คำเทศนาบนภูเขา คือ ธรรมนูญแห่งความดีพร้อมของเรา
..............
คำเทศนาบนภูเขา คือ ธรรมนูญแห่งความดีพร้อมของเรา
ในคำเทศนาบนภูเขา
พระเยซูทรงประทานหนทางแปดประการ เป็นที่ซึ่งแจ้งชัดแก่เรา เพื่อเราจะรับความปิติยินดีเช่นนี้ข้อประกาศคำเทศนาแต่ละข้อนี้เริ่มต้น
ด้วยคำว่าผู้เป็นสุข "คำว่าผู้เป็นสุข" ได้ถูกนิยามว่าอยู่เหนือกว่าความสุข
ความสุขมาจากภายนอกและมันขึ้นอยู่กับสภาวการณ์ต่างๆ แต่คำว่า ผู้เป็นสุข มันเป็นการบังเกิดขึ้นจากภายในของเราของความปิติยินดี
ด้วยตนเองซึ่งไม่ว่าจะสถานการณ์ใดก็ตาม ก็ไม่สามารถมีผลต่อมัน
คำประกาศของพระอาจารย์พระผู้ช่วยให้รอดนี้เป็นที่รู้จักกันในโลกของชาวคริสต์ในนามของ ผู้เป็นสุข
คำเทศนาบนภูเขาของพระเยซู เป็นคำสอนที่จะช่วยให้เราเป็นเสมือนพระบิดาบนสวรรค์ของเรามากขึ้น และเมื่อเราได้อ่านพระคัมภีร์
เราได้รู้สึกถึงไหมครับว่า?พระเยซูทรงพรรณาถึงคุณสมบัติของผู้ที่ได้รับความสูงส่งอย่างแท้จริง?
โดยมีสิ่งนี้ในความคิดของเรา ผู้เป็นสุข เมื่อเราได้อ่าน
พระคัมภีร์์แต่ละข้อจาก(มัทธิว5:1-12) ท่านจะพบกับข้อความคำว่า ผู้เป็นสุข ถึงจำนวน 9 ครั้งด้วยกันมันก็คือขั้นตอนแห่งความดีพร้อม
ของเราที่จะสามารถทำให้เรารักพระผู้เป็นเจ้าและเพื่อนมนุษย์ของเราอย่างแท้จริงการหันจากความรักของโลกสู่ความรักของพระผู้เป็นเจ้า
คำเทศนาบนภูเขาของพระผู้ช่วยให้รอด คือ ธรรมนูญแห่งความดีพร้อมของเรา
(1) ผู้ใดรู้สึกบกพร่องฝ่ายวิญญาญ ผู้นั้นเป็นสุข (มัทธิว5:3)
การที่เราสำรวจ มองตัวเราเองมีความบกพร่องฝ่ายวิญญาญ โดยพึ่งพาพระเจ้าอยู่เสมอสำหรับอาหารและเครื่องนุ่งห่มและอากาศที่เรา
แต่ละคนสูดลมหายใจเข้าออกอยู่ในทุกวันนี้ สุขภาพของท่าน ชีวิตของท่าน โดยที่รับรู้ว่าเราจะไม่มีวันใดเลยที่ท่านจะผ่านไปโดย
ปราศจากการสวดอ้อนวอนอันแรงกล้าเพื่อแสดงความกตัญญูและการขอบพระทัยพระองค์ เพื่อการนำทางการให้อภัยและความเข้มแข็งที่เพียงพอสำหรับเราแต่ละวันที่จำเป็น
(2) บุคคลใดโศกเศร้า ผู้นั้นเป็นสุข (มัทธิว5:4)
ที่จะโศกเศร้า ดังบทเรียนของพระอาจารย์จะสอนสั่งในที่นี้ เราต้องแสดงความเสียใจแบบของพระเจ้าที่ทำให้มีการกลับใจ เรามาสู่พระผู้ช่วยให้รอดโดยการแสดงให้เห็นถึงหัวใจของเราและวิญญาญที่สำนึกผิด
(3) บุคคลใดมีใจอ่อนโยน ผู้นั้นเป็นสุข (มัทธิว5:5)
