หน้า 1 จากทั้งหมด 1
ทางลัดสู่สวรรค์...แนะนำโดย...นักบุญเทเรซาแห่งพระกุมารเยซู
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. มี.ค. 29, 2007 3:32 pm
โดย Andreas
ความรักของนักบุญเทเรซาแห่งพระกุมารเยซูถึงขั้นสมบูรณ์ครบครัน อาศัยจิตตารมณ์ความเป็นเด็กฝ่ายจิตใจ ดำเนินตาม “ทางสายน้อย”
“การละทิ้งตัวตนทั้งครบเป็นสุดยอดแห่งความรัก และเหนือสิ่งอื่นใดก็คือจิตตารมณ์การเป็นเด็กฝ่ายจิต”
ขณะนั้น บรรดาศิษย์เข้ามาเฝ้าพระเยซูเจ้า ทูลถามว่า “ผู้ใดยิ่งใหญ่ที่สุดในอาณาจักรสวรรค์” พระเยซูเจ้าทรงเรียกเด็กเล็ก ๆ คนหนึ่งให้มายืนอยู่กลางกลุ่มพวกเขา แล้วตรัสว่า “เราบอกความจริงแก่ท่านทั้งหลายว่า ถ้าท่านไม่กลับเป็นเหมือนเด็กเล็ก ๆ ท่านจะเข้าอาณาจักรสวรรค์ไม่ได้เลย เพราะฉะนั้น ผู้ใดที่ถ่อมตนลงเป็นเหมือนเด็กเล็ก ๆ คนนี้ ผู้นั้นจะยิ่งใหญ่ที่สุดในอาณาจักรสวรรค์” (มธ 18:1-4)
มีผู้นำเด็กเล็ก ๆ มาเฝ้าพระเยซูเจ้าเพื่อทรงสัมผัสอวยพร แต่บรรดาศิษย์กลับดุว่าคนเหล่านั้น เมื่อทรงเห็นเช่นนี้ พระองค์กริ้ว ตรัสแก่บรรดาศิษย์ว่า “ปล่อยให้เด็กเล็ก ๆ มาหาเราเถิด อย่าห้ามเลย เพราะพระอาณาจักรของพระเจ้าเป็นของคนที่เหมือนเด็กเหล่านี้ เราบอกความจริงกับท่านว่า ผู้ใดไม่รับพระอาณาจักรของพระเจ้าอย่างเด็กเล็ก ๆ เขาจะไม่เข้าสู่พระอาณาจักรนั้นเลย” แล้วพระองค์ทรงอุ้มเด็กเหล่านั้นไว้ ทรงปกพระหัตถ์ และประทานพระพร (มก 10:13-16)
ในเวลานั้น พระเยซูเจ้าทรงปลาบปลื้มพระทัยเดชะพระจิตเจ้าตรัสว่า “ข้าแต่พระบิดาเจ้าฟ้าเจ้าแผ่นดิน ข้าพเจ้าสรรเสริญพระองค์ ที่พระองค์ทรงปิดบังเรื่องเหล่านี้จากบรรดาผู้ปรีชาและรอบรู้ แต่ทรงเปิดเผยแก่บรรดาผู้ต่ำต้อย ถูกแล้ว พระบิดาเจ้าข้า พระองค์พอพระทัยเช่นนั้น (ลก 10:21)
Re: จิตตารมณ์ความเป็นเด็กฝ่ายจิตของนักบุญเทเรซาแห่งพระกุมารเ
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. มี.ค. 29, 2007 3:39 pm
โดย Andreas

นักบุญเทเรซาเขียนว่า “ฉันปรารถนาเสมออยากเป็นนักบุญ แต่อนิจจา ! เมื่อเปรียบตัวเองกับนักบุญ ฉันก็เห็นความแตกต่างระหว่างฉันกับพวกท่าน เหมือนกับภูเขาสูงและเม็ดทรายเล็ก ๆ ต่ำต้อย อันถูกคนสัญจรไปมาเหยียบย่ำ แต่แทนที่จะน้อยเนื้อต่ำใจ ฉันพูดกับตัวเองว่า พระเจ้าไม่ปล่อยให้คนเราปรารถนาสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ เพราะฉะนั้น แม้ว่าฉันเป็นคนต่ำต้อย ฉันอาจเป็นนักบุญได้ ให้ฉันเติบโตขึ้นหรือ? มิใช่ดอก แต่ต้องทนเป็นอย่างที่เป็นอยู่ในขณะนี้ คือ เต็มไปด้วยความพกพร่องนานัปการ แต่ฉันอยากจะหาทางลัดทางตรง ทางใหม่ทีเดียวสำหรับไปสวรรค์ เดี๋ยวนี้เป็นยุคประดิษฐ์สิ่งประดิษฐ์ใหม่ ๆ เศรษฐีไม่ต้องเหยียบบันไดขึ้นบ้านแล้ว เขาใช้ลิฟต์ ฉันก็เหมือนกัน อยากใช้ลิฟต์ขึ้นไปหาพระเยซูเจ้า เพราะฉันตัวเล็กเกินไปไม่สามารถป่ายปีนบันไดลำบากยากเย็นไปสู่ความดีครบครัน ฉันจึงติดตามหาลิฟต์ดังกล่าวในพระคัมภีร์ ก็ได้พบมันจากพระวาจาของพระเจ้าเองว่า “”ปล่อยให้เด็กเล็ก ๆ มาหาเราเถิด” ฉะนั้น ฉันจึงเข้าไปใกล้พระองค์ นึกว่าพบสิ่งที่แสวงหาแล้ว มีความอยากรู้ว่า อะไรทำให้เป็นเด็กน้อย จึงค้นคว้าหาต่อไป ก็ได้พบคำจากพระคัมภีร์ว่า “ เช่นเดียวกับแม่ลูบไล้ลูกของตน เราจะบรรเทาใจเจ้า เราจะอุ้มเจ้าแนบอก จะเห่กล่อมเจ้าบนเข่าของเรา” ใช่แล้ว ! อะไรเล่าจะทำให้ฉันชื่นใจยิ่งกว่าพระวาจาไพเราะอ่อนหวานจับใจนี้ ลิฟต์ที่จะพาฉันขึ้นไปถึงพระองค์ พระเยซูเจ้า นั่นคือแขนของพระองค์เอง ดังนั้นฉันไม่ต้องเจริญวัยเติบโตเป็นผู้ใหญ่ ตรงข้ามต้องดำรงตนเป็นเด็กน้อย ยิ่งทียิ่งเล็กลง พระเจ้าข้า พระองค์ได้ให้คำตอบแก่ฉันเกินคาด ฉันอยากร้องเพลงสรรเสริญพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์”
Re: จิตตารมณ์ความเป็นเด็กฝ่ายจิตของนักบุญเทเรซาแห่งพระกุมารเ
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. มี.ค. 29, 2007 3:48 pm
โดย Andreas
เป็นอันว่านักบุญเทเรซาได้พบสุดยอดของความดีครบครันในการมีจิตตารมณ์เป็นเด็กฝ่ายจิต อันเป็นการแสดงความรักสูงสุดวิธีเดียว ที่ตรงแน่วสู่ที่ลึกแห่งดวงพระทัยของพระเจ้า
