[1] บทความนี้เขียนขึ้นเพื่อชี้ให้เห็นถึงภาพแห่งความเป็นมนุษย์ของพระเยซูเจ้า
[2] บทความนี้เป็นการชี้ในอีกมุมมองหนึ่ง แต่ยังอยู่บนพื้นฐานความถูกต้อง รอบคอบอย่างที่สุด
[3] ทุกข้อความมุ่งเน้น ให้ผู้อ่าน
พระเยซูเจ้า : สัญลักษณ์แห่งมนุษย์
-
- โพสต์: 973
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ธ.ค. 04, 2006 9:33 pm
- ที่อยู่: Virtusian's House of Prayer,Thailand
- ติดต่อ:
-
- โพสต์: 973
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ธ.ค. 04, 2006 9:33 pm
- ที่อยู่: Virtusian's House of Prayer,Thailand
- ติดต่อ:
[พระคือต้นแบบแห่งมหาทรมานเกินกว่ามนุษย์ผู้ใดจะทานไหว]
.............นักบุญบริดจิทแห่งสวีเดนเคยกล่าวไว้
.............นักบุญบริดจิทแห่งสวีเดนเคยกล่าวไว้
ขอบคุณมากๆนะคะที่ดึงมาอีก ส่วนตัวแล้วชอบ humanity ของพระเยซู มากกว่า divinity ของพระองค์ซะอีก 
เป็นประโยชน์นะคะ ถึงจะอ่านแล้วเข้าใจแค่ 10% ก็ถือว่าคุ้มนะคะ
อย่าท้อ ... ขอให้เอามาลงต่อไปนะคะ

เคยได้ยินมั้ยคะว่า "Spirituality is the Theology in practice." คือ การอธิบายอะไรเป็นวิชาการอาจมองดูน่าเบื่อ ไม่ได้อรรถรส แต่จริงๆแล้วไม่ใช่เลย คือ มันเป็นฐานของกันและกัน(หมายเหตุ.จริงๆแล้วบอร์ดนี้มีงานเขียนที่เกี่ยวกับการเจริญรอยตามองค์แห่งความรักดีดีหลายบทความ ที่ดีกว่าที่ผมเขียนยิ่งมีมากมาย ขอให้อ่านตามใจชอบ)
เป็นประโยชน์นะคะ ถึงจะอ่านแล้วเข้าใจแค่ 10% ก็ถือว่าคุ้มนะคะ

อย่าท้อ ... ขอให้เอามาลงต่อไปนะคะ

-
- โพสต์: 973
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ธ.ค. 04, 2006 9:33 pm
- ที่อยู่: Virtusian's House of Prayer,Thailand
- ติดต่อ:
ขอบคุณครับBuddy เขียน: ขอบคุณมากๆนะคะที่ดึงมาอีก ส่วนตัวแล้วชอบ humanity ของพระเยซู มากกว่า divinity ของพระองค์ซะอีก ::001::
เคยได้ยินมั้ยคะว่า "Spirituality is the Theology in practice." คือ การอธิบายอะไรเป็นวิชาการอาจมองดูน่าเบื่อ ไม่ได้อรรถรส แต่จริงๆแล้วไม่ใช่เลย คือ มันเป็นฐานของกันและกัน(หมายเหตุ.จริงๆแล้วบอร์ดนี้มีงานเขียนที่เกี่ยวกับการเจริญรอยตามองค์แห่งความรักดีดีหลายบทความ ที่ดีกว่าที่ผมเขียนยิ่งมีมากมาย ขอให้อ่านตามใจชอบ)
เป็นประโยชน์นะคะ ถึงจะอ่านแล้วเข้าใจแค่ 10% ก็ถือว่าคุ้มนะคะ ::001::
อย่าท้อ ... ขอให้เอามาลงต่อไปนะคะ ::001::
-
- โพสต์: 626
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ มี.ค. 26, 2007 8:07 pm
- ที่อยู่: bkk
Thank you