บุคคลผู้อ่อนโยน หมายถึงผู้ที่มิถูกทำให้โกรธหรือขุ่นเคืองโดยง่าย และละจากการทำร้ายผู้อื่นหรือการก่อให้เกิดความรำคาญ ความอ่อนน้อมมันมิได้เป็นสิ่งเดียวกันกับความอ่อนแอ บุคคลที่อ่อนน้อมคือผู้ที่เข้มแข็งทรงพลัง บุุคคลซึ่งเอาชนะในตน
และเป็นนายของตนเองอย่างสมบูรณ์เขาคือบุคคลที่มีความกล้าหาญในความเชื่อมั่นทางศิลธรรมของเขาแม้จะมีแรงกดดัน
จากกลุ่มหรือจากหมู่เหล่า
(4)บุคคลใดหิวกระหาย ความชอบธรรมผู้นั้นเป็นสุข (มัทธิว5:6)
ผมอยากถามแต่ละท่านว่า ท่านเคยหิวข้าวหรือหิวอาหารมากๆ ไหมครับ? ท่านเคยกระหายน้ำดื่มมากๆ ไหมครับ? แค่ท่านได้กินข้าว
ซักปั้นหนึ่งเพียงน้อยนิดหรือเพียงแค่ได้จิบน้ำเย็นๆสักจิบหนึ่งมันก็จะทำให้ความทุกข์ของท่านคลายลง
มันดูเหมือนว่ามันจะเป็นสิ่งที่มีค่ามากที่สุด ในสิ่งที่ท่านครอบครองอยู่ ถ้าท่านเคยหิวและกระหายมากเท่านี้มาก่อน
ท่านก็อาจจะเริ่มเข้าใจถึงความหมายที่พระอาจารย์ตรัสว่า เราควรหิวและกระหายเพื่อความชอบธรรม พระองค์ตรัสว่าการหิวและกระหายซึ่งนำบรรดาผู้ที่ออกจากบ้านเพื่อแสวงหา
ความเป็นเพื่อนกับสิทธิชนและการรับใช้ และนำไปสู่การนมันการพระเจ้า
(5)บุคคลผู้ใดมีใจกรุณา ผู้นั้นเป็นสุข (มัทธิว5:7)
ความรอดของเราขึ้นอยู่กับความกรุณา ที่เราแสดงต่อผู้อื่น ถ้อยคำที่ไร้เมตตาและโหดร้ายหรือการกระทำที่โหดร้าย
อย่างไม่เลือกต่อมนุษย์ หรือสัตว์แม้แต่เพื่อเป็นการแก้แค้นทำให้ผู้กระทำขาดคุณสมบัติในคำอ้างของเขา
เพื่อขอความเมตตา เมื่อเขาต้องการความเมตตาในวันแห่งการพิพากษา
มีผู้ใดบ้างไหมครับที่ไม่เคยได้รับบาดเจ็บจากคำว่าร้ายของอีกคนหนึ่ง
ซึ่งเขาคิดว่าเป็นเพื่อนของเขา? ท่านจำการต่อสู้ซึ่งท่านต้องขัดขืน
การคิดแก้แค้นหรือไม่?ขอพรมีแด่ทุกท่านที่มีใจกรุณาเพราะ่ท่านจะได้รับความกรุณา
(6)บุคคลใดมีใจบริสุทธิ์ ผู้นั้นเป็นสุข (มัทธิว5:8)
ถ้าท่านอยากจะเห็นพระผู้เป็นเจ้าท่านต้องมีใจบริสุทธิ์ ในข้อเขียนเรื่องเล่าของชาวยิวมีเรื่องราวเกี่ยวกับชายผู้หนึ่งที่แลเห็นสิ่งของอย่างหนึ่งใน
ระยะไกลๆ สิ่งซึ่งเขารู้สึกว่ามันน่าจะเป็นสัตว์ตัวหนึ่ง เมื่อมันใกล้เข้ามา เขาสามารถรู้ว่ามันเป็นชายคนหนึ่ง แต่เมื่อยิ่งใกล้เข้าอีกเข้ามามากขึ้นๆ
เขาก็สามารถเห็นว่านั่นคือเพื่อนของเขานั่นเอง! ในบางครั้งสายตาของเรา สามารถที่จะมองเห็นได้ในระยะเพียงแค่ระยะทางเท่านั้น
เพราะสายตาของเราถูกจำกัด ความคิดของเราถูกจำกัดในบางครั้ง
