณ์แบบมากที่สุด ซึ่งก็จะมีน้อยมาก

24. ด้วยเหตุผลนี้ ส่วนใหญ่แล้วเห็นได้ชัดว่า เป็นการหลอกลวงประชาชนที่ขาดการพินิจพิเคราะห์ และเป็นคำสัญญาในเรื่องของการปลดปล่อยจากโทษทัณฑ์ที่โอ้อวดเกินจริง

25. อำนาจโดยทั่วไปที่พระสันตะปาปามีเหนือสถานลงทัณฑ์ ก็เป็นอำนาจอย่างเดียวกับที่บิชอปหรือผู้ช่วยมีในโบสถ์หรือภายในขอบเขตการปกครองของตน

26. พระสันตะปาปา ทำได้อย่างดี เมื่อให้อภัยโทษแก่ดวงวิญญาณในสถานลงทัณฑ์ แต่ไม่ใช่อำนาจของผู้ถือกุญแจ แต่เป็นผู้ไกล่เกลี่ยเท่านั้น

27. พวกเขาเทศน์เฉพาะหลักคำสอนของมนุษย์ที่กล่าวว่า ทันทีที่เงินเคลื่อนตัวเข้าไปในตู้เก็บเงิน  ดวงวิญญาณก็จะล่องลอยออกจากสถานลงทัณฑ์

28. เป็นที่แน่นอนว่า เมื่อเงินเคลื่อนตัวเข้าไปในตัวเก็บเงิน  ความตะกละตะกลามและความโลภก็เพิ่มมากขึ้น  แต่อย่างไรก็ตาม เมื่อทางโบสถ์ทำการไกล่เกลี่ยนั้น ผลที่จะเกิดขึ้นอยู่ในมือของพระเจ้าแต่เพียงผู้เดียว

29. ใครจะรู้ว่า ดวงวิญญาณทั้งหมดในสถานลงทัณฑ์ปรารถนาที่จะได้รับการไถ่หรือไม่  เพราะเรามีข้อยกเว้นในเรื่องของ St. Severinus and St. paschal ดังที่เป็นตำนานเล่าขานสืบต่อกันมา

30. ไม่มีใครแน่ใจในความมั่นคงของการสำนึกผิดของตัวเอง  ซึ่งมีน้อยมากที่จะได้รับการอภัยโทษอย่างสมบูรณ์
TheGrace
โพสต์: 93
ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ มี.ค. 25, 2006 8:34 pm
ที่อยู่: Rayong

ศุกร์ ส.ค. 18, 2006 2:19 pm

31. ผู้ที่ซื้อใบล้างบาปอย่างแท้จริง มีจำนวนน้อยพอ ๆ กับผู้ที่สำนึกผิดอย่างแท้จริง ที่จริงแล้วมีจำนวนน้อยเหลือเกิน

32. ผู้ที่เชื่อว่า พวกเขาสามารถแน่ใจได้ในความรอดของตัวเอง เพราะว่ามีตัวหนังสือบอกไว้ในใบล้างบาป จะต้องตกนรกชั่วนิรันดร์ไปด้วยกันกับผู้ที่สอนเขา

33. มนุษย์จะต้องระมัดระวังตัวอย่างยิ่งกับผู้ที่กล่าวว่า การยกโทษของพระสันตะปาปา คือของขวัญอันล้ำค่าจากพระเจ้าที่ทำให้มนุษย์คืนดีกับพระองค์ได้

34. เพราะว่าคุณงามความดีของใบล้างบาป จะมีส่วนก็เฉพาะกับโทษทัณฑ์ที่ทำให้เกิดความพึงพอใจตามพิธีกรรมที่มนุษย์จัดทำขึ้น

35. ผู้ที่สอนว่า การสำนึกผิดไม่จำเป็น ก็ร่วมอยู่ในพวกที่ตั้งใจจะซื้อดวงวิญญาณออกจากสถานลงทันฑ์หรือซื้อสิทธิพิเศษในการสารภาพบาป ซึ่งผู้ที่สอนเช่นนั้นก็ไม่ได้เทศน์หลักข้อเชื่อของคริสเตียน

36. คริสเตียนที่กลับใจอย่างแท้จริง มีความชอบธรรมที่จะได้รับการอภัยจากโทษทัณฑ์และความผิดทั้งหลาย ถึงแม้จะไม่มีลายลักษณ์อักษรของใบล้างบาปก็ตาม

37. คริสเตียนที่แท้จริง ไม่ว่าจะยังมีชีวิตอยูหรือตายแล้ว ต่างก็มีส่วนร่วมในพระพรของพระคริสต์และคริสตจักร ซึ่งพระเจ้าได้มอบให้กับพวกเขา ถึงแม้จะไม่มีลายลักษณ์อักษรของใบล้างบาป

38. อย่างไรก็ตาม การให้อภัยของสันตะปาปาและการอวยพระพรก็ไม่สามารถถูกมองข้ามไปได้ (ดังที่ข้าพเจ้าได้กล่าวไว้ในข้อ 6) เพราะสิ่งเหล่านี้คือ การประกาศการให้อภัยโทษของพระเจ้า

