Belong to the Truth Jesus Christ

คำถามน่าสนใจดี เห็นน้องๆ หนุ่มๆ หลายคนของบอร์ดเรามีปัญหาเกี่ยวกับเรื่องนี้ แต่ตัวอย่างที่ยกมาเป็นหญิงรัก และพึงใจหญิงด้วยกัน น่าจะคล้ายชายรักชาย หลายคนสงสัยว่า บาปมั๊ย?? แก้ไขอย่างไร?? ที่นี่มีคำตอบคะ....

คริสต์ตังคนหนึ่ง
   
ทำไมถึงเรียกว่าบาป - 14/07/2007 01:51
--------------------------------------------------------------------------------

ถึงคุณพ่อและพระศาสนจักรที่เคารพ

ก่อนอื่นลูกต้องขอออกตัวนะคะ ว่าตัวลูกเองเป็นคริสชนคนหนึ่ง รับศีลเรียบร้อยแล้ว ลูกเป็นหนึ่งในผู้รักร่วมเพศ คือชอบเพศเดียวกันมาตั้งแต่เข้าอนุบาล บางครั้งก็เกิดคำถามมาตลอด ว่าศาสจักรเราว่าผิด ไม่ดี สมัยก่อนคนที่เป็นแบบนี้จะถูกเผาไฟบ้าง ก็เกิดคำถามขึ้นมาว่า พระเป็นเจ้า ทรงสอนให้พวกเรา รักกัน ให้อภัยศัตรู และจงรักพระ เวลาเราไปแก้บาป คุณพ่อก็จะโปรดบาปให้ ไม่ว่าบาปนั้นจะหนักแค่ไหน ลูกจึงเห็นว่า แล้วทำไมละคนที่มีความชอบเพศเดียวกันจึงผิด ถ้าเปรียบกับพระสงฆ์ ก็เหมือนคนที่ไม่มีคู่ หรือบางครั้งชาย หญิง ที่แต่งงานกัน บางครั้งก็ไปกันไม่รอด ส่วนใหญ่ เพราะความรักที่มีให้กันมันจืดจาง จำได้ว่าบทสวดแรก ที่พระเป็นเจ้าทรงสอน
คือการให้อภัย และคนที่ชอบเพศเดียวกันเขาผิดด้วยหรอ บาปด้วยหรอที่จิตใจเบี่ยงเบน แต่ถ้าทางจิตใจเขาเป้นคนดี รักช่วยเหลือคนอื่น กับคนที่จิตใจปรกติ แต่จิตใจ เต็มไปด้วยความมักมาก เห็นแก่ส่วนตัว เอาเปรียบ ไม่บาปกว่าหรอ อยากให้ศาสนาของเราอย่าได้มีกฏตรงนี้เลยคะ

ตั้งแต่เกิดมา28ปี ชอบเพศเดียวกันมาตลอด และก็มีอะไรบางอย่างที่ทำให้รับรู้ว่าพระเป้นเจ้าไม่ทอดทิ้งในคำขอ ถึงแม้อาจจะขัดกับสิ่งที่ศาสนจักร
ทรงสอน บาปทุกคนมีกันทั้งนั้น

ดังนั้น ลูกมีความคิดที่ว่าพระเป็นเจ้า ทรงคงไม่ละทิ้งพวกรักร่วมเพศ ที่จิตใจรักพระองค์ ยึดมั่นคำสั่งสอน เป็นลูกแกะน้อยๆที่ยึดมั่นพระวาจาคะ 

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

พ่อไพบูลย์ อุดมเดช C.Ss.R.,Ph.d.

