หน้า 1 จากทั้งหมด 1

การกล่าวร้ายต่อพระจิตนี่หมายความว่ายังไงเหรอครับ?

โพสต์แล้ว: อังคาร พ.ค. 08, 2007 11:48 pm
โดย poloplow
มธ 12:31
ดังนั้น เราบอกท่านทั้งหลายว่า มนุษย์จะได้รับการอภัยบาปทุกชนิดรวมทั้งคำดูหมิ่นพระเจ้าด้วย แต่คำดูหมิ่นพระจิตเจ้าจะไม่ได้รับการอภัยเลย  ใครที่กล่าวร้ายต่อบุตรแห่งมนุษย์จะได้รับการอภัย แต่ใครที่กล่าวร้ายต่อพระจิตของพระเจ้าจะไม่ได้รับการอภัยเลยทั้งในโลกนี้และในโลกหน้า

มีเรื่องสงสัยอ่ะครับ  คือ

การกล่าวร้ายต่อพระจิตนี่หมายความว่ายังไงเหรอครับ?   แล้วเคยมีคนทำมาก่อนรึเปล่าครับ?
แล้วทำไมการกล่าวร้ายต่อพระจิตถึงให้อภัยไม่ได้อ่ะครับ?

ขอบคุณล่วงหน้าสำหรับคำตอบครับ

Re: ตรงไหนในพระคัมภีร์ที่กล่าวถึงไฟชำระบ้างคะ

โพสต์แล้ว: พุธ พ.ค. 09, 2007 9:43 am
โดย Batholomew
Suchan เขียน: มธ 12:31
ดังนั้น เราบอกท่านทั้งหลายว่า มนุษย์จะได้รับการอภัยบาปทุกชนิดรวมทั้งคำดูหมิ่นพระเจ้าด้วย แต่คำดูหมิ่นพระจิตเจ้าจะไม่ได้รับการอภัยเลย  ใครที่กล่าวร้ายต่อบุตรแห่งมนุษย์จะได้รับการอภัย แต่ใครที่กล่าวร้ายต่อพระจิตของพระเจ้าจะไม่ได้รับการอภัยเลยทั้งในโลกนี้และในโลกหน้า

มีเรื่องสงสัยอ่ะครับ  คือ

การกล่าวร้ายต่อพระจิตนี่หมายความว่ายังไงเหรอครับ?   แล้วเคยมีคนทำมาก่อนรึเปล่าครับ?
แล้วทำไมการกล่าวร้ายต่อพระจิตถึงให้อภัยไม่ได้อ่ะครับ?

ขอบคุณล่วงหน้าสำหรับคำตอบครับ
การที่เราจงใจปกปิดบาปของตัวเองครับ เป็นการดูหมิ่นพระจิตเจ้า

อื่น ๆ เดี๋ยวรอผู้รู้มาตอบ ::012::

Re: ตรงไหนในพระคัมภีร์ที่กล่าวถึงไฟชำระบ้างคะ

โพสต์แล้ว: พุธ พ.ค. 09, 2007 1:29 pm
โดย Florian
Suchan เขียน: มธ 12:31
ดังนั้น เราบอกท่านทั้งหลายว่า มนุษย์จะได้รับการอภัยบาปทุกชนิดรวมทั้งคำดูหมิ่นพระเจ้าด้วย แต่คำดูหมิ่นพระจิตเจ้าจะไม่ได้รับการอภัยเลย  ใครที่กล่าวร้ายต่อบุตรแห่งมนุษย์จะได้รับการอภัย แต่ใครที่กล่าวร้ายต่อพระจิตของพระเจ้าจะไม่ได้รับการอภัยเลยทั้งในโลกนี้และในโลกหน้า

มีเรื่องสงสัยอ่ะครับ  คือ

การกล่าวร้ายต่อพระจิตนี่หมายความว่ายังไงเหรอครับ?   แล้วเคยมีคนทำมาก่อนรึเปล่าครับ?
แล้วทำไมการกล่าวร้ายต่อพระจิตถึงให้อภัยไม่ได้อ่ะครับ?

ขอบคุณล่วงหน้าสำหรับคำตอบครับ
เท่าที่เคยอ่านมา พี่ชอบคำอธิบายของอาจารย์กีรติ บุญเจือครับ อาจารย์บอกว่าสิ่งที่เรียกว่า"บาปผิดต่อพระจิตเจ้า"นั้น จริงๆไม่ใช่บาปครับ เพราะขึ้นชื่อว่าบาป พระเจ้าทรงยกโทษให้เราได้เสมอทุกประการ แต่"บาปผิดต่อพระจิตเจ้า"ที่ได้กล่าวถึงนี้ไม่ใช่บาป ก็ในเมื่อไม่ใช่บาป จึงเป็นสิ่งที่อภัยให้ไม่ได้ หรืออีกนัยหนึ่งก็คือ"ไม่รู้จะอภัยให้อย่างไร"

สมมติว่าปกติน้องกินข้าวสวยที่หุงด้วยข้าวหอมมะลิขาว แต่มีอยู่วันหนึ่งน้องเปลี่ยนไปกินข้าวกล้อง  ถ้าน้องไปบอกคุณครูว่า"ได้โปรดยกโทษให้ผมด้วย วันนี้ผมกินข้าวกล้อง" คุณครูคงงงว่าจะยกโทษให้ได้อย่างไร ก็ในเมื่อการกินข้าวกล้องไม่ใช่ความผิด  หรือพูดอีกนัยหนึ่งก็คือในเมื่อไม่ได้ทำความผิดอะไร การขออภัยโทษก็เป็นสิ่งที่มิอาจกระทำได้นั่นเองครับ