เธอสวดภาวนาว่า “ข้าแต่พระเยซูเจ้า ลูกเป็นแต่เด็กน้อยปราศจากเรี่ยวแรง แต่ว่าความอ่อนแอนี้เองทำให้ลูกกล้าถวายตัวเป็นยัญบูชาถวายแด่ความรักของพระองค์”
เธอแน่ใจทีเดียวว่า พระองค์ทรงรับรองการถวายตัวดังกล่าว เพราะว่า “เพื่อให้ความรักสมบูรณ์ ต้องถ่อมตัวลงถึงความไม่มีอะไรทีเดียว...แต่ก่อนพระเจ้าผู้ทรงสรรพานุภาพทรงพอพระทัยแต่เครื่องบูชาที่บริสุทธิ์ปราศจากมลทินเท่านั้น สำหรับชดเชยพระยุติธรรม ต้องถวายเครื่องบูชาที่ดีเลิศ แต่ว่ากฎแห่งความรักได้มาแทนที่กฎแห่งความกลัวแล้ว พระเจ้าแห่งความรักได้เลือกเอาตนเองเป็นเครื่องบูชา ตัวตนซึ่งเป็นสิ่งสร้างอ่อนแอและไม่ดีครบครัน”
เมื่อแน่ใจในความรักของพระเจ้าแล้ว นักบุญเทเรซาได้ใจใหญ่ กล้าไว้ใจในพระเกียรติคุณทุกประการของพระองค์ เช่น ในพระทัยกรุณา ในพระยุติธรรม พระทัยกรุณาผ่อนปรนยกโทษคนบาป พระยุติธรรมปกป้องคนสุภาพถ่อมตน
บิดามารดาที่ยุติธรรมไม่เร่งรัดทวงขออะไรที่เหลือบ่ากว่าแรงจากลูก แต่ป้องกันชุบเลี้ยงและอดทนความบกพร่องของลูก มนุษย์แท้ ๆ ยังปฏิบัติเช่นนี้ต่อลูกของตน เพราะเห็นแก่ความยุติธรรม สาอะไรกับพระยุติธรรมของพระเจ้า ซึ่งดีครบครันและกรุณาหาขอบเขตมิได้ ทรงรู้จักสงสารความอ่อนแอของมนุษย์ยิ่งกว่า
เธอพูดว่า “พระยุติธรรมนี้ที่หลายคนกลัวเกรง กลับเป็นเหตุบันดาลความยินดีและไว้ใจแก่ฉัน ฉันไว้ใจในพระยุติธรรมเท่า ๆ กับในพระทัยกรุณาของพระเจ้า เพราะพระองค์ทรงยุติธรรม จึงรู้สึกสงสาร เห็นใจและอ่อนหวาน ไม่ปรารถนาง่าย ๆ ที่จะลงโทษ ทั้งเปี่ยมด้วยพระทัยกรุณา เพราะพระองค์ทรงตระหนักถึงความอ่อนแอของเรา ทรงระลึกเสมอว่าเราเป็นแต่ผงคลี บิดารักลูกฉันใด พระเจ้าทรงเมตตาเราฉันนั้น”
เธอให้ข้อสังเกตว่า “ในครอบครัวคนยากจน ตราบใดที่ลูกอายุยังน้อย พ่อแม่ก็จัดหาสิ่งจำเป็นให้หมด แต่ว่าเมื่อลูกเจริญวัยเติบโตขึ้นแล้ว พ่อแม่ก็ไม่อยากเลี้ยงอีก บอกลูกว่า เจ้าโตแล้ว จงทำงานเลี้ยงตัวเองบ้าง เอาละฉันไม่อยากได้ยินคำสั่งเช่นนี้จากพระเจ้า จึงไม่อยากถือว่าตัวฉันเติบโตเป็นผู้ใหญ่ คิดว่าหากินเองไม่เป็น ไม่สามารถได้สวรรค์ด้วยลำแข้งของตนเองเลย...”
“ฉันมีความไว้ใจ มิใช่ด้วยกิจการดีที่กระทำ ไม่กี่วันก่อนอาการป่วยของฉันจะทรุดหนัก อารามคาร์แมลหลายแห่งร้องขอสมาชิกถวายกิจกุศลพิเศษอุทิศแก่บรรดาซิสเตอร์ที่ตายไปแล้ว ทีแรกฉันไม่มีเวลาว่าง แล้วเดี๋ยวนี้เพราะป่วยหนัก เขาจึงยกเว้น แต่ฉันอยากจะพูดว่า ได้ปฏิบัติข้อผูกพันครบถ้วนตามคำร้องขอของอาราม”
Re: จิตตารมณ์ความเป็นเด็กฝ่ายจิตของนักบุญเทเรซาแห่งพระกุมารเ
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. มี.ค. 29, 2007 3:57 pm
โดย Andreas
“แต่ว่าพระเจ้าได้ทรงแสดงให้เห็นว่า ฉันต่ำต้อยเหลือเกิน ในชั่วชีวิตนี้ไม่สามารถใช้หนี้ฝ่ายวิญญาณแม้แต่น้อย พระองค์พอพระทัยให้ฉันคงยากจนข้นแค้นเช่นนี้เรื่อยไป นั่นเป็นแสงสว่างแท้จริง เป็นพระคุณแท้จริง ฉันสบายใจท่องบทภาวนาของนักบุญยอห์นแห่งไม้กางเขนว่า “ขอพระองค์ใช้หนี้ทั้งหมดแทนลูกเถิด” ฉันสบายใจ สำนึกว่าตนเองยากจนที่สุด ไว้ใจในพระองค์ทุกสิ่งทุกอย่าง มอบภาระทั้งหมดแด่พระองค์” เธอพูดต่อไปว่า “องค์อุปถัมภ์บนสวรรค์ที่ฉันชอบมาก คือนักบุญที่ได้ขโมยเอาสวรรค์ เช่น นักบุญทารกผู้วิมล และโจรที่กลับใจ นักบุญองค์สำคัญอื่น ๆ ท่านได้สวรรค์เพราะกิจการกุศลของตนเอง ส่วนฉันขอเอาอย่างขโมย ใช้เล่ห์เหลี่ยมพลิกแพลง เล่ห์เหลี่ยมแห่งความรัก ที่จะช่วยเปิดประตูสวรรค์ให้ฉันและคนบาปน่าสมเพชทั้งหลาย พระจิตเจ้าทรงให้กำลังใจแต่ฉันในเรื่องนี้ ตามพระวาจาในหนังสือสุภาษิตที่ว่า “เด็กน้อยเอ๋ย มาเถอะ จงศึกษาเล่ห์เหลี่ยมไหวพริบจากเรา”
เล่ห์เหลี่ยมพิเศษที่เธอเรียนรู้ก็คือ เข้าใจว่า “พระเจ้าชื่นพระทัยที่จะพำนักอยู่กับกุลบุตรกุลธิดาของมนุษย์” เธอพยายามเลียนแบบเด็กน้อย ที่รู้จักออดอ้อนกับบิดาที่รัก เธอกราบทูลพระเจ้าว่า “ลูกอยากรักพระองค์เหมือนเด็กน้อย พระเจ้าข้า”
