วาติกันแถลงพระสันตะปาปาสิ้นพระชนม์แล้ว
โพสต์แล้ว: อาทิตย์ เม.ย. 03, 2005 10:54 pm
'วาติกัน' แถลง พระสันตะปาปา สิ้นพระชนม์แล้ว
โฆษกสำนักวาติกันแถลง อย่างเป็นทางการแล้วว่า สมเด็จพระสันตะปาปา จอห์น ปอลที่ 2 ได้สิ้นพระชนม์แล้วเมื่อเวลา 21.37 น. วันเสาร์ที่ 2 เม.ย. เวลาท้องถิ่น หรือเวลา 02.37 น. เช้าวันอาทิตย์ที่ 3 เม.ย.ตามเวลาประเทศไทย โดยมีพระชนมายุ 84 ชันษา หลังจากครองตำแหน่งมานาน 26 ปี และได้ชื่อว่าเป็นประมุขนครรัฐวาติกัน ที่ครองตำแหน่งนานเป็นอันดับ 3 ในประวัติศาสตร์ ทั้งยังเป็นโป๊ปที่เสด็จเยือนต่างประเทศ มากที่สุดด้วย
แถลงการณ์ระบุว่า "พระบิดาผู้ศักดิ์สิทธิ์ได้สิ้นพระชนม์แล้วเมื่อเวลา 21.37 นาฬิกา ในอพาร์ตเมนต์ส่วนพระองค์ กระบวนการทั้งหลายที่ระบุไว้ในรัฐธรรมนูญสำนักวาติกันหรือ "Universi Dominici Gregis" ซึ่งสมเด็จพระสันตะปาปา จอห์น ปอล ที่ 2 ทรงมีพระราชหัตถเลขาไว้เมื่อ 22 ก.พ. 2539 จะเป็นไปตามนั้น" รวมทั้งการจัดพิธีศพและการเลือกสันตะปาปาพระองค์ใหม่ แถลงการณ์ระบุ ขณะที่พระคาร์ดินัลแองเจโล โซดาโน เจ้าหน้าที่สำนักวาติกันหมายเลข 2 ได้นำคริสต์ศาสนิกชนกว่า 70,000 คนร่วมสวดมนต์ไว้อาลัยให้พระองค์ที่จัตุรัสเซนต์ ปีเตอร์สเบิร์ก ท่ามกลางความเศร้าสลดใจของชาวคาทอลิกทั้งโลกที่รับทราบข่าว
ข่าวแจ้งว่า หลังการประกาศว่าโป๊ปสิ้นพระชนม์ ก็มีการตีระฆังดังสะท้อนสะท้านทั่วกรุงโรม เป็นสัญญาณบอกว่า ประมุขคริสตจักรวาติกันได้ละสังขารแล้ว ขณะที่เหล่าคริสต์ศานิกชนนิกายโรมันคาทอลิกทั่วโลกซึ่งชุมนุมกันในโบสถ์ เพื่อสวดมนต์ให้พระองค์ต่างมีอาการโศกเศร้า หลายคนร่ำไห้ด้วยความอาลัย ด้านประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู.บุช แห่งสหรัฐฯ ได้ออกแถลงการณ์ที่กรุงวอชิงตันเมื่อเวลา 16.00 น. เวลาภาคตะวันออกของสหรัฐฯ หรือ 03.00 น. วันอาทิตย์ที่ 3 เม.ย. เวลาประเทศไทย แสดงความเศร้าเสียใจ พร้อมทั้งกล่าวเทิดพระเกียรติของโป๊ปอย่าง
หลังจากองค์พระสันตะปาปาสิ้นพระชนม์อย่างเป็นทางการแล้ว พระชั้นคาร์ดินัลก็จะทำลายสัญลักษณ์ ตำแหน่งของพระสันตะปาปา นั่นคือ "เพสคาโตริโอ" หรือวงแหวนแห่งชาวประมง (Ring of the Fisherman) สั่งลดธงประจำสำนักวาติกันลงครึ่งเสา และสุดท้ายปิดประตูสำริดของพระมหาวิหาร ที่จตุรัสเซนต์ ปีเตอร์ เป็นอันเสร็จสิ้นพิธีประกาศการสิ้นพระชนม์ จากนั้นก็จะประกอบพิธีฝังพระศพของพระสันตะปาปา ซึ่งต้องจัดขึ้นหลังการสิ้นพระชนม์ล่วงเข้าวันที่ 4 หรือวันที่ 6 ยกเว้นกรณีเหตุผลพิเศษที่มิอาจระบุได้ล่วงหน้า ส่วนช่วงไว้อาลัยอย่างเป็นทางการนั้น กำหนดไว้เวลา 9 วัน หรือที่รู้จักกันดีว่าเป็นช่วง "novemdiales" โดยพระศพขององค์พระสันตะปาปาส่วนใหญ่ในหลายศตวรรษที่ผ่านมา จะถูกฝังไว้ใต้พระมหาวิหาร