39. แม้แต่นักศาสนศาสตร์ที่ทรงคุณวุฒิมากที่สุดก็ยากที่จะพูดกับประชาชนถึงการแจกจ่ายใบล้างบาปอย่างมหาศาล และความจำเป็นของการสำนึกผิดอย่างแท้จริง ไปพร้อม ๆ กัน

40. คริสเตียนที่สำนึกผิดอย่างแท้จริง จะแสวงหาและยินดีที่จะได้รับโทษของความผิดบาปที่เขาทำลงไป แต่อย่างไรก็ตาม การแจกจ่ายใบล้างบาปก็ช่วยผ่อนคลายในเรื่องของโทษที่จะได้รับลงได้ และทำให้มนุษย์เกลียดชังมัน อย่างน้อยก็ตกแต่งเทศกาลการเกลียดชังมัน
TheGrace
โพสต์: 93
ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ มี.ค. 25, 2006 8:34 pm
ที่อยู่: Rayong

ศุกร์ ส.ค. 18, 2006 2:20 pm

41. ใบล้างบาปของสันตะปาปา จะต้องมีการเทศน์ตักเตือนด้วย มิฉะนั้นผู้คนจะคิดอย่างผิด ๆ ว่า พวกเขาชอบที่จะทำงานแห่งความรักอย่างอื่น ๆ มากกว่า

42. คริสเตียนได้รับการสอนว่า พระสันตะปาปาไม่ได้ตั้งใจให้การซื้อใบล้างบาปเทียบได้กับงานอนุเคราะห์ ไม่ว่าจะเป็นในทางใด ๆ

43. คริสเตียนได้รับการสอนว่า คนที่ให้ความช่วยเหลือคนจนหรือให้ผู้ที่ตกทุกข์ได้ยากขอยืม ย่อมทำในสิ่งที่ดีกว่าผู้ที่ซื้อใบล้างบาป

44. คริสเตียนได้รับการสอนว่า ความรักเจริญงอกงามได้ก็โดยงานแห่งความรัก ดังนั้นมนุษย์จึงดีขึ้นได้ อย่างไรก็ตาม มนุษย์ไม่สามารถดีขึ้นได้ด้วยใบล้างบาปซึ่งทำให้เป็นอิสระจากโทษทัณฑ์ได้เท่านั้น

45. คริสเตียนได้รับการสอนว่า ถ้าใครเห็นคนที่ต้องการความช่วยเหลือ และเดินผ่านเลยไป แม้จะจ่ายเงินซื้อไปล้างบาป ก็ไม่ได้ซื้อใบล้างบาปจากพระสันตะปาปา แต่ซื้อพระพิโรธจากพระเจ้า

46. คริสเตียนได้รับการสอนว่า ถ้าพวกเขามีไม่พอกับความต้องการ พวกเขาจะต้องเก็บเล็กผสมน้อยเพื่อให้เพียงพอกับความต้องการของครอบครัว และไม่ไปสิ้นเปลืองกับใบล้างบาป

47. คริสเตียนได้รับการสอนว่า การซื้อใบล้างบาปเป็นทางเลือกไม่ใช่ที่ต้องทำกระทำ

48. คริสเตียนได้รับการสอนว่า ในการให้ใบล้างบาปของพระสันตะปาปานั้น พระองค์ต้องการและปรารถนาคำอธิษฐานที่จริงใจมากกว่าเงินของพวกเขา

49. คริสเตียนได้รับการสอนว่า ใบล้างบาปของพระสันตะปาปาจะมีประโยชน์ก็ต่อเมื่อพวกเขาไม่ได้เชื่อในใบล้างบาป และมันจะส่งผลร้าย หากพวกเขาสูญเสียความเกรงกลัวพระเจ้าเพราะมัน

50. คริสเตียนได้รับการสอนว่า ถ้าพระสันตะปาปารู้ถึงการขูดรีดเงินของนักเทศน์ที่ขายใบล้างบาป พระองค์คงจะยอมให้โบสถ์ของนักบุญเปโตรถูกเผาจนเป็นเถ้าถ่าน มากกว่าที่จะยอมให้โบสถ์ถูกสร้างขึ้นมาด้วยเนื้อหนังและกระดูกของลูกแกะของพระองค์
TheGrace
โพสต์: 93
ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ มี.ค. 25, 2006 8:34 pm
ที่อยู่: Rayong

ศุกร์ ส.ค. 18, 2006 2:21 pm

51. คริสเตียนได้รับการสอนว่า พระสันตะปาปาจะและควรประสงค์จะให้เงินของพระองค์เอง ถึงแม้จะต้องขายโบสถ์ของนักบุญเปโตรก็ตาม ซึ่งในความเป็นจริง มีผู้คนจำนวนมากที่มีคนพวกหนึ่งใช้ใบล้างบาปไปล่อลวงเอาเงินของพวกเขามา

52. เป็นเรื่องไร้สาระที่จะวางใจในรอดที่ได้จากตัวหนังสือในใบล้างบาป ถึงแม้ผู้ที่ทำหน้าที่เป็นตัวแทนในการล้างบาป หรือแม้แต่พระสันตะปาปาต้องให้ดวงวิญญาณของตนเองเป็นหลักประกันก็ตาม