สิ่งที่เรียกว่า"บาปที่ผิดต่อพระจิตเจ้า" เป็นการถล่มตน(เน้นว่าไม่ใช่"ถ่อมตน"นะครับ เพราะ"ถ่อมตน"เป็นคุณธรรม แต่"ถล่มตน"ไม่ใช่คุณธรรมเลย)อย่างถึงที่สุด คิดว่าตัวเองไม่มีความดีอะไร ทำดีไม่ได้ ทำดีไม่ขึ้น มิอาจสร้างบุญกุศลใดๆได้อีก ไม่ว่าพระเจ้าจะสอนว่าเจ้าเป็นบุตรของเรานะ เขาก็ไม่ฟัง จะบอกว่าเจ้าจะมีส่วนในพระราชัยสวรรค์ ก็ไม่ฟัง เรียกว่าฉุดให้ไปสวรรค์ก็ยังไม่ยอมไปเลย คนเช่นนี้(คนที่มีพฤติกรรมที่เรียกว่า"บาปที่ผิดต่อพระจิตเจ้า")ก็จะปล่อยตัวจมอยู่กับความผิดบาปของตน เพราะคิดเสียอยู่นั่นเองว่าฉันทำดีไม่ขึ้น ไปสวรรค์ไม่ได้ ไม่คู่ควรกับพระอาณาจักร ซึ่งความคิดเช่นนี้เป็นความคิดที่ผิดถนัด(หลายครั้งอาจเป็นความคิดที่มาจากการผจญของปีศาจด้วยซ้ำไปครับ)

แม้"บาปผิดต่อพระจิตเจ้า"จะไม่ใช่บาป แต่ก็เป็นนิสัยนอนเนื่องในทางที่ไม่ดี อันอาจนำไปสู่บาปทั้งหลายได้นานาประการครับ  ::017::  ::017::  ::017::

รายละเอียดเคยมีคนโพสต์ไว้ตามนี้ครับ

http://www.newmana.com/yabb/index.php?topic=3368.0

Re: ตรงไหนในพระคัมภีร์ที่กล่าวถึงไฟชำระบ้างคะ

โพสต์แล้ว: พุธ พ.ค. 09, 2007 8:05 pm
โดย Deo Gratias
Suchan เขียน: มธ 12:31
ดังนั้น เราบอกท่านทั้งหลายว่า มนุษย์จะได้รับการอภัยบาปทุกชนิดรวมทั้งคำดูหมิ่นพระเจ้าด้วย แต่คำดูหมิ่นพระจิตเจ้าจะไม่ได้รับการอภัยเลย  ใครที่กล่าวร้ายต่อบุตรแห่งมนุษย์จะได้รับการอภัย แต่ใครที่กล่าวร้ายต่อพระจิตของพระเจ้าจะไม่ได้รับการอภัยเลยทั้งในโลกนี้และในโลกหน้า

มีเรื่องสงสัยอ่ะครับ  คือ

การกล่าวร้ายต่อพระจิตนี่หมายความว่ายังไงเหรอครับ?   แล้วเคยมีคนทำมาก่อนรึเปล่าครับ?
แล้วทำไมการกล่าวร้ายต่อพระจิตถึงให้อภัยไม่ได้อ่ะครับ?

ขอบคุณล่วงหน้าสำหรับคำตอบครับ
เรื่องนี้มีหลายทัศนะมากเลยเท่าที่เรียนมา บางกลุ่มบอกว่า ลบลู่พระจิตคือได้เห็นพระราชกิจของพระจิต(เช่นอัศจรรย์)แล้วแต่กลับลบหลู่ว่าเป็นกิจของมาร บางกลุ่มบอกว่าหมายถึงการฆ่าตัวตายเพราะร่างกายเป็นที่ประทับของพระจิต บางกลุ่มบอกคือการปฏิเสธการไถ่กู้ของพระเยซูคริสเจ้าอย่างสิ้นสุดจิตใจสุดวิญญาณ แล้วก็บางกลุ่มบอกอภัยไม่ได้เพราะไม่ใช่บาป เหอะๆ นานาทัศนะ หลากหลายมาก และแต่ละทัศนะมีเหตุผลทั้งนั้นเลย   :shocked:

Re: ตรงไหนในพระคัมภีร์ที่กล่าวถึงไฟชำระบ้างคะ

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. พ.ค. 10, 2007 8:11 am
โดย holy holy holy
มธ 12:31
ดังนั้น เราบอกท่านทั้งหลายว่า มนุษย์จะได้รับการอภัยบาปทุกชนิดรวมทั้งคำดูหมิ่นพระเจ้าด้วย แต่คำดูหมิ่นพระจิตเจ้าจะไม่ได้รับการอภัยเลย  ใครที่กล่าวร้ายต่อบุตรแห่งมนุษย์จะได้รับการอภัย แต่ใครที่กล่าวร้ายต่อพระจิตของพระเจ้าจะไม่ได้รับการอภัยเลยทั้งในโลกนี้และในโลกหน้า
                  จะแสดงเป็นสมการน่ะครับ
    หลักตรีเอกานุภาพ = พระบิดา=พระบุตร=พระจิต  ......................... (1)
คูณดูหมิ่น.......ได้รับการอภัย
  ดูหมิ่นพระบิดาได้รับการอภัย=ดูหมิ่นพระบุตรได้รับการอภัย=ดูหมิ่นพระจิตได้รับการอภัย .............(2)
คูณดูหมิ่น.......ไม่ได้รับการอภัย
ดูหมิ่นพระบิดาไม่ได้รับการอภัย=ดูหมิ่นพระบุตรไม่ได้รับการอภัย=ดูหมิ่นพระจิตได้ไม่รับการอภัย ..(3)
          เนื่องจากทั้ง 3 พระองค์เท่ากันทำไมพระเยซูจึงตรัสเช่นนั้น ???????????????????????


 

Re: ตรงไหนในพระคัมภีร์ที่กล่าวถึงไฟชำระบ้างคะ

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. พ.ค. 10, 2007 9:13 am
โดย Zion
พระตรีเอกภาพ คือ พระเจ้าองค์เดียวกัน

แต่ สถานภาพ/พระบุคคล แตกต่างกัน



เช่นกรณี ที่พระเยซูทรงร้อง ขณะตรึงบนไม้กางเขนว่า

รูปภาพ

Re: ตรงไหนในพระคัมภีร์ที่กล่าวถึงไฟชำระบ้างคะ

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. พ.ค. 10, 2007 5:57 pm
โดย holy holy holy
มัธธิว 12:31
ดังนั้น เราบอกท่านทั้งหลายว่า มนุษย์จะได้รับการอภัยบาปทุกชนิดรวมทั้งคำดูหมิ่นพระเจ้าด้วย แต่คำดูหมิ่นพระจิตเจ้าจะไม่ได้รับการอภัยเลย ใครที่กล่าวร้ายต่อบุตรแห่งมนุษย์จะได้รับการอภัย แต่ใครที่กล่าวร้ายต่อพระจิตของพระเจ้าจะไม่ได้รับการอภัยเลยทั้งในโลกนี้และในโลกหน้า
จะแสดงเป็นสมการน่ะครับ
ตามหลัก ตรีเอกานุภาพ        ให้                  พระบิดา = พระบุตร =  พระจิต 

Re: การกล่าวร้ายต่อพระจิตนี่หมายความว่ายังไงเหรอครับ?

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. พ.ค. 10, 2007 9:30 pm
โดย Buddy
ที่รู้มาคือ  การไม่ยอมรับการอภัยบาป  เหมือนที่ยศตอบ  คือไม่ยอมรับว่า  พระเยซูคือพระผู้ไถ่  ทั้งๆที่ในใจก็บอกอยู่แล้ว 

ถ้าเราปิดใจ  ไม่ยอมรับการอภัยบาป  พระก็ไม่อาจอภัยได้    : xemo017 :

Re: การกล่าวร้ายต่อพระจิตนี่หมายความว่ายังไงเหรอครับ?

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. พ.ค. 10, 2007 9:59 pm
โดย พระเจ้าสถิตย์กับเราเสมอ
[quote="holy holy holy"]
มัธธิว 12:31
ดังนั้น เราบอกท่านทั้งหลายว่า มนุษย์จะได้รับการอภัยบาปทุกชนิดรวมทั้งคำดูหมิ่นพระเจ้าด้วย แต่คำดูหมิ่นพระจิตเจ้าจะไม่ได้รับการอภัยเลย ใครที่กล่าวร้ายต่อบุตรแห่งมนุษย์จะได้รับการอภัย แต่ใครที่กล่าวร้ายต่อพระจิตของพระเจ้าจะไม่ได้รับการอภัยเลยทั้งในโลกนี้และในโลกหน้า
จะแสดงเป็นสมการน่ะครับ
ตามหลัก ตรีเอกานุภาพ        ให้                  พระบิดา = พระบุตร =  พระจิต 

Re: การกล่าวร้ายต่อพระจิตนี่หมายความว่ายังไงเหรอครับ?

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. พ.ค. 10, 2007 11:06 pm
โดย Deo Gratias
พระเจ้าสถิตย์กับเราเสมอ เขียน:
holy holy holy เขียน: .
น้ำ=น้ำแข็ง=ไอน้ำ

ถ้าว่าตามตาม Logic แบบคุณ holy holy holy จะได้ว่า

คุณสูดน้ำเข้าปอดคุณลำสัก = คุณสูดน้ำแข็งเข้าปอดคุณสำลัก = คุณสูดไอน้ำเข้าปอดคุณสำลัก

แต่สัจนิรันดร์เป็นอย่างนี้

คุณสูดน้ำเข้าปอดคุณลำสัก = คุณสูดน้ำแข็งเข้าปอดคุณสำลัก แต่ คุณสูดไอน้ำเข้าปอดคุณไม่สำลัก

แสดงว่า logic ของคุณ holy holy holy ผิดครับ  :wink:


-------------------------------------------

จะบอกให้ว่าผิดตรงไหนนะครับ

แน่นอนถ้าว่ากันตามหลักเคมี  น้ำ=น้ำแข็ง=ไอน้ำ แน่นอน  เพราะ H2O เหมือนกัน
แต่ตามหลักฟิสิกส์แล้ว น้ำ ไม่เท่ากับ น้ำแข็ง ไม่เท่ากับ ไอน้ำ  เพราะแตกต่างกันที่สถานะ