ทำไมถึงเรียกว่าบาป - 25/07/2007 03:08
--------------------------------------------------------------------------------
ลูกรักของพระเจ้า

คำถามของลูกนั้นพ่อขออธิบาย(เท่าที่สามารถจะทำให้กระจ่าง) ได้ดังต่อไปนี้

1) ทำไมถึงเรียกว่าบาป... 
คำตอบคือเพราะพฤติกรรมรักร่วมเพศนั้นไม่ก่อให้เกิดชีวิต ผิดเป้าหมายของเพศ เพศมีเป้าหมายเพื่อให้เกิดชีวิต ทางศาสนาจึงถือว่ารักร่วมเพศนั้นผิดทางจริยธรรมคริสต์



2) คนรักร่วมเพศเป็นคนบาปหรือ?    
เปล่าเลย.... คำสอนของคริสต์ไม่ได้ประณามบุคคลแต่ประณามพฤติกรรมของเขา ดังนั้นคนที่เกิดมามีแนวโน้มทางรักร่วมเพศแต่ไม่ได้ประพฤติก็ไม่ได้เป็นคนบาป แม้สังคมจะมองเขาด้วยสายตาด้านลบก็ตาม



3) พระเจ้าไร้เมตตา? .....
อันนี้พ่อขอปกป้องพระเจ้าครับ พระองค์เมตตาเสมอเพียงแต่กฏของพระองค์นั้นเที่ยงธรรมเกินกว่าที่จะเอาใจมนุษย์ทุกคนหรือทำให้ทุกคนพอใจได้



4) พระเจ้าไม่ให้อภัยคนบาปหรือ? .... ให้อภัยสิ... จำได้มั้ยตอนที่พระเยซูเจ้าตรัสกับหญิงคนที่ทำผิดทางเพศที่ฝูงชนลากนางมาทิ้งต่อหน้าพระองค์แล้วบอกว่า ตามกฏแล้วต้องทุ่มด้วยหินให้ตาย... พระองค์ไม่พูดอะไร ได้แต่ก้มลงเอานิ้วขีดบนดิน เมื่อทุกคนเดินหนีไปหมดแล้ว พระองค์ก็ตรัสกับหญิงที่ทำผิดประเวณีนั้นว่า ไม่มีใครเอาหินขว้างเจ้าดอกหรือ? เราก็เช่นกันไม่ลงโทษเจ้าดอก ไปเถิด แล้วอย่าทำบาปอีก... พระองค์ให้อภัยเสมอ แต่ก็เตือนเสมอเช่นกันว่า อย่าทำบาปอีก


