Belong to the Truth Jesus Christ

เรื่องมีอยู่ว่า เอาสมมุติแล้วกัน ไม่ใช่รักแบบแฟนน๊ะค่ะ

1. รู้จักเพื่อนคนหนึ่ง มาหลายปี รักเหมือนกัน
2. รู้รักเพื่อนอีกคน แป๊บเดียว แทบไม่ได้คุยเลย ก็รักเหมือนกัน
3. รู้จักเพื่อนอีกคน เห็นหน้าไม่ได้คุยกัน

แต่ทั้งสามคน สัมผัสทางความรู้สึกได้ ว่า รักเรา ห่วงเรา ทำอะไรเพื่อเรา

แต่รักเท่ากันทั้งหมดสามคน โดยไม่มีเหตุผล

การที่เรารักเค้าเท่ากัน โดยไม่มีเหตุผล ใช่ความรักแบบอากาเปหรือไม่ค่ะ

รบกวนด้วยค่ะ

การที่จะรักแบบอากาเป ได้ ในใจของเรา ค่อยๆๆ คิดเป็นวงกลม เหมือน ก้อนหินจุ่มลงไปในน้ำ แล้ว พรายน้ำแผ่ขยายกว้างออกอะค่ะ

ถ้าเป็นความรักต่างเพศที่ไม่มีเรื่อง erotic มาเกี่ยวข้อง
บางทีเขาเรียกว่า PLATONIC FRIENDSHIP จ้า
ซึ่งพัฒนาเป็น Agape ต่อไปได้ ถ้าเขายอมเสียสละให้เราได้มากๆๆๆ

ยังไม่ใช่อกาเป้ ฮะ เจ๊ ยังเป็น ความฝัน ความหวัง และพยายามประคองด้วยจิตสำนึก คงจะประมาณ

พลาโทนิก ที่พี่ Phulasso  บอกน่ะ เพราะว่า อกาเป้นั้นคือรักไม่มีเงื่อนไข มีแต่ให้ และอภัยได้ทุกเมื่อ

อย่างรักของพระเยซูคริสต์ ต่อพวกเราคืออกาเป้

หรือพระคัมภีร์เดิม ดูรักของ โจนาธาน กับดาวิด นะจะเห็นชัดเจน

อ่าน จาก 1 ซามูเอล บทที่ 18-20 ( หวังว่าไม่ผิดนะ ถ้าผิดค่อยมาแก้ อิอิ )

Jeab Agape เขียน:
ยังไม่ใช่อกาเป้ ฮะ เจ๊ ยังเป็น ความฝัน ความหวัง และพยายามประคองด้วยจิตสำนึก คงจะประมาณ

พลาโทนิก ที่พี่ Phulasso  บอกน่ะ เพราะว่า อกาเป้นั้นคือรักไม่มีเงื่อนไข มีแต่ให้ และอภัยได้ทุกเมื่อ

อย่างรักของพระเยซูคริสต์ ต่อพวกเราคืออกาเป้

หรือพระคัมภีร์เดิม ดูรักของ โจนาธาน กับดาวิด นะจะเห็นชัดเจน

อ่าน จาก 1 ซามูเอล บทที่ 18-20 ( หวังว่าไม่ผิดนะ ถ้าผิดค่อยมาแก้ อิอิ )

กำลังหาความรักแบบอากาเป้อยู่จ๊ะ  เลยไม่เข้าใจงะ
จะพูดยังไงดีหว่า ขอโทษน๊ะถ้าถามแบบไม่รู้เรื่อง

ตัวอย่างเช่น เรารู้จักเพื่อนคนนี้ มาหลายปี  เทียบบัญญัติตรายาง เอาไปหารกับ เวลา และความรู้สึกที่ดี = 0.83%
                    รู้จักเพื่อนใหม่ มา 1 ปี เทียบบัญญัติตรายาง เอาไปหารกับ เวลา และความรู้สึกที่ดี= 0.83%
                    รู้จักเพื่อนใหม่อีก ไม่ถึงปี เทียบบัญญัติตรายาง เอาไปหารกับ เวลา และความรู้สึกที่ดี = 0.83%


เลยงงกับความรู้สึกตัวเอง ว่า ทำไมรักเท่ากันหว่า มันต้อง มีรักคนนี้มากกว่า คนนี้น้อยกว่าจิ๊

อันนี้คือรักแบบเพื่อน มนุษย์น๊ะค่ะ

ไม่ได้รักแบบแฟน เพราะแฟนมีแล้ว ไม่มองใครแล้ว และมองใครไม่ได้แล้ว 


แย้วมนุษย์ บาปบาป อย่างเรา มีอากาเป ได้อะปะ งะ

1คร 13:4-8 

ความรักย่อมอดทน มีใจเอื้อเฟื้อ ไม่อิจฉา ไม่โอ้อวดตนเอง ไม่จองหอง  ไม่หยาบคาย ไม่เห็นแก่ตัว ความรักไม่ฉุนเฉียว ไม่จดจำความผิดที่ได้รับ  ไม่ยินดีในความชั่ว แต่ร่วมยินดีในความถูกต้อง ความรักให้อภัยทุกอย่าง เชื่อทุกอย่าง หวังทุกอย่าง อดทนทุกอย่าง ความรักไม่มีสิ้นสุด แม้การประกาศพระวาจาจะถูกยกเลิก แม้การพูดภาษาที่ไม่มีใครเข้าใจจะยุติ แม้ความรู้จะหมดสิ้น