มีบางคนที่ได้คิดว่าพระเยซูคือมนุษย์คนหนึ่งเท่านั้น ศาสดาท่านหนึ่งเท่านั้น หรือเรื่องเล่าในอดีตเท่านั้นหรือแม้แต่คนที่เคยดำเนินชีวิตในหมู่บ้านเดียวกับพระองค์ก็เห็นพระองค์เป็นเพียงแค่
ลูกช่างไม้ของโยเซฟเท่านั้นมีเพียงผู้ชอบธรรมเท่านั้นที่เห็นพระองค์ในฐานะพระบุตรของพระผู้เป็นเจ้า ท่านจะแลเห็นพระผู้เป็นเจ้าก็ต่อเมื่อท่านมีความบริสุทธิ์ในหัวใจเท่านั้น
(7) บุคคลใดสร้างสันติ ผู้นั้นเป็นสุข (มัทธิว5:9)
ผู้สร้างสันติจะถูกเรียกว่าลูกหลานของพระผู้เป็นเจ้า ผู้ก่อความยุ่งยาก ผู้ต่อต้านกฏและระเบียบ ผู้นำการก่อม็อบผู้ละเมิดกฏหมาย
ได้รับการกระตุ้นจากจุดประสงค์แห่งความชั่วร้ายจงรั้งตัวของท่านจากผู้ที่ไม่ก่อให้เกิดความสันติ
ผู้ที่ชอบแผ่ขยายความวุ่นวายผู้ที่ชอบการทะเลาะวิวาทคือผู้ทำให้สิ่งร้ายลุกลามและการโต้แย้ง
การละเมิดหลักธรรมที่พระอาจารย์ทรงวางไว้ให้เป็นหลักในการสร้างชีิวิตที่เป็นสุขสมบูรณ์สันติบนโลกและไมตรี
คือเพลงของที่เทพที่บอกกล่าวถึงการประสูติมาของเจ้าชายแห่งสันติ
(8) บุคคล บุคคลผู้ใดต้องถูกข่มเหงเพราะเหตุความชอบธรรม ผู้นั้นเป็นสุข (มัทธิว5:10)
ขอให้พี่น้องสิทธิชนยุคสุดท้ายทุกหนแห่งครับว่าจงพึงระลึกถึงคำเตือนนั้น เมื่อท่านถูกโห่ฮาและการเย้ยหยัน และการกล่าวคำอันเป็นเท็จ และเมื่อท่านได้ปฏิเสธตัวท่านเองที่จะลดหย่อนมาตรฐานของตัวท่าน การงดเว้นต่างๆการซื่อสัตย์และศิลธรรมเพื่อที่จะชนะ
การเห็นชอบจากผู้คนทั่วไป
ถ้าท่านยืนหยัดโดยมั่นคงต่อสิ่งที่ถูกต้องแม้จะมีเสียงล้อเลียนจากผู้คนทั่วไป หรือแม้แต่การใช้กำลังรุนแรงขอให้ท่านรับรู้ได้ว่าท่านจะได้รับมงกุฏด้วยพรแห่งความปิติยินดีนิรันดร์
การพยายามอันต่อเนื่องที่จะได้คุณลักษณะแห่งพระผู้เป็นเจ้า
จากคำบอกกล่าวในหัวข้อพระคัมภีร์ที่ท่านได้อ่านมา ท่านสามารถเห็นสิ่งนี้ได้หรือไม่ครับว่า"ผู้เป็นสุข"มันเป็นเสมือนกับบันไดที่จะ นำท่านขึ้นไปสู่พระคริสต์โดยที่ท่านสามารถรับพลังจากพระองค์เพื่อเป็นเหมือนพระองค์มากขึ้นเรื่อยๆ แต่จงพึงระลึกเสมอว่า
ในการขึ้นบันไดนี้จำต้องมีความพยายาม บางคนอาจจะกล่าวว่ามันเป็นไปไม่ได้แต่นี่เป็นความคิดที่ผิด
(มัทธิว5:1-12)
- * -
แบ่งปัน เพื่อนพี่น้องชาวคริสต์ และเพื่อนพี่น้องทุกท่านในเวบบอร์ดห้องศาสนาแห่งนี้ ถ้าท่านคิดว่าหลักธรรมใด
มีคุณธรรมอันงดงามข้อใดที่ท่านคิดว่าสามารถนำมันไปประยุกต์ใช้ได้ในชีวิตของท่านได้ ก็ขอให้ท่านจงปฎิบัติเถิด
..........