53. สิ่งเหล่านี้เป็นศัตรูของพระคริสต์ และพระสันตะปาปา  คือผู้ที่ห้ามโดยรวมไม่ให้มีการเทศนาถึงพระวจนะของพระเจ้าในบางคริสตจักร เพื่อจะให้มีการเทศน์เรื่องใบล้างบาปในคริสตจักรอื่น ๆ

54. พระวจนะของพระเจ้าถูกทำให้เสียหายในเวลาที่การเทศนาที่ใช้เวลาเท่ากันหรือมากกว่าถูกอุทิศให้กับใบล้างบาปแทนที่จะเป็นพระวจนะของพระเจ้า

55. จากทัศนคติของพระสันตะปาปาที่ว่า ถ้าใบล้างบาปซึ่งเป็นสิ่งที่แทบจะไม่มีความสำคัญอะไรเลย จะต้องเฉลิมฉลองด้วยระฆัง 1 ใบ  1 ขบวนพาเหรด และอีก 1 พิธีกรรม ถ้าเป็นเช่นนั้นแล้ว พระกิตติคุณซึ่งเป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่ที่สุด ก็ควรจะมีการเทศน์ออกไป พร้อม ๆ กับ  การตีระฆัง 100 ใบ    การแห่แหนของ 100 ขบวนพาเหรด และพิธีการ ของ 100 พิธีกรรม

56. ทรัพย์สมบัติอันมีค่าที่แท้จริงของคริสตจักร นอกจากที่มีการเผยแพร่ทางใบล้างบาปที่พระสันตะปาปาแจกจ่ายให้ ก็ไม่ได้มีการอภิปรายกันอย่างเพียงพอ หรือไม่ได้เป็นที่รู้ในหมู่คริสเตียนเลย

57. ที่ว่า ใบล้างบาปไม่ได้เป็นทรัพย์สมบัติชั่วคราวก็ชัดเจน เพราะผู้ขายใบล้างบาปจำนวนมาก ไม่ได้แจกออกไปอย่างเสรี แต่จะสะสมมันไว้

58. ใบล้างบาปไม่ได้เป็นผลบุญของพระคริสต์หรือนักบุญ เพราะถึงแม้จะไม่มีพระสันตะปาปา  ตัวหนังสือในใบล้างบาปก็ส่งผลต่อคุณธรรมของมนุษย์ภายในอยู่แล้ว ในขณะที่ไม้กางเขน ความตาย และนรก จะส่งผลต่อมนุษย์ภายนอก

59. เซนต์ลอเรนซ์ กล่าวว่า ผู้ยากไร้ในโบสถ์คือทรัพย์สมบัติอันมีค่าของโบสถ์ แต่เขาก็พูดไปตามคำพูดที่ใคร ๆ มักจะพูดกันในสมัยของเขา

60. โดยไม่ต้องคิดทบทวน เราอาจพูดได้ว่ากุญแจของโบสถ์ที่ได้รับจากคุณงามความดีของพระคริสต์ คือ ทรัพย์สมบัติเช่นว่านั้น
TheGrace
โพสต์: 93
ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ มี.ค. 25, 2006 8:34 pm
ที่อยู่: Rayong

ศุกร์ ส.ค. 18, 2006 2:23 pm

61. เพราะเป็นที่แน่ชัดว่า โดยอำนาจของพระสันตะปาปาเองแล้ว ก็เพียงพอสำหรับการให้อภัยโทษที่เพิ่มจำนวนขึ้นเรื่อย ๆ จากการกระทำของพระองค์เอง

62. ทรัพย์สมบัติที่แท้จริงของคริสตจักร คือ พระกิตติคุณแห่งพระสง่าราศีและพระคุณของพระเจ้า อันเป็นพระกิตติคุณที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุด

63. แต่ทรัพย์สมบัติชิ้นนี้น่ารังเกียจมากที่สุด เพราะลักษณะของทรัพย์สมบัติชิ้นนี้สามารถทำให้คนต้นกลายเป็นคนปลายได้ มัทธิว 20.16

64. ถ้าพูดถึงความเชื่อถือแล้ว  ทรัพย์สมบัติแห่งใบล้างบาปได้รับการยอมรับมากที่สุด เพราะตามลักษณะของมันแล้ว มันสามารถทำให้คนปลายกลายเป็นคนต้นได้

65. ดังนั้น ทรัพย์สมบัติแห่งพระกิตติคุณก็คือแหที่ผู้คนเคยใช้ทอดหาผู้มั่งคั่งด้วยทรัพย์สิน

66. ทรัพย์สมบัติแห่งใบล้างบาป คือแหที่ผู้คนตอนนี้ใช้ทอดหาทรัพย์สินอันมั่งคั่งของผู้คน

67. ใบล้างบาปที่นักโฆษณาชวนเชื่อ ยกย่องว่าเป็นคุณธรรมอันสูงสุดนั้น มันก็จะเป็นเช่นนั้น ตราบเท่าที่มันตัวสร้างรายได้มหาศาล

68. ถึงแม้ว่า ในความเป็นจริง ใบล้างบาปพวกนั้น ไม่มีความหมายอะไรเลย เมื่อเปรียบเทียบกับพระเมตตาของพระเจ้าและพระกรุณาบนไม้กางเขน

69. บิชอบและตัวแทน จำต้องยอมรับผู้เป็นตัวแทนในการล้างบาปของพระสันตะปาปาด้วยความยำเกรง

