สวัสดีครับ ผมพึ่งได้เข้ามาที่นี่ มีอะไรอยากรู้มากมาย ขอสอบถามเพื่อนๆลูกแกะครับ

ถาม-ตอบพระคัมภีร์ เรื่องเสริมศรัทธา ความรู้ และสาระ บทความ ในคริสตศาสนา
ตอบกลับโพส
shikak

ศุกร์ มี.ค. 30, 2007 12:28 am

ผมพึ่งเข้ามาที่นี่ครั้งเเรกครับ พอดีมีเพื่อนเเนะนำมาครับ บอกจริงๆว่าตอนนี้ผมว้าเหว่ โด่เดี่ยว ทางด้านสิ่งยึดเหนี่ยวทางจิตใจ
ผมยังไม่ได้เลือกนับถือศาสนาอะไรจากใจตัวเองจริงๆซักทีครับ ผมเลยลองเข้ามาอ่านๆที่นี่ดูอะครับ
เเต่ผมมีข้อสงสัยอะครับ พอดีผมหาข้อมูลทำงานด้วยอะครับ

ชีวิตใหม่ คืออะไรอะครับทางศาสนาคริสต์ เเล้ววิธีที่จะได้ชีวิตใหม่นี่ ต้องทำอย่างไรอะครับ มันคือการหลุดพ้นรึเปล่า ?

พระเเม่มารีนี่ทางสาวกศาสนาคริสต์นับถือท่านเพราะอะไรอะครับ นับถือที่ คุณธรรม คติธรรม อะไรอะครับ ข้อนี้ก็สงสัยมานานเเล้วอะครับ

รบกวนเพื่อนลูกเเกะทั้งหลายด้วยนะครับ ขอบคุณมากๆครับ

ว่าเเต่ผมตั้งถูกห้องรึเปล่าหว่า...
Dis volentibus

ศุกร์ มี.ค. 30, 2007 12:44 am

shikak เขียน: ผมพึ่งเข้ามาที่นี่ครั้งเเรกครับ พอดีมีเพื่อนเเนะนำมาครับ บอกจริงๆว่าตอนนี้ผมว้าเหว่ โด่เดี่ยว ทางด้านสิ่งยึดเหนี่ยวทางจิตใจ
ผมยังไม่ได้เลือกนับถือศาสนาอะไรจากใจตัวเองจริงๆซักทีครับ ผมเลยลองเข้ามาอ่านๆที่นี่ดูอะครับ
เเต่ผมมีข้อสงสัยอะครับ พอดีผมหาข้อมูลทำงานด้วยอะครับ

ชีวิตใหม่ คืออะไรอะครับทางศาสนาคริสต์ เเล้ววิธีที่จะได้ชีวิตใหม่นี่ ต้องทำอย่างไรอะครับ มันคือการหลุดพ้นรึเปล่า ?

พระเเม่มารีนี่ทางสาวกศาสนาคริสต์นับถือท่านเพราะอะไรอะครับ นับถือที่ คุณธรรม คติธรรม อะไรอะครับ ข้อนี้ก็สงสัยมานานเเล้วอะครับ