“เช่นเดียวกับกับเด็กน้องฉอเลาะกับพ่อแม่ ลูกอยากจู๋จี๋หยอกเย้ากับพระองค์ พระเจ้าข้า...เรียกพระองค์ว่า “พ่อ” และตัวเองว่า “ลูก” นี่แหละคือสวรรค์ของลูก หนังสือจำลองแบบพระคริสต์สอนว่า “ความรักระหว่างวิญญาณกับพระเจ้า ดลบันดาลให้เกิดความสนิทสนมกลมเกลียวน่าพิศวง” นักบุญเทเรซากล้าถือว่า คำของประกาศกอิสยาห์เป็นจริงสำหรับเธอเอง “เราจะอุ้มเจ้าแนบอก ให้เจ้ากินนม หยอกล้อกับเจ้าบนเข่าของเรา”
Re: จิตตารมณ์ความเป็นเด็กฝ่ายจิตของนักบุญเทเรซาแห่งพระกุมารเ
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. มี.ค. 29, 2007 4:05 pm
โดย Andreas
เธอคิดในใจวาดภาพเด็กสองคนเข้ามาหาพระเยซูเจ้า คนเล็กนั่งบนเข่าพระองค์ พระองค์ทรงหยอกเย้าเขาด้วยพระทัยรัก อีกคนใจขลาด จูบมือพระองค์ด้วยความเคารพ เธอพูดว่า “ฉันคือเด็กเล็กคนนั้น ที่นั่งบนเข่าพระเยซูเจ้า พระองค์พยุงศีรษะฉันเข้ามาใกล้ ฉันจูบพระองค์โดยไม่เกรงกลัวเลย ส่วนเด็กคนนั้นฉันไม่ชอบ เขาทำตัวเป็นผู้ใหญ่ ตีตัวออกห่างเกินไป”
วันหนึ่งเธออ่านพระคัมภีร์ตอนหนึ่งว่า “เซราฟิมหุบปีกปกหน้าไว้ เมื่ออยู่ต่อพระพักตร์พระเจ้า” เธอพูดว่า “เขาบอกว่า ฉันฉันจะได้ไปสวรรค์กับเซราฟิม หากเป็นเช่นนั้น ฉันจะไม่เอาอย่างเขาหรอก จะไม่หุบปีกปกหน้า มิฉะนั้นจะมองไม่เห็นพระเจ้า คล้ายกับเกรงกลัวพระองค์ แล้วคงหมดโอกาสพูดกับพระองค์ และพระองค์ก็จะไม่หยอกเย้าฉันด้วย ไม่เอาละ”
การเป็นเด็กฝ่ายจิตคืออะไร ? นักบุญเทเรซาให้คำจำกัดความเกี่ยวกับ “ทางสายน้อย” ว่าดังนี้
“การเป็นเด็ก คือ รับรู้ว่าตนเองเป็นแต่ความว่างเปล่า ประพฤติผิดก็ไม่เสียใจ เพราะเด็กย่อมล้มลุกคลุกคลาน เขาเล็กเกินไป ย่อมพลาดพลั้งเป็นธรรมดา”
เธอแต่งเพลงว่า
“สันติสุขของฉัน คือ เป็นเด็กเสมอ
ดังนั้นเมื่อพลาดหกล้มพลั้งเผลอ
ฉันจะรีบลุกและแก้ไขเร็วไว
พระเยซูก็ยื่นพระหัตถ์มาจับฉันไว้”
Re: จิตตารมณ์ความเป็นเด็กฝ่ายจิตของนักบุญเทเรซาแห่งพระกุมารเ
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. มี.ค. 29, 2007 4:08 pm
โดย Andreas
เธอเขียนถึงพี่เลโอนีว่า “สำหรับน้อง น้องคิดว่าเราสามารถบรรลุถึงความศักดิ์สิทธิ์ครบครันได้ไม่ยากเย็นอะไร เพราะน้องเข้าใจว่า มีแต่ “จับใจ” พระเยซูเจ้าให้ได้เท่านั้นเป็นพอ ตัวอย่างเด็กน้องที่ทำให้แม่โกรธ เพราะเขาโมโห หรือขัดคำสั่งของแม่ แล้วหนีไปแอบที่มุมบ้านทำหน้าบูดบึ้ง ร้องไห้โวยวายกลัวถูกทำโทษ แม่คงจะไม่ยกโทษเขาแน่ ๆ แต่ถ้าแทนที่จะทำอย่างที่ว่า เขากลับอ้าแขนโผเข้าหาแม่ ยิ้มแย้มพลางพูดว่า “แม่จ๋า หอมหนูสิจ๊ะ หนูจะไม่ทำผิดอีก” แม่ก็จะอุ้มเขาขึ้นตักทันที ลืมความผิดทั้งมวลของเขามิใช่หรือคะ ถึงแม้ว่า แม่ทราบแก่ใจว่าโอกาสหน้าลูกยังจะทำผิดซ้ำอีกก็ช่าง ไม่เป็นไร ถ้าเขาจับจุดอ่อนของแม่ได้อีก คือ จับใจแม่ เขาจะพ้นโทษได้เรื่อยไป น้องทำจับใจพระเจ้าได้เช่นนี้เหมือนกัน เพราะฉะนั้นพระองค์ต้อนรับน้องดีเสมอ”
เธอเขียนถึงพี่ฝ่ายวิญญาณคนหนึ่งว่า “พระผู้ไถ่อ่อนหวานลืมความผิดของท่านแต่นานแล้ว เวลานี้พระองค์มีแต่ใจดี ยังจำแต่ความปรารถนาของท่านที่พยายามบรรลุถึงความดีครบครันเท่านั้น ขอทีเถอะค่ะ อย่าหมอบแทบพระบาทพระองค์อีกต่อไป จงโผเข้าสู่อ้อมแขนของพระองค์เถิด”
“ฉันคิดว่า พวกศิษย์ของพระองค์เองทำช้ำใจพระองค์ เขาทำผิดแล้ว ยังเฉย ไม่ขอโทษพระองค์ ดังพระวาจาของพระองค์โดยประกาศกเศคาริยาห์ว่า “แผลเหล่านี้ที่ท่านเห็นบนฝ่ามือของเรานั้น เป็นแผลที่ได้จากคนในบ้านของเราเองที่เรารัก”
“คนที่รักพระเจ้าจริง เพียงแค่ทำผิดเล็ก ๆ น้อย ๆ แต่ละครั้ง ก็โผเข้าสู่อ้อมแขนของพระองค์ ขอโทษ พระเยซูเจ้าก็ใจดีนักหนา พระองค์ทรงสั่งทูตสวรรค์เช่นเดียวกับบิดาของลูกล้างผลาญพูดกับคนใช้ว่า “เร็ว เอาแหวนมาสวมนิ้วมือลูกของเรา เราจงชื่นชมยินดีด้วยกันเถิด” โอ ! น้อยคนนักรู้จักพระทัยดีน่ารักกรุณาของพระเยซูเจ้า จริงค่ะ เพื่อจะได้ตักตวงพระคลังนี้ต้องถ่อมตัว รับรู้ว่าตนเองเป็นแต่ความว่างเปล่า แต่นั่นแหละ คนเป็นอันมากไม่อยากทำเช่นนั้น...”
