ประกาศไว้อาลัยโป๊ป9วันคาทอลิกทั่วโลกร่ำไห้

การสิ้นพระชนม์ของสมเด็จพระสันตะปาปา จอห์น ปอล ที่ 2 เมื่อคืนวันที่ 2 เม.ย. ยังความเศร้าสลดแก่คริสต์ศาสนิกชน ทั่วโลก ที่ต้องสูญเสียบุคคลสำคัญแห่งคริสตจักร นิกายโรมันคาทอลิก ศาสนาศูนย์รวมยึดเหนี่ยวจิตใจผู้คนมากกว่า 1,100 ล้านคนลงแล้ว โดยสำนักวาติกัน แถลงเมื่อคืนวันเสาร์ที่ 2 เม.ย. ระบุองค์สมเด็จพระสันตะปาปา จอห์น ปอล ที่ 2 พระชนมายุ 84 ชันษา ทรงสิ้นพระชนม์อย่างสงบบนเตียงบรรทม ในห้องส่วนพระองค์ ภายในนครรัฐวาติกัน เมื่อเวลา 21.37 น. ของวันเสาร์ที่ 2 เม.ย. หรือตรงกับเวลา 02.37 น. ของวันอาทิตย์ที่ 3 เม.ย. ตามเวลาประเทศไทย หลังทรงมีปัญหาด้านสุขภาพ และประชวรมาตลอดหลายปีที่ผ่านมา
เจ้าหน้าที่สำนักวาติกันได้ประกาศ ข่าวการสิ้นพระชนม์ของสมเด็จพระสันตะปาปา ระบุว่า องค์พระบิดาผู้เป็นที่รักของพวกเรา ได้เสด็จกลับสู่สรวงสวรรค์แล้ว ท่ามกลางสมาชิกในครอบครัว บุคคลใกล้ชิดจากโปแลนด์และบุคคลใกล้ชิดภายในสำนักวาติกัน พร้อมกันนี้ เจ้าหน้าที่ยังได้อ่านพระราชสารชิ้นสุดท้ายจากองค์สันตะปาปา จอห์น ปอล ที่ 2 ด้วยข้อความ "ความรักผันเปลี่ยนดวงฤทัยอันนำซึ่งสันติภาพ" ขณะที่หนังสือพิมพ์ในอิตาลีรายงานระบุว่าองค์สันตะปาปาทรงกล่าวถ้อยคำสุดท้ายว่า "เอเมน" ก่อนสิ้นพระชนม์อย่างสงบ
ก่อนหน้าการสิ้นพระชนม์ของสมเด็จพระสันตะปาปาไม่กี่ชั่วโมง ผู้คนมากกว่า 1 แสนคน พากันมาชุมนุมบริเวณจัตุรัสเซนต์ ปีเตอร์ ในนครรัฐวาติกัน ใกล้สถานที่พำนักสุดท้ายขององค์พระสันตะปาปา แสดงความคารวะและสวดมนต์ให้แก่องค์สันตะปาปา ผู้คนต่างเฝ้ากันอยู่ที่นั่น จนกระทั่งทราบข่าวองค์สันตะปาปาสิ้นพระชนม์ ตามด้วยคำประกาศจากสำนักวาติกันและเสียงระฆังถูกตี ดังกังวานทั่วบริเวณจัตุรัสเซนต์ ปีเตอร์ และโบสถ์คริสต์หลายแห่งทั่วโลก อันเป็นสัญญาณถึงการจากไปชั่วนิรันดร์ขององค์สันตะปาปา
พิธีการลำดับต่อมาของสำนักวาติกัน คือการประกอบพิธีมิสซาใหญ่ เป็นเกียรติแด่องค์สันตะปาปา บริเวณจัตุรัสเซนต์ ปีเตอร์ และตั้งพระศพสมเด็จพระสันตะปาปา ให้ผู้คนคารวะบริเวณจัตุรัสเซนต์ ปีเตอร์ พร้อมประกาศช่วงเวลาไว้อาลัย 9 วัน ส่วนการประกอบพิธีฝังพระศพ จะมีขึ้นอย่างเป็นทางการภายใน 4-6 วัน แต่ยังไม่กำหนดวันชัดเจน อย่างไรก็ตาม คาดว่าจะมีผู้คนเข้าร่วมพิธีฝังพระศพสมเด็จพระสันตะปาปามากกว่า 2 ล้านคน รวมทั้งผู้นำโลกจำนวนมาก อาจรวมถึงประธานาธิบดีจอร์จดับเบิลยู. บุช ผู้นำสหรัฐฯด้วย
