Belong to the Truth Jesus Christ

กำหนดการของคุณพ่อคอร์ซี่ เลอแกชปี้ (Corsie Legaspi)
พระสงฆ์ชาวฟิลิปปินส์  ผู้มีพระพรพิเศษในการรักษาโรค
วันที่ 19 เม.ย. เวลา 18.30 น. วัดพระมหาไถ่ กรุงเทพฯ
วันที่ 20 เม.ย. เวลา 14.00 น. วัดแม่พระประจักษ์เมืองลูร์ด
วันที่ 21 เม.ย. เวลา 14.00 น. วัดวัดนักบุญอันนา (ท่าจีน)
วันที่ 22 เม.ย. เวลา 14.00 น. วัดแม่พระมหาทุกข์ ท่าม่วง
วันที่ 24 เม.ย. เวลา 14.00 น. วัดอัครเทวดามีคาแอล สะพานใหม่
วันที่ 25 เม.ย. เวลา 14.00 น. วัดนักบุญยอแซฟ ตรอกจันทน์
วันที่ 26 เม.ย. เวลา 14.00 น. วัดราชินีแห่งสันติสุข 101

***ผมได้มาจาก จุลสาร Good News ประจำวันอาทิตย์ใบลาน 1 เมษายน 2007 ของวัดพระมหาไถ่ น่ะครับ  อยากให้ถึงเวลาเร็วจัง
อยากขอพระพรผ่านทางคุณพ่อ บ้าง

      ได้ยินเรื่องท่านมาน้อยมาก ขอข้อมูลเพิ่มหน่อยจ้า

โรคประมาณไหนอ่ะคะ มะเร็ง? ตับ? เอดส์? 

รักษาโดยอาศัยความเชื่อในองค์พระเจ้าครับ

Ecclesia เขียน: โรคประมาณไหนอ่ะคะ มะเร็ง? ตับ? เอดส์? 

เป็น divine healing นะ  ลองอ่านพระวรสารของนักบุญมัทธิวที่พระเยซูเจ้ารักษานะจ้ะ  บางคนไม่ได้เป็นโรคทางกายแต่มี spiritual suffering  ก็ไปได้จ้า  โรคทางจิตอย้่างโรคซึมเศร้าก็ได้นะ

พระเยซูเจ้าเป็นผู้รักษาโดยใช้คุณพ่อเป็นเครื่องมือ  ถึงไม่ได้ป่วยก็ไปได้จ้า    เพราะบางคนพระเรียกให้ไปเป็นพยาน  บางคนพระเรียกให้ไปเพื่อจะได้เข้าใจพระวรสารมากขึ้น  บางคนพระเรียกให้ไปเพื่อจะได้มีความเชื่อเพิ่มขึ้น  บางคนมาเพราะเป็นโรค แต่พระเยซูเจ้าต้องการให้รักษาจิตวิญญาณเค้่ามากกว่าให้หายโรค  อันนี้คุณพ่อเองก็ไม่รู้ว่าพระองค์จะทำงานยังไง  เพราะคุณพ่อเป็นเครื่องมือเท่านั้นจ้า 

ไปแล้วมีพิธีอะไรบ้างคะ ต้องเตรียมตัวยังไง
คุณพ่อจะอธิษฐานหมู่ หรือ ว่ามาวางมือทีละคนอ่ะคะ

เมื่อวันเสาร์เเอบเห็นคุณพ่อท่านที่วัดอัสสัมชัญ หลังมิสซาดึกด้วย (ไม่ทราบจำคนสลับกันหรือเปล่า)

Ecclesia เขียน: เมื่อวันเสาร์เเอบเห็นคุณพ่อท่านที่วัดอัสสัมชัญ หลังมิสซาดึกด้วย (ไม่ทราบจำคนสลับกันหรือเปล่า)

ทำไมต้องแอบเห็นล่ะ

ตอนมากครั้งแรกมีคนไปแจ้งหนังสือพิมพ์ไทรัฐให้มาลงข่าวลงหน้าหนึ่ง ตอนนั้นพี่อยู่ คริสตจักรความหวัง ออก ครน.ไปประกาศบ้านใคร ใครก็คิดว่าเป็นคาทอลิกต้องบอกให้เขาฟังว่าไม่ใช่แต่ก็ประกาศง่ายขึ้นมากเลยพาคนมาโบสถ์ง่าย แจกใบปลิวแล้วก็พูดคำพยานชีวิตแล้วก็มีผู้สนใจเยอะ

