Belong to the Truth Jesus Christ

เอเอฟพี/เอเจนซี - ผู้กำกับภาพยนตร์เรื่อง "ไททานิก" เจมส์ คาเมรอน เปิดตัวหนังสารคดีผลงานชิ้นใหม่ของเขาเมื่อวันจันทร์(26) ซึ่งก่อให้เกิดการขัดแย้งถกเถียงกันอย่างหนัก เนื่องจากอ้างว่ามีการค้นพบสถานที่ฝังศพพระเยซู ตลอดจนบุคคลซึ่งน่าจะเป็นภรรยาและบุตรชายของเขา ในสุสานครอบครัวโบราณเก่าแก่แห่งหนึ่งในเขตนครเยรูซาเลม
     
      คาเมรอน และผู้ร่วมผลิตหนังสารคดีชุดนี้อีกผู้หนึ่ง คือ ซิมชา จาโคโบวิชี ซึ่งเป็นคนที่เกิดในอิสราเอลและเคยคว้ารางวัลจากผลงานกำกับภาพยนตร์สารคดีมาแล้ว แถลงในการเปิดตัวว่า การวิจัยของพวกเขาบ่งชี้ว่าพระเยซูได้แต่งงานกับ แมรี แมกดาเลน และมีบุตรชายคนหนึ่งซึ่งชื่อว่า ยูดาห์
     
      ข้ออ้างเช่นนี้ขัดแย้งกับเนื้อหาในพระคัมภีร์ไบเบิล ที่เป็นแกนกลางของความเชื่อในศาสนาคริสต์ที่ระบุว่า พระเยซูซึ่งเป็นพระบุตรของพระเจ้านั้นเป็นโสดไม่ได้แต่งงาน เสียชีวิตเมื่อถูกตรึงกางเขน และกลับฟื้นชีพขึ้นมาหลังจากนั้น 3 วัน แล้วขึ้นไปอยู่บนสวรรค์
     
      ภาพยนตร์สารคดีเรื่อง "The Lost Tomb of Christ" (สุสานที่สูญหายไปของพระคริสต์) ของคาเมรอนและจาโคโบวิชี ซึ่งกำหนดนำออกจากทางเคเบิลทีวีช่อง "ดิสคัฟเวอรี"ในสหรัฐฯวันอาทิตย์(4มี.ค.)นี้ มีหวังจุดชนวนคำถามในเรื่องพระเยซูมีชีวิตครอบครัวแบบคนติดดินหรือไม่ขึ้นอีกครั้ง หลังจากแนวความคิดนี้กลายเป็นที่พูดคุยกันกว้างขวาง จากหนังสือนวนิยายและภาพยนตร์สุดฮิตเรื่อง "The Da Vinci Code"
     
      สำหรับหนังสารคดีเรื่องนี้ใช้ข้อมูลสำคัญอิงอยู่กับสุสานโบราณแห่งหนึ่งในเขตตัลปิออต นครเยรูซาเลม ซึ่งถูกขุดพบอย่างบังเอิญในปี 1980 โดยคนงานก่อสร้างที่กำลังเคลียร์พื้นที่เพื่อสร้างโครงการตึกพักอาศัย
     
      คณะนักโบราณคดีที่ดำเนินการต่อมา ได้ขุดค้นเจอโลงศพขนาดเล็กทำด้วยหินปูนซึ่งใช้เป็นที่เก็บกระดูกจำนวน 10 โลงจากสุสานแห่งนั้น ปรากฏว่ามีอยู่ 5 โลงซึ่งชื่อที่จารึกไว้สอดคล้องกับชื่อบุคคลสำคัญๆ ในพระคัมภีร์ไบเบิลใหม่ นั่นคือ เยซู, แมรี, แมทธิว, โจเซฟ, และ แมรี แมกดาเลน ส่วนโลงที่ 6 ซึ่งจารึกด้วยภาษาอะราเมอิก ก็แปลได้ว่า "ยูดาห์ บุตรของเยซู"
     