ดังนั้นสรุปได้ว่าในทางเคมีแล้วเราสามารถใช้น้ำแทนน้ำแข็งแทนไอน้ำได้  เช่น ในกรณีที่สาร A ห้ามโดนน้ำ  นั้นก็หมายถึงสาร A ห้ามโดนน้ำแข็ง และก็ห้ามวางใว้ในที่ชื้นด้วย

แต่ในทางฟิสิกส์แล้ว เราไม่สามารถใช้แทนกันได้  เช่นเรานำสายไฟซึ่งต่อขั้ว + และขั้ว - มาจุมในน้ำ  ก็ปรากฏว่าหลอดไฟสว่างขึ้นเพราะน้ำนำไฟฟ้าได้  พอเอามาจุ่มในน้ำแข็งก็ปรากฏว่าไฟสว่างขึ้นเพราะน้ำแข็งก็นำไฟฟ้า    แต่เมื่อเอาขั้วทั้ง 2 วางว่างใว้ในที่ชื้นก็ปรากฏว่าหลอดไฟไม่สว่าง  แสดงว่าไอน้ำไม่สามารถนำพาไฟฟ้าได้ครับ

แต่สิ่งที่ทำให้แตกต่างนั้นไม่ใช่ว่าเป็นเพราะแตกต่างกันในหลักการทางเคมีหรือฟิสิกส์   แต่แตกต่างกันตรงที่ว่าเครื่องหมาย "=" ของคุณเนี๊ยะ มันครอบคลุมแค่ไหน   ถ้าในแง่ความเป็น H2O นะใช่ครับ..เท่ากัน   แต่ในแง่ของสถานะและคุณสมบัตินั้นไม่ใช่แน่ๆ

ฉันใดฉันนั้น พระบิดา ทรงมีสถานะความเป็นพระเจ้าเทียบเท่ากับพระบุตรและพระจิต   แต่พระบิดาและพระจิตมิสามารถตายได้ แต่พระบุตรสามารถตายและไถ่บาปจนกลับคือพระชนม์ชีพได้


ok นะครับผม ^^
วิธีการอธิบายแบบนี้ สุดยอดมาก!ค่ะ
เป็นการใช้วิทยาศาสตร์อธิบายศาสนศาสตร์ได้เห็นภาพจริงๆ
ถึงแม๊ว่าเรื่องพระตรีเอกนุภาพเป็นเรื่องที่อธิบายยาก(โดยเฉพาะกับผู้ไม่เชื่อและผู้เชื่อใหม่)
แต่ถ้าใช้หลักการนี้อธิบาย เชื่อว่าจะช่วยให้ผู้ฟังเข้าใจได้ง่ายขึ้นแน่นอนค่ะ ::012::

Re: การกล่าวร้ายต่อพระจิตนี่หมายความว่ายังไงเหรอครับ?

โพสต์แล้ว: ศุกร์ พ.ค. 11, 2007 1:15 am
โดย *~glossolalia~*
ขอบคุณนะค่ะ ไม่เคยรู้มาก่อนเลย

Re: การกล่าวร้ายต่อพระจิตนี่หมายความว่ายังไงเหรอครับ?

โพสต์แล้ว: ศุกร์ พ.ค. 11, 2007 9:09 pm
โดย holy holy holy
ขอบคุณ
ผมเข้าใจแล้วครับเหมือนสมการนี้ไหม

                x-2/x+1  +2(1-4x)/1-x2-3/x-1=7
คิดไปคิดมาจะได้ x  =-2/3 กับ 1
    แต่คิดไปคิดมา x= -2/3 อย่างเดียว
  : xemo026 : : xemo026 : : xemo026 :
                         

Re: การกล่าวร้ายต่อพระจิตนี่หมายความว่ายังไงเหรอครับ?

โพสต์แล้ว: เสาร์ พ.ค. 12, 2007 1:35 am
โดย พระเจ้าสถิตย์กับเราเสมอ
holy holy holy เขียน: ขอบคุณ
ผมเข้าใจแล้วครับเหมือนสมการนี้ไหม

                x-2/x+1  +2(1-4x)/1-x2-3/x-1=7
คิดไปคิดมาจะได้ x  =-2/3 กับ 1
     แต่คิดไปคิดมา x= -2/3 อย่างเดียว
  : xemo026 : : xemo026 : : xemo026 :
                         
เหมือนตรงไหนครับโปรดชี้แจงด้วย  เผื่อว่าเราจะได้เข้าใจหลักตรีเอกานุภาพมากขึ้น

เพราะเท่าที่ดูแล้วคำตอบที่ได้มามี 2 ค่า  แต่เลข 1 ใช้ไม่ได้เพราะจะทำให้ส่วนเป็นศูนย์ซึ่งไม่นิยาม  ตรงนี้มีส่วนคล้ายหรือส่วนเปรียบเทียบกับหลักตรีเอกานุภาพตรงไหนบ้างครับโปรดชี้แจงด้วย :wink:

Re: การกล่าวร้ายต่อพระจิตนี่หมายความว่ายังไงเหรอครับ?