รบกวนเพื่อนลูกเเกะทั้งหลายด้วยนะครับ ขอบคุณมากๆครับ

ว่าเเต่ผมตั้งถูกห้องรึเปล่าหว่า...
-ชีวิตใหม่ คือการกลับใจ จากการที่ทำสิ่งไม่ดีต่างๆ ให้เรากลับใจมาอยู่ในศีลในพรของพระ เเล้วปฏิบัติตนตามพระวรสาร เชื่อฟังสิ่งพระศาสนจักรสอน ทำตนให้เป็นคนดี หรือพูดง่ายๆว่าเป็นการ เปลี่ยนพฤติกรรมเเละความเชื่อ
ทำอย่างไรถึงจะได้มา? ก็ลองกลับมาหาพระเจ้าดูสิคะ...คิกคิก  :grin:
การหลุดพ้นหรอ? เราเชื่อเรื่องชีวิตนิรันด์ คือการตายไปเเล้วกลับไปอยู่กับพระเจ้า เเต่หลุดพ้นที่ว่า ไม่เเน่ใจว่าหมายถึงอะไร เเต่ถ้าหมายถึงนิพพาน เราไม่ได้เชื่อเช่นนั้นเอามาปนกันอาจจะงงเองๆ ถ้าหมายถึงได้หลุดพ้นจากการเป็นทาสของความชั่ว ค่อยว่าไปอีกอย่างค่ะ :grin:
-พระเเม่มารีย์ ทรงเป็น พระมารดาของพระเจ้า อันนี้ฟังดูเข้าใจใหม?
พระนางเป็นผู้เดียวในโลก(หากไม่รวมพระเยซู) ที่เกิดมาโดยไม่มีบาปกำเนิด เนื่องจากพระเจ้าทรงชำระมาเเล้วเพื่อ
ให้พระนางมาเป็นพระมารดาของพระเยซู ตามเเผนการของพระเจ้า
เเละตอนพระเยซูถูกตรึงอยู่บนกางเขน พระองค์ได้ตรัสว่า พระเเม่มารีย์เป็นมารดาของชาวเราทุกคน เเล้วเราก็เป็น
บุตรของพระนางทุกคน ......
เเล้วก็การสวดภาวนาผ่านทางเเม่พระ ก็เพื่อให้พระนาง(ผู้มีความใกล้ชิดกับพระเยซูมากที่สุด)ช่วย
วิงวอน พระเจ้าเพื่อเรา ขอเน้นคำว่าวิงวอน เพราะเราไม่ได้เชื่อว่าพระนางจะประทานพรให้ได้ เเต่เชื่อว่าพระนางจะภาวนา เพื่อเราได้ :grin:

ป.ล. Welcome  ::012::
แก้ไขล่าสุดโดย Ecclēsia เมื่อ ศุกร์ มี.ค. 30, 2007 12:52 am, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
ภาพประจำตัวสมาชิก
Holy
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 10011
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:06 pm

ศุกร์ มี.ค. 30, 2007 1:16 am

อ่านอันนี้นะครับ



นิกายใหญ่ ของคริสต์ มี 3 นิกาย คือ....เริ่มแรก บรรพชน ของพวกเราก็รวมกันมาไม่ได้มีการแยกนิกายอะไร ต่อมา ศตวรรษที่ 11 มีความขัดแย้ง ระหว่างพระศาสนจักร(คริสตจักร)ตะวันออก และโรม
จึงแยก ตัวออกไป เกิดเป็นนิกายออธอดอคขึ้นมา

และ ต่อมา ในศตวรรษที่16 ในพระศาสนจักร ได้ประสบปัญหาต่างๆมากมาย ทั้งจากระบบ และความประพฤติของบรรดาบาทหลวง ทางอดีตบาทหลวงมาร์ติน ลูเธอร์ ยื่นประท้วง 95 ข้อ เพื่อขอให้แก้ไข แต่ไม่ได้รับการตอบสนองจากสมเด็จพระสันตะปาปา เลยถูกขับ และสั่งลงโทษ ( ยุคนั้น พระศาสนจักร มีอำนาจเหนืออาณาจักร ) และได้เกิดนิกายโปรแตสแตนท์ขึ้นมา

ดังนั้นสรุปนิกายใหญ่ๆของคริสตศาสนาได้ดังนี้

1.โรมันคาทอลิก

2.ออเทอดอกซ์ แยกออกไป เมื่อ ปี ค.ศ. 1054

3.โปรเตสแตนต์ แยกออกไป เมื่อ ปี 1517 โดยอดีตบาทหลวง มาร์ติน ลูเธอร์

++++++++++++++++++++++++++++++

+โรมันคาทอลิก+
มีพระสันตะปาปาเป็นประมุข โดยสืบทอดมาตั้งแต่สมัยอัครสาวกกลุ่มแรก โดยถือว่า นักบุญ เปโตร หรือ เซนต์ปีเตอร์ คือพระสันตะปาปาพระองค์แรก และสืบทอดมาถึงพระสันตะปาปาเบนนิดิกที่ 16 องค์ปัจจุบันเป็นองค์ที่265