จากคุณ : Oasis : Thai_DeSeRT
คำเทศนาบนภูเขา คือ ธรรมนูญแห่งความดีพร้อมของเรา
ในคำเทศนาบนภูเขา
พระเยซูทรงประทานหนทางแปดประการ เป็นที่ซึ่งแจ้งชัดแก่เรา เพื่อเราจะรับความปิติยินดีเช่นนี้ข้อประกาศคำเทศนาแต่ละข้อนี้เริ่มต้น
ด้วยคำว่าผู้เป็นสุข "คำว่าผู้เป็นสุข" ได้ถูกนิยามว่าอยู่เหนือกว่าความสุข
ความสุขมาจากภายนอกและมันขึ้นอยู่กับสภาวการณ์ต่างๆ แต่คำว่า ผู้เป็นสุข มันเป็นการบังเกิดขึ้นจากภายในของเราของความปิติยินดี
ด้วยตนเองซึ่งไม่ว่าจะสถานการณ์ใดก็ตาม ก็ไม่สามารถมีผลต่อมัน
คำประกาศของพระอาจารย์พระผู้ช่วยให้รอดนี้เป็นที่รู้จักกันในโลกของชาวคริสต์ในนามของ ผู้เป็นสุข
คำเทศนาบนภูเขาของพระเยซู เป็นคำสอนที่จะช่วยให้เราเป็นเสมือนพระบิดาบนสวรรค์ของเรามากขึ้น และเมื่อเราได้อ่านพระคัมภีร์
เราได้รู้สึกถึงไหมครับว่า?พระเยซูทรงพรรณาถึงคุณสมบัติของผู้ที่ได้รับความสูงส่งอย่างแท้จริง?
โดยมีสิ่งนี้ในความคิดของเรา ผู้เป็นสุข เมื่อเราได้อ่าน
พระคัมภีร์์แต่ละข้อจาก(มัทธิว5:1-12) ท่านจะพบกับข้อความคำว่า ผู้เป็นสุข ถึงจำนวน 9 ครั้งด้วยกันมันก็คือขั้นตอนแห่งความดีพร้อม
ของเราที่จะสามารถทำให้เรารักพระผู้เป็นเจ้าและเพื่อนมนุษย์ของเราอย่างแท้จริงการหันจากความรักของโลกสู่ความรักของพระผู้เป็นเจ้า
คำเทศนาบนภูเขาของพระผู้ช่วยให้รอด คือ ธรรมนูญแห่งความดีพร้อมของเรา
(1) ผู้ใดรู้สึกบกพร่องฝ่ายวิญญาญ ผู้นั้นเป็นสุข (มัทธิว5:3)
การที่เราสำรวจ มองตัวเราเองมีความบกพร่องฝ่ายวิญญาญ โดยพึ่งพาพระเจ้าอยู่เสมอสำหรับอาหารและเครื่องนุ่งห่มและอากาศที่เรา
แต่ละคนสูดลมหายใจเข้าออกอยู่ในทุกวันนี้ สุขภาพของท่าน ชีวิตของท่าน โดยที่รับรู้ว่าเราจะไม่มีวันใดเลยที่ท่านจะผ่านไปโดย
ปราศจากการสวดอ้อนวอนอันแรงกล้าเพื่อแสดงความกตัญญูและการขอบพระทัยพระองค์ เพื่อการนำทางการให้อภัยและความเข้มแข็งที่เพียงพอสำหรับเราแต่ละวันที่จำเป็น
(2) บุคคลใดโศกเศร้า ผู้นั้นเป็นสุข (มัทธิว5:4)
ที่จะโศกเศร้า ดังบทเรียนของพระอาจารย์จะสอนสั่งในที่นี้ เราต้องแสดงความเสียใจแบบของพระเจ้าที่ทำให้มีการกลับใจ เรามาสู่พระผู้ช่วยให้รอดโดยการแสดงให้เห็นถึงหัวใจของเราและวิญญาญที่สำนึกผิด
(3) บุคคลใดมีใจอ่อนโยน ผู้นั้นเป็นสุข (มัทธิว5:5)
