ศีลสมรส
ผมเห็นหลายๆกระทู้มีการพูดถึงเรื่องศีลสมรสหรือศีลกล่าว เลยอยากนำคำสอนของพระศาสนจักรในเรื่องศีลศักดิ์สิทธิ์ประการนี้มาเสนอ โดยอ้างอิงจากหนังสือ"คาทอลิกสอนอะไร"ของคุณพ่อวัชศิลป์ กฤษเจริญ ศูนย์คริสตศาสนธรรมคาทอลิก เขตมิสซังราชบุรี หนังสือคำสอนเล่มนี้เป็นหนังสือที่สรุปจากคำสอนของพระศาสนจักรคาทอลิก ซึ่งได้รับการรับรองโดยสมเด็จพระสันตะปาปายอห์น ปอลที่สอง เมื่อวันที่ 11 ตุลาคม ค.ศ.1992 ครับ
พระเยซูเจ้าทรงตั้งศีลสมรสเมื่อพระองค์ตรัสว่า “ชายจะละจากบิดามารดาไปสนิทอยู่กับภรรยาของตน และชายหญิงจะเป็นเนื้อเดียวกัน” ( มัทธิว 19:5 )
การแต่งงานเป็นศีลศักดิ์สิทธิ์ เพราะว่าเป็นเครื่องหมายแห่งความรักระหว่างพระคริสต์และพระศาสนจักร พระคัมภีร์กล่าวว่า “ชายจะละบิดามารดาไปผูกพันกับภรรยา และทั้งสองจะเป็นเนื้อเดียวกัน ธรรมล้ำลึกประการนี้ยิ่งใหญ่นัก ข้าพเจ้าหมายถึงพระคริสตเจ้ากับพระศาสนจักร” ( เอเฟซัส 5:31-32 )
การแต่งงานเป็นพันธสัญญาแห่งความรักระหว่างชายคนหนึ่งกับหญิงอีกคนหนึ่ง ซึ่งมีพันธะสามประการ คือ ความเป็นหนึ่งเดียว หย่าร้างไม่ได้ และการให้กำเนิดบุตร
ความเป็นหนึ่งเดียวกัน หมายความว่า เราไม่สามารถแต่งงานกับคนอื่นๆในเวลาเดียวกันได้ ตามที่พระเจ้าตรัสว่า “ชายจึงจากบิดามารดาของตน ไปผูกพันอยู่กับภรรยา และเขาทั้งสองจะเป็นเนื้อเดียวกัน” ( ปฐมกาล 2:24 )
หย่าร้างไม่ได้ หมายความว่า เราไม่สามารถหย่าร้างจากคู่สมรสของเรา ตามที่พระเยซูเจ้าตรัสว่า “เราบอกท่านทั้งหลายว่า ผู้ใดหย่าร้างภรรยาและแต่งงานกับอีกคนหนึ่ง เขาก็ทำผิดประเวณี” ( มัทธิว 19:9 ) พระศาสนจักรไม่สามารถลบล้างการแต่งงานที่ถูกต้องได้ แต่สามารถประกาศว่าการแต่งงานนั้นไม่สมบูรณ์ตั้งแต่เริ่มแรก การแต่งงานที่ถูกต้องจะยุติลงต่อเมื่อฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดตาย คาทอลิกไม่มีอนุญาตให้มีการหย่าร้าง แต่มีอนุญาตให้แยกกันอยู่ชั่วคราว ในกรณีที่มีเหตุผลร้ายแรง และเมื่อปัญหายุติลงให้ทั้งสองกลับมาคืนดีกันอีก บุคคลที่จำเป็นต้องหย่าร้างหรือแยกกันอยู่จะต้องอยู่คนเดียว ถ้าอยู่กับคนอื่นแบบสามีภรรยา หรือไปแต่งงานใหม่ตามกฎหมายบ้านเมือง จะถือว่าทำบาปผิดประเวณี ซึ่งจะทำให้ผู้นั้นเข้ามารับศีลมหาสนิท หรือรับการอภัยบาปไม่ได้ จนกว่าจะแยกออกจากคู่ใหม่ของตนเอง
การให้กำเนิดบุตร หมายความว่า เราต้องยินดีรับบุตรที่จะเกิดขึ้น เราต้องยอมรับบุตรทุกคนที่จะเกิดมา เพราะพระเจ้าทรงประทานให้เราและนำพวกเขาให้มีความเชื่อตามแบบของคริสตชน ถ้าเราจำกัดจำนวนบุตรด้วยการคุมกำเนิดแบบอื่นๆ ที่ไม่ใช่วิธีธรรมชาติ เราก็ขัดขวางจุดประสงค์ของการแต่งงาน ตามที่พระเจ้าตรัสว่า "จงมีลูกดกทวีมากขึ้น จนเต็มแผ่นดิน จงมีอำนาจเหนือแผ่นดิน" ( ปฐมกาล 1:28 ) ลูกเป็นของขวัญจากพระเจ้า ที่จะให้ความยินดีและความสุขแก่เรา ตามที่พระคัมภีร์กล่าวว่า "บุตรทั้งหลายเป็นมรดกจากพระเจ้า ผลิตผลของครรภ์เป็นรางวัล" ( สดุดี 127:3 )
การแต่งงานเป็นศีลศักดิ์สิทธิ์ เพราะว่าเป็นเครื่องหมายแห่งความรักระหว่างพระคริสต์และพระศาสนจักร พระคัมภีร์กล่าวว่า “ชายจะละบิดามารดาไปผูกพันกับภรรยา และทั้งสองจะเป็นเนื้อเดียวกัน ธรรมล้ำลึกประการนี้ยิ่งใหญ่นัก ข้าพเจ้าหมายถึงพระคริสตเจ้ากับพระศาสนจักร” ( เอเฟซัส 5:31-32 )
