อ่านแล้วเศร้า สำหรับคนไม่มีความเชื่อ
โพสต์แล้ว: จันทร์ ต.ค. 30, 2006 3:08 pm
อ่านแล้วเศร้า
====================
...ช่างปั้นหม้อ
ปั้นหม้อขึ้นมาจากดินเหนียว
พอเสร็จแล้วก็วางเรียงกันไว้
หม้อใบไหนปากเบี้ยว
ใบไหนไม่สวย
ใบไหนตั้งโงนเงน...ก็ทุบทิ้ง
...พระเจ้า...ก็เช่นกัน
สร้างมนุษย์ขึ้นมาจากดินโคลนอันต่ำต้อย
ใครไม่เชื่อไม่ศรัทธา ไม่นับถึอ
พระเจ้าก็ทำลาย
ใครเชื่อ ใครศรัทธา ใครนับถือ
ก็ต้องตายเสียทุกคนไป.
พระเจ้าท่านสร้างมนุษย์ขึ้นมาเองกับมือของท่าน
ท่านก็ติว่าเลวบ้าง ไม่ดีบ้าง
แล้วก็ลงโทษจะถูกหรือ
หม้อที่ตั้งบิดเบี้ยว หม้อที่ตั้งโงนเงนน่าชังนั้น
มันมิใช่ความผิดของมือท่านปั้นดอกหรือ
ลองคิดตรองดูที.
ช่างปั้นหม้อกำลังขยำดินเหนียว
ดินก็ร้อง ออด.. แอด... ออด... แอด
ด้วยมันไม่อยากจะเป็นหม้อ
พระเจ้าสร้างมนุษย์ขึ้นมา
เมื่อท่านสาบเช่ง ข่มเหงรังแกหนักเข้า
มนุษย์ก็หลีกหนีได้เหมือนกัน.
พระเจ้าหลอก ๆ
เอานรกมาขู่ เอาสวรรค์มาล่อ
มนุษย์โง่ ๆ ก็เชื่อฟังและนับถือ
ยามท่านกริ้ว ยามท่านโกรธขึ้นมา
ท่านก็ทำลายเสีย.....
นึกว่าของ ๆ ท่าน สร้างมาเองไม่ได้ยืมใครมา
จะทำอย่างไรก็ได้.
อันธรรมะที่ดี
ของศาสดาก็น่าชอบใจและน่าปฎิบัติอยู่
อีกทั้งสวรรค์อันวิเศษและงดงามก็น่าไปอยู่
แต่ก็อีกนั่นแหละ
จะจริงหรือไม่จริงก็ไม่อาจเห็นได้ด้วยตา
สู้กำทุนคือความสุขตรงหน้าเราตอนนี้ไม่ดีกว่าหรือ
ก่อนจะแสวงหากำไรที่มีอยู่จริงหรือไม่จริง
และรับรู้ด้วยจิตวิญญาณหรือตาก็ไม่ได้.
อันธรรมะที่ดี ๆ
ของศาสดาก็น่าชอบใจและน่าปฎิบัติอยู่
อีกทั้งสวรรค์อันวิเศษและงดงามก็น่าไปอยู่
แต่ก็อีกนั่นแหละ...
จะจริงหรือไม่จริงก็ไม่อาจเห็นได้ด้วยตา
สู้กำทุนคือความสุขตรงหน้าเราตอนนี้ไม่ดีกว่าหรือ
ก่อนจะแสวงหากำไรที่มีอยู่จริงหรือไม่จริง
และรับรู้ด้วยจิตวิญญาณหรือตาก็ไม่ได้.
ไม่สมปรารถนาก็โศรกเศร้า
ครั้นสมดั่งใจก็ลิงโลดดีใจ
ดั่งก้อนน้ำแข็งวางไว้บนกองฝุ่น
ยามฝุ่นพัดกลบก็มัวหมอง
ยามปราศจากฝุ่นก้อนน้ำแข็งก็แวววาว
ถึงจะแวววาวงามสักปานใด
ครู่เดียวความงามก็ละลายหายไปบนกองฝุ่นฝอย
...ชีวิตเราจะมีบุญหรือกรรมมากมายสักเพียงใด
ในไม่ช้าต่างก็ต้องสูญหายไปหมดสิ้น
เหมือนดั่งก้อนน้ำแข็งละลาย...