โพสต์แล้ว: เสาร์ พ.ค. 12, 2007 1:46 am
โดย Jack Sparrow
ก็เหมือนขึ้นเรือไงครับ ถ้าเราดูถูกลมก็ยังมีพาย แต่ดูถูกทะเลนี่คงไปไม่ได้แน่

Re: การกล่าวร้ายต่อพระจิตนี่หมายความว่ายังไงเหรอครับ?

โพสต์แล้ว: เสาร์ พ.ค. 12, 2007 9:17 am
โดย Batholomew
พระเจ้าสถิตย์กับเราเสมอ เขียน:
holy holy holy เขียน: ขอบคุณ
ผมเข้าใจแล้วครับเหมือนสมการนี้ไหม

                x-2/x+1  +2(1-4x)/1-x2-3/x-1=7
คิดไปคิดมาจะได้ x  =-2/3 กับ 1
     แต่คิดไปคิดมา x= -2/3 อย่างเดียว
  : xemo026 : : xemo026 : : xemo026 :
                         
เหมือนตรงไหนครับโปรดชี้แจงด้วย  เผื่อว่าเราจะได้เข้าใจหลักตรีเอกานุภาพมากขึ้น

เพราะเท่าที่ดูแล้วคำตอบที่ได้มามี 2 ค่า   แต่เลข 1 ใช้ไม่ได้เพราะจะทำให้ส่วนเป็นศูนย์ซึ่งไม่นิยาม  ตรงนี้มีส่วนคล้ายหรือส่วนเปรียบเทียบกับหลักตรีเอกานุภาพตรงไหนบ้างครับโปรดชี้แจงด้วย :wink:
เด็กคณิตศาสตร์มาเอง ::011::

อันนี้ซิครับ ไม่เข้าใจกว่า :huh:
Jack Sparrow เขียน: ก็เหมือนขึ้นเรือไงครับ ถ้าเราดูถูกลมก็ยังมีพาย แต่ดูถูกทะเลนี่คงไปไม่ได้แน่
อธิบายด้วยครับ

Re: การกล่าวร้ายต่อพระจิตนี่หมายความว่ายังไงเหรอครับ?

โพสต์แล้ว: เสาร์ พ.ค. 12, 2007 9:34 am
โดย holy holy holy
คำตอบคือเนื่องจาก
  พระบิดา จะไม่ได้รับการอภัย  ดูหมิ่น พระบุตร จะไม่ได้รับการอภัย  ดูหมิ่น  พระจิต  จะไม่ได้รับการอภัย

นี่คือคำตอบที่คิดออกมาได้แต่
    ตามหลักไม่เป็นไปตามนั้นจะตอบแค่ดูหมิ่น  พระจิต  จะไม่ได้รับการอภัย

Re: การกล่าวร้ายต่อพระจิตนี่หมายความว่ายังไงเหรอครับ?

โพสต์แล้ว: จันทร์ พ.ค. 14, 2007 12:43 am
โดย poloplow
จากการได้ฟังพี่ ๆ หลายคนในบอร์ดแนะนำมา  ผมจะลองสรุปตามความเข้าใจของผมนะครับ

การกล่าวร้ายต่อพระจิต = การปิดตัวเอง  ไม่ยอมรับพระเจ้าในประการทั้งปวง

พอจะถูกรึเปล่าครับ?

Re: การกล่าวร้ายต่อพระจิตนี่หมายความว่ายังไงเหรอครับ?

โพสต์แล้ว: จันทร์ พ.ค. 14, 2007 11:15 am
โดย Florian
Suchan เขียน: จากการได้ฟังพี่ ๆ หลายคนในบอร์ดแนะนำมา  ผมจะลองสรุปตามความเข้าใจของผมนะครับ

การกล่าวร้ายต่อพระจิต = การปิดตัวเอง  ไม่ยอมรับพระเจ้าในประการทั้งปวง

พอจะถูกรึเปล่าครับ?
คำตอบตามทัศนะของอาจารย์กีรติ เป็นทัศนะของปราชญ์บางท่าน

พี่ไปถามคุณพ่อชุมภามาอีกครับน้อง คุณพ่อเป็นปรมาจารย์ด้านจริยศาสตร์ ศีลธรรม ทำนองนี้อะครับ สอนที่บ้านเณรด้วย คำตอบของพ่อไม่เหมือนของอาจารย์กีรติทีเดียว