5) ทำไมถึงถือว่าการรักร่วมเพศเป็นบาป
ไม่มีใครอยากเกิดมาเป็นคนบาปหรอก.... จริยธรรมคริสต์นั้นมีพื้นฐานมาจากพระคัมภีร์ เรื่องรักร่วมเพศนั้นมีในพระคัมภีร์เก่าชัดเจน (ปฐมกาล 19.4-5)และกลายมาเป็นบรรทัดฐานว่า การรักร่วมเพศเป็นสิ่งผิดธรรมชาติและเป็นสิ่งที่ชาวคริสต์ไม่อาจจะยอมรับได้ ต่อคำพูดที่ว่าไม่มีใครอยากเกิดมาเป็นคนมีปัญหา มีปมด้วย หรือเป็นคนบาปนั้น ถูกต้อง ไม่มีใครต้องการเช่นนั้นจริงๆ แต่ความเป็นคนดีนั้นชาวคริสต์ถือว่า เริ่มที่ปัจจุบัน ไม่มีใครเกิดมาเป็นนักบุญ จริงทุกคนมีแนวโน้มไปสู่ความผิดบาปได้เสมอ แต่เมื่อรู้ทิศทางที่ถูกต้องแล้วก็ปรับทิศทางชีวิต ต่อสู้กับสิ่งที่ถือว่าไม่ดี พยายามปฏิบัติแต่สิ่งที่ดี รักสิ่งที่ดี นั้นคือเขาได้เดินในแนวทางของความรอดแล้ว เขาไม่ควรอ้างอดีตชาติเพื่อทำให้ชีวิตในปัจจุบันของตนชอบธรรมหรือไม่ชอบธรรม ท่านเลือกเกิดไม่ได้แต่ท่านเลือกที่จะเป็นได้ เพราะลึกๆในจิตใจมนุษย์ทุกคนมีความดีงาม มีศักยภาพที่ดีแฝงอยู่ ดังนั้นอย่าเพิ่งท้อแท้ครับ ท่านเปลี่ยนแปลงได้ เริ่มจากจิตใจก่อน คือบอกตัวเองว่าฉันต้องเป็นคนดี ถ้าแรงขับด้านไม่ดีผลักดันจากจิตใจ (จะเกี่ยวกับระดับฮอร์โมนด้วย)ก็บอกตัวเองว่า..ไม่.. ฉันไม่ได้มีชีวิตเพื่อเดินตามอารมณ์ด้านนี้ ฉันมีชีวิตเพื่อความหมายที่สูงส่งกว่า คือเอาชนะใจตัวเอง รักในสิ่งที่สูงส่งกว่าคือพระรักความดีงาม รักพระเจ้า ถ้าท่านมีท่าทีเช่นนี้พระเจ้าก็จะประทานพระพรช่วยท่านไม่ให้ตกในบาปได้ เชื่อหรือไม่ว่า พระพรในแต่ละวันก็มีพอเพียงสำหรับเอาชนะความอ่อนแอได้ เพียงแต่ท่านจะร่วมมือกับพระพรของพระองค์หรือไม่เท่านั้นเอง ประการสุดท้าย คนอ่อนแอนั้นมักจะขี้สงสารและเ้ข้าข้างตัวเองเสมอ พ่อหวังว่าท่านจะไม่ได้เป็นเช่นนั้น ตั้งใจใหม่ สู้กับความอ่อนแอของตัวเอง ไม่โทษคนนั้นคนนี้ ไม่เปรียบเทียบคนนั้นคนนี้ แต่เผชิญกับปัญหาของตัวเอง เผชิญหน้ากับความจริง เปิดใจยอมรับ ฉันคือฉัน พระให้ฉันมาอย่างนี้ย่อมมีดีสักอย่างแน่ อย่าดูหมิ่นตัวเอง ท่านมีพระพรอื่นๆในตัวอีกมากมาย มองจุดดีอย่าไปเน้นจุดด้อยมากจนเกินไป

พ่อ 


http://www.thaicatholicworld.com/thai/i ... 9&id=68#68

งืมมมม ขอบคุณค่ะ น่าสนใจมากมาย.. เอิ๊กๆๆๆ

ขอบคุณฮับบบ เป้นคำถามที่ดีจริงๆ ชอบมีคนว่าถามป๋มเรื่องคำถามเเบบนี้

ขอฤทธานุภาพขององค์พระเจ้า พระบิดา พระบุตร และพระจิต
ปรับพฤติกรรมอันชั่วช้าของลูกด้วยเถิด

ขอบคุณครับ

ขอบคุณมากๆค่ะ

รักเอย...เจ้าลอยลมมาหรือไร

มนุษย์เป็นคนบาป พระองค์รักมนุษย์ที่เป็นคนบาป..แต่มิทรงโปรดปราณบาปในตัวมนุษย์

ขอบคุณมากๆๆๆค่า :afro:

มนุษย์ไม่ได้ต้องโทษในสิ่งที่เป็น แต่มนุษย์ต้องโทษในสิ่งที่กระทำ

มนุษย์ย่อมมิได้เป็นโจร หากมิได้ประพฤติเยี่ยงโจร

ฉันใดก็ฉันนั้น

มนุษย์ย่อมมิได้เป็นรักร่วมเพศ หากมิได้ประพฤติเยี่ยงรักร่วมเพศ

Being Gay is okay, but behave like gay is wrong.

ปล. ทรรศนะผมนะฮับ อย่าว่ากัน

ผมว่าน่าจะดูเรื่องตัณหาแห่งบาป 7 ประการของเรานะ อ่านแล้วน่าจะเข้าใจ  อย่างนั้นนะ "บาป "

คำว่ารักถ้าจะว่ากันจริงๆค่อนข้างลึกซึ้ง

ถ้าเรารักคนอื่น นั่นก็คือ เรามีความรู้สึกที่อยากจะ"ให้"กับคนอื่น
และถ้ารักในที่นี้ เป็นความรู้สึกที่บริสุทธิ์ ไม่ประพฤติผิดในทางกาย
และในใจ มีแต่ความรู้สึกที่อยากจะให้ โดยที่คิดถึงพระก่อนเป็นอันดับแรก

ผมคิดว่าไม่น่าจะเป็นสิ่งที่ผิดนะครับ...