เหล่าศาสดา สาวก และนักปราชญ์
ต่างก็ถกเถียงกันถึงชาติก่อนและชาติหน้า
ทั้งนรกและสวรรค์มานานแสนนาน
ที่สุดก็สิ้นสุดลงที่ปากหลุม
จนตายก็เอาแน่เอานอนตรงไหนไม่ได้
...ความโง่ที่จะเอาชนะความโง่ด้วยกันนั้นดีหรือ
สู้หาอะไรบำรุงชีวิตให้เป็นสุขเสียก่อนตายจะดีเสียกว่า.
มนุษย์เราเกิดมาในโลกนี้ทำไม
มาจากไหนไม่มีใครรู้จริง
ป่วยการที่จะถามว่าตายแล้วจะไปไหน
อุตสาห์หาคาวมสุขไว้เป็นกำไรแต่นี้เถิด
อย่าเพ้อหาสวรรค์วิมานไปเลย เสียแรงเปล่า
เมื่อตายไปแล้วก็จะไม่ได้พบเห็นอีกต่อไป.
ถ้าถามว่าสวรรค์อยู่ที่ไหน
ไปทางใดไม่มีใครตอบได้
เข้าใจว่าต้องตายไปแล้วเท่านั้นจึงจะรู้
เหตุใดเราไม่หาความสุขเสียแต่ตอนยังมีชีวิตอยู่
นี่แหละที่เรียกว่าสวรรค์อย่างแท้จริง
เห็นด้วยตาและจับต้องได้
สวรรค์ตอนตายไปแล้วใครเชื่อก็โง่เต็มที.
พระเจ้าทรงอิทธิฤิทธ์
ฆ่าคนที่ไม่นับถือพระองค์
ผู้คนพากันกลัวภัยต่าง ๆ นา ๆ
ด้วยความหลอกลวงนรกและสวรรค์
พระเจ้าก็เป็นแค่คมในฝัก
ครั้นพอชักออกมาก็หาประโยชน์อันใดมิได้
..............................................................................
พระเจ้าไม่ได้สร้างมนุษย์ขึ้นมาอย่างจริงแท้แน่นอน
มนุษย์เกิดมาจากบรรพบุรุษของมนุษย์เอง
จากของพ่อของพ่อ ของปู่ของปู่ และของทวดของทวด
สืบต่อกันมาเราทุกคนย่อมรู้ดี
แต่เหตุไฉนจึงแสร้งเชื่อว่าพระเจ้าสร้างมา.
............................................................................
ที่มาจาก http://www.siamtower.com/religion/god.html
====================
...ช่างปั้นหม้อ
ปั้นหม้อขึ้นมาจากดินเหนียว
พอเสร็จแล้วก็วางเรียงกันไว้
หม้อใบไหนปากเบี้ยว
ใบไหนไม่สวย
ใบไหนตั้งโงนเงน...ก็ทุบทิ้ง
...พระเจ้า...ก็เช่นกัน
สร้างมนุษย์ขึ้นมาจากดินโคลนอันต่ำต้อย
ใครไม่เชื่อไม่ศรัทธา ไม่นับถึอ
พระเจ้าก็ทำลาย
ใครเชื่อ ใครศรัทธา ใครนับถือ
ก็ต้องตายเสียทุกคนไป.
พระเจ้าท่านสร้างมนุษย์ขึ้นมาเองกับมือของท่าน
ท่านก็ติว่าเลวบ้าง ไม่ดีบ้าง
แล้วก็ลงโทษจะถูกหรือ
หม้อที่ตั้งบิดเบี้ยว หม้อที่ตั้งโงนเงนน่าชังนั้น
มันมิใช่ความผิดของมือท่านปั้นดอกหรือ
ลองคิดตรองดูที.
ช่างปั้นหม้อกำลังขยำดินเหนียว
ดินก็ร้อง ออด.. แอด... ออด... แอด
ด้วยมันไม่อยากจะเป็นหม้อ
พระเจ้าสร้างมนุษย์ขึ้นมา
เมื่อท่านสาบเช่ง ข่มเหงรังแกหนักเข้า
มนุษย์ก็หลีกหนีได้เหมือนกัน.
พระเจ้าหลอก ๆ
เอานรกมาขู่ เอาสวรรค์มาล่อ
มนุษย์โง่ ๆ ก็เชื่อฟังและนับถือ
ยามท่านกริ้ว ยามท่านโกรธขึ้นมา
ท่านก็ทำลายเสีย.....
นึกว่าของ ๆ ท่าน สร้างมาเองไม่ได้ยืมใครมา
จะทำอย่างไรก็ได้.