การแต่งงานเป็นพันธสัญญาแห่งความรักระหว่างชายคนหนึ่งกับหญิงอีกคนหนึ่ง ซึ่งมีพันธะสามประการ คือ ความเป็นหนึ่งเดียว หย่าร้างไม่ได้ และการให้กำเนิดบุตร
ความเป็นหนึ่งเดียวกัน หมายความว่า เราไม่สามารถแต่งงานกับคนอื่นๆในเวลาเดียวกันได้ ตามที่พระเจ้าตรัสว่า “ชายจึงจากบิดามารดาของตน ไปผูกพันอยู่กับภรรยา และเขาทั้งสองจะเป็นเนื้อเดียวกัน” ( ปฐมกาล 2:24 )
หย่าร้างไม่ได้ หมายความว่า เราไม่สามารถหย่าร้างจากคู่สมรสของเรา ตามที่พระเยซูเจ้าตรัสว่า “เราบอกท่านทั้งหลายว่า ผู้ใดหย่าร้างภรรยาและแต่งงานกับอีกคนหนึ่ง เขาก็ทำผิดประเวณี” ( มัทธิว 19:9 ) พระศาสนจักรไม่สามารถลบล้างการแต่งงานที่ถูกต้องได้ แต่สามารถประกาศว่าการแต่งงานนั้นไม่สมบูรณ์ตั้งแต่เริ่มแรก การแต่งงานที่ถูกต้องจะยุติลงต่อเมื่อฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดตาย คาทอลิกไม่มีอนุญาตให้มีการหย่าร้าง แต่มีอนุญาตให้แยกกันอยู่ชั่วคราว ในกรณีที่มีเหตุผลร้ายแรง และเมื่อปัญหายุติลงให้ทั้งสองกลับมาคืนดีกันอีก บุคคลที่จำเป็นต้องหย่าร้างหรือแยกกันอยู่จะต้องอยู่คนเดียว ถ้าอยู่กับคนอื่นแบบสามีภรรยา หรือไปแต่งงานใหม่ตามกฎหมายบ้านเมือง จะถือว่าทำบาปผิดประเวณี ซึ่งจะทำให้ผู้นั้นเข้ามารับศีลมหาสนิท หรือรับการอภัยบาปไม่ได้ จนกว่าจะแยกออกจากคู่ใหม่ของตนเอง
การให้กำเนิดบุตร หมายความว่า เราต้องยินดีรับบุตรที่จะเกิดขึ้น เราต้องยอมรับบุตรทุกคนที่จะเกิดมา เพราะพระเจ้าทรงประทานให้เราและนำพวกเขาให้มีความเชื่อตามแบบของคริสตชน ถ้าเราจำกัดจำนวนบุตรด้วยการคุมกำเนิดแบบอื่นๆ ที่ไม่ใช่วิธีธรรมชาติ เราก็ขัดขวางจุดประสงค์ของการแต่งงาน ตามที่พระเจ้าตรัสว่า "จงมีลูกดกทวีมากขึ้น จนเต็มแผ่นดิน จงมีอำนาจเหนือแผ่นดิน" ( ปฐมกาล 1:28 ) ลูกเป็นของขวัญจากพระเจ้า ที่จะให้ความยินดีและความสุขแก่เรา ตามที่พระคัมภีร์กล่าวว่า "บุตรทั้งหลายเป็นมรดกจากพระเจ้า ผลิตผลของครรภ์เป็นรางวัล" ( สดุดี 127:3 )
แก้ไขล่าสุดโดย Florian เมื่อ พุธ ม.ค. 03, 2007 10:46 am, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
เกิดพันธะที่ถาวรและเฉพาะบุคคล สามีและภรรยาจะเป็นหนึ่งเดียวกันตลอดไป ไม่สามารถหย่าร้าง ไม่ว่าด้วยเหตุผลใด การแต่งงานจะถือว่าสิ้นสุดก็ต่อเมื่อฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดตายจากไป การแต่งงานยังมีพันธะเฉพาะบุคคล เพราะเราไม่สามารถแต่งงานกับคนอี่นๆอีกได้ในเวลาเดียวกัน
ได้รับพระหรรษทานเฉพาะศีล พระหรรษทานเฉพาะศีลสมรสก็คือ พระพรที่ช่วยทำให้ความรักระหว่างสามีและภรรยาเข้มแข็งขึ้น และช่วยให้สามีและภรรยาช่วยกันแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นในชีวิตสมรส การสมรสยืนอยู่ภายใต้หลักการสองประการ คือ ความรักของคู่สมรสด้วยกัน และพระหรรษทานของพระเจ้า หากปราศจากพระหรรษทานของพระเจ้า ครอบครัวและการแต่งงานจะล้มเหลว เมื่อเกิดปัญหาขึ้นแม้เพียงครั้งแรกเท่านั้น