ผู้นำประเทศและบุคคลสำคัญทุกเชื้อชาติศาสนาทั่วโลก ต่างส่งสารแสดงความเศร้าเสียใจและสดุดีความยิ่งใหญ่ของสมเด็จพระสันตะปาปา จอห์น ปอล ที่ 2 โดยประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู. บุช แห่งสหรัฐฯ พร้อมนางลอรา บุช สตรีหมายเลข 1 กล่าวไว้อาลัยที่โบสถ์เซนต์ แมธธิว ที่กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ขนานนามพระองค์ว่า เป็นหนึ่งในผู้นำทางศีลธรรมที่ยิ่งใหญ่แห่งประวัติศาสตร์ ชาวคาทอลิกได้สูญเสียผู้ชี้นำทาง ส่วนโลกได้สูญเสียผู้ส่งเสริมเสรีภาพของมนุษยชาติ ผู้รับใช้ผู้แสนดีและจงรักภักดีต่อพระเจ้า บุชยังสั่งให้อาคารทุกหลัง ทั้งภาครัฐและเอกชนทั่วสหรัฐฯ ลดธงชาติลงครึ่งเสา ขณะที่นายอาร์โนลด์ ชวาเซเนกเกอร์ ผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนีย พระเอกภาพยนตร์ฮอลลีวูด ก็แสดงความเศร้าเสียใจสุดซึ้ง และเชิดชูพระองค์เป็นแสงประทีปแห่งคุณธรรม ความแข็งแกร่งและคุณความดี
ส่วนคริสต์ศาสนิกชนชาวคาทอลิกทั่วเอเชียต่างออกมาแสดงความเสียใจ และสดุดีโป๊ปในฐานะบุรุษแห่งสันติภาพและสร้างความปรองดอง ด้านผู้นำชาวมุสลิมในอินโดนีเซีย ชาติมุสลิมที่ใหญ่ที่สุดในโลก รวมทั้งประธานาธิบดีสุสิโล บัมบัง ยูโดโยโน ก็ร่วมไว้อาลัยโป๊ป ขณะที่ชาวคาทอลิกในเขตภัยพิบัติจากแผ่นดินไหว ที่อาเจะห์และเกาะไนแอส ในอินโดนีเซีย ก็ทิ้งความทุกข์
ส่วนตัวร่วมไว้อาลัย เช่นเดียวกับผู้นำชาวพุทธในศรีลังกา ผู้นำคริสตจักรรัสเซียน ออร์โธด็อกซ์ ในรัสเซีย ชาวอิสราเอลและอาหรับ ก็ร่วมไว้อาลัยพร้อมสดุดีโป๊ป ในฐานะนักสร้างสันติภาพ ประธานาธิบดีโมฮัมหมัด คาตามี แห่งอิหร่าน ก็สดุดีว่าโป๊ปเป็นผู้แสวงหาสัจธรรม ความยุติธรรมและสันติภาพ แม้แต่กลุ่มอดีตรัฐบาลตาลีบันในอัฟกานิสถานซึ่งถูกพันธมิตรโค่นล้ม ก็ส่งสารจากที่หลบซ่อนตัว สดุดีว่าคำสอนของโป๊ปควรค่าแก่การใคร่ครวญ
ชาวคาทอลิกในออสเตรเลียก็ร่วมกันจุดเทียนให้กับการจากไปของพระองค์ที่โบสถ์เซนต์ แมรี ในนครซิดนีย์ พร้อมทั้งต่อแถวลงชื่อในสมุดไว้อาลัย นายจอห์น โฮวาร์ด นายกรัฐมนตรีออสเตรเลีย ที่แม้นับถือศาสนาคริสต์นิกายแองคลิกัน กล่าวว่า โป๊ปเป็นนักรบแห่งเสรีภาพ มีบทบาทสำคัญในการลบล้างลัทธิคอมมิวนิสต์ ประธานาธิบดีโรห์ มูยอน แห่งเกาหลีใต้ กล่าวว่า พระสันตะปาปา จอห์น ปอล ที่ 2 จะอยู่ในความทรงจํา ในฐานะผู้เผยแพร่สันติภาพรุ่นแรก นายกรัฐมนตรี เฮเลน คลาก แห่งนิวซีแลนด์ สั่งให้ทั่วประเทศลดธงชาติลงครึ่งเสา ขณะที่จีนซึ่งรัฐบาลเคยตัดความสัมพันธ์ทางการทูตกับสำนักวาติกัน เมื่อปี 2494 ก็ส่งสารแสดงความเศร้าเสียใจกับชาวคาทอลิกในจีน ยังแสดงความเสียใจที่โป๊ปไม่มีโอกาสเสด็จเยือนจีนดัง ที่พระองค์ตั้งพระทัยไว้เป็นเป้าหมายสูงสุด
ส่วนกระบวนการเลือกสันตะปาปาพระองค์ใหม่ ตามธรรมเนียมจะลงคะแนนเลือกแบบลับภายในห้องสวดมนต์ "ซีซทีน แชพเพิล" แห่งสำนักวาติกัน ซึ่งจะถูกปิดล็อกอย่างหนาแน่น การลงคะแนนเลือกสันตะปาปาองค์ใหม่ ต้องดำเนินการหลังสันตะปาปาสิ้นพระชนม์ ภายใน 15-20 วัน คณะผู้ลงคะแนนเลือกคือ พระคาร์ดินัลทั่วโลกที่มีอายุต่ำกว่า 80 ปี ซึ่งมีจำนวน 117 รูป ผู้ได้รับเลือกดำรงตำแหน่งสันตะปาปาพระองค์ใหม่ ต้องได้รับเสียงสนับสนุนมากกว่า 2 ใน 3 บวกกับอีก 1 เสียง กระบวนการเลือกสันตะปาปาองค์ใหม่จะดำเนินการอย่างมิดชิด พระคาร์ดินัลทั้งหมดจะถูกตัดออกจากโลกภายนอกชั่วคราว ห้ามใช้อุปกรณ์ สื่อสารทุกชนิดจนกว่าการลงคะแนนเลือกจะสิ้นสุด
ผู้ได้รับการเสนอชื่อจะถูกเรียก ด้วยภาษาอิตาลีว่า "ปาปาบิลี" อันหมายถึงผู้อาจได้ดำรงตำแหน่งสันตะปาปา แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่มีผู้ใดโดดเด่น ชัดเจนที่จะได้รับเลือก อย่างไรก็ตาม พระคาร์ดินัลที่อยู่ในสถานะ "ปาปาบิลี" มีอยู่หลายองค์ รวมทั้งพระคาร์ดินัล ฟรานซิส อารินเซ ชาวไนจีเรีย วัย 72 ปี พระคาร์ดินัล คลอดิโอ ฮัมเมส ชาวบราซิล วัย 70 ปี นอกจากนั้น ยังมีพระคาร์ดินัลใกล้ชิด สมเด็จพระสันตะปาปา จอห์น ปอล ที่ 2 อีก 4 รูป คือ พระคาร์ดินัล แองเจลโล โซดาโน ชาวอิตาลี วัย 77 ปี หรือเทียบเท่าตำแหน่งนายกรัฐมนตรีแห่งนครรัฐวาติกัน พระคาร์ดินัล โจเซฟ รัตซิงเจอร์ ชาวเยอรมัน วัย 77 ปี พระคาร์ดินัล จิโอวานนี บัตติสตา เร ชาวอิตาลี วัย 71 ปี พระคาร์ดินัล คามิลลิโอ รูนี ชาวอิตาลี วัย 74 ปี