ผู้นับถือคริสตศาสนาทุกนิกายทั่วโลก เรียกเป็นภาษาอังกฤษเหมือนกันว่า คริสเตียน แปลเป็นภาษาไทยคือคริสตชน แต่สำหรับประเทศไทยเรานั้น นิกายโรมันคาทอลิกถูกนำเข้ามาก่อนสมัยพระนารายณ์มหาราชโดยบาดหลวงชาวโปรตุเกส ดังนั้นการออกเสียงคำว่า คริสเตียนในภาษาโปรตุเกส ออกเสียงว่า "คริสตัง" อย่างจีซัส ก็ออกเสียงว่า "เยซู" จึงทำให้คาทอลิคเรียกผู้นับถือศาสนาคริสต์นิกายคาทอลิคว่า คริสตัง ส่วนโปรแตสแตนท์เข้ามาสมัยหมดบลัดเลย์ซึ่งเป็นอเมริกา ดังนั้น โปรแตสแตนท์ไทยจึงเรียกตัวเองว่า คริสเตียน ตามแบบภาษาอังกฤษ สำเนียงอเมริกา แต่คำว่า"เยซู"ก็ใช้ตามที่คาทอลิกและคนไทยได้คุ้นเคยแล้ว

กลับมาที่ลักษณะของคาทอลิกต่อ

คาทอลิกนั้นจะมีนักบวช ที่เรียกว่า บาดหลวง หรือซิสเตอร์

คาทอลิกจะมีการให้เกียรติพระนางมารีย์ แม่ของพระเยซูเป็นพิเศษ เรียกพระนางว่า "แม่พระ" มาจากคำว่า มารดาของพระเจ้า

คาทอลิกจะมีการยกย่องวีรบุรุษ หรือวีรสตรีทางศาสนา หรือเรียกง่ายๆว่า บุคคลที่ดำเนินชีวิตตามแบบอย่างพระเยซูอย่างดีมากจนเรามั่นใจว่าเขาได้ไปสวรรค์แน่นอน(คล้ายๆกรณีพระอรหันต์ในศาสนาพุทธ) เราจะเรียกคนเหล่านี้ ว่าเป็น นักบุญ

ดังนั้นหากเปรียบให้เข้าใจง่าย เรามองว่าพระเยซูคือกษัตริย์ ส่วนแม่พระก็เป็นพระราชชนนี(แบบสมเด็จย่า) เหล่านักบุญก็เหมือนขุนนาง ที่ใกล้ชิดกษัตริย์

คาทอลิกมีความเชื่อว่า ในพิธีมิซซา(พิธีนมัสการพระเจ้าในวันอาทิตย์) เมื่อขนมปัง และเหล้าองุ่นถูกเสกในพิธี ก็คือเนื้อ และพระโลหิต เหมือนที่พระเยซูเจ้าทรงกระทำในอาหารค่ำมื้อสุดท้าย

โบสถ์คาทอลิกทุกแห่ง ถือเป็น1เดียวกัน ขึ้นตรงต่อกรุงวาติกัน และองค์พระสันตะปาปา ดังนั้น หากคุณเป็นคาทอลิกคุณสามารถไปวัดไหนก็ได้ที่ใกล้บ้าน สามารถเปลี่ยนวัดที่ไปได้ตามแต่สะดวก


+โปรแตสแตนต์+

โปรแตสแตนทต์นั้น หลังจากการแยกนิกายในสมัยมาตินลูเธอร์ หลังจากนั้นได้มีการแยกนิกายย่อยอีกหลานิกาย ดังนั้นโบสถ์หรือคริสตจักรต่างๆ จะไม่ได้ขึ้นกับวาติกันหรือพระสันตะปาปาแต่อย่างใด

แต่สำหรับในประเทศไทย โปรแตสแตน แบ่งเป็น 4 สายใหญ่ๆ คือสายสภาคริสตจักรในประเทศไทย สายสหกิจคริสตจักร และสายสหแบ๊บติสท์ และ เซเวนเดย์แอดเวนทิสท์ และนอกจากนั้นมีคริสตชนที่ไม่มีสังกัด เรียกตัวเองว่าคริสตจักรอิสระ