คาทอลิกทุกคนที่ไม่มีข้อขัดขวางสามารถเข้ารับศีลสมรสได้ ข้อขัดขวางต่างๆ ทำให้การแต่งงานไม่เป็นผล ซึ่งอยู่ในกรณีต่างๆเหล่านี้
1. จากพ่อแม่เดียวกันหรือลูกเลี้ยง หรือ ระหว่างพี่น้องชั้นที่หนึ่ง
2. ผู้ที่รับศีลบวช ได้แก่ บรรดาสังฆานุกร พระสงฆ์ หรือพระสังฆราช
3. ผู้ที่เข้าพิธีศีลสมรสมาแล้ว และคู่ครองของเขายังมีชีวิตอยู่
4. ผู้ที่แต่งงานตามกฎหมายบ้านเมือง หรือมีพันธะจากการแต่งงานตามธรรมชาติ
5. การแต่งงานเพราะถูกบังคับ
6. การหลงผิด เกิดความเข้าใจผิดทำให้แต่งงานผิดคน
7. หลอกลวง เป็นการโกหกหรือปกปิดสถานภาพแท้จริงของตนเอง
8. อาชญากรรม การฆ่าคู่ครองเก่าเพื่อแต่งงานใหม่
9. อายุไม่ถึง 18 ปีบริบูรณ์ทั้งชายและหญิง
10. การเสื่อมสมรรถภาพทางเพศถาวร สำหรับบุคคลที่ปกปิดความเสื่อมสมรรถภาพทางเพศของตนไว้ แต่ถ้าพบว่าตนเองเสื่อมสมรรถภาพหลังจากการเข้าพิธีศีลสมรส ถือว่าการแต่งงานนั้นเป็นผล ส่วนการเป็นหมันไม่ทำให้การสมรสไม่เป็นผล
11. บุคคลที่ไม่สามารถใช้เหตุผล
12. บุคคลที่ปฏิเสธพันธะของศีลสมรส
การแต่งงานกับคนต่างนิกายและต่างความเชื่อ ( คาทอลิกกับโปรเตสแตนท์ หรือพี่น้องที่ไม่ใช่คริสตชน ) สามารถกระทำได้ดังนี้
1. ยื่นคำร้องขออนุญาตจากพระสังฆราช
2. คู่แต่งงานที่ไม่ใช่คาทอลิกจะต้องสัญญาว่าจะให้บุตรที่จะเกิดขึ้นได้รับศีลล้างบาปและอบรมเลี้ยงดูตามความเชื่อของคาทอลิก
3. ทั้งคู่บ่าวสาวจะต้องยอมรับพันธะพื้นฐานของการสมรส
ก่อนการเข้าพิธีสมรส คู่หมั้นหมายจะต้องได้รับศีลกำลัง และศีลอภัยบาป
การแต่งงานระหว่างคาทอลิกกับคาทอลิกจะไม่เป็นผล ถ้าไม่ผ่านศีลสมรส บุคคลที่อยู่กกินกัน หรือแต่งงานตามกฎหมายบ้านเมืองถือว่าเป็นบาปสาธารณะ ทั้งสองไม่สามารถเข้ารับศีลมหาสนิท หรือศีลอภัยบาปได้ จนกว่าจะมาเข้าทำพิธีทางศาสนา หรือแยกออกจากกัน
สิ่งสำคัญในพิธีศีลสมรส ก็คือ การแลกเปลี่ยนความสมัครใจในการเป็นสามีและภรรยาของกันและกัน โดยกระทำอย่างเปิดเผยต่อสักขีพยานว่า จะรักและซื่อสัตย์ต่อกันจนกว่าชีวิตจะหาไม่ คำกล่าวสมัครใจนี้จะเป็นผลก็ต่อเมื่อเป็นการกระทำที่มาจากอิสรภาพ และรู้สำนึกตัวดีของทั้งสองคน
มันอธิบายยากนะครับ การแต่งงานที่สมบูรณ์ได้นั้น ก่อนอื่น คู่สมรส ต้องมาแจ้งความจำนงกับพ่อเจ้าวัดก่อน แล้วก็ทำการอบรมคู่แต่งงาน ถ้าผมจำไม่ผิด ประมาณ 3 สัปดาห์ก่อนการแต่งงาน คุณพ่อต้องประกาศให้ทราบทั่วกัน ว่าใครไม่เห็นด้วยที่คู่นี้ควรแต่งงานกัน หรือรู้สาเหตุที่ทำให้ทั้ง 2 แต่งกันไม่ได้ให้มาแจ้งพ่อเจ้าวัดโดยตรง(ไม่ใช่จู่ๆโผล่มาตอนทำพิธีเหมือนในหนังนะครับ) ต้องให้คู่บ่าวสาว มาทำพิธีในวัด และทำการโปรดศีลสมรสแก่กันและกัน ต่อหน้า พระสงฆ์ หรือ สังฆานุกร แล้วก็ พยาน จึงจะเป็นการแต่งงานที่สมบูรณ์ ส่วนการแต่งงาน ที่ไม่ได้มากระทำในวัด ไม่ได้มารับศีลสมรส ไม่ถือว่าเป็นการแต่งงานที่สมบูรณ์ครับ อันนี้หมายถึงคาทอลิกนะครับ คนต่างศาสนาไม่เหมือนกันNano Lamp เขียน: การแต่งงาน กับศีลสมรส ต่างกันอย่างไรครับผม
ปล.หนังสือเล่มนี้ที่คุณ Asleep but live นำมาเสนอ เนื้อหาดีมากครับ ขอแนะนำ สำหรับผู้ที่ต้องการหนังสือคำสอน และผู้ที่เริ่มเรียนคำสอน
Ich bin Anti- Kirche der Hoffnung aber nicht Anti- anderen Protestanten.