หลังสมเด็จพระสันตะปาปา จอห์น ปอล ที่ 2 สิ้น พระชนม์เกือบ 1 วัน สำนักวาติกันได้นำสำเนาใบมรณบัตร ของพระองค์ ออกเผยแพร่เป็นครั้งแรกเมื่อวันที่ 3 เม.ย. ระบุสาเหตุการสิ้นพระชนม์ว่า เป็นเพราะอาการติดเชื้อในกระแสพระโลหิตและพระหฤทัยล้มเหลว ใบมรณบัตร ซึ่งลงนามโดยแพทย์ส่วนพระองค์ ยังระบุโรคอื่นๆที่รุมเร้าโป๊ปจอห์น ปอล ที่ 2 รวมทั้งระบบหายใจติดขัดอย่างรุนแรง และผลข้างเคียงจากการผ่าตัดสอดท่อช่วยหายใจและท่อส่งอาหารในหลอดลมของพระองค์ การยืนยันสาเหตุการสิ้นพระชนม์ มีขึ้นหลังการใช้เครื่องตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจกับพระองค์นาน 20 นาที ก่อนที่พระองค์จะสิ้นพระชนม์ ใบมรณบัตรยังยืนยันเป็นครั้งแรกว่าพระองค์ประชวรด้วยโรคพาร์กินสัน หรืออัมพาตชนิดสั่น
ส่วนความเคลื่อนไหวของคริสต์ศาสนิกชน นิกายโรมันคาทอลิกในประเทศไทยนั้น ที่อาสนวิหารอัสสัมชัญ บางรักเมื่อเช้าวันที่ 3 เม.ย. พระคาร์ดินัล ไมเคิล มีชัย กิจบุญชู ประธานสภาสังฆราชคาทอลิกแห่งประเทศไทย นำชาวคาทอลิกทำพิธีบูชามิสซา ถวายพระพรอุทิศกุศลแด่ดวงพระวิญญาณโป๊ป จากนั้นพระคาร์ดินัลมีชัยกล่าวว่า พระสันตปาปา จอห์น ปอล ที่ 2 เป็นพระสันตะปาปาที่ยิ่งใหญ่พระองค์หนึ่งที่สมควรได้รับการขนานนามว่า จอห์น ปอล เดอะ เกรท พระองค์ทรงเรียกร้องอย่างหนักแน่นให้โลกมีความสงบและมีสันติภาพ ขณะที่ทางกรุงโรมแจ้งให้ไปร่วมประชุมที่นครรัฐวาติกันในตอนสายวันที่ 4 เม.ย.นี้
ที่สนามกอล์ฟซัมมิท วินด์มิลล์ บางนา พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์กรณีองค์พระสันตะปาปาสิ้นพระชนม์ว่า ต้องแสดงความเสียใจกับชาวคริสต์ทั้งหลาย ที่ประมุขแห่งศาสนาคริสต์สิ้นพระชนม์ สิ่งที่ท่านเขียนไว้ก่อนสิ้นพระชนม์ว่าท่านจะไปเป็นสุขแล้ว แล้วพวกเราจะทุกข์อยู่ทำไม แสดงให้เห็นว่า ความเป็นผู้นำที่ยิ่งใหญ่ของศาสนามีอยู่ตลอดเวลาเป็นสิ่งที่ดีมาก
วันเดียวกัน นายสุรนันทน์ เวชชาชีวะ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีการสิ้นพระชนม์ของสมเด็จพระสันตะปาปาว่า นายกรัฐมนตรีจะส่งสารแสดงความเสียใจไปยังสำนักวาติกันในวันที่ 3 เม.ย. และประเทศ ไทยร่วมไว้อาลัยต่อการสิ้นพระชนม์ของพระองค์ โดยให้ สถานที่ราชการต่างๆลดธงครึ่งเสาเป็นเวลา 3 วัน เริ่มตั้งแต่ วันที่ 4-5 และ 7 เม.ย. ยกเว้นวันพุธที่ 6 เม.ย. เนื่องจากเป็นวันจักรี และยังได้รับแจ้งจากสถานทูตสำนักวาติกันประจำประเทศไทยว่า จะเปิดให้ชาวคริสต์ในไทยไปร่วมลงนามแสดงความเสียใจ ต่อการสิ้นพระชนม์ของสมเด็จพระสันตะปาปา ตั้งแต่วันที่ 4 เม.ย.เป็นต้นไป ทั้งนี้ พ.ต.ท.ทักษิณก็จะไปร่วมลงนามแสดงความเสียใจในช่วงเย็นวันที่ 4 เม.ย. หลังเดินทางกลับจาก จ.เชียงใหม่