ศีลเจิมผู้ป่วย
คราวนี้ผมขอนำคำสอนของพระศาสนจักรในเรื่องศีลศักดิ์สิทธิ์ประการนี้มาเสนอ โดยอ้างอิงจากหนังสือ"คาทอลิกสอนอะไร"ของคุณพ่อวัชศิลป์ กฤษเจริญ ศูนย์คริสตศาสนธรรมคาทอลิก เขตมิสซังราชบุรี หนังสือคำสอนเล่มนี้เป็นหนังสือที่สรุปจากคำสอนของพระศาสนจักรคาทอลิก ซึ่งได้รับการรับรองโดยสมเด็จพระสันตะปาปายอห์น ปอลที่สอง เมื่อวันที่ 11 ตุลาคม ค.ศ.1992 ครับ
พระเยซูเจ้าทรงตั้งศีลเจิมผู้ป่วย เมื่อพระองค์ตรัสกับอัครสาวกว่า "พวกเขาจะปกมือเหนือคนเจ็บ คนเหล่านั้นก็จะหายจากโรค ( มาระโก 16:18 )
พระเยซูเจ้าเสด็จมาเพื่อบำบัดรักษาความเจ็บไข้ได้ป่วย ทั้งทางร่างกายและจิตใจ ตามที่พระคัมภีร์เล่าว่า "พระองค์เสด็จไปทั่ว ทรงประกาศข่าวดีเรื่องพระอาณาจักร ทรงรักษาโรคและความเจ็บไข้ทุกชนิดของประชาชน" ( มัทธิว 4:23 ) พระเยซูเจ้าได้ทรงมอบหมายหน้าที่นี้ให้กับบรรดาสานุศิษย์ ตามที่มีบันทึกไว้ว่า "บรรดาอัครสาวกจึงไปเทศน์สอนคนทั้งหลายให้กลับใจ ขับไล่ปีศาจจำนวนมาก เจิมน้ำมันผู้เจ็บป่วยทั้งหลายและรักษาเขาให้หายจากโรค" ( มาระโก 6:13 )
พระศาสนจักรได้ทำหน้าที่สืบทอดสิ่งที่พระเยซูเจ้าทรงกระทำโดยผ่านทางศีลเจิมผู้ป่วย พระคัมภีร์กล่าวว่า "ท่านใดเจ็บป่วย จงเชิญบรรดาผู้อาวุโสของพระศาสนจักรให้มาอธิษฐานภาวนาเพื่อผู้ป่วย เจิมน้ำมันผู้นั้นในพระนามขององค์พระผู้เป็นเจ้า คำอธิษฐานภาวนาด้วยความเชื่อจะช่วยผู้ป่วยให้รอดชีวิต องค์พระผู้เป็นเจ้าจะทรงโปรดให้ผู้ป่วยลุกขึ้น และถ้าเขาเคยกระทำบาป เขาก็จะได้รับการอภัย ( ยากอบ 5:14-15 )
ศีลเจิมผู้ป่วยเป็นการมอบพระหรรษทานเฉพาะศีลให้กับผู้ป่วย พระหรรษทานเฉพาะศีลนี้ได้แก่ การทำให้ผู้ป่วยได้ร่วมทุกข์กับพระทรมานของพระเยซูเจ้า ทำให้มีจิตใจสงบ สันติ มีกำลังต่อสู้กับความท้อแท้ อันเนื่องมาจากความเจ็บไข้และวัยชรา ในกรณีที่ผู้ป่วยไม่สามารถสารภาพบาปได้ การเจิมจะช่วยยกโทษบาปให้ทุกประการ ศีลเจิมจะช่วยผู้ป่วยให้มีสุขภาพดีขึ้น เป็นประโยชน์ต่อความรอด และเป็นการเตรียมตัวตายอย่างดี
ศาสนบริกรของศีลเจิมผู้ป่วย ได้แก่ พระสังฆราชและพระสงฆ์ พระเยซูเจ้าทรงมอบอำนาจให้บรรดาอัครสาวกและผู้สืบตำแหน่งเท่านั้นให้เป็นผู้ปกมือบำบัดผู้ป่วย พระเยซูตรัสว่า "เขาจะปกมือเหนือคนเจ็บ คนเจ็บเหล่านั้นก็จะหายจากโรคภัย" ( มาระโก 16:18 )
คาทอลิกทุกคนที่อยู่ในอันตรายถึงแก่ชีวิตเพราะความเจ็บไข้ได้ป่วยหรือวัยชรา ทุกคนสามารถเข้ารับศีลเจิมผู้ป่วยได้
เราสามารถรับศีลเจิมผู้ป่วยได้หลายครั้ง เราสามารถรับศีลเจิมผู้ป่วยได้ทุกครั้งที่เราอยู่ในอันตราย หรือเมื่อมีความเจ็บป่วยที่รุนแรง หรือก่อนที่จะเข้ารับการผ่าตัดที่สำคัญๆด้วย
เราต้องเชิญพระสงฆ์ให้ทันเวลา การเจิมผู้ที่ตายไปแล้วไม่มีผลอันใด ในกรณีที่สงสัยว่าตายหรือไม่ ให้เจิมภายใต้เงื่อนไข
แก้ไขล่าสุดโดย Florian เมื่อ จันทร์ ม.ค. 15, 2007 8:11 am, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.