แล้วบาปกานช่วยตัวเองละคับมันเลิกไม่ได้อะ       
แต่ไม่เคยมีไรกับใครเลยบริสุทธิ์อิอิ

Ｒ　Ｏ Ｍ　Ｅ เขียน: แล้วบาปกานช่วยตัวเองละคับมันเลิกไม่ได้อะ     : xemo031 :   
แต่ไม่เคยมีไรกับใครเลยบริสุทธิ์อิอิ

จิงดิ 

Ｒ　Ｏ Ｍ　Ｅ เขียน: แล้วบาปกานช่วยตัวเองละคับมันเลิกไม่ได้อะ     : xemo031 :   
แต่ไม่เคยมีไรกับใครเลยบริสุทธิ์อิอิ

ตัดให้ขาดเลย ฉับๆๆ

ยศิโยน:ผู้ยำเกรงพระเจ้า เขียน:

Ｒ　Ｏ Ｍ　Ｅ เขียน: แล้วบาปกานช่วยตัวเองละคับมันเลิกไม่ได้อะ       
แต่ไม่เคยมีไรกับใครเลยบริสุทธิ์อิอิ

ตัดให้ขาดเลย ฉับๆๆ

---------------------------

ของอย่างนี้เลิกไม่ยากหรอกครับ 
นักบุญที่เป็นฤๅษีทั้งหลาย เค้าใช้วิธีทรมานเนื้อหนังของตัวเองในการต่อสู้การผจญเรื่องนี้ จะลองดูไหมครับ

sasuke เขียน:

ยศิโยน:ผู้ยำเกรงพระเจ้า เขียน:

Ｒ　Ｏ Ｍ　Ｅ เขียน: แล้วบาปกานช่วยตัวเองละคับมันเลิกไม่ได้อะ     : xemo031 :   
แต่ไม่เคยมีไรกับใครเลยบริสุทธิ์อิอิ

ตัดให้ขาดเลย ฉับๆๆ

---------------------------

ของอย่างนี้เลิกไม่ยากหรอกครับ 
นักบุญที่เป็นฤๅษีทั้งหลาย เค้าใช้วิธีทรมานเนื้อหนังของตัวเองในการต่อสู้การผจญเรื่องนี้ จะลองดูไหมครับ

น้องซาสุเกะเคยลองแล้วได้ผลไหมค้าบบบบบบ     

อยากทราบว่าต้องทรมานส่วนไหนของร่างกายหรือครับ?  :lipsrsealed:

Zaliaus เขียน: อยากทราบว่าต้องทรมานส่วนไหนของร่างกายหรือครับ?  :lipsrsealed:

ตรงที่จะทำให้เกิดบาปมั๊งคะ รอผู้รู้อีกที

:+: seraphim :+: เขียน:

Zaliaus เขียน: อยากทราบว่าต้องทรมานส่วนไหนของร่างกายหรือครับ?  :lipsrsealed:

ตรงที่จะทำให้เกิดบาปมั๊งคะ รอผู้รู้อีกที

ตรงไหนก็ได้ครับที่เจ็บ


ที่นักจิตวิทยาทั่วไป แนะนำ การระงับความอยากทั่วๆไป(เช่นการอยากกินก็ได้นะครับ)

คือจะให้ ผูกหนังสติก ไว้ที่ข้อมืออ่าครับ


มีความอยากปั้บ ก็ดีดๆๆๆๆ

คุณยศฮับ เอ็ดดี้เคยเห็นที่อเมริกาครั้งนึง

มีผู้หญิงเค้าทำอย่างนั้นจริงๆ

พอดีมีผู้ชายหน้าตาดีเดินผ่านไป

ผู้หญิงคนนั้นก็หันหลังแล้ว...