Re: จิตตารมณ์ความเป็นเด็กฝ่ายจิตของนักบุญเทเรซาแห่งพระกุมารเ
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. มี.ค. 29, 2007 4:11 pm
โดย Andreas
เธอแน่ใจว่า การเจริญชีวิตเป็นเด็กนี้เป็นที่พอพระทัยพระเจ้า เธอไม่เชื่อใจตนเอง แต่ไว้ใจในพระเจ้าเท่านั้น เธอจึงไว้ใจว่า จะไม่ยอมเต็มใจทำบาปเลย คงทำผิดโดยพลั้งเผลอเท่านั้น “ฉันจะทำผิดพลั้งโง่เขลาเล็กน้อยไปเรื่อยจนวันตาย โดยไม่ผิดแสลงพระทัย หากฉันถ่อมตัวสุภาพอย่างเด็กเล็ก ๆ จงดูบรรดาเด็ก ๆ เถิด พวกเขาพลั้งเผลอเรื่อย ๆ เดี๋ยวทำของแตก เดี๋ยวทำเสื้อผ้าเลอะเทอะ ฉีกขาด หกล้ม ทั้ง ๆ ที่พวกเขารักพ่อแม่มาก และพ่อแม่ก็รักพวกเขานักหนา เด็ก ๆ ย่อมไม่ถูกทำโทษหนัก ๆ เวลาฉันรับศีลมหาสนิท มโนภาพฉันคิดว่า ตัวเองเป็นเหมือนเด็กอายุ 3-4 ขวบ วิ่งเล่นหนักเข้า เสื้อผ้าก็เปรอะเปื้อนฉีกขาดยุ่งเหยิง ฉันเคยเจอะเรื่องแบบนี้เวลาต้องเผชิญหน้ากับคนอื่น ๆ แต่ว่าไม่ช้า แม่พระก็รีบมาหาฉัน ปลดผ้ากันเปื้อนที่สกปรกออก หวีผมให้ ติดโบหรือเสียบดอกไม้ให้ เท่านี้ก็พอทำให้ฉันกลับน่ารักขึ้น แล้วพาเข้านั่งร่วมโต๊ะกับมวลทูตสวรรค์ โดยไม่ต้องอายเขา”
เกี่ยวกับการรำพึงและขอบพระคุณหลังรับศีล เธอไม่ค่อยได้รับความบรรเทาใจนัก เธอเขียนสารภาพว่า “ฉันมีใจเหือดแห้ง เพราะขาดใจร้อนรนและความจงรักภักดี ต้องเศร้าใจบ่อยครั้ง เวลาที่รำพึงและขอบพระคุณศีลมหาสนิท จะสัปหงกหลับไป แต่ก็ช่าง ฉันไม่เสียใจ คิดว่าพ่อแม่คงรักลูกของตนเสมอ ไม่ว่าเขาหลับหรือตื่น พระเจ้าทรงทราบแล้วว่า เราอ่อนแอ เป็นแต่ผงคลี”
Re: จิตตารมณ์ความเป็นเด็กฝ่ายจิตของนักบุญเทเรซาแห่งพระกุมารเ
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. มี.ค. 29, 2007 4:18 pm
โดย Andreas
เวลาสวดภาวนา เธอก็ประพฤติเช่นเดียวกัน บอกว่า “เพื่อให้พระองค์ประทานตามคำวิงวอนของเรา ไม่จำเป็นต้องอ่านในหนังสือ หรือเอาแต่ท่องบทภาวนางาม ๆ ที่เขาแต่งไว้ ไม่ได้ความแน่ ฉันทำเหมือนเด็กน้อยที่อ่านหนังสือไม่เป็น นึกอยากพูดอะไรก็พูดไปซื่อ ๆ เท่านั้น แล้วพระองค์ก็เข้าใจฉันดีค่ะ”

เธอเขียนถึงคุณพ่อรุลลังว่า “บางครั้งเมื่ออ่านหนังสือศรัทธา กล่าวถึงความดีครบครันว่า มีอุปสรรคขัดขวางร้อยแปดพันประการ จิตใจรู้สึกเหนื่อยอ่อนทันที ปิดหนังสือ มันทำให้ปวดหัวและจิตใจหดหู่เหลือเกิน แล้วหยิบพระคัมภีร์ขึ้นอ่าน ทีนี้อะไร ๆ ก็ดูสว่างหัวใจหมด คำพระคัมภีร์แต่คำเดียวก็เปิดตาฉัน เห็นไกลลิบลับสุดสายตาทีเดียวค่ะ ความดีครบครันกลับเห็นว่าเป็นสิ่งง่ายดาย เพียงแต่รับรู้ว่าตนเองเป็นแต่ความว่างเปล่า และมอบตัวทั้งครบเหมือนเด็กในอ้อมแขนของพระเจ้าเท่านั้น หนังสือศรัทธางาม ๆ นั้น ฉันอ่านไม่เข้าใจเลย ยิ่งจะนำมาปฏิบัติก็ไม่ไหว ทิ้งไว้สำหรับคนที่มีจิตใจใหญ่ ๆ สูง ๆ เขาเถอะค่ะ ฉันพอใจเป็นแต่คนต่ำต้อยเล็กน้อย เพราะว่ามีแต่เด็ก ๆ และคนที่คล้ายเด็กเท่านั้นจะเข้าไปร่วมในงานเลี้ยงแห่งสวรรค์ได้ ช่างเป็นสุขที่ในพระอาณาจักรสวรรค์มีที่พำนักอาศัยมากมายหลายแห่ง เพราะว่าถ้ามีแต่ที่พำนักแห่งเดียวซึ่งฉันไม่เข้าใจคำอธิบายของเขา และเดินทางสายนั้นไม่ได้ ก็หมดหวังที่จะเข้าไปค่ะ แต่ว่าถ้ามีที่พำนักสำหรับวิญญาณใหญ่ ๆ นักบุญฤาษีที่ป่าเปลี่ยว มรณสักขีที่ทำกิจทรมานตัวหนัก ๆ ก็จะมีที่สำหรับเด็กน้อยด้วยเช่นกัน นั่นแหละที่พำนักสงวนไว้สำหรับพวกเรา ถ้าเรารักพระเยซู พระบิดาและพระจิตแห่งความรักมาก ๆ”
มีบางคนพูดว่า ต้องปฏิบัติกิจการกุศลหลายอย่าง เพื่อจะสำเร็จเป็นคนดีครบครัน เขาถามความเห็นของนักบุญเทเรซา เธอตอบฉับพลันว่า “โอ ไม่เป็นเช่นนั้นหรอกค่ะ ความศักดิ์สิทธิ์ไม่ได้เกิดจากการทำอย่างนี้อย่างนั้น แต่อยู่ที่การปรับปรุงจิตใจให้ถ่อมตนสุภาพเป็นนิจ มอบตนเองไว้ในพระหัตถ์ของพระเจ้า สำนึกว่าตนเองอ่อนแอ ไว้ใจเต็มที่ในพระทัยกรุณาของพระองค์ ผู้เป็นบิดาของเรา”
Re: จิตตารมณ์ความเป็นเด็กฝ่ายจิตของนักบุญเทเรซาแห่งพระกุมารเ
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. มี.ค. 29, 2007 4:21 pm
โดย Andreas
เมื่อซิสเตอร์คนหนึ่งบ่นว่า ไม่รู้จะทำอย่างไรจึงสามารถตั้งใจจดจ่ออยู่กับพระเจ้าได้ จะพูดอะไรกับพระองค์ก็คิดไม่ออก เธอตอบว่า “สำหรับวิญญาณที่มอบตนเองแก่พระองค์แล้ว ไม่ต้องปักใจแน่วแน่หาพระองค์ดังนั้นหรอกค่ะ แน่นอน เป็นการดีที่จะสำรวมจิตใจเสมอ แต่ว่าค่อยเป็นค่อยไป เพราะว่าการข่มใจจดจ่อเป็นการไม่ให้เกียรติแด่พระเจ้า พระองค์ทรงทราบความคิดดีงามทั้งหมด และคำพูดที่เราอยากแสดงความรักต่อพระองค์ พระองค์พอใจในความปรารถนาดีของเรา พระองค์เป็นบิดาของเรา และเราเป็นลูกน้อยของพระองค์มิใช่หรือค่ะ เธอเป็นเด็กน้อย จำไว้นะคะ เมื่อเราเป็นเด็ก ก็ไม่มีความคิดสูง ๆ งาม ๆ อะไรหรอกค่ะ ไม่จำเป็นต้องเข้าใจว่า พระองค์ทรงทำอะไรในวิญญาณของเธอ เธอเล็กเกินไป พระเจ้าชื่นชมในผลงานที่ทรงกระทำในวิญญาณของคนสุภาพที่รับรู้ความบกพร่องอ่อนแอของตน ยิ่งกว่าสร้างดวงอาทิตย์ล้าน ๆ ดวงและโลกจักรวาล”