Nano Lamp เขียน: การแต่งงาน กับศีลสมรส ต่างกันอย่างไรครับผม
ศีล ในภาษาคาทอลิค คือ พิธีอันศักดิ์สิทธิ์
การสมรส ก็คือ การที่ ชายและหญิง จะหลอมรวมเป็นเนื้อเดียวกัน (จากปฐมกาล)
ดังนั้น ศีลสมรส จะกระทำครั้งเดียวครับ
ในกรณีที่เป็นคาทอลิค ทั้งคู่ จะเป็น แผ่นประกาศ เข้าพระศาสนจักรวาติกันเลย
หรือหากแต่งกับคนต่างศาสนา ก็จะเป็น แค่ศีลกล่าวครับ
อย่างไรก้ตาม หากหย่าโดย ไม่มีเหตุผลที่พระศาสนจักรเห็นสมควร
แม้จะแต่งงานใหม่ ก็ไม่อาจทำศีลสมรสใหม่ได้
-
- ~@
- โพสต์: 12724
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 2:28 pm
- ที่อยู่: Thailand
สงสัยครับ :huh:
เราไม่ขัดขวางยังไงอ่ะครับ ในเมื่อพระองค์ไม่ทรงอนุญาตให้เราคุมกำเนิดไม่ว่าวิธีใด ๆ ไม่ใช่หรอครับ
อย่างนี้ไม่เท่ากับว่า เราปิดกั้นพระหรรษทานการเกิดของเด็กหรอครับ
จากข้อความที่ว่า "ถ้าเราจำกัดจำนวนบุตรด้วยการคุมกำเนิดแบบอื่นๆ ที่ไม่ใช่วิธีธรรมชาติ เราก็ขัดขวางจุดประสงค์ของการแต่งงาน"Asleep but Live เขียน: การให้กำเนิดบุตร หมายความว่า เราต้องยินดีรับบุตรที่จะเกิดขึ้น เราต้องยอมรับบุตรทุกคนที่จะเกิดมา เพราะพระเจ้าทรงประทานให้เราและนำพวกเขาให้มีความเชื่อตามแบบของคริสตชน ถ้าเราจำกัดจำนวนบุตรด้วยการคุมกำเนิดแบบอื่นๆ ที่ไม่ใช่วิธีธรรมชาติ เราก็ขัดขวางจุดประสงค์ของการแต่งงาน ตามที่พระเจ้าตรัสว่า "จงมีลูกดกทวีมากขึ้น จนเต็มแผ่นดิน จงมีอำนาจเหนือแผ่นดิน" ( ปฐมกาล 1:28 ) ลูกเป็นของขวัญจากพระเจ้า ที่จะให้ความยินดีและความสุขแก่เรา ตามที่พระคัมภีร์กล่าวว่า "บุตรทั้งหลายเป็นมรดกจากพระเจ้า ผลิตผลของครรภ์เป็นรางวัล" ( สดุดี 127:3 )
เราไม่ขัดขวางยังไงอ่ะครับ ในเมื่อพระองค์ไม่ทรงอนุญาตให้เราคุมกำเนิดไม่ว่าวิธีใด ๆ ไม่ใช่หรอครับ
อย่างนี้ไม่เท่ากับว่า เราปิดกั้นพระหรรษทานการเกิดของเด็กหรอครับ
ข้อนี้จำเป็นด้วยหรอครับ เพราะผมได้ยินจากพี่สาวผมว่า ขึ้นกับความสมัครใจของคู่แต่งงานนะครับAsleep but Live เขียน: 2. คู่แต่งงานที่ไม่ใช่คาทอลิกจะต้องสัญญาว่าจะให้บุตรที่จะเกิดขึ้นได้รับศีลล้างบาปและอบรมเลี้ยงดูตามความเชื่อของคาทอลิก
ให้เกิดลูกหลาน คือบทบาทสำคัญของเพศสัมพันธ์
พระเจ้าเท่านั้นที่จะให้กำเนิดชีวิตได้ แต่พระเจ้าก็มอบอำนาจนี้แก่ชายและหญิงโดยทางเพศสัมพันธ์ซึ่งมีบทบาทชัดเจนในชีวิตสมรสดังนี้ -
+ เพศเป็นพระพรจากพระเจ้า จึงเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์
+ เพศสัมพันธ์เป็นการแสดงความรักและให้ความสุขแก่คู่สมรสเท่านั้น
+ เพศสัมพันธ์เสริมสร้างชีวิตครอบครัว และให้กำเนิดบุตร
+ กิจกรรมทางเพศที่นอกเหนือจากนี้ ถือว่าผิดเป้าหมายของธรรมชาติและชีวิตสมรส-----------------------------------------------------------------
ลูกที่จะเกิดมา ต้องคุยกันว่าจะให้นับถือศาสนาอะไร? ...ทำไมถึงน่าจะเป็นคาทอลิกหรือ...หาข้อดีข้อเสีย
ข้อแนะนำคือ ถ้าเป็นศาสนาเดียวกันได้ เด็กจะไม่สับสนและเด็กจะได้รับการอบรม ดูแลจากศาสนา อย่างไร ก็ตามต้องเคารพความคิดและความรู้สึกซึ่งกันและกัน
คัดลอกจาก แต่งงานแบบคริสต์