คุณพ่อบอกว่าบาปผิดต่อพระจิตเจ้าก็คือ"การปฏิเสธว่ามีพระเจ้าอยู่จริง และปฏิเสธว่าพระองค์ทรงเป็นจิต" สิ่งนี้เป็นเหมือนการสบประมาทพระเจ้า พี่ก็บอกพ่อต่อไปว่า "พระเยซูใช้คำว่า'ผรุสวาท' ผมเข้าใจว่าเป็นการด่าทอ ทำนองตัดพ้อต่อว่า ตำหนิพระเจ้า" พ่อบอกว่า "ไม่ใช่ในความหมายของการตำหนิ แต่เป็นการไม่ยอมรับหรือปฏิเสธพระเจ้า เช่นนี้เป็นเหมือนกล่าวผรุสวาทต่อพระเจ้า เป็นดั่งการสบประมาทพระเจ้า บาปผิดต่อพระจิตเจ้าเป็นไปในความหมายเช่นนี้ ไม่ได้เป็นไปในแง่ของการตำหนิ ติเตียนพระเจ้า นั่นมันธรรมดาไป" พี่ก็ถามต่อว่า"แล้วเหตุผลของพระเยซูเจ้าที่ว่าบาปนี้ยกให้ไม่ได้คืออะไรครับ" พ่อตอบว่า "ก็เพราะเป็นการปฏิเสธ ไม่ยอมรับพระเจ้า แล้วจะยกบาปให้ได้อย่างไร" พี่ก็ถามไปอีกว่า "อ้าว ถ้างี้ สมมติว่าผมทำบาปนี้ คือไม่เชื่อถึงพระเจ้า ปฏิเสธพระเจ้า และปฏิเสธว่าพระองค์ทรงเป็นจิต ผมมาแก้บาปกับพ่อ พ่อก็ยกบาปให้ผมไม่ได้ดิครับ เพราะบาปนี้ยกให้ไม่ได้" พ่อบอกว่า "ยกให้ได้ เพราะกลับใจแล้ว (คือกลับใจมาแก้บาปแล้ว)" พี่ก็เลยขอคำยืนยันกับพ่ออีกทีว่า "แสดงว่าที่บาปนี้ยกให้ไม่ได้นั้น ก็เป็นไปเฉพาะในเงื่อนไขที่ผู้ทำบาปยังดำรงอยู่ในสภาวะดังกล่าว(สภาวะที่ยังปฏิเสธพระเจ้าอยู่) ใช่ไหมครับ" พ่อตอบว่า "ใช่แล้ว"

โอกาสหน้าพี่จะลองไปถามพ่อท่านอื่นที่หน่วยก้านดีๆอีก เดี๋ยวจะมาตอบใหม่ครับ โปรดอดใจรอแป๊บบบบบครับ

Re: การกล่าวร้ายต่อพระจิตนี่หมายความว่ายังไงเหรอครับ?

โพสต์แล้ว: จันทร์ พ.ค. 14, 2007 8:58 pm
โดย poloplow
ครับ  ผมจะรอคำตอบที่พี่ตั้วไปหาให้ ::001::

Re: การกล่าวร้ายต่อพระจิตนี่หมายความว่ายังไงเหรอครับ?

โพสต์แล้ว: อังคาร พ.ค. 15, 2007 9:21 am
โดย Florian
Suchan เขียน: ครับ  ผมจะรอคำตอบที่พี่ตั้วไปหาให้ ::001::
น่าชื่นชมมากครับ ที่น้องใฝ่ใจเรียนรู้พระธรรมคำสอน และอยากเรียนรู้จักพระเจ้าให้มากๆยิ่งขึ้น

พระคัมภีร์สอนเราว่า พระเจ้าทรงประสงค์"ความรู้จักในพระองค์"มากกว่าเครื่องเผาบูชาเสียอีก

จงมานะในการเรียนรู้เรื่องราวของพระเจ้าต่อไป อย่าลดละนะครับ น้องดำเนินมาถูกทางแล้วครับ  ::017::  ::014::  ::020::

แล้วพี่จะไปถามมาให้ครับ อดใจรอแป๊บนึง  ::014::  ::020::  ::017::

Re: การกล่าวร้ายต่อพระจิตนี่หมายความว่ายังไงเหรอครับ?

โพสต์แล้ว: พุธ พ.ค. 23, 2007 9:41 am
โดย Florian
พี่ไปถามคุณพ่อชัยยะ ผู้เชี่ยวชาญพระคัมภีร์อีกท่านหนึ่ง มาเพิ่มเติมครับ

คุณพ่อตอบว่า พระจิตเจ้าทรงกระทำหน้าที่ในการบอกให้ทราบถึงความสัตย์จริง ความสัตย์จริงที่ว่าพระคริสตเจ้าทรงเป็นพระบุตรของพระเจ้า ถ้าใครปฏิเสธ ไม่ยอมรับพระเยซูเจ้าว่าเป็นพระบุตรของพระเจ้า ไม่ยอมรับความจริง ไม่ยอมรับว่าตัวเองเป็นคนบาป  คนที่คิดอย่างนี้ ก็เห็นกันชัดๆแล้วว่า จะได้รับการอภัยบาปได้อย่างไร  จริงปะครับ  นี่แหละคือบาปที่ผิดต่อพระจิตเจ้าตามที่ถามคุณพ่อชัยยะมา

พี่ว่าคำตอบของพ่อชัยยะก็ออกไปในแนวเดียวกับของพ่อชุมภานะครับ

เดี๋ยวพี่จะลองถามพ่อคนอื่นมาให้อีกสักคนนะครับ แต่คงนานนิดนึงครับ  ::020::

Re: การกล่าวร้ายต่อพระจิตนี่หมายความว่ายังไงเหรอครับ?