ดีดหนังยางแบบรัวๆๆๆๆๆๆ ใหญ่เลย

ปล. เล่าขำๆ นะจ๊ะ

ทรงพระเมตตา เทอญ

Edwardius เขียน: คุณยศฮับ เอ็ดดี้เคยเห็นที่อเมริกาครั้งนึง

มีผู้หญิงเค้าทำอย่างนั้นจริงๆ

พอดีมีผู้ชายหน้าตาดีเดินผ่านไป

ผู้หญิงคนนั้นก็หันหลังแล้ว...

ดีดหนังยางแบบรัวๆๆๆๆๆๆ ใหญ่เลย

ปล. เล่าขำๆ นะจ๊ะ

ความถี่ของการดีดหนังยางแปรผันตรงกับหน้าตาคนเดินผ่านหรือเปล่างับ...อยากรู้ว่าถ้าคนในบอร์ดเดินผ่าน ผู้ใดจะทำให้ผู้หญิงคนนั้นเจ็บข้อมือมากที่สุด555+

ถ้ากระผมเดินผ่านคาดว่า

สตรีนางนั้นจะถอดหนังยางออกจากข้อมือ

แล้วเอามาดีดกระผมเอง

ปล. ดีไม่ดีเรียกเพื่อนมาดีดอีก

ปล2. ยังไม่อยากเป็นมรณสักขีหนังกะติ๊กนะ พี่น้อง

ไม่เอาครับเริ่มเลยเถิดแล้ว

anhaiice เขียน: ไม่เอาครับเริ่มเลยเถิดแล้ว

ใช่ๆ ใครเริ่มเนี่ย!!!

ขออนุญาตินิดนึงนะครับ

อ่านบทความแล้วก็เข้าใจดี
ขอบคุณที่เอามาลงนะครับ :cheesy:

อยากแสดงความเห็นหน่อยนึง เพราะส่วนตัวผมก็เป็นไบเซ็กชวล คือชอบทั้งสองเพศ
เลยรู้สึกถูกกระทบไปด้วยกับเรื่งนี้
จริงๆแล้ว นี่ก็เป็นคำถามเดิมๆที่คาดว่าหลายๆคน คงทั้งถามและโดนถามจนเบื่อแล้ว

แต่ เอ๊ะ ทำไม คำตอบของหลายๆคนยังตอบกันด้วยเสียงแบบไม่มั่นใจ ประหม่ากันเสมอๆ?(อันนี้ให้คิดกันเองเล่นๆ อิอิ)

ที่อยากจะคุยคือ หลังจากที่ผมอ่านคอมเมนท์ของคุณEdwardius ที่ว่าBeing Gay is okay, but behave like gay is wrong.
ก็รู้สึกตะหงิดๆ คันไม้คันมือ ขึ้นมาซะงั้น
ไม่ได้จะต่อว่าคุณEdwardiusนะครับ เพราะอย่างที่เขียนไว้ชัดเจนว่า ทรรศนะใครทรรศนะมัน ดังนั้นผมขอพูดทรรศนะของผมต่อข้อความที่ยกมานิดนึงละกัน

Being Gay is okay<<ตามรูปประโยคแล้ว คำว่าเกย์ในที่นี้ (น่าจะ)หมายถึงเป็นคนที่รักร่วมเพศ ซึ่งแปลตรงๆก็สอดคล้องกับที่พูดมาว่า เออ รักเพศเดียวกันมันก็ไม่ผิดนะ
but behave like gay is wrong<<แต่พอมาอันนี้ อ่านแล้วงงๆ สรุปว่ามันจะผิดไหมเนี่ย
แล้วใคร เอาอะไรมาตัดสิน ว่าความประพฤติ(behave)แบบไหน คือแบบเกย์?
ถ้าbehave like gayในที่นี่ หมายถึงเซ็กซ์ อย่างเดียวละก็ ผมว่าคนเขียนต้องมองคนรักร่วมเพศผิดแน่ๆครับ
เพราะความประพฤติของคนที่รักร่วมเพศ ไม่ใช่แค่เอากัน
จะมาเหมาว่า behave like gay=having sex like crazyนี่ผิดแน่นอน
ผมรู้จักเกย์หลายๆคนในบอร์ดนี้ ที่ประพฤติแบบเกย์ คือแต่งหญิงบ้าง ตุ่งติ๊งบ้าง เปรี้ยวจี๊ด หรือห้าวจัดบ้าง
แต่ทั้งหมดทั้งมวลก็ไม่มีใครจะhave sexอย่างเดียว
ส่วนใหญ่ยังvirginอยู่เลยด้วยซ้ำ