70. แต่มากกว่านั้น พวกเขาจำเป็นต้องบังคับตาและหูของตัวเองเอาไว้ เพื่อมิให้บุคคลเหล่านั้นเทศนาความฝันของตัวเองแทนที่จะเป็นสิ่งที่ได้รับมอบหมายมาจากพระสันตะปาปา
TheGrace
โพสต์: 93
ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ มี.ค. 25, 2006 8:34 pm
ที่อยู่: Rayong

ศุกร์ ส.ค. 18, 2006 2:24 pm

71. ให้ผู้ที่พูดขัดแย้งกับความจริงในเรื่องของใบล้างบาปของพระสันตะปาปาถูกขับออกจากศาสนาและถูกสาปแช่ง

72. แต่ขอให้ผู้ที่กีดกันตัณหาและการออกใบอนุญาตให้นักเทศน์ที่ขายใบล้างบาปได้รับการอวยพระพร

73. ดังที่ พระสันตะปาปาได้เล่นงานผู้ที่พยายามวางแผนชั่วร้ายในการขายใบล้างบาป

74. มากกว่านั้น พระองค์ตั้งใจที่จะเล่นงานผู้ที่ใช้ใบล้างบาปเป็นข้ออ้างในการวางแผนทำลายความรักที่บริสุทธิ์และความจริง

75. ที่จะคิดว่าใบล้างบาปของพระสันตะปาปายิ่งใหญ่กระทั่งสามารถให้อภัยมนุษย์  แม้นหากเขาได้ทำในสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ และได้ล่วงละเมิดพระมารดาของพระผู้เป็นเจ้า ก็เป็นเรื่องไร้สติสิ้นดี

76. ตรงกันข้าม เรากลับกล่าวว่า ใบล้างบาปของพระสันตะปาปา ไม่สามารถเคลื่อนย้ายแม้แต่บาปที่เล็กน้อยที่สุดได้เลย ตราบเท่าที่ความรู้สึกผิดมีส่วนเกี่ยวข้องด้วย

77. ที่จะพูดว่า แม้แต่นักบุญเปโตร ถ้าหากว่าท่านเป็นพระสันตะปาปาในตอนนี้ก็ไม่สามารถได้รับพระคุณที่ยิ่งใหญ่กว่านี้ได้ ก็จะเป็นการหมิ่นประมาททั้งนักบุญเปโตรและ พระสันตะปาปา

78. ในทางตรงกันข้าม เรากลับพูดว่า แม้แต่พระสันตะปาปาองค์ปัจจุบัน หรือองค์    ใด ๆ ก็ตาม ก็มีพระคุณที่ยิ่งใหญ่เพื่อประโยชน์ในการปฏิบัติงานด้วยกันทั้งสิ้น นั่นก็คือ พระกิตติคุณ อำนาจฝ่ายจิตวิญญาณ ของประทานในการรักษา และฯลฯ ดังที่มีเขียนไว้ใน 1โครินธ์ 12.28

79. ที่จะพูดว่า ไม้กางเขนที่ประดับด้วยเสื้อคลุมมีแขนของพระสันตะปาปา และได้รับการปล่าวประกาศโดยนักเทศน์ผู้ขายใบล้างบาปว่า มีค่าเท่าไม้กางเขนแห่งพระคริสต์นั้น ก็เป็นการหมิ่นประมาท

80. บรรดาบิชอป  ผู้ช่วย และนักศาสนศาสตร์ทั้งหลายที่ยอมให้มีการเผยแพร่ใบล้างบาปออกไปในหมู่ประชาชน จะต้องมีคำตอบสำหรับเรื่องนี้
TheGrace
โพสต์: 93
ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ มี.ค. 25, 2006 8:34 pm
ที่อยู่: Rayong

ศุกร์ ส.ค. 18, 2006 2:26 pm

81. การประกาศเรื่องใบล้างบาปที่ไม่มีการควบคุมอย่างนี้ ทำให้กลายเป็นเรื่องยาก แม้แต่ผู้ที่มีความรู้ดี เมื่อถึงเวลาที่จะกอบกู้ความเลื่อมใสศรัทธาของพระสันตะปาปาจากข่าวลือต่าง ๆ หรือจากคำถามอันชาญฉลาดของฆราวาส

82. อย่างเช่น ถ้าพระสันตะปาปาไถ่บาปให้กับดวงวิญญาณได้ไม่จำกัดจำนวน เพื่อเห็นแก่เงินที่น่ารังเกียจ เพื่อนำไปสร้างโบสถ์  ทำไมพระองค์ไม่ปลดปล่อยดวงวิญญาณจากสถานลงทัณฑ์ เพราะเห็นแก่ความรักที่บริสุทธิ์และความต้องการอย่างที่สุดของดวงวิญญาณที่อยู่ที่นั่น  ซึ่งเหตุผลหลังนั้นถูกต้อง  แต่เหตุผลแรกไม่สลักสำคัญเลย

83. เช่นเดียวกัน ทำไมงานฌาปนกิจและงานครบรอบต่าง ๆ ของคนตายจำนวนมากจึงยังคงมีอยู่  ทำไมเงินที่บริจาคให้พวกเขาไม่มีการคืนกลับมาหรืออนุญาตให้ถอนคืนได้ในเมื่อ เป็นสิ่งที่ผิดที่จะอธิษฐานให้พวกเขาได้รับการไถ่