เธอสอนโนวิสว่า “พวกเธอชอบติโน่นตินี่ อยากให้คนอื่นคล้อยตามความคิดเห็นของพวกเธอ ‘ทำอย่างนี้ไม่ดี ทำอย่างนั้นดีกว่า’ พูดอย่างนี้ไม่ถูก เราอยากเป็นเด็กน้อย เด็กน้อยย่อมไม่รู้ว่าอะไรดีกว่า อะไร ๆ ก็ดี เหมาะทั้งนั้น นอกนั้น ความดีไม่มาจากการทำอะไรสมเหตุสมผลหรอกค่ะ เราเล็กเกินไปที่จะอยู่ “เหนือ” ความยากลำบาก เราจงมุดหัวอยู่ “ใต้” ความยากลำบากเถิด วิญญาณใหญ่ ๆ เขาบินขึ้นเหนือเมฆเวลาเกิดลมพายุ ส่วนเราเพียรทนฝนสาดเถอะ เปียกบ้างช่างมัน เราจะผิงแดดแห่งพระองค์เจ้าที่รัก ก็จะแห้งไปเอง”
โนวิสคนหนึ่งวุ่นวายใจมากที่ถูกประจญล่อลวง เธอเขียนเตือนใจว่า “หากความมืดของกลางคืนทำให้เด็กกลัว มองไม่เห็นคนที่อุ้มเขา ก็ให้ปิดตาเสีย นั่นเป็นการพลีกรรมอย่างเดียวที่พระเยซูร้องขอ หลับตาแล้วก็สบายใจ ไม่กลัวมืด เพราะไม่เห็นความมืด มิช้าความสงบจะกลับมา ความยินดีจะประทุขึ้นในใจ
Re: จิตตารมณ์ความเป็นเด็กฝ่ายจิตของนักบุญเทเรซาแห่งพระกุมารเ
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. มี.ค. 29, 2007 4:24 pm
โดย Andreas
เธอชอบเปรียบตัวเองเป็นหยาดน้ำค้าง ซึ่งเป็นสิ่งที่เล็กละเอียดที่สุด แต่สบพระทัยพระเยซูมากที่สุด เธอเขียนถึงพี่เซลินว่า “เพื่อตกเป็นกรรมสิทธิ์ของพระเยซู ต้องเป็นเด็ก เล็กเหมือนหยาดน้ำค้าง....จะมีความสุขสงบความดีครบครัน....ทั้งเป็นเอกสิทธิ์ยิ่งใหญ่ด้วย แต่ว่าต้องเป็นคนซื่อ ๆ โอ! มีน้อยคนที่อยากเป็นเด็กและไม่มีใครรู้จัก เขาพูดว่า แม่น้ำลำคลองมีประโยชน์กว่าหยาดน้ำค้างมิใช่หรือ หยาดน้ำค้างทำอะไร ? ใช้การอะไรไม่ได้ แต่ให้ความเยือกเย็นชุ่มชื่นชั่วคราวแก่ดอกไม้ตามทุ่ง ที่บานวันนี้ พรุ่งนี้ก็แห้งหล่นไปเท่านั้น เธอไม่รู้จัก “ดอกไม้ป่า” ที่พอใจพำนักอยู่บนแดนเนรเทศ และยับยั้งอยู่ชั่วเวลาค่ำคืนเดียวสั้น ๆ แห่งชีวิต ถ้าเธอรู้จักพระองค์ท่าน เธอก็คงจะเข้าใจคำติที่พระเยซูได้ตรัสแก่มารธาว่า “มีแต่เรื่องเดียวเท่านั้นที่จำเป็นจริง”

โนวิสคนหนึ่งบ่นเสียใจที่มีแต่ความบกพร่อง เธอตอบว่า “เธอทำให้ฉันคิดถึงเด็กน้อยคนหนึ่ง เขาเริ่มทรงตัวยืนได้ แต่เดินยังไม่เป็น เขาอยากขึ้นบันไดไปหาแม่ ยกเท้าขึ้นเหยียบขั้นแรก แต่ป่วยการ ล้มทุกที ดีแล้ว เธอจงเป็นเหมือนเด็กน้อยคนนี้ พยายามประกอบกิจการกุศลทุกอย่าง ยกเท้าขึ้นสู่บันไดแห่งความศักดิ์สิทธิ์ อย่างนึกฝันว่าจะสามารถก้าวขึ้นได้แม้แต่ขั้นเดียว พระเจ้าไม่ทวงขออะไรนอกจากน้ำใจดีของเธอเท่านั้น พระองค์มองจากยอดบันไดมาที่เธอด้วยความรัก สักวันหนึ่งทรงสงสารเธอที่พยายามอย่างไร้ผล พระองค์ก็จะเสด็จมาเอง แล้วอุ้มเธอขึ้นไปสู่พระราชัย อยู่กับพระองค์ตลอดนิรันดร”
“เป็นเด็กคือประกอบกิจการกุศลประการใดก็ไม่กระหยิ่มในใจว่า ตนเองมีฤทธิ์กุศลนั้นแล้วหรือสามารถทำอะไรได้ แต่รับรู้ว่าพระเจ้าเองต่างหากวางขุมทรัพย์นี้ในมือของลูกน้อย ให้เขาจับจ่ายตามความต้องการ”
Re: จิตตารมณ์ความเป็นเด็กฝ่ายจิตของนักบุญเทเรซาแห่งพระกุมารเ
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. มี.ค. 29, 2007 4:27 pm
โดย Andreas
เมื่อนักบุญเทเรซาได้รับเลือกให้ดูแลโนวิส เธอเขียนว่า “แต่แรกทีเดียว ฉันลงความเห็นว่า หน้าที่นี้เกินสติกำลังของฉัน เพราะฉะนั้นจึงมอบตัวในพระหัตถ์ของพระเจ้า เอาอย่างเด็กน้อยที่พอตกใจกลัวอะไร ก็ซุกหัวที่บ่าของพ่อ ฉันกราบทูลพระองค์ว่า พระเจ้าข้า ลูกเล็กเกินไป ไม่สามารถเลี้ยงดูลูก ๆ ของพระองค์ ถ้าพระองค์ประสงค์ให้ลูกป้อนอาหารที่เหมาะสมแก่เขาแต่ละคน ก็ขอจงวางอาหารในมือของลูก แล้วลูกเกาะแขนพระองค์ต่อไป ไม่เหลียวหลัง จะแจกจ่ายพระคลังของพระองค์แก่วิญญาณที่มาร้องขออาหาร” ต่อมาเธอก็เห็นว่ามีอาหารเต็มมือเสมอเมื่อจำเป็น
พระคัมภีร์บอกว่า พระเจ้าจะทรงพิพากษาเข้มงวดกับคนที่มีหน้าที่ปกครองคนอื่น แต่นักบุญเทเรซากล้าพูดว่า “แต่ว่าพวกเด็ก ๆ จะถูกพิพากษาด้วยพระทัยอ่อนหวานที่สุด ใครก็ตาม แม้ต้องรับภาระหน้าที่น่าสะพรึงกลัวจนถึงวัยชรา ก็สามารถรักษาความเป็นเด็กได้เสมอ ในพระคัมภีร์มีกล่าวไว้ว่า “ณ วาระสุดท้าย พระเจ้าจะเสด็จลุกขึ้นช่วยให้ทุกคนที่สุภาพให้รอดได้ ไม่ใช่เพื่อพิพากษา แต่เพื่อช่วยให้รอด” เธอยังเขียนว่า “ฉันพยายามสุดกำลังที่จะเป็นเด็กเล็ก ๆ ฉะนั้น ไม่ต้องกังวลกับของใช้สำหรับเดินทาง พระเยซูทรงเสียค่าเดินทางทั้งหมดให้เอง ทั้งซื้อตั๋วเข้าสวรรค์ให้ด้วยค่ะ”
บทเพลงสรรเสริญนักบุญทารกผู้วิมลนี้ เธออาจพูดได้จนถึงวันตายว่า “โอ้นักบุญทารกผู้วิมล พระเจ้ามอบท่านเป็นแบบฉบับแต่ฉัน ในชีวิตนี้ฉันปรารถนาเป็นรูปแบบของท่านเสมอ”