บาทหลวงศิริชัย เล้ากอบกุล
พระเจ้าเท่านั้นที่จะให้กำเนิดชีวิตได้ แต่พระเจ้าก็มอบอำนาจนี้แก่ชายและหญิงโดยทางเพศสัมพันธ์ซึ่งมีบทบาทชัดเจนในชีวิตสมรสดังนี้ -
+ เพศเป็นพระพรจากพระเจ้า จึงเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์
+ เพศสัมพันธ์เป็นการแสดงความรักและให้ความสุขแก่คู่สมรสเท่านั้น
+ เพศสัมพันธ์เสริมสร้างชีวิตครอบครัว และให้กำเนิดบุตร
+ กิจกรรมทางเพศที่นอกเหนือจากนี้ ถือว่าผิดเป้าหมายของธรรมชาติและชีวิตสมรส-----------------------------------------------------------------
ลูกที่จะเกิดมา ต้องคุยกันว่าจะให้นับถือศาสนาอะไร? ...ทำไมถึงน่าจะเป็นคาทอลิกหรือ...หาข้อดีข้อเสีย
ข้อแนะนำคือ ถ้าเป็นศาสนาเดียวกันได้ เด็กจะไม่สับสนและเด็กจะได้รับการอบรม ดูแลจากศาสนา อย่างไร ก็ตามต้องเคารพความคิดและความรู้สึกซึ่งกันและกัน
คัดลอกจาก แต่งงานแบบคริสต์
บาทหลวงศิริชัย เล้ากอบกุล
งง กันไปใหญ่ ก็เค้าบอกว่ามันขัดขวางอยู่แล้วมิใช่หร๋อ :huh:Batholomew เขียน: สงสัยครับ :huh:
จากข้อความที่ว่า "ถ้าเราจำกัดจำนวนบุตรด้วยการคุมกำเนิดแบบอื่นๆ ที่ไม่ใช่วิธีธรรมชาติ เราก็ขัดขวางจุดประสงค์ของการแต่งงาน"Asleep but Live เขียน: การให้กำเนิดบุตร หมายความว่า เราต้องยินดีรับบุตรที่จะเกิดขึ้น เราต้องยอมรับบุตรทุกคนที่จะเกิดมา เพราะพระเจ้าทรงประทานให้เราและนำพวกเขาให้มีความเชื่อตามแบบของคริสตชน ถ้าเราจำกัดจำนวนบุตรด้วยการคุมกำเนิดแบบอื่นๆ ที่ไม่ใช่วิธีธรรมชาติ เราก็ขัดขวางจุดประสงค์ของการแต่งงาน ตามที่พระเจ้าตรัสว่า "จงมีลูกดกทวีมากขึ้น จนเต็มแผ่นดิน จงมีอำนาจเหนือแผ่นดิน" ( ปฐมกาล 1:28 ) ลูกเป็นของขวัญจากพระเจ้า ที่จะให้ความยินดีและความสุขแก่เรา ตามที่พระคัมภีร์กล่าวว่า "บุตรทั้งหลายเป็นมรดกจากพระเจ้า ผลิตผลของครรภ์เป็นรางวัล" ( สดุดี 127:3 )
เราไม่ขัดขวางยังไงอ่ะครับ ในเมื่อพระองค์ไม่ทรงอนุญาตให้เราคุมกำเนิดไม่ว่าวิธีใด ๆ ไม่ใช่หรอครับ
อย่างนี้ไม่เท่ากับว่า เราปิดกั้นพระหรรษทานการเกิดของเด็กหรอครับ
-
- ~@
- โพสต์: 12724
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 2:28 pm
- ที่อยู่: Thailand
คำว่า "ที่ไม่ใช่วิธีธรรมชาติ" อ่ะครับmind เขียน:งง กันไปใหญ่ ก็เค้าบอกว่ามันขัดขวางอยู่แล้วมิใช่หร๋อ :huh:Batholomew เขียน: สงสัยครับ :huh:
จากข้อความที่ว่า "ถ้าเราจำกัดจำนวนบุตรด้วยการคุมกำเนิดแบบอื่นๆ ที่ไม่ใช่วิธีธรรมชาติ เราก็ขัดขวางจุดประสงค์ของการแต่งงาน"Asleep but Live เขียน: การให้กำเนิดบุตร หมายความว่า เราต้องยินดีรับบุตรที่จะเกิดขึ้น เราต้องยอมรับบุตรทุกคนที่จะเกิดมา เพราะพระเจ้าทรงประทานให้เราและนำพวกเขาให้มีความเชื่อตามแบบของคริสตชน ถ้าเราจำกัดจำนวนบุตรด้วยการคุมกำเนิดแบบอื่นๆ ที่ไม่ใช่วิธีธรรมชาติ เราก็ขัดขวางจุดประสงค์ของการแต่งงาน ตามที่พระเจ้าตรัสว่า "จงมีลูกดกทวีมากขึ้น จนเต็มแผ่นดิน จงมีอำนาจเหนือแผ่นดิน" ( ปฐมกาล 1:28 ) ลูกเป็นของขวัญจากพระเจ้า ที่จะให้ความยินดีและความสุขแก่เรา ตามที่พระคัมภีร์กล่าวว่า "บุตรทั้งหลายเป็นมรดกจากพระเจ้า ผลิตผลของครรภ์เป็นรางวัล" ( สดุดี 127:3 )