อย่าง article นี้นะคะMan of Macedonia เขียน:ขอบคุณครับBuddy เขียน: ขอบคุณมากๆนะคะที่ดึงมาอีก ส่วนตัวแล้วชอบ humanity ของพระเยซู มากกว่า divinity ของพระองค์ซะอีก ::001::
เคยได้ยินมั้ยคะว่า "Spirituality is the Theology in practice." คือ การอธิบายอะไรเป็นวิชาการอาจมองดูน่าเบื่อ ไม่ได้อรรถรส แต่จริงๆแล้วไม่ใช่เลย คือ มันเป็นฐานของกันและกัน(หมายเหตุ.จริงๆแล้วบอร์ดนี้มีงานเขียนที่เกี่ยวกับการเจริญรอยตามองค์แห่งความรักดีดีหลายบทความ ที่ดีกว่าที่ผมเขียนยิ่งมีมากมาย ขอให้อ่านตามใจชอบ)
เป็นประโยชน์นะคะ ถึงจะอ่านแล้วเข้าใจแค่ 10% ก็ถือว่าคุ้มนะคะ ::001::
อย่าท้อ ... ขอให้เอามาลงต่อไปนะคะ ::001::
ความเป็นมนุษย์ของพระเยซูเรามักจะได้ยินประเด็นนี้ ไม่ค่อยได้ยินเรื่องความลำบาก คือพอพูดเรื่องความลำบาก ก็จะไปเน้นที่ ความเป็นพระเจ้าและความรักของพระองค์ที่มีต่อเรา แบกกางเขนเพื่อเรา แต่เราลืมว่า ความลำบากคือความเป็นมนุษย์ จะเป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์ต้องลำบาก มีความลำบากในชีวิต หนีไม่ได้ พระองค์เป็นพระเจ้าแท้และมนุษย์แท้ เป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์ ดังนั้น ความลำบากที่เกิดกับพระองค์จึงไม่ใช่ความไม่สมบูรณ์ แต่คือ ความสมบูรณ์ สมบูรณ์ในหน้าที่ของพระองค์ สมบูรณ์ในความเป็นมนุษย์จากหลายแห่งในพระคัมภีร์ทำให้เราเห็นว่าพระองค์ทรงมีความเป็นมนุษย์ อาทิ ทรงมีอารมณ์โศกเศร้า(Matthew 26:37) ปลง (Matthew 23:37-39) เมตตา (Matthew 19:13-15) หวั่นไหว (Matthew 28:46) พิโรธ (Matthew 21:12-13)
อันนี้ล่ะค่ะ ที่บอกว่า ชีวิตจิตคือเทววิทยาภาคปฏิบัติ

-
- โพสต์: 973
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ธ.ค. 04, 2006 9:33 pm
- ที่อยู่: Virtusian's House of Prayer,Thailand
- ติดต่อ:
พูดถูกครับ""Spirituality is the Theology in practice."Buddy เขียน:อย่าง article นี้นะคะMan of Macedonia เขียน:ขอบคุณครับBuddy เขียน: ขอบคุณมากๆนะคะที่ดึงมาอีก ส่วนตัวแล้วชอบ humanity ของพระเยซู มากกว่า divinity ของพระองค์ซะอีก ::001::
เคยได้ยินมั้ยคะว่า "Spirituality is the Theology in practice." คือ การอธิบายอะไรเป็นวิชาการอาจมองดูน่าเบื่อ ไม่ได้อรรถรส แต่จริงๆแล้วไม่ใช่เลย คือ มันเป็นฐานของกันและกัน
เป็นประโยชน์นะคะ ถึงจะอ่านแล้วเข้าใจแค่ 10% ก็ถือว่าคุ้มนะคะ ::001::
อย่าท้อ ... ขอให้เอามาลงต่อไปนะคะ ::001::
ความเป็นมนุษย์ของพระเยซูเรามักจะได้ยินประเด็นนี้ ไม่ค่อยได้ยินเรื่องความลำบาก คือพอพูดเรื่องความลำบาก ก็จะไปเน้นที่ ความเป็นพระเจ้าและความรักของพระองค์ที่มีต่อเรา แบกกางเขนเพื่อเรา แต่เราลืมว่า ความลำบากคือความเป็นมนุษย์ จะเป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์ต้องลำบาก มีความลำบากในชีวิต หนีไม่ได้ พระองค์เป็นพระเจ้าแท้และมนุษย์แท้ เป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์ ดังนั้น ความลำบากที่เกิดกับพระองค์จึงไม่ใช่ความไม่สมบูรณ์ แต่คือ ความสมบูรณ์ สมบูรณ์ในหน้าที่ของพระองค์ สมบูรณ์ในความเป็นมนุษย์จากหลายแห่งในพระคัมภีร์ทำให้เราเห็นว่าพระองค์ทรงมีความเป็นมนุษย์ อาทิ ทรงมีอารมณ์โศกเศร้า(Matthew 26:37) ปลง (Matthew 23:37-39) เมตตา (Matthew 19:13-15) หวั่นไหว (Matthew 28:46) พิโรธ (Matthew 21:12-13)
อันนี้ล่ะค่ะ ที่บอกว่า ชีวิตจิตคือเทววิทยาภาคปฏิบัติ ::001::
นักเทววิทยาทั้งหลาย ตั้งแต่อดีต จนปัจจุบัน ก็พยายามสื่อสารออกไปในหลายๆแนว
ผมคิดว่า เทวศาสตร์อันว่าด้วย"พระเยซูเป็นพระเจ้า" คงได้ยินกันบ่อยครั้งแล้ว
แง่มุม ของความเป็นมนุษย์สามัญ(ที่คนนอกศาสนาจะเข้าถึงอย่างเข้าใจได้มากกว่า)
แน่จะเป็นสิ่งที่ดี
และความเข้าใจเกี่ยวกับพระองค์รอบด้าน(แม้แต่ ข่าวซุบซิบของพระองค์ เช่นตำนาน เกรล)
ก็ควรรู้ไว้(อ่านให้สนุก)
ขอยืมคำคมมากๆที่ ดร.สุเมธ ท่านพูดไว้เกี่ยวในหลวง แต่ผมว่าน่าจะประยุกต์ใช้ได้
"ประชาชนมองพระองค์ แต่ไม่ได้เห็นพระองค์
ประชาชนได้ยินพระองค์ แต่ไม่ได้ฟังพระองค์"
น่าคิด?ครับ
เข้าใจว่า เป็นมนุษย์ แต่ไม่เข้าใจความเป็นมนุษย์Man of Macedonia เขียน: พูดถูกครับ""Spirituality is the Theology in practice."
นักเทววิทยาทั้งหลาย ตั้งแต่อดีต จนปัจจุบัน ก็พยายามสื่อสารออกไปในหลายๆแนว
ผมคิดว่า เทวศาสตร์อันว่าด้วย"พระเยซูเป็นพระเจ้า" คงได้ยินกันบ่อยครั้งแล้ว
แง่มุม ของความเป็นมนุษย์สามัญ(ที่คนนอกศาสนาจะเข้าถึงอย่างเข้าใจได้มากกว่า)
แน่จะเป็นสิ่งที่ดี