Joseph เขียน: ตอนมากครั้งแรกมีคนไปแจ้งหนังสือพิมพ์ไทรัฐให้มาลงข่าวลงหน้าหนึ่ง ตอนนั้นพี่อยู่ คริสตจักรความหวัง ออก ครน.ไปประกาศบ้านใคร ใครก็คิดว่าเป็นคาทอลิกต้องบอกให้เขาฟังว่าไม่ใช่แต่ก็ประกาศง่ายขึ้นมากเลยพาคนมาโบสถ์ง่าย แจกใบปลิวแล้วก็พูดคำพยานชีวิตแล้วก็มีผู้สนใจเยอะ

หมายถึง คจ.นั้นอาศัยชื่อของพ่อ เรื่องฤทธิ์เดชหรือคะ :huh:

ออ ขยายความให้เขาใจหน่อย ใครก็คิดเป็นคาทอลิก พวกเราหมายถึงตอนนั้นพี่อยู่ความหวังพี่ก็ต้องบอกเขาว่าไม่ใช่ พวกเรามาจากโบสถ์ความหวังของพระเจ้าไม่ใช่คาทอลิก แต่มีการรักษาโรคเหมือนกัน แล้วก็หลายคนที่มีปัญหาบางคนเดินไม่ได้ บางคนขายาวไม่เท่ากันไปโบสถ์ก็ได้รับการรักษา แล้วก็เล่าประสบการชีวิตของพี่น้องแต่ละคนให้ฟัง ก็มีคนเปิดใจยอมมาความหวังได้มากเลยทีเดียวช่วงนั้น คือประกาศชวนคนมาโบสถ์ความหวังได้ง่ายขึ้นครับ

-Rei- เขียน: ไปแล้วมีพิธีอะไรบ้างคะ ต้องเตรียมตัวยังไง
คุณพ่อจะอธิษฐานหมู่ หรือ ว่ามาวางมือทีละคนอ่ะคะ

เหมือนมิสซาทั่วไปน่ะจ้ะ  เป็น healing mass เรเคยไปมิสซาแล้วนี่จ้ะ    ....  คิดว่าพ่อปรกมือทีละคนนะ 

Joseph เขียน: ออ ขยายความให้เขาใจหน่อย ใครก็คิดเป็นคาทอลิก พวกเราหมายถึงตอนนั้นพี่อยู่ความหวังพี่ก็ต้องบอกเขาว่าไม่ใช่ พวกเรามาจากโบสถ์ความหวังของพระเจ้าไม่ใช่คาทอลิก แต่มีการรักษาโรคเหมือนกัน แล้วก็หลายคนที่มีปัญหาบางคนเดินไม่ได้ บางคนขายาวไม่เท่ากันไปโบสถ์ก็ได้รับการรักษา แล้วก็เล่าประสบการชีวิตของพี่น้องแต่ละคนให้ฟัง ก็มีคนเปิดใจยอมมาความหวังได้มากเลยทีเดียวช่วงนั้น คือประกาศชวนคนมาโบสถ์ความหวังได้ง่ายขึ้นครับ

สนใจจากบาทหลวงคาทอลิค แต่กลับพาไปที่ๆจะด่าคาทอลิคและแอนตี้คาทอลิค อือม์...

คนเขาคงสับสนน่าดูเนอะ

พ่อผมก็ล้างบาปหลังจากที่พ่อคอร์ซี่วางมือให้แล้ว

Holy เขียน:

Joseph เขียน: ออ ขยายความให้เขาใจหน่อย ใครก็คิดเป็นคาทอลิก พวกเราหมายถึงตอนนั้นพี่อยู่ความหวังพี่ก็ต้องบอกเขาว่าไม่ใช่ พวกเรามาจากโบสถ์ความหวังของพระเจ้าไม่ใช่คาทอลิก แต่มีการรักษาโรคเหมือนกัน แล้วก็หลายคนที่มีปัญหาบางคนเดินไม่ได้ บางคนขายาวไม่เท่ากันไปโบสถ์ก็ได้รับการรักษา แล้วก็เล่าประสบการชีวิตของพี่น้องแต่ละคนให้ฟัง ก็มีคนเปิดใจยอมมาความหวังได้มากเลยทีเดียวช่วงนั้น คือประกาศชวนคนมาโบสถ์ความหวังได้ง่ายขึ้นครับ

สนใจจากบาทหลวงคาทอลิค แต่กลับพาไปที่ๆจะด่าคาทอลิคและแอนตี้คาทอลิค อือม์...