บุคคลผู้อ่อนโยน หมายถึงผู้ที่มิถูกทำให้โกรธหรือขุ่นเคืองโดยง่าย และละจากการทำร้ายผู้อื่นหรือการก่อให้เกิดความรำคาญ ความอ่อนน้อมมันมิได้เป็นสิ่งเดียวกันกับความอ่อนแอ บุคคลที่อ่อนน้อมคือผู้ที่เข้มแข็งทรงพลัง บุุคคลซึ่งเอาชนะในตน
และเป็นนายของตนเองอย่างสมบูรณ์เขาคือบุคคลที่มีความกล้าหาญในความเชื่อมั่นทางศิลธรรมของเขาแม้จะมีแรงกดดัน
จากกลุ่มหรือจากหมู่เหล่า
(4)บุคคลใดหิวกระหาย ความชอบธรรมผู้นั้นเป็นสุข (มัทธิว5:6)
ผมอยากถามแต่ละท่านว่า ท่านเคยหิวข้าวหรือหิวอาหารมากๆ ไหมครับ? ท่านเคยกระหายน้ำดื่มมากๆ ไหมครับ? แค่ท่านได้กินข้าว
ซักปั้นหนึ่งเพียงน้อยนิดหรือเพียงแค่ได้จิบน้ำเย็นๆสักจิบหนึ่งมันก็จะทำให้ความทุกข์ของท่านคลายลง
มันดูเหมือนว่ามันจะเป็นสิ่งที่มีค่ามากที่สุด ในสิ่งที่ท่านครอบครองอยู่ ถ้าท่านเคยหิวและกระหายมากเท่านี้มาก่อน
ท่านก็อาจจะเริ่มเข้าใจถึงความหมายที่พระอาจารย์ตรัสว่า เราควรหิวและกระหายเพื่อความชอบธรรม พระองค์ตรัสว่าการหิวและกระหายซึ่งนำบรรดาผู้ที่ออกจากบ้านเพื่อแสวงหา
ความเป็นเพื่อนกับสิทธิชนและการรับใช้ และนำไปสู่การนมันการพระเจ้า
(5)บุคคลผู้ใดมีใจกรุณา ผู้นั้นเป็นสุข (มัทธิว5:7)
ความรอดของเราขึ้นอยู่กับความกรุณา ที่เราแสดงต่อผู้อื่น ถ้อยคำที่ไร้เมตตาและโหดร้ายหรือการกระทำที่โหดร้าย
อย่างไม่เลือกต่อมนุษย์ หรือสัตว์แม้แต่เพื่อเป็นการแก้แค้นทำให้ผู้กระทำขาดคุณสมบัติในคำอ้างของเขา
เพื่อขอความเมตตา เมื่อเขาต้องการความเมตตาในวันแห่งการพิพากษา
มีผู้ใดบ้างไหมครับที่ไม่เคยได้รับบาดเจ็บจากคำว่าร้ายของอีกคนหนึ่ง
ซึ่งเขาคิดว่าเป็นเพื่อนของเขา? ท่านจำการต่อสู้ซึ่งท่านต้องขัดขืน
การคิดแก้แค้นหรือไม่?ขอพรมีแด่ทุกท่านที่มีใจกรุณาเพราะ่ท่านจะได้รับความกรุณา
(6)บุคคลใดมีใจบริสุทธิ์ ผู้นั้นเป็นสุข (มัทธิว5:8)
ถ้าท่านอยากจะเห็นพระผู้เป็นเจ้าท่านต้องมีใจบริสุทธิ์ ในข้อเขียนเรื่องเล่าของชาวยิวมีเรื่องราวเกี่ยวกับชายผู้หนึ่งที่แลเห็นสิ่งของอย่างหนึ่งใน
ระยะไกลๆ สิ่งซึ่งเขารู้สึกว่ามันน่าจะเป็นสัตว์ตัวหนึ่ง เมื่อมันใกล้เข้ามา เขาสามารถรู้ว่ามันเป็นชายคนหนึ่ง แต่เมื่อยิ่งใกล้เข้าอีกเข้ามามากขึ้นๆ