ส่วนประมุของค์ใหม่ แห่งคริสต์จักรนิกายโรมัน-คาทอลิก ที่จะสืบทอดอำนาจปกครองต่อนั้น เหล่าพระคาร์ดินัลจากทั่วโลกที่เตรียมเดินทางไปยังกรุงโรมโดยพร้อมเพรียง กัน มีหลายรูปที่ได้รับการเสนอชื่อ ได้แก่ พระคาร์ดินัล โจเซฟ รัตซินเจอร์ ผู้คอยตรวจสอบหลักทางศาสนา ของสำนักวาติกันในเยอรมนี พระคาร์ดินัล คลอดิโอ ฮัมเมส ชาวบราซิล พระคาร์ดินัล ออสการ์ อันเดรส โรดริเกวซ มาราดิอากา จากฮอนดูรัส พระคาร์ดินัล ฟรานซิส อะรินเซ จากไนจีเรีย พระคาร์ดินัล คริสโตฟ โชเอนบอร์น จากออสเตรียและพระคาร์ดินัล ดิโอนิจิ เตตตามันซี จากอิตาลี แต่ไม่ว่าจะเป็นองค์ใด ก็มีแนวโน้มว่าประมุของค์ใหม่แห่งคริสต์จักรโรมันคาทอลิก จะต้องมีคุณสมบัติแตกต่างไปจากพระสันตะปาปา จอห์น ปอล ที่ 2 อย่างไรก็ตาม บาทหลวงอูโกทัดนี นักบวชชาวอิตาลี กล่าวว่า ไม่ว่าใครจะได้ขึ้นดำรงตำแหน่งสันตะปาปาพระองค์ใหม่ แนวทางการปฏิบัติศาสนกิจจะดำเนินต่อไปเช่นเดิม สันตะปาปาพระองค์ใหม่จะยังเปิดโลก เปิดรับทุกศาสนา รวมทั้งเปิดรับทุกผู้คนไม่ว่าบุคคลนั้น จะมีความเชื่อในคริสต์ศาสนาหรือไม่ก็ตาม ส่วนกระบวนการเลือกสันตะปาปาองค์ใหม่ จะเป็นการเลือกแบบลับภายในห้องสวดมนต์ "ซิซทีน แชพเพิล" ที่นครวาติกัน
โฆษกสำนักวาติกันแถลง อย่างเป็นทางการแล้วว่า สมเด็จพระสันตะปาปา จอห์น ปอลที่ 2 ได้สิ้นพระชนม์แล้วเมื่อเวลา 21.37 น. วันเสาร์ที่ 2 เม.ย. เวลาท้องถิ่น หรือเวลา 02.37 น. เช้าวันอาทิตย์ที่ 3 เม.ย.ตามเวลาประเทศไทย โดยมีพระชนมายุ 84 ชันษา หลังจากครองตำแหน่งมานาน 26 ปี และได้ชื่อว่าเป็นประมุขนครรัฐวาติกัน ที่ครองตำแหน่งนานเป็นอันดับ 3 ในประวัติศาสตร์ ทั้งยังเป็นโป๊ปที่เสด็จเยือนต่างประเทศ มากที่สุดด้วย
แถลงการณ์ระบุว่า "พระบิดาผู้ศักดิ์สิทธิ์ได้สิ้นพระชนม์แล้วเมื่อเวลา 21.37 นาฬิกา ในอพาร์ตเมนต์ส่วนพระองค์ กระบวนการทั้งหลายที่ระบุไว้ในรัฐธรรมนูญสำนักวาติกันหรือ "Universi Dominici Gregis" ซึ่งสมเด็จพระสันตะปาปา จอห์น ปอล ที่ 2 ทรงมีพระราชหัตถเลขาไว้เมื่อ 22 ก.พ. 2539 จะเป็นไปตามนั้น" รวมทั้งการจัดพิธีศพและการเลือกสันตะปาปาพระองค์ใหม่ แถลงการณ์ระบุ ขณะที่พระคาร์ดินัลแองเจโล โซดาโน เจ้าหน้าที่สำนักวาติกันหมายเลข 2 ได้นำคริสต์ศาสนิกชนกว่า 70,000 คนร่วมสวดมนต์ไว้อาลัยให้พระองค์ที่จัตุรัสเซนต์ ปีเตอร์สเบิร์ก ท่ามกลางความเศร้าสลดใจของชาวคาทอลิกทั้งโลกที่รับทราบข่าว