84. เช่นเดียวกัน อะไรคือกฎเกณฑ์ใหม่ของพระเจ้าหรือพระสันตะปาปา ที่ใช้การพิจารณาเรื่องเงิน อนุญาตให้ผู้ที่ขาดศรัทธาและศัตรูของพวกเขาซื้อดวงวิญญาณที่มีศรัทธาผู้เป็นสหายของพระเจ้า อันเนื่องมาจากความต้องการของวิญญาณอันเป็นที่รักและมีศรัทธาดวงนั้น  แทนที่วิญญาณดวงนั้นจะได้รับการปลดปล่อยเพราะเห็นแก่ความรักที่บริสุทธิ์

85. เช่นเดียวกัน ทำไมข้อบัญญัติในเรื่องการสำนึกผิด ที่มีการยกเลิกไปนานแล้วและตายแล้วในความเป็นจริง  และจากการที่เลิกใช้ไปแล้วนั้นตอนนี้กลับถูกนำมาปฏิบัติโดยทางการล้างบาป ราวกับว่ายังมีชีวิตและมีผลบังคับใช้อยู่   

86. เช่นเดียวกัน ทำไมองค์พระสันตะปาปาซึ่งความมั่งคั่งของพระองค์ในวันนี้มหาศาลยิ่งกว่าความมั่งคั่งของ Crassus ที่ร่ำรวยที่สุด ไม่ใช้เงินทองของพระองค์เองสร้างโบสถ์ของนักบุญเปโตร แทนเงินของผู้เชื่อที่ยากจน

87. เช่นเดียวกัน  อะไรที่องค์พระสันตะปาปาได้ให้หรือให้อภัยกับผู้ที่การสำนึกผิดของพวกเขาสมบูรณ์แบบและมีสิทธิ์แล้วที่จะได้รับการอภัยโทษบาปและการอวยพระพรอย่างเต็มที่

88. และเช่นเดียวกัน พระพรที่ยิ่งใหญ่กว่าจะมาถึงคริสตจักรมากกว่าที่เป็นอยู่ ถ้าพระสันตะปาปาให้อภัยโทษบาปและอวยพระพรผู้เชื่อวันละร้อยครั้งอย่างที่เคยเป็น ไม่ใช่หนึ่งครั้งอย่างที่ทำอยู่

89. ในเมื่อพระสันตะปาปาแสวงหาความรอดของดวงวิญญาณ มากกว่าเงิน โดยการล้างบาปของพระองค์  ทำไมพระองค์จึงได้หน่วงเหนี่ยวการล้างบาปและการให้อภัยซึ่งมีให้แล้ว ขณะที่พวกเขาเต็มไปด้วยความหวังที่มากพอ

90. ในการขจัดข้อโต้แย้งอันชาญฉลาดของฆราวาสเหล่านั้นโดยใช้กำลังแต่เพียงอย่างเดียว ไม่ได้แก้ปัญหาด้วยการให้เหตุผล ก็เท่ากับนำคริสตจักรและองค์พระสันตะปาปาไปสู่การเยาะเย้ยของเหล่าศัตรู และจะทำให้คริสเตียนไม่มีความสุข

91. ดังนั้น ถ้าการล้างบาปได้รับการเทศนาไปตามพระวิญญาณและความตั้งใจของพระสันตะปาปา ข้อสงสัยเหล่านั้นก็จะได้รับคำตอบ และจะไม่มีหลงเหลืออยู่เลย

92. ในที่สุดแล้ว จงอยู่ให้ไกลจากบรรดาผู้พยากรณ์ที่กล่าวกับประชากรของพระคริสต์ว่า สวัสดิภาพ สวัสดิภาพ เมื่อไม่มีสวัสดิภาพเลย  เยเรมีย์ 6.24

93. พระพรจงเป็นของบรรดาผู้เผยพระวจนะ ผู้ซึ่งได้กล่าวแก่ประชากรของพระคริสต์ว่า    ไม้กางเขน  ไม้กางเขน  และไม่มีไม้กางเขน

94. คริสเตียนไม่ควรถูกเคี่ยวเข็ญให้ขยันขันแข็งในการติดตามพระคริสต์ผู้เป็นศีรษะของพวกเขาผ่านทาง บทลงโทษ ความตาย และนรก

95. ดังนั้นจงมั่นในการเข้าสู่สวรรค์โดยทางความยากลำบากทั้งหลาย มากกว่าความมั่นคงแห่งสันติสุขอันจอมปลอม  กิจการ 14.22

ขอขอบพระคุณ
อ.วันดี  ศิษยาภิบาล คริสตจักรลูเธอร์แรน หลักสี่  ที่เอื้อเฟื้อข้อมูลครับ
ภาพประจำตัวสมาชิก
Zion
~@
โพสต์: 3777
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 8:37 pm
ติดต่อ:

ศุกร์ ส.ค. 18, 2006 6:10 pm

ขอบคุณเช่นกันครับ ที่นำมาแบ่งปัน

ปัจจุบัน ใบล้างบาป ของยุคมืด ก็ได้สูญสิ้นไปจากพระศาสนจักรแล้ว

ทั้งสิ้น นั้น ก็มีได้มีการ กล่าวหมิ่นถึง พระนางมารีย์

ผู้ซึ่งได้ร่วม การไถ่กู้มนุษยชาติ โดย เดชะพระจิตเจ้า

ขอบคุณพระเจ้า : xemo026 :
nataca_x

ศุกร์ ส.ค. 18, 2006 10:12 pm

ขอบคุณที่มาแบ่งปันครับ
ภาพประจำตัวสมาชิก
Holy
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 10011
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:06 pm

ศุกร์ ส.ค. 18, 2006 11:21 pm

รู้สึกแปลแปลกๆ และความหมายเพี้ยนๆเยอะนะครับ
sabachthani

ศุกร์ ส.ค. 18, 2006 11:32 pm

รูปค่ะ

รูปท่านลูเธอร์
รูปภาพ

รูปท่านลูเธอร์เขียน 95 Theses
รูปภาพ

::001::
Batholomew
~@
โพสต์: 12724
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 2:28 pm
ที่อยู่: Thailand

เสาร์ ส.ค. 19, 2006 9:34 am

Holy เขียน: รู้สึกแปลแปลกๆ และความหมายเพี้ยนๆเยอะนะครับ
จะบอกว่าปริ้นท์ออกมาอ่าน ไม่ค่อยเข้าใจเหมือนกันครับ

รู้แต่ว่า ต่อต้านเรื่องใบล้างบาปอ่ะครับ
ภาพประจำตัวสมาชิก
yuki
โพสต์: 681
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ มี.ค. 01, 2006 5:02 am

อาทิตย์ ส.ค. 20, 2006 12:38 am

งงๆน่ะ
lordtole
โพสต์: 131
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ก.พ. 14, 2006 12:38 am
ที่อยู่: Bangkok , St.JoHn Church & Fatima

พฤหัสฯ. ส.ค. 24, 2006 9:39 pm

ใช่ครับ ยุคมืดของพระศาสนจักร ล่วงเลยไปแล้ว ผมว่า มนุษย์ก็เป็นคนบาปเหมือนกัน และสามารถที่จะพลาดพลั้งกันได้ ไม่เว้นแต่พระศาสนจักร แต่มันสำคัญอยู่ที่ การกลับใจ การออกมาขอโทษของพระสันตะปาปา ยอห์น ปอลล ที่2  สิ่งนี้ต่างหากที่พระเป็นเจ้าทรงพอพระทัย  ดังนั้น อดีตที่แสนจะปวดร้าว ก็ขอให้ลืมมันไปเถิดครับ เพราะถ้าจะนึกถึงมัน มันก็มารบกวนจิตใจเราได้ แต่ก็ขอขอบพระคุณที่แบ่งปันความรู้ครับ
sabachthani

พฤหัสฯ. ส.ค. 24, 2006 9:48 pm

lordtole เขียน: ใช่ครับ ยุคมืดของพระศาสนจักร ล่วงเลยไปแล้ว ผมว่า มนุษย์ก็เป็นคนบาปเหมือนกัน และสามารถที่จะพลาดพลั้งกันได้ ไม่เว้นแต่พระศาสนจักร แต่มันสำคัญอยู่ที่ การกลับใจ การออกมาขอโทษของพระสันตะปาปา ยอห์น ปอลล ที่2  สิ่งนี้ต่างหากที่พระเป็นเจ้าทรงพอพระทัย  ดังนั้น อดีตที่แสนจะปวดร้าว ก็ขอให้ลืมมันไปเถิดครับ เพราะถ้าจะนึกถึงมัน มันก็มารบกวนจิตใจเราได้ แต่ก็ขอขอบพระคุณที่แบ่งปันความรู้ครับ
หนูว่าคำตอบของพี่กระชับ ได้ใจความชัดเจนดีจังค่ะ หนูอยากขอพี่แบ่งปันเพิ่มเติมหน่อยสิคะ การที่บางคนในปัจจุบันไม่ว่าจะเป็นนิกายใดยังถือเขาถือเราอยู่ ยึดมั่นถือมั่นอยู่ พี่คิดเห็นอย่างไรคะ แล้วถ้าสมควรแก้ไข พี่ว่าพอจะมีแนวทางใดแก้ไขได้บ้างคะ  ขอบคุณค่ะพี่  ::001::
ภาพประจำตัวสมาชิก
Nano Lamp
โพสต์: 98
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ก.ค. 11, 2006 1:02 pm
ที่อยู่: Chiangmai

เสาร์ ส.ค. 26, 2006 9:15 pm

TheGrace เขียน: 47. คริสเตียนได้รับการสอนว่า การซื้อใบล้างบาปเป็นทางเลือกไม่ใช่ที่ต้องทำกระทำ

48. คริสเตียนได้รับการสอนว่า ในการให้ใบล้างบาปของพระสันตะปาปานั้น พระองค์ต้องการและปรารถนาคำอธิษฐานที่จริงใจมากกว่าเงินของพวกเขา

49. คริสเตียนได้รับการสอนว่า ใบล้างบาปของพระสันตะปาปาจะมีประโยชน์ก็ต่อเมื่อพวกเขาไม่ได้เชื่อในใบล้างบาป และมันจะส่งผลร้าย หากพวกเขาสูญเสียความเกรงกลัวพระเจ้าเพราะมัน