      จาโคโบวิชี ซึ่งเป็นทั้งผู้กำกับ, ผู้สร้าง, และผู้เขียนบทหนังสารคดีเรื่องนี้ แถลงว่า จากการนำชื่อเหล่านี้มาวิเคราะห์เชิงสถิติ ได้พบว่าเป็นไปไม่ได้อย่างยิ่งที่มันจะเป็นของครอบครัวอื่นๆ นอกจากครอบครัวของพระเยซูในพระคัมภีร์
     
      นอกจากนั้นจาโคโบวิชีกับทีมงานยังส่งตัวอย่าง 2 ชุดจากโลงหินเหล่านี้ไปทำการวิเคราะห์ทางดีเอ็นเอและทางเคมี ซึ่งได้ผลออกมาว่า บุคคลในโลงชื่อเยซู กับคนในโลงชื่อแมรี แมกดาเลนนั้น ไม่ได้มีดีเอ็นดีเกี่ยวข้องกัน
     
      เนื่องจากปกติแล้วสุสานแบบนี้เป็นที่ฝังศพของญาติหรือคู่สามีภรรยา จาโคโบวิชีและทีมงานจึงอ้างว่า ผลดีเอ็นเอเช่นนี้บ่งชี้ว่า พระเยซูกับแมรี แมกดาเลน น่าจะเป็นสามีภรรยากัน
     
      อย่างไรก็ตาม ทางด้านพวกผู้นำทางศาสนาคริสต์ในสหรัฐฯต่างออกมาให้ความเห็นเยาะหยันข้ออ้างของผู้สร้างหนังสารคดีชุดนี้ โดยชี้ว่าหลักฐานอ่อนเหลือเกิน อาทิ ในเรื่องดีเอ็นเอ เนื่องจากเราไม่ได้มีดีเอ็นเอซึ่งยืนยันได้ว่าเป็นของแมรี แมกดาเลนอยู่ในมือ จึงไม่มีทางที่จะตรวจเปรียบเทียบได้ว่า ตัวอย่างจากโลงหินเป็นของจริงหรือไม่
     
      ขณะที่ อามอส โคลเนอร์ นักโบราณคดีชาวอิสราเอลซึ่งร่วมการขุดค้นสุสานแห่งนั้นเมื่อกว่า 10 ปีที่แล้ว และเห็นว่ามันน่าจะเป็นสุสานของครอบครัวชาวยิวฐานะดี ก็โต้แย้งข้ออ้างของหนังสารคดีเรื่องนี้เช่นกัน

ขอแย้งนิดเดียวครับ

DNA มันไม่คงทนขนาดอยู่ให้ตรวจหลังผ่านไป 2000ปีหรอกนะครับ
แค่ไม่กี่วันหลังจากร่างกายตาย มันก็สลายไปเกือบหมดแล้ว -*-

ไม่งั้นก็โคลนคนตายขึ้นมาได้สิคับ
ทั้งไดโนเสาร์ สัตว์ต่างๆที่สูญพันธ์ รวมถึงบุคคลสำคัญ
ถ้า DNA ยังมีอยู่ ก็โคลนขึ้นมาได้เรื่อยๆอะ

ในตลาดก็มีแต่เรื่องนินทา จะเอาอะไรกับความคิดมนุษย์ที่มีปาก อยู่บนเรือของผมดี่ที่สุดคือพระคัมภีร์และมีพระเจ้าเป็นเข้มทิศ

ไร้สาระ
แต่...ถ้าทำเป็นหนังจะไปดู น่าสนุก

...เห็นคนที่อยู่อเมริกาเอง ยังบอกเลย

หลักฐาน ความน่าเชื่อถือต่ำมาก

-นาม เยซู/โยชูวา ไม่ได้มีแต่ พระเยซูที่ใช้สักหน่อย


แค่ในพระคัมภีร์ ก็เป็น ชื่อประกาศก องค์หนึ่งแล้ว


-นาม  มารีก้เหมือนกัน

แค่ในพันธะสัญญาใหม่ ก็6คนละ

ถ้านับพันธะสัญญาเดิม ก็เพิ่ม นางมีเรียม พี่สาวของโมเสสไปได้อีก

เมื่อวานเห็นในข่าวช่องเนชั่นแล้วละ เขาก็บอกว่ามีข้อโต้แย้งที่ไม่น่าเป็นไปได้มากมาย