โพสต์แล้ว: พุธ พ.ค. 23, 2007 10:34 am
โดย Holy
พระบุตรลงมาบังเกิดเป็นมนุษย์ ทรงมีสภาพที่ดูภายนอกเป็นมนุษย์ ทรงมีข้อจำกัดเช่นรูปร่างหน้าตา น้ำเสียง บุคลิค อะไรต่อมิอะไรภายนอก ที่อาจทำให้คนไม่เชื่อ หรือไม่ชอบโดยสุจริต เช่นบรรดาคนมักคุ้นในหมู่บ้านของพระองค์ ที่เป็นพระองค์เป็นเด็กคนหนึ่งวิ่งเล่นไปมาในหมู่บ้านมาก่อน ญาติพี่น้องที่เห็นว่าพระองค์เป็นเพียงคนธรรมดามาตั้งแต่เกิด ดังนั้นพระบุตรจึงอยู่ในฐานะที่สามารถถูกสงสัยได้ อาจถูกไม่เชื่อได้ และพระบุตรเสด็จลงมามาเพื่อให้อภัย และอยู่ในฐานะแห่งการอภัย และการผิดใดๆต่อพระบุตรจึงอภัยได้

แต่พระจิตเจ้าทรงเป็นจิต ทรงเป็นสภาวะพระเจ้าที่บริสุทธิ์ในความบริสุทธิ์อย่างยิ่ง พระองค์คือหลัก คือความจริง และคือกฏแห่งจักรวาลเอง ไม่มีรูปร่างที่ตามองเห็นได้ (นอกจากทรงสำแดงองค์ในบางรูปแบบเช่น ไฟ หรือนกพิราบ) แต่สภาวะวะแท้ของพระองค์บริสุทธิ์และสมบูรณ์ คือเป็นพระวาจา และเป็นความจริง เป็นต้นกำเนิดแม้แต่มโนธรรมของมนุษย์ที่ไม่รู้จักพระเจ้า เป็นต้นกำเนิดคุณธรรมพื้นฐาน และความผิดชอบชั่วดีในมนุษย์ทุกคน  พระองค์จึงเป็นความเที่ยงตรงยิ่งกว่าเส้นตรงใดๆ สว่างไร้สิ่งปิดบัง คือความศักดิ์สิทธิ์ในพระองค์เอง ดังนั้นบาปผิดต่อพระจิตเจ้าก็คือการไม่ยอมรับความจริง เหมือนปฏิเสธว่าสีขาวไม่ใช่สีขาว คือการปฏิเสธว่าผู้สามารถให้อภัยได้นี้ ไม่สามารถอภัยให้เราได้หรอก คือการฝืนมโนธรรมตัวเอง และหลอกตัวเองอย่างรุนแรง การผิดต่อพระจิตเจ้าจึงเป็นการปฏิเสธการได้รับการอภัยในตัวของมันเองอยู่แล้ว

ดังนั้นเมื่ออยู่ในโลกนี้จงพยายามกลับใจและมีความเชื่อในพระบุตร อย่ารอถึงโลกหน้าที่เราเองเหลือแต่จิตเช่นกัน เพราะหากเผชิญกับพระจิตเจ้าในเวลานั้น เราไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น

Re: การกล่าวร้ายต่อพระจิตนี่หมายความว่ายังไงเหรอครับ?

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. พ.ค. 24, 2007 9:09 am
โดย :+: seraphim :+:
::017:: ค้นมาจากกรุสมบัติเก่าที่พ่อจั่วเคยตอบมางับ เชิญทัศนา

::012:: เรื่องบาปผิดต่อพระจิตที่มีปรากฏในพระคัมภีร์ มัทธิว 12.31 นั้นก่อนที่จะตัดสินอะไรลงไปเราต้องมองไปที่เหตุการณ์และเวลาที่พระเยซูเจ้าตรัสในตอนนั้นก่อน พระเยซูเจ้าทำอัศจรรย์มากมาย พวกฟาริสีก็ไม่ยอมรับแถมบอกว่าพระองค์ทำอัศจรรย์เพราะไปเอาอำนาจของเบเอลเซบุล(หัวหน้าผี)มาใช้ ทั้งๆที่ในพระคัมภีร์เก่าของอิสยาห์เองก็เคยกล่าวไว้ถึงการเสด็จมาของพระเยซูเจ้าและพระองค์จะทำงานตามอำนาจของพระจิต (อสย.35.5-6) พวกชาวยิวรู้เรื่องพระคัมภีร์ดีและรู้ถึงการทำนายแต่ไม่ยอมรับ (เหมือนคนสมัยนี้ทุกคนนั่นแหล่ะที่คิดว่าตัวเองถูกต้องที่สุดพอคนอื่นอ้างในสิ่งที่จริงก็เชื่อยาก..รวมทั้งเราคริสตชนทุกวันนี้ด้วย คนที่จะรอดคือคนที่ตั้งใจแสวงหาความจริง)


: xemo017 : เมื่อพบกับการไม่ยอมรับเช่นนี้พระเยซูเจ้าก็มีอารมณ์โกรธเหมือนกันและบอกว่าบาปไม่ยอมรับพระจิตนั้นไม่มีใครยกโทษให้ได้ .พูดตามภาษาชาวบ้านคือ ทำผิดต่อข้าฯข้าฯอภัยได้แต่ทำผิดไม่ยอมรับในงานของพระจิตนั้นไม่มีใครยกบาปนี้ได้หรอก..อะไรพรรค์นี้ เมื่อมองในมุมนี้พวกฟาริซีคือคนที่ได้รับบาปเพราะไม่ยอมรับพระเยซูเจ้าและสิ่งที่พระองค์กระทำ แต่ถ้าถามต่อไปว่าแล้วพระจิตเจ้ายังคงทำงานอยู่ในปัจจุบันนี้ คนที่ไม่ยอมรับพระจิตและทำบาปผิดต่อพระองค์ล่ะ บาปยกได้หรือไม่? เช่นเดียวกับนักพระคัมภีร์อีกหลายคน พ่อคิดว่าก่อนอื่นหมดคำพูดของพระองค์หมายถึงเวลาที่พระองค์ยังมีชีวิตอยู่ คือการไม่ยอมรับพระองค์ พวกยิวเหล่านั้นทำบาปผิดชัดเจน แต่กระนั้นก็ตามก็ไม่ได้หมายความว่าชาวยิวพวกนั้นเสียใจไม่เป็น คนที่กลับใจทุกคนล้วนได้รับพระพรและอภัยได้เสมอ