เขาก็สามารถเห็นว่านั่นคือเพื่อนของเขานั่นเอง! ในบางครั้งสายตาของเรา สามารถที่จะมองเห็นได้ในระยะเพียงแค่ระยะทางเท่านั้น
เพราะสายตาของเราถูกจำกัด ความคิดของเราถูกจำกัดในบางครั้ง
มีบางคนที่ได้คิดว่าพระเยซูคือมนุษย์คนหนึ่งเท่านั้น ศาสดาท่านหนึ่งเท่านั้น หรือเรื่องเล่าในอดีตเท่านั้นหรือแม้แต่คนที่เคยดำเนินชีวิตในหมู่บ้านเดียวกับพระองค์ก็เห็นพระองค์เป็นเพียงแค่
ลูกช่างไม้ของโยเซฟเท่านั้นมีเพียงผู้ชอบธรรมเท่านั้นที่เห็นพระองค์ในฐานะพระบุตรของพระผู้เป็นเจ้า ท่านจะแลเห็นพระผู้เป็นเจ้าก็ต่อเมื่อท่านมีความบริสุทธิ์ในหัวใจเท่านั้น
(7) บุคคลใดสร้างสันติ ผู้นั้นเป็นสุข (มัทธิว5:9)
ผู้สร้างสันติจะถูกเรียกว่าลูกหลานของพระผู้เป็นเจ้า ผู้ก่อความยุ่งยาก ผู้ต่อต้านกฏและระเบียบ ผู้นำการก่อม็อบผู้ละเมิดกฏหมาย
ได้รับการกระตุ้นจากจุดประสงค์แห่งความชั่วร้ายจงรั้งตัวของท่านจากผู้ที่ไม่ก่อให้เกิดความสันติ
ผู้ที่ชอบแผ่ขยายความวุ่นวายผู้ที่ชอบการทะเลาะวิวาทคือผู้ทำให้สิ่งร้ายลุกลามและการโต้แย้ง
การละเมิดหลักธรรมที่พระอาจารย์ทรงวางไว้ให้เป็นหลักในการสร้างชีิวิตที่เป็นสุขสมบูรณ์สันติบนโลกและไมตรี
คือเพลงของที่เทพที่บอกกล่าวถึงการประสูติมาของเจ้าชายแห่งสันติ
(8) บุคคล บุคคลผู้ใดต้องถูกข่มเหงเพราะเหตุความชอบธรรม ผู้นั้นเป็นสุข (มัทธิว5:10)
ขอให้พี่น้องสิทธิชนยุคสุดท้ายทุกหนแห่งครับว่าจงพึงระลึกถึงคำเตือนนั้น เมื่อท่านถูกโห่ฮาและการเย้ยหยัน และการกล่าวคำอันเป็นเท็จ และเมื่อท่านได้ปฏิเสธตัวท่านเองที่จะลดหย่อนมาตรฐานของตัวท่าน การงดเว้นต่างๆการซื่อสัตย์และศิลธรรมเพื่อที่จะชนะ
การเห็นชอบจากผู้คนทั่วไป
ถ้าท่านยืนหยัดโดยมั่นคงต่อสิ่งที่ถูกต้องแม้จะมีเสียงล้อเลียนจากผู้คนทั่วไป หรือแม้แต่การใช้กำลังรุนแรงขอให้ท่านรับรู้ได้ว่าท่านจะได้รับมงกุฏด้วยพรแห่งความปิติยินดีนิรันดร์
การพยายามอันต่อเนื่องที่จะได้คุณลักษณะแห่งพระผู้เป็นเจ้า
จากคำบอกกล่าวในหัวข้อพระคัมภีร์ที่ท่านได้อ่านมา ท่านสามารถเห็นสิ่งนี้ได้หรือไม่ครับว่า"ผู้เป็นสุข"มันเป็นเสมือนกับบันไดที่จะ นำท่านขึ้นไปสู่พระคริสต์โดยที่ท่านสามารถรับพลังจากพระองค์เพื่อเป็นเหมือนพระองค์มากขึ้นเรื่อยๆ แต่จงพึงระลึกเสมอว่า