เฮ้อ มนุษย์หนอมนุษย์ มีทั้งพวกพยายามทำเนียนแบบขุดเจอโน่นเจอนี่ มีทั้งพวกแอ๊บแบ๊วบอกหน้าตาเฉยว่าพระองค์มาบอกในนิมิตรว่าแต่งงานแล้ว บางพวกหน้าตาเฉยกว่านั้นพระองค์ยังไม่แต่งเรอะจับคนบนโลกให้เป็นเมียให้เฉยเลย

เซ็งเป็ด

ทำให้มนุษย์หลงมากขึ้นไปอีก

สมัยนั้นคนชื่อเยซู ก็มีเป็นสิบเป็นร้อย แล้ว

ขยันตั้งทฤษฎีกันจังเลยนะครับ ไม่ทราบว่าจะทำไปเพื่ออะไร ล่อเป้า? อยากดัง? หรือว่าanti-christ

ก็มาแบบเดียวกับเรื่องดาวินชี่โค๊ตอีกนั่นแหละ เป็นอย่างที่พระคัมภีร์บอกไว้แหละค่ะ เหอๆ ยุคสุดท้ายแล้ว คนชอบฟังนิยาย แต่ใครจะว่ายังไงก็ช่างเราคริสตชนเชื่อและรักพระองค์ซะอย่าง ไม่มีอะไรมาทำลายความเชื่อของเราได้ แต่เกรงว่าคนที่ไม่รู้จักพระเจ้านี่สิจะคล้อยตาม ถ้าแบบนี้ก็แล้วแต่น้ำพระทัยพระเจ้าแล้วววว เราว่าปล่อยเค้าไปเหอะ กิจการที่ไม่ได้มาจากพระเจ้าจะหายไปเอง ถ้ามีคนมาถามก็อธิบายไปตามจริง(ถือโอกาสประกาศด้วย) เราทำส่วนของเราให้ดีก็พอละ

แมธทิวเป็นญาติข้างไหนของพระเยซูครับ? ตกลงเอาศิษย์มาฝังรวมกับครอบครัวอาจารย์? นักบุญแมธทิวเป็นสายตระกูลเลวี เป็นคนละสายตระกูลกับพระเยซูคือยูดาเลยด้วยซ้ำ

Holy เขียน: แมธทิวเป็นญาติข้างไหนของพระเยซูครับ? ตกลงเอาศิษย์มาฝังรวมกับครอบครัวอาจารย์? นักบุญแมธทิวเป็นสายตระกูลเลวี เป็นคนละสายตระกูลกับพระเยซูคือยูดาเลยด้วยซ้ำ

ใช่เเล้ว สงสัยเรื่องนี้เหมือนกันค่ะ เหอะๆ จะหาเรื่องทั้งทีเเต่ไม่คิดให้ดีๆก่อน
เเล้วก็อีกเรื่องหนึ่งในดาวินชี่โคด ที่เค้าว่ารูปเเบบการจัดวางรูปเดอะลาสซัปเปอร์ ตรงพระเยซูกับเซนต์จอห์น
เป็นรูปตัวเอม น่าจะหมายถึง แมรี แมกดาเลน ให้ตายเถอะ ถ้าเป็นอย่างนั้นจริง ทำไมไม่มีใครคิดว่า มันอาจจะหมายถึง พระนางมารีอา(มารดาพระเจ้า) บ้าง 
เเต่ก็นั่นเเหล่ะ มันเป็นเเค่ เรื่องคิดไปเองทั้งเพ
Anti-Dan Brown :emotion_057:
Lord, mercy on them

เห็นข่าวแล้วตกใจ เฮ้อน่าหนักใจนะ ทั้งประเทศไทย ทั้งโก วุ่นวายกันไปหมด

ไม่รูต่อไปจะยกอะไรมาอ้างกันอีก

ดีครับ  คริสตชน จะได้สมานฉันท์กันไง เนอะๆ เมื่อความเชื่อถูก ผู้อื่น พยายามที่จะสั่นคลอน เราก็จะกลิ้งๆขลุก ๆ ๆ มารวมเป็นก้อนเดียวกัน รวมกันเพื่อสำแดงให้เห็นพลังในการเป็นหนึ่งเดียวกันในพระคริสต์  สบ๊ายยยยยย  เบิร์ดๆอยู่แร้วววว  เรื่องแบบนี้  ขนมมากกกก 