ดร สุเมธเอาพระคัมภีร์มาพูดปะเนี่ยขอยืมคำคมมากๆที่ ดร.สุเมธ ท่านพูดไว้เกี่ยวในหลวง แต่ผมว่าน่าจะประยุกต์ใช้ได้
"ประชาชนมองพระองค์ แต่ไม่ได้เห็นพระองค์
ประชาชนได้ยินพระองค์ แต่ไม่ได้ฟังพระองค์"
น่าคิด?ครับ

(Mt 13:13-14) This is why I speak to them in parables, because 'they look but do not see and hear but do not listen or understand.' Isaiah's prophecy is fulfilled in them, which says: 'You shall indeed hear but not understand you shall indeed look but never see.
อ่านแล้วก็สนุกดีค่ะ ... ว่าแต่ อ่านของพี่มากๆแล้วเนี่ย ยังคุยกับคนรู้เรื่องอยู่ใช่มั้ยคะ

-
- โพสต์: 973
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ธ.ค. 04, 2006 9:33 pm
- ที่อยู่: Virtusian's House of Prayer,Thailand
- ติดต่อ:
ยังคุยรู้เรื่องครับ(คิดว่าอย่างนั้นนะ)Buddy เขียน:เข้าใจว่า เป็นมนุษย์ แต่ไม่เข้าใจความเป็นมนุษย์ ::001:: เพราะหลายครั้ง เราก็ไม่ได้รู้จักตัวเองเท่าไหร่ ก็อาจจะรับได้ในแง่ว่า อ๋อ ก็เป็นคนๆนึง แต่ว่า ความเป็นคนคืออะไร ... ไม่รู้หรอก เหมือนพระลงมาเพื่อมาบอกว่า เป็นคนนี่ ต้องเป็นแบบนี้นะ มาบอกว่า เราคือใคร ... คือพอเห็นแง่มุมนี้นี่ ก็เอาไปภาวนาต่อได้อีก และก็มีแรงแบกกางเขนต่อได้อีก ::001::Man of Macedonia เขียน: พูดถูกครับ""Spirituality is the Theology in practice."
นักเทววิทยาทั้งหลาย ตั้งแต่อดีต จนปัจจุบัน ก็พยายามสื่อสารออกไปในหลายๆแนว
ผมคิดว่า เทวศาสตร์อันว่าด้วย"พระเยซูเป็นพระเจ้า" คงได้ยินกันบ่อยครั้งแล้ว
แง่มุม ของความเป็นมนุษย์สามัญ(ที่คนนอกศาสนาจะเข้าถึงอย่างเข้าใจได้มากกว่า)
แน่จะเป็นสิ่งที่ดี
ดร สุเมธเอาพระคัมภีร์มาพูดปะเนี่ยขอยืมคำคมมากๆที่ ดร.สุเมธ ท่านพูดไว้เกี่ยวในหลวง แต่ผมว่าน่าจะประยุกต์ใช้ได้
"ประชาชนมองพระองค์ แต่ไม่ได้เห็นพระองค์
ประชาชนได้ยินพระองค์ แต่ไม่ได้ฟังพระองค์"
น่าคิด?ครับ
(Mt 13:13-14) This is why I speak to them in parables, because 'they look but do not see and hear but do not listen or understand.' Isaiah's prophecy is fulfilled in them, which says: 'You shall indeed hear but not understand you shall indeed look but never see.
อ่านแล้วก็สนุกดีค่ะ ... ว่าแต่ อ่านของพี่มากๆแล้วเนี่ย ยังคุยกับคนรู้เรื่องอยู่ใช่มั้ยคะ ::011::