เราไม่ขัดขวางยังไงอ่ะครับ ในเมื่อพระองค์ไม่ทรงอนุญาตให้เราคุมกำเนิดไม่ว่าวิธีใด ๆ ไม่ใช่หรอครับ
อย่างนี้ไม่เท่ากับว่า เราปิดกั้นพระหรรษทานการเกิดของเด็กหรอครับ
อูย เรื่องคุมกำเนิดนี่เอาไว้หลังไมค์ได้ไหม แบบว่ามันมีเรื่องหวาดเสียวๆหลายอย่าง แบบว่าบาปอาจจะชวนให้ใจเตลิดได้ถ้ายิ่งลงลึกลงไป เอาไว้แบบว่าเมื่อถึงเวลาค่อยมาว่ากันดีกว่าหนอ ตอนนี้ใครที่เตรียมจะแต่งงานก็ขอให้รักษาเนื้อรักษาตัวให้ดีแล้วกัน ส่วนท่านที่ไม่คิดจะแต่งงานก็ข้ามๆไปเถอะ อย่าลงลึกเลย นะนะ ของบางอย่างมันมีช่วงเวลาของมันครับ
แก้ไขล่าสุดโดย Anonymous เมื่อ จันทร์ ม.ค. 08, 2007 2:00 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
-
- ~@
- โพสต์: 7624
- ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ มี.ค. 23, 2005 9:49 pm
- ที่อยู่: Pattaya Chonburi
สงสัยอะไรถามคุณพ่อเลยดีกว่านะคะ จะได้ชัดแจ้งกระจ่างกว่ามาเดากันเอง รู้สึกหนุ่มๆ นิวมานาที่มีโครงการวิวาห์เตรียมเก็บข้อมูลกันเป็นทิวแถวเลย ใครเป็นใครเดากันเองเด้อพี่น้อง
-
- Arch Guardian
- โพสต์: 297
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ต.ค. 09, 2006 8:19 pm
- ที่อยู่: ดินแดนอันไกลโพ้น
สงสัยครับ :huh: จากพี่ Batholomew
ขอตอบนะครับ พอดีมีในค่ายคำสอนบูรณาการ ของเยาวชน เขต 2 โดยให้การอบรมเรื่องศิลสมรส โดย คพ.วิทยา ลัคลอย ครับ
Q: จากข้อความที่ว่า "ถ้าเราจำกัดจำนวนบุตรด้วยการคุมกำเนิดแบบอื่นๆ ที่ไม่ใช่วิธีธรรมชาติ เราก็ขัดขวางจุดประสงค์ของการแต่งงาน"
เราไม่ขัดขวางยังไงอ่ะครับ ในเมื่อพระองค์ไม่ทรงอนุญาตให้เราคุมกำเนิดไม่ว่าวิธีใด ๆ ไม่ใช่หรอครับ
อย่างนี้ไม่เท่ากับว่า เราปิดกั้นพระหรรษทานการเกิดของเด็กหรอครับ
A: การคุมกำเนิดโดยวิธีทางธรรมชาติไม่บาปครับไม่ถือเป็นการขัดขวางใดๆ ครับ (การหลั่งภายนอกไม่ถือเป็นวิธีทางธรรมชาตินะครับ) วิธีการทางธรรมชาติมีเพียงการนับรอบของประจำเดือนฝ่ายหญิงเท่านั้นครับ
2. คู่แต่งงานที่ไม่ใช่คาทอลิกจะต้องสัญญาว่าจะให้บุตรที่จะเกิดขึ้นได้รับศีลล้างบาปและอบรมเลี้ยงดูตามความเชื่อของคาทอลิก
Q: ข้อนี้จำเป็นด้วยหรอครับ เพราะผมได้ยินจากพี่สาวผมว่า ขึ้นกับความสมัครใจของคู่แต่งงานนะครับ
ตามกฎษฏีกา ( อ่านว่า กิด-สะ-ดี-กา นะครับไม่มั่นใจว่าพิ่มคำนี้ถูกมั้ยอ่ะครับ) คาทอลิกได้บัญญิติ เอาไว้อย่างนี้ครับผม ถ้เช่นนั้นให้ถือว่าการแต่งงานนั้นเป็นโมฆะ ( อ่านว่า โม - คะ ) ครับผม
ขอตอบนะครับ พอดีมีในค่ายคำสอนบูรณาการ ของเยาวชน เขต 2 โดยให้การอบรมเรื่องศิลสมรส โดย คพ.วิทยา ลัคลอย ครับ
Q: จากข้อความที่ว่า "ถ้าเราจำกัดจำนวนบุตรด้วยการคุมกำเนิดแบบอื่นๆ ที่ไม่ใช่วิธีธรรมชาติ เราก็ขัดขวางจุดประสงค์ของการแต่งงาน"
เราไม่ขัดขวางยังไงอ่ะครับ ในเมื่อพระองค์ไม่ทรงอนุญาตให้เราคุมกำเนิดไม่ว่าวิธีใด ๆ ไม่ใช่หรอครับ
อย่างนี้ไม่เท่ากับว่า เราปิดกั้นพระหรรษทานการเกิดของเด็กหรอครับ