ดังนั้นขอร้องใครก็ตามที่ได้อ่านคอมเมนท์นี้ของผม ถ้าคุณยังเข้าใจผิดอยู่ ก็ให้เข้าใจใหม่ว่า behave like gay ไม่ได้หมายความว่า having sex w/ same gender

อีกอย่างคือเอาความเป็นเกย์ไปเปรียบเทียบกับโจร
ผมละเกลียดมากๆ เพราะ ผมไม่เคยเชื่อว่า การเป็นเกย์ เป็นสื่งที่ผิด
พระเจ้าสร้างผู้ชายมากับผู้หญิงก็จริง แต่ท่านก็ให้เราเลือกว่า เราจะเลือกที่จะรักใคร
และประพฤติตามท่านในแบบใด
ตัวอย่างคือ ผู้ศักดิ์สิทธิ์ที่เป็นที่นับหน้าถือตา เป็นเพศที่สามก็มี
ซึ่งผมก็เห็นชอบด้วย เพราะท่านก็โฮลี่จริง คือถึงจะชอบเพศเดียวกัน แต่ท่านก็อดทน และคงความบริสุทธิ์ไว้ได้
สรุปว่า เป็นเกย์ ไม่ได้แปลว่าต้องประพฤติตัวแย่ เอากันทั้งวันทั้งคืน
แต่ เป็นเกย์ก็ศักดิ์สิทธิ์ได้ และเข้าหาพระเจ้าได้เท่ากับทุกๆคน

นี่เราพูดถึงอาณาจักรของพระเจ้านะครับ ไม่ใช่สังคมไทย ที่คนเกย์จะต่ำต้อยกว่าคนอื่น
พอเข้าประตูสวรรค์แล้ว คุณค่าของเราไม่ได้ถูกวัดด้วยรสนิยมทางเพศ
แต่ระดับความดีและบารมีที่ทำมาต่างหาก

ผมว่า ถ้าสุดท้าย เราทุกคนเลิกที่จะdifferenciateคนอื่นๆ
แต่ในทางตรงกันเข้า ลืมข้อต่างของเขาซะ แล้วกอดเขาด้วยความเข้าใจ
รักเขาเพราะเขาคือพี่น้องเราในอาณาจักรสวรรค์
ไม่ว่าเขาจะเป็นคนผิวขาว ผิวดำ ชอบกินข้าว หรือชอบกินก๋วยเตี๊ยว ชอบเพศตรงข้าม หรือเพศเดียวกัน
ซักวันเราก็คนอยู่ร่วมกันได้อย่างสงบสุขจริงๆ:)

:shocked: Ota so cool..

นิดนึงนาครับ ก็คือก็เป็นเหมือนกันน้า

ในทรรศนะของผมสรุปง่าย คือ เมื่อเราเป็น เกย์ เนี่ย การที่เราจะรักใครซักคนผมว่ามันไม่ใช่เรื่องผิด ผมกลับคิดว่าการที่เรารักใครซักคน เป็นห่วงกันดูแลเอาใจใส่กันมันน่าจะเป็นเรื่องที่ดีนะครับ ตราบใดที่เรายังไม่ได้ทำอะไรเกินเลยถึงขั้น ... กัน

ผมก็คิดแบบนี้มาตลอดแล้วก็สบายใจมาตลอด