50. คริสเตียนได้รับการสอนว่า ถ้าพระสันตะปาปารู้ถึงการขูดรีดเงินของนักเทศน์ที่ขายใบล้างบาป พระองค์คงจะยอมให้โบสถ์ของนักบุญเปโตรถูกเผาจนเป็นเถ้าถ่าน มากกว่าที่จะยอมให้โบสถ์ถูกสร้างขึ้นมาด้วยเนื้อหนังและกระดูกของลูกแกะของพระองค์
ผมว่าเขาก็เขียนถูกนะครับ ตรงอื่นรู้เรื่องบ้างไม่รู้บ้าง
ได้ยินว่าสมัยนั้นมีคอรัปชั่นกันเยอะ
แล้วมีการแก้ไขยังไงบ้างครับ
อยากรู้ตอนต่อไปง่ะ
จอมนางกระบี่เดี่ยว
โพสต์: 1159
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ มิ.ย. 13, 2005 2:03 pm

อังคาร ส.ค. 29, 2006 12:15 pm

Nano Lamp เขียน:
TheGrace เขียน: 47. คริสเตียนได้รับการสอนว่า การซื้อใบล้างบาปเป็นทางเลือกไม่ใช่ที่ต้องทำกระทำ

48. คริสเตียนได้รับการสอนว่า ในการให้ใบล้างบาปของพระสันตะปาปานั้น พระองค์ต้องการและปรารถนาคำอธิษฐานที่จริงใจมากกว่าเงินของพวกเขา

49. คริสเตียนได้รับการสอนว่า ใบล้างบาปของพระสันตะปาปาจะมีประโยชน์ก็ต่อเมื่อพวกเขาไม่ได้เชื่อในใบล้างบาป และมันจะส่งผลร้าย หากพวกเขาสูญเสียความเกรงกลัวพระเจ้าเพราะมัน

50. คริสเตียนได้รับการสอนว่า ถ้าพระสันตะปาปารู้ถึงการขูดรีดเงินของนักเทศน์ที่ขายใบล้างบาป พระองค์คงจะยอมให้โบสถ์ของนักบุญเปโตรถูกเผาจนเป็นเถ้าถ่าน มากกว่าที่จะยอมให้โบสถ์ถูกสร้างขึ้นมาด้วยเนื้อหนังและกระดูกของลูกแกะของพระองค์
ผมว่าเขาก็เขียนถูกนะครับ ตรงอื่นรู้เรื่องบ้างไม่รู้บ้าง
ได้ยินว่าสมัยนั้นมีคอรัปชั่นกันเยอะ
แล้วมีการแก้ไขยังไงบ้างครับ
อยากรู้ตอนต่อไปง่ะ
ต้องมีความหวังในมนุษย์ และพลังประชาชนค่ะ เวลาพูดเรื่องนี้ มันจะดูเวอร์ห่างไกล จากความเป้ฯจริง แต่ถ้าไม่เชื่อไม่ศรัทธาพลังประชาชนเสียแล้วนี่ สังคมเราก็คงไม่มีใครลุกขึ้นมาสอน ลุกขึ้นมาบอก ให้ประชาชนรู้จักตื่นตัวกับปัญหาและรู้เท่าทันมัน

สังคมตื่นและรู้เท่าทันไม่ได้หมายความต้องเริ่มจากปรากฎการณ์ใหญ่ ๆ แต่เริ่มได้จากตัวเรา แผ่ขยายไปสังคมรอบข้าง เหมือนคลื่น ที่ส่งผลกระทบออกไป แต่เราไม่ต้องไปติดใจกับผลของมัน ไม่ต้องไปคาดคิดว่าคลื่นมันจะไปกระทบฝั่ง หรือกระทบอะไร แค่ลงมือทำให้ดี แสวงหาความจริงแบบปราศจากอคติ แล้วก็ขยายความเข้าใจสู่คนรอบข้าง

เรื่องคอรัปชั่น ก็อยู่ภายใต้ หลักการเดียวกัน ถ้าสังคม ไม่ยึดถือค่านิยมคอรัปชั่น ไม่ปล่อยมันเลยตามเลย และรังเกียจมันอย่างที่รังเกียจคนประพฤติบาปร้ายแรง สังคมเราก็จะรอดจากคอรัปชั่นไปได้

แต่ทุกวันนี้ เราพากันมองว่าสังคมปลอดคอรัปชั่น เป็นสังคมอุดมคติ ไม่มีอยู่จริง จะฝากความหวังไว้ที่ประชาขนได้ยังไง มันต้องมีคนลุกขึ้นมาแก้ ต้องมีการเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่ คิดแบบนี้ ก็เหมือนกับ โยนความรับผิดชอบ การโยนความรับผิดชอบนี่แหละ ปุ๋ยเพาะพันธ์เมล็ดคอรัปชั่นตัวหนึ่งล่ะ 

เพราะฉะนั้น อยากให้สังคมเป้นแบบไหน ก็เริ่มที่ตัวเราเองก่อน 

วันนี้มาแหวกแนว แบบว่าขอระบายอารมณ์นิดหนึ่ง นะๆๆๆ ไม่ว่ากันนะ
Phulasso
โพสต์: 1236
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ก.พ. 24, 2006 10:18 am
ที่อยู่: Thailand