เท่าที่ทราบมานั้น โบสถ์ใน 4 สายหลักนี้ จะมีโยงใยถึงกัน และมีการตั้งที่เป็นระบบระเบียบ มีการควบคุมดูแลความสอดคล้องในหลักข้อความเชื่อให้ถูกต้อง แต่ในขณะเดียวกันก็มีคริสตจักรที่ไม่มีที่มาที่ไปที่ตั้งขึ้นเอง ซึ่งก็ต้องระมัดระวังในหลักความถูกต้องต่างๆด้วยตัวเอง ทั้งผู้สอนและผู้เชื่อ

โปรแตสแตนต์ ไม่มีนักบวช แต่มีผู้ถวายตัวรับใช้พระเจ้า เรียกว่า ศาสนจารย์ /ศิษยาภิบาล และผู้ประกาศ ซึ่งอาจแต่งงานหรือไม่แต่งงานก็ได้ การเรียกคำนำหน้าบุคคลเหล่านี้ จะเรียกว่า อาจารย์

โปรแตสแตนต์(โดยทั่วๆไป)จะไม่ให้ความสำคัญพิเศษกับพระนางมารีย์ หรือนักบุญ จะเน้นการเข้าถึงพระเยซูเจ้าโดยตรงด้วยตนเอง แต่สำหรับบางกลุ่มที่สนใจในเรื่องศาสนศาสตร์สตรี จะให้ความสำคัญกับพระนางมารีย์มากขึ้น ในฐานะแบบอย่างของสตรีคริสตชนที่ดี

สถานที่ประกอบกิจกรรมทางศาสนาของโปรแตสแตนต์เรียกว่าคริสตจักร ซึ่งคาทอลิคจะเรียกวัด

โดยทั่วไป เมื่อรับเชื่อที่โบสถ์ไหน ก็ต้องร่วมนมัสการที่โบสถ์นั้น

พิธีทางศาสนาในวันอาทิตย์เรียกว่าพิธีนมัสการ



http://www.newmana.com/yabb/http://newm ... eadid=2747
Buddy
โพสต์: 3057
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ มี.ค. 09, 2005 10:48 am
ที่อยู่: USA

ศุกร์ มี.ค. 30, 2007 1:53 am

เรื่องชีวิตใหม่นี้  เป็นคำถามที่ดีมาก  คุณจะเข้าใจคำตอบด้วยประสบการณ์อย่างที่ Ecclesia บอก  ต้องเข้ามาหาพระ  แล้วจะรู้ว่า  เป็นยังไง  ซึ่งการเริ่มต้นด้วยการกลับใจ  อย่างที่น้อง Ecclesia บอก  ::001::

ไม่ทราบว่า  คุณเคยมีประสบการณ์พวก  .....  "โอ้โห  เนี่ย  เหมือนตายแล้วเกิดใหม่เลย"  รึว่า  "โอ้โห  ตั้งแต่เจอเธอคนนั้น  ผมเปลี่ยนไปเป็นคนละึคนเลย  เหมือนไม่ใช่คนเก่าที่เคยเป็น" .... เคยมีใครเข้่ามาในชีวิต  สัมผัสเรา  และทำให้เรามีแรงผลักดันที่จะเปลี่ยนตัวเอง หรือทำอะไรใหม่ๆที่เราไม่เคยหรือไม่กล้าทำมั้ยคะ  หรือว่า  อาจเป็นแค่ทำให้เรามีกำลังใจขึ้นมาก็ได้  นั่นแหละ  เหมือนกัน  แต่นี่เป็นพระเจ้า  พระองค์สัมผัสเราได้มากกว่านั้น  และให้เราได้มากกว่านั้น  จนทำให้เราพูดได้ว่า  เรามีชีวิตใหม่ในพระองค์จริงๆ ....    ประสบการณ์แบบนี้ล่ะค่ะ  จะสามารถอธิบายได้ถึงคำว่า  ชีวิตใหม่ได้ใกล้เคียงที่สุด  มันคือ  ความรู้สึกแบบนี้แหละที่  ผู้ที่พระเป็นเจ้าเรียกมา  พระองค์สัมผัสเราด้วยวิธีการต่างๆ  ประทานชีวิตใหม่ให้    และให้ชีวิตใหม่คุณไปเรื่อยๆ  ตราบเท่าที่คุณร่วมมือกับพระองค์ ให้พระองค์ทำงานในคุณ  และพร้อมที่จะกลับใจในทุกๆวัน  และติดตามพระเยซูเจ้าในทุกๆวัน  เป็นความหลุดพ้นมั้ย  ก็อาจจะใช่  แต่ความรู้สึกนึงที่จะเกิด  คือความรู้สึกเป็นอิสระ  เหมือนมีคนมาปลดปล่อยอะไรซักอย่างออกจากเรา  บางคนบอกเหมือนปลดหนี้  ความรู้สึกแบบนั้นแหละค่ะ  ที่บางทีเราจะเรียก  พระเยซูเจ้าว่า พระผู้ไถ่  เพราะพระองค์มาไถ่เราจริงๆ  ::001::