A: การคุมกำเนิดโดยวิธีทางธรรมชาติไม่บาปครับไม่ถือเป็นการขัดขวางใดๆ ครับ (การหลั่งภายนอกไม่ถือเป็นวิธีทางธรรมชาตินะครับ) วิธีการทางธรรมชาติมีเพียงการนับรอบของประจำเดือนฝ่ายหญิงเท่านั้นครับ
2. คู่แต่งงานที่ไม่ใช่คาทอลิกจะต้องสัญญาว่าจะให้บุตรที่จะเกิดขึ้นได้รับศีลล้างบาปและอบรมเลี้ยงดูตามความเชื่อของคาทอลิก
Q: ข้อนี้จำเป็นด้วยหรอครับ เพราะผมได้ยินจากพี่สาวผมว่า ขึ้นกับความสมัครใจของคู่แต่งงานนะครับ
ตามกฎษฏีกา ( อ่านว่า กิด-สะ-ดี-กา นะครับไม่มั่นใจว่าพิ่มคำนี้ถูกมั้ยอ่ะครับ) คาทอลิกได้บัญญิติ เอาไว้อย่างนี้ครับผม ถ้เช่นนั้นให้ถือว่าการแต่งงานนั้นเป็นโมฆะ ( อ่านว่า โม - คะ ) ครับผม
-
- ~@
- โพสต์: 12724
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 2:28 pm
- ที่อยู่: Thailand
ขอบใจน้องแมทหลาย ๆ
คำ : กฤษฎีกาMatthew เขียน: ตามกฎษฏีกา ( อ่านว่า กิด-สะ-ดี-กา นะครับไม่มั่นใจว่าพิ่มคำนี้ถูกมั้ยอ่ะครับ) คาทอลิกได้บัญญิติ เอาไว้อย่างนี้ครับผม ถ้เช่นนั้นให้ถือว่าการแต่งงานนั้นเป็นโมฆะ ( อ่านว่า โม - คะ ) ครับผม
เสียง : กฺริด-สะ-ดี-กา
นิยาม : พระราชโองการที่มีลักษณะเป็นกฎหมาย
(อิงพจนานุกรม ราชบัณฑิตยสถาน)
ขอบคุณสำหรับข้อมูลครับ
-
- โพสต์: 1159
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ มิ.ย. 13, 2005 2:03 pm
เจ๊ หมายถึงคนที่เงียบไปน๊านนนนานนน โผล่มาที ก็กระทู้ศีลสมรสเลยแม่นบ่ เอ หรือหมายถึงเจ้ามิว:+: seraphim :+: เขียน: สงสัยอะไรถามคุณพ่อเลยดีกว่านะคะ จะได้ชัดแจ้งกระจ่างกว่ามาเดากันเอง รู้สึกหนุ่มๆ นิวมานาที่มีโครงการวิวาห์เตรียมเก็บข้อมูลกันเป็นทิวแถวเลย ใครเป็นใครเดากันเองเด้อพี่น้อง
เออเนอะ สงสัยมิวมั้งจอมนางกระบี่เดี่ยว เขียน:เจ๊ หมายถึงคนที่เงียบไปน๊านนนนานนน โผล่มาที ก็กระทู้ศีลสมรสเลยแม่นบ่ เอ หรือหมายถึงเจ้ามิว:+: seraphim :+: เขียน: สงสัยอะไรถามคุณพ่อเลยดีกว่านะคะ จะได้ชัดแจ้งกระจ่างกว่ามาเดากันเอง รู้สึกหนุ่มๆ นิวมานาที่มีโครงการวิวาห์เตรียมเก็บข้อมูลกันเป็นทิวแถวเลย ใครเป็นใครเดากันเองเด้อพี่น้อง
-
- ~@
- โพสต์: 7624
- ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ มี.ค. 23, 2005 9:49 pm
- ที่อยู่: Pattaya Chonburi
จอมนางกระบี่เดี่ยว เขียน:เจ๊ หมายถึงคนที่เงียบไปน๊านนนนานนน โผล่มาที ก็กระทู้ศีลสมรสเลยแม่นบ่ เอ หรือหมายถึงเจ้ามิว:+: seraphim :+: เขียน: สงสัยอะไรถามคุณพ่อเลยดีกว่านะคะ จะได้ชัดแจ้งกระจ่างกว่ามาเดากันเอง รู้สึกหนุ่มๆ นิวมานาที่มีโครงการวิวาห์เตรียมเก็บข้อมูลกันเป็นทิวแถวเลย ใครเป็นใครเดากันเองเด้อพี่น้อง
:afro: รู้สึกว่า อักษรย่อแบบในวงการนะ ตระกูล ม.ทั้งหลาย อ้อ...มีค.อีกคนนึงด้วยอ่ะจ๊ะ
-
- ~@
- โพสต์: 12724
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 2:28 pm
- ที่อยู่: Thailand
ไหงเป็นผมได้หล่ะเนี่ย
ผมไม่แซงหน้าพี่ป้าน้าอาหรอกครับ รอให้รับศีลสมรสกันไปก่อนเลย เดี๋ยวผมตามไป
ผมไม่แซงหน้าพี่ป้าน้าอาหรอกครับ รอให้รับศีลสมรสกันไปก่อนเลย เดี๋ยวผมตามไป
