![emo008 ::008::](./images/smilies/008.gif)
หัวข้อวันนี้คือ "จงสดับฟังสิ่งที่พระองค์อยากตรัสกับเรา" พี่น้องครับ...หลายๆครั้งที่เราสวดภาวนาหรือพูดคุยกับพระองค์แล้วกลับไม่ได้ยินเสียงพระองค์ตรัสตอบก็เลยทำให้เราพาลคิดว่า "อะไรกัน..ถามแล้วไม่ตอบ" หรือแม้แต่ "พระองค์ทอดทิ้งเรา พระองค์ไม่รักเรา" ซึ่งก็จะทำให้เราสูญเสียความเชื่อและจิตตกไปตามๆกัน แต่แท้จริงแล้วกลับไม่ใช่เลย..
เพราะคนเราไม่เคยโทษตัวเอง และมักจะโทษคนอื่นก่อนเสมอรวมทั้งในกรณีนี้ก็โทษพระเป็นเจ้าด้วย เพราะแท้ที่จริงแล้วในขณะที่เรากำลังตกภายใต้อำนาจของบาป เช่นเรากำลังโมโห เกิดความคิดลามก ความคิดในทางที่ไม่ดีต่างๆนาๆ เราก็มักจะคิดในทางที่เข้าข้างตัวเองเสมอ ตัวอย่างเช่นเราไม่พอใจในสิ่งที่พระองค์ประทานให้(เพราะว่าคิดตามประสามนุษย์)เราก็โวยวายต่อพระองค์ แต่สิ่งที่ได้รับคือความเงียบ พระองค์ไม่ทรงตอบ เราก็เลยยิ่งโมโหบ้าคลั่งหนักกว่าเดิมตามความบาปของเรา
แต่แท้จริงแล้วจงตระหนักใว้เสมอว่า ณ เวลานั้นพระองค์ทรงตรัสตอบอยู่ข้างๆหูของเราเองเลยด้วยซ้ำ แต่เวลานั้นหูของเรากลับมืดบอด เราตกอยู่ใต้อำนาจของมารชั่วขณะทำให้ไม่ได้ยินเสียงของพระองค์ นั่นเพราะว่า "เราไม่อยากฟังคำพูดของพระองค์ แต่เราอยากฟังคำที่เราต้องการฟัง"ต่างหาก เพราะเราทนรับความจริงไม่ได้นั่นเอง
ยอห์นฺ 8:43
เหตุไฉนท่านจึงไม่เข้าใจถ้อยคำที่เราพูดนั่นเป็นเพราะท่านทนฟังคำของเราไม่ได้
ในยามที่เราโมโห เราไม่สามารถยอมรับความจริงที่ว่าเราผิดได้ ในใจจะมีเสียงแก้ตัวเสียงค้านตลอดเวลา...จงถ่อมตนลงและยอมรับว่าเราเป็นคนบาปเถิด จงสดับฟังทุกสิ่งทุกอย่าง
เพราะจริงๆแล้วเป็นเราเองที่อุดหู มิใช่พระองค์ไม่ทรงตอบ พระองค์ทรงตรัสตอบและสอนเราอยู่ตลอดเวลาในทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นคำพูด ใบไม้พัดผ่าน เสียงลม หรือแม้แต่ความเงียบ...พระองค์ก็ใช้สอนเราได้ ขอเพียงแต่เราหัดสังเกตุสิ่งรอบข้างเราเพื่อดูว่าพระองค์อยากตรัสอะไรกับเราอยากสอนอะไรเราอยากคุยกับเราอย่างไร เท่านี้ผมเชื่อว่าเราทุกคนก็คงจะได้ยินและรับรู้ถึงพระสุรเสียงที่ไม่สามารถรับรู้ได้ด้วยหูอย่างเดียว เป็นพระสุรเสียงที่เข้าใจได้ด้วยจิตวิญญาณของเรา และเมื่อนั้นชีวิตเราก็จะมีเสียงของพระองค์นำทาง ไม่โด่ดเดียวและเดียวดายอีกต่อไป
ทั้งนี้ขอพระเยซูคริสต์เจ้าทรงอวยพรท่านและนำทางชีวิตท่านทุกๆคนรวมทั้งขาพเจ้าด้วย พระเจ้าอวยพรครับ
จงเปิดหูของท่านและจงสดับฟังเสมอยามที่พระองค์ตรัสว่า "ใครมีหูก็จงฟังเถิด"