2-3 สัปดาห์ก่อนนักบุญเทเรซาจะสิ้นใจ เธอพูดว่า “ฉันไม่อยากร้องขอพระองค์ให้ได้รับความลำบากมากกว่านี้ เพราะฉันเล็กเกินไป เกรงจะกลายเป็นความลำบากส่วนตัว เพราะเลือกที่จะขอเอง ฉันจะไม่มีกำลังทนเพียงลำพังได้ ฉันไม่เคยทำอะไรเพียงลำพังเลยค่ำ ฉันคล้ายกับเด็กน้อย...คิดไม่เป็น มีแต่ทน ๆ ไป ซื่อ ๆ แต่ละนาที ไม่นำพาต่อไปว่าจะเป็นอย่างไร”
Re: จิตตารมณ์ความเป็นเด็กฝ่ายจิตของนักบุญเทเรซาแห่งพระกุมารเยซู
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. มี.ค. 29, 2007 4:35 pm
โดย Andreas
จบแล้วครับ ผมนำบทความนี้มาจากหนังสือ "จิตตารมณ์ของนักบุญเทเรซาแห่งพระกุมารเยซู" ซึ่งพิมพ์เมื่อปี ค.ศ.1969 สำนวนอาจจะดูโบราณไปสักนิด ผมก็พยายามขัดเกลาให้อ่านง่ายขึ้น ในหนังสือเล่มนี้ยังมีหลาย ๆ เรื่องที่น่าสนใจ เป็นประโยชน์ในการดำเนินชีวิต โดยเฉพาะอย่างยิ่งเพื่อที่จะรักพระเจ้า ท่านนักบุญได้รับการยกย่องให้เป็นนักปราชญ์ของพระศาสนจักร แม้งานเขียนของท่านจะดูเรียบง่าย ใช้ภาษาซื่อ ๆ แต่ก็ลึกซึ้งและเปี่ยมด้วยพลังความรักที่มีต่อพระเยซูคริตเจ้า ในบทความนี้มีประโยคหนึ่งที่สะกิดใจผมมาก เพราะว่าพอผมพิมพ์ถึงประโยคนั้น น้ำตาผมไหลออกมา และรู้สึกปีติสุขมาก ผมไม่บอกว่าประโยคไหน คุณลองอ่านดู และสัมผัสด้วยตนเองดีกว่า
Re: จิตตารมณ์ความเป็นเด็กฝ่ายจิตของนักบุญเทเรซาแห่งพระกุมารเยซู
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. มี.ค. 29, 2007 5:08 pm
โดย :+: seraphim :+:

ขอบคุณน้องเพชรจ้า
Re: จิตตารมณ์ความเป็นเด็กฝ่ายจิตของนักบุญเทเรซาแห่งพระกุมารเยซู
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. มี.ค. 29, 2007 8:02 pm
โดย Holy
อ่านได้แค่ครึ่ง ก็รู้สึกว่า นี่ไม่ใช่ความรู้ นี่คือปรีชาญาณล้วนๆ ของประทานแท้ๆจากสวรรค์ นักปราชญ์อายุ23 ตอนอายุเท่ากัน ผมยังหลงทางแสวงหาความฉลาดประสาโลกและปรัชญาประสามนุษย์อยู่เลย แต่ท่านกลับพบทางลัดได้อย่างรวดเร็ว และแม่นยำ ทางลัดอันน่าพิศวงและเรียบง่าย
เธอเป็นสุขที่เชื่อว่า พระวาจาพระเจ้าที่ตรัสแก่เธอไว้จะเป็นจริง
Re: จิตตารมณ์ความเป็นเด็กฝ่ายจิตของนักบุญเทเรซาแห่งพระกุมารเยซู
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. มี.ค. 29, 2007 8:19 pm
โดย Batholomew
ขอบคุณครับ

Re: จิตตารมณ์ความเป็นเด็กฝ่ายจิตของนักบุญเทเรซาแห่งพระกุมารเยซู
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. มี.ค. 29, 2007 9:46 pm
โดย Dis volentibus
เจ๋งงงๆๆมาก

Re: จิตตารมณ์ความเป็นเด็กฝ่ายจิตของนักบุญเทเรซาแห่งพระกุมารเยซู
โพสต์แล้ว: อาทิตย์ เม.ย. 01, 2007 1:45 pm
โดย Andreas
"ทางสายน้อย" เป็นวิธีของนักบุญเทเรซาที่ท่านคิดทางลัดที่จะเป็นนักบุญ เป็นทางลัดไปสวรรค์ แต่น้อยคนที่จะรู้ และนำไปปฏิบัติ ทั้ง ๆ ไม่ใช่สิ่งที่ยากเลย คงเป็นเพราะนี่เป็นเพียงเส้นทางสายน้อย ที่คนมองข้าม ไม่สนใจ ขอท่านนักบุญเทเรซาภาวนาเพื่อเราทั้งหลายด้วยเถิด อาเมน
Re: ทางลัดสู่สวรรค์...แนะนำโดย...นักบุญเทเรซาแห่งพระกุมารเยซู
โพสต์แล้ว: เสาร์ พ.ค. 19, 2007 10:33 pm
โดย Aeyu
เราจะเลียนแบบท่าน
Re: ทางลัดสู่สวรรค์...แนะนำโดย...นักบุญเทเรซาแห่งพระกุมารเยซ
โพสต์แล้ว: พุธ ส.ค. 11, 2010 4:40 am
โดย Holy
กระทู้ดีมีสาระ แจกแกะผู้โพส1ตัว
Re: ทางลัดสู่สวรรค์...แนะนำโดย...นักบุญเทเรซาแห่งพระกุมารเยซ
โพสต์แล้ว: พุธ ส.ค. 11, 2010 12:56 pm
โดย กรอกสมบูรณ์
ขอบคุณค่ะ
หนังสือ "จิตตารมณ์ของนักบุญเทเรซาแห่งพระกุมารเยซู" ยังพอจะหาซื้อได้ที่ไหนบ้างค่ะ ดิฉันเองก็นักบุญเทเรซาแห่งพระกุมารเยซู อยากได้มาไว้อ่านบ้างค่ะ
คุณ Holy คะ แกะตัวเดียวน้อยไปนะ แถมแกะเพิ่มให้อีกตัวได้มั๊ยค่ะเนี่ย ชอบกระทู้นี้มากๆเลยค่ะ

Re: ทางลัดสู่สวรรค์...แนะนำโดย...นักบุญเทเรซาแห่งพระกุมารเยซ
โพสต์แล้ว: พุธ ส.ค. 11, 2010 2:14 pm
โดย Andreas
หนังสือจิตตารมณ์ของนักบุญเทเรซา ที่ผมมีเป็นหนึ่งสือที่เก่ามาก ผมก็ไม่ทราบว่า ได้มีการพิมพ์ใหม่หรือยัง ดังนั้น ผมก็จะพยายามพิมพ์เนื้อหาทั้งหมดมาลงในกระทู้นี้ โปรดติดตามอ่านนะครับ
Re: ทางลัดสู่สวรรค์...แนะนำโดย...นักบุญเทเรซาแห่งพระกุมารเยซ
โพสต์แล้ว: พุธ ส.ค. 11, 2010 4:25 pm
โดย :+: seraphim :+:

รออ่าน
Re: ทางลัดสู่สวรรค์...แนะนำโดย...นักบุญเทเรซาแห่งพระกุมารเยซ
โพสต์แล้ว: จันทร์ ส.ค. 16, 2010 8:43 am
โดย Andreas
จิตตารมณ์ของนักบุญเทเรซาแห่งพระกุมารเยซู
บทที่ 1 รักพระเจ้า
นักบุญเทเรซาถือว่าความรักพระเจ้าเป็นต้นกำเนิดพลังงานทั้งมวล สำหรับชีวิตฝ่ายวิญญาณของตน
“ท่านทั้งหลายจงพยายามแสวงหาพระพรพิเศษที่ประเสริฐยิ่งกว่านี้เถิด ข้าพเจ้าจะขอชี้ทางที่ดีกว่าให้ท่าน