ตอบง่ายนิดเดียว เทศกาลมหาพรตไง ...ไอ้พวกสร้างอยากได้เงิน

สรุปภาษาธรรมะธำโม คริสตังสังโฆ คือ ช่วงอดอาหาร 40 วัน มารมันประจญพระเยซูในถิ่นกันดาร :evil:

ยุคของเราช่วงเราอดอาหารเตรียมตัวฉลองชัยปัสกา มารยุคใหม่มันก็กวนใจ ผ่านภาพยนตร์ งี่เง้า เราก็ตอบมารไปดิ "ฉันไม่ต้องบำรุงกาย
ด้วยหนังโกหกหลอกลวงของพวกแก  ขอแกกลับใจใหม่เพื่อพระจะเมตตา ฯลฯ "

เข้าท่าไหมเพ่


ปล.อันที่จริงพี่สาวคนสวยแอบให้น้องๆดูในที่ลึกลับแล้ว  แต่พี่ปลาซาดีน เจ้าของกระทู้อุตส่าห์แปะแล้วหายไป ไม่ให้เครดิต เว็บไซต์อีก :huh:

ไม่เชือ่พระเจ้าไมต้องทำกันแบบนี้ด้วยอะ

ไม่เคยเจอศาสนาไหนโดนโจมตีเท่าศาสนาเราลยอะ พระเจ้าทำไมทางรอดมักถูกพวกมารล่อลวงให้คนไขว้เขวเพิ่มขึ้นด้วยอะ ภาวนาๆๆๆๆ

พวกนี้อยากดังกันมากหรือยังไง ถึงได้ทำเเต่เรื่อง........
เหอะๆ ไม่ทราบว่าอยากจะให้คนอื่นคิดว่าตัวเองเป็นฮีโร่ผู้บุกเบิกเเละเปิดเผยความลับ(อันหลอกลวง)รึ?
เดี๋ยวนี้ ก็เลยกลายเป็นเเฟชั่นใหม่ ใครเเอนตี้ไครซ์ได้ คนนั้นดัง กอบโกยเงินจากการหยามพระผู้เป็นเจ้า
พอใจซาตานมันเลย
โห่ !!!!!!!!!!!!!!!!1 :evil: :evil: :evil:
เอาเถิด
เราเชื่อว่า พวกเขาจะพบความจริง
เเละเเน่นอน ไม่ว่าเขาคนนั้นจะทำให้พระเจ้าเสียๆหาย เเต่ พระองค์ก็ยังทรงรักเขา 

The ossuaries were inscribed with the Hebrew names

มันแปลกตรงที่ว่า ไม่เคยมีการเทียบ dna กับของต้นฉบับ แล้วจะอ้างว่าเป็นของพระเยซูนี่ ตีขลุมไปหน่อยมั๊งฮับ

พูดกันขำๆ นะฮับ อย่าซีเรียส--อยากรู้ว่าจริงไม่จริง เอาdnaจากผู้พันพระศพตูริน กับ ชิ้นเนื้อ และเลือด ใน Eucharistic Miracle of Lanciano ไปตรวจสิฮับ

อย่าว่าแต่คนอื่นเลยครับ หลายครั้งคนที่บอกว่าเชื่อพระเยซูเอง
แต่ก็ยังมีหนังสือนอกเหนือจากพระคัมภีร์อีก แต่งแต้มขึ้นมา
เกินกว่า 66 เล่มนั้นอีก
เพราะว่าพื้นฐานมนุษย์ไม่เชื่อในสิ่งที่มองไม่เห็น

Chay เขียน: อย่าว่าแต่คนอื่นเลยครับ หลายครั้งคนที่บอกว่าเชื่อพระเยซูเอง
แต่ก็ยังมีหนังสือนอกเหนือจากพระคัมภีร์อีก แต่งแต้มขึ้นมา
เกินกว่า 66 เล่มนั้นอีก
เพราะว่าพื้นฐานมนุษย์ไม่เชื่อในสิ่งที่มองไม่เห็น