ในการขึ้นบันไดนี้จำต้องมีความพยายาม บางคนอาจจะกล่าวว่ามันเป็นไปไม่ได้แต่นี่เป็นความคิดที่ผิด
(มัทธิว5:1-12)
- * -
แบ่งปัน เพื่อนพี่น้องชาวคริสต์ และเพื่อนพี่น้องทุกท่านในเวบบอร์ดห้องศาสนาแห่งนี้ ถ้าท่านคิดว่าหลักธรรมใด
มีคุณธรรมอันงดงามข้อใดที่ท่านคิดว่าสามารถนำมันไปประยุกต์ใช้ได้ในชีวิตของท่านได้ ก็ขอให้ท่านจงปฎิบัติเถิด
..........
จากคุณ : Oasis : Thai_DeSeRT
-
- ~@
- โพสต์: 8259
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 9:56 pm
- ที่อยู่: Bangkok
ยินดีที่พี่โอเอซีส เข้ามาเยือนถึงถิ่นคร้าบ
บทผู้เป็นสุข ( มัทธิว 5.3-10 ) เป็นบทเริ่มต้น คำเทศนาบนภูเขาของพระเยซูเจ้า ฝ่ายเราโปรเตสแตนต์ เรียกว่า "บทมหาพร หรือ บทพรแปดประการ"
พี่น้องคาทอลิก ก็เรียกอีกแบบหนึ่ง ฮะ
บทผู้เป็นสุข ( มัทธิว 5.3-10 ) เป็นบทเริ่มต้น คำเทศนาบนภูเขาของพระเยซูเจ้า ฝ่ายเราโปรเตสแตนต์ เรียกว่า "บทมหาพร หรือ บทพรแปดประการ"
พี่น้องคาทอลิก ก็เรียกอีกแบบหนึ่ง ฮะ
เมื่อก่อนนี้คาทอลิกเรียกว่า บุญลาภแปดประการ แต่ในปัจจุบัน เปลี่ยนมาให้เรียกว่า ความสุขแท้แปดประการ ครับ
-
- ~@
- โพสต์: 7624
- ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ มี.ค. 23, 2005 9:49 pm
- ที่อยู่: Pattaya Chonburi
อันตน เขียน: ลูกชายผม "อัฐสุข" ครับ
ชื่อเล่น น้องบุญลาภ เรียกสั้นๆ น้องลาภ (บ) อร่อยดี อิอิอิ
ทีแรกว่าจะให้ชื่อบุญลาภนั่นแหละ แต่แม่เด็กค้านสุดตัวเนื่องจากเห็นว่า มันพื้นเมืองเกินไป (ไม่เกี่ยวกับเรื่องศาสนาทั้งสิ้น):+: seraphim :+: เขียน:อันตน เขียน: ลูกชายผม "อัฐสุข" ครับ
ชื่อเล่น น้องบุญลาภ เรียกสั้นๆ น้องลาภ (บ) อร่อยดี อิอิอิ
-
- ~@
- โพสต์: 7624
- ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ มี.ค. 23, 2005 9:49 pm
- ที่อยู่: Pattaya Chonburi
อันตน เขียน:ทีแรกว่าจะให้ชื่อบุญลาภนั่นแหละ แต่แม่เด็กค้านสุดตัวเนื่องจากเห็นว่า มันพื้นเมืองเกินไป (ไม่เกี่ยวกับเรื่องศาสนาทั้งสิ้น):+: seraphim :+: เขียน:อันตน เขียน: ลูกชายผม "อัฐสุข" ครับ
ชื่อเล่น น้องบุญลาภ เรียกสั้นๆ น้องลาภ (บ) อร่อยดี อิอิอิ
อ่ะโถะ... ไม่งั้นมีเพลงประจำตัวแล้วเนี่ย เป็นบุญของผู้ที่มีจิตใจยากจน...................