แม้ข้าพเจ้าพูดภาษาของมนุษย์และของทูตสวรรค์ได้ ถ้าไม่มีความรัก ข้าพเจ้าก็เป็นแต่เพียงฉาบหรือฉิ่งที่ส่งเสียงอึกทึก แม้ข้าพเจ้าจะประกาศพระวาจา เข้าใจธรรมล้ำลึกทุกข้อ และมีความรู้ทุกอย่าง หรือมีความเชื่อพอที่จะเคลื่อนภูเขาได้ ถ้าไม่มีความรัก ข้าพเจ้าก็ไม่มีความสำคัญแต่อย่างใด แม้ข้าพเจ้าจะแจกจ่ายทรัพย์สินทั้งปวงให้แก่คนยากจน หรือยอมมอบตนเองให้นำไปเผาไฟเสีย ถ้าไม่มีความรัก ข้าพเจ้าก็มิได้รับประโยชน์ใด” (1 โครินธ์ 12 : 31 - 13 : 3)
“ขณะนี้ยังมีความเชื่อ ความหวังและความรักอยู่ทั้งสามประการ แต่ที่ยิ่งใหญ่กว่าสิ่งใดทั้งหมดคือ ความรัก” (1 โครินธ์ 13 : 13)
ข้อ 1
คำสอนของนักบุญเทเรซา กล่าวถึงคุณค่าแห่งความรัก
ความรักเป็นวินัยประจำตัว
“กระแสเรียกของดิฉัน คือ รักพระเยซูเจ้า ดิฉันอยากรับพระองค์เหลือเกิน อยากรักอย่างที่พระองค์ไม่เคยถูกรักมาก่อน... ขอพระองค์ช่วยดิฉันรักพระองค์จนปราศจากขอบเขต... ดิฉันใฝ่ฝันแต่สิ่งนี้เท่านั้น... เพราะดิฉันไม่ปรารถนาอยากได้อะไรเลย นอกจากรักพระองค์อย่างหมดหัวใจ”
นักบุญเทเรซาไม่ถือว่าฤทธิ์กุศลต่าง ๆ เป็นทางนำไปสู่ความรัก แต่ตรงข้าม ความรักเป็นผู้นำฤทธิ์กุศลต่าง ๆ มาสู่เรา เธอคิดถึงคำสอนข้อที่ว่า “พระเจ้าทรงสร้างเรามาเพื่อรู้จัก รัก และปรนนิบัติพระองค์” และโดยการรักพระองค์ เธอจึงได้ปรนนิบัติพระองค์อย่างดีครบถ้วน
เกี่ยวกับคติพจน์ประการนี้ ท่านนักบุญเขียนไว้ว่า “ท่านอยากรู้ทางนำไปสู่ความครบครันหรือ? ดิฉันรู้ว่ามีทางเดียว คือ รัก”
เมื่อมีคนถามว่า “ซิสเตอร์คงลำบากมาก ในอันที่จะชนะใจตนเองได้ถึงเพียงนี้” ท่านตอบอย่างเด็ดเดี่ยวว่า “ไม่เป็นเช่นนั้นหรอกค่ะ” ในจดหมายฉบับหนึ่ง เขียนในปี 1893 ท่านบันทึกว่า “ดิฉันทราบดีว่า ผู้แนะนำวิญญาณบางท่านบอกว่า เพื่อจะบรรลุถึงความดีครบครัน ต้องนับจากกิจการดีที่ได้กระทำไปแล้ว แต่ว่าพระเยซูเจ้าทรงแนะนำดิฉันว่า ไม่ต้องนับดูกิจการดีของตน แต่จงกระทำกิจการทุกอย่างด้วยความรัก”
ก่อนตายท่านพูดได้เต็มปากว่า “ดิฉันไม่มีอะไรถวายแด่พระเจ้า นอกจากความรักเท่านั้น”
เธอรู้ดีว่า “พระเยซูเจ้าทรงปรารถนาอย่างยิ่งที่จะเสด็จเข้าไปในหัวใจของเรา พระองค์ทรงถือว่า ความรักของเราประเสริฐกว่าเครื่องบรรณาการใด ๆ ทั้งสิ้น ปราศจากความรัก งานใด ๆ แม้ที่ยิ่งใหญ่ที่สุด ก็ไร้คุณค่า แน่นอนทีเดียวว่า พระเยซูเจ้าไม่ทรงเรียกร้องกิจการใหญ่โต แต่ทรงขอให้เรามอบตัวไว้ในพระหัตถ์และกตัญญู คือ รักพระองค์เท่านั้น”
ในบทเพลงสดุดีที่ 49 พระเจ้าตรัสว่า “เราไม่ต้องการลูกโคเพศผู้จากบ้านของท่าน หรือแพะจากคอกของท่าน เพราะสัตว์ทั้งหลายในป่าล้วนเป็นของเรา เช่นเดียวกับสัตว์นับพันบนภูเขา เรารู้จักนกทุกตัวในอากาศ ทุกสิ่งที่เคลื่อนไหวในทุ่งนาก็เป็นของเรา ถ้าเราหิว เราก็ไม่บอกท่าน เพราะโลกและทุกสิ่งในโลกล้วนเป็นของเรา เราจะกินเนื้อโคเพศผู้ และดื่มเลือดแพะกระนั้นหรือ? จงถวายเครื่องบูชาสรรเสริญแด่พระเจ้า จงแก้บนตามที่ได้สัญญาไว้กับพระผู้สูงสุด”
นักบุญเทเรซาระลึกถึงคำสอนของนักบุญยอห์นแห่งไม้กางเขนเสมอว่า “พระเจ้าไม่ต้องการกิจการของเรา ทรงมีพระประสงค์แต่ความรักของเราเท่านั้น องค์พระผู้เป็นเจ้าเองทรงประกาศว่าไม่ต้องการบอกเราว่าทรงหิว แต่ก็ไม่ทรงลังเลพระทัยขอน้ำดื่มจากหญิงชาวสะมาเรีย... พระองค์ทรงกระหาย.. แต่ว่าที่พระองค์ตรัสว่า “ขอน้ำดื่มทีเถิด” แท้จริงแล้วพระองค์ทรงกระหายความรักจากมนุษย์ที่น่าสงสารของพระองค์”
เธอเคยเขียนบ่อยๆ ว่า พระเจ้าทรงน่ารักสักเพียงไร พระองค์ทรงรักเรามากเพียงไร และทรงแสวงหาความรักของเรา พระองค์ช่างเกรงใจเราเหลือเกิน เราให้อะไรแด่พระองค์แม้แต่นิดเดียว พระองค์ก็พอพระทัย ความรักเป็นทางนำไปสู่ความดีครบครันได้อย่างไร
“พระองค์ทรงปรารถนาให้เรารักพระองค์ พระองค์ขอความรักจากเรา...” ท่านนักบุญเทเรซากล่าวว่า “สุดแล้วแต่เราจะเห็นอกเห็นใจพระองค์ก็ว่าได้ พระองค์ไม่ทรงขออะไรนอกจากสิ่งที่เรายกให้ด้วยความสมัครใจ และของถวายแด่พระองค์แม้แต่เล็กน้อยที่สุด ก็เป็นสิ่งที่มีค่าเฉพาะพระพักตร์”
ท่านยกเอาพระคัมภีร์มากล่าวว่า “เธอได้บาดหัวใจของเราด้วยผมเส้นหนึ่งที่ปลิวว่อนบนคอของเธอ โดยพระวาจานี้ พระเยซูเจ้าทรงปรารถนาจะแสดงให้เราเข้าใจว่า กิจการแม้แต่เล็กน้อยที่สุดที่เราทำไปด้วยความรัก ย่อมนำความยินดีแด่พระหฤทัยของพระองค์อย่างยิ่ง”
“วิญญาณที่กระตือรือร้นที่สุด คือวิญญาณที่ประกอบการงานทุกอย่างด้วยความรักเสมอ”
Re: ทางลัดสู่สวรรค์...แนะนำโดย...นักบุญเทเรซาแห่งพระกุมารเยซ
โพสต์แล้ว: จันทร์ ส.ค. 16, 2010 9:08 am
โดย littleseal
ขอบคุณท่านที่บอกให้เราได้รู้ว่า
ความรักที่ผุพังขึ้นสนิม หัวใจที่เต็มไปด้วยบาดแผล พระองค์ยังทรงต้องการ