อันธรรมะที่ดี
ของศาสดาก็น่าชอบใจและน่าปฎิบัติอยู่
อีกทั้งสวรรค์อันวิเศษและงดงามก็น่าไปอยู่
แต่ก็อีกนั่นแหละ
จะจริงหรือไม่จริงก็ไม่อาจเห็นได้ด้วยตา
สู้กำทุนคือความสุขตรงหน้าเราตอนนี้ไม่ดีกว่าหรือ
ก่อนจะแสวงหากำไรที่มีอยู่จริงหรือไม่จริง
และรับรู้ด้วยจิตวิญญาณหรือตาก็ไม่ได้.
อันธรรมะที่ดี ๆ
ของศาสดาก็น่าชอบใจและน่าปฎิบัติอยู่
อีกทั้งสวรรค์อันวิเศษและงดงามก็น่าไปอยู่
แต่ก็อีกนั่นแหละ...
จะจริงหรือไม่จริงก็ไม่อาจเห็นได้ด้วยตา
สู้กำทุนคือความสุขตรงหน้าเราตอนนี้ไม่ดีกว่าหรือ
ก่อนจะแสวงหากำไรที่มีอยู่จริงหรือไม่จริง
และรับรู้ด้วยจิตวิญญาณหรือตาก็ไม่ได้.
ไม่สมปรารถนาก็โศรกเศร้า
ครั้นสมดั่งใจก็ลิงโลดดีใจ
ดั่งก้อนน้ำแข็งวางไว้บนกองฝุ่น
ยามฝุ่นพัดกลบก็มัวหมอง
ยามปราศจากฝุ่นก้อนน้ำแข็งก็แวววาว
ถึงจะแวววาวงามสักปานใด
ครู่เดียวความงามก็ละลายหายไปบนกองฝุ่นฝอย
...ชีวิตเราจะมีบุญหรือกรรมมากมายสักเพียงใด
ในไม่ช้าต่างก็ต้องสูญหายไปหมดสิ้น
เหมือนดั่งก้อนน้ำแข็งละลาย...
เหล่าศาสดา สาวก และนักปราชญ์
ต่างก็ถกเถียงกันถึงชาติก่อนและชาติหน้า
ทั้งนรกและสวรรค์มานานแสนนาน
ที่สุดก็สิ้นสุดลงที่ปากหลุม
จนตายก็เอาแน่เอานอนตรงไหนไม่ได้
...ความโง่ที่จะเอาชนะความโง่ด้วยกันนั้นดีหรือ
สู้หาอะไรบำรุงชีวิตให้เป็นสุขเสียก่อนตายจะดีเสียกว่า.
มนุษย์เราเกิดมาในโลกนี้ทำไม
มาจากไหนไม่มีใครรู้จริง
ป่วยการที่จะถามว่าตายแล้วจะไปไหน
อุตสาห์หาคาวมสุขไว้เป็นกำไรแต่นี้เถิด
อย่าเพ้อหาสวรรค์วิมานไปเลย เสียแรงเปล่า
เมื่อตายไปแล้วก็จะไม่ได้พบเห็นอีกต่อไป.
ถ้าถามว่าสวรรค์อยู่ที่ไหน
ไปทางใดไม่มีใครตอบได้
เข้าใจว่าต้องตายไปแล้วเท่านั้นจึงจะรู้
เหตุใดเราไม่หาความสุขเสียแต่ตอนยังมีชีวิตอยู่
นี่แหละที่เรียกว่าสวรรค์อย่างแท้จริง
เห็นด้วยตาและจับต้องได้
สวรรค์ตอนตายไปแล้วใครเชื่อก็โง่เต็มที.
พระเจ้าทรงอิทธิฤิทธ์
ฆ่าคนที่ไม่นับถือพระองค์
ผู้คนพากันกลัวภัยต่าง ๆ นา ๆ
ด้วยความหลอกลวงนรกและสวรรค์
พระเจ้าก็เป็นแค่คมในฝัก
ครั้นพอชักออกมาก็หาประโยชน์อันใดมิได้
..............................................................................
พระเจ้าไม่ได้สร้างมนุษย์ขึ้นมาอย่างจริงแท้แน่นอน
มนุษย์เกิดมาจากบรรพบุรุษของมนุษย์เอง
จากของพ่อของพ่อ ของปู่ของปู่ และของทวดของทวด
สืบต่อกันมาเราทุกคนย่อมรู้ดี
แต่เหตุไฉนจึงแสร้งเชื่อว่าพระเจ้าสร้างมา.
............................................................................
ที่มาจาก http://www.siamtower.com/religion/god.html