อังคาร ส.ค. 29, 2006 2:09 pm

จริงจ้า เคยมีคนบอกว่าถ้าอยากรู้ว่านิสัยของคนในประเทศ(ส่วนใหญ่)(เป็นอย่างไร
ให้ดูจากผู้นำ เพราะเขาเลือกผู้นำตามแนวความคิดของเขา
เช่นอยากรู้จักอเมริกันให้ดูบุช อยากรุ้จักคนอังกฤษให้ดูแบร์

ถ้าอยากรู้ว่าใครนิยมคอร์รัปชันให้ดู.......... ดูใครดีหว่า
จอมนางกระบี่เดี่ยว
โพสต์: 1159
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ มิ.ย. 13, 2005 2:03 pm

อังคาร ส.ค. 29, 2006 6:45 pm

Phulasso เขียน: จริงจ้า เคยมีคนบอกว่าถ้าอยากรู้ว่านิสัยของคนในประเทศ(ส่วนใหญ่)(เป็นอย่างไร
ให้ดูจากผู้นำ เพราะเขาเลือกผู้นำตามแนวความคิดของเขา
เช่นอยากรู้จักอเมริกันให้ดูบุช อยากรุ้จักคนอังกฤษให้ดูแบร์

ถ้าอยากรู้ว่าใครนิยมคอร์รัปชันให้ดู.......... ดูใครดีหว่า
ดูหน้าคนที่มีมุม 4 มุม 555555555555555555555555
Phulasso
โพสต์: 1236
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ก.พ. 24, 2006 10:18 am
ที่อยู่: Thailand

อังคาร ส.ค. 29, 2006 9:19 pm

จอมนางกระบี่เดี่ยว เขียน:
Phulasso เขียน: จริงจ้า เคยมีคนบอกว่าถ้าอยากรู้ว่านิสัยของคนในประเทศ(ส่วนใหญ่)(เป็นอย่างไร
ให้ดูจากผู้นำ เพราะเขาเลือกผู้นำตามแนวความคิดของเขา
เช่นอยากรู้จักอเมริกันให้ดูบุช อยากรุ้จักคนอังกฤษให้ดูแบร์

ถ้าอยากรู้ว่าใครนิยมคอร์รัปชันให้ดู.......... ดูใครดีหว่า
ดูหน้าคนที่มีมุม 4 มุม 555555555555555555555555
ถูกต้อง มาร์คอส ::011::
จอมนางกระบี่เดี่ยว
โพสต์: 1159
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ มิ.ย. 13, 2005 2:03 pm

อังคาร ส.ค. 29, 2006 9:55 pm

Phulasso เขียน:
จอมนางกระบี่เดี่ยว เขียน:
Phulasso เขียน: จริงจ้า เคยมีคนบอกว่าถ้าอยากรู้ว่านิสัยของคนในประเทศ(ส่วนใหญ่)(เป็นอย่างไร
ให้ดูจากผู้นำ เพราะเขาเลือกผู้นำตามแนวความคิดของเขา
เช่นอยากรู้จักอเมริกันให้ดูบุช อยากรุ้จักคนอังกฤษให้ดูแบร์

ถ้าอยากรู้ว่าใครนิยมคอร์รัปชันให้ดู.......... ดูใครดีหว่า
ดูหน้าคนที่มีมุม 4 มุม 555555555555555555555555
ถูกต้อง มาร์คอส ::011::

โห  อย่าปลุกเฮียมาจากหลุมนะ
อันตน
~@
โพสต์: 4164
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ ก.ค. 06, 2005 6:50 pm
ที่อยู่: ภูเก็ต

พุธ ส.ค. 30, 2006 8:15 am

จอมนางกระบี่เดี่ยว เขียน:
Phulasso เขียน: จริงจ้า เคยมีคนบอกว่าถ้าอยากรู้ว่านิสัยของคนในประเทศ(ส่วนใหญ่)(เป็นอย่างไร
ให้ดูจากผู้นำ เพราะเขาเลือกผู้นำตามแนวความคิดของเขา
เช่นอยากรู้จักอเมริกันให้ดูบุช อยากรุ้จักคนอังกฤษให้ดูแบร์

ถ้าอยากรู้ว่าใครนิยมคอร์รัปชันให้ดู.......... ดูใครดีหว่า
ดูหน้าคนที่มีมุม 4 มุม 555555555555555555555555
พิษซ่าหน้าเหลี่ยมจากบ้านจานส่องหน้าอะเหรอ
ภาพประจำตัวสมาชิก
Stephen
โพสต์: 117
ลงทะเบียนเมื่อ: พฤหัสฯ. ก.ย. 07, 2006 2:07 pm

ศุกร์ ก.ย. 08, 2006 7:32 pm

สรุป การกลับใจเป็นเรื่องลึกซึ่งมาก การกลับใจแต่เพียงภายนอกถึงบาทหลวงจะยกบาปให้แต่ท่านก็เป็นดังคนหน้าซื่อใจคดและหลอกลวงตันเองและพระเป็นเจ้าถือว่าเป็นการทุรจารศีลล้างบาป  ::011:: ::011::
ตอบกลับโพส