minnie เขียน: กำลังหาความรักแบบอากาเป้อยู่จ๊ะ  เลยไม่เข้าใจงะ

ไม่ต้องหานี่ครับ พระองค์ไงครับ รักเราแบบอากาเป้ ไม่ต้องไปตามหาที่ไหนครับ

minnie เขียน: แย้วมนุษย์ บาปบาป อย่างเรา มีอากาเป ได้อะปะ งะ

ได้สิครับ แต่ต้องพยายามน่าดูเลยนะ ผมว่า

รักแบบไม่มีเงื่อนไขกับไม่มีเหตุผลไม่เหมือนกันนะคะ  คือถ้าเพื่อนเหล่านั้น  เค้าทั้งแย่งแฟนพี่  ด่าพ่อ  ด่าแม่พี่  โกงเงินพี่  แต่พี่ก็ยังรักและปรารถนาดีกับเค้าอยู่เสมอ  อันนั้นอกาเป    แต่ถ้าเค้าดีกับเรา  เรารักเค้า  อันนั้นธรรมดา  ใครๆก็รักได้ 

เหมือนพระเป็นเจ้า  ทั้เราร้ายกับพระองค์สารพัด  ทำบาปมากมาย  แต่พระองค์ก็ยังรักเรา 

จากหนังสือ New Testament Words ของ วิลเลี้ยม บาร์คเลย์ บอกว่า

อะกาเป แปลว่า ความรัก และ อะกาปัน เป็นคำกริยาคือ รัก   ความรักเป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในกระบวนคุณงามความดีทั้งหมด

ดังนั้นจึงไม่มีคุณงามความดีอะไรที่ยิ่งใหญ่กว่ารัก โดยเฉพาะรักแบบอกาเป้ คือรักพที่ไม่มีเงื่อไข

ส่วนความรักที่น้องโพสมาก็เป็นความรักเหมือนกันแต่ไม่จัดอยู่ในอากาเป้ นอกจากอะกาเป้แล้วยังมี

สตอร์เก   ความรักฉันญาติ รักพ่อ แม่ รักลูกๆ หลานๆ

ฟีเลีย คำนาม  และฟีเลย คำกิริยา แปลว่า การมองด้วยความรักใคร่ผูกพัน ทะนุถนอมรักอยากดูแลเอาใจใส่ เหมือนพี่โจแซฟคนนี้ไงครับ เรียกว่าเป็น ความรักหนุ่มสาว

ที่จริงเรื่องความรัก สมัยพี่เรียนพี่จดไว้เยอะเลยแต่ไม่รู้อยู่เล่มไหนถ้าไปค้นหาก็เสียเวลาเกือบครึ่งวันแน่นอน เลยเอาหนังสือเล่มนี้มาอ้างอิงดีกว่า

บัญญัติไตรยางไม่ใช่เหรอ หรือว่าเล่นมุข เห็นคำว่าตรายางทีไร หวนนึกนึกถึงความรันทด ในกกต.ทุกทีเลย รู้สึกเหมิอนถูกหลอกหลอน

ความรักสามแบบที่ยกมา เป็นความรักแบบเพื่อนให้เพื่อน มันก็เท่า ๆกัน มันอาจจะต่างไปเมื่อ คนหนึ่ง โกงเงินเรา คนหนึ่ง ด่าพ่อแม่เรา และคนหนึ่งหักหลังเรา

แต่ ถ้าอากาเป้ ก็อย่างที่หลายคนตอบแหละ  อภัย ให้ไม่มีที่สิ้นสุด รักโดยที่ไม่เงื่อนไขใด ๆ มนุษย์ก็ทำได้นะ ทำตามที่พระเยซูสอนไง เริ่มตั้งแต่การละทิ้งน้ำใจที่มีให้กับตัวเองก่อน ยากนะเนี่ย

หนูไม่มีความสามารถในการอธิบาย แต่ขอยกตัวอย่าง บุคคล ให้เจ๊เห็นเลยฮะ

บุคคลที่หนูเข้าใจ และเชื่อมั่นคงว่า มีความรักแบบ อกาเป้ อย่างเต็มเปี่ยม เช่น บุญราศี เทเรซ่า แห่งกัลกัตตา
ตอนที่ท่านยังมีชีวิต เราเห็นภาพความรักและการเสียสละ เพื่อคนยากจน อย่างจริงจัง และจริงใจ

และ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ทรงรักพสกนิกร ของพระองค์ไม่ว่ามาจากชนเผ่าพันธุ์ เชื้อสายใด
ไม่มีอะไรมีขวางกั้น น้ำพระทัย พระเมตตา ต่อปวงประชาของพระองค์

และอีกหลายๆล้านบุคคลที่ ได้ทำ กำลังทำ และจะทำ เพื่อคนอื่นๆ แบบไม่มีเงื่อนไข เพราะรักพวกเขา เป็นต้น

อย่างเจ๊เทียบบัญญัติไตรยาง หนูตก ฮะ

แต่หนูยืมพระดำรัสของพระเยซูเจ้า ที่พูดกับเศรษฐีหนุ่มที่ถามพระองค์ว่าทำอย่างไร ที่จะได้ชีวิตนิรันดร์ พระเยซูตอบว่า
ให้ไปขายข้าวของแจกจ่ายกับคนจน..................ในที่สุดเขาหน้าเศร้ากลับไป เพราะรวยจนไม่กล้าแบ่งปัน

พี่มินนี่อยากจะสัมผัสกับ ความรักอกาเป้ พี่ก็ลอง ทำดีๆ แบบพระเยซูคริสต์ ตรัสกับเศรษฐีหนุ่มคนนั้นล่ะ