ประกาศตัวแล้วครับท่าน
นี่ท่านกำลังหาว่าคาทอลิกนอกรีตใช่ป่าวเอ่ย 

Chay เขียน: อย่าว่าแต่คนอื่นเลยครับ หลายครั้งคนที่บอกว่าเชื่อพระเยซูเอง
แต่ก็ยังมีหนังสือนอกเหนือจากพระคัมภีร์อีก แต่งแต้มขึ้นมา
เกินกว่า 66 เล่มนั้นอีก
เพราะว่าพื้นฐานมนุษย์ไม่เชื่อในสิ่งที่มองไม่เห็น

แต่งเติมขึ้นมา 66 เล่ม เหอๆๆๆ รบกวนบอกฐานทัพท่าน chay มาหน่อยคะ อยู่พรรคไหน สังกัดอะไรคะ

Chay เขียน: อย่าว่าแต่คนอื่นเลยครับ หลายครั้งคนที่บอกว่าเชื่อพระเยซูเอง
แต่ก็ยังมีหนังสือนอกเหนือจากพระคัมภีร์อีก แต่งแต้มขึ้นมา
เกินกว่า 66 เล่มนั้นอีก
เพราะว่าพื้นฐานมนุษย์ไม่เชื่อในสิ่งที่มองไม่เห็น

หนังสืออธิกธรรมที่อยู่ในสาระบบของพระคัมภีร์แต่แรกถูกตัดออกไปภายหลังสมัย มาติน ลูเธอร์ แต่ผู้ไม่เรียนรู้ประวัติศาสตร์ มักออกมาพูดมั่วๆหาว่ามาแต่งเพิ่ม หนังสือที่เพิ่งโดนใครบางคนตัดออกไปเมื่อ500ปีก่อน แต่ใช้ในพระศาสนจักรมานานก่อนหน้านั้นถึง1,500ปี ถูกกลับขาวเป็นดำซะงั้น

คนที่คิดว่ารู้พระคัมภีร์ โดยไม่รู้ประวัติศาสตร์ที่มาของพระคัมภีร์เลย ที่จริงอาจเป็นเพียงคนที่ไม่รู้อะไรเลยนะครับ ถูกคริสตจักรสอนแบบหลอกลวงมาก็หลงเชื่อไปหมด

แหมแบบนี้ว่างๆผมมาตั้งกระทู้สังคยานาเรื่องพระคัมภีร์แบบถูกต้องตามประวัติศาสตร์ท่าจะดี ว่าที่จริงอธิกธรรมถูกเติมหรือโดนตัดกันแน่ และที่สำคัญ บรรดาอัครสาวกยุคแรกเริ่ม อ้างพระคัมภีร์นอกสาระบบกันหลายครั้งหลายหน ในการเขียนจดหมายของตน จนถูกเลือกกลายเป็นพระธรรมใหม่ภายหลังแล้ว ข้อความอ้างอิงอธิกธรรมพวกนี้ยังไม่เคยโดนตัด อ่านแล้วพวกชอบประนามอธิกธรรมจะหนาว ว่าที่จริงมีอธิกธรรมซ่อนอยู่ในพระธรรมเดิมและพระธรรมใหม่เยอะมากเพียงไร

ว่างๆอ่านกระทู้นี้นะครับ เปิดหูเปิดตาบ้าง

http://www.newmana.com/yabb/index.php?topic=5261.0

Holy เขียน:

Chay เขียน: อย่าว่าแต่คนอื่นเลยครับ หลายครั้งคนที่บอกว่าเชื่อพระเยซูเอง
แต่ก็ยังมีหนังสือนอกเหนือจากพระคัมภีร์อีก แต่งแต้มขึ้นมา
เกินกว่า 66 เล่มนั้นอีก
เพราะว่าพื้นฐานมนุษย์ไม่เชื่อในสิ่งที่มองไม่เห็น