ชีวิตคริสตชน  เป็นชีวิตแห่งการกลับใจ  เป็นชีวิตที่ท้าทายต่อการทำสิ่งใหม่  สิ่งที่ท้่าทาย  เหมือนกับพระเยซูเจ้า  ที่ได้ทำสิ่งใหม่  และสิ่งที่ท้าทาย  เมื่อพระองค์อยู่บนโลก  และพระองค์ยังคงทำอยู่ทุกวัน 

นอกจากนั้น  ยังเป็นชีวิตแห่งการทำตามน้ำพระทัยพระเป็นเจ้า  เป็นชีวิตแห่งความเชื่อ  แม่พระเป็นตัวอย่างที่ดีสำหรับเรื่องนี้  ในวันที่แม่พระ  ตกลงทำตามน้ำพระทัยพระเป็นเจ้า  วันที่แม่พระ say yes!!  แผนการณ์ไถ่กู้มนุษย์จึงเริ่มต้นได้  ที่จริงแม่พระมีคุณธรรมหลายอย่าง  แต่ตอนนี้  เอาแค่นี้ก่อนนะคะ  ::001::
ภาพประจำตัวสมาชิก
Holy
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 10011
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:06 pm

ศุกร์ มี.ค. 30, 2007 2:09 am

เป็นความจริงครับ ที่ว่าชีวิตใหม่นั้น เป็นประสบการณ์ส่วนบุคคล ไม่ใช่ทฤษฎี และ ไม่ใช่ได้มาจากการทำอะไรแล้วจะได้ เพราะขนาดผมล้างบาปแต่เด็ก แต่มาฟื้นจากตายเอาตอนโต
ภาพประจำตัวสมาชิก
Holy
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 10011
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:06 pm

ศุกร์ มี.ค. 30, 2007 5:26 pm

ในส่วนของแม่พระนั้นขอเพิ่มเติมคือ

การนับถือแม่พระนั้นมี2ส่วน คือทั้งในส่วนของ ฐานะ และในส่วนของ คุณธรรมความดี

พระแม่มารีย์คือคริสตชนคนแรก คือผู้เชื่อคนแรก คือผู้นอบน้อมสุภาพที่สุด และไม่เคยมีจุดในพระคัมภีร์ที่บ่งบอกว่าพระแม่เคยทำผิดหรือทำไม่ดี หรือทำบาป และทุกจุดในพระคัมภีร์บ่งชี้ว่าสตรีเงียบๆคนนี้ ทำตามน้ำพระทัยพระเจ้าทุกอย่างอย่างสมบูรณ์แบบจริงๆ

แม่พระจึงเป็นแบบอย่างของสุดยอดคริสตชน บางคนอาจอ้างว่าการทำตามอย่างพระเยซูนั้นทำยาก เพราะหลายสิ่งที่พระองค์ทำได้ส่วนหนึ่งมากจากพระเทวภาพพระเจ้าพระองค์ ดังนั้นเราจะมีตัวอย่างมนุษย์แท้ๆอีกคนคือพระมารดามารีย์ ที่ยอมรับน้ำพระทัยพระเจ้าได้เต็มร้อยโดยไม่เคยขัดเลย ดังนั้นถ้าแม่ทำได้ก็ไม่มีใครมาอ้างได้อีกว่าสิ่งที่พระเยซูสอนนั้นยากเกินกำลังมนุษย์จะทำได้
ภาพประจำตัวสมาชิก
Holy
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 10011
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:06 pm