ข่าวแจ้งว่า หลังการประกาศว่าโป๊ปสิ้นพระชนม์ ก็มีการตีระฆังดังสะท้อนสะท้านทั่วกรุงโรม เป็นสัญญาณบอกว่า ประมุขคริสตจักรวาติกันได้ละสังขารแล้ว ขณะที่เหล่าคริสต์ศานิกชนนิกายโรมันคาทอลิกทั่วโลกซึ่งชุมนุมกันในโบสถ์ เพื่อสวดมนต์ให้พระองค์ต่างมีอาการโศกเศร้า หลายคนร่ำไห้ด้วยความอาลัย ด้านประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู.บุช แห่งสหรัฐฯ ได้ออกแถลงการณ์ที่กรุงวอชิงตันเมื่อเวลา 16.00 น. เวลาภาคตะวันออกของสหรัฐฯ หรือ 03.00 น. วันอาทิตย์ที่ 3 เม.ย. เวลาประเทศไทย แสดงความเศร้าเสียใจ พร้อมทั้งกล่าวเทิดพระเกียรติของโป๊ปอย่าง
หลังจากองค์พระสันตะปาปาสิ้นพระชนม์อย่างเป็นทางการแล้ว พระชั้นคาร์ดินัลก็จะทำลายสัญลักษณ์ ตำแหน่งของพระสันตะปาปา นั่นคือ "เพสคาโตริโอ" หรือวงแหวนแห่งชาวประมง (Ring of the Fisherman) สั่งลดธงประจำสำนักวาติกันลงครึ่งเสา และสุดท้ายปิดประตูสำริดของพระมหาวิหาร ที่จตุรัสเซนต์ ปีเตอร์ เป็นอันเสร็จสิ้นพิธีประกาศการสิ้นพระชนม์ จากนั้นก็จะประกอบพิธีฝังพระศพของพระสันตะปาปา ซึ่งต้องจัดขึ้นหลังการสิ้นพระชนม์ล่วงเข้าวันที่ 4 หรือวันที่ 6 ยกเว้นกรณีเหตุผลพิเศษที่มิอาจระบุได้ล่วงหน้า ส่วนช่วงไว้อาลัยอย่างเป็นทางการนั้น กำหนดไว้เวลา 9 วัน หรือที่รู้จักกันดีว่าเป็นช่วง "novemdiales" โดยพระศพขององค์พระสันตะปาปาส่วนใหญ่ในหลายศตวรรษที่ผ่านมา จะถูกฝังไว้ใต้พระมหาวิหาร
ส่วนประมุของค์ใหม่ แห่งคริสต์จักรนิกายโรมัน-คาทอลิก ที่จะสืบทอดอำนาจปกครองต่อนั้น เหล่าพระคาร์ดินัลจากทั่วโลกที่เตรียมเดินทางไปยังกรุงโรมโดยพร้อมเพรียง กัน มีหลายรูปที่ได้รับการเสนอชื่อ ได้แก่ พระคาร์ดินัล โจเซฟ รัตซินเจอร์ ผู้คอยตรวจสอบหลักทางศาสนา ของสำนักวาติกันในเยอรมนี พระคาร์ดินัล คลอดิโอ ฮัมเมส ชาวบราซิล พระคาร์ดินัล ออสการ์ อันเดรส โรดริเกวซ มาราดิอากา จากฮอนดูรัส พระคาร์ดินัล ฟรานซิส อะรินเซ จากไนจีเรีย พระคาร์ดินัล คริสโตฟ โชเอนบอร์น จากออสเตรียและพระคาร์ดินัล ดิโอนิจิ เตตตามันซี จากอิตาลี แต่ไม่ว่าจะเป็นองค์ใด ก็มีแนวโน้มว่าประมุของค์ใหม่แห่งคริสต์จักรโรมันคาทอลิก จะต้องมีคุณสมบัติแตกต่างไปจากพระสันตะปาปา จอห์น ปอล ที่ 2 อย่างไรก็ตาม บาทหลวงอูโกทัดนี นักบวชชาวอิตาลี กล่าวว่า ไม่ว่าใครจะได้ขึ้นดำรงตำแหน่งสันตะปาปาพระองค์ใหม่ แนวทางการปฏิบัติศาสนกิจจะดำเนินต่อไปเช่นเดิม สันตะปาปาพระองค์ใหม่จะยังเปิดโลก เปิดรับทุกศาสนา รวมทั้งเปิดรับทุกผู้คนไม่ว่าบุคคลนั้น จะมีความเชื่อในคริสต์ศาสนาหรือไม่ก็ตาม ส่วนกระบวนการเลือกสันตะปาปาองค์ใหม่ จะเป็นการเลือกแบบลับภายในห้องสวดมนต์ "ซิซทีน แชพเพิล" ที่นครวาติกัน