คนเขาคงสับสนน่าดูเนอะ

ที่จริงทุกวันนี้ผมว่ามีคนสนใจศาสนาคริสต์เยอะ แต่ก็มีหลายคนไม่เขาไม่เข้าใจอันไหนคือคาทอลิกอันไหนคือโปสแตสแตนท์อันไหนคือความหวัง เขาเห็นเป็นคริสต์เขาก็คิดว่าเหมือนกันหมด

สมัยผมความหวังกรุงเทพฯ ที่นั้นวันอาทิตย์นมัสการ 5 รอบ จากรายชื่อสมาชิกที่ออกไปรับเชื่อแล้วขึ้นทะเบียนไว้อาทิตย์ละประมาณสองร้อยคน เฉพาะโบสถ์ที่คลองเตยอย่างเดียวไม่รวมที่อื่น  แต่ชวนไปแล้วก็หลงหายก็ตามกันเป็นลูกคลื่นอย่างนี้อยู่เป็นประจำลูกคลื่นมากระทบแล้วก็ไป มากระทบแล้วก็ไป แล้วก็ตามกันดุเดือด แล้วคนที่หลงหายไปก็หันกลับมาต่อต้านศาสนาคริสต์อีก เท่าที่ได้ยินมาจากหลายๆ แห่งมักเจอคำพูดนี้บ่อยมากๆ

1. บังคับ ไม่เป็นอิสระ
2. ขูดรีดเงินให้ถวายเยอะๆ
3. ดูถูกศาสนาอื่นๆ(ทำให้คนเกียจศาสนาคริสต์)
4. คลั่งลัทธิแล้วก็เผด็จการ
5. หลอกลวงเงิน ขี้โกง

Joseph เขียน:

Holy เขียน:

Joseph เขียน: ออ ขยายความให้เขาใจหน่อย ใครก็คิดเป็นคาทอลิก พวกเราหมายถึงตอนนั้นพี่อยู่ความหวังพี่ก็ต้องบอกเขาว่าไม่ใช่ พวกเรามาจากโบสถ์ความหวังของพระเจ้าไม่ใช่คาทอลิก แต่มีการรักษาโรคเหมือนกัน แล้วก็หลายคนที่มีปัญหาบางคนเดินไม่ได้ บางคนขายาวไม่เท่ากันไปโบสถ์ก็ได้รับการรักษา แล้วก็เล่าประสบการชีวิตของพี่น้องแต่ละคนให้ฟัง ก็มีคนเปิดใจยอมมาความหวังได้มากเลยทีเดียวช่วงนั้น คือประกาศชวนคนมาโบสถ์ความหวังได้ง่ายขึ้นครับ

สนใจจากบาทหลวงคาทอลิค แต่กลับพาไปที่ๆจะด่าคาทอลิคและแอนตี้คาทอลิค อือม์...

คนเขาคงสับสนน่าดูเนอะ

ที่จริงทุกวันนี้ผมว่ามีคนสนใจศาสนาคริสต์เยอะ แต่ก็มีหลายคนไม่เขาไม่เข้าใจอันไหนคือคาทอลิกอันไหนคือโปสแตสแตนท์อันไหนคือความหวัง เขาเห็นเป็นคริสต์เขาก็คิดว่าเหมือนกันหมด

สมัยผมความหวังกรุงเทพฯ ที่นั้นวันอาทิตย์นมัสการ 5 รอบ จากรายชื่อสมาชิกที่ออกไปรับเชื่อแล้วขึ้นทะเบียนไว้อาทิตย์ละประมาณสองร้อยคน เฉพาะโบสถ์ที่คลองเตยอย่างเดียวไม่รวมที่อื่น  แต่ชวนไปแล้วก็หลงหายก็ตามกันเป็นลูกคลื่นอย่างนี้อยู่เป็นประจำลูกคลื่นมากระทบแล้วก็ไป มากระทบแล้วก็ไป แล้วก็ตามกันดุเดือด แล้วคนที่หลงหายไปก็หันกลับมาต่อต้านศาสนาคริสต์อีก เท่าที่ได้ยินมาจากหลายๆ แห่งมักเจอคำพูดนี้บ่อยมากๆ

1. บังคับ ไม่เป็นอิสระ
2. ขูดรีดเงินให้ถวายเยอะๆ
3. ดูถูกศาสนาอื่นๆ (ทำให้คนเกียจศาสนาคริสต์)
4. คลั่งลัทธิแล้วก็เผด็จการ
5. หลอกลวงเงิน ขี้โกง

เอ้อ... รุนแรงไปเปล่า   
***ขอบคุณทุกคนที่ให้ความเห็น  แต่พักหลังๆ ชักจะหลุดจากกระทู้น่ะ