(แต่เราอายที่จะถวายความรักที่เต็มไปด้วยมลทินให้พระองค์

)
ขอบคุณเจ้าของกระทู้ค่ะ
Re: ทางลัดสู่สวรรค์...แนะนำโดย...นักบุญเทเรซาแห่งพระกุมารเยซ
โพสต์แล้ว: จันทร์ ส.ค. 16, 2010 4:26 pm
โดย Andreas
ข้อ 2
ความรักสนใจแต่สิ่งที่นำความปีติยินดีแด่พระเจ้า
“ดิฉันทำตนเป็นเด็กเล็กเสมอ ง่วนอยู่กับการเก็บดอกไม้แห่งความรักและพลีกรรม ยกขึ้นถวายแด่พระเจ้า เพื่อนำความยินดีแด่พระองค์
น่าสังเกตว่า ความคิดที่จะนำความยินดีแด่พระเยซูเจ้า บรรเทาใจพระองค์ ให้ความเพลิดเพลินแด่พระองค์นั้น สำหรับนักบุญเทเรซาเป็นความคิดที่ล้ำหน้าฤทธิ์กุศลอื่นทั้งมวล
เธอพูดว่า “นักบุญสำคัญ ๆ ล้วนแต่ได้กระทำกิจการสำหรับพระสิริรุ่งโรจน์ของพระเจ้า แต่ดิฉันตัวเล็กนิดเดียว สามารถทำงานเพื่อนำความยินดีแด่พระองค์อย่างเดียว ดิฉันจึงอยากเป็นดังดอกไม้เล็กๆ เป็นดอกกุหลาบที่ไร้ค่าในพระหัตถ์ของพระเจ้า สีสันของมันอาจแก้ง่วง เพิ่มความยินดีเล็กน้อยแด่พระองค์
“แม้แต่ฟางข้าวเส้นเดียว ดิฉันก็ไม่อยากก้มลงเก็บ สำหรับใช้โทษไฟชำระ สิ่งที่ดิฉันได้ทำก็มีแต่อย่างเดียว คือ ทำความยินดีแด่พระเจ้า และช่วยวิญญาณอื่นให้รอดพ้น”
“ดิฉันไม่ปรารถนาสร้างกุศลสำหรับไปสวรรค์ ข้าแต่พระเจ้า ลูกอยากแต่ทำงานถวายความรักต่อพระองค์ มุ่งแต่สิ่งเดียว คือทำความยินดีแด่พระองค์ บรรเทาพระทัยพระองค์ และช่วยวิญญาณอื่นรอดพ้นเพื่อไปรักพระองค์ตลอดนิรันดร พระเจ้าข้า”
พูดถึงความตายที่ใกล้เข้ามา นักบุญเทเรซาเขียนถึงคุณแม่อธิการว่า “คุณแม่อย่านึกว่า ลูกสาวของคุณแม่คิดว่า ตายเสียตั้งแต่อายุยังน้อยเป็นพระคุณใหญ่หลวงกว่าตายเมื่อแก่ชรานะคะ สิ่งที่ลูกชอบและใฝ่ฝันกว่าหมดก็คือ ทำความยินดีแด่พระเยซูเจ้าค่ะ”
นักบุญเทเรซาเชื่อว่า การกระทำเช่นนี้เรียกร้องความช่วยเหลือจากพระเจ้าแน่นอน “ถ้าเธอฉวยทุกโอกาสแม้เล็ก ๆ น้อย ๆ ทำความยินดีแด่พระเยซูเจ้าเรื่อย ๆ ไป พระองค์ก็จะทรงจำเป็นต้องช่วยเธอในเรื่องที่ สำคัญ ๆ”
“บรรเทาใจพระเยซูเจ้า ชดเชยความใจจืดอกตัญญูของมนุษย์” เป็นกิจวัตรประจำวันของนักบุญเทเรซา ตั้งแต่เล็ก เธอได้ถวายตัวเป็นดอกไม้น้อย ๆ ของพระเยซูเจ้า เธอพูดว่า “ดิฉันปรารถนาจะบรรเทาใจพระองค์ ให้พระองค์ทอดพระเนตร ปลูกดูแล และเด็ดเอาดิฉันไป” เธอมอบหัวใจแด่พระองค์ พยายามทำความยินดีแด่พระองค์ในการงานทุกอย่าง ระมัดระวังที่สุดไม่ทำเคืองพระทัยเลย
ในจดหมายฉบับหนึ่งท่านนักบุญเทเรซาเขียนว่า “ดิฉันไม่อยากให้พระเยซูเจ้าเศร้าพระทัยเลย ดิฉันอยากเช็ดน้ำตาพระองค์ที่คนบาปเป็นต้นเหตุ โดยทำให้เขากลับใจทุกคนค่ะ”
คิดถึงเรื่องนี้แล้วรู้สึกสลดใจมาก ท่านจึงเขียนว่า “พวกเราอย่าเสียเวลาเลย จงรีบช่วยวิญญาณอื่นให้รอดพ้น วิญญาณจำนวนมากตกนรก และพระเยซูเจ้าทรงร้องไห้ ส่วนเรามัวคิดถึงความทุกข์ยากส่วนตัว ไม่นึกจะบรรเทาใจพระองค์เลย... ก่อนสิ้นพระชนม์พระเยซูเจ้าทรงร้องว่า “เรากระหายน้ำ” เสียงนี้ยังกังวานอยู่ทุกเวลาในใจของดิฉันเสมอ ปลุกใจให้รักร้อนแรงอย่างไม่เคยมีมาก่อน ดิฉันอยากถวายน้ำให้องค์พระผู้เป็นเจ้าดื่มค่ะ”
เธออยากช่วยวิญญาณอื่นให้รอดพ้น มิใช่แต่หวังให้เขาได้รับความบรมสุขเท่านั้น แต่อยากให้เขารักพระเยซูเจ้า เธอเขียนว่า “ในช่วงชีวิตอันสั้นดังหนึ่งวันหรือหนึ่งคืนนี้ มีแต่สิ่งเดียวที่จะต้องทำคือ รักพระเยซูเจ้าด้วยสิ้นสุดจิตใจ และช่วยวิญญาณอื่นให้รอดพ้นถวายแด่พระองค์ เพื่อให้เขารักพระองค์...”
นวกะ (ผู้เตรียมตัวบวช) คนหนึ่งบอกนักบุญเทเรซาว่า กลัวจะสูญเสียพระหรรษทาน เนื่องจากเขาประพฤติผิดพลาดทุกวัน นักบุญเทเรซาตอบว่า “เมื่อพระเจ้าทรงพระทัยกรุณาหาที่สุดมิได้ และเธอเองก็มีน้ำใจดี ฉะนั้นไม่ใช่เธอขาดทุน แต่พระองค์เองต่างหากขาดทุนความรักไป...”
เพื่อมิให้พระองค์สูญเสียความรักเลย ท่านได้ร้องขอพระสงฆ์องค์หนึ่ง ซึ่งเธอถือเป็นพี่ฝ่ายวิญญาณช่วยสวดอุทิศแก่เธอทุกวันดังนี้ “ข้าแต่พระบิดาผู้ทรงพระทัยกรุณา เดชะพระนามของพระเยซูเจ้า พระนางมารีย์และนักบุญทั้งหลาย ข้าพเจ้าวอนขอพระองค์จุดไฟความรักในวิญญาณซิสเตอร์ของข้าพเจ้า และโปรดพระหรรษทานให้เขาสามารถช่วยคนอื่นให้รักพระองค์ยิ่งขึ้นเถิด” ท่านยังร้องขอให้สวดเช่นนี้ต่อไปหลังมรณภาพของตน เพราะว่า “สิ่งเดียวที่ดิฉันปรารถนา คือเห็นพระองค์ถูกรัก ดิฉันของสารภาพว่า หากไปสวรรค์แล้ว ดิฉันไม่สามารถทำงานนี้ได้อีกต่อไป ดิฉันก็ยอมที่จะตกค้างอยู่ในแดนเนรเทศนี้ ยิ่งกว่าไปอยู่ในเมืองสวรรค์ค่ะ”
นักบุญเทเรซาฉวยทุกโอกาสทำพลีกรรมถวายสำหรับเรื่องนี้ และรู้สึกว่าน้อยคนสนใจในเรื่องนี้ ท่านเคยพูดจากหัวใจที่ท่วมท้นด้วยความรักว่า “โอ้ บนแผ่นดินนี้ พระเจ้าช่างถูกรักน้อยเต็มที”
Re: ทางลัดสู่สวรรค์...แนะนำโดย...นักบุญเทเรซาแห่งพระกุมารเยซ
โพสต์แล้ว: เสาร์ พ.ย. 10, 2012 6:14 am
โดย Holy
อาแมน