อ่าวเห็นว่าตระกูล ซ. ล่วงหน้าไปก่อนเพื่อนเลยไม่ช่ายหร๋อ:+: seraphim :+: เขียน:จอมนางกระบี่เดี่ยว เขียน:เจ๊ หมายถึงคนที่เงียบไปน๊านนนนานนน โผล่มาที ก็กระทู้ศีลสมรสเลยแม่นบ่ เอ หรือหมายถึงเจ้ามิว:+: seraphim :+: เขียน: สงสัยอะไรถามคุณพ่อเลยดีกว่านะคะ จะได้ชัดแจ้งกระจ่างกว่ามาเดากันเอง รู้สึกหนุ่มๆ นิวมานาที่มีโครงการวิวาห์เตรียมเก็บข้อมูลกันเป็นทิวแถวเลย ใครเป็นใครเดากันเองเด้อพี่น้อง
:afro: รู้สึกว่า อักษรย่อแบบในวงการนะ ตระกูล ม.ทั้งหลาย อ้อ...มีค.อีกคนนึงด้วยอ่ะจ๊ะ
-
- ~@
- โพสต์: 7624
- ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ มี.ค. 23, 2005 9:49 pm
- ที่อยู่: Pattaya Chonburi
เข้ามาเก็บข้อมูลพวกร้อนตัวฮับบบบบบบ
-
- ~@
- โพสต์: 7624
- ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ มี.ค. 23, 2005 9:49 pm
- ที่อยู่: Pattaya Chonburi
mind เขียน: กินน้ำแข็งเย่อะๆดิ จะได้ตัวเย็น ไงเจ๊
เข้ามาเก็บข้อมูลพวกร้อนตัวฮับบบบบ ใครร้อนตัวก็กินเยอะๆ หน่อย ว่าแต่ว่าส่งหิมะไปที่ดีแตก ได้รับหรือยังเคอะ
-
- Arch Guardian
- โพสต์: 297
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ต.ค. 09, 2006 8:19 pm
- ที่อยู่: ดินแดนอันไกลโพ้น
เพิ่มเติมเล็กน้อยนะครับ
คาทอลิกทุกคนที่ไม่มีข้อขัดขวางสามารถเข้ารับศีลสมรสได้ ข้อขัดขวางต่างๆ ทำให้การแต่งงานไม่เป็นผล ซึ่งอยู่ในกรณีต่างๆเหล่านี้
1. จากพ่อแม่เดียวกันหรือลูกเลี้ยง หรือ ระหว่างพี่น้องชั้นที่หนึ่ง รวมถึงลูกสาวหรือลูกชายของพ่อแม่ทูลหัวเราด้วยนะครับ ญาติกันกับพ่อแม่ทูลหัวเราก็ด้วยครับ เพราะจะถือเป็นพี่น้องกับเราแบบพี่น้องแท้ๆ เลยครับ จัดอยู่ในสายขนาน ไม่สามรถแต่งงานกันได้ครับ
คาทอลิกทุกคนที่ไม่มีข้อขัดขวางสามารถเข้ารับศีลสมรสได้ ข้อขัดขวางต่างๆ ทำให้การแต่งงานไม่เป็นผล ซึ่งอยู่ในกรณีต่างๆเหล่านี้
1. จากพ่อแม่เดียวกันหรือลูกเลี้ยง หรือ ระหว่างพี่น้องชั้นที่หนึ่ง รวมถึงลูกสาวหรือลูกชายของพ่อแม่ทูลหัวเราด้วยนะครับ ญาติกันกับพ่อแม่ทูลหัวเราก็ด้วยครับ เพราะจะถือเป็นพี่น้องกับเราแบบพี่น้องแท้ๆ เลยครับ จัดอยู่ในสายขนาน ไม่สามรถแต่งงานกันได้ครับ
เฮ่อะๆๆๆ เก็บไว้กินเองที่พัทยาใต้เต๊อะเจ๊ เข้ามาร้อนก่อนเพื่อนเลยไม่ใช่หร๋อ ทางดีแตกเค้า เมคอิทอี้ซี้ สบายตัวอยู่เลี้ยว::011:::+: seraphim :+: เขียน:mind เขียน: กินน้ำแข็งเย่อะๆดิ จะได้ตัวเย็น ไงเจ๊
เข้ามาเก็บข้อมูลพวกร้อนตัวฮับบบบบ ใครร้อนตัวก็กินเยอะๆ หน่อย ว่าแต่ว่าส่งหิมะไปที่ดีแตก ได้รับหรือยังเคอะ
เฮ้ย ขนาดนั้นเลยหรอ เนี้ย จิงป่าว :shocked:Matthew เขียน: เพิ่มเติมเล็กน้อยนะครับ
คาทอลิกทุกคนที่ไม่มีข้อขัดขวางสามารถเข้ารับศีลสมรสได้ ข้อขัดขวางต่างๆ ทำให้การแต่งงานไม่เป็นผล ซึ่งอยู่ในกรณีต่างๆเหล่านี้
1. จากพ่อแม่เดียวกันหรือลูกเลี้ยง หรือ ระหว่างพี่น้องชั้นที่หนึ่ง รวมถึงลูกสาวหรือลูกชายของพ่อแม่ทูลหัวเราด้วยนะครับ ญาติกันกับพ่อแม่ทูลหัวเราก็ด้วยครับ เพราะจะถือเป็นพี่น้องกับเราแบบพี่น้องแท้ๆ เลยครับ จัดอยู่ในสายขนาน ไม่สามรถแต่งงานกันได้ครับ