กลายเป็นการเเตกเเยกระหว่างนิกายเฉยเลย 555 

กลับเข้าเรื่องๆ


รู้สึกว่า พี่Rei ได้ไปที่มหาไถ่มา ถ้าไงเข้ามาแบ่งปันหน่อยก้ดีนะงับ

    เมื่อวานนี้ (19 เมษายน 2550) ผมได้มีโอกาสไปที่ร่วมศาสนบริการในการรักษาโรค (healing service) ของคุณพ่อคอร์ซี่ ที่วัดพระมหาไถ่ ซ.ร่วมฤดี เริ่มต้นเวลา 6 โมงเย็นคุณพิชาญ  ได้ให้มีการเฝ้าศีลมหาสนิท (อวยพรผ่านศีลมหาสนิทในรัศมี) จนถึงเวลา 6.30 น. ก็มีพิธีมิสซาบูชาขอบพระคุณ รู้สึกจะเสร็จประมาณ ทุ่มครึ่ง
      หลังจากนั้นก็เป็นการรักษาโรคโดยคุณพ่อคอร์ซี่ ท่านได้เริ่มต้นโดยผู้ป่วยโรคมะเร็ง เนื้องอก  ก่อน แล้วก็ผู้ป่วยทั่วไปแถวแรก (ระหว่างนี้มีผู้ล้ม/พักในพระจิตกันจำนวนมาก)
      รายการต่อไปก็รักษาคนที่เป็นโรคแขนยึดยกมือไม่สุด หรือเจ็บปวดเมื่อยก  ซึ่งก็เกิดมหัศจรรย์ คือหลายคน สามารถยกขึ้นได้สุด และหายจากอาการเจ็บปวด  แต่บางคนคุณพ่อก็ไม่รักษาเพราะบอกว่า วันนี้ยังไม่หาย ท่านจะเว้นไป  หลายๆ กรณี ท่านไม่สัมผัส แต่แค่จ้องดูเท่านั้น ก็หายได้  แล้วบางกรณี ท่านก็ให้คนอื่นมาเป็นสื่อกลางพระจิตคือท่านแตะคนหนึ่งแล้วคนนั้นก็แตะผู้ป่วย ก็หายได้อีก  (ขอสรรเสริญพระเจ้า)
    แล้วท่านก็รักษาผู้อัมพฤกษ์อัมพาต เดินไม่สะดวก พอเสร็จ ก็รักษาผู้ป่วยที่ขณะนั้นเจ็บปวดอย่างรุนแรง ทุกคนหาย 

    ท่านพักสักครู่ แล้วจึงเริ่มการรักษาแบบหมู่ คือ คุณพ่อ นั่งตรงหน้าพระแท่น แล้วชูมือให้ผู้ป่วยหรือต้องการสัมผัสตัวท่าน มาสัมผัสข้างละสี่คน (ซึ่งก็มีผู้ที่พักในพระจิตหลายคน  รอบของผมก็มี *** จริงๆ ก็อยากสัมผัสประสบการณ์พักในพระจิตบ้าง แต่คิดอีกทีก็สงสารพวก catcher น่ะ ถ้าจะต้องมาอุ้ม คนอ้วนๆ อย่างผม  อิอิ) อ้อ ... ในรอบนี้ ในแต่ละรอบ (8 คน ข้างละสี่) นั้น จะมีการสวดบท ข้าแต่พระบิดา วันทามารีอา สิริพึงมี (อย่างละรอบ) เมื่อสวดเสร็จก็เริ่มกลุ่มใหม่  และผมก็ได้สัมผัสท่านแต่ไม่เกิดความรู้สึกใดๆ  แต่ก็ดีใจที่ได้มีประสบการณ์ครั้งนี้ ผมได้สัมผัสท่านตอนสี่ทุ่มเศษๆ (รอจนเหงือกแห้งจริงๆ น่ะ เพราะไม่ได้รับทานข้าวเย็นไป) 

หมายุเหตุ: ทางวัดจะจัดเก้าอี้ ห่างๆ กัน และจัดเป็นสี  ซึ่งแต่ละสีจะแยกตามประเภทผู้ป่วย (อันนี้จำไม่ค่อยได้ เช่น  สีแดง แทนผู้ป่วยมะเร็ง/เนื้องอก สีเขียวแทนผู้ป่วยทั่วไป  สีน้ำเงิน/ฟ้า แทน ผู้ป่วยที่เดินไปสะดวก และมีสีเหลืองอีก แต่จำไม่ได้ว่าโรคไรกันแน่)

***เบ็ดเสร็จแล้ว  การบำบัดเสร็จเกือบสี่ทุ่มครึ่ง****

ยินดีด้วยกับประสบการณ์ดีๆ

minirosary เขียน:

Joseph เขียน:

Holy เขียน: สนใจจากบาทหลวงคาทอลิค แต่กลับพาไปที่ๆจะด่าคาทอลิคและแอนตี้คาทอลิค อือม์...