เสาร์ มี.ค. 31, 2007 4:47 am

พระมารดามารีย์คือใคร

พระมารดามารีย์ หรือพระแม่มารีย์ หรือที่คริสตชนคาทอลิค เรียกสั้นๆว่า "แม่พระ" คือพระมารดาของพระเยซูเจ้า ผู้ซึ่งพระศาสนจักรคาทอลิค และออธโธดอค ให้ความเคารพพระนางเป็นพิเศษ ในฐานะ มารดาพระเจ้า สตรีผู้นี้คือสตรีที่มีผู้คนมอบความรัก และความเคารพให้ มากที่สุดในโลก

และต่อไปนี้ เราจะได้เห็นถึงเกียรติมงคลอันรุ่งเรืองยิ่งของสตรีศักดิ์สิทธิ์แห่งพระศาสนจักร ที่คริตชนนิกายโรมันคาทอลิค และออธโธดอค กว่า1พันล้านคนทั่วโลก ถวายเกียรติแด่เธอรองจากพระเยซู

สตรีผู้มีฐานะมารดาพระเจ้า

ในพระคัมภีร์ไบเบิ้ล ได้บันทึกฐานะของพระมารดามารีย์นี้ในฐานะมารดาพระเจ้า เมื่อตอนพระนางทรงครรภ์ และได้เสด็จไปเยี่ยมนางเอลีซาเบธ มารดาของนักบุญยอห์น บัสติส ขณะนั้น ทารกทั้งสองยังอยู่ในครรภ์มารดาของตน

พระคัมภีร์บันทึกโดยนักบุญลูกาบทที่ 1 ข้อที่ 39-45  พระนางมารีย์เสด็จเยี่ยมนางเอลีซาเบธ
  หลังจากนั้นไม่นาน พระนางมารีย์ทรงรีบออกเดินทางไปยังเมืองหนึ่งในแถบภูเขาแคว้นยูเดีย  พระนางเสด็จเข้าไปในบ้านของเศคาริยาห์และทรงทักทายนางเอลีซาเบธ  เมื่อนางเอลีซาเบธได้ยินคำทักทายของพระนางมารีย์ บุตรในครรภ์ก็ดิ้น  นางเอลีซาเบธได้รับพระจิตเจ้าเต็มเปี่ยม  ร้องเสียงดังว่า
ภาพประจำตัวสมาชิก
Holy
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 10011
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:06 pm

เสาร์ มี.ค. 31, 2007 4:59 am

พรหมจารีย์ผู้ควรเคารพและประกาศสรรเสริญ

นอกจากนี้ พระศาสนจักรยังขนานพระนามแม่พระในฐานะที่เป็นการบอกแก่คริสตชนทุกคนอย่างแจ่มแจ้งว่าควรมีท่าที่อย่างไรต่อสตรีศักดิ์สิทธิ์ผู้นี้ และแน่นอนว่า พระคัมภีร์ไบเบิ้ลก็บันทึกยืนยันเรื่องนี้เช่นกัน


พระคัมภีร์บันทึกโดยนักบุญลูกาบทที่  1 ข้อ 46
พระนางมารีย์ ตรัสว่า วิญญาณข้าพเจ้าประกาศความยิ่งใหญ่ของพระเจ้า จิตใจของข้าพเจ้าชื่นชมยินดีในพระเจ้า พระผู้กอบกู้ข้าพเจ้า เพราะพระองค์ทอดพระเนตรผู้รับใช้ต่ำต้อยของพระองค์ ตั้งแต่นี้ไป ชนทุกสมัยจะกล่าวว่าข้าพเจ้าเป็นผู้ทรงบุญ พระผู้ทรงสรรพานุภาพทรงกระทำกิจการยิ่งใหญ่สำหรับข้าพเจ้า
พระนามของพระองค์ศักดิ์สิทธิ์ พระกรุณาต่อผู้ยำเกรงพระองค์แผ่ไปตลอดทุกยุคทุกสมัย