หนังสืออธิกธรรมที่อยู่ในสาระบบของพระคัมภีร์แต่แรกถูกตัดออกไปภายหลังสมัย มาติน ลูเธอร์ แต่ผู้ไม่เรียนรู้ประวัติศาสตร์ มักออกมาพูดมั่วๆหาว่ามาแต่งเพิ่ม หนังสือที่เพิ่งโดนใครบางคนตัดออกไปเมื่อ500ปีก่อน แต่ใช้ในพระศาสนจักรมานานก่อนหน้านั้นถึง1,500ปี ถูกกลับขาวเป็นดำซะงั้น

คนที่คิดว่ารู้พระคัมภีร์ โดยไม่รู้ประวัติศาสตร์ที่มาของพระคัมภีร์เลย ที่จริงอาจเป็นเพียงคนที่ไม่รู้อะไรเลยนะครับ ถูกคริสตจักรสอนแบบหลอกลวงมาก็หลงเชื่อไปหมด

แหมแบบนี้ว่างๆผมมาตั้งกระทู้สังคยานาเรื่องพระคัมภีร์แบบถูกต้องตามประวัติศาสตร์ท่าจะดี ว่าที่จริงอธิกธรรมถูกเติมหรือโดนตัดกันแน่ และที่สำคัญ บรรดาอัครสาวกยุคแรกเริ่ม อ้างพระคัมภีร์นอกสาระบบกันหลายครั้งหลายหน ในการเขียนจดหมายของตน จนถูกเลือกกลายเป็นพระธรรมใหม่ภายหลังแล้ว ข้อความอ้างอิงอธิกธรรมพวกนี้ยังไม่เคยโดนตัด อ่านแล้วพวกชอบประนามอธิกธรรมจะหนาว ว่าที่จริงมีอธิกธรรมซ่อนอยู่ในพระธรรมเดิมและพระธรรมใหม่เยอะมากเพียงไร

ว่างๆอ่านกระทู้นี้นะครับ เปิดหูเปิดตาบ้าง

http://www.newmana.com/yabb/index.php?topic=5261.0

น่านน่ะสิๆๆๆๆ

:+: seraphim :+: เขียน:

Chay เขียน: อย่าว่าแต่คนอื่นเลยครับ หลายครั้งคนที่บอกว่าเชื่อพระเยซูเอง
แต่ก็ยังมีหนังสือนอกเหนือจากพระคัมภีร์อีก แต่งแต้มขึ้นมา
เกินกว่า 66 เล่มนั้นอีก
เพราะว่าพื้นฐานมนุษย์ไม่เชื่อในสิ่งที่มองไม่เห็น

แต่งเติมขึ้นมา 66 เล่ม เหอๆๆๆ รบกวนบอกฐานทัพท่าน chay มาหน่อยคะ อยู่พรรคไหน สังกัดอะไรคะ

ความจริงตั้งแต่เจอคำว่า บึงไฟ ก็พอจะเดาได้แล้วนะครับว่ามาจากสายไหน จะสังเกตุได้ว่า เน้นแต่เรื่องความรอด ไปสวรค์ตกนรก แต่ไม่ชอบพูดเรื่องความรัก และสันติสุข

Holy เขียน:

:+: seraphim :+: เขียน:

Chay เขียน: อย่าว่าแต่คนอื่นเลยครับ หลายครั้งคนที่บอกว่าเชื่อพระเยซูเอง
แต่ก็ยังมีหนังสือนอกเหนือจากพระคัมภีร์อีก แต่งแต้มขึ้นมา
เกินกว่า 66 เล่มนั้นอีก
เพราะว่าพื้นฐานมนุษย์ไม่เชื่อในสิ่งที่มองไม่เห็น

แต่งเติมขึ้นมา 66 เล่ม เหอๆๆๆ รบกวนบอกฐานทัพท่าน chay มาหน่อยคะ อยู่พรรคไหน สังกัดอะไรคะ

ความจริงตั้งแต่เจอคำว่า บึงไฟ ก็พอจะเดาได้แล้วนะครับว่ามาจากสายไหน จะสังเกตุได้ว่า เน้นแต่เรื่องความรอด ไปสวรค์ตกนรก แต่ไม่ชอบพูดเรื่องความรัก และสันติสุข

มาจากที่นั่นอีกแล้วหรอครับ