คนเขาคงสับสนน่าดูเนอะ

ที่จริงทุกวันนี้ผมว่ามีคนสนใจศาสนาคริสต์เยอะ แต่ก็มีหลายคนไม่เขาไม่เข้าใจอันไหนคือคาทอลิกอันไหนคือโปสแตสแตนท์อันไหนคือความหวัง เขาเห็นเป็นคริสต์เขาก็คิดว่าเหมือนกันหมด

สมัยผมความหวังกรุงเทพฯ ที่นั้นวันอาทิตย์นมัสการ 5 รอบ จากรายชื่อสมาชิกที่ออกไปรับเชื่อแล้วขึ้นทะเบียนไว้อาทิตย์ละประมาณสองร้อยคน เฉพาะโบสถ์ที่คลองเตยอย่างเดียวไม่รวมที่อื่น  แต่ชวนไปแล้วก็หลงหายก็ตามกันเป็นลูกคลื่นอย่างนี้อยู่เป็นประจำลูกคลื่นมากระทบแล้วก็ไป มากระทบแล้วก็ไป แล้วก็ตามกันดุเดือด แล้วคนที่หลงหายไปก็หันกลับมาต่อต้านศาสนาคริสต์อีก เท่าที่ได้ยินมาจากหลายๆ แห่งมักเจอคำพูดนี้บ่อยมากๆ

1. บังคับ ไม่เป็นอิสระ
2. ขูดรีดเงินให้ถวายเยอะๆ
3. ดูถูกศาสนาอื่นๆ (ทำให้คนเกียจศาสนาคริสต์)
4. คลั่งลัทธิแล้วก็เผด็จการ
5. หลอกลวงเงิน ขี้โกง

เอ้อ... รุนแรงไปเปล่า   
***ขอบคุณทุกคนที่ให้ความเห็น  แต่พักหลังๆ ชักจะหลุดจากกระทู้น่ะ

ไม่แรงหรอกนี่แค่อย่างอ่อน

S.Paulvs De Bangkok เขียน:

minirosary เขียน:

Joseph เขียน: ที่จริงทุกวันนี้ผมว่ามีคนสนใจศาสนาคริสต์เยอะ แต่ก็มีหลายคนไม่เขาไม่เข้าใจอันไหนคือคาทอลิกอันไหนคือโปสแตสแตนท์อันไหนคือความหวัง เขาเห็นเป็นคริสต์เขาก็คิดว่าเหมือนกันหมด

สมัยผมความหวังกรุงเทพฯ ที่นั้นวันอาทิตย์นมัสการ 5 รอบ จากรายชื่อสมาชิกที่ออกไปรับเชื่อแล้วขึ้นทะเบียนไว้อาทิตย์ละประมาณสองร้อยคน เฉพาะโบสถ์ที่คลองเตยอย่างเดียวไม่รวมที่อื่น  แต่ชวนไปแล้วก็หลงหายก็ตามกันเป็นลูกคลื่นอย่างนี้อยู่เป็นประจำลูกคลื่นมากระทบแล้วก็ไป มากระทบแล้วก็ไป แล้วก็ตามกันดุเดือด แล้วคนที่หลงหายไปก็หันกลับมาต่อต้านศาสนาคริสต์อีก เท่าที่ได้ยินมาจากหลายๆ แห่งมักเจอคำพูดนี้บ่อยมากๆ

1. บังคับ ไม่เป็นอิสระ
2. ขูดรีดเงินให้ถวายเยอะๆ
3. ดูถูกศาสนาอื่นๆ (ทำให้คนเกียจศาสนาคริสต์)
4. คลั่งลัทธิแล้วก็เผด็จการ
5. หลอกลวงเงิน ขี้โกง

เอ้อ... รุนแรงไปเปล่า   
***ขอบคุณทุกคนที่ให้ความเห็น  แต่พักหลังๆ ชักจะหลุดจากกระทู้น่ะ

ไม่แรงหรอกนี่แค่อย่างอ่อน

แล้วอย่างแก่นี่มันแบบไหนล่ะ.......เอ  (แกล้งลุง)