::016:: อ้าว..แล้วที่พระองค์บอกว่าไม่มีใครยกบาปนี้ได้นั่นหมายถึงอะไรล่ะ? พ่อคิดว่าพระองค์หมายถึงคนที่ไม่ยอมรับงานของพระทั้งๆที่รู้ดีและเข้าใจดีแต่ตั้งใจปฏิเสธพระองค์ (เพราะหมั่นไส้เหมือนที่ที่ฟาริซีไม่ยอมรับพระเยซูเจ้า)นั่นล่ะคือคนที่พระองค์ไหนก็ยกบาปให้ไม่ได้เพราะเขาไม่ยอมรับการยกบาปเอง ประการต่อมา การปฏิเสธไม่ยอมรับและผิดต่อพระจิตยังคงมีในปัจจุบันหรือไม่? พ่อคิดว่ามีน่ะ แต่เรื่องการยกบาปนั้น บาปไหนๆก็ยกได้ทั้งนั้นล่ะตราบใดที่หัวใจของเขากลับใจจริงๆ เพราะพระหรรษทานมีไว้สำหรับความรอดของทุกคนที่มีหัวใจถ่อมตนและหันกลับไปหาพระองค์ (อฟซ.2.8-9) ที่อธิบายมานี้พอจะทำให้กระจ่างหรือเปล่าไม่ทราบ



Re: การกล่าวร้ายต่อพระจิตนี่หมายความว่ายังไงเหรอครับ?

โพสต์แล้ว: ศุกร์ พ.ค. 25, 2007 10:37 pm
โดย poloplow
ขอบคุณสำหรับคำตอบทุก ๆ ท่านครับ : xemo026 :

Re: การกล่าวร้ายต่อพระจิตนี่หมายความว่ายังไงเหรอครับ?

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ส.ค. 17, 2007 3:42 pm
โดย Florian
ตามที่ได้ติดไว้นานมากว่าจะไปถามพ่ออีกท่านมาให้น่ะครับ  พี่ไปถามพ่อสมเกียรติ ตรีนิกรมาด้วยครับ แต่ถามมานานพอควรแล้ว อาจเก็บข้อมูลมาถ่ายทอดไม่ครบถ้วนนักนะครับ

พระจิตเจ้าทรงเป็นเสียงแห่งมโนธรรม ฉะนั้นบาปผิดต่อพระจิตก็คือการไม่ฟังเสียงมโนธรรมของตน ไม่ยอมรับผิด ดื้อดึง ไม่เมื่อดื้อดึง ไม่ฟังเสียงมโนธรรม ไม่ยอมรับผิด ก็แน่นอนครับ บาปก็จะไม่ได้รับการอภัย

ประมาณนี้แหละครับ  ::017::  ::018::  ::020::

Re: การกล่าวร้ายต่อพระจิตนี่หมายความว่ายังไงเหรอครับ?

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ส.ค. 19, 2007 8:49 pm
โดย poloplow
ขอบคุณสำหรับอีกคำตอบที่น่าสนใจนะครับพี่ตั้ว ::011::

Re: การกล่าวร้ายต่อพระจิตนี่หมายความว่ายังไงเหรอครับ?

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ส.ค. 19, 2007 9:19 pm
โดย Phulasso
Florian เขียน: ตามที่ได้ติดไว้นานมากว่าจะไปถามพ่ออีกท่านมาให้น่ะครับ  พี่ไปถามพ่อสมเกียรติ ตรีนิกรมาด้วยครับ แต่ถามมานานพอควรแล้ว อาจเก็บข้อมูลมาถ่ายทอดไม่ครบถ้วนนักนะครับ

พระจิตเจ้าทรงเป็นเสียงแห่งมโนธรรม ฉะนั้นบาปผิดต่อพระจิตก็คือการไม่ฟังเสียงมโนธรรมของตน ไม่ยอมรับผิด ดื้อดึง ไม่เมื่อดื้อดึง ไม่ฟังเสียงมโนธรรม ไม่ยอมรับผิด ก็แน่นอนครับ บาปก็จะไม่ได้รับการอภัย

ประมาณนี้แหละครับ  ::017::  ::018::  ::020::
ตอบบ้าง คุณพ่อที่เคยอธิบายให้ฟังท่านไปอยู่กับพระแล้ว
ท่านบอกว่า บาปผิดต่อพระจิตคือบาปแห่งความดื้อด้าน (หนักกว่าดื้อดึงอีก)
คือทำผิดซ้ำแล้วซ้ำเล่า แม้รู้ว่าผิด แก้บาปแล้ว ก็ยังทำซ้ำเป็นอาจินต์ และไม่คิดที่จะเลิกทำ
แม้มาแก้บาปอีก บาปนี้จะไม่ได้รับการอภัยจาก สวรรค์