รูปภาพ

ดังนั้น พระศาสนจักรคาทอลิคจึงถือตามพระคัมภีร์ข้อนี้คือ คริสตชนทุกกาลสมัยต้องเคารพและสรรเสริญพระมารดามารีย์ จึงได้ถวายพระนามแต่พระมารดามารีย์อีกคือ

พรหมจารีย์ควรเคารพ(Virgo veneranda) และ
พรหมจารีย์ควรประกาศสรรเสริญ(Virgo praedicanda)



สตรียอดศรัทธา

พระคัมภีร์บันทึกโดยนักบุญลูกาบทที่ 1 ข้อ28-38
ทูตสวรรค์เข้าในบ้านกล่าวกับพระนางว่า
ภาพประจำตัวสมาชิก
Holy
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 10011
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:06 pm

เสาร์ มี.ค. 31, 2007 5:32 am

ถ้าคุณอยากรู้จักศาสนาคริสต์อย่างถูกทางและเข้าใจได้เร็ว พึงระลึกว่า ศาสนาคริสตเป็นศาสนาแห่งความรัก และเหตุผลของคริสตศาสนาคือเหตุผลของความรัก

เหมือนแม่ ที่เมื่อตั้งท้องก็รักลูกตั้งแต่ก่อนลูกจะเกิดมาซะอีก เหตุผลคืออะไร แม่รู้ว่าเขาหล่อเหรอ รู้ว่าเขาจะรวยเหรอ รู้ว่าเขาจะรักแม่เหรอ รู้ว่าเขาจะเป็นคนดีเหรอ เขาจะรักแม่มากไหม ไม่มีแม่คนไหนแน่ใจอะไรได้เลย แต่....... แม่ก็รักไปแล้ว รักทั้งที่ไม่เคยเห็นหน้า ไม่รู้ว่าใคร แต่ทำไมรัก เหตุผลอธิบายได้ไหม


ดังนั้น ถ้าคุณแสวงหาใครสักคนเพื่อเคารพสักการะ กราบกราน หรือเอาไว้ไหว้ขออะไรสักอย่าง ผมว่ามีศาสนาอื่นๆอีกมากมายที่ให้คุณได้ แต่....

สำหรับคริสตชน เรามีใครคนหนึ่งที่เราจะรัก และเรามีใครคนนั้นที่รักเราเสมอ ตั้งแต่ก่อนวิญญาณเราจะเกิดมา และจะรักตลอดไปตลอดนิรันดร เพราะเรากับพระองค์ไม่ได้ผูกพันกันแค่ชีวิตสั้นๆในโลกนี้ แต่เป็นตลอดกาล

ดังนั้นถ้าคุณจะมา คุณจงคิดว่า คุณมารับความรักอันยิ่งใหญ่ ก่อนจะคิดว่าจะมานับถืออะไร จะดีกว่านะครับ
ภาพประจำตัวสมาชิก
Big_TC29
โพสต์: 333
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ก.ค. 17, 2006 12:34 am
ที่อยู่: ในรู

เสาร์ มี.ค. 31, 2007 12:33 pm

พี่ Holy ตอบได้ดีมากๆเลยครับ
Batholomew
~@
โพสต์: 12724
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 2:28 pm
ที่อยู่: Thailand

จันทร์ เม.ย. 02, 2007 11:30 am

ยินดีต้อนรับคุณเจ้าของกระทู้นะครับ

ศาสนาคริสต์เป็นศาสนาของความรัก เรารักพระเป็นเจ้าและรักเพื่อนมนุษย์เหมือนรักตัวเองครับ
เรานับถือพระเจ้าพระองค์เดียว แต่ก็ให้ความเคารพกับนักบุญท่านอื่น ๆ ด้วยครับ

พระแม่มารีย์ เป็นนักบุญคนหนึ่ง เป็นผู้ที่พระเจ้าทรงโปรดปราน และเป็นมารดาพระเจ้าครับ
ดังนั้น คาทอลิก จึงให้ความเคารพรักพระแม่มาก ๆ ครับ เพราะเราเชื่อว่า พระแม่วิงวอนพระองค์เพื่อเราเสมอครับ
ตอบกลับโพส