เรื่องนี้จะจริงหรือไม่เราก็ไม่รู้เพราะไม่เคยไปนี่นั้นเหมือนกัน แต่ก็ได้ยินมาบ้างในทำนองนี้ อาจจะเป็นไปได้ที่มีเรื่องแบบนี้บ้าง แต่คงไม่ใช่ทุกคน แต่ไม่ว่าจะเป็นอย่างไรก็ตาม ถ้าเป็นข้อมูลในทางลบ เราว่าไม่น่าจะเอามาเผยแพร่แก่สาธารณะชนน้า เพราะเราต่างก็ไม่รู้เบื้องลึกเบื้องหลังที่แท้จริงของพี่น้องเหล่านั้น ยิ่งสมาชิกเยอะ เชื่อว่าคนเหล่านั้นคงไม่มีส่วนรู้เห็นกับสิ่งเหล่านี้ และเชื่อว่ายังมีพี่น้องที่ดีๆอยู่มากในคริสตจักรนั้น ถ้าเราตัดสินเหมาทั้งคจ.ดูจะไม่ยุติธรรมกับพี่น้องบางคนน้า อย่างตอนอยู่มัธยมเราเคยทำเซลล์ที่โรงเรียน น้องๆที่อยู่คจ.ความหวังก็น่ารักๆทั้งนั้นไม่ได้เป็นอย่างที่เราคิดเลย  ที่สำคัญไม่ว่าอย่างไรก็ตามคนเหล่านี้ก็คือพี่น้องของเรา ลูกบางคนอาจจะเรียบร้อง บางคนซน บางคนดื้อ แต่พระเจ้าก็รักเพราะยังไงก็คือลูก ถ้าเขาพลาดจริง พระเจ้าจะอบรมและขัดเกลาเค้าเอง

กลับเข้าเรื่องๆ  เด๋วกลายเป็นกระทู้กลายพันธุ์อีก

ว่าจะไปวันที่ 26 เม.ษ. เหมือนกัน วัดราชินีฯ อยู่ตรงไหนคะ นั่งรถสายอะไรได้บ้าง ขอที่อยู่แบบละเอียด เอาแบบหาง่ายๆหน่อยน่ะคะ

[quote="Maew Martha   >""<"]
ว่าจะไปวันที่ 26 เม.ษ. เหมือนกัน วัดราชินีฯ อยู่ตรงไหนคะ นั่งรถสายอะไรได้บ้าง ขอที่อยู่แบบละเอียด เอาแบบหาง่ายๆหน่อยน่ะคะ
[/quote]

อยู่สุขุมวิท 101 ครับผม ติดต่อพี่มิว พี่พับเพ็ต พี่เก๋ (ตอนนี้คงมัวลดน้ำหนัก เพราะอินเลิฟ-พี่มิวบอก )ให้ไปต้อน (รับ )

ส่วนจะนั่งรถสายไหน ก็แล้วแต่ว่าเจ๊จะมาจากไหน มาจากอนุสาวรีย์ ก็รถไฟฟ้าลงอ่อนนุช แต่ต่อ อีก 2 ต่อ (เข้าซอย )

นั่งแท็กซี่ ต่อเดียว  นั่งรถบ้าน ก็ต่อเดียว เดินก็ไม่ต้องต่อ อิอิ

Jeab Agape เขียน: [quote="Maew Martha   >""<"]
ว่าจะไปวันที่ 26 เม.ษ. เหมือนกัน วัดราชินีฯ อยู่ตรงไหนคะ นั่งรถสายอะไรได้บ้าง ขอที่อยู่แบบละเอียด เอาแบบหาง่ายๆหน่อยน่ะคะ

อยู่สุขุมวิท 101 ครับผม ติดต่อพี่มิว พี่พับเพ็ต พี่เก๋ (ตอนนี้คงมัวลดน้ำหนัก เพราะอินเลิฟ-พี่มิวบอก )ให้ไปต้อน (รับ )

ส่วนจะนั่งรถสายไหน ก็แล้วแต่ว่าเจ๊จะมาจากไหน มาจากอนุสาวรีย์ ก็รถไฟฟ้าลงอ่อนนุช แต่ต่อ อีก 2 ต่อ (เข้าซอย )

นั่งแท็กซี่ ต่อเดียว  นั่งรถบ้าน ก็ต่อเดียว เดินก็ไม่ต้องต่อ อิอิ
[/quote]