55555:+: seraphim :+: เขียน:อันตน เขียน:ทีแรกว่าจะให้ชื่อบุญลาภนั่นแหละ แต่แม่เด็กค้านสุดตัวเนื่องจากเห็นว่า มันพื้นเมืองเกินไป (ไม่เกี่ยวกับเรื่องศาสนาทั้งสิ้น):+: seraphim :+: เขียน:
ชื่อเล่น น้องบุญลาภ เรียกสั้นๆ น้องลาภ (บ) อร่อยดี อิอิอิ
อ่ะโถะ... ไม่งั้นมีเพลงประจำตัวแล้วเนี่ย เป็นบุญของผู้ที่มีจิตใจยากจน...................
ตอนนี้กลางคืนก็ อ่าเอ้~~~~~ข้าเอ่อแด่~~~พระบิดา อ่าเอ้อออออ ของข้า อ่าเห้อ พเจ้า เอ้ย ทั้งหลาย อ่าเอ้ออออออ
บางทีมันก็หลับตั้งแต่ไม่จบ บางทีสิริพึงมีแล้วมันก็ยังตาแป๋ว
-
- ~@
- โพสต์: 7624
- ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ มี.ค. 23, 2005 9:49 pm
- ที่อยู่: Pattaya Chonburi
งั้นเสนอ คุณพ่อซื้อหนังสือเพลงได้เลยฮับ เริ่มด้วยเพลงแรกหน้า 1 ก้าวไปหาพระองค์ ในสันติร่วมจิตใจเดียว................ เชื่อดิชุมพาปั๊บหลับปุ๊ป
-
- ~@
- โพสต์: 12724
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 2:28 pm
- ที่อยู่: Thailand
รีบหลับไงพี่ ไม่อยากฟัง 555+ ล้อเล่นนะครับอันตน เขียน:55555:+: seraphim :+: เขียน:อันตน เขียน: ทีแรกว่าจะให้ชื่อบุญลาภนั่นแหละ แต่แม่เด็กค้านสุดตัวเนื่องจากเห็นว่า มันพื้นเมืองเกินไป (ไม่เกี่ยวกับเรื่องศาสนาทั้งสิ้น)
อ่ะโถะ... ไม่งั้นมีเพลงประจำตัวแล้วเนี่ย เป็นบุญของผู้ที่มีจิตใจยากจน...................
ตอนนี้กลางคืนก็ อ่าเอ้~~~~~ข้าเอ่อแด่~~~พระบิดา อ่าเอ้อออออ ของข้า อ่าเห้อ พเจ้า เอ้ย ทั้งหลาย อ่าเอ้ออออออ
บางทีมันก็หลับตั้งแต่ไม่จบ บางทีสิริพึงมีแล้วมันก็ยังตาแป๋ว
-
- ~@
- โพสต์: 7624
- ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ มี.ค. 23, 2005 9:49 pm
- ที่อยู่: Pattaya Chonburi
อันตน เขียน:จริงของพี่ เพราะอ้ายแดงกับนางจิ๋มมันมักจะเป็นลูกคู่ให้ทุกที รวมทั้งแม่เด็กซึ่งมักผินหลังให้ทันที่อ้าปากPhulasso เขียน:
วันไหนร้องเพราะ
น้องเขาก็ตื่นฟังน่ะสิ
ไม่รู้อะไรซะแล้ว ไอ้ที่ผินหลังอ่ะ ขยับปากตามฮับ