สุขุมวิท 101 ซอยนี้นี่รู้สึกมันจะลึกและกว้างมากนะคะ ข้างในเป็นซอยย่อยๆยิบเลย คือไปหลงมาแล้วค่ะ กว่าจะหาทางออกจากเขาวงกดแห่งนี้ได้ แทบตาย แล้ววัดนี่อยู่ส่วนไหนของซอยค่ะ

[quote="Maew Martha   >""""<"]
ว่าจะไปวันที่ 26 เม.ษ. เหมือนกัน วัดราชินีฯ อยู่ตรงไหนคะ นั่งรถสายอะไรได้บ้าง ขอที่อยู่แบบละเอียด เอาแบบหาง่ายๆหน่อยน่ะคะ
[/quote]

อยู่สุขุมวิท 101 ครับผม ติดต่อพี่มิว พี่พับเพ็ต พี่เก๋ (ตอนนี้คงมัวลดน้ำหนัก เพราะอินเลิฟ-พี่มิวบอก )ให้ไปต้อน (รับ )

ส่วนจะนั่งรถสายไหน ก็แล้วแต่ว่าเจ๊จะมาจากไหน มาจากอนุสาวรีย์ ก็รถไฟฟ้าลงอ่อนนุช แต่ต่อ อีก 2 ต่อ (เข้าซอย )

นั่งแท็กซี่ ต่อเดียว  นั่งรถบ้าน ก็ต่อเดียว เดินก็ไม่ต้องต่อ อิอิ
[/quote]

สุขุมวิท 101 ซอยนี้นี่รู้สึกมันจะลึกและกว้างมากนะคะ ข้างในเป็นซอยย่อยๆยิบเลย คือไปหลงมาแล้วค่ะ กว่าจะหาทางออกจากเขาวงกดแห่งนี้ได้ แทบตาย แล้ววัดนี่อยู่ส่วนไหนของซอยค่ะ
[/quote]เข้ามาในซอยสุขุมวิท 101 เลยครับ เข้ามาในซอย จะมีซอยย่อยอีกครับ
เข้ามาที่ซอยปุณณวิถี 27 ครับ (ซอยจะอยู่ซ้ายมือ ถ้ามาจากหน้าปากซอยสุขุมวิท 101)
เข้าไปในซอยปุณณวิถี 27 แล้ว ตรงมาอีกประมาณ 200 เมตร ครับ วัดอยู่ขวามือครับ
หรือไม่ก็เรียกมอเตอร์ไซด์หน้าปากซอย 101 บอกว่าไปโบสถ์ราชินีอ่ะครับ ถึงแน่นอน

ปล. เสียดายนะครับ วันนั้น 26/4/2007 ผม น้องเก๋ ไม่ได้ไปที่วัดอ่ะครับ
พอดีไปช่วยมิสซาแต่งงานน้องสาวพี่แมน ที่วัดพระกุมารเยซู กม. 8 ครับ

มาลอกคำตอบคุณ minirosary  ค่ะ 

คนเยอะมากๆ และร้อนสุดๆ แม้ว่าที่วัดจะพยายามเปิดพัดลมอย่างเต็มที่
เรพาคุณแม่ที่เป็นบาหวาน ความดัน หัวใจ เนื้อเยื่อปอดผิดปกติ และต้อกระจก (หลายโรคจนไม่รู้จะบอกพ่อว่าเป็นอะไร) ไปด้วย
แม่ก็บ่นตลอดว่า เหนื่อยๆ ร้อนๆ จะเป็นลม
เรก็ไม่รู้จะทำไง ก็บอกว่า แม่ขา อดทนหน่อย คนอื่นเค้าป่วยมากกว่าเรานะคะ

เฮ้อ..... คิดว่าคนป่วยทุกคนก็คงรู้สึกอย่างนี้ ไม่สบายแล้วก็หวังว่าคุณพ่อจะช่วยรักษา
มาออกันในวัดร้อนๆ มาตั้งแต่ 6 โมงเย็น กว่าจะได้จับมือคุณพ่อก็ เกือบ 4 ทุ่ม
สงสารคนที่ป่วยหนักๆ เหมือนกันค่ะ

ถ้าใครจะไป แนะนำให้เลือกวัดที่มีแอร์หน่อยนะคะ คนเยอะมากจริงๆค่ะ
พาให้นึกถึงตอนคนเบียดเสียดกันเพื่อจะสัมผัสพระเยซู

ยินดีกับคนที่หายป่วยด้วยจริงๆค่ะ

เคยอ่านบทความวิทยาศาสตร์ชิ้นหนึ่ง บอกว่าโรคภัยไข้เจ็บทุกโรคนั้นมีระดับของคลื่นความถี่ที่ชัดเจนอยู่ เช่นมะเร็งมีความถี่เท่านี้ เมก้าเฮิร์ต โรคหัวใจมีความถี่เท่านี้ เมก้าเฮิร์ต เนื้องอก มีความถี่เท่านี้ เมก้าเฮิร์ต  และการปล่อยคลื่นความถี่ที่เหมาะสมเข้าไปหักล้าง ก็สามารถช่วยขจัดโรคนั้น ๆ ไปได้

บางทีคุณพ่อผู้มีพระพรรักษา อาจได้รับพระพรจากพระเป็นเจ้า ให้สามารถปล่อยคลื่นความถี่ผ่านการปรกมือ ไปรักษาโรคให้หายจากคลื่นความถี่ ก็เป็นไปได้เนอะฮะ 

ศาสนาเรากับวิทยาศาสตร์ขัดกัน พี่ไม่อยากให้ตีความหรือมองศาสนาเราไปในด้านของวิทยาศาสตร์มากเกินไปเพราะหลายครั้งแล้วมันเป็นไปไม่ได้ แต่บางครั้งพระเจ้าก็รักษาผ่านสิ่งที่พระองค์ทรงสร้างอยู่แล้วจึงอยู่ในหลักของวิทยาศาสตร์ แต่พระองค์มีอำนาจอยู่เหนือธรรมชาติหรือกฏที่พระองค์ทรงสร้าง พระเจ้านั้นยิ่งใหญ่พอที่จะทำอะไรก็ได้นอกเหนือธรรมชาติที่พระองค์สร้างไว้ การมองพระเจ้าแล้ววิเคาะห์การทำงานของพระองค์โดยหาเหตุผลมันจะทำให้ความเชื่อเราลดลง พี่เคยมีประสบการณ์มาก่อน

สมัยก่อนพี่เป็นคนไม่เชื่อถ้าไม่มีเหตุผลเลยทำให้สงสัยพระเจ้าแล้วในที่สุดก็ทิ้งความเชื่อ เพราะมันไม่มีเหตุผล เรื่องต่างๆ ในพระคัมภีร์พี่มองในแง่ของวิทยาศาสตร์และเหตุผลโดยตลอด เรื่องพระเยซูในตอนที่ไม่มีบันทึกพี่คิดว่าพระเยซูไปศึกษาคำสอนของพุทธที่อินเดียแล้วก็กลับมาอ้างตัวว่าเป็นพระเจ้าโดยเอาคำสอนพุทธมาใช้ พี่ไม่เคยเชื่อเลยสมัยโมเสสเรื่องน้ำตั้งเป็นกำแพงพี่ดูหนัง บัญญัติ 10 ประการ พี่ค้านหัวยันฝาว่าสมัยนั้นน้ำขึ้นน้ำลง พวกยิวข้ามผ่านไปเป็นเวลาน้ำลง พอพวกทหารฟาร์โรห์มาน้ำขึ้นพอดี แต่ตอนนี้พี่เชื่อแล้วว่าพระเจ้ายิ่งใหญ่ในพระคัมภีร์เขียนไว้ว่าพระองค์ให้น้ำตั้งเป็นกำแพงสองข้างเพื่อทำให้โลกเห็นถึงความยิ่งใหญ่ของพระองค์ พระองค์ทำได้ทุกสิ่ง การตีความพระคัมภีร์ด้วยเหตุผลเพียงเล็กๆ น้อยๆ ก็พาความเชื่อเราออกไปไกลมาก ศาสนาเราไม่ใช้วิทยาศาสตร์พระเจ้าอยู่เหนือเหตุผล อยู่เหนือความเป็นไปได้ แต่พระเจ้าไม่เคยทิ้งพี่เรียกพี่กลับมาโดยอาศัย คจ. ความหวัง นี่ก็เป็นจุดดีของความหวัง แล้วแม่พระก็เรียกพี่กลับมาคาทอลิกโดยค่อยๆ เผยให้พี่รู้และความเข้าใจ

บางทีพี่ยืนอยู่ข้างทางก็มีเด็กสาวไม่รู้จักมายกมือไหว้พี่ก็ยกมือรับไหว้ตอบ หลายครั้งหลายแห่ง พี่ก็งง พอมองไปเห็ตหิ้วพระคัมภีร์นึกออก ความหวังนั่นเอง จุดดีของเขาคือนบนอบ รู้จักไม่รู้จักแต่เขาจำพี่ได้เขาก็ยกมือไหว้

พูดให้